📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
องฺคุตฺตรนิกาโย
จตุกฺกนิปาตปาฬิ
๑. ปมปณฺณาสกํ
๑. ภณฺฑคามวคฺโค
๑. อนุพุทฺธสุตฺตํ
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา วชฺชีสุ วิหรติ ภณฺฑคาเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ ¶ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. กตเมสํ จตุนฺนํ? อริยสฺส, ภิกฺขเว, สีลสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. อริยสฺส, ภิกฺขเว, สมาธิสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. อริยาย, ภิกฺขเว, ปฺาย อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ ¶ . อริยาย, ภิกฺขเว, วิมุตฺติยา อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, อริยํ สีลํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, อริโย สมาธิ อนุพุทฺโธ ปฏิวิทฺโธ, อริยา ปฺา อนุพุทฺธา ปฏิวิทฺธา, อริยา วิมุตฺติ อนุพุทฺธา ปฏิวิทฺธา, อุจฺฉินฺนา ภวตณฺหา, ขีณา ภวเนตฺติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.
อิทมโวจ ¶ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘สีลํ ¶ สมาธิ ปฺา จ, วิมุตฺติ จ อนุตฺตรา;
อนุพุทฺธา อิเม ธมฺมา, โคตเมน ยสสฺสินา.
‘‘อิติ พุทฺโธ อภิฺาย, ธมฺมมกฺขาสิ ภิกฺขุนํ;
ทุกฺขสฺสนฺตกโร สตฺถา, จกฺขุมา ปรินิพฺพุโต’’ติ. ปมํ;
๒. ปปติตสุตฺตํ
๒. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ. กตเมหิ จตูหิ? อริเยน, ภิกฺขเว, สีเลน อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริเยน, ภิกฺขเว, สมาธินา อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริยาย, ภิกฺขเว, ปฺาย อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริยาย, ภิกฺขเว, วิมุตฺติยา อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ [อปฺปปติโตติ (ก.)] วุจฺจติ. กตเมหิ จตูหิ? อริเยน, ภิกฺขเว, สีเลน สมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริเยน, ภิกฺขเว, สมาธินา สมนฺนาคโต ¶ ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริยาย, ภิกฺขเว, ปฺาย สมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริยาย, ภิกฺขเว, วิมุตฺติยา สมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ วุจฺจติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘จุตา ปตนฺติ ปติตา, คิทฺธา จ ปุนราคตา;
กตํ กิจฺจํ รตํ รมฺมํ, สุเขนานฺวาคตํ สุข’’นฺติ. ทุติยํ;
๓. ปมขตสุตฺตํ
๓. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต [อวฺยตฺโต (สี. ปี.)] อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ ¶ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ. กตเมหิ จตูหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ.
‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต [วฺยตฺโต (สี. ปี.), พฺยตฺโต (สฺยา. กํ.)] สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวติ. กตเมหิ จตูหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ ¶ , อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ ¶ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวตี’’ติ.
[สุ. นิ. ๖๖๓; สํ. นิ. ๑.๑๘๐] ‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ,
ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;
วิจินาติ มุเขน โส กลึ,
กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.
[สุ. นิ. ๖๖๓; สํ. นิ. ๑.๑๘๐] ‘‘อปฺปมตฺโต อยํ กลิ,
โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;
สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา,
อยเมว มหนฺตตโร กลิ;
โย สุคเตสุ มนํ ปโทสเย.
‘‘สตํ ¶ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ,
ฉตฺตึสตี ปฺจ จ อพฺพุทานิ;
ยมริยครหี ¶ [ยมริยํ ครหีย (สฺยา. กํ.)] นิรยํ อุเปติ,
วาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปก’’นฺติ. ตติยํ;
๔. ทุติยขตสุตฺตํ
๔. ‘‘จตูสุ, ภิกฺขเว, มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ. กตเมสุ จตูสุ? มาตริ, ภิกฺขเว, มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ. ปิตริ, ภิกฺขเว, มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน…เป… ตถาคเต ¶ , ภิกฺขเว, มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน…เป… ตถาคตสาวเก, ภิกฺขเว, มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ ¶ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, จตูสุ มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ.
‘‘จตูสุ, ภิกฺขเว, สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวติ. กตเมสุ จตูสุ? มาตริ, ภิกฺขเว, สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวติ. ปิตริ, ภิกฺขเว, สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน…เป… ตถาคเต, ภิกฺขเว, สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน…เป… ตถาคตสาวเก, ภิกฺขเว, สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวติ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, จตูสุ สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวตี’’ติ.
‘‘มาตริ ¶ ปิตริ จาปิ, โย มิจฺฉา ปฏิปชฺชติ;
ตถาคเต วา สมฺพุทฺเธ, อถ วา ตสฺส สาวเก;
พหฺุจ ¶ ¶ โส ปสวติ, อปฺุํ ตาทิโส นโร.
‘‘ตาย นํ อธมฺมจริยาย [ตาย อธมฺมจริยาย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], มาตาปิตูสุ ปณฺฑิตา;
อิเธว นํ ครหนฺติ, เปจฺจาปายฺจ คจฺฉติ.
‘‘มาตริ ปิตริ จาปิ, โย สมฺมา ปฏิปชฺชติ;
ตถาคเต วา สมฺพุทฺเธ, อถ วา ตสฺส สาวเก;
พหฺุจ โส ปสวติ, ปฺุํ เอตาทิโส [ปฺุมฺปิ ตาทิโส (สี. สฺยา. กํ.)] นโร.
‘‘ตาย นํ ธมฺมจริยาย, มาตาปิตูสุ ปณฺฑิตา;
อิเธว [อิธ เจว (สี.)] นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ [สคฺเค จ โมทตีติ (สี.)]. จตุตฺถํ;
๕. อนุโสตสุตฺตํ
๕. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อนุโสตคามี ปุคฺคโล, ปฏิโสตคามี ปุคฺคโล, ิตตฺโต ปุคฺคโล, ติณฺโณ ปารงฺคโต [ปารคโต (สี. สฺยา. กํ.)] ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ. กตโม จ, ภิกฺขเว, อนุโสตคามี ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล กาเม จ ปฏิเสวติ, ปาปฺจ กมฺมํ กโรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุโสตคามี ปุคฺคโล.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปฏิโสตคามี ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล กาเม จ นปฺปฏิเสวติ, ปาปฺจ กมฺมํ น กโรติ, สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน อสฺสุมุโขปิ รุทมาโน ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิโสตคามี ปุคฺคโล.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ิตตฺโต ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ¶ โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี, อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ิตตฺโต ปุคฺคโล.
‘‘กตโม ¶ จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ.
‘‘เย เกจิ กาเมสุ อสฺตา ชนา,
อวีตราคา อิธ กามโภคิโน;
ปุนปฺปุนํ ชาติชรูปคามิ เต [ชาติชรูปคาหิโน (สี.), ชาติชรูปคา หิ เต (สฺยา. กํ.)],
ตณฺหาธิปนฺนา อนุโสตคามิโน.
‘‘ตสฺมา ¶ หิ ธีโร อิธุปฏฺิตสฺสตี,
กาเม จ ปาเป จ อเสวมาโน;
สหาปิ ทุกฺเขน ชเหยฺย กาเม,
ปฏิโสตคามีติ ตมาหุ ปุคฺคลํ.
‘‘โย เว กิเลสานิ ปหาย ปฺจ,
ปริปุณฺณเสโข อปริหานธมฺโม;
เจโตวสิปฺปตฺโต สมาหิตินฺทฺริโย,
ส เว ิตตฺโตติ นโร ปวุจฺจติ.
‘‘ปโรปรา ¶ ยสฺส สเมจฺจ ธมฺมา,
วิธูปิตา อตฺถคตา น สนฺติ;
ส เว มุนิ [ส เวทคู (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วุสิตพฺรหฺมจริโย,
โลกนฺตคู ปารคโตติ วุจฺจตี’’ติ. ปฺจมํ;
๖. อปฺปสฺสุตสุตฺตํ
๖. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อปฺปสฺสุโต สุเตน อนุปปนฺโน, อปฺปสฺสุโต สุเตน อุปปนฺโน, พหุสฺสุโต สุเตน อนุปปนฺโน, พหุสฺสุโต สุเตน อุปปนฺโน. กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน ¶ ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส อปฺปกํ สุตํ โหติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส อปฺปกสฺส สุตสฺส น อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย [น ธมฺมมฺาย (ปี. ก.)] ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส อปฺปกํ สุตํ โหติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ ¶ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส อปฺปกสฺส สุตสฺส อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกํ สุตํ โหติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส พหุกสฺส สุตสฺส น อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ¶ [น ธมฺมมฺาย (ปี.)] ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกํ สุตํ โหติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส พหุกสฺส สุตสฺส อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ.
‘‘อปฺปสฺสุโตปิ เจ โหติ, สีเลสุ อสมาหิโต;
อุภเยน นํ ครหนฺติ, สีลโต จ สุเตน จ.
‘‘อปฺปสฺสุโตปิ เจ โหติ, สีเลสุ สุสมาหิโต;
สีลโต นํ ปสํสนฺติ, ตสฺส สมฺปชฺชเต สุตํ.
‘‘พหุสฺสุโตปิ ¶ เจ โหติ, สีเลสุ อสมาหิโต;
สีลโต นํ ครหนฺติ, นาสฺส สมฺปชฺชเต สุตํ.
‘‘พหุสฺสุโตปิ ¶ เจ โหติ, สีเลสุ สุสมาหิโต;
อุภเยน นํ ปสํสนฺติ, สีลโต จ สุเตน จ.
‘‘พหุสฺสุตํ ¶ ธมฺมธรํ, สปฺปฺํ พุทฺธสาวกํ;
เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสว, โก ตํ นินฺทิตุมรหติ;
เทวาปิ นํ ปสํสนฺติ, พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโต’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. โสภนสุตฺตํ
๗. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ¶ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สงฺฆํ โสเภนฺติ. กตเม จตฺตาโร? ภิกฺขุ, ภิกฺขเว, วิยตฺโต วินีโต วิสารโท พหุสฺสุโต ธมฺมธโร ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สงฺฆํ โสเภติ. ภิกฺขุนี, ภิกฺขเว, วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สงฺฆํ โสเภติ. อุปาสโก, ภิกฺขเว, วิยตฺโต วินีโต วิสารโท พหุสฺสุโต ธมฺมธโร ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สงฺฆํ โสเภติ. อุปาสิกา, ภิกฺขเว, วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สงฺฆํ โสเภติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สงฺฆํ โสเภนฺตี’’ติ.
‘‘โย โหติ วิยตฺโต [วฺยตฺโต (สี. ปี.), พฺยตฺโต (สฺยา. กํ.)] จ วิสารโท จ,
พหุสฺสุโต ธมฺมธโร จ โหติ;
ธมฺมสฺส โหติ อนุธมฺมจารี,
ส ตาทิโส วุจฺจติ สงฺฆโสภโน [สํฆโสภโณ (ก.)].
‘‘ภิกฺขุ จ สีลสมฺปนฺโน, ภิกฺขุนี จ พหุสฺสุตา;
อุปาสโก จ โย สทฺโธ, ยา จ สทฺธา อุปาสิกา;
เอเต โข สงฺฆํ โสเภนฺติ, เอเต หิ สงฺฆโสภนา’’ติ. สตฺตมํ;
๘. เวสารชฺชสุตฺตํ
๘. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส เวสารชฺชานิ, เยหิ เวสารชฺเชหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ ¶ , ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ. กตมานิ ¶ จตฺตาริ? ‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’ติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ ¶ . เอตมหํ [เอตมฺปหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ.
‘‘‘ขีณาสวสฺส เต ปฏิชานโต อิเม อาสวา อปริกฺขีณา’ติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ. เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ.
‘‘‘เย โข ปน เต อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’ติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ. เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ.
‘‘‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ. เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ตถาคตสฺส เวสารชฺชานิ, เยหิ เวสารชฺเชหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติ.
‘‘เย ¶ เกจิเม วาทปถา ปุถุสฺสิตา,
ยํ ¶ นิสฺสิตา สมณพฺราหฺมณา จ;
ตถาคตํ ปตฺวา น เต ภวนฺติ,
วิสารทํ วาทปถาติวตฺตํ [วาทปถาภิวตฺตินํ (สี.), วาทปถาติ วุตฺตํ (ปี. ก.)].
‘‘โย ธมฺมจกฺกํ อภิภุยฺย เกวลี [เกวลํ (สฺยา.), เกวโล (ก.)],
ปวตฺตยี สพฺพภูตานุกมฺปี;
ตํ ¶ ตาทิสํ เทวมนุสฺสเสฏฺํ,
สตฺตา นมสฺสนฺติ ภวสฺส ปารคุ’’นฺติ. อฏฺมํ;
๙. ตณฺหุปฺปาทสุตฺตํ
๙. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ตณฺหุปฺปาทา ยตฺถ ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ. กตเม จตฺตาโร? จีวรเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; ปิณฺฑปาตเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; เสนาสนเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; อิติภวาภวเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ตณฺหุปฺปาทา ยตฺถ ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘ตณฺหา ทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตติ.
‘‘เอวมาทีนวํ ตฺวา, ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ [อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕]. นวมํ;
๑๐. โยคสุตฺตํ
๑๐. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, โยคา. กตเม จตฺตาโร? กามโยโค, ภวโยโค, ทิฏฺิโยโค, อวิชฺชาโยโค. กตโม จ, ภิกฺขเว, กามโยโค? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กามานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ [อตฺถคมฺจ (สี. ปี.)] อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส ¶ กามานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต [นปฺปชานโต (สฺยา. กํ. ก.)] โย กาเมสุ กามราโค กามนนฺที [กามนนฺทิ (สี. สฺยา. กํ.)] กามสฺเนโห กามมุจฺฉา กามปิปาสา กามปริฬาโห กามชฺโฌสานํ กามตณฺหา สานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กามโยโค. อิติ กามโยโค.
‘‘ภวโยโค ¶ จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ภวานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส ภวานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต โย ภเวสุ ภวราโค ภวนนฺที ภวสฺเนโห ภวมุจฺฉา ภวปิปาสา ภวปริฬาโห ภวชฺโฌสานํ ภวตณฺหา สานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภวโยโค. อิติ กามโยโค ภวโยโค.
‘‘ทิฏฺิโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทิฏฺีนํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส ทิฏฺีนํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต โย ¶ ทิฏฺีสุ ทิฏฺิราโค ทิฏฺินนฺที ทิฏฺิสฺเนโห ทิฏฺิมุจฺฉา ทิฏฺิปิปาสา ทิฏฺิปริฬาโห ทิฏฺิชฺโฌสานํ [ทิฏฺิอชฺโฌสานํ (สี. ปี.)] ทิฏฺิตณฺหา สานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทิฏฺิโยโค. อิติ กามโยโค ภวโยโค ทิฏฺิโยโค.
‘‘อวิชฺชาโยโค ¶ จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต ยา ฉสุ ผสฺสายตเนสุ อวิชฺชา อฺาณํ สานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาโยโค. อิติ กามโยโค ภวโยโค ทิฏฺิโยโค อวิชฺชาโยโค, สํยุตฺโต ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สํกิเลสิเกหิ โปโนภวิเกหิ [โปโน พฺภวิเกหิ (สฺยา. ก.)] สทเรหิ ทุกฺขวิปาเกหิ อายตึ ชาติชรามรณิเกหิ. ตสฺมา อโยคกฺเขมีติ วุจฺจติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร โยคา.
‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, วิสํโยคา. กตเม จตฺตาโร? กามโยควิสํโยโค, ภวโยควิสํโยโค, ทิฏฺิโยควิสํโยโค, อวิชฺชาโยควิสํโยโค. กตโม จ, ภิกฺขเว, กามโยควิสํโยโค? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กามานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส กามานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานโต โย กาเมสุ กามราโค กามนนฺที กามสฺเนโห กามมุจฺฉา กามปิปาสา กามปริฬาโห กามชฺโฌสานํ กามตณฺหา สา นานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กามโยควิสํโยโค. อิติ กามโยควิสํโยโค.
‘‘ภวโยควิสํโยโค ¶ จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ภวานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส ภวานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ¶ ยถาภูตํ ปชานโต โย ภเวสุ ภวราโค ภวนนฺที ภวสฺเนโห ภวมุจฺฉา ภวปิปาสา ภวปริฬาโห ภวชฺโฌสานํ ภวตณฺหา สา นานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภวโยควิสํโยโค. อิติ กามโยควิสํโยโค ภวโยควิสํโยโค.
‘‘ทิฏฺิโยควิสํโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทิฏฺีนํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ¶ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส ทิฏฺีนํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานโต โย ทิฏฺีสุ ทิฏฺิราโค ทิฏฺินนฺที ทิฏฺิสฺเนโห ทิฏฺิมุจฺฉา ทิฏฺิปิปาสา ทิฏฺิปริฬาโห ทิฏฺิชฺโฌสานํ ทิฏฺิตณฺหา สา นานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทิฏฺิโยควิสํโยโค. อิติ กามโยควิสํโยโค ภวโยควิสํโยโค ทิฏฺิโยควิสํโยโค.
‘‘อวิชฺชาโยควิสํโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานโต ยา ฉสุ ผสฺสายตเนสุ อวิชฺชา อฺาณํ สา นานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาโยควิสํโยโค ¶ . อิติ กามโยควิสํโยโค ภวโยควิสํโยโค ทิฏฺิโยควิสํโยโค อวิชฺชาโยควิสํโยโค, วิสํยุตฺโต ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สํกิเลสิเกหิ โปโนภวิเกหิ สทเรหิ ทุกฺขวิปาเกหิ อายตึ ชาติชรามรณิเกหิ. ตสฺมา โยคกฺเขมีติ วุจฺจติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วิสํโยคา’’ติ.
‘‘กามโยเคน ¶ สํยุตฺตา, ภวโยเคน จูภยํ;
ทิฏฺิโยเคน สํยุตฺตา, อวิชฺชาย ปุรกฺขตา.
‘‘สตฺตา คจฺฉนฺติ สํสารํ, ชาติมรณคามิโน;
เย จ กาเม ปริฺาย, ภวโยคฺจ สพฺพโส.
‘‘ทิฏฺิโยคํ ¶ สมูหจฺจ, อวิชฺชฺจ วิราชยํ;
สพฺพโยควิสํยุตฺตา, เต เว โยคาติคา มุนี’’ติ. ทสมํ;
ภณฺฑคามวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
อนุพุทฺธํ ปปติตํ ทฺเว, ขตา อนุโสตปฺจมํ;
อปฺปสฺสุโต ¶ จ โสภนํ, เวสารชฺชํ ตณฺหาโยเคน เต ทสาติ.