📜
(๑๑) ๑. สมฺโพธวคฺโค
๑. ปุพฺเพวสมฺโพธสุตฺตํ
๑๐๔. ‘‘ปุพฺเพว ¶ ¶ ¶ เม, ภิกฺขเว, สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺเสว สโต เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข โลเก อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณ’นฺติ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘ยํ โข โลกํ [โลเก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ โลเก อสฺสาโท. ยํ โลโก [โลเก (ปี. ก.)] อนิจฺโจ ทุกฺโข วิปริณามธมฺโม, อยํ โลเก อาทีนโว. โย โลเก ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ, อิทํ โลเก นิสฺสรณ’นฺติ [โลกนิสฺสรณํ (อฏฺ.) ‘‘โลเก นิสฺสรณ’’นฺติ ปเทน สํสนฺทิตพฺพํ]. ยาวกีวฺจาหํ, ภิกฺขเว, เอวํ โลกสฺส อสฺสาทฺจ อสฺสาทโต ¶ อาทีนวฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ นาพฺภฺาสึ, เนว ตาวาหํ, ภิกฺขเว, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ [อภิสมฺพุทฺโธ (สี. สฺยา. กํ. ก.)] ปจฺจฺาสึ. ยโต จ ขฺวาหํ [โข อหํ (สี. ปี.), โขหํ (สฺยา. กํ. ก.)], ภิกฺขเว, เอวํ โลกสฺส อสฺสาทฺจ อสฺสาทโต อาทีนวฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, อถาหํ, ภิกฺขเว, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ ปจฺจฺาสึ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ – ‘อกุปฺปา เม วิมุตฺติ [เจโตวิมุตฺติ (สี. ปี. ก.)], อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติ. ปมํ.
๒. ปมอสฺสาทสุตฺตํ
๑๐๕. ‘‘โลกสฺสาหํ ¶ , ภิกฺขเว, อสฺสาทปริเยสนํ อจรึ. โย โลเก อสฺสาโท ตทชฺฌคมํ. ยาวตโก โลเก อสฺสาโท, ปฺาย เม โส สุทิฏฺโ. โลกสฺสาหํ, ภิกฺขเว, อาทีนวปริเยสนํ อจรึ ¶ . โย โลเก อาทีนโว ตทชฺฌคมํ. ยาวตโก โลเก อาทีนโว, ปฺาย ¶ เม โส สุทิฏฺโ. โลกสฺสาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสรณปริเยสนํ อจรึ. ยํ โลเก นิสฺสรณํ ตทชฺฌคมํ. ยาวตกํ โลเก นิสฺสรณํ, ปฺาย เม ตํ สุทิฏฺํ. ยาวกีวฺจาหํ, ภิกฺขเว, โลกสฺส อสฺสาทฺจ อสฺสาทโต อาทีนวฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ นาพฺภฺาสึ, เนว ตาวาหํ, ภิกฺขเว, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ ปจฺจฺาสึ. ยโต จ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, โลกสฺส อสฺสาทฺจ อสฺสาทโต อาทีนวฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, อถาหํ, ภิกฺขเว, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ ปจฺจฺาสึ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ – ‘อกุปฺปา เม วิมุตฺติ, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติ. ทุติยํ.
๓. ทุติยอสฺสาทสุตฺตํ
๑๐๖. ‘‘โน ¶ เจทํ [โน เจตํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.) สํ. นิ. ๓.๒๘ ปสฺสิตพฺพํ], ภิกฺขเว, โลเก อสฺสาโท อภวิสฺส, นยิทํ สตฺตา โลเก สารชฺเชยฺยุํ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อตฺถิ โลเก อสฺสาโท, ตสฺมา สตฺตา โลเก สารชฺชนฺติ. โน เจทํ, ภิกฺขเว, โลเก อาทีนโว ¶ อภวิสฺส, นยิทํ สตฺตา โลเก นิพฺพินฺเทยฺยุํ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อตฺถิ โลเก อาทีนโว, ตสฺมา สตฺตา โลเก นิพฺพินฺทนฺติ. โน เจทํ, ภิกฺขเว, โลเก นิสฺสรณํ อภวิสฺส, นยิทํ สตฺตา โลกมฺหา [โลเก (ก.)] นิสฺสเรยฺยุํ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อตฺถิ โลเก นิสฺสรณํ, ตสฺมา สตฺตา โลกมฺหา นิสฺสรนฺติ. ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, สตฺตา โลกสฺส อสฺสาทฺจ อสฺสาทโต อาทีนวฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ นาพฺภฺาสุํ [นาพฺภฺํสุ (สํ. นิ. ๓.๒๘], เนว ตาว, ภิกฺขเว, สตฺตา สเทวกา โลกา สมารกา สพฺรหฺมกา สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย นิสฺสฏา วิสํยุตฺตา วิปฺปมุตฺตา [วิปฺปยุตฺตา (ก.)] วิมริยาทีกเตน [วิมริยาทิกเตน (สี. ปี. ก.)] เจตสา วิหรึสุ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, สตฺตา โลกสฺส ¶ อสฺสาทฺจ อสฺสาทโต อาทีนวฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ อพฺภฺาสุํ, อถ, ภิกฺขเว, สตฺตา สเทวกา โลกา สมารกา สพฺรหฺมกา สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย นิสฺสฏา วิสํยุตฺตา วิปฺปมุตฺตา วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรนฺตี’’ติ. ตติยํ.
๔. สมณพฺราหฺมณสุตฺตํ
๑๐๗. ‘‘เย ¶ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา โลกสฺส อสฺสาทฺจ อสฺสาทโต อาทีนวฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, น เม เต [น เต (ก.)], ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมเณสุ วา สมณสมฺมตา พฺราหฺมเณสุ วา พฺราหฺมณสมฺมตา, น จ ปน เต อายสฺมนฺโต สามฺตฺถํ วา พฺรหฺมฺตฺถํ วา ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ. เย จ โข เกจิ ¶ , ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา โลกสฺส อสฺสาทฺจ อสฺสาทโต อาทีนวฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ ปชานนฺติ, เต โข, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมเณสุ วา สมณสมฺมตา พฺราหฺมเณสุ วา พฺราหฺมณสมฺมตา, เต จ ปนายสฺมนฺโต สามฺตฺถฺจ พฺรหฺมฺตฺถฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’’ติ [วิหริสฺสนฺติ (สี. ปี.)]. จตุตฺถํ.
๕. รุณฺณสุตฺตํ
๑๐๘. ‘‘รุณฺณมิทํ ¶ , ภิกฺขเว, อริยสฺส วินเย ยทิทํ คีตํ. อุมฺมตฺตกมิทํ, ภิกฺขเว, อริยสฺส วินเย ยทิทํ นจฺจํ. โกมารกมิทํ, ภิกฺขเว, อริยสฺส วินเย ยทิทํ อติเวลํ ทนฺตวิทํสกหสิตํ [ทนฺตวิทํสกํ หสิตํ (สี. ปี.)]. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เสตุฆาโต คีเต, เสตุฆาโต นจฺเจ, อลํ โว ธมฺมปฺปโมทิตานํ สตํ สิตํ สิตมตฺตายา’’ติ. ปฺจมํ.
๖. อติตฺติสุตฺตํ
๑๐๙. ‘‘ติณฺณํ, ภิกฺขเว, ปฏิเสวนาย นตฺถิ ติตฺติ. กตเมสํ ติณฺณํ? โสปฺปสฺส, ภิกฺขเว, ปฏิเสวนาย นตฺถิ ติตฺติ. สุราเมรยปานสฺส, ภิกฺขเว, ปฏิเสวนาย ¶ นตฺถิ ติตฺติ. เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา, ภิกฺขเว, ปฏิเสวนาย นตฺถิ ติตฺติ. อิเมสํ, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ปฏิเสวนาย นตฺถิ ติตฺตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. อรกฺขิตสุตฺตํ
๑๑๐. อถ ¶ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ – ‘‘จิตฺเต, คหปติ, อรกฺขิเต กายกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ ¶ , มโนกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ. ตสฺส อรกฺขิตกายกมฺมนฺตสฺส อรกฺขิตวจีกมฺมนฺตสฺส อรกฺขิตมโนกมฺมนฺตสฺส กายกมฺมมฺปิ อวสฺสุตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อวสฺสุตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อวสฺสุตํ โหติ. ตสฺส อวสฺสุตกายกมฺมนฺตสฺส อวสฺสุตวจีกมฺมนฺตสฺส อวสฺสุตมโนกมฺมนฺตสฺส กายกมฺมมฺปิ ปูติกํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ ปูติกํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ ปูติกํ โหติ. ตสฺส ปูติกายกมฺมนฺตสฺส ปูติวจีกมฺมนฺตสฺส ปูติมโนกมฺมนฺตสฺส น ภทฺทกํ มรณํ โหติ, น ภทฺทิกา กาลงฺกิริยา.
‘‘เสยฺยถาปิ, คหปติ, กูฏาคาเร ทุจฺฉนฺเน กูฏมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ, โคปานสิโยปิ อรกฺขิตา โหนฺติ, ภิตฺติปิ อรกฺขิตา โหติ; กูฏมฺปิ อวสฺสุตํ โหติ, โคปานสิโยปิ อวสฺสุตา โหนฺติ, ภิตฺติปิ อวสฺสุตา โหติ; กูฏมฺปิ ปูติกํ โหติ, โคปานสิโยปิ ปูติกา โหนฺติ, ภิตฺติปิ ปูติกา โหติ.
‘‘เอวเมวํ โข, คหปติ, จิตฺเต ¶ อรกฺขิเต กายกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ. ตสฺส อรกฺขิตกายกมฺมนฺตสฺส อรกฺขิตวจีกมฺมนฺตสฺส อรกฺขิตมโนกมฺมนฺตสฺส กายกมฺมมฺปิ อวสฺสุตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อวสฺสุตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อวสฺสุตํ โหติ. ตสฺส อวสฺสุตกายกมฺมนฺตสฺส อวสฺสุตวจีกมฺมนฺตสฺส อวสฺสุตมโนกมฺมนฺตสฺส กายกมฺมมฺปิ ปูติกํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ ปูติกํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ ปูติกํ โหติ. ตสฺส ปูติกายกมฺมนฺตสฺส ปูติวจีกมฺมนฺตสฺส ปูติมโนกมฺมนฺตสฺส น ภทฺทกํ มรณํ โหติ, น ภทฺทิกา กาลงฺกิริยา.
‘‘จิตฺเต ¶ , คหปติ, รกฺขิเต กายกมฺมมฺปิ รกฺขิตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ รกฺขิตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ รกฺขิตํ โหติ. ตสฺส รกฺขิตกายกมฺมนฺตสฺส รกฺขิตวจีกมฺมนฺตสฺส รกฺขิตมโนกมฺมนฺตสฺส กายกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ ¶ โหติ. ตสฺส อนวสฺสุตกายกมฺมนฺตสฺส อนวสฺสุตวจีกมฺมนฺตสฺส อนวสฺสุตมโนกมฺมนฺตสฺส กายกมฺมมฺปิ อปูติกํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อปูติกํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อปูติกํ โหติ. ตสฺส อปูติกายกมฺมนฺตสฺส อปูติวจีกมฺมนฺตสฺส อปูติมโนกมฺมนฺตสฺส ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลงฺกิริยา.
‘‘เสยฺยถาปิ, คหปติ ¶ , กูฏาคาเร สุจฺฉนฺเน กูฏมฺปิ รกฺขิตํ โหติ, โคปานสิโยปิ รกฺขิตา โหนฺติ, ภิตฺติปิ รกฺขิตา โหติ; กูฏมฺปิ อนวสฺสุตํ โหติ, โคปานสิโยปิ อนวสฺสุตา โหนฺติ, ภิตฺติปิ อนวสฺสุตา โหติ; กูฏมฺปิ อปูติกํ โหติ, โคปานสิโยปิ อปูติกา โหนฺติ, ภิตฺติปิ อปูติกา โหติ.
เอวเมวํ โข, คหปติ, จิตฺเต รกฺขิเต กายกมฺมมฺปิ รกฺขิตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ รกฺขิตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ รกฺขิตํ โหติ. ตสฺส รกฺขิตกายกมฺมนฺตสฺส รกฺขิตวจีกมฺมนฺตสฺส รกฺขิตมโนกมฺมนฺตสฺส กายกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหติ. ตสฺส อนวสฺสุตกายกมฺมนฺตสฺส อนวสฺสุตวจีกมฺมนฺตสฺส อนวสฺสุตมโนกมฺมนฺตสฺส กายกมฺมมฺปิ อปูติกํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อปูติกํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อปูติกํ โหติ. ตสฺส อปูติกายกมฺมนฺตสฺส อปูติวจีกมฺมนฺตสฺส อปูติมโนกมฺมนฺตสฺส ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลงฺกิริยา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. พฺยาปนฺนสุตฺตํ
๑๑๑. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ – ‘‘จิตฺเต, คหปติ, พฺยาปนฺเน กายกมฺมมฺปิ พฺยาปนฺนํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ พฺยาปนฺนํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ พฺยาปนฺนํ โหติ. ตสฺส พฺยาปนฺนกายกมฺมนฺตสฺส พฺยาปนฺนวจีกมฺมนฺตสฺส พฺยาปนฺนมโนกมฺมนฺตสฺส น ภทฺทกํ มรณํ โหติ, น ภทฺทิกา กาลงฺกิริยา. เสยฺยถาปิ, คหปติ, กูฏาคาเร ทุจฺฉนฺเน กูฏมฺปิ พฺยาปนฺนํ โหติ, โคปานสิโยปิ พฺยาปนฺนา โหนฺติ, ภิตฺติปิ พฺยาปนฺนา ¶ โหติ; เอวเมวํ โข, คหปติ, จิตฺเต พฺยาปนฺเน กายกมฺมมฺปิ พฺยาปนฺนํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ พฺยาปนฺนํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ พฺยาปนฺนํ โหติ. ตสฺส พฺยาปนฺนกายกมฺมนฺตสฺส พฺยาปนฺนวจีกมฺมนฺตสฺส พฺยาปนฺนมโนกมฺมนฺตสฺส น ภทฺทกํ มรณํ โหติ, น ภทฺทิกา กาลงฺกิริยา.
‘‘จิตฺเต ¶ , คหปติ, อพฺยาปนฺเน กายกมฺมมฺปิ อพฺยาปนฺนํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อพฺยาปนฺนํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อพฺยาปนฺนํ โหติ. ตสฺส อพฺยาปนฺนกายกมฺมนฺตสฺส อพฺยาปนฺนวจีกมฺมนฺตสฺส อพฺยาปนฺนมโนกมฺมนฺตสฺส ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลงฺกิริยา. เสยฺยถาปิ, คหปติ, กูฏาคาเร สุจฺฉนฺเน กูฏมฺปิ อพฺยาปนฺนํ โหติ, โคปานสิโยปิ ¶ อพฺยาปนฺนา โหนฺติ, ภิตฺติปิ อพฺยาปนฺนา โหติ; เอวเมวํ โข, คหปติ, จิตฺเต อพฺยาปนฺเน กายกมฺมมฺปิ อพฺยาปนฺนํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อพฺยาปนฺนํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อพฺยาปนฺนํ โหติ. ตสฺส อพฺยาปนฺนกายกมฺมนฺตสฺส…เป… อพฺยาปนฺนมโนกมฺมนฺตสฺส ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา ¶ กาลงฺกิริยา’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ปมนิทานสุตฺตํ
๑๑๒. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยาย. กตมานิ ตีณิ? โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย, โทโส นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย, โมโห นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย. ยํ, ภิกฺขเว, โลภปกตํ กมฺมํ โลภชํ โลภนิทานํ โลภสมุทยํ, ตํ กมฺมํ อกุสลํ ตํ กมฺมํ สาวชฺชํ ตํ กมฺมํ ทุกฺขวิปากํ, ตํ กมฺมํ กมฺมสมุทยาย สํวตฺตติ, น ตํ กมฺมํ กมฺมนิโรธาย สํวตฺตติ. ยํ, ภิกฺขเว, โทสปกตํ กมฺมํ โทสชํ โทสนิทานํ โทสสมุทยํ, ตํ กมฺมํ อกุสลํ ตํ กมฺมํ สาวชฺชํ ตํ กมฺมํ ทุกฺขวิปากํ, ตํ กมฺมํ กมฺมสมุทยาย สํวตฺตติ, น ตํ กมฺมํ กมฺมนิโรธาย สํวตฺตติ. ยํ, ภิกฺขเว, โมหปกตํ กมฺมํ โมหชํ โมหนิทานํ โมหสมุทยํ, ตํ กมฺมํ อกุสลํ ตํ กมฺมํ สาวชฺชํ ตํ กมฺมํ ทุกฺขวิปากํ, ตํ กมฺมํ กมฺมสมุทยาย สํวตฺตติ, น ตํ กมฺมํ กมฺมนิโรธาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยาย.
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยาย. กตมานิ ตีณิ? อโลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย, อโทโส นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย, อโมโห นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย. ยํ, ภิกฺขเว, อโลภปกตํ กมฺมํ อโลภชํ อโลภนิทานํ อโลภสมุทยํ, ตํ ¶ กมฺมํ กุสลํ ตํ ¶ กมฺมํ อนวชฺชํ ตํ กมฺมํ สุขวิปากํ, ตํ กมฺมํ กมฺมนิโรธาย สํวตฺตติ, น ตํ กมฺมํ กมฺมสมุทยาย สํวตฺตติ. ยํ, ภิกฺขเว, อโทสปกตํ กมฺมํ อโทสชํ อโทสนิทานํ อโทสสมุทยํ, ตํ กมฺมํ กุสลํ ตํ กมฺมํ อนวชฺชํ ตํ กมฺมํ สุขวิปากํ, ตํ ¶ กมฺมํ กมฺมนิโรธาย สํวตฺตติ, น ตํ กมฺมํ กมฺมสมุทยาย สํวตฺตติ. ยํ, ภิกฺขเว, อโมหปกตํ กมฺมํ อโมหชํ อโมหนิทานํ อโมหสมุทยํ, ตํ กมฺมํ กุสลํ ตํ กมฺมํ อนวชฺชํ ตํ กมฺมํ สุขวิปากํ, ตํ กมฺมํ กมฺมนิโรธาย สํวตฺตติ, น ตํ กมฺมํ กมฺมสมุทยาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติ. นวมํ.
๑๐. ทุติยนิทานสุตฺตํ
๑๑๓. ‘‘ตีณิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยาย. กตมานิ ตีณิ? อตีเต, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท ชายติ; อนาคเต, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท ชายติ; ปจฺจุปฺปนฺเน, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท ชายติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, อตีเต ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท ชายติ? อตีเต, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ. ตสฺส อตีเต ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ เจตสา อนุวิตกฺกยโต อนุวิจารยโต ฉนฺโท ชายติ. ฉนฺทชาโต เตหิ ธมฺเมหิ สํยุตฺโต โหติ. เอตมหํ, ภิกฺขเว, สํโยชนํ วทามิ โย เจตโส สาราโค. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อตีเต ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท ชายติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อนาคเต ฉนฺทราคฏฺานิเย ¶ ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท ชายติ? อนาคเต, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ. ตสฺส อนาคเต ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ เจตสา อนุวิตกฺกยโต อนุวิจารยโต ฉนฺโท ชายติ. ฉนฺทชาโต เตหิ ธมฺเมหิ สํยุตฺโต โหติ. เอตมหํ, ภิกฺขเว, สํโยชนํ วทามิ โย เจตโส สาราโค. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อนาคเต ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท ชายติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท ชายติ? ปจฺจุปฺปนฺเน, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ เจตสา อนุวิตกฺเกติ ¶ อนุวิจาเรติ. ตสฺส ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ เจตสา อนุวิตกฺกยโต อนุวิจารยโต ฉนฺโท ชายติ. ฉนฺทชาโต เตหิ ธมฺเมหิ สํยุตฺโต โหติ. เอตมหํ, ภิกฺขเว, สํโยชนํ วทามิ โย เจตโส ¶ สาราโค. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท ชายติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยาย.
‘‘ตีณิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยาย. กตมานิ ตีณิ? อตีเต, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท น ชายติ; อนาคเต ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท น ชายติ; ปจฺจุปฺปนฺเน, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท น ชายติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, อตีเต ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท น ชายติ? อตีตานํ, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิยานํ ธมฺมานํ อายตึ วิปากํ ปชานาติ. อายตึ วิปากํ วิทิตฺวา ตทภินิวตฺเตติ. ตทภินิวตฺเตตฺวา [ตทภินิวชฺเชติ, ตทภินิวชฺเชตฺวา (สี. สฺยา. กํ.)] เจตสา อภินิวิชฺฌิตฺวา [อภิวิราเชตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฺาย อติวิชฺฌ [อภินิวิชฺฌ (ก.)] ปสฺสติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อตีเต ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท น ชายติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อนาคเต ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท น ชายติ? อนาคตานํ, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิยานํ ธมฺมานํ อายตึ วิปากํ ปชานาติ. อายตึ วิปากํ วิทิตฺวา ตทภินิวตฺเตติ. ตทภินิวตฺเตตฺวา เจตสา อภินิวิชฺฌิตฺวา ปฺาย อติวิชฺฌ ปสฺสติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อนาคเต ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท น ชายติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท น ชายติ? ปจฺจุปฺปนฺนานํ, ภิกฺขเว, ฉนฺทราคฏฺานิยานํ ธมฺมานํ อายตึ วิปากํ ปชานาติ, อายตึ วิปากํ ¶ วิทิตฺวา ตทภินิวตฺเตติ, ตทภินิวตฺเตตฺวา เจตสา อภินิวิชฺฌิตฺวา ปฺาย อติวิชฺฌ ปสฺสติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม อารพฺภ ฉนฺโท น ชายติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติ. ทสมํ.
สมฺโพธวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปุพฺเพว ¶ ทุเว อสฺสาทา, สมโณ รุณฺณปฺจมํ;
อติตฺติ ทฺเว จ วุตฺตานิ, นิทานานิ อปเร ทุเวติ.