📜

๒. จรวคฺโค

๑. จรสุตฺตํ

๑๑. [อิติวุ. ๑๑๐] ‘‘จรโต เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ อธิวาเสติ, นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ [พฺยนฺติกโรติ (ปี.), พฺยนฺตึ กโรติ (ก.)] น อนภาวํ คเมติ, จรมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโย’ติ วุจฺจติ.

‘‘ิตสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ อธิวาเสติ, นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ, ิโตปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโย’ติ วุจฺจติ.

‘‘นิสินฺนสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ อธิวาเสติ, นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ, นิสินฺโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโย’ติ วุจฺจติ.

‘‘สยานสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ชาครสฺส อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ อธิวาเสติ, นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ, สยาโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคโร เอวํภูโต ‘อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโย’ติ วุจฺจติ.

‘‘จรโต เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ นาธิวาเสติ, ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, จรมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.

‘‘ิตสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ นาธิวาเสติ, ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, ิโตปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.

‘‘นิสินฺนสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ นาธิวาเสติ, ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, นิสินฺโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.

‘‘สยานสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ชาครสฺส อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ นาธิวาเสติ, ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, สยาโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคโร เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจตี’’ติ.

‘‘จรํ วา ยทิ วา ติฏฺํ, นิสินฺโน อุท วา สยํ;

โย วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, ปาปกํ เคหนิสฺสิตํ.

‘‘กุมฺมคฺคปฺปฏิปนฺโน โส, โมหเนยฺเยสุ มุจฺฉิโต;

อภพฺโพ ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตมํ.

‘‘โย จ จรํ วา ติฏฺํ วา, นิสินฺโน อุท วา สยํ;

วิตกฺกํ สมยิตฺวาน, วิตกฺกูปสเม รโต;

ภพฺโพ โส ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตม’’นฺติ. ปมํ;

๒. สีลสุตฺตํ

๑๒. ‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถ สมฺปนฺนปาติโมกฺขา, ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา วิหรถ อาจารโคจรสมฺปนฺนา อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวิโน. สมาทาย สิกฺขถ สิกฺขาปเทสุ. สมฺปนฺนสีลานํ โว, ภิกฺขเว, วิหรตํ สมฺปนฺนปาติโมกฺขานํ ปาติโมกฺขสํวรสํวุตานํ วิหรตํ อาจารโคจรสมฺปนฺนานํ อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีนํ สมาทาย สิกฺขตํ สิกฺขาปเทสุ กิมสฺส อุตฺตริ กรณียํ?

‘‘จรโต เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌาพฺยาปาโท วิคโต โหติ, ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ, จรมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.

‘‘ิตสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌาพฺยาปาโท วิคโต โหติ, ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ, ิโตปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.

‘‘นิสินฺนสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌาพฺยาปาโท วิคโต โหติ, ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ, นิสินฺโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.

‘‘สยานสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ชาครสฺส อภิชฺฌาพฺยาปาโท วิคโต โหติ, ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ, สยาโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคโร เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจตี’’ติ.

‘‘ยตํ [ยถา (ก.) อิติวุ. ๑๑๑] จเร ยตํ [ยถา (ก.) อิติวุ. ๑๑๑] ติฏฺเ, ยตํ [ยถา (ก.) อิติวุ. ๑๑๑] อจฺเฉ ยตํ [ยถา (ก.) อิติวุ. ๑๑๑] สเย;

ยตํ [ยถา (ก.) อิติวุ. ๑๑๑] สมิฺชเย [สมฺมิฺชเย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภิกฺขุ, ยตเมนํ [ยตเมว นํ (สี.), ยตเมตํ (สฺยา. กํ.), ยตเมว (?)] ปสารเย.

‘‘อุทฺธํ ติริยํ อปาจีนํ, ยาวตา ชคโต คติ;

สมเวกฺขิตา จ ธมฺมานํ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ.

‘‘เจโตสมถสามีจึ, สิกฺขมานํ สทา สตํ;

สตตํ ปหิตตฺโตติ, อาหุ ภิกฺขุํ ตถาวิธ’’นฺติ. ทุติยํ;

๓. ปธานสุตฺตํ

๑๓. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, สมฺมปฺปธานานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ สมฺมปฺปธานานี’’ติ.

‘‘สมฺมปฺปธานา มารเธยฺยาภิภูตา,

เต อสิตา ชาติมรณภยสฺส ปารคู;

เต ตุสิตา เชตฺวา มารํ สวาหินึ [สวาหนํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] เต อเนชา,

สพฺพํ นมุจิพลํ อุปาติวตฺตา เต สุขิตา’’ติ. ตติยํ;

๔. สํวรสุตฺตํ

๑๔. ‘‘จตฺตาริมานิ , ภิกฺขเว, ปธานานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวรปฺปธานํ, ปหานปฺปธานํ, ภาวนาปฺปธานํ, อนุรกฺขณาปฺปธานํ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, สํวรปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ , ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี, ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สํวรปฺปธานํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปหานปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ; อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปหานปฺปธานํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาปฺปธานํ.

‘‘กตมฺจ , ภิกฺขเว, อนุรกฺขณาปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ ภทฺทกํ สมาธินิมิตฺตํ อนุรกฺขติ อฏฺิกสฺํ ปุฬวกสฺํ วินีลกสฺํ วิจฺฉิทฺทกสฺํ อุทฺธุมาตกสฺํ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุรกฺขณาปฺปธานํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ปธานานี’’ติ.

‘‘สํวโร จ ปหานฺจ, ภาวนา อนุรกฺขณา;

เอเต ปธานา จตฺตาโร, เทสิตาทิจฺจพนฺธุนา;

เยหิ ภิกฺขุ อิธาตาปี, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ’’ติ. จตุตฺถํ;

๕. ปฺตฺติสุตฺตํ

๑๕. ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, อคฺคปฺตฺติโย. กตมา จตสฺโส? เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อตฺตภาวีนํ ยทิทํ – ราหุ อสุรินฺโท. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, กามโภคีนํ ยทิทํ – ราชา มนฺธาตา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อาธิปเตยฺยานํ ยทิทํ – มาโร ปาปิมา. สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส อคฺคปฺตฺติโย’’ติ.

‘‘ราหุคฺคํ อตฺตภาวีนํ, มนฺธาตา กามโภคินํ;

มาโร อาธิปเตยฺยานํ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ.

‘‘อุทฺธํ ติริยํ อปาจีนํ, ยาวตา ชคโต คติ;

สเทวกสฺส โลกสฺส, พุทฺโธ อคฺโค ปวุจฺจตี’’ติ. ปฺจมํ;

๖. โสขุมฺมสุตฺตํ

๑๖. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, โสขุมฺมานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปโสขุมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ ปรเมน; เตน จ รูปโสขุมฺเมน อฺํ รูปโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสติ; เตน จ รูปโสขุมฺเมน อฺํ รูปโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. เวทนาโสขุมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ ปรเมน; เตน จ เวทนาโสขุมฺเมน อฺํ เวทนาโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสติ; เตน จ เวทนาโสขุมฺเมน อฺํ เวทนาโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. สฺาโสขุมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ ปรเมน; เตน จ สฺาโสขุมฺเมน อฺํ สฺาโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสติ; เตน จ สฺาโสขุมฺเมน อฺํ สฺาโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. สงฺขารโสขุมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ ปรเมน; เตน จ สงฺขารโสขุมฺเมน อฺํ สงฺขารโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสติ; เตน จ สงฺขารโสขุมฺเมน อฺํ สงฺขารโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ โสขุมฺมานี’’ติ.

‘‘รูปโสขุมฺมตํ ตฺวา, เวทนานฺจ สมฺภวํ;

สฺา ยโต สมุเทติ, อตฺถํ คจฺฉติ ยตฺถ จ;

สงฺขาเร ปรโต ตฺวา, ทุกฺขโต โน จ อตฺตโต.

‘‘ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, สนฺโต สนฺติปเท รโต;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ. ฉฏฺํ;

๗. ปมอคติสุตฺตํ

๑๗. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, โทสาคตึ คจฺฉติ, โมหาคตึ คจฺฉติ, ภยาคตึ คจฺฉติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อคติคมนานี’’ติ.

‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;

นิหียติ ตสฺส ยโส, กาฬปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ. สตฺตมํ;

๘. ทุติยอคติสุตฺตํ

๑๘. ‘‘จตฺตาริมานิ , ภิกฺขเว, นาคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ นาคติคมนานี’’ติ.

‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ นาติวตฺตติ;

อาปูรติ ตสฺส ยโส, สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ. อฏฺมํ;

๙. ตติยอคติสุตฺตํ

๑๙. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ , โทสาคตึ คจฺฉติ, โมหาคตึ คจฺฉติ, ภยาคตึ คจฺฉติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อคติคมนานิ.

‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, นาคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ นาคติคมนานี’’ติ.

‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;

นิหียติ ตสฺส ยโส, กาฬปกฺเขว จนฺทิมา.

‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ นาติวตฺตติ;

อาปูรติ ตสฺส ยโส, สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ. นวมํ;

๑๐. ภตฺตุทฺเทสกสุตฺตํ

๒๐. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุทฺเทสโก ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, โทสาคตึ คจฺฉติ, โมหาคตึ คจฺฉติ, ภยาคตึ คจฺฉติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุทฺเทสโก ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุทฺเทสโก ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุทฺเทสโก ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ.

‘‘เย เกจิ กาเมสุ อสฺตา ชนา,

อธมฺมิกา โหนฺติ อธมฺมคารวา;

ฉนฺทา โทสา โมหา จ ภยา คามิโน [ฉนฺทา จ โทสา จ ภยา จ คามิโน (สี. สฺยา. กํ. ปี)],

ปริสากสโฏ [ปริสกฺกสาโว (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ ปเนส วุจฺจติ.

‘‘เอวฺหิ วุตฺตํ สมเณน ชานตา,

ตสฺมา หิ เต สปฺปุริสา ปสํสิยา;

ธมฺเม ิตา เย น กโรนฺติ ปาปกํ,

น ฉนฺทา น โทสา น โมหา น ภยา จ คามิโน [น ฉนฺทโทสา น ภยา จ คามิโน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];

‘‘ปริสาย มณฺโฑ จ ปเนส วุจฺจติ,

เอวฺหิ วุตฺตํ สมเณน ชานตา’’ติ. ทสมํ;

จรวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

จรํ สีลํ ปธานานิ, สํวรํ ปฺตฺติ ปฺจมํ;

โสขุมฺมํ ตโย อคตี, ภตฺตุทฺเทเสน เต ทสาติ.