📜
๓. ปุคฺคลวคฺโค
๑. สมิทฺธสุตฺตํ
๒๑. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา จ สมิทฺโธ [สวิฏฺโ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อายสฺมา จ มหาโกฏฺิโก [มหาโกฏฺิโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สมิทฺธํ อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘ตโยเม, อาวุโส สมิทฺธ, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? กายสกฺขี, ทิฏฺิปฺปตฺโต [ทิฏฺปฺปตฺโต (ก.)], สทฺธาวิมุตฺโต. อิเม โข, อาวุโส, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต ¶ สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ, อาวุโส, ติณฺณํ ปุคฺคลานํ กตโม เต ปุคฺคโล ขมติ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ?
‘‘ตโยเม, อาวุโส สาริปุตฺต, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? กายสกฺขี, ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต. อิเม โข, อาวุโส, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ, อาวุโส, ติณฺณํ ปุคฺคลานํ ยฺวายํ [โยยํ (ก.)] ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต, อยํ เม ปุคฺคโล ขมติ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมสฺส, อาวุโส, ปุคฺคลสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺต’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ มหาโกฏฺิกํ เอตทโวจ – ‘‘ตโยเม, อาวุโส โกฏฺิก, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ ¶ . กตเม ตโย? กายสกฺขี, ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต. อิเม โข, อาวุโส, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ ¶ , อาวุโส, ติณฺณํ ปุคฺคลานํ กตโม เต ปุคฺคโล ขมติ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ?
‘‘ตโยเม ¶ , อาวุโส สาริปุตฺต, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? กายสกฺขี, ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต. อิเม โข, อาวุโส, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ, อาวุโส, ติณฺณํ ปุคฺคลานํ ยฺวายํ ปุคฺคโล กายสกฺขี, อยํ เม ปุคฺคโล ขมติ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมสฺส, อาวุโส, ปุคฺคลสฺส สมาธินฺทฺริยํ อธิมตฺต’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ตโยเม, อาวุโส สาริปุตฺต, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? กายสกฺขี ¶ , ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต. อิเม โข, อาวุโส, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ, อาวุโส, ติณฺณํ ปุคฺคลานํ กตโม เต ปุคฺคโล ขมติ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ?
‘‘ตโยเม, อาวุโส โกฏฺิก, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? กายสกฺขี, ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต. อิเม โข, อาวุโส, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ, อาวุโส, ติณฺณํ ปุคฺคลานํ ยฺวายํ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต, อยํ เม ปุคฺคโล ขมติ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมสฺส, อาวุโส, ปุคฺคลสฺส ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺต’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตฺจ สมิทฺธํ อายสฺมนฺตฺจ มหาโกฏฺิกํ เอตทโวจ – ‘‘พฺยากตํ โข, อาวุโส, อมฺเหหิ สพฺเพเหว ยถาสกํ ปฏิภานํ. อายามาวุโส, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสฺสาม. ยถา โน ภควา พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา จ สมิทฺโธ อายสฺมา จ มหาโกฏฺิโก อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ¶ ปจฺจสฺโสสุํ. อถ โข อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ สมิทฺโธ อายสฺมา จ มหาโกฏฺิโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ยาวตโก อโหสิ อายสฺมตา จ สมิทฺเธน อายสฺมตา จ มหาโกฏฺิเกน สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ¶ ภควโต อาโรเจสิ.
‘‘น ¶ ขฺเวตฺถ, สาริปุตฺต, สุกรํ เอกํเสน พฺยากาตุํ – ‘อยํ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’ติ. านฺเหตํ, สาริปุตฺต, วิชฺชติ ยฺวายํ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต สฺวาสฺส [สฺวายํ (สฺยา. กํ. ปี.), โสยํ (ก.)] อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน, ยฺวายํ ปุคฺคโล กายสกฺขี สฺวาสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา, โย จายํ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต โสปสฺส [โสยํ (ก.)] สกทาคามี วา อนาคามี วา.
‘‘น ขฺเวตฺถ, สาริปุตฺต, สุกรํ เอกํเสน พฺยากาตุํ – ‘อยํ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’ติ. านฺเหตํ, สาริปุตฺต, วิชฺชติ ยฺวายํ ปุคฺคโล กายสกฺขี สฺวาสฺส อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน, ยฺวายํ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต สฺวาสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา, โย จายํ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต โสปสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา.
‘‘น ขฺเวตฺถ, สาริปุตฺต, สุกรํ เอกํเสน พฺยากาตุํ – ‘อยํ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’ติ. านฺเหตํ, สาริปุตฺต, วิชฺชติ ยฺวายํ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต สฺวาสฺส อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน, ยฺวายํ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต สฺวาสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา, โย จายํ ปุคฺคโล กายสกฺขี โสปสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา.
‘‘น ขฺเวตฺถ, สาริปุตฺต, สุกรํ เอกํเสน พฺยากาตุํ – ‘อยํ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ. ปมํ.
๒. คิลานสุตฺตํ
๒๒. [ปุ. ป. ๙๔] ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, คิลานา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ คิลาโน ลภนฺโต วา สปฺปายานิ โภชนานิ อลภนฺโต วา สปฺปายานิ โภชนานิ, ลภนฺโต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ ¶ อลภนฺโต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, ลภนฺโต วา ¶ ¶ ปติรูปํ อุปฏฺากํ อลภนฺโต วา ปติรูปํ อุปฏฺากํ เนว วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธา.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ คิลาโน ลภนฺโต วา สปฺปายานิ โภชนานิ อลภนฺโต วา สปฺปายานิ โภชนานิ, ลภนฺโต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ อลภนฺโต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ ¶ , ลภนฺโต วา ปติรูปํ อุปฏฺากํ อลภนฺโต วา ปติรูปํ อุปฏฺากํ วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธา.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ คิลาโน ลภนฺโตว สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภนฺโต, ลภนฺโตว สปฺปายานิ เภสชฺชานิ โน อลภนฺโต, ลภนฺโตว ปติรูปํ อุปฏฺากํ โน อลภนฺโต วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธา.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ คิลาโน ลภนฺโตว สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภนฺโต, ลภนฺโตว สปฺปายานิ เภสชฺชานิ โน อลภนฺโต, ลภนฺโตว ปติรูปํ อุปฏฺากํ โน อลภนฺโต วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธา, อิมํ โข, ภิกฺขเว, คิลานํ ปฏิจฺจ คิลานภตฺตํ อนฺุาตํ คิลานเภสชฺชํ อนฺุาตํ คิลานุปฏฺาโก อนฺุาโต. อิมฺจ ปน, ภิกฺขเว, คิลานํ ปฏิจฺจ อฺเปิ คิลานา อุปฏฺาตพฺพา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย คิลานา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ตโยเม คิลานูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลภนฺโต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย อลภนฺโต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย, ลภนฺโต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวนาย อลภนฺโต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ ¶ สวนาย เนว โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ.
‘‘อิธ, ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลภนฺโต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย อลภนฺโต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย, ลภนฺโต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวนาย อลภนฺโต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวนาย โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลภนฺโตว ตถาคตํ ทสฺสนาย โน อลภนฺโต, ลภนฺโตว ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวนาย โน อลภนฺโต โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ.
‘‘ตตฺร ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลภนฺโตว ตถาคตํ ทสฺสนาย โน อลภนฺโต, ลภนฺโตว ¶ ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวนาย โน อลภนฺโต โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ, อิมํ โข ภิกฺขเว, ปุคฺคลํ ปฏิจฺจ ธมฺมเทสนา อนฺุาตา. อิมฺจ ปน, ภิกฺขเว, ปุคฺคลํ ปฏิจฺจ อฺเสมฺปิ ธมฺโม เทเสตพฺโพ. ‘‘อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย คิลานูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ทุติยํ.
๓. สงฺขารสุตฺตํ
๒๓. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺยาพชฺฌํ [สพฺยาปชฺฌํ (สพฺพตฺถ) เอวมุปริปิ] กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ. โส สพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา สพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปชฺชติ. ตเมนํ สพฺยาพชฺฌํ โลกํ ¶ อุปปนฺนํ สมานํ สพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺติ. โส สพฺยาพชฺเฌหิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโ สมาโน สพฺยาพชฺฌํ เวทนํ เวทยติ เอกนฺตทุกฺขํ, เสยฺยถาปิ สตฺตา เนรยิกา.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ. โส อพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, อพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, อพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา อพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปชฺชติ. ตเมนํ อพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปนฺนํ สมานํ อพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺติ. โส อพฺยาพชฺเฌหิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโ สมาโน อพฺยาพชฺฌํ เวทนํ เวทยติ เอกนฺตสุขํ, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ. โส สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ ¶ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ โลกํ อุปปชฺชติ. ตเมนํ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ โลกํ ¶ อุปปนฺนํ สมานํ สพฺยาพชฺฌาปิ อพฺยาพชฺฌาปิ ผสฺสา ¶ ผุสนฺติ. โส สพฺยาพชฺเฌหิปิ อพฺยาพชฺเฌหิปิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโ สมาโน สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ เวทนํ เวทยติ โวกิณฺณสุขทุกฺขํ, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ตติยํ.
๔. พหุการสุตฺตํ
๒๔. ‘‘ตโยเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา ปุคฺคลสฺส พหุการา. กตเม ตโย? ยํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคลํ อาคมฺม ปุคฺคโล พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ; อยํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อิมสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกาโร.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยํ ปุคฺคลํ อาคมฺม ปุคฺคโล ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ; อยํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อิมสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกาโร.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยํ ปุคฺคลํ อาคมฺม ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ; อยํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อิมสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกาโร. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา ปุคฺคลสฺส พหุการา.
‘‘อิเมหิ จ ปน, ภิกฺขเว, ตีหิ ปุคฺคเลหิ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส นตฺถฺโ ปุคฺคโล พหุกาโรติ วทามิ. อิเมสํ ปน, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อิมินา ปุคฺคเลน น สุปฺปติการํ วทามิ, ยทิทํ อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมจีวรปิณฺฑปาตเสนาสน-คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทาเนนา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. วชิรูปมสุตฺตํ
๒๕. ‘‘ตโยเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ ¶ . กตเม ตโย? อรุกูปมจิตฺโต ปุคฺคโล, วิชฺชูปมจิตฺโต ปุคฺคโล, วชิรูปมจิตฺโต ปุคฺคโล. กตโม จ, ภิกฺขเว, อรุกูปมจิตฺโต ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล อปฺปมฺปิ ¶ วุตฺโต ¶ สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทุฏฺารุโก [ทุฏฺารุกา (สี.)] กฏฺเน วา กลาย [กถลาย (สฺยา. กํ. ก.), กเลน-กถเลน (อฏฺกถา)] วา ฆฏฺฏิโต [ฆฏฺฏิตา (สี.)] ภิยฺโยโสมตฺตาย อาสวํ เทติ [อสฺสวโนติ (สี.)]; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อรุกูปมจิตฺโต ปุคฺคโล.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, วิชฺชูปมจิตฺโต ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว, จกฺขุมา ปุริโส รตฺตนฺธการติมิสายํ วิชฺชนฺตริกาย รูปานิ ปสฺเสยฺย; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วิชฺชูปมจิตฺโต ปุคฺคโล.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, วชิรูปมจิตฺโต ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, วชิรสฺส นตฺถิ กิฺจิ อเภชฺชํ มณิ วา ปาสาโณ วา; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา…เป… อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วชิรูปมจิตฺโต ปุคฺคโล. ‘อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ¶ โลกสฺมิ’’’นฺติ [ปุ. ป. ๑๐๒]. ปฺจมํ.
๖. เสวิตพฺพสุตฺตํ
๒๖. ‘‘ตโยเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ¶ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ¶ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล หีโน โหติ สีเลน สมาธินา ปฺาย. เอวรูโป, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ อฺตฺร อนุทฺทยา อฺตฺร อนุกมฺปา.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สทิโส โหติ สีเลน สมาธินา ปฺาย. เอวรูโป, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? สีลสามฺคตานํ สตํ สีลกถา จ โน ภวิสฺสติ, สา จ โน ปวตฺตินี [ปวตฺตนี (สี. สฺยา. กํ. ปี.) ปุ. ป. ๑๒๒ ปสฺสิตพฺพํ] ภวิสฺสติ, สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสติ. สมาธิสามฺคตานํ สตํ สมาธิกถา จ โน ภวิสฺสติ, สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสติ, สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสติ. ปฺาสามฺคตานํ สตํ ปฺากถา จ โน ภวิสฺสติ, สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสติ, สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสตีติ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิธ, ภิกฺขเว ¶ , เอกจฺโจ ปุคฺคโล อธิโก โหติ สีเลน สมาธินา ปฺาย. เอวรูโป, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิติ อปริปูรํ วา สีลกฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสามิ, ปริปูรํ วา สีลกฺขนฺธํ ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามิ; อปริปูรํ วา สมาธิกฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสามิ, ปริปูรํ วา สมาธิกฺขนฺธํ ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามิ; อปริปูรํ วา ปฺากฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสามิ, ปริปูรํ วา ปฺากฺขนฺธํ ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ.
‘‘นิหียติ ¶ ¶ ปุริโส นิหีนเสวี,
น จ หาเยถ กทาจิ ตุลฺยเสวี;
เสฏฺมุปนมํ อุเทติ ขิปฺปํ,
ตสฺมา อตฺตโน อุตฺตรึ ภเชถา’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. ชิคุจฺฉิตพฺพสุตฺตํ
๒๗. ‘‘ตโยเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม อสุจิ สงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต, อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ, อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ, อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต. เอวรูโป, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? กิฺจาปิ, ภิกฺขเว, เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส น ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ, อถ โข นํ ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ – ‘ปาปมิตฺโต ปุริสปุคฺคโล ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก’ติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อหิ คูถคโต กิฺจาปิ น ทํสติ [ฑํสติ (สี. สฺยา.), ฑสฺสติ (ปี.)], อถ โข นํ มกฺเขติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, กิฺจาปิ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส น ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ, อถ โข นํ ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ – ‘ปาปมิตฺโต ปุริสปุคฺคโล ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก’ติ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล ¶ , อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทุฏฺารุโก กฏฺเน วา กลาย วา ฆฏฺฏิโต ภิยฺโยโสมตฺตาย อาสวํ เทติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว…เป… เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ตินฺทุกาลาตํ ¶ กฏฺเน ¶ วา กลาย วา ฆฏฺฏิตํ ภิยฺโยโสมตฺตาย จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ; เอวเมวํ โข ภิกฺขเว…เป… เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คูถกูโป กฏฺเน วา กลาย วา ฆฏฺฏิโต ภิยฺโยโสมตฺตาย ทุคฺคนฺโธ โหติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ¶ โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. เอวรูโป, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? อกฺโกเสยฺยปิ มํ ปริภาเสยฺยปิ มํ อนตฺถมฺปิ มํ กเรยฺยาติ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม. เอวรูโป, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? กิฺจาปิ, ภิกฺขเว, เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส น ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ, อถ โข นํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ – ‘กลฺยาณมิตฺโต ปุริสปุคฺคโล กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก’ติ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. ‘อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’’นฺติ.
‘‘นิหียติ ¶ ปุริโส นิหีนเสวี,
น จ หาเยถ กทาจิ ตุลฺยเสวี;
เสฏฺมุปนมํ อุเทติ ขิปฺปํ,
ตสฺมา อตฺตโน อุตฺตรึ ภเชถา’’ติ. สตฺตมํ;
๘. คูถภาณีสุตฺตํ
๒๘. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ ¶ . กตเม ตโย? คูถภาณี, ปุปฺผภาณี, มธุภาณี. กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คูถภาณี? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา [สภาคโต วา ปริสาคโต วา (สฺยา. กํ.)] าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ. โส ¶ อชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘น ¶ ปสฺสามี’ติ [ม. นิ. ๑.๔๔๐; ปุ. ป. ๙๑]; อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คูถภาณี.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุปฺผภาณี? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ปชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ; อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ¶ ปุปฺผภาณี.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล มธุภาณี? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ; ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล มธุภาณี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. อนฺธสุตฺตํ
๒๙. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อนฺโธ, เอกจกฺขุ, ทฺวิจกฺขุ. กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อนฺโธ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ น ¶ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคจฺเฉยฺย อธิคตํ วา โภคํ ผาตึ กเรยฺย [ผาติกเรยฺย (สี.)]; ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธมฺเม ชาเนยฺย, สาวชฺชานวชฺเช ธมฺเม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธมฺเม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ธมฺเม ชาเนยฺย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อนฺโธ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เอกจกฺขุ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ ¶ จกฺขุ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ ¶ อธิคจฺเฉยฺย อธิคตํ วา โภคํ ผาตึ กเรยฺย; ตถารูปํ ปนสฺส [ตถารูปมฺปิสฺส (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธมฺเม ชาเนยฺย, สาวชฺชานวชฺเช ธมฺเม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธมฺเม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ¶ ธมฺเม ชาเนยฺย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เอกจกฺขุ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ทฺวิจกฺขุ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคจฺเฉยฺย, อธิคตํ วา โภคํ ผาตึ กเรยฺย; ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธมฺเม ชาเนยฺย; สาวชฺชานวชฺเช ธมฺเม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธมฺเม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ธมฺเม ชาเนยฺย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ทฺวิจกฺขุ. ‘อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’’นฺติ.
‘‘น เจว โภคา ตถารูปา, น จ ปฺุานิ กุพฺพติ;
อุภยตฺถ กลิคฺคาโห, อนฺธสฺส หตจกฺขุโน.
‘‘อถาปรายํ อกฺขาโต, เอกจกฺขุ จ ปุคฺคโล;
ธมฺมาธมฺเมน สโโส [สํสฏฺโ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), สโติ (ก.)], โภคานิ ปริเยสติ.
‘‘เถยฺเยน กูฏกมฺเมน, มุสาวาเทน จูภยํ;
กุสโล โหติ สงฺฆาตุํ [สํหาตุํ (สฺยา.)], กามโภคี จ มานโว;
อิโต โส นิรยํ คนฺตฺวา, เอกจกฺขุ วิหฺติ.
‘‘ทฺวิจกฺขุ ปน อกฺขาโต, เสฏฺโ ปุริสปุคฺคโล;
ธมฺมลทฺเธหิ โภเคหิ, อุฏฺานาธิคตํ ธนํ.
‘‘ททาติ ¶ เสฏฺสงฺกปฺโป, อพฺยคฺคมานโส นโร;
อุเปติ ภทฺทกํ านํ, ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจติ.
‘‘อนฺธฺจ ¶ เอกจกฺขฺุจ, อารกา ปริวชฺชเย;
ทฺวิจกฺขุํ ¶ ปน เสเวถ, เสฏฺํ ปุริสปุคฺคล’’นฺติ. นวมํ;
๑๐. อวกุชฺชสุตฺตํ
๓๐. ‘‘ตโยเม ¶ , ภิกฺขเว [ปุ. ป. ๑๐๗-๑๐๘], ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อวกุชฺชปฺโ ปุคฺคโล, อุจฺฉงฺคปฺโ ปุคฺคโล, ปุถุปฺโ ปุคฺคโล. กตโม จ, ภิกฺขเว, อวกุชฺชปฺโ ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวนาย. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย เนว อาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ; วุฏฺิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนว อาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุมฺโภ นิกฺกุชฺโช [นิกฺกุชฺโช (สี. ปี.)] ตตฺร อุทกํ อาสิตฺตํ วิวฏฺฏติ, โน สณฺาติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวนาย. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย เนว อาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ; วุฏฺิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนวาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อวกุชฺชปฺโ ¶ ปุคฺคโล.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อุจฺฉงฺคปฺโ ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวนาย. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ; วุฏฺิโต จ โข ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนวาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส อุจฺฉงฺเค นานาขชฺชกานิ อากิณฺณานิ – ติลา ¶ ตณฺฑุลา โมทกา พทรา. โส ตมฺหา อาสนา วุฏฺหนฺโต ¶ สติสมฺโมสา ปกิเรยฺย ¶ . เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวนาย. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ; วุฏฺิโต จ โข ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนว อาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อุจฺฉงฺคปฺโ ปุคฺคโล.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุถุปฺโ ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ ¶ สนฺติเก ธมฺมสฺสวนาย. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ; วุฏฺิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุมฺโภ อุกฺกุชฺโช ตตฺร อุทกํ อาสิตฺตํ สณฺาติ โน วิวฏฺฏติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวนาย. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ; วุฏฺิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุถุปฺโ ปุคฺคโล. ‘อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’’นฺติ.
‘‘อวกุชฺชปฺโ ปุริโส, ทุมฺเมโธ อวิจกฺขโณ;
อภิกฺขณมฺปิ เจ โหติ, คนฺตา ภิกฺขูน สนฺติเก.
‘‘อาทึ ¶ กถาย มชฺฌฺจ, ปริโยสานฺจ ตาทิโส;
อุคฺคเหตุํ น สกฺโกติ, ปฺา หิสฺส น วิชฺชติ.
‘‘อุจฺฉงฺคปฺโ ¶ ¶ ปุริโส, เสยฺโย เอเตน วุจฺจติ;
อภิกฺขณมฺปิ เจ โหติ, คนฺตา ภิกฺขูน สนฺติเก.
‘‘อาทึ กถาย มชฺฌฺจ, ปริโยสานฺจ ตาทิโส;
นิสินฺโน อาสเน ตสฺมึ, อุคฺคเหตฺวาน พฺยฺชนํ;
วุฏฺิโต นปฺปชานาติ, คหิตํ หิสฺส [คหิตมฺปิสฺส (ก.)] มุสฺสติ.
‘‘ปุถุปฺโ จ ปุริโส, เสยฺโย เอเตหิ [เอเตน (ก.)] วุจฺจติ;
อภิกฺขณมฺปิ เจ โหติ, คนฺตา ภิกฺขูน สนฺติเก.
‘‘อาทึ กถาย มชฺฌฺจ, ปริโยสานฺจ ตาทิโส;
นิสินฺโน อาสเน ตสฺมึ, อุคฺคเหตฺวาน พฺยฺชนํ.
‘‘ธาเรติ เสฏฺสงฺกปฺโป, อพฺยคฺคมานโส นโร;
ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน, ทุกฺขสฺสนฺตกโร สิยา’’ติ. ทสมํ;
ปุคฺคลวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
สมิทฺธ [กายสกฺขิ (สี.), สวิฏฺ (สฺยา. กํ.), เสฏฺ (ก.)] -คิลาน-สงฺขารา, พหุการา วชิเรน จ;
เสวิ-ชิคุจฺฉ-คูถภาณี, อนฺโธ จ อวกุชฺชตาติ.