📜
(๘) ๓. อานนฺทวคฺโค
๑. ฉนฺนสุตฺตํ
๗๒. เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ฉนฺโน ปริพฺพาชโก เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ฉนฺโน ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ตุมฺเหปิ, อาวุโส อานนฺท, ราคสฺส ปหานํ ปฺาเปถ, โทสสฺส ปหานํ ปฺาเปถ, โมหสฺส ปหานํ ปฺาเปถาติ. มยํ โข, อาวุโส, ราคสฺส ปหานํ ปฺาเปม, โทสสฺส ปหานํ ¶ ปฺาเปม, โมหสฺส ปหานํ ปฺเปมา’’ติ.
‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, ราเค อาทีนวํ ทิสฺวา ราคสฺส ปหานํ ปฺาเปถ, กึ โทเส อาทีนวํ ทิสฺวา โทสสฺส ปหานํ ปฺาเปถ, กึ โมเห อาทีนวํ ทิสฺวา โมหสฺส ปหานํ ¶ ปฺาเปถา’’ติ?
‘‘รตฺโต ¶ โข, อาวุโส, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; ราเค ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. รตฺโต โข, อาวุโส, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ; ราเค ปหีเน เนว กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, น วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, น มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. รตฺโต โข, อาวุโส, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; ราเค ปหีเน อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ¶ ยถาภูตํ ปชานาติ. ราโค โข, อาวุโส, อนฺธกรโณ อจกฺขุกรโณ อฺาณกรโณ ปฺานิโรธิโก วิฆาตปกฺขิโก อนิพฺพานสํวตฺตนิโก.
‘‘ทุฏฺโ โข, อาวุโส, โทเสน…เป… มูฬฺโห โข, อาวุโส, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; โมเห ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ, น เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. มูฬฺโห โข, อาวุโส, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ ¶ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ; โมเห ปหีเน เนว กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, น วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, น มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. มูฬฺโห โข, อาวุโส, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โมเห ปหีเน ¶ อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, ปรตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ, อุภยตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปชานาติ. โมโห โข, อาวุโส, อนฺธกรโณ อจกฺขุกรโณ อฺาณกรโณ ปฺานิโรธิโก วิฆาตปกฺขิโก อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. อิทํ โข มยํ, อาวุโส, ราเค อาทีนวํ ทิสฺวา ราคสฺส ปหานํ ¶ ปฺาเปม. อิทํ โทเส อาทีนวํ ทิสฺวา โทสสฺส ปหานํ ปฺาเปม. อิทํ โมเห อาทีนวํ ทิสฺวา โมหสฺส ปหานํ ปฺาเปมา’’ติ.
‘‘อตฺถิ ปนาวุโส, มคฺโค อตฺถิ ปฏิปทา เอตสฺส ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส ปหานายา’’ติ? ‘‘อตฺถาวุโส, มคฺโค อตฺถิ ปฏิปทา เอตสฺส ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส ปหานายา’’ติ. ‘‘กตโม ปนาวุโส, มคฺโค กตมา ปฏิปทา เอตสฺส ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส ปหานายา’’ติ? ‘‘อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ. อยํ โข, อาวุโส, มคฺโค อยํ ปฏิปทา เอตสฺส ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส ปหานายา’’ติ. ‘‘ภทฺทโก โข, อาวุโส, มคฺโค ภทฺทิกา ปฏิปทา เอตสฺส ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส ปหานาย. อลฺจ ปนาวุโส อานนฺท, อปฺปมาทายา’’ติ. ปมํ.
๒. อาชีวกสุตฺตํ
๗๓. เอกํ ¶ ¶ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. อถ โข อฺตโร อาชีวกสาวโก คหปติ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส อาชีวกสาวโก คหปติ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ –
‘‘เกสํ โน, ภนฺเต อานนฺท, ธมฺโม สฺวากฺขาโต? เก โลเก สุปฺปฏิปนฺนา? เก โลเก สุกตา’’ติ [สุคตาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]? ‘‘เตน หิ, คหปติ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ, ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, เย ราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โทสสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โมหสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, เตสํ ธมฺโม สฺวากฺขาโต โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘เย ¶ , ภนฺเต, ราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โทสสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โมหสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, เตสํ ธมฺโม สฺวากฺขาโต. เอวํ เม เอตฺถ โหตี’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, เย ราคสฺส ปหานาย ปฏิปนฺนา, โทสสฺส ปหานาย ปฏิปนฺนา, โมหสฺส ปหานาย ปฏิปนฺนา, เต โลเก สุปฺปฏิปนฺนา ¶ โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘เย, ภนฺเต, ราคสฺส ปหานาย ปฏิปนฺนา, โทสสฺส ปหานาย ปฏิปนฺนา, โมหสฺส ปหานาย ปฏิปนฺนา, เต โลเก สุปฺปฏิปนฺนา. เอวํ เม เอตฺถ โหตี’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, เยสํ ราโค ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม, เยสํ โทโส ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม, เยสํ โมโห ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม, เต โลเก สุกตา โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘เยสํ, ภนฺเต, ราโค ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม, เยสํ โทโส ปหีโน…เป… เยสํ โมโห ปหีโน ¶ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม, เต โลเก สุกตา. เอวํ เม เอตฺถ โหตี’’ติ.
‘‘อิติ ¶ โข, คหปติ, ตยาเวตํ [ตยา เจตํ (สี. ปี. ก.)] พฺยากตํ – ‘เย, ภนฺเต, ราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โทสสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โมหสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, เตสํ ธมฺโม สฺวากฺขาโต’ติ. ตยาเวตํ พฺยากตํ – ‘เย, ภนฺเต, ราคสฺส ปหานาย ปฏิปนฺนา, โทสสฺส ปหานาย ปฏิปนฺนา, โมหสฺส ปหานาย ปฏิปนฺนา, เต โลเก สุปฺปฏิปนฺนา’ติ. ตยาเวตํ พฺยากตํ – ‘เยสํ, ภนฺเต, ราโค ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม, เยสํ โทโส ปหีโน…เป… เยสํ โมโห ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม, เต โลเก สุกตา’’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! น เจว นาม สธมฺมุกฺกํสนา ภวิสฺสติ, น จ ปรธมฺมาปสาทนา [น ปรธมฺมาปสาทนา (สี. ปี.), น ปรธมฺมวมฺภนา (ม. นิ. ๒.๒๓๖)]. อายตเนว [อายตเน จ (ม. นิ. ๒.๒๓๖)] ธมฺมเทสนา, อตฺโถ จ วุตฺโต, อตฺตา จ อนุปนีโต. ตุมฺเห, ภนฺเต อานนฺท, ราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสถ, โทสสฺส…เป… โมหสฺส ปหนาย ธมฺมํ ¶ เทเสถ. ตุมฺหากํ, ภนฺเต อานนฺท, ธมฺโม สฺวากฺขาโต. ตุมฺเห, ภนฺเต อานนฺท, ราคสฺส ปหานาย ¶ ปฏิปนฺนา, โทสสฺส…เป… โมหสฺส ¶ ปหานาย ปฏิปนฺนา. ตุมฺเห, ภนฺเต, โลเก สุปฺปฏิปนฺนา. ตุมฺหากํ, ภนฺเต อานนฺท, ราโค ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม, ตุมฺหากํ โทโส ปหีโน…เป… ตุมฺหากํ โมโห ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. ตุมฺเห โลเก สุกตา.
‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ อยฺเยน อานนฺเทน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต อานนฺท, ตํ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ อยฺโย อานนฺโท ธาเรตุ, อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ทุติยํ.
๓. มหานามสกฺกสุตฺตํ
๗๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา คิลานาวุฏฺิโต [คิลานวุฏฺิโต (สทฺทนีติ)] โหติ อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. อถ ¶ โข มหานาโม สกฺโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทีฆรตฺตาหํ, ภนฺเต, ภควตา เอวํ ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ – ‘สมาหิตสฺส าณํ, โน อสมาหิตสฺสา’ติ. สมาธิ นุ โข, ภนฺเต, ปุพฺเพ, ปจฺฉา าณํ; อุทาหุ าณํ ปุพฺเพ, ปจฺฉา สมาธี’’ติ? อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ภควา โข คิลานวุฏฺิโต อจิรวุฏฺิโต เคลฺา ¶ . อยฺจ มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ อติคมฺภีรํ ปฺหํ ปุจฺฉติ. ยํนูนาหํ มหานามํ สกฺกํ เอกมนฺตํ อปเนตฺวา ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท มหานามํ สกฺกํ พาหายํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ อปเนตฺวา มหานามํ สกฺกํ เอตทโวจ – ‘‘เสขมฺปิ โข, มหานาม, สีลํ วุตฺตํ ภควตา, อเสขมฺปิ สีลํ วุตฺตํ ภควตา; เสโขปิ สมาธิ วุตฺโต ภควตา ¶ , อเสโขปิ สมาธิ วุตฺโต ภควตา; เสขาปิ ปฺา วุตฺตา ภควตา, อเสขาปิ ปฺา วุตฺตา ภควตา. กตมฺจ, มหานาม ¶ , เสขํ สีลํ? อิธ, มหานาม, ภิกฺขุ สีลวา โหติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อิทํ วุจฺจติ, มหานาม, เสขํ สีลํ’’.
‘‘กตโม จ, มหานาม, เสโข สมาธิ? อิธ, มหานาม, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม, เสโข สมาธิ.
‘‘กตมา จ, มหานาม, เสขา ปฺา? อิธ, มหานาม, ภิกฺขุ อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ¶ อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม, เสขา ปฺา.
‘‘ส โข โส, มหานาม, อริยสาวโก เอวํ สีลสมฺปนฺโน เอวํ สมาธิสมฺปนฺโน เอวํ ปฺาสมฺปนฺโน อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, มหานาม, เสขมฺปิ สีลํ วุตฺตํ ภควตา, อเสขมฺปิ สีลํ วุตฺตํ ภควตา; เสโขปิ สมาธิ วุตฺโต ภควตา, อเสโขปิ สมาธิ วุตฺโต ภควตา; เสขาปิ ปฺา วุตฺตา ภควตา, อเสขาปิ ปฺา วุตฺตา ภควตา’’ติ. ตติยํ.
๔. นิคณฺสุตฺตํ
๗๕. เอกํ ¶ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข อภโย จ ลิจฺฉวิ ปณฺฑิตกุมารโก จ ลิจฺฉวิ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อภโย ลิจฺฉวิ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘นิคณฺโ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต [นาถปุตฺโต (สี. ปี.)] สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ – ‘จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ. โส ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวํ ปฺเปติ นวานํ กมฺมานํ อกรณา เสตุฆาตํ ¶ . อิติ กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย, ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย, เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสติ – เอวเมติสฺสา สนฺทิฏฺิกาย นิชฺชราย ¶ วิสุทฺธิยา สมติกฺกโม โหติ. อิธ, ภนฺเต, ภควา กิมาหา’’ติ?
‘‘ติสฺโส โข อิมา, อภย, นิชฺชรา วิสุทฺธิโย เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตา สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย. กตมา ติสฺโส? อิธ, อภย, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ. สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหีติ.
‘‘ส ¶ โข โส, อภย, ภิกฺขุ เอวํ สีลสมฺปนฺโน วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ. สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหีติ.
‘‘ส โข โส, อภย, ภิกฺขุ เอวํ สมาธิสมฺปนฺโน [เอวํ สีลสมฺปนฺโน เอวํ สมาธิสมฺปนฺโน (สี. สฺยา. กํ.)] อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ. สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหีติ. อิมา โข, อภย, ติสฺโส นิชฺชรา วิสุทฺธิโย เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตา สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต ปณฺฑิตกุมารโก ลิจฺฉวิ อภยํ ลิจฺฉวึ เอตทโวจ – ‘‘กึ ปน ตฺวํ, สมฺม อภย, อายสฺมโต อานนฺทสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมทสี’’ติ? ‘‘กฺยาหํ, สมฺม ปณฺฑิตกุมารก, อายสฺมโต อานนฺทสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต ¶ นาพฺภนุโมทิสฺสามิ! มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺย โย อายสฺมโต อานนฺทสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมเทยฺยา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. นิเวสกสุตฺตํ
๗๖. อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘เย, อานนฺท, อนุกมฺเปยฺยาถ เย จ โสตพฺพํ มฺเยฺยุํ มิตฺตา วา อมจฺจา วา าตี วา ¶ สาโลหิตา วา เต โว, อานนฺท, ตีสุ าเนสุ สมาทเปตพฺพา [สมาทาเปตพฺพา (?)] นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา. กตเมสุ ตีสุ? พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเท สมาทเปตพฺพา นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ; สตฺถา เทวมนุสฺสานํ, พุทฺโธ ภควา’ติ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเท สมาทเปตพฺพา นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเท สมาทเปตพฺพา นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’’ติ.
‘‘สิยา, อานนฺท, จตุนฺนํ มหาภูตานํ อฺถตฺตํ – ปถวีธาตุยา อาโปธาตุยา เตโชธาตุยา วาโยธาตุยา, น ตฺเวว พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตสฺส อริยสาวกสฺส สิยา อฺถตฺตํ ตตฺริทํ อฺถตฺตํ. โส วตานนฺท, พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต อริยสาวโก นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา เปตฺติวิสยํ วา อุปปชฺชิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
‘‘สิยา ¶ , อานนฺท, จตุนฺนํ มหาภูตานํ อฺถตฺตํ – ปถวีธาตุยา อาโปธาตุยา เตโชธาตุยา วาโยธาตุยา, น ตฺเวว ธมฺเม…เป… น ตฺเวว สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน ¶ สมนฺนาคตสฺส อริยสาวกสฺส สิยา อฺถตฺตํ ตตฺริทํ อฺถตฺตํ. โส วตานนฺท, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต ¶ อริยสาวโก นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา เปตฺติวิสยํ วา อุปปชฺชิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
‘‘เย, อานนฺท, อนุกมฺเปยฺยาถ เย จ โสตพฺพํ มฺเยฺยุํ มิตฺตา วา อมจฺจา วา าตี วา ¶ สาโลหิตา วา เต โว, อานนฺท, อิเมสุ ตีสุ าเนสุ สมาทเปตพฺพา นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา’’ติ. ปฺจมํ.
๖. ปมภวสุตฺตํ
๗๗. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภโว, ภโวติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ภโว โหตี’’ติ?
‘‘กามธาตุเวปกฺกฺจ, อานนฺท, กมฺมํ นาภวิสฺส, อปิ นุ โข กามภโว ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘อิติ โข, อานนฺท, กมฺมํ เขตฺตํ, วิฺาณํ พีชํ, ตณฺหา สฺเนโห [สิเนโห (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ หีนาย ธาตุยา วิฺาณํ ปติฏฺิตํ เอวํ อายตึ [อายติ (สี.)] ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ. ( ) [(เอวํ โข อานนฺท ภโว โหตีติ) (ก.) ทุติยสุตฺเต ปน อิทํ ปานานตฺตํ นตฺถิ]
‘‘รูปธาตุเวปกฺกฺจ, อานนฺท, กมฺมํ นาภวิสฺส, อปิ นุ โข รูปภโว ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘อิติ โข อานนฺท, กมฺมํ เขตฺตํ, วิฺาณํ พีชํ, ตณฺหา สฺเนโห. อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ มชฺฌิมาย ธาตุยา วิฺาณํ ปติฏฺิตํ เอวํ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ. ( ) [(เอวํ โข อานนฺท ภโว โหตีติ) (ก.) ทุติยสุตฺเต ปน อิทํ ปานานตฺตํ นตฺถิ]
‘‘อรูปธาตุเวปกฺกฺจ, อานนฺท, กมฺมํ นาภวิสฺส, อปิ ¶ นุ โข อรูปภโว ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน ¶ เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘อิติ โข, อานนฺท, กมฺมํ เขตฺตํ, วิฺาณํ พีชํ, ตณฺหา สฺเนโห. อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ ปณีตาย ธาตุยา วิฺาณํ ปติฏฺิตํ เอวํ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ. เอวํ โข, อานนฺท, ภโว โหตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ทุติยภวสุตฺตํ
๗๘. อถ ¶ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป… อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภโว, ภโวติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ภโว โหตี’’ติ?
‘‘กามธาตุเวปกฺกฺจ, อานนฺท, กมฺมํ นาภวิสฺส, อปิ นุ โข กามภโว ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ ภนฺเต’’. ‘‘อิติ โข, อานนฺท, กมฺมํ เขตฺตํ, วิฺาณํ พีชํ, ตณฺหา สฺเนโห. อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ หีนาย ธาตุยา เจตนา ปติฏฺิตา ปตฺถนา ปติฏฺิตา เอวํ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ’’.
‘‘รูปธาตุเวปกฺกฺจ, อานนฺท, กมฺมํ นาภวิสฺส, อปิ นุ โข รูปภโว ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘อิติ โข, อานนฺท, กมฺมํ เขตฺตํ, วิฺาณํ พีชํ, ตณฺหา สฺเนโห. อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ มชฺฌิมาย ธาตุยา เจตนา ปติฏฺิตา ปตฺถนา ปติฏฺิตา เอวํ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ’’.
‘‘อรูปธาตุเวปกฺกฺจ, อานนฺท, กมฺมํ นาภวิสฺส, อปิ นุ โข อรูปภโว ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘อิติ โข, อานนฺท, กมฺมํ ¶ เขตฺตํ, วิฺาณํ พีชํ, ตณฺหา สฺเนโห. อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ ปณีตาย ธาตุยา เจตนา ปติฏฺิตา ปตฺถนา ปติฏฺิตา เอวํ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ. เอวํ โข, อานนฺท, ภโว โหตี’’ติ. สตฺตมํ.
๘. สีลพฺพตสุตฺตํ
๗๙. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สพฺพํ นุ โข, อานนฺท, สีลพฺพตํ ชีวิตํ พฺรหฺมจริยํ อุปฏฺานสารํ สผล’’นฺติ? ‘‘น ขฺเวตฺถ, ภนฺเต, เอกํเสนา’’ติ. ‘‘เตน หานนฺท, วิภชสฺสู’’ติ.
‘‘ยฺหิสฺส ¶ [ยถารูปํ หิสฺส (?) เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตานุรูปํ], ภนฺเต, สีลพฺพตํ ชีวิตํ พฺรหฺมจริยํ อุปฏฺานสารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ สีลพฺพตํ ชีวิตํ ¶ พฺรหฺมจริยํ อุปฏฺานสารํ อผลํ. ยฺจ ขฺวาสฺส [ยฺหิสฺส (ก.), ยถารูปฺจ ขฺวาสฺส (?)], ภนฺเต, สีลพฺพตํ ชีวิตํ พฺรหฺมจริยํ อุปฏฺานสารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ สีลพฺพตํ ชีวิตํ พฺรหฺมจริยํ อุปฏฺานสารํ สผล’’นฺติ. อิทมโวจ อายสฺมา อานนฺโท; สมนฺุโ สตฺถา อโหสิ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ‘‘สมนฺุโ เม สตฺถา’’ติ, อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต อานนฺเท ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เสโข, ภิกฺขเว, อานนฺโท; น จ ปนสฺส สุลภรูโป สมสโม ปฺายา’’ติ. อฏฺมํ.
๙. คนฺธชาตสุตฺตํ
๘๐. อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ตีณิมานิ, ภนฺเต, คนฺธชาตานิ, เยสํ อนุวาตํเยว คนฺโธ คจฺฉติ, โน ปฏิวาตํ. กตมานิ ตีณิ? มูลคนฺโธ, สารคนฺโธ, ปุปฺผคนฺโธ – อิมานิ โข, ภนฺเต, ตีณิ คนฺธชาตานิ, เยสํ อนุวาตํเยว คนฺโธ คจฺฉติ, โน ปฏิวาตํ. อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต, กิฺจิ คนฺธชาตํ ยสฺส อนุวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉติ, ปฏิวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉติ, อนุวาตปฏิวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉตี’’ติ?
‘‘อตฺถานนฺท, กิฺจิ คนฺธชาตํ [อตฺถานนฺท คนฺธชาตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ยสฺส อนุวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉติ ¶ , ปฏิวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉติ, อนุวาตปฏิวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉตี’’ติ. ‘‘กตมฺจ ปน, ภนฺเต, คนฺธชาตํ ยสฺส อนุวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉติ, ปฏิวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉติ, อนุวาตปฏิวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉตี’’ติ?
‘‘อิธานนฺท ¶ , ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา ปุริโส วา พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ ¶ , สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต.
‘‘ตสฺส ทิสาสุ สมณพฺราหฺมณา วณฺณํ ภาสนฺติ – ‘อมุกสฺมึ [อสุกสฺมึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา ปุริโส วา พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ ¶ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’’’ติ.
‘‘เทวตาปิสฺส [เทวตาปิสฺส อมนุสฺสา (สี. ปี.), เทวตาปิสฺส อมนุสฺสาปิ (ก.), เทวตาปิสฺส…เป… มนุสฺสาปิสฺส (?)] วณฺณํ ภาสนฺติ – ‘อมุกสฺมึ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา ปุริโส วา พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’ติ. อิทํ โข ตํ, อานนฺท, คนฺธชาตํ ยสฺส อนุวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉติ, ปฏิวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉติ, อนุวาตปฏิวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉตี’’ติ.
‘‘น ปุปฺผคนฺโธ ปฏิวาตเมติ,
น จนฺทนํ ตครมลฺลิกา [ตคฺครมลฺลิกา (ปี.)] วา;
สตฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ,
สพฺพา ทิสา สปฺปุริโส ปวายตี’’ติ. นวมํ;
๑๐. จูฬนิกาสุตฺตํ
๘๑. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ ¶ . เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สมฺมุขาเมตํ, ภนฺเต, ภควโต ¶ สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ภควโต, อานนฺท, สิขิสฺส อภิภู นาม สาวโก พฺรหฺมโลเก ิโต สหสฺสิโลกธาตุํ [สหสฺสีโลกธาตุํ (ปี.) สํ. นิ. ๑.๑๘๕ วิตฺถาโร] สเรน วิฺาเปสี’ติ. ภควา ปน, ภนฺเต, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กีวตกํ ปโหติ สเรน ¶ วิฺาเปตุ’’นฺติ? ‘‘สาวโก โส, อานนฺท, อปฺปเมยฺยา ตถาคตา’’ติ.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ภควโต, อานนฺท, สิขิสฺส อภิภู นาม สาวโก พฺรหฺมโลเก ิโต สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปสี’ติ. ภควา ปน, ภนฺเต, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กีวตกํ ปโหติ สเรน วิฺาเปตุ’’นฺติ? ‘‘สาวโก โส, อานนฺท, อปฺปเมยฺยา ตถาคตา’’ติ.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สมฺมุขาเมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ภควโต, อานนฺท, สิขิสฺส อภิภู นาม สาวโก พฺรหฺมโลเก ิโต สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปสี’ติ. ภควา ปน, ภนฺเต, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กีวตกํ ปโหติ สเรน วิฺาเปตุ’’นฺติ? ‘‘สุตา เต, อานนฺท, สหสฺสี จูฬนิกา โลกธาตู’’ติ? ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล! ยํ ภควา ภาเสยฺย. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตนหานนฺท, สุณาหิ สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ยาวตา, อานนฺท, จนฺทิมสูริยา [จนฺทิมสุริยา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปริหรนฺติ, ทิสา ภนฺติ วิโรจนา, ตาว สหสฺสธา โลโก. ตสฺมึ สหสฺสธา โลเก สหสฺสํ [ตสฺมึ สหสฺสํ (สฺยา. กํ. ปี.)] จนฺทานํ, สหสฺสํ สูริยานํ, สหสฺสํ สิเนรุปพฺพตราชานํ, สหสฺสํ ชมฺพุทีปานํ, สหสฺสํ อปรโคยานานํ, สหสฺสํ อุตฺตรกุรูนํ, สหสฺสํ ปุพฺพวิเทหานํ, จตฺตาริ มหาสมุทฺทสหสฺสานิ, จตฺตาริ มหาราชสหสฺสานิ, สหสฺสํ จาตุมหาราชิกานํ, สหสฺสํ ตาวตึสานํ ¶ , สหสฺสํ ยามานํ ¶ , สหสฺสํ ตุสิตานํ, สหสฺสํ นิมฺมานรตีนํ, สหสฺสํ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ, สหสฺสํ พฺรหฺมโลกานํ – อยํ วุจฺจตานนฺท, สหสฺสี จูฬนิกา โลกธาตุ.
‘‘ยาวตานนฺท ¶ ¶ , สหสฺสี จูฬนิกา โลกธาตุ ตาว สหสฺสธา โลโก. อยํ วุจฺจตานนฺท, ทฺวิสหสฺสี มชฺฌิมิกา โลกธาตุ.
‘‘ยาวตานนฺท, ทฺวิสหสฺสี มชฺฌิมิกา โลกธาตุ ตาว สหสฺสธา โลโก. อยํ วุจฺจตานนฺท, ติสหสฺสี มหาสหสฺสี โลกธาตุ.
‘‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ [ติสหสฺสิ มหาสหสฺสึ โลกธาตุํ (สฺยา. กํ.), ติสหสฺสีมหาสหสฺสีโลกธาตุํ (ปี.)] สเรน วิฺาเปยฺย, ยาวตา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ.
‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, ภควา ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปยฺย, ยาวตา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ตถาคโต ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ โอภาเสน ผเรยฺย. ยทา เต สตฺตา ตํ อาโลกํ สฺชาเนยฺยุํ, อถ ตถาคโต โฆสํ กเรยฺย สทฺทมนุสฺสาเวยฺย. เอวํ โข, อานนฺท, ตถาคโต ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปยฺย, ยาวตา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท (อายสฺมนฺตํ อุทายึ) [(ภควนฺตํ) (สี.), ( ) นตฺถิ สฺยา. กํ. โปตฺถเกสุ. อฏฺกถาย สเมติ] เอตทโวจ – ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม สตฺถา เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’’ติ. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กึ ตุยฺเหตฺถ, อาวุโส อานนฺท, ยทิ เต สตฺถา เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’’ติ? เอวํ วุตฺเต ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายึ เอตทโวจ – ‘‘มา เหวํ, อุทายิ, มา เหวํ, อุทายิ. สเจ, อุทายิ, อานนฺโท อวีตราโค กาลํ กเรยฺย, เตน จิตฺตปฺปสาเทน สตฺตกฺขตฺตุํ เทเวสุ เทวรชฺชํ กาเรยฺย, สตฺตกฺขตฺตุํ ¶ อิมสฺมึเยว ชมฺพุทีเป มหารชฺชํ กาเรยฺย. อปิ จ, อุทายิ, อานนฺโท ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ. ทสมํ.
อานนฺทวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ฉนฺโน อาชีวโก สกฺโก, นิคณฺโ จ นิเวสโก;
ทุเว ภวา สีลพฺพตํ, คนฺธชาตฺจ จูฬนีติ.