📜

(๖) ๑. พฺราหฺมณวคฺโค

๑. ปมทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตํ

๕๒. อถ โข ทฺเว พฺราหฺมณา ชิณฺณา วุทฺธา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา วีสวสฺสสติกา ชาติยา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต พฺราหฺมณา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘มยมสฺสุ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา ชิณฺณา วุทฺธา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา วีสวสฺสสติกา ชาติยา; เต จมฺหา อกตกลฺยาณา อกตกุสลา อกตภีรุตฺตาณา. โอวทตุ โน ภวํ โคตโม, อนุสาสตุ โน ภวํ โคตโม ยํ อมฺหากํ อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.

‘‘ตคฺฆ ตุมฺเห, พฺราหฺมณา, ชิณฺณา วุทฺธา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา วีสวสฺสสติกา ชาติยา; เต จตฺถ อกตกลฺยาณา อกตกุสลา อกตภีรุตฺตาณา. อุปนียติ โข อยํ, พฺราหฺมณา, โลโก ชราย พฺยาธินา มรเณน. เอวํ อุปนียมาเน โข, พฺราหฺมณา, โลเก ชราย พฺยาธินา มรเณน, โย อิธ กาเยน สํยโม วาจาย สํยโม มนสา สํยโม, ตํ ตสฺส เปตสฺส ตาณฺจ เลณฺจ ทีปฺจ สรณฺจ ปรายณฺจา’’ติ.

‘‘อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ,

ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา;

เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน,

ปุฺานิ กยิราถ สุขาวหานิ.

‘‘โยธ กาเยน สํยโม, วาจาย อุท เจตสา;

ตํ ตสฺส เปตสฺส สุขาย โหติ,

ยํ ชีวมาโน ปกโรติ ปุฺ’’นฺติ. [สํ. นิ. ๑.๑๐๐] ปมํ;

๒. ทุติยทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตํ

๕๓. อถ โข ทฺเว พฺราหฺมณา ชิณฺณา วุทฺธา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา วีสวสฺสสติกา ชาติยา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต พฺราหฺมณา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘มยมสฺสุ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา ชิณฺณา วุทฺธา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา วีสวสฺสสติกา ชาติยา; เต จมฺหา อกตกลฺยาณา อกตกุสลา อกตภีรุตฺตาณา. โอวทตุ โน ภวํ โคตโม, อนุสาสตุ โน ภวํ โคตโม ยํ อมฺหากํ อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.

‘‘ตคฺฆ ตุมฺเห, พฺราหฺมณา, ชิณฺณา วุทฺธา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา วีสวสฺสสติกา ชาติยา; เต จตฺถ อกตกลฺยาณา อกตกุสลา อกตภีรุตฺตาณา. อาทิตฺโต โข อยํ, พฺราหฺมณา, โลโก ชราย พฺยาธินา มรเณน. เอวํ อาทิตฺเต โข, พฺราหฺมณา, โลเก ชราย พฺยาธินา มรเณน, โย อิธ กาเยน สํยโม วาจาย สํยโม มนสา สํยโม, ตํ ตสฺส เปตสฺส ตาณฺจ เลณฺจ ทีปฺจ สรณฺจ ปรายณฺจา’’ติ.

‘‘อาทิตฺตสฺมึ อคารสฺมึ, ยํ นีหรติ ภาชนํ;

ตํ ตสฺส โหติ อตฺถาย, โน จ ยํ ตตฺถ ฑยฺหติ.

‘‘เอวํ อาทิตฺโต โข [เอวํ อาทีวิโต (สี. ปี.), เอวํ อาทิตฺตโก (สฺยา. กํ.) สํ. นิ. ๑.๔๑] โลโก, ชราย มรเณน จ;

นีหเรเถว ทาเนน, ทินฺนํ โหติ สุนีหตํ [สุนิพฺภตํ (ก.)].

‘‘โยธ กาเยน สํยโม, วาจาย อุท เจตสา;

ตํ ตสฺส เปตสฺส สุขาย โหติ,

ยํ ชีวมาโน ปกโรติ ปุฺ’’นฺติ. ทุติยํ;

๓. อฺตรพฺราหฺมณสุตฺตํ

๕๔. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม’ติ, โภ โคตม, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, โภ โคตม, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก [โอปนยิโก (สี. สฺยา. กํ. ปี.) ปฺจมสุตฺตสฺส ฏีกา โอโลเกตพฺพา] ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ?

‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ราเค ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. (รตฺโต โข…เป… กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. ราเค ปหีนา เนว กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, น วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, น มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. รตฺโต โข…เป… อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ราเค ปหีเน อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ.) [( ) เอตฺถนฺตเร ปาโ สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ, อิธปิ ทุฏฺมูฬฺหวาเรสุ] เอวมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ…เป….

‘‘ทุฏฺโ โข, พฺราหฺมณ, โทเสน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โทเส ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกมฺปิ [น เจตสิกํ (สี. สฺยา. ก.)] ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. เอวมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ…เป….

‘‘มูฬฺโห โข, พฺราหฺมณ, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โมเห ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ . เอวํ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ตติยํ.

๔. ปริพฺพาชกสุตฺตํ

๕๕. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมณปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมณปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม’ติ, โภ โคตม, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, โภ โคตม, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ?

‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ราเค ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ.

‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. ราเค ปหีเน เนว กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, น วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, น มนสา ทุจฺจริตํ จรติ.

‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ราเค ปหีเน อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ , ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ…เป….

‘‘ทุฏฺโ โข, พฺราหฺมณ, โทเสน…เป… มูฬฺโห โข, พฺราหฺมณ, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โมเห ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ.

‘‘มูฬฺโห โข, พฺราหฺมณ, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต, กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โมเห ปหีเน เนว กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, น วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, น มนสา ทุจฺจริตํ จรติ.

‘‘มูฬฺโห โข, พฺราหฺมณ, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ , อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. โมเห ปหีเน อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. จตุตฺถํ.

๕. นิพฺพุตสุตฺตํ

๕๖. อถ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สนฺทิฏฺิกํ นิพฺพานํ สนฺทิฏฺิกํ นิพฺพาน’นฺติ, โภ โคตม, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, โภ โคตม, สนฺทิฏฺิกํ นิพฺพานํ โหติ อกาลิกํ เอหิปสฺสิกํ โอปเนยฺยิกํ ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพํ วิฺูหี’’ติ?

‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ราเค ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. เอวมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิกํ นิพฺพานํ โหติ.

‘‘ทุฏฺโ โข, พฺราหฺมณ…เป… มูฬฺโห โข, พฺราหฺมณ, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โมเห ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. เอวมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิกํ นิพฺพานํ โหติ.

‘‘ยโต โข อยํ, พฺราหฺมณ [ยโต จ โข อยํ พฺราหฺมณ (สี.), ยโต โข พฺราหฺมณ อกาลิกํ เอหิปสฺสิกํ โอปเนยฺยิกํ ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพํ (ก.)], อนวเสสํ ราคกฺขยํ ปฏิสํเวเทติ, อนวเสสํ โทสกฺขยํ ปฏิสํเวเทติ, อนวเสสํ โมหกฺขยํ ปฏิสํเวเทติ; เอวํ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิกํ นิพฺพานํ โหติ อกาลิกํ เอหิปสฺสิกํ โอปเนยฺยิกํ ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพํ วิฺูหี’’ติ. ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. ปโลกสุตฺตํ

๕๗. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมณมหาสาโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมณมหาสาโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, ปุพฺพกานํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘ปุพฺเพ สุทํ [ปุพฺพสฺสุทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อยํ โลโก อวีจิ มฺเ ผุโฏ อโหสิ มนุสฺเสหิ, กุกฺกุฏสํปาติกา คามนิคมราชธานิโย’ติ. โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยเนตรหิ มนุสฺสานํ ขโย โหติ, ตนุตฺตํ ปฺายติ, คามาปิ อคามา โหนฺติ , นิคมาปิ อนิคมา โหนฺติ, นคราปิ อนครา โหนฺติ, ชนปทาปิ อชนปทา โหนฺตี’’ติ?

‘‘เอตรหิ, พฺราหฺมณ, มนุสฺสา อธมฺมราครตฺตา วิสมโลภาภิภูตา มิจฺฉาธมฺมปเรตา. เต อธมฺมราครตฺตา วิสมโลภาภิภูตา มิจฺฉาธมฺมปเรตา ติณฺหานิ สตฺถานิ คเหตฺวา อฺมฺํ [อฺมฺสฺส (สพฺพตฺถ)] ชีวิตา โวโรเปนฺติ, เตน พหู มนุสฺสา กาลํ กโรนฺติ. อยมฺปิ โข , พฺราหฺมณ, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยเนตรหิ มนุสฺสานํ ขโย โหติ, ตนุตฺตํ ปฺายติ, คามาปิ อคามา โหนฺติ, นิคมาปิ อนิคมา โหนฺติ, นคราปิ อนครา โหนฺติ, ชนปทาปิ อชนปทา โหนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, เอตรหิ มนุสฺสา อธมฺมราครตฺตา วิสมโลภาภิภูตา มิจฺฉาธมฺมปเรตา. เตสํ อธมฺมราครตฺตานํ วิสมโลภาภิภูตานํ มิจฺฉาธมฺมปเรตานํ เทโว น สมฺมาธารํ อนุปฺปเวจฺฉติ. เตน ทุพฺภิกฺขํ โหติ ทุสฺสสฺสํ เสตฏฺิกํ สลากาวุตฺตํ. เตน พหู มนุสฺสา กาลํ กโรนฺติ. อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยเนตรหิ มนุสฺสานํ ขโย โหติ, ตนุตฺตํ ปฺายติ, คามาปิ อคามา โหนฺติ, นิคมาปิ อนิคมา โหนฺติ, นคราปิ อนครา โหนฺติ, ชนปทาปิ อชนปทา โหนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, เอตรหิ มนุสฺสา อธมฺมราครตฺตา วิสมโลภาภิภูตา มิจฺฉาธมฺมปเรตา. เตสํ อธมฺมราครตฺตานํ วิสมโลภาภิภูตานํ มิจฺฉาธมฺมปเรตานํ ยกฺขา วาเฬ อมนุสฺเส โอสฺสชฺชนฺติ [โอสฺสชนฺติ (สี.)], เตน พหู มนุสฺสา กาลํ กโรนฺติ. อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยเนตรหิ มนุสฺสานํ ขโย โหติ, ตนุตฺตํ ปฺายติ, คามาปิ อคามา โหนฺติ, นิคมาปิ อนิคมา โหนฺติ, นคราปิ อนครา โหนฺติ, ชนปทาปิ อชนปทา โหนฺตี’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ฉฏฺํ.

๗. วจฺฉโคตฺตสุตฺตํ

๕๘. อถ โข วจฺฉโคตฺโต [วจฺฉปุตฺโต (ก.)] ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, สมโณ โคตโม เอวมาห – ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ , นาฺเสํ ทานํ ทาตพฺพํ; มยฺหเมว สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ, นาฺเสํ สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ; มยฺหเมว ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาฺเสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ; มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ. เย เต, โภ โคตม, เอวมาหํสุ ‘สมโณ โคตโม เอวมาห มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ, นาฺเสํ ทานํ ทาตพฺพํ. มยฺหเมว สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ, นาฺเสํ สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ. มยฺหเมว ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาฺเสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ. มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ. กจฺจิ เต โภโต โคตมสฺส วุตฺตวาทิโน จ ภวนฺตํ โคตมํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุปาโต [วาทานุวาโท (ก.)] คารยฺหํ านํ อาคจฺฉติ? อนพฺภกฺขาตุกามา หิ มยํ ภวนฺตํ โคตม’’นฺติ.

‘‘เย เต, วจฺฉ, เอวมาหํสุ – ‘สมโณ โคตโม เอวมาห – มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ…เป… นาฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ น เม เต วุตฺตวาทิโน. อพฺภาจิกฺขนฺติ จ ปน มํ [จ ปน มํ เต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อสตา อภูเตน. โย โข, วจฺฉ, ปรํ ทานํ ททนฺตํ วาเรติ โส ติณฺณํ อนฺตรายกโร โหติ, ติณฺณํ ปาริปนฺถิโก. กตเมสํ ติณฺณํ? ทายกสฺส ปุฺนฺตรายกโร โหติ, ปฏิคฺคาหกานํ ลาภนฺตรายกโร โหติ, ปุพฺเพว โข ปนสฺส อตฺตา ขโต จ โหติ อุปหโต จ. โย โข, วจฺฉ, ปรํ ทานํ ททนฺตํ วาเรติ โส อิเมสํ ติณฺณํ อนฺตรายกโร โหติ, ติณฺณํ ปาริปนฺถิโก.

‘‘อหํ โข ปน, วจฺฉ, เอวํ วทามิ – เย หิ เต จนฺทนิกาย วา โอลิคลฺเล วา ปาณา, ตตฺรปิ โย ถาลิโธวนํ [ถาลกโธวนํ (ก.)] วา สราวโธวนํ วา ฉฑฺเฑติ – เย ตตฺถ ปาณา เต เตน ยาเปนฺตูติ, ตโต นิทานมฺปาหํ, วจฺฉ, ปุฺสฺส อาคมํ วทามิ. โก ปน วาโท มนุสฺสภูเต! อปิ จาหํ, วจฺฉ, สีลวโต ทินฺนํ มหปฺผลํ วทามิ, โน ตถา ทุสฺสีลสฺส, โส จ โหติ ปฺจงฺควิปฺปหีโน ปฺจงฺคสมนฺนาคโต.

‘‘กตมานิ ปฺจงฺคานิ ปหีนานิ โหนฺติ? กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ , ถินมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ. อิมานิ ปฺจงฺคานิ วิปฺปหีนานิ โหนฺติ.

‘‘กตเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ? อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ; อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ. อิติ ปฺจงฺควิปฺปหีเน ปฺจงฺคสมนฺนาคเต ทินฺนํ มหปฺผลนฺติ วทามี’’ติ.

‘‘อิติ กณฺหาสุ เสตาสุ, โรหิณีสุ หรีสุ วา;

กมฺมาสาสุ สรูปาสุ, โคสุ ปาเรวตาสุ วา.

‘‘ยาสุ กาสุจิ เอตาสุ, ทนฺโต ชายติ ปุงฺคโว;

โธรยฺโห พลสมฺปนฺโน, กลฺยาณชวนิกฺกโม;

ตเมว ภาเร ยุฺชนฺติ, นาสฺส วณฺณํ ปริกฺขเร.

‘‘เอวเมวํ มนุสฺเสสุ, ยสฺมึ กสฺมิฺจิ ชาติเย;

ขตฺติเย พฺราหฺมเณ เวสฺเส, สุทฺเท จณฺฑาลปุกฺกุเส.

‘‘ยาสุ กาสุจิ เอตาสุ, ทนฺโต ชายติ สุพฺพโต;

ธมฺมฏฺโ สีลสมฺปนฺโน, สจฺจวาที หิรีมโน.

‘‘ปหีนชาติมรโณ, พฺรหฺมจริยสฺส เกวลี;

ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต, กตกิจฺโจ อนาสโว.

‘‘ปารคู สพฺพธมฺมานํ, อนุปาทาย นิพฺพุโต;

ตสฺมึเยว [ตสฺมึ เว (สฺยา. กํ.)] วิรเช เขตฺเต, วิปุลา โหติ ทกฺขิณา.

‘‘พาลา จ อวิชานนฺตา, ทุมฺเมธา อสฺสุตาวิโน;

พหิทฺธา เทนฺติ ทานานิ, น หิ สนฺเต อุปาสเร.

‘‘เย จ สนฺเต อุปาสนฺติ, สปฺปฺเ ธีรสมฺมเต;

สทฺธา จ เนสํ สุคเต, มูลชาตา ปติฏฺิตา.

‘‘เทวโลกฺจ เต ยนฺติ, กุเล วา อิธ ชายเร;

อนุปุพฺเพน นิพฺพานํ, อธิคจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา’’ติ. สตฺตมํ;

๘. ติกณฺณสุตฺตํ

๕๙. อถ โข ติกณฺโณ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ติกณฺโณ พฺราหฺมโณ ภควโต สมฺมุขา เตวิชฺชานํ สุทํ พฺราหฺมณานํ วณฺณํ ภาสติ – ‘‘เอวมฺปิ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา, อิติปิ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปน, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ เตวิชฺชํ ปฺาเปนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา, อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน, อชฺฌายโก, มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ, ปทโก, เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโยติ. เอวํ โข, โภ โคตม, พฺราหฺมณา เตวิชฺชํ ปฺาเปนฺตี’’ติ.

‘‘อฺถา โข, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ เตวิชฺชํ ปฺเปนฺติ, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย เตวิชฺโช โหตี’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย เตวิชฺโช โหติ? สาธุ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย เตวิชฺโช โหตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ติกณฺโณ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ , พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตารีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ, อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ. ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อยมสฺส ปมา วิชฺชา อธิคตา โหติ; อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา…เป… มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา, วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา, มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. อยมสฺส ทุติยา วิชฺชา อธิคตา โหติ; อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ; วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. อยมสฺส ตติยา วิชฺชา อธิคตา โหติ; อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต’’ติ.

‘‘อนุจฺจาวจสีลสฺส, นิปกสฺส จ ฌายิโน;

จิตฺตํ ยสฺส วสีภูตํ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.

‘‘ตํ เว ตโมนุทํ ธีรํ, เตวิชฺชํ มจฺจุหายินํ;

หิตํ เทวมนุสฺสานํ, อาหุ สพฺพปฺปหายินํ.

‘‘ตีหิ วิชฺชาหิ สมฺปนฺนํ, อสมฺมูฬฺหวิหารินํ;

พุทฺธํ อนฺติมเทหินํ [อนฺติมสารีรํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ตํ นมสฺสนฺติ โคตมํ.

[ธ. ป. ๔๒๓; อิติวุ. ๙๙] ‘‘ปุพฺเพนิวาสํ โย เวที, สคฺคาปายฺจ ปสฺสติ;

อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต, อภิฺาโวสิโต มุนิ.

‘‘เอตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ, เตวิชฺโช โหติ พฺราหฺมโณ;

ตมหํ วทามิ เตวิชฺชํ, นาฺํ ลปิตลาปน’’นฺติ.

‘‘เอวํ โข, พฺราหฺมณ, อริยสฺส วินเย เตวิชฺโช โหตี’’ติ. ‘‘อฺถา, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ เตวิชฺโช, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย เตวิชฺโช โหติ. อิมสฺส จ ปน, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย เตวิชฺชสฺส พฺราหฺมณานํ เตวิชฺโช กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ’’.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. อฏฺมํ.

๙. ชาณุสฺโสณิสุตฺตํ

๖๐. อถ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยสฺสสฺสุ, โภ โคตม, ยฺโ วา สทฺธํ วา ถาลิปาโก วา เทยฺยธมฺมํ วา, เตวิชฺเชสุ พฺราหฺมเณสุ ทานํ ทเทยฺยา’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณา เตวิชฺชํ ปฺเปนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน, อชฺฌายโก มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ, ปทโก, เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโยติ. เอวํ โข, โภ โคตม, พฺราหฺมณา เตวิชฺชํ ปฺเปนฺตี’’ติ.

‘‘อฺถา โข, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ เตวิชฺชํ ปฺเปนฺติ, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย เตวิชฺโช โหตี’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย เตวิชฺโช โหติ? สาธุ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย เตวิชฺโช โหตี’’ติ . ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ , สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ . ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อยมสฺส ปมา วิชฺชา อธิคตา โหติ; อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. อยมสฺส ทุติยา วิชฺชา อธิคตา โหติ; อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ; วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. อยมสฺส ตติยา วิชฺชา อธิคตา โหติ; อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต , อาโลโก อุปฺปนฺโน ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต’’ติ.

‘‘โย สีลพฺพตสมฺปนฺโน, ปหิตตฺโต สมาหิโต;

จิตฺตํ ยสฺส วสีภูตํ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.

[ธ. ป. ๔๒๓; อิติวุ. ๙๙] ‘‘ปุพฺเพนิวาสํ โย เวที, สคฺคาปายฺจ ปสฺสติ;

อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต, อภิฺาโวสิโต มุนิ.

‘‘เอตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ, เตวิชฺโช โหติ พฺราหฺมโณ;

ตมหํ วทามิ เตวิชฺชํ, นาฺํ ลปิตลาปน’’นฺติ.

‘‘เอวํ โข, พฺราหฺมณ, อริยสฺส วินเย เตวิชฺโช โหตี’’ติ. ‘‘อฺถา, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ เตวิชฺโช, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย เตวิชฺโช โหติ. อิมสฺส จ, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย เตวิชฺชสฺส พฺราหฺมณานํ เตวิชฺโช กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ’’.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. นวมํ.

๑๐. สงฺคารวสุตฺตํ

๖๑. อถ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยมสฺสุ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา นาม. ยฺํ ยชามปิ ยชาเปมปิ. ตตฺร, โภ โคตม, โย เจว ยชติ [โย เจว ยฺํ ยชติ (สฺยา. กํ.)] โย จ ยชาเปติ สพฺเพ เต อเนกสารีริกํ ปุฺปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺนา โหนฺติ, ยทิทํ ยฺาธิกรณํ. โย ปนายํ, โภ โคตม, ยสฺส วา ตสฺส วา กุลา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต เอกมตฺตานํ ทเมติ, เอกมตฺตานํ สเมติ, เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปติ, เอวมสฺสายํ เอกสารีริกํ ปุฺปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ, ยทิทํ ปพฺพชฺชาธิกรณ’’นฺติ.

‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส เอวมาห – ‘เอถายํ มคฺโค อยํ ปฏิปทา ยถาปฏิปนฺโน อหํ อนุตฺตรํ พฺรหฺมจริโยคธํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทมิ; เอถ [เอตํ (ก.)], ตุมฺเหปิ ตถา ปฏิปชฺชถ, ยถาปฏิปนฺนา ตุมฺเหปิ อนุตฺตรํ พฺรหฺมจริโยคธํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’ติ. อิติ อยฺเจว [สยํ เจว (ก.)] สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, ปเร จ ตถตฺถาย ปฏิปชฺชนฺติ, ตานิ โข ปน โหนฺติ อเนกานิปิ สตานิ อเนกานิปิ สหสฺสานิ อเนกานิปิ สตสหสฺสานิ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, อิจฺจายํ เอวํ สนฺเต เอกสารีริกา วา ปุฺปฺปฏิปทา โหติ อเนกสารีริกา วา, ยทิทํ ปพฺพชฺชาธิกรณ’’นฺติ? ‘‘อิจฺจายมฺปิ [อิจฺจายนฺเต (ก.)], โภ โคตม, เอวํ สนฺเต อเนกสารีริกา ปุฺปฺปฏิปทา โหติ, ยทิทํ ปพฺพชฺชาธิกรณ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท สงฺคารวํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘อิมาสํ เต, พฺราหฺมณ, ทฺวินฺนํ ปฏิปทานํ กตมา ปฏิปทา ขมติ อปฺปตฺถตรา จ อปฺปสมารมฺภตรา จ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’ติ? เอวํ วุตฺเต สงฺคารโว พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ ภวํ โคตโม ภวํ จานนฺโท. เอเต เม ปุชฺชา, เอเต เม ปาสํสา’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท สงฺคารวํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘น โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, เอวํ ปุจฺฉามิ – ‘เก วา เต ปุชฺชา เก วา เต ปาสํสา’ติ? เอวํ โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, ปุจฺฉามิ – ‘อิมาสํ เต, พฺราหฺมณ, ทฺวินฺนํ ปฏิปทานํ กตมา ปฏิปทา ขมติ อปฺปตฺถตรา จ อปฺปสมารมฺภตรา จ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’’ติ? ทุติยมฺปิ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ ภวํ โคตโม ภวํ จานนฺโท. เอเต เม ปุชฺชา, เอเต เม ปาสํสา’’ติ.

ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท สงฺคารวํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘น โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, เอวํ ปุจฺฉามิ – ‘เก วา เต ปุชฺชา เก วา เต ปาสํสา’ติ? เอวํ โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, ปุจฺฉามิ – ‘อิมาสํ เต, พฺราหฺมณ, ทฺวินฺนํ ปฏิปทานํ กตมา ปฏิปทา ขมติ อปฺปตฺถตรา จ อปฺปสมารมฺภตรา จ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’’ติ? ตติยมฺปิ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ ภวํ โคตโม ภวํ จานนฺโท. เอเต เม ปุชฺชา, เอเต เม ปาสํสา’’ติ.

อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยาว ตติยมฺปิ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ อานนฺเทน สหธมฺมิกํ ปฺหํ ปุฏฺโ สํสาเทติ [ม. นิ. ๑.๓๓๗] โน วิสฺสชฺเชติ. ยํนูนาหํ ปริโมเจยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา สงฺคารวํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘กา นฺวชฺช, พฺราหฺมณ, ราชนฺเตปุเร ราชปุริสานํ [ราชปริสายํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อนฺตรากถา อุทปาที’’ติ? ‘‘อยํ ขฺวชฺช, โภ โคตม, ราชนฺเตปุเร ราชปุริสานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘ปุพฺเพ สุทํ อปฺปตรา เจว ภิกฺขู อเหสุํ พหุตรา จ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสสุํ; เอตรหิ ปน พหุตรา เจว ภิกฺขู อปฺปตรา จ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสนฺตี’ติ. อยํ ขฺวชฺช, โภ โคตม, ราชนฺเตปุเร ราชปุริสานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อนฺตรากถา อุทปาที’’ติ.

[ปฏิ. ม. ๓.๓๐; ที. นิ. ๑.๔๘๓] ‘‘ตีณิ โข อิมานิ, พฺราหฺมณ, ปาฏิหาริยานิ. กตมานิ ตีณิ? อิทฺธิปาฏิหาริยํ, อาเทสนาปาฏิหาริยํ , อนุสาสนีปาฏิหาริยํ. กตมฺจ, พฺราหฺมณ, อิทฺธิปาฏิหาริยํ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – ‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ, ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมสติ [ปรามสติ (ที. นิ. ๑.๔๘๔; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๒] ปริมชฺชติ, ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ’. อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อิทฺธิปาฏิหาริยํ .

‘‘กตมฺจ, พฺราหฺมณ, อาเทสนาปาฏิหาริยํ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ นิมิตฺเตน อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติ. โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถา.

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ น เหว โข นิมิตฺเตน อาทิสติ , อปิ จ โข มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติ. โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถา.

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ น เหว โข นิมิตฺเตน อาทิสติ นปิ มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, อปิ จ โข วิตกฺกยโต วิจารยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติ. โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถา.

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ น เหว โข นิมิตฺเตน อาทิสติ, นปิ มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, นปิ วิตกฺกยโต วิจารยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, อปิ จ โข อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธึ สมาปนฺนสฺส เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ – ‘ยถา อิมสฺส โภโต มโนสงฺขารา ปณิหิตา อิมสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อมุํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสตี’ติ. โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถา. อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อาเทสนาปาฏิหาริยํ.

‘‘กตมฺจ, พฺราหฺมณ, อนุสาสนีปาฏิหาริยํ? อิธ, พฺราหฺมณ , เอกจฺโจ เอวมนุสาสติ – ‘เอวํ วิตกฺเกถ, มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถ; เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถ; อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติ. อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อนุสาสนีปาฏิหาริยํ. อิมานิ โข, พฺราหฺมณ, ตีณิ ปาฏิหาริยานิ. อิเมสํ เต, พฺราหฺมณ, ติณฺณํ ปาฏิหาริยานํ กตมํ ปาฏิหาริยํ ขมติ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจา’’ติ?

‘‘ตตฺร, โภ โคตม, ยทิทํ [ยมิทํ (สฺยา. กํ. ปี.)] ปาฏิหาริยํ อิเธกจฺโจ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ…เป… ยาว พฺราหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ, อิทํ, โภ โคตม, ปาฏิหาริยํ โยว [โย จ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] นํ กโรติ โสว [โสจ จ (สฺยา. กํ ปี. ก.)] นํ ปฏิสํเวเทติ, โยว [โย จ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] นํ กโรติ ตสฺเสว [ตสฺสเมว (สี. ก.), ตสฺส เจว (สฺยา. กํ. ปี.)] ตํ โหติ. อิทํ เม, โภ โคตม, ปาฏิหาริยํ มายาสหธมฺมรูปํ วิย ขายติ.

‘‘ยมฺปิทํ , โภ โคตม, ปาฏิหาริยํ อิเธกจฺโจ นิมิตฺเตน อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติ, โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถา. อิธ ปน, โภ โคตม, เอกจฺโจ น เหว โข นิมิตฺเตน อาทิสติ, อปิ จ โข มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ…เป… นปิ มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, อปิ จ โข วิตกฺกยโต วิจารยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ…เป… นปิ วิตกฺกยโต วิจารยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, อปิ จ โข อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธึ สมาปนฺนสฺส เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ – ‘ยถา อิมสฺส โภโต มโนสงฺขารา ปณิหิตา อิมสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อมฺหํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสตี’ติ, โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถา. อิทมฺปิ, โภ โคตม, ปาฏิหาริยํ โยว นํ กโรติ โสว นํ ปฏิสํเวเทติ, โยว นํ กโรติ ตสฺเสว ตํ โหติ. อิทมฺปิ เม, โภ โคตม, ปาฏิหาริยํ มายาสหธมฺมรูปํ วิย ขายติ.

‘‘ยฺจ โข อิทํ, โภ โคตม, ปาฏิหาริยํ อิเธกจฺโจ เอวํ อนุสาสติ – ‘เอวํ วิตกฺเกถ , มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถ; เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถ; อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติ. อิทเมว, โภ โคตม, ปาฏิหาริยํ ขมติ อิเมสํ ติณฺณํ ปาฏิหาริยานํ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาวสุภาสิตมิทํ โภตา โคตเมน อิเมหิ จ มยํ ตีหิ ปาฏิหาริเยหิ สมนฺนาคตํ ภวนฺตํ โคตมํ ธาเรม. ภวฺหิ โคตโม อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ, ภวฺหิ โคตโม อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธึ สมาปนฺนสฺส เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ – ‘ยถา อิมสฺส โภโต มโนสงฺขารา ปณิหิตา อิมสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อมุํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสตี’ติ. ภวฺหิ โคตโม เอวมนุสาสติ – ‘เอวํ วิตกฺเกถ, มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถ; เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถ; อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’’’ติ.

‘‘อทฺธา โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, อาสชฺช อุปนีย วาจา ภาสิตา; อปิ จ ตฺยาหํ พฺยากริสฺสามิ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภมิ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตมิ. อหฺหิ , พฺราหฺมณ, อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธึ สมาปนฺนสฺส เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘ยถา อิมสฺส โภโต มโนสงฺขารา ปณิหิตา, อิมสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อมุํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสตี’ติ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, เอวมนุสาสามิ – ‘เอวํ วิตกฺเกถ, มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถ; เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถ; อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’’’ติ.

‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อฺโ เอกภิกฺขุปิ โย อิเมหิ ตีหิ ปาฏิหาริเยหิ สมนฺนาคโต, อฺตฺร โภตา โคตเมนา’’ติ? ‘‘น โข, พฺราหฺมณ, เอกํเยว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปฺจ สตานิ, อถ โข ภิยฺโยว, เย [เต (ก.) ปสฺส ม. นิ. ๒.๑๙๕] ภิกฺขู อิเมหิ ตีหิ ปาฏิหาริเยหิ สมนฺนาคตา’’ติ. ‘‘กหํ ปน, โภ โคตม, เอตรหิ เต ภิกฺขู วิหรนฺตี’’ติ? ‘‘อิมสฺมึเยว โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุสงฺเฆ’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ, เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ทสมํ.

พฺราหฺมณวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว พฺราหฺมณา จฺตโร, ปริพฺพาชเกน นิพฺพุตํ;

ปโลกวจฺโฉ ติกณฺโณ, โสณิ สงฺคารเวน จาติ.