📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

องฺคุตฺตรนิกาโย

ติกนิปาตปาฬิ

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. พาลวคฺโค

๑. ภยสุตฺตํ

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต [ภทฺทนฺเต (ก.)]’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยานิ กานิจิ, ภิกฺขเว, ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ สพฺพานิ ตานิ พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต. เย เกจิ อุปทฺทวา อุปฺปชฺชนฺติ สพฺเพ เต พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต. เย เกจิ อุปสคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ สพฺเพ เต พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, นฬาคารา วา ติณาคารา วา [นฬาคารํ วา ติณาคารํ วา (สี.)] อคฺคิ มุตฺโต [อคฺคิมุกฺโก (สี.), อคฺคิ มุกฺโก (สฺยา. กํ. ปี.)] กูฏาคารานิปิ ฑหติ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตานิ นิวาตานิ ผุสิตคฺคฬานิ ปิหิตวาตปานานิ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ สพฺพานิ ตานิ พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต. เย เกจิ อุปทฺทวา อุปฺปชฺชนฺติ สพฺเพ เต พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต. เย เกจิ อุปสคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ สพฺเพ เต พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปฏิภโย พาโล, อปฺปฏิภโย ปณฺฑิโต. สอุปทฺทโว พาโล, อนุปทฺทโว ปณฺฑิโต. สอุปสคฺโค พาโล, อนุปสคฺโค ปณฺฑิโต. นตฺถิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตโต ภยํ, นตฺถิ ปณฺฑิตโต อุปทฺทโว, นตฺถิ ปณฺฑิตโต อุปสคฺโค.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘เยหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ เต ตโย ธมฺเม อภินิวชฺเชตฺวา, เยหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ เต ตโย ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. ปมํ.

๒. ลกฺขณสุตฺตํ

. ‘‘กมฺมลกฺขโณ , ภิกฺขเว, พาโล, กมฺมลกฺขโณ ปณฺฑิโต, อปทานโสภนี [อปทาเน โสภติ (สฺยา. กํ. ปี.)] ปฺาติ [ปฺตฺติ (?)]. ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ. กตเมหิ ตีหิ? กายทุจฺจริเตน, วจีทุจฺจริเตน, มโนทุจฺจริเตน. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ.

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ. กตเมหิ ตีหิ? กายสุจริเตน, วจีสุจริเตน, มโนสุจริเตน. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘เยหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ เต ตโย ธมฺเม อภินิวชฺเชตฺวา, เยหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ เต ตโย ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. จินฺตีสุตฺตํ

. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานิ . กตมานิ ตีณิ? อิธ, ภิกฺขเว, พาโล ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ โหติ ทุพฺภาสิตภาสี จ ทุกฺกฏกมฺมการี จ. โน เจทํ [โน เจตํ (สฺยา. กํ. ก.)], ภิกฺขเว, พาโล ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ อภวิสฺส ทุพฺภาสิตภาสี จ ทุกฺกฏกมฺมการี จ, เกน นํ ปณฺฑิตา ชาเนยฺยุํ [เตน นํ ปณฺฑิตา น ชาเนยฺยุํ (ก.), น นํ ปณฺฑิตา ชาเนยฺยุํ (?)] – ‘พาโล อยํ ภวํ อสปฺปุริโส’ติ? ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, พาโล ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ โหติ ทุพฺภาสิตภาสี จ ทุกฺกฏกมฺมการี จ ตสฺมา นํ ปณฺฑิตา ชานนฺติ – ‘พาโล อยํ ภวํ อสปฺปุริโส’ติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานิ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานิ. กตมานิ ตีณิ? อิธ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต สุจินฺติตจินฺตี จ โหติ สุภาสิตภาสี จ สุกตกมฺมการี จ. โน เจทํ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต สุจินฺติตจินฺตี จ อภวิสฺส สุภาสิตภาสี จ สุกตกมฺมการี จ, เกน นํ ปณฺฑิตา ชาเนยฺยุํ – ‘ปณฺฑิโต อยํ ภวํ สปฺปุริโส’ติ? ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต สุจินฺติตจินฺตี จ โหติ สุภาสิตภาสี จ สุกตกมฺมการี จ ตสฺมา นํ ปณฺฑิตา ชานนฺติ – ‘ปณฺฑิโต อยํ ภวํ สปฺปุริโส’ติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานิ. ตสฺมาติห…. ตติยํ.

๔. อจฺจยสุตฺตํ

. ‘‘ตีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ. กตเมหิ ตีหิ? อจฺจยํ อจฺจยโต น ปสฺสติ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ นปฺปฏิกโรติ, ปรสฺส โข ปน อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ นปฺปฏิคฺคณฺหาติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ.

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ. กตเมหิ ตีหิ? อจฺจยํ อจฺจยโต ปสฺสติ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ, ปรสฺส โข ปน อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ ปฏิคฺคณฺหาติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ. ตสฺมาติห…. จตุตฺถํ.

๕. อโยนิโสสุตฺตํ

. ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ. กตเมหิ ตีหิ? อโยนิโส ปฺหํ กตฺตา โหติ, อโยนิโส ปฺหํ วิสฺสชฺเชตา โหติ, ปรสฺส โข ปน โยนิโส ปฺหํ วิสฺสชฺชิตํ ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหิ สิลิฏฺเหิ อุปคเตหิ นาพฺภนุโมทิตา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ.

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ. กตเมหิ ตีหิ? โยนิโส ปฺหํ กตฺตา โหติ, โยนิโส ปฺหํ วิสฺสชฺเชตา โหติ, ปรสฺส โข ปน โยนิโส ปฺหํ วิสฺสชฺชิตํ ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหิ สิลิฏฺเหิ อุปคเตหิ อพฺภนุโมทิตา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ. ตสฺมาติห…. ปฺจมํ.

๖. อกุสลสุตฺตํ

. ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ. กตเมหิ ตีหิ? อกุสเลน กายกมฺเมน, อกุสเลน วจีกมฺเมน, อกุสเลน มโนกมฺเมน. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ.

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ. กตเมหิ ตีหิ? กุสเลน กายกมฺเมน , กุสเลน วจีกมฺเมน, กุสเลน มโนกมฺเมน. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ. ตสฺมาติห…. ฉฏฺํ.

๗. สาวชฺชสุตฺตํ

. ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ. กตเมหิ ตีหิ? สาวชฺเชน กายกมฺเมน, สาวชฺเชน วจีกมฺเมน, สาวชฺเชน มโนกมฺเมน…เป… อนวชฺเชน กายกมฺเมน, อนวชฺเชน วจีกมฺเมน, อนวชฺเชน มโนกมฺเมน…เป…. สตฺตมํ.

๘. สพฺยาพชฺฌสุตฺตํ

. ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ. กตเมหิ ตีหิ? สพฺยาพชฺเฌน กายกมฺเมน, สพฺยาพชฺเฌน วจีกมฺเมน, สพฺยาพชฺเฌน มโนกมฺเมน…เป… อพฺยาพชฺเฌน กายกมฺเมน, อพฺยาพชฺเฌน วจีกมฺเมน , อพฺยาพชฺเฌน มโนกมฺเมน. อิเมหิ, โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘เยหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ เต ตโย ธมฺเม อภินิวชฺเชตฺวา, เยหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ เต ตโย ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. อฏฺมํ.

๙. ขตสุตฺตํ

. ‘‘ตีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ตีหิ? กายทุจฺจริเตน, วจีทุจฺจริเตน, มโนทุจฺจริเตน. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวติ.

‘‘ตีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ตีหิ? กายสุจริเตน, วจีสุจริเตน, มโนสุจริเตน. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. มลสุตฺตํ

๑๐. ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ตโย มเล อปฺปหาย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ตีหิ? ทุสฺสีโล จ โหติ, ทุสฺสีลฺยมลฺจสฺส อปฺปหีนํ โหติ; อิสฺสุกี จ โหติ, อิสฺสามลฺจสฺส อปฺปหีนํ โหติ; มจฺฉรี จ โหติ, มจฺเฉรมลฺจสฺส อปฺปหีนํ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิเม ตโย มเล อปฺปหาย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ตีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ตโย มเล ปหาย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ตีหิ? สีลวา จ โหติ, ทุสฺสีลฺยมลฺจสฺส ปหีนํ โหติ; อนิสฺสุกี จ โหติ, อิสฺสามลฺจสฺส ปหีนํ โหติ; อมจฺฉรี จ โหติ, มจฺเฉรมลฺจสฺส ปหีนํ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิเม ตโย มเล ปหาย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ทสมํ.

พาลวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

ภยํ ลกฺขณจินฺตี จ, อจฺจยฺจ อโยนิโส;

อกุสลฺจ สาวชฺชํ, สพฺยาพชฺฌขตํ มลนฺติ.