📜
(๗) ๒. มหาวคฺโค
๑. ติตฺถายตนาทิสุตฺตํ
๖๒. ‘‘ตีณิมานิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ติตฺถายตนานิ ยานิ ปณฺฑิเตหิ สมนุยฺุชิยมานานิ [สมนุคฺคาหิยมานานิ (สฺยา. กํ. ก.)] สมนุคาหิยมานานิ สมนุภาสิยมานานิ ปรมฺปิ คนฺตฺวา อกิริยาย สณฺหนฺติ. กตมานิ ตีณิ? สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตู’ติ. สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ อิสฺสรนิมฺมานเหตู’ติ. สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ อเหตุอปฺปจฺจยา’’’ติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตู’ติ, ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตู’ติ ¶ ? เต จ เม [เต เจ เม (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เอวํ ปุฏฺา ‘อามา’ติ [อาโมติ (สี.)] ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ ¶ เอวํ วทามิ – ‘เตนหายสฺมนฺโต ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตุ, อทินฺนาทายิโน ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตุ, อพฺรหฺมจาริโน ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตุ, มุสาวาทิโน ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตุ, ปิสุณวาจา ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตุ, ผรุสวาจา ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตุ, สมฺผปฺปลาปิโน ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตุ, อภิชฺฌาลุโน ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตุ, พฺยาปนฺนจิตฺตา ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตุ, มิจฺฉาทิฏฺิกา ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตุ’’’.
‘‘ปุพฺเพกตํ โข ปน, ภิกฺขเว, สารโต ปจฺจาคจฺฉตํ น โหติ ฉนฺโท วา วายาโม วา อิทํ วา กรณียํ อิทํ วา อกรณียนฺติ. อิติ กรณียากรณีเย โข ปน สจฺจโต เถตโต ¶ อนุปลพฺภิยมาเน มุฏฺสฺสตีนํ อนารกฺขานํ วิหรตํ น โหติ ปจฺจตฺตํ สหธมฺมิโก สมณวาโท ¶ . อยํ โข เม, ภิกฺขเว, เตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ เอวํวาทีสุ เอวํทิฏฺีสุ ปโม สหธมฺมิโก นิคฺคโห โหติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ อิสฺสรนิมฺมานเหตู’ติ, ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอวํวาทิโน เอวทิฏฺิโน – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ อิสฺสรนิมฺมานเหตู’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อามา’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตนหายสฺมนฺโต ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ ¶ อิสฺสรนิมฺมานเหตุ, อทินฺนาทายิโน ภวิสฺสนฺติ อิสฺสรนิมฺมานเหตุ, อพฺรหฺมจาริโน ภวิสฺสนฺติ อิสฺสรนิมฺมานเหตุ, มุสาวาทิโน ภวิสฺสนฺติ อิสฺสรนิมฺมานเหตุ, ปิสุณวาจา ภวิสฺสนฺติ อิสฺสรนิมฺมานเหตุ, ผรุสวาจา ภวิสฺสนฺติ อิสฺสรนิมฺมานเหตุ, สมฺผปฺปลาปิโน ภวิสฺสนฺติ อิสฺสรนิมฺมานเหตุ, อภิชฺฌาลุโน ภวิสฺสนฺติ อิสฺสรนิมฺมานเหตุ, พฺยาปนฺนจิตฺตา ภวิสฺสนฺติ อิสฺสรนิมฺมานเหตุ, มิจฺฉาทิฏฺิกา ภวิสฺสนฺติ อิสฺสรนิมฺมานเหตุ’’’.
‘‘อิสฺสรนิมฺมานํ โข ปน, ภิกฺขเว, สารโต ปจฺจาคจฺฉตํ น โหติ ฉนฺโท วา วายาโม วา อิทํ วา กรณียํ อิทํ วา อกรณียนฺติ. อิติ กรณียากรณีเย โข ปน สจฺจโต เถตโต อนุปลพฺภิยมาเน มุฏฺสฺสตีนํ อนารกฺขานํ วิหรตํ น โหติ ปจฺจตฺตํ สหธมฺมิโก สมณวาโท. อยํ โข เม, ภิกฺขเว, เตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ เอวํวาทีสุ เอวํทิฏฺีสุ ทุติโย สหธมฺมิโก นิคฺคโห โหติ.
‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘ยํ กึ จายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ อเหตุอปฺปจฺจยา’ติ, ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ยํ กึ จายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ อเหตุอปฺปจฺจยา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อามา’ติ ปฏิชานนฺติ ¶ . ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตนหายสฺมนฺโต ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ อเหตุอปฺปจฺจยา…เป… มิจฺฉาทิฏฺิกา ภวิสฺสนฺติ อเหตุอปฺปจฺจยา’’’.
‘‘อเหตุอปฺปจฺจยํ ¶ [อเหตุํ (สี.), อเหตุ (สฺยา. กํ.), อเหตุอปฺปจฺจยา (ปี.), อเหตุํ อปฺปจฺจยํ (ก.)] โข ปน, ภิกฺขเว, สารโต ปจฺจาคจฺฉตํ น โหติ ฉนฺโท วา วายาโม วา อิทํ วา กรณียํ อิทํ วา อกรณียนฺติ. อิติ กรณียากรณีเย โข ปน สจฺจโต เถตโต อนุปลพฺภิยมาเน มุฏฺสฺสตีนํ อนารกฺขานํ วิหรตํ น โหติ ปจฺจตฺตํ สหธมฺมิโก สมณวาโท. อยํ โข เม, ภิกฺขเว, เตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ เอวํวาทีสุ เอวํทิฏฺีสุ ตติโย ¶ สหธมฺมิโก นิคฺคโห โหติ.
‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ติตฺถายตนานิ ยานิ ปณฺฑิเตหิ สมนุยฺุชิยมานานิ สมนุคาหิยมานานิ สมนุภาสิยมานานิ ปรมฺปิ คนฺตฺวา อกิริยาย สณฺหนฺติ.
‘‘อยํ โข ปน, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. กตโม จ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ? อิมา ฉ ธาตุโยติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. อิมานิ ฉ ผสฺสายตนานีติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. อิเม อฏฺารส มโนปวิจาราติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. อิมานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานีติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ.
‘‘อิมา ฉ ธาตุโยติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหีติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ฉยิมา, ภิกฺขเว ¶ , ธาตุโย – ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิฺาณธาตุ. อิมา ¶ ฉ ธาตุโยติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ ¶ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหีติ. อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘อิมานิ ¶ ฉ ผสฺสายตนานีติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหีติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, ผสฺสายตนานิ – จกฺขุ ผสฺสายตนํ, โสตํ ผสฺสายตนํ, ฆานํ ผสฺสายตนํ, ชิวฺหา ผสฺสายตนํ, กาโย ผสฺสายตนํ, มโน ผสฺสายตนํ. อิมานิ ฉ ผสฺสายตนานีติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหีติ. อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘อิเม อฏฺารส มโนปวิจาราติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหีติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสฏฺานิยํ รูปํ อุปวิจรติ โทมนสฺสฏฺานิยํ รูปํ อุปวิจรติ อุเปกฺขาฏฺานิยํ รูปํ อุปวิจรติ, โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย โสมนสฺสฏฺานิยํ ธมฺมํ อุปวิจรติ โทมนสฺสฏฺานิยํ ธมฺมํ อุปวิจรติ อุเปกฺขาฏฺานิยํ ธมฺมํ อุปวิจรติ. อิเม อฏฺารส มโนปวิจาราติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหีติ. อิติ ¶ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘อิมานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานีติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหีติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ฉนฺนํ, ภิกฺขเว, ธาตูนํ อุปาทาย คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ; โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา. เวทิยมานสฺส โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, อิทํ ทุกฺขนฺติ ปฺเปมิ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ ปฺเปมิ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ ปฺเปมิ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ปฺเปมิ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา ¶ , ( ) [(พฺยาธิปิ ทุกฺโข) (สี. ปี. ก.) อฏฺกถาย สํสนฺเทตพฺพํ วิสุทฺธิ. ๒.๕๓๗] มรณมฺปิ ทุกฺขํ ¶ , โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาปิ ทุกฺขา, (อปฺปิเยหิ ¶ สมฺปโยโค ทุกฺโข, ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุกฺโข,) [(นตฺถิ กตฺถจิ)] ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ. สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสมุทยํ [ทุกฺขสมุทโย (สฺยา. กํ.)] อริยสจฺจํ? อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธํ [ทุกฺขนิโรโธ (สฺยา. กํ.)] อริยสจฺจํ? อวิชฺชาย ตฺเวว ¶ อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ. ‘อิมานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานี’ติ, ภิกฺขเว, มยา ธมฺโม เทสิโต อนิคฺคหิโต อสํกิลิฏฺโ อนุปวชฺโช อปฺปฏิกุฏฺโ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหีติ. อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. ปมํ.
๖๓. ‘‘ตีณิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, อมาตาปุตฺติกานิ ภยานีติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ. กตมานิ ตีณิ? โหติ โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ ¶ มหาอคฺคิฑาโห วุฏฺาติ. มหาอคฺคิฑาเห ¶ โข ปน, ภิกฺขเว, วุฏฺิเต เตน คามาปิ ฑยฺหนฺติ นิคมาปิ ฑยฺหนฺติ นคราปิ ฑยฺหนฺติ. คาเมสุปิ ฑยฺหมาเนสุ นิคเมสุปิ ฑยฺหมาเนสุ นคเรสุปิ ฑยฺหมาเนสุ ตตฺถ มาตาปิ ปุตฺตํ นปฺปฏิลภติ, ปุตฺโตปิ มาตรํ นปฺปฏิลภติ ¶ . อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ อมาตาปุตฺติกํ ภยนฺติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, โหติ โส สมโย ยํ มหาเมโฆ วุฏฺาติ. มหาเมเฆ โข ปน, ภิกฺขเว, วุฏฺิเต มหาอุทกวาหโก สฺชายติ. มหาอุทกวาหเก โข ปน, ภิกฺขเว, สฺชายนฺเต เตน คามาปิ วุยฺหนฺติ นิคมาปิ วุยฺหนฺติ นคราปิ วุยฺหนฺติ. คาเมสุปิ วุยฺหมาเนสุ นิคเมสุปิ วุยฺหมาเนสุ นคเรสุปิ วุยฺหมาเนสุ ตตฺถ มาตาปิ ปุตฺตํ นปฺปฏิลภติ, ปุตฺโตปิ มาตรํ นปฺปฏิลภติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ อมาตาปุตฺติกํ ภยนฺติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, โหติ โส สมโย ยํ ภยํ โหติ อฏวิสงฺโกโป, จกฺกสมารุฬฺหา ชานปทา ปริยายนฺติ. ภเย โข ปน, ภิกฺขเว, สติ อฏวิสงฺโกเป จกฺกสมารุฬฺเหสุ ชานปเทสุ ปริยายนฺเตสุ ตตฺถ มาตาปิ ปุตฺตํ นปฺปฏิลภติ, ปุตฺโตปิ มาตรํ นปฺปฏิลภติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ อมาตาปุตฺติกํ ภยนฺติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อมาตาปุตฺติกานิ ภยานีติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ.
‘‘ตานิ โข ปนิมานิ [อิมานิ โข (สี.), อิมานิ โข ปน (ก.)], ภิกฺขเว, ตีณิ สมาตาปุตฺติกานิเยว ภยานิ อมาตาปุตฺติกานิ ภยานีติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ. กตมานิ ตีณิ? โหติ โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ มหาอคฺคิฑาโห วุฏฺาติ. มหาอคฺคิฑาเห โข ปน, ภิกฺขเว, วุฏฺิเต เตน คามาปิ ฑยฺหนฺติ นิคมาปิ ฑยฺหนฺติ นคราปิ ฑยฺหนฺติ. คาเมสุปิ ฑยฺหมาเนสุ นิคเมสุปิ ฑยฺหมาเนสุ นคเรสุปิ ฑยฺหมาเนสุ โหติ โส สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ มาตาปิ ปุตฺตํ ¶ ¶ ปฏิลภติ, ปุตฺโตปิ มาตรํ ปฏิลภติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สมาตาปุตฺติกํเยว ภยํ อมาตาปุตฺติกํ ภยนฺติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, โหติ โส สมโย ยํ มหาเมโฆ วุฏฺาติ. มหาเมเฆ โข ปน, ภิกฺขเว, วุฏฺิเต มหาอุทกวาหโก สฺชายติ. มหาอุทกวาหเก โข ปน, ภิกฺขเว, สฺชาเต ¶ เตน คามาปิ วุยฺหนฺติ นิคมาปิ วุยฺหนฺติ นคราปิ วุยฺหนฺติ. คาเมสุปิ วุยฺหมาเนสุ นิคเมสุปิ วุยฺหมาเนสุ นคเรสุปิ วุยฺหมาเนสุ โหติ โส สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ มาตาปิ ปุตฺตํ ปฏิลภติ, ปุตฺโตปิ มาตรํ ปฏิลภติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ สมาตาปุตฺติกํเยว ภยํ อมาตาปุตฺติกํ ภยนฺติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, โหติ โส สมโย ยํ ภยํ โหติ อฏวิสงฺโกโป, จกฺกสมารุฬฺหา ชานปทา ปริยายนฺติ. ภเย โข ปน, ภิกฺขเว, สติ อฏวิสงฺโกเป จกฺกสมารุฬฺเหสุ ชานปเทสุ ปริยายนฺเตสุ โหติ โส สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ มาตาปิ ปุตฺตํ ปฏิลภติ, ปุตฺโตปิ มาตรํ ปฏิลภติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ สมาตาปุตฺติกํเยว ภยํ อมาตาปุตฺติกํ ภยนฺติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ. ‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ สมาตาปุตฺติกานิเยว ภยานิ อมาตาปุตฺติกานิ ภยานีติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ’’.
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อมาตาปุตฺติกานิ ภยานิ. กตมานิ ตีณิ? ชราภยํ, พฺยาธิภยํ, มรณภยนฺติ. น, ภิกฺขเว, มาตา ปุตฺตํ ชีรมานํ เอวํ ลภติ – ‘อหํ ชีรามิ, มา เม ปุตฺโต ชีรี’ติ; ปุตฺโต วา ปน มาตรํ ชีรมานํ น เอวํ ลภติ – ‘อหํ ชีรามิ, มา เม ¶ มาตา ชีรี’’’ติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, มาตา ปุตฺตํ พฺยาธิยมานํ เอวํ ลภติ – ‘อหํ พฺยาธิยามิ, มา เม ปุตฺโต พฺยาธิยี’ติ; ปุตฺโต วา ปน มาตรํ พฺยาธิยมานํ น เอวํ ลภติ – ‘อหํ พฺยาธิยามิ, มา เม มาตา พฺยาธิยี’’’ติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, มาตา ปุตฺตํ มียมานํ เอวํ ลภติ – ‘อหํ มียามิ, มา เม ปุตฺโต มียี’ติ; ปุตฺโต วา ปน มาตรํ มียมานํ น เอวํ ลภติ – ‘อหํ มียามิ, มา เม มาตา มียี’ติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อมาตาปุตฺติกานิ ภยานี’’ติ.
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, มคฺโค อตฺถิ ปฏิปทา อิเมสฺจ ติณฺณํ สมาตาปุตฺติกานํ ภยานํ อิเมสฺจ ติณฺณํ อมาตาปุตฺติกานํ ภยานํ ปหานาย สมติกฺกมาย สํวตฺตติ. กตโม จ, ภิกฺขเว, มคฺโค กตมา จ ปฏิปทา ¶ อิเมสฺจ ติณฺณํ สมาตาปุตฺติกานํ ภยานํ อิเมสฺจ ติณฺณํ ¶ อมาตาปุตฺติกานํ ภยานํ ปหานาย สมติกฺกมาย สํวตฺตติ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ. อยํ โข, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา อิเมสฺจ ติณฺณํ สมาตาปุตฺติกานํ ภยานํ อิเมสฺจ ติณฺณํ อมาตาปุตฺติกานํ ภยานํ ปหานาย สมติกฺกมาย สํวตฺตตี’’ติ. ทุติยํ.
๓. เวนาคปุรสุตฺตํ
๖๔. เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน เวนาคปุรํ นาม โกสลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข เวนาคปุริกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ ¶ , โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต เวนาคปุรํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ [ภควา (สี. สฺยา กํ. ปี.) อิทํ สุตฺตวณฺณนาย อฏฺกถาย สํสนฺเทตพฺพํ ปารา. ๑; ที. นิ. ๑.๒๕๕ ปสฺสิตพฺพํ]. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ.
อถ โข เวนาคปุริกา พฺราหฺมณคหปติกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ ¶ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เวนาคปุริโก วจฺฉโคตฺโต พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาวฺจิทํ โภโต โคตมสฺส วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, สารทํ พทรปณฺฑุํ [มณฺฑํ (ก.)] ปริสุทฺธํ โหติ ปริโยทาตํ; เอวเมวํ โภโต โคตมสฺส วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ ปริสุทฺโธ ¶ ¶ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, ตาลปกฺกํ สมฺปติ พนฺธนา ปมุตฺตํ [มุตฺตํ (สี. ปี. ก.)] ปริสุทฺธํ โหติ ปริโยทาตํ; เอวเมวํ โภโต โคตมสฺส วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, เนกฺขํ [นิกฺขํ-อิติปิ (ม. นิ. ๓.๑๖๘)] ชมฺโพนทํ ทกฺขกมฺมารปุตฺตสุปริกมฺมกตํ อุกฺกามุเข สุกุสลสมฺปหฏฺํ ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺตํ ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมวํ โภโต โคตมสฺส วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. ยานิ ตานิ, โภ โคตม, อุจฺจาสยนมหาสยนานิ, เสยฺยถิทํ – อาสนฺทิ ปลฺลงฺโก โคนโก จิตฺตโก ปฏิกา ปฏลิกา ตูลิกา วิกติกา อุทฺทโลมี เอกนฺตโลมี กฏฺฏิสฺสํ โกเสยฺยํ กุตฺตกํ หตฺถตฺถรํ อสฺสตฺถรํ รถตฺถรํ อชินปฺปเวณี กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณํ [กาทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณํ (สี.)] สอุตฺตรจฺฉทํ อุภโตโลหิตกูปธานํ, เอวรูปานํ นูน ภวํ โคตโม อุจฺจาสยนมหาสยนานํ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ.
‘‘ยานิ โข ปน ตานิ, พฺราหฺมณ, อุจฺจาสยนมหาสยนานิ, เสยฺยถิทํ – อาสนฺทิ ปลฺลงฺโก โคนโก จิตฺตโก ปฏิกา ปฏลิกา ตูลิกา วิกติกา อุทฺทโลมี เอกนฺตโลมี กฏฺฏิสฺสํ โกเสยฺยํ กุตฺตกํ หตฺถตฺถรํ อสฺสตฺถรํ รถตฺถรํ อชินปฺปเวณี กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณํ สอุตฺตรจฺฉทํ อุภโตโลหิตกูปธานํ. ทุลฺลภานิ ตานิ ปพฺพชิตานํ ลทฺธา จ ปน [ลทฺธานิ จ (สี. สฺยา. กํ.), ลทฺธา จ (ปี.)] น กปฺปนฺติ.
‘‘ตีณิ โข, อิมานิ, พฺราหฺมณ, อุจฺจาสยนมหาสยนานิ, เยสาหํ เอตรหิ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. กตมานิ ตีณิ? ทิพฺพํ ¶ อุจฺจาสยนมหาสยนํ, พฺรหฺมํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ, อริยํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ. อิมานิ โข, พฺราหฺมณ, ตีณิ อุจฺจาสยนมหาสยนานิ, เยสาหํ เอตรหิ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ.
‘‘กตมํ ¶ ¶ ปน ตํ, โภ โคตม, ทิพฺพํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ, ยสฺส ภวํ โคตโม เอตรหิ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ? ‘‘อิธาหํ, พฺราหฺมณ, ยํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรามิ, โส ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ตเมว คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสามิ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต วนนฺตฺเว ปวิสามิ [ปจารยามิ (สี. สฺยา. กํ.)]. โส ยเทว ตตฺถ โหนฺติ ติณานิ วา ปณฺณานิ วา ตานิ เอกชฺฌํ สงฺฆริตฺวา นิสีทามิ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส วิวิจฺเจว กาเมหิ ¶ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ; ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรามิ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทมิ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ; สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. โส เจ อหํ, พฺราหฺมณ, เอวํภูโต จงฺกมามิ, ทิพฺโพ เม เอโส ตสฺมึ สมเย จงฺกโม โหติ. โส เจ อหํ, พฺราหฺมณ, เอวํภูโต ติฏฺามิ, ทิพฺพํ เม เอตํ ตสฺมึ สมเย านํ โหติ. โส เจ อหํ, พฺราหฺมณ, เอวํภูโต นิสีทามิ, ทิพฺพํ เม เอตํ ตสฺมึ สมเย ¶ อาสนํ โหติ. โส เจ อหํ, พฺราหฺมณ, เอวํภูโต เสยฺยํ กปฺเปมิ, ทิพฺพํ เม เอตํ ตสฺมึ สมเย อุจฺจาสยนมหาสยนํ โหติ. อิทํ โข, พฺราหฺมณ, ทิพฺพํ ¶ อุจฺจาสยนมหาสยนํ, ยสฺสาหํ เอตรหิ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! โก จฺโ เอวรูปสฺส ทิพฺพสฺส อุจฺจาสยนมหาสยนสฺส นิกามลาภี ภวิสฺสติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อฺตฺร โภตา โคตเมน!
‘‘กตมํ ปน ตํ, โภ โคตม, พฺรหฺมํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ, ยสฺส ภวํ โคตโม เอตรหิ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ? ‘‘อิธาหํ, พฺราหฺมณ, ยํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรามิ, โส ปุพฺพณฺหสมยํ ¶ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ตเมว คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสามิ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต วนนฺตฺเว ปวิสามิ. โส ยเทว ตตฺถ โหนฺติ ติณานิ วา ปณฺณานิ วา ตานิ เอกชฺฌํ สงฺฆริตฺวา นิสีทามิ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรามิ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ, อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเฌน [อพฺยาปชฺเฌน (สพฺพตฺถ)] ผริตฺวา วิหรามิ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรามิ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ ¶ , ตถา จตุตฺถํ [จตุตฺถึ (สี.)], อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย ¶ สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเฌน ผริตฺวา วิหรามิ. โส เจ อหํ, พฺราหฺมณ, เอวํภูโต จงฺกมามิ, พฺรหฺมา เม เอโส ตสฺมึ สมเย จงฺกโม โหติ. โส เจ อหํ, พฺราหฺมณ, เอวํภูโต ติฏฺามิ…เป… นิสีทามิ…เป… เสยฺยํ กปฺเปมิ, พฺรหฺมํ เม เอตํ ตสฺมึ สมเย อุจฺจาสยนมหาสยนํ โหติ. อิทํ โข, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ, ยสฺสาหํ เอตรหิ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! โก จฺโ เอวรูปสฺส พฺรหฺมสฺส อุจฺจาสยนมหาสยนสฺส นิกามลาภี ภวิสฺสติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อฺตฺร โภตา โคตเมน!
‘‘กตมํ ปน ตํ, โภ โคตม, อริยํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ, ยสฺส ภวํ โคตโม เอตรหิ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ? ‘‘อิธาหํ, พฺราหฺมณ, ยํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรามิ, โส ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ตเมว คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสามิ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต วนนฺตฺเว ปวิสามิ. โส ยเทว ตตฺถ โหนฺติ ติณานิ วา ปณฺณานิ วา ตานิ เอกชฺฌํ สงฺฆริตฺวา นิสีทามิ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส เอวํ ชานามิ – ‘ราโค เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม; โทโส เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ¶ ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม; โมโห เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต ¶ อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม’. โส เจ อหํ, พฺราหฺมณ, เอวํภูโต จงฺกมามิ, อริโย เม เอโส ตสฺมึ สมเย จงฺกโม โหติ. โส เจ อหํ, พฺราหฺมณ, เอวํภูโต ติฏฺามิ…เป… นิสีทามิ…เป… เสยฺยํ กปฺเปมิ, อริยํ เม เอตํ ตสฺมึ สมเย อุจฺจาสยนมหาสยนํ โหติ. อิทํ โข, พฺราหฺมณ, อริยํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ, ยสฺสาหํ เอตรหิ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! โก จฺโ เอวรูปสฺส อริยสฺส อุจฺจาสยนมหาสยนสฺส ¶ นิกามลามี ภวิสฺสติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อฺตฺร โภตา โคตเมน!
‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โข โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ ¶ คจฺฉาม ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติ. ตติยํ.
๔. สรภสุตฺตํ
๖๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน สรโภ นาม ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต โหติ อิมสฺมา ธมฺมวินยา. โส ราชคเห ปริสติ [ปริสตึ (สี. ปี.)] เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘‘อฺาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม. อฺาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกนฺโต’’ติ. อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ¶ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. อสฺโสสุํ โข เต ภิกฺขู สรภสฺส ปริพฺพาชกสฺส ราชคเห ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสมานสฺส ¶ – ‘‘อฺาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม. อฺาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกนฺโต’’ติ.
อถ โข เต ภิกฺขู ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สรโภ นาม, ภนฺเต, ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต อิมสฺมา ธมฺมวินยา. โส ราชคเห ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘อฺาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม. อฺาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกนฺโต’ติ. สาธุ ภนฺเต, ภควา เยน สิปฺปินิกาตีรํ [สปฺปินิกาตีรํ (สี. ปี.), สปฺปินิยา ตีรํ (สฺยา. กํ.)] ปริพฺพาชการาโม ¶ เยน สรโภ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.
อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน สิปฺปินิกาตีรํ ปริพฺพาชการาโม เยน สรโภ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ ¶ . นิสชฺช โข ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, สรภ, เอวํ วเทสิ – ‘อฺาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม. อฺาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกนฺโต’’’ติ? เอวํ วุตฺเต สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหี อโหสิ.
ทุติยมฺปิ โข, ภควา สรภํ ¶ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘วเทหิ, สรภ, กินฺติ เต อฺาโต สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม? สเจ เต อปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ ปริปูเรสฺสามิ. สเจ ปน เต ปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ อนุโมทิสฺสามี’’ติ. ทุติยมฺปิ โข สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหี อโหสิ.
ตติยมฺปิ โข ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – (‘‘โย [มยา (สฺยา. กํ. ปี.)] โข สรภ ปฺายติ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม) [( ) สี. โปตฺถเก นตฺถิ] ‘‘วเทหิ, สรภ, กินฺติ เต อฺาโต สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม? สเจ เต อปริปูรํ ¶ ภวิสฺสติ, อหํ ปริปูเรสฺสามิ. สเจ ปน เต ปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ อนุโมทิสฺสามี’’ติ. ตติยมฺปิ โข สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหี อโหสิ.
อถ โข เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยเทว โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, สมณํ โคตมํ ยาเจยฺยาสิ ตเทว เต สมโณ โคตโม ปวาเรติ. วเทหาวุโส สรภ, กินฺติ เต อฺาโต สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม? สเจ เต อปริปูรํ ภวิสฺสติ, สมโณ โคตโม ปริปูเรสฺสติ. สเจ ปน เต ปริปูรํ ภวิสฺสติ, สมโณ โคตโม อนุโมทิสฺสตี’’ติ. เอวํ วุตฺเต สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิ.
อถ ¶ โข ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ ตุณฺหีภูตํ มงฺกุภูตํ ปตฺตกฺขนฺธํ อโธมุขํ ปชฺฌายนฺตํ อปฺปฏิภานํ วิทิตฺวา เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจ –
‘‘โย โข มํ, ปริพฺพาชกา [ปริพฺพาชโก (ปี. ก.)], เอวํ วเทยฺย – ‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’ติ, ตมหํ ¶ ตตฺถ ¶ สาธุกํ สมนุยฺุเชยฺยํ สมนุคาเหยฺยํ สมนุภาเสยฺยํ. โส วต มยา สาธุกํ สมนุยฺุชิยมาโน สมนุคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ติณฺณํ านานํ นาฺตรํ [อฺตรํ (ก.)] านํ นิคจฺเฉยฺย, อฺเน วา อฺํ ปฏิจริสฺสติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกริสฺสติ, ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต [ตุณฺหีภูโต วา มงฺกุภูโต (สี. สฺยา. กํ.), ตุณฺหีภูโต วา มงฺกุภูโต วา (ปี.)] ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิสฺสติ, เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโก.
‘‘โย โข มํ, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘ขีณาสวสฺส เต ปฏิชานโต อิเม อาสวา อปริกฺขีณา’ติ, ตมหํ ตตฺถ สาธุกํ สมนุยฺุเชยฺยํ สมนุคาเหยฺยํ สมนุภาเสยฺยํ. โส วต มยา สาธุกํ สมนุยฺุชิยมาโน สมนุคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ติณฺณํ านานํ นาฺตรํ านํ นิคจฺเฉยฺย, อฺเน วา อฺํ ปฏิจริสฺสติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ¶ ปาตุกริสฺสติ, ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิสฺสติ, เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโก.
‘‘โย โข มํ, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต, โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ, ตมหํ ตตฺถ สาธุกํ สมนุยฺุเชยฺยํ สมนุคาเหยฺยํ สมนุภาเสยฺยํ. โส วต มยา สาธุกํ สมนุยฺุชิยมาโน สมนุคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ติณฺณํ านานํ นาฺตรํ านํ นิคจฺเฉยฺย, อฺเน วา อฺํ ปฏิจริสฺสติ, พหิทฺธา กถํ ¶ อปนาเมสฺสติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกริสฺสติ, ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิสฺสติ, เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโก’’ติ. อถ โข ภควา สิปฺปินิกาตีเร ปริพฺพาชการาเม ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา เวหาสํ ปกฺกามิ.
อถ ¶ โข เต ปริพฺพาชกา อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต สรภํ ปริพฺพาชกํ สมนฺตโต วาจายสนฺนิโตทเกน [วาจาสตฺติโตทเกน (สี.)] สฺชมฺภริมกํสุ [สฺจุมฺภริมกํสุ (ปี., ที. นิ. ๑.๔๒๑) สํ. นิ. ๒.๒๔๓ อุปริปาโ วิย] – ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส สรภ, พฺรหารฺเ ชรสิงฺคาโล ‘สีหนาทํ นทิสฺสามี’ติ สิงฺคาลกํเยว [เสคาลกํเยว (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นทติ, เภรณฺฑกํเยว นทติ [เภทณฺฑกํ (ก.)]; เอวเมวํ โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, อฺตฺเรว สมเณน โคตเมน ‘สีหนาทํ นทิสฺสามี’ติ ¶ สิงฺคาลกํเยว นทสิ เภรณฺฑกํเยว นทสิ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส สรภ, อมฺพุกสฺจรี [อมฺพกมทฺทรี (สี.)] ‘ปุริสกรวิตํ [ผุสฺสกรวิตํ (สี.), ปุสฺสกรวิตํ (สฺยา. กํ. ปี.)] รวิสฺสามี’ติ อมฺพุกสฺจริรวิตํเยว รวติ; เอวเมวํ โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, อฺตฺเรว สมเณน โคตเมน ‘ปุริสกรวิตํ รวิสฺสามี’ติ, อมฺพุกสฺจริรวิตํเยว รวสิ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส สรภ, อุสโภ สฺุาย โคสาลาย คมฺภีรํ นทิตพฺพํ มฺติ; เอวเมวํ โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, อฺตฺเรว สมเณน โคตเมน คมฺภีรํ นทิตพฺพํ มฺสี’’ติ. อถ โข เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ ¶ สมนฺตโต วาจายสนฺนิโตทเกน สฺชมฺภริมกํสูติ. จตุตฺถํ.
๕. เกสมุตฺติสุตฺตํ
๖๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน เกสมุตฺตํ [เกสปุตฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นาม กาลามานํ นิคโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข เกสมุตฺติยา กาลามา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ¶ ปพฺพชิโต เกสมุตฺตํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’’ติ.
อถ โข เกสมุตฺติยา กาลามา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต เกสมุตฺติยา กาลามา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘สนฺติ, ภนฺเต, เอเก สมณพฺราหฺมณา เกสมุตฺตํ อาคจฺฉนฺติ. เต สกํเยว วาทํ ทีเปนฺติ โชเตนฺติ, ปรปฺปวาทํ ปน ขุํเสนฺติ วมฺเภนฺติ ปริภวนฺติ โอมกฺขึ [โอปปกฺขึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), โอมกฺขิกํ (ก.)] กโรนฺติ. อปเรปิ, ภนฺเต, เอเก ¶ สมณพฺราหฺมณา เกสมุตฺตํ อาคจฺฉนฺติ ¶ . เตปิ สกํเยว วาทํ ทีเปนฺติ โชเตนฺติ, ปรปฺปวาทํ ปน ขุํเสนฺติ วมฺเภนฺติ ปริภวนฺติ โอมกฺขึ กโรนฺติ. เตสํ โน, ภนฺเต ¶ , อมฺหากํ โหเตว กงฺขา โหติ วิจิกิจฺฉา – ‘โก สุ นาม อิเมสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ อาห, โก มุสา’’’ติ? ‘‘อลฺหิ โว, กาลามา, กงฺขิตุํ อลํ วิจิกิจฺฉิตุํ. กงฺขนีเยว ปน [กงฺขนีเยว จ ปน (สํยุตฺตนิกาเย)] โว าเน วิจิกิจฺฉา อุปฺปนฺนา’’.
‘‘เอถ ตุมฺเห, กาลามา, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน ¶ , มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติ. ยทา ตุมฺเห, กาลามา, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา [สมาทิณฺณา (ก.)] อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’’’ติ, อถ ตุมฺเห, กาลามา, ปชเหยฺยาถ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, กาลามา, โลโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ?
‘‘อหิตาย, ภนฺเต’’.
‘‘ลุทฺโธ ปนายํ, กาลามา, ปุริสปุคฺคโล โลเภน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย [ตทตฺถาย (ก.)] สมาทเปติ, ยํ ส [ยํ ตสฺส (ก.) อนนฺตรสุตฺเต ปน ‘‘ยํ’ ส’’ อิตฺเวว สพฺพตฺถปิ ทิสฺสติ] โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, กาลามา, โทโส ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ?
‘‘อหิตาย, ภนฺเต’’.
‘‘ทุฏฺโ ปนายํ, กาลามา, ปุริสปุคฺคโล โทเสน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ ¶ [หนฺติ (สี. ปี.)], อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, กาลามา, โมโห ¶ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ?
‘‘อหิตาย, ภนฺเต’’.
‘‘มูฬฺโห ¶ ปนายํ, กาลามา, ปุริสปุคฺคโล โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, กาลามา, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ?
‘‘อกุสลา, ภนฺเต’’.
‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ?
‘‘สาวชฺชา, ภนฺเต’’.
‘‘วิฺุครหิตา วา วิฺุปฺปสตฺถา วา’’ติ?
‘‘วิฺุครหิตา, ภนฺเต’’.
‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, โน วา? กถํ วา [กถํ วา โว (?)] เอตฺถ โหตี’’ติ ¶ ?
‘‘สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติ. เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติ.
‘‘อิติ โข, กาลามา, ยํ ตํ อโวจุมฺหา [อโวจุมฺห (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อ. นิ. ๔.๑๙๓] – ‘เอถ ตุมฺเห, กาลามา! มา อนุสฺสเวน, มา ¶ ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติ. ยทา ตุมฺเห กาลามา อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติ, อถ ตุมฺเห, กาลามา, ปชเหยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘เอถ ตุมฺเห, กาลามา, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ¶ ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติ. ยทา ตุมฺเห, กาลามา, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุมฺเห, กาลามา, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, กาลามา, อโลโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ?
‘‘หิตาย, ภนฺเต’’.
‘‘อลุทฺโธ ปนายํ, กาลามา, ปุริสปุคฺคโล โลเภน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิตฺโต เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ, น ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ ¶ , ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, กาลามา, อโทโส ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ…เป… อโมโห ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ…เป… หิตาย สุขายา’’ติ.
‘‘เอวํ ภนฺเต’’ ¶ .
‘‘ตํ กึ มฺถ, กาลามา, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ?
‘‘กุสลา ¶ , ภนฺเต’’.
‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ?
‘‘อนวชฺชา, ภนฺเต’’.
‘‘วิฺุครหิตา วา วิฺุปฺปสตฺถา วา’’ติ?
‘‘วิฺุปฺปสตฺถา, ภนฺเต’’.
‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา ¶ หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ โน วา? กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ?
‘‘สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติ.
‘‘อิติ โข, กาลามา, ยํ ตํ อโวจุมฺหา – ‘เอถ ตุมฺเห, กาลามา! มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติ. ยทา ตุมฺเห, กาลามา, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตีติ, อถ ตุมฺเห, กาลามา, อุปสมฺปชฺช ¶ วิหเรยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘ส โข โส [โย โข (ก.)], กาลามา, อริยสาวโก เอวํ วิคตาภิชฺโฌ วิคตพฺยาปาโท อสมฺมูฬฺโห สมฺปชาโน ปติสฺสโต [สโต (ก.)] เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ, อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเฌน ผริตฺวา วิหรติ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ ¶ , ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ, อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเฌน ผริตฺวา วิหรติ.
‘‘ส ¶ [สเจ (ก.)] โข โส, กาลามา, อริยสาวโก เอวํ อเวรจิตฺโต เอวํ อพฺยาปชฺฌจิตฺโต เอวํ อสํกิลิฏฺจิตฺโต เอวํ วิสุทฺธจิตฺโต. ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม จตฺตาโร อสฺสาสา อธิคตา โหนฺติ. ‘สเจ โข ปน อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ [สุกฏทุกฺกฏานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อถาหํ [านมหํ (สี. ปี.), านเมตํ เยนาหํ (สฺยา. กํ.)] กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามี’ติ, อยมสฺส ปโม อสฺสาโส อธิคโต โหติ.
‘‘‘สเจ ¶ โข ปน นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อถาหํ [อิธาหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ทิฏฺเว ธมฺเม อเวรํ อพฺยาปชฺฌํ อนีฆํ สุขึ [สุขํ (สี.), สุขี (สฺยา. กํ.)] อตฺตานํ ปริหรามี’ติ, อยมสฺส ทุติโย อสฺสาโส อธิคโต โหติ.
‘‘‘สเจ โข ปน กโรโต กรียติ ปาปํ, น โข ปนาหํ กสฺสจิ ปาปํ เจเตมิ. อกโรนฺตํ โข ปน มํ ปาปกมฺมํ กุโต ทุกฺขํ ผุสิสฺสตี’ติ, อยมสฺส ตติโย อสฺสาโส อธิคโต โหติ.
‘‘‘สเจ โข ปน กโรโต น กรียติ ปาปํ, อถาหํ อุภเยเนว วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามี’ติ, อยมสฺส จตุตฺโถ อสฺสาโส อธิคโต โหติ.
‘‘ส โข โส, กาลามา, อริยสาวโก เอวํ อเวรจิตฺโต เอวํ อพฺยาปชฺฌจิตฺโต เอวํ อสํกิลิฏฺจิตฺโต เอวํ วิสุทฺธจิตฺโต. ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม อิเม จตฺตาโร อสฺสาสา อธิคตา โหนฺตี’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต! ส โข โส, ภนฺเต, อริยสาวโก เอวํ ¶ อเวรจิตฺโต เอวํ อพฺยาปชฺฌจิตฺโต เอวํ อสํกิลิฏฺจิตฺโต เอวํ วิสุทฺธจิตฺโต. ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม ¶ จตฺตาโร อสฺสาสา อธิคตา โหนฺติ. ‘สเจ โข ปน อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อถาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามี’ติ, อยมสฺส ปโม อสฺสาโส อธิคโต โหติ.
‘‘‘สเจ โข ปน นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อถาหํ ¶ ทิฏฺเว ธมฺเม อเวรํ อพฺยาปชฺฌํ อนีฆํ สุขึ อตฺตานํ ปริหรามี’ติ, อยมสฺส ทุติโย อสฺสาโส อธิคโต โหติ.
‘‘สเจ โข ปน กโรโต กรียติ ปาปํ, น โข ปนาหํ – กสฺสจิ ปาปํ เจเตมิ, อกโรนฺตํ โข ปน มํ ปาปกมฺมํ กุโต ทุกฺขํ ผุสิสฺสตี’ติ, อยมสฺส ตติโย อสฺสาโส อธิคโต โหติ.
‘‘‘สเจ ¶ โข ปน กโรโต น กรียติ ปาปํ, อถาหํ อุภเยเนว วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามี’ติ, อยมสฺส จตุตฺโถ อสฺสาโส อธิคโต โหติ.
‘‘ส โข โส, ภนฺเต, อริยสาวโก เอวํ อเวรจิตฺโต เอวํ อพฺยาปชฺฌจิตฺโต เอวํ อสํกิลิฏฺจิตฺโต เอวํ วิสุทฺธจิตฺโต. ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม อิเม จตฺตาโร อสฺสาสา อธิคตา โหนฺติ.
‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสเก โน, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติ. ปฺจมํ.
๖. สาฬฺหสุตฺตํ
๖๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา นนฺทโก สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข สาฬฺโห จ มิคารนตฺตา สาโณ จ ¶ เสขุนิยนตฺตา [โรหโณ จ เปขุณิยนตฺตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เยนายสฺมา นนฺทโก เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สาฬฺหํ มิคารนตฺตารํ อายสฺมา นนฺทโก เอตทโวจ –
‘‘เอถ ตุมฺเห, สาฬฺหา, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติ. ยทา ตุมฺเห, สาฬฺหา ¶ , อตฺตนาว ¶ ชาเนยฺยาถ ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุมฺเห สาฬฺหา ปชเหยฺยาถ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, สาฬฺหา, อตฺถิ โลโภ’’ติ?
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อภิชฺฌาติ โข อหํ, สาฬฺหา, เอตมตฺถํ วทามิ. ลุทฺโธ โข อยํ, สาฬฺหา, อภิชฺฌาลุ ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ ¶ กึ มฺถ, สาฬฺหา, อตฺถิ โทโส’’ติ?
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘พฺยาปาโทติ โข อหํ, สาฬฺหา, เอตมตฺถํ วทามิ. ทุฏฺโ โข อยํ, สาฬฺหา, พฺยาปนฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, สาฬฺหา, อตฺถิ โมโห’’ติ?
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อวิชฺชาติ โข อหํ, สาฬฺหา, เอตมตฺถํ วทามิ. มูฬฺโห โข อยํ, สาฬฺหา ¶ , อวิชฺชาคโต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, สาฬฺหา, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ?
‘‘อกุสลา, ภนฺเต’’.
‘‘สาวชฺชา ¶ วา อนวชฺชา วา’’ติ?
‘‘สาวชฺชา, ภนฺเต’’.
‘‘วิฺุครหิตา วา วิฺุปฺปสตฺถา วา’’ติ?
‘‘วิฺุครหิตา, ภนฺเต’’.
‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, โน วา? กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ?
‘‘สมตฺตา ¶ , ภนฺเต, สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติ. เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติ.
‘‘อิติ โข, สาฬฺหา, ยํ ตํ อโวจุมฺหา – ‘เอถ ตุมฺเห, สาฬฺหา, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติ. ยทา ตุมฺเห, สาฬฺหา, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติ, อถ ตุมฺเห, สาฬฺหา, ปชเหยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘เอถ ตุมฺเห, สาฬฺหา, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติ. ยทา ตุมฺเห, สาฬฺหา, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา ¶ วิฺุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา ¶ สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุมฺเห, สาฬฺหา, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, สาฬฺหา, อตฺถิ อโลโภ’’ติ?
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อนภิชฺฌาติ ¶ โข อหํ, สาฬฺหา, เอตมตฺถํ วทามิ. อลุทฺโธ โข อยํ, สาฬฺหา, อนภิชฺฌาลุ เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ, ปรมฺปิ น ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, สาฬฺหา, อตฺถิ อโทโส’’ติ?
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อพฺยาปาโทติ โข อหํ, สาฬฺหา, เอตมตฺถํ วทามิ. อทุฏฺโ โข อยํ, สาฬฺหา, อพฺยาปนฺนจิตฺโต เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ, ปรมฺปิ น ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, สาฬฺหา, อตฺถิ อโมโห’’ติ?
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘วิชฺชาติ โข อหํ, สาฬฺหา, เอตมตฺถํ วทามิ. อมูฬฺโห โข ¶ อยํ, สาฬฺหา, วิชฺชาคโต เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ, ปรมฺปิ น ตถตฺตาย สมาทเปติ, ยํ ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, สาฬฺหา, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ?
‘‘กุสลา, ภนฺเต’’.
‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ?
‘‘อนวชฺชา, ภนฺเต’’.
‘‘วิฺุครหิตา วา วิฺุปฺปสตฺถา วา’’ติ?
‘‘วิฺุปฺปสตฺถา ¶ , ภนฺเต’’.
‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ, โน วา? กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ?
‘‘สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา ¶ หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตีติ. เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติ.
‘‘อิติ โข, สาฬฺหา, ยํ ตํ อโวจุมฺหา – ‘เอถ ตุมฺเห, สาฬฺหา, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา สมโณ โน ครูติ. ยทา ตุมฺเห, สาฬฺหา, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา ¶ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตีติ, อถ ตุมฺเห, สาฬฺหา, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘ส โข โส, สาฬฺหา, อริยสาวโก เอวํ วิคตาภิชฺโฌ วิคตพฺยาปาโท อสมฺมูฬฺโห สมฺปชาโน ปติสฺสโต เมตฺตาสหคเตน เจตสา…เป… กรุณา…เป… มุทิตา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ, อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเฌน ผริตฺวา วิหรติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อตฺถิ อิทํ, อตฺถิ หีนํ, อตฺถิ ปณีตํ, อตฺถิ อิมสฺส สฺาคตสฺส อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นิสฺสรณ’นฺติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ ¶ ¶ ¶ จิตฺตํ วิมุจฺจติ; วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ.
‘‘โส เอวํ ปชานาติ – ‘อหุ ปุพฺเพ โลโภ, ตทหุ อกุสลํ, โส เอตรหิ นตฺถิ, อิจฺเจตํ กุสลํ; อหุ ปุพฺเพ โทโส…เป… อหุ ปุพฺเพ โมโห, ตทหุ อกุสลํ, โส เอตรหิ นตฺถิ, อิจฺเจตํ กุสล’นฺติ. โส ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีติภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. กถาวตฺถุสุตฺตํ
๖๘. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, กถาวตฺถูนิ. กตมานิ ตีณิ? อตีตํ วา, ภิกฺขเว, อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ อโหสิ อตีตมทฺธาน’นฺติ. อนาคตํ วา, ภิกฺขเว, อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ ภวิสฺสติ อนาคตมทฺธาน’นฺติ. เอตรหิ วา, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ โหติ เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺนมทฺธาน’’’นฺติ [เอวํ เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ (สี. ปี. ก.), เอวํ โหติ เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ (สฺยา. กํ.)].
‘‘กถาสมฺปโยเคน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ ยทิ วา กจฺโฉ ยทิ วา อกจฺโฉติ. สจายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน เอกํสพฺยากรณียํ ¶ ปฺหํ น เอกํเสน พฺยากโรติ, วิภชฺชพฺยากรณียํ ปฺหํ น วิภชฺช พฺยากโรติ, ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณียํ ปฺหํ น ปฏิปุจฺฉา พฺยากโรติ, ปนียํ ปฺหํ น เปติ [ถปนียํ ปฺหํ น ถเปติ (ก.)], เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกจฺโฉ โหติ. สเจ ปนายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน เอกํสพฺยากรณียํ ปฺหํ เอกํเสน พฺยากโรติ, วิภชฺชพฺยากรณียํ ปฺหํ วิภชฺช พฺยากโรติ, ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณียํ ปฺหํ ปฏิปุจฺฉา พฺยากโรติ ¶ , ปนียํ ปฺหํ เปติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กจฺโฉ โหติ.
‘‘กถาสมฺปโยเคน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ ยทิ วา กจฺโฉ ยทิ วา อกจฺโฉติ. สจายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน านาาเน น สณฺาติ ปริกปฺเป น สณฺาติ อฺาตวาเท [อฺวาเท (สี. สฺยา. กํ. ปี.), อฺาตวาเร (ก.)] น สณฺาติ ¶ ปฏิปทาย น สณฺาติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ¶ อกจฺโฉ โหติ. สเจ ปนายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน านาาเน สณฺาติ ปริกปฺเป สณฺาติ อฺาตวาเท สณฺาติ ปฏิปทาย สณฺาติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กจฺโฉ โหติ.
‘‘กถาสมฺปโยเคน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ ยทิ วา กจฺโฉ ยทิ วา อกจฺโฉติ. สจายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน อฺเนฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกจฺโฉ โหติ. สเจ ปนายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน น อฺเนฺํ ปฏิจรติ น พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กจฺโฉ โหติ.
‘‘กถาสมฺปโยเคน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ ยทิ วา กจฺโฉ ยทิ วา อกจฺโฉติ. สจายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน อภิหรติ อภิมทฺทติ อนุปชคฺฆติ [อนุสํชคฺฆติ (ก.)] ขลิตํ คณฺหาติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกจฺโฉ โหติ. สเจ ปนายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน นาภิหรติ นาภิมทฺทติ ¶ น อนุปชคฺฆติ น ขลิตํ คณฺหาติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กจฺโฉ โหติ.
‘‘กถาสมฺปโยเคน ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ ยทิ วา สอุปนิโส ยทิ วา อนุปนิโสติ. อโนหิตโสโต, ภิกฺขเว, อนุปนิโส โหติ, โอหิตโสโต สอุปนิโส โหติ. โส สอุปนิโส สมาโน อภิชานาติ เอกํ ธมฺมํ, ปริชานาติ เอกํ ธมฺมํ, ปชหติ เอกํ ธมฺมํ, สจฺฉิกโรติ เอกํ ธมฺมํ. โส อภิชานนฺโต เอกํ ธมฺมํ, ปริชานนฺโต เอกํ ธมฺมํ, ปชหนฺโต เอกํ ธมฺมํ, สจฺฉิกโรนฺโต เอกํ ธมฺมํ สมฺมาวิมุตฺตึ ผุสติ. เอตทตฺถา, ภิกฺขเว, กถา; เอตทตฺถา มนฺตนา; เอตทตฺถา อุปนิสา; เอตทตฺถํ โสตาวธานํ, ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ.
‘‘เย ¶ วิรุทฺธา สลฺลปนฺติ, วินิวิฏฺา สมุสฺสิตา;
อนริยคุณมาสชฺช, อฺโฺวิวเรสิโน.
‘‘ทุพฺภาสิตํ ¶ วิกฺขลิตํ, สมฺปโมหํ [สสมฺโมหํ (ก.)] ปราชยํ;
อฺโฺสฺสาภินนฺทนฺติ, ตทริโย กถนาจเร [ตทริโย น กถํ วเท (ก.)].
‘‘สเจ จสฺส กถากาโม, กาลมฺาย ปณฺฑิโต;
ธมฺมฏฺปฏิสํยุตฺตา, ยา อริยจริตา [อริยฺจริตา (สี.), อริยาทิกา (ก.)] กถา.
‘‘ตํ กถํ กถเย ธีโร, อวิรุทฺโธ อนุสฺสิโต;
อนุนฺนเตน มนสา, อปฬาโส อสาหโส.
‘‘อนุสูยายมาโน โส, สมฺมทฺาย ภาสติ;
สุภาสิตํ อนุโมเทยฺย, ทุพฺภฏฺเ นาปสาทเย [นาวสาทเย (สี. ปี.)].
‘‘อุปารมฺภํ น สิกฺเขยฺย, ขลิตฺจ น คาหเย [น ภาสเย (ก.)];
นาภิหเร ¶ นาภิมทฺเท, น วาจํ ปยุตํ ภเณ.
‘‘อฺาตตฺถํ ปสาทตฺถํ, สตํ เว โหติ มนฺตนา;
เอวํ โข อริยา มนฺเตนฺติ, เอสา อริยาน มนฺตนา;
เอตทฺาย เมธาวี, น สมุสฺเสยฺย มนฺตเย’’ติ. สตฺตมํ;
๘. อฺติตฺถิยสุตฺตํ
๖๙. ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘ตโยเม, อาวุโส, ธมฺมา. กตเม ตโย? ราโค, โทโส, โมโห ¶ – อิเม โข, อาวุโส, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ, อาวุโส, ติณฺณํ ธมฺมานํ โก วิเสโส โก อธิปฺปยาโส [อธิปฺปาโย (สี.) อธิปฺปายาโส (สฺยา. กํ. ปี.) อธิ + ป + ยสุ + ณ = อธิปฺปยาโส] กึ นานากรณ’นฺติ? เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ กินฺติ พฺยากเรยฺยาถา’’ติ? ‘‘ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมา ภควํเนตฺติกา ภควํปฏิสรณา. สาธุ วต, ภนฺเต, ภควนฺตํเยว ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘สเจ ¶ , ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘ตโยเม, อาวุโส, ธมฺมา. กตเม ตโย? ราโค, โทโส, โมโห – อิเม โข, อาวุโส, ตโย ธมฺมา; อิเมสํ, อาวุโส, ติณฺณํ ¶ ธมฺมานํ โก วิเสโส โก อธิปฺปยาโส กึ นานากรณ’นฺติ? เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ – ‘ราโค โข, อาวุโส, อปฺปสาวชฺโช ทนฺธวิราคี, โทโส มหาสาวชฺโช ขิปฺปวิราคี, โมโห มหาสาวชฺโช ทนฺธวิราคี’’’ ติ.
‘‘‘โก ปนาวุโส, เหตุ โก ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน วา ราโค อุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน วา ราโค ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตตี’ติ? ‘สุภนิมิตฺตนฺติสฺส วจนียํ. ตสฺส สุภนิมิตฺตํ อโยนิโส มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน วา ราโค อุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน วา ราโค ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตติ. อยํ โข, อาวุโส, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน วา ราโค อุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน วา ราโค ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตตี’’’ติ.
‘‘‘โก ปนาวุโส, เหตุ โก ¶ ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน วา โทโส อุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน วา โทโส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตตี’ติ? ‘ปฏิฆนิมิตฺตํ ติสฺส วจนียํ. ตสฺส ปฏิฆนิมิตฺตํ อโยนิโส มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน วา โทโส อุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน วา โทโส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตติ. อยํ โข, อาวุโส, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน วา โทโส อุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน วา โทโส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตตี’’’ติ.
‘‘‘โก ปนาวุโส, เหตุ โก ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน วา โมโห อุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน วา โมโห ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตตี’ติ? ‘อโยนิโส มนสิกาโร ติสฺส วจนียํ. ตสฺส อโยนิโส มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน วา โมโห อุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน วา โมโห ภิยฺโยภาวาย ¶ เวปุลฺลาย สํวตฺตติ. อยํ โข, อาวุโส, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน วา โมโห อุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน วา โมโห ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตตี’’’ติ.
‘‘‘โก ปนาวุโส, เหตุ โก ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน เจว ราโค นุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน จ ราโค ปหียตี’ติ? ‘อสุภนิมิตฺตนฺติสฺส วจนียํ. ตสฺส อสุภนิมิตฺตํ โยนิโส มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน เจว ราโค นุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน ¶ จ ราโค ปหียติ. อยํ โข, อาวุโส ¶ , เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน เจว ราโค นุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน จ ราโค ¶ ปหียตี’’’ติ.
‘‘‘โก ปนาวุโส, เหตุ โก ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน เจว โทโส นุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน จ โทโส ปหียตี’ติ? ‘เมตฺตา เจโตวิมุตฺตี ติสฺส วจนียํ. ตสฺส เมตฺตํ เจโตวิมุตฺตึ โยนิโส มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน เจว โทโส นุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน จ โทโส ปหียติ. อยํ โข, อาวุโส, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน เจว โทโส นุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน จ โทโส ปหียตี’’’ติ.
‘‘‘โก ปนาวุโส, เหตุ โก ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน เจว โมโห นุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน จ โมโห ปหียตี’ติ? ‘โยนิโสมนสิกาโร ติสฺส วจนียํ. ตสฺส โยนิโส มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน เจว โมโห นุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน จ โมโห ปหียติ. อยํ โข, อาวุโส, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน อนุปฺปนฺโน วา โมโห นุปฺปชฺชติ อุปฺปนฺโน จ โมโห ปหียตี’’’ติ. อฏฺมํ.
๙. อกุสลมูลสุตฺตํ
๗๐. ‘‘ตีณิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, อกุสลมูลานิ. กตมานิ ตีณิ? โลโภ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํ.
‘‘ยทปิ, ภิกฺขเว, โลโภ ตทปิ อกุสลมูลํ [อกุสลํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]; ยทปิ ลุทฺโธ อภิสงฺขโรติ กาเยน วาจาย มนสา ตทปิ อกุสลํ [อกุสลมูลํ (ก.)]; ยทปิ ลุทฺโธ โลเภน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปรสฺส อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยติ [อุปทหติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วเธน วา พนฺธเนน วา ชานิยา วา ครหาย ¶ วา ปพฺพาชนาย วา พลวมฺหิ พลตฺโถ อิติปิ ตทปิ อกุสลํ [อิทํ ปน สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ]. อิติสฺสเม โลภชา โลภนิทานา โลภสมุทยา โลภปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ.
‘‘ยทปิ, ภิกฺขเว, โทโส ตทปิ อกุสลมูลํ; ยทปิ ทุฏฺโ อภิสงฺขโรติ กาเยน วาจาย มนสา ตทปิ อกุสลํ; ยทปิ ทุฏฺโ โทเสน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปรสฺส อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยติ วเธน วา พนฺธเนน วา ชานิยา วา ครหาย วา ปพฺพาชนาย วา พลวมฺหิ ¶ พลตฺโถ ¶ อิติปิ ตทปิ อกุสลํ. อิติสฺสเม โทสชา โทสนิทานา โทสสมุทยา โทสปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ.
‘‘ยทปิ, ภิกฺขเว, โมโห ตทปิ อกุสลมูลํ; ยทปิ มูฬฺโห อภิสงฺขโรติ กาเยน วาจาย มนสา ตทปิ อกุสลํ; ยทปิ มูฬฺโห โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปรสฺส อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยติ วเธน วา พนฺธเนน วา ชานิยา วา ครหาย วา ปพฺพาชนาย วา พลวมฺหิ พลตฺโถ อิติปิ ตทปิ อกุสลํ. อิติสฺสเม โมหชา โมหนิทานา โมหสมุทยา โมหปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ. เอวรูโป จายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล วุจฺจติ อกาลวาทีติปิ, อภูตวาทีติปิ, อนตฺถวาทีติปิ, อธมฺมวาทีติปิ, อวินยวาทีติปิ.
‘‘กสฺมา ¶ จายํ, ภิกฺขเว, เอวรูโป ปุคฺคโล วุจฺจติ อกาลวาทีติปิ, อภูตวาทีติปิ, อนตฺถวาทีติปิ, อธมฺมวาทีติปิ, อวินยวาทีติปิ? ตถาหายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรสฺส อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยติ วเธน วา พนฺธเนน วา ชานิยา วา ครหาย วา ปพฺพาชนาย วา พลวมฺหิ พลตฺโถ อิติปิ. ภูเตน โข ปน วุจฺจมาโน อวชานาติ, โน ปฏิชานาติ; อภูเตน วุจฺจมาโน ¶ น อาตปฺปํ กโรติ, ตสฺส นิพฺเพนาย อิติเปตํ อตจฺฉํ อิติเปตํ อภูตนฺติ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล วุจฺจติ อกาลวาทีติปิ, อภูตวาทีติปิ, อนตฺถวาทีติปิ, อธมฺมวาทีติปิ, อวินยวาทีติปิ.
‘‘เอวรูโป, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โลภเชหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ทิฏฺเ เจว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ, สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ. กายสฺส จ เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา.
‘‘โทสเชหิ…เป… โมหเชหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ทิฏฺเ เจว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ, สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ. กายสฺส จ เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สาโล วา ธโว วา ผนฺทโน วา ตีหิ มาลุวาลตาหิ อุทฺธสฺโต ปริโยนทฺโธ อนยํ อาปชฺชติ, พฺยสนํ อาปชฺชติ, อนยพฺยสนํ อาปชฺชติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอวรูโป ปุคฺคโล โลภเชหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ ¶ ¶ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ทิฏฺเ เจว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ, สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ. กายสฺส จ เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา.
‘‘โทสเชหิ…เป… โมหเชหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ทิฏฺเ เจว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ. กายสฺส จ เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อกุสลมูลานีติ.
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, กุสลมูลานิ. กตมานิ ตีณิ? อโลโภ กุสลมูลํ, อโทโส กุสลมูลํ, อโมโห กุสลมูลํ.
‘‘ยทปิ ¶ , ภิกฺขเว, อโลโภ ตทปิ กุสลมูลํ [กุสลํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]; ยทปิ อลุทฺโธ อภิสงฺขโรติ กาเยน วาจาย มนสา ¶ ตทปิ กุสลํ [กุสลมูลํ (ก.)]; ยทปิ อลุทฺโธ โลเภน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิตฺโต น ปรสฺส อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยติ วเธน วา พนฺธเนน วา ชานิยา วา ครหาย วา ปพฺพาชนาย วา พลวมฺหิ พลตฺโถ อิติปิ ตทปิ กุสลํ. อิติสฺสเม อโลภชา อโลภนิทานา อโลภสมุทยา อโลภปจฺจยา อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ.
‘‘ยทปิ, ภิกฺขเว, อโทโส ตทปิ กุสลมูลํ; ยทปิ อทุฏฺโ อภิสงฺขโรติ กาเยน วาจาย มนสา ตทปิ กุสลํ; ยทปิ อทุฏฺโ โทเสน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิตฺโต น ปรสฺส อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยติ วเธน วา พนฺธเนน วา ชานิยา วา ครหาย วา ปพฺพาชนาย วา พลวมฺหิ พลตฺโถ อิติปิ ตทปิ กุสลํ. อิติสฺสเม อโทสชา อโทสนิทานา อโทสสมุทยา อโทสปจฺจยา อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ.
‘‘ยทปิ, ภิกฺขเว, อโมโห ตทปิ กุสลมูลํ; ยทปิ อมูฬฺโห อภิสงฺขโรติ กาเยน วาจาย มนสา ตทปิ กุสลํ; ยทปิ อมูฬฺโห โมเหน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิตฺโต น ปรสฺส อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยติ วเธน วา พนฺธเนน วา ชานิยา วา ครหาย วา ปพฺพาชนาย วา พลวมฺหิ พลตฺโถ อิติปิ ตทปิ กุสลํ. อิติสฺสเม อโมหชา อโมหนิทานา ¶ อโมหสมุทยา อโมหปจฺจยา อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ. เอวรูโป จายํ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล วุจฺจติ กาลวาทีติปิ, ภูตวาทีติปิ, อตฺถวาทีติปิ, ธมฺมวาทีติปิ, วินยวาทีติปิ.
‘‘กสฺมา จายํ, ภิกฺขเว, เอวรูโป ปุคฺคโล วุจฺจติ กาลวาทีติปิ, ภูตวาทีติปิ, อตฺถวาทีติปิ, ธมฺมวาทีติปิ, วินยวาทีติปิ? ตถาหายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล น ปรสฺส อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยติ วเธน วา พนฺธเนน วา ชานิยา ¶ วา ครหาย วา ปพฺพาชนาย วา พลวมฺหิ พลตฺโถ อิติปิ. ภูเตน โข ปน วุจฺจมาโน ปฏิชานาติ โน อวชานาติ; อภูเตน วุจฺจมาโน อาตปฺปํ กโรติ ตสฺส นิพฺเพนาย – ‘อิติเปตํ อตจฺฉํ, อิติเปตํ อภูต’นฺติ ¶ . ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล วุจฺจติ กาลวาทีติปิ, อตฺถวาทีติปิ, ธมฺมวาทีติปิ, วินยวาทีติปิ.
‘‘เอวรูปสฺส, ภิกฺขเว, ปุคฺคลสฺส โลภชา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ. ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายติ.
‘‘โทสชา…เป… ปรินิพฺพายติ. โมหชา…เป… ปรินิพฺพายติ. เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว, สาโล วา ธโว วา ผนฺทโน วา ตีหิ มาลุวาลตาหิ อุทฺธสฺโต ปริโยนทฺโธ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย กุทฺทาล-ปิฏกํ [กุทฺทาลปิฏกํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อาทาย. โส ตํ มาลุวาลตํ มูเล ฉินฺเทยฺย, มูเล เฉตฺวา ปลิขเณยฺย, ปลิขณิตฺวา มูลานิ อุทฺธเรยฺย, อนฺตมโส อุสีรนาฬิมตฺตานิปิ [อุสีรนาฬมตฺตานิปิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. โส ตํ มาลุวาลตํ ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺเทยฺย, ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉตฺวา ผาเลยฺย, ผาเลตฺวา สกลิกํ สกลิกํ กเรยฺย, สกลิกํ สกลิกํ กริตฺวา วาตาตเป วิโสเสยฺย, วาตาตเป วิโสเสตฺวา อคฺคินา ฑเหยฺย, อคฺคินา ฑหิตฺวา มสึ ¶ กเรยฺย, มสึ กริตฺวา มหาวาเต วา โอผุเณยฺย นทิยา วา สีฆโสตาย ปวาเหยฺย. เอวมสฺส [เอวมสฺสุ (สี.), เอวสฺสุ (ก.)] ตา, ภิกฺขเว, มาลุวาลตา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา ¶ อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส โลภชา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ. ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายติ.
‘‘โทสชา ¶ …เป… โมหชา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ. ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ กุสลมูลานี’’ติ. นวมํ.
๑๐. อุโปสถสุตฺตํ
๗๑. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา ตทหุโปสเถ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, วิสาเข, อาคจฺฉสิ ทิวา ทิวสฺสา’’ติ? ‘‘อุโปสถาหํ, ภนฺเต, อชฺช อุปวสามี’’ติ.
‘‘ตโย โขเม, วิสาเข, อุโปสถา. กตเม ตโย? โคปาลกุโปสโถ, นิคณฺุโปสโถ, อริยุโปสโถ. กถฺจ, วิสาเข, โคปาลกุโปสโถ โหติ? เสยฺยถาปิ, วิสาเข, โคปาลโก สายนฺหสมเย สามิกานํ คาโว นิยฺยาเตตฺวา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อชฺช โข คาโว อมุกสฺมิฺจ อมุกสฺมิฺจ ปเทเส จรึสุ, อมุกสฺมิฺจ อมุกสฺมิฺจ ปเทเส ปานียานิ ปิวึสุ; สฺเว ทานิ คาโว อมุกสฺมิฺจ อมุกสฺมิฺจ ปเทเส จริสฺสนฺติ, อมุกสฺมิฺจ อมุกสฺมิฺจ ปเทเส ปานียานิ ปิวิสฺสนฺตี’ติ; เอวเมวํ ¶ โข, วิสาเข, อิเธกจฺโจ อุโปสถิโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ ขฺวชฺช อิทฺจิทฺจ ขาทนียํ ขาทึ, อิทฺจิทฺจ โภชนียํ ภฺุชึ ¶ ; สฺเว ทานาหํ อิทฺจิทฺจ ขาทนียํ ขาทิสฺสามิ, อิทํ จิทฺจ โภชนียํ ภฺุชิสฺสามี’ติ. โส เตน อภิชฺฌาสหคเตน เจตสา ทิวสํ อตินาเมติ. เอวํ โข วิสาเข, โคปาลกุโปสโถ โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, วิสาเข, โคปาลกุโปสโถ น มหปฺผโล โหติ น มหานิสํโส น มหาชุติโก น มหาวิปฺผาโร.
‘‘กถฺจ, วิสาเข, นิคณฺุโปสโถ โหติ? อตฺถิ, วิสาเข, นิคณฺา นาม สมณชาติกา. เต สาวกํ เอวํ สมาทเปนฺติ – ‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, เย ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปาณา ปรํ โยชนสตํ เตสุ ทณฺฑํ นิกฺขิปาหิ; เย ปจฺฉิมาย ทิสาย ปาณา ปรํ โยชนสตํ ¶ เตสุ ทณฺฑํ นิกฺขิปาหิ; เย อุตฺตราย ทิสาย ปาณา ปรํ โยชนสตํ เตสุ ทณฺฑํ นิกฺขิปาหิ; เย ทกฺขิณาย ทิสาย ปาณา ปรํ โยชนสตํ เตสุ ทณฺฑํ นิกฺขิปาหี’ติ. อิติ เอกจฺจานํ ปาณานํ อนุทฺทยาย อนุกมฺปาย สมาทเปนฺติ, เอกจฺจานํ ปาณานํ นานุทฺทยาย นานุกมฺปาย สมาทเปนฺติ. เต ตทหุโปสเถ สาวกํ เอวํ สมาทเปนฺติ – ‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, สพฺพเจลานิ ¶ [สพฺพเวรานิ (ก.)] นิกฺขิปิตฺวา เอวํ วเทหิ – นาหํ กฺวจนิ กสฺสจิ กิฺจนตสฺมึ [กิฺจนตสฺมิ (?) กิริยาปทเมตํ ยถา กิฺจนตตฺถีติ], น จ มม กฺวจนิ กตฺถจิ กิฺจนตตฺถี’ติ. ชานนฺติ โข ปนสฺส มาตาปิตโร – ‘อยํ อมฺหากํ ปุตฺโต’ติ; โสปิ ชานาติ – ‘อิเม มยฺหํ มาตาปิตโร’ติ. ชานาติ โข ปนสฺส ปุตฺตทาโร ¶ – ‘อยํ มยฺหํ ภตฺตา’ติ; โสปิ ชานาติ – ‘อยํ มยฺหํ ปุตฺตทาโร’ติ. ชานนฺติ โข ปนสฺส ทาสกมฺมกรโปริสา – ‘อยํ อมฺหากํ อยฺโย’ติ; โสปิ ชานาติ – ‘อิเม มยฺหํ ทาสกมฺมกรโปริสา’ติ. อิติ ยสฺมึ สมเย สจฺเจ สมาทเปตพฺพา มุสาวาเท ตสฺมึ สมเย สมาทเปนฺติ. อิทํ ตสฺส มุสาวาทสฺมึ วทามิ. โส ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน โภเค อทินฺนํเยว ปริภฺุชติ. อิทํ ตสฺส อทินฺนาทานสฺมึ วทามิ. เอวํ โข, วิสาเข, นิคณฺุโปสโถ โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, วิสาเข, นิคณฺุโปสโถ น มหปฺผโล โหติ น มหานิสํโส น มหาชุติโก น มหาวิปฺผาโร.
‘‘กถฺจ, วิสาเข, อริยุโปสโถ โหติ? อุปกฺกิลิฏฺสฺส ¶ , วิสาเข, จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา [ปริโยทาปนา (?)] โหติ? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ตสฺส ตถาคตํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ. เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ, เสยฺยถาปิ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส สีสสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส สีสสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? กกฺกฺจ ปฏิจฺจ มตฺติกฺจ ปฏิจฺจ อุทกฺจ ปฏิจฺจ ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ, เอวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส สีสสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. เอวเมวํ โข ¶ , วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ – ‘อิติปิ โส ¶ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ตสฺส ตถาคตํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ. อยํ วุจฺจติ, วิสาเข – ‘อริยสาวโก พฺรหฺมุโปสถํ อุปวสติ, พฺรหฺมุนา สทฺธึ สํวสติ, พฺรหฺมฺจสฺส [พฺรหฺมฺจ (ก.)] อารพฺภ จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ’. เอวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส ¶ อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘อุปกฺกิลิฏฺสฺส, วิสาเข, จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. ตสฺส ธมฺมํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ¶ ปหียนฺติ, เสยฺยถาปิ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส กายสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส กายสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? โสตฺติฺจ ปฏิจฺจ, จุณฺณฺจ ปฏิจฺจ, อุทกฺจ ปฏิจฺจ, ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ. เอวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส กายสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. เอวเมวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. ตสฺส ธมฺมํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ. อยํ วุจฺจติ, วิสาเข, ‘อริยสาวโก ธมฺมุโปสถํ อุปวสติ, ธมฺเมน สทฺธึ สํวสติ, ธมฺมฺจสฺส อารพฺภ จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ’. เอวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘อุปกฺกิลิฏฺสฺส ¶ ¶ , วิสาเข, จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. ตสฺส สงฺฆํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ, เสยฺยถาปิ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส วตฺถสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส วตฺถสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อุสฺมฺจ ¶ [อูสฺจ (สฺยา. กํ. อฏฺกถายมฺปิ ปานฺตรํ, สํ. นิ. ๓.๘๙ เขมกสุตฺตปาฬิยาปิ สเมติ.) อุสุมฺจ (สี.)] ปฏิจฺจ, ขารฺจ ปฏิจฺจ, โคมยฺจ ¶ ปฏิจฺจ, อุทกฺจ ปฏิจฺจ, ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ. เอวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส วตฺถสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. เอวเมวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. ตสฺส สงฺฆํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ. อยํ วุจฺจติ, วิสาเข, ‘อริยสาวโก สงฺฆุโปสถํ อุปวสติ, สงฺเฆน สทฺธึ สํวสติ, สงฺฆฺจสฺส อารพฺภ จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ’. เอวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘อุปกฺกิลิฏฺสฺส, วิสาเข, จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสรติ อขณฺฑานิ ¶ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ. ตสฺส สีลํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ, เสยฺยถาปิ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส อาทาสสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส อาทาสสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? เตลฺจ ปฏิจฺจ ¶ , ฉาริกฺจ ปฏิจฺจ, วาลณฺฑุปกฺจ ปฏิจฺจ, ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ. เอวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส อาทาสสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. เอวเมวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อิธ ¶ , วิสาเข, อริยสาวโก อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสรติ อขณฺฑานิ…เป… สมาธิสํวตฺตนิกานิ. ตสฺส สีลํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ. อยํ วุจฺจติ, วิสาเข, ‘อริยสาวโก สีลุโปสถํ อุปวสติ, สีเลน สทฺธึ สํวสติ, สีลฺจสฺส อารพฺภ จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ’. เอวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘อุปกฺกิลิฏฺสฺส, วิสาเข, จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อิธ วิสาเข, อริยสาวโก เทวตา อนุสฺสรติ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา [จาตุมฺมหาราชิกา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สนฺติ เทวา ตาวตึสา, สนฺติ เทวา ยามา, สนฺติ เทวา ตุสิตา, สนฺติ เทวา นิมฺมานรติโน, สนฺติ เทวา ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน, สนฺติ เทวา พฺรหฺมกายิกา, สนฺติ เทวา ตตุตฺตริ [ตตุตฺตรึ (สี. ปี.)]. ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถุปปนฺนา [ตตฺถุปฺปนฺนา (สี. ปี.)], มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สีเลน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปํ สีลํ ¶ สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สุเตน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปํ สุตํ สํวิชฺชติ. ยถารูเปน จาเคน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูโป จาโค สํวิชฺชติ. ยถารูปาย ปฺาย ¶ สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’ติ. ตสฺส อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ, เสยฺยถาปิ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส ชาตรูปสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส ชาตรูปสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อุกฺกฺจ ปฏิจฺจ, โลณฺจ ปฏิจฺจ, เครุกฺจ ปฏิจฺจ, นาฬิกสณฺฑาสฺจ [นาฬิกฺจ ปฏิจฺจ สณฺฑาสฺจ (ปี. ก.)] ปฏิจฺจ, ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ. เอวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส ชาตรูปสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. เอวเมวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก เทวตา อนุสฺสรติ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา, สนฺติ เทวา ตาวตึสา…เป… สนฺติ เทวา ตตุตฺตริ. ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สีเลน…เป… สุเตน…เป… จาเคน…เป… ปฺาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ¶ ตตฺถุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’ติ. ตสฺส อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ. อยํ วุจฺจติ, วิสาเข, ‘อริยสาวโก เทวตุโปสถํ อุปวสติ, เทวตาหิ สทฺธึ สํวสติ, เทวตา อารพฺภ จิตฺตํ ปสีทติ, ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, เย จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต ปหียนฺติ’. เอวํ โข, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ.
‘‘ส โข โส, วิสาเข, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยาวชีวํ อรหนฺโต ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถา ลชฺชี ทยาปนฺนา สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรนฺติ; อหมฺปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี ¶ วิหรามิ. อิมินาปิ [อิมินาปหํ (สี.) อ. นิ. ๘.๔๑] องฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสติ.
‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรนฺติ; อหมฺปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา ¶ วิหรามิ. อิมินาปิ องฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสติ.
‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี อาราจารี [อนาจารี (ปี.)] วิรตา เมถุนา คามธมฺมา; อหมฺปชฺช ¶ อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. อิมินาปิ องฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสติ.
‘‘ยาวชีวํ ¶ อรหนฺโต มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรตา สจฺจวาที สจฺจสนฺธา เถตา ปจฺจยิกา อวิสํวาทกา โลกสฺส; อหมฺปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส. อิมินาปิ องฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสติ.
‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ปหาย สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา; อหมฺปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ปหาย สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต. อิมินาปิ องฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสติ.
‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต เอกภตฺติกา รตฺตูปรตา วิรตา วิกาลโภชนา; อหมฺปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ เอกภตฺติโก รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา. อิมินาปิ องฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสติ.
‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรตา; อหมฺปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต ¶ . อิมินาปิ องฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสติ.
‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรตา นีจเสยฺยํ ¶ ¶ กปฺเปนฺติ มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา; อหมฺปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต นีจเสยฺยํ กปฺเปมิ มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อิมินาปิ องฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘เอวํ โข, วิสาเข, อริยุโปสโถ โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, วิสาเข, อริยุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร’’.
‘‘กีวมหปฺผโล โหติ กีวมหานิสํโส กีวมหาชุติโก กีวมหาวิปฺผาโร’’? ‘‘เสยฺยถาปิ, วิสาเข, โย อิเมสํ โสฬสนฺนํ มหาชนปทานํ ปหูตรตฺตรตนานํ [ปหูตสตฺตรตนานํ (ก. สี. สฺยา. กํ. ปี.) ฏีกายํ ทสฺสิตปาฬิเยว. อ. นิ. ๘.๔๒] อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรยฺย ¶ , เสยฺยถิทํ – องฺคานํ, มคธานํ, กาสีนํ, โกสลานํ, วชฺชีนํ, มลฺลานํ, เจตีนํ, วงฺคานํ, กุรูนํ, ปฺจาลานํ, มจฺฉานํ [มจฺจานํ (ก.)], สูรเสนานํ, อสฺสกานํ, อวนฺตีนํ, คนฺธารานํ, กมฺโพชานํ, อฏฺงฺคสมนฺนาคตสฺส อุโปสถสฺส เอตํ [เอกํ (ก.)] กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. ตํ กิสฺส เหตุ? กปณํ, วิสาเข, มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’.
‘‘ยานิ, วิสาเข, มานุสกานิ ปฺาส วสฺสานิ, จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว [รตฺติทิโว (ก.)]. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ปฺจ วสฺสสตานิ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ ¶ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.
‘‘ยํ ¶ , วิสาเข, มานุสกํ วสฺสสตํ, ตาวตึสานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพํ วสฺสสหสฺสํ ตาวตึสานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ¶ ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.
‘‘ยานิ, วิสาเข, มานุสกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ, ยามานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ทฺเว วสฺสสหสฺสานิ ยามานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ¶ ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.
‘‘ยานิ, วิสาเข, มานุสกานิ จตฺตาริ วสฺสสตานิ, ตุสิตานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ จตฺตาริ วสฺสสหสฺสานิ ตุสิตานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ¶ ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.
‘‘ยานิ, วิสาเข, มานุสกานิ อฏฺ วสฺสสตานิ, นิมฺมานรตีนํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ อฏฺ วสฺสสหสฺสานิ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ ¶ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.
‘‘ยานิ, วิสาเข, มานุสกานิ โสฬส วสฺสสตานิ, ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ ¶ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธายา’’’ติ.
‘‘ปาณํ ¶ น หฺเ [น หาเน (สี. ปี.), น หเน (ก.)] น จทินฺนมาทิเย,
มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;
อพฺรหฺมจริยา ¶ วิรเมยฺย เมถุนา,
รตฺตึ น ภฺุเชยฺย วิกาลโภชนํ.
‘‘มาลํ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร,
มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;
เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ,
พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิตํ.
‘‘จนฺโท จ สูริโย จ อุโภ สุทสฺสนา,
โอภาสยํ อนุปริยนฺติ ยาวตา;
ตโมนุทา เต ปน อนฺตลิกฺขคา,
นเภ ปภาสนฺติ ทิสาวิโรจนา.
‘‘เอตสฺมึ ยํ วิชฺชติ อนฺตเร ธนํ,
มุตฺตา มณิ เวฬุริยฺจ ภทฺทกํ;
สิงฺคี สุวณฺณํ อถ วาปิ กฺจนํ,
ยํ ชาตรูปํ หฏกนฺติ วุจฺจติ.
‘‘อฏฺงฺคุเปตสฺส ¶ อุโปสถสฺส,
กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสึ;
จนฺทปฺปภา ตารคณา จ สพฺเพ.
‘‘ตสฺมา ¶ หิ นารี จ นโร จ สีลวา,
อฏฺงฺคุเปตํ ¶ อุปวสฺสุโปสถํ;
ปฺุานิ กตฺวาน สุขุทฺรยานิ,
อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ าน’’นฺติ. ทสมํ;
มหาวคฺโค สตฺตโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
ติตฺถภยฺจ เวนาโค, สรโภ เกสมุตฺติยา;
สาฬฺโห จาปิ กถาวตฺถุ, ติตฺถิยมูลุโปสโถติ.