📜
(๑๖) ๑. อินฺทฺริยวคฺโค
๑. อินฺทฺริยสุตฺตํ
๑๕๑. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อินฺทฺริยานี’’ติ. ปมํ.
๒. สทฺธาพลสุตฺตํ
๑๕๒. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สทฺธาพลํ, วีริยพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ พลานี’’ติ. ทุติยํ.
๓. ปฺาพลสุตฺตํ
๑๕๓. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ปฺาพลํ, วีริยพลํ, อนวชฺชพลํ, สงฺคหพลํ [สงฺคาหพลํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ พลานี’’ติ. ตติยํ.
๔. สติพลสุตฺตํ
๑๕๔. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สติพลํ, สมาธิพลํ, อนวชฺชพลํ, สงฺคหพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ พลานี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ปฏิสงฺขานพลสุตฺตํ
๑๕๕. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ปฏิสงฺขานพลํ, ภาวนาพลํ, อนวชฺชพลํ, สงฺคหพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ พลานี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. กปฺปสุตฺตํ
๑๕๖. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป สํวฏฺฏติ, ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ ¶ – เอตฺตกานิ วสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานีติ วา.
‘‘ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป สํวฏฺโฏ ติฏฺติ, ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ – เอตฺตกานิ วสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานีติ วา.
‘‘ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป วิวฏฺฏติ, ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ – เอตฺตกานิ วสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานีติ วา.
‘‘ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป วิวฏฺโฏ ติฏฺติ, ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ – เอตฺตกานิ วสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานีติ วา. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. โรคสุตฺตํ
๑๕๗. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, โรคา. กตเม ทฺเว? กายิโก ¶ จ โรโค เจตสิโก จ โรโค. ทิสฺสนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา กายิเกน โรเคน เอกมฺปิ วสฺสํ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ทฺเวปิ ¶ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ตีณิปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, จตฺตาริปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ปฺจปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ทสปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, วีสติปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ตึสมฺปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, จตฺตารีสมฺปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ปฺาสมฺปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, วสฺสสตมฺปิ, ภิยฺโยปิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา ¶ . เต, ภิกฺขเว, สตฺตา สุทุลฺลภา [ทุลฺลภา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โลกสฺมึ เย เจตสิเกน โรเคน มุหุตฺตมฺปิ อาโรคฺยํ ปฏิชานนฺติ, อฺตฺร ขีณาสเวหิ.
‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปพฺพชิตสฺส โรคา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหิจฺโฉ โหติ วิฆาตวา อสนฺตุฏฺโ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. โส มหิจฺโฉ สมาโน วิฆาตวา อสนฺตุฏฺโ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหติ อนวฺปฺปฏิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฏิลาภาย. โส อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ อนวฺปฺปฏิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฏิลาภาย. โส สงฺขาย กุลานิ อุปสงฺกมติ, สงฺขาย นิสีทติ, สงฺขาย ธมฺมํ ภาสติ, สงฺขาย อุจฺจารปสฺสาวํ สนฺธาเรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปพฺพชิตสฺส โรคา.
‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น มหิจฺฉา ภวิสฺสาม วิฆาตวนฺโต อสนฺตุฏฺา อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน, น ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหิสฺสาม อนวฺปฺปฏิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฏิลาภาย, น อุฏฺหิสฺสาม น ฆเฏสฺสาม น วายมิสฺสาม อนวฺปฺปฏิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฏิลาภาย, ขมา ภวิสฺสาม สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติกา ภวิสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว ¶ , สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. ปริหานิสุตฺตํ
๑๕๘. ตตฺร ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ ¶ . ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา จตฺตาโร ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘ปริหายามิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ’. ปริหานเมตํ วุตฺตํ ภควตา. กตเม จตฺตาโร? ราคเวปุลฺลตฺตํ [ราคเวปุลฺลตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], โทสเวปุลฺลตฺตํ, โมหเวปุลฺลตฺตํ, คมฺภีเรสุ โข ปนสฺส านาาเนสุ ปฺาจกฺขุ ¶ น กมติ. โย หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อิเม จตฺตาโร ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘ปริหายามิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ’. ปริหานเมตํ วุตฺตํ ภควตา.
‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา จตฺตาโร ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘น ปริหายามิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ’. อปริหานเมตํ วุตฺตํ ภควตา. กตเม จตฺตาโร? ราคตนุตฺตํ [ราคตนุตฺตนํ (ก.)], โทสตนุตฺตํ, โมหตนุตฺตํ, คมฺภีเรสุ โข ปนสฺส านาาเนสุ ปฺาจกฺขุ กมติ. โย หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อิเม จตฺตาโร ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘น ปริหายามิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ’. อปริหานเมตํ วุตฺตํ ภควตา’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ภิกฺขุนีสุตฺตํ
๑๕๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม ¶ . อถ โข อฺตรา ภิกฺขุนี อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, เยนยฺโย อานนฺโท เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน อยฺยสฺส อานนฺทสฺส ปาเท สิรสา วนฺท – ‘อิตฺถนฺนามา, ภนฺเต, ภิกฺขุนี อาพาธิกินี ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานา. สา อยฺยสฺส อานนฺทสฺส ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘สาธุ กิร, ภนฺเต, อยฺโย อานนฺโท เยน ภิกฺขุนุปสฺสโย เยน สา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติ ¶ . ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ โข โส ปุริโส ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ¶ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ปุริโส อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ –
‘‘อิตฺถนฺนามา, ภนฺเต, ภิกฺขุนี อาพาธิกินี ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานา. สา อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ, เอวฺจ วเทติ – ‘สาธุ กิร, ภนฺเต, อายสฺมา อานนฺโท เยน ภิกฺขุนุปสฺสโย เยน สา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติ. อธิวาเสสิ โข อายสฺมา อานนฺโท ตุณฺหีภาเวน.
อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ภิกฺขุนุปสฺสโย เยน สา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข สา ภิกฺขุนี อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวา สสีสํ ปารุปิตฺวา มฺจเก นิปชฺชิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน สา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท ตํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจ –
‘‘อาหารสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย อาหารํ นิสฺสาย. อาหาโร ปหาตพฺโพ. ตณฺหาสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย ตณฺหํ นิสฺสาย. ตณฺหา ปหาตพฺพา. มานสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย มานํ นิสฺสาย. มาโน ปหาตพฺโพ. เมถุนสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย. เมถุเน จ เสตุฆาโต วุตฺโต ภควตา.
‘‘‘อาหารสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย อาหารํ นิสฺสาย. อาหาโร ปหาตพฺโพ’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภคินิ, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรติ – ‘เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย. อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ. ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’ติ. โส อปเรน สมเยน อาหารํ นิสฺสาย อาหารํ ปชหติ. ‘อาหารสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย อาหารํ นิสฺสาย. อาหาโร ปหาตพฺโพ’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘ตณฺหาสมฺภูโต ¶ อยํ, ภคินิ, กาโย ตณฺหํ นิสฺสาย. ตณฺหา ปหาตพฺพา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ ¶ วุตฺตํ? อิธ, ภคินิ, ภิกฺขุ สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม กิร ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘กุทาสฺสุ นาม อหมฺปิ ¶ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’ติ! โส อปเรน สมเยน ตณฺหํ นิสฺสาย ตณฺหํ ปชหติ. ‘ตณฺหาสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย ตณฺหํ นิสฺสาย. ตณฺหา ปหาตพฺพา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘มานสมฺภูโต ¶ อยํ, ภคินิ, กาโย มานํ นิสฺสาย. มาโน ปหาตพฺโพ’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภคินิ, ภิกฺขุ สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม กิร ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘โส หิ นาม อายสฺมา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ; กิมงฺคํ [กิมงฺค (สี. ปี.) อ. นิ. ๕.๑๘๐; จูฬว. ๓๓๑; สํ. นิ. ๕.๑๐๒๐] ปนาห’นฺติ! โส อปเรน สมเยน มานํ นิสฺสาย มานํ ปชหติ. ‘มานสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย มานํ นิสฺสาย. มาโน ปหาตพฺโพ’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘เมถุนสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย. เมถุเน จ เสตุฆาโต วุตฺโต ภควตา’’ติ.
อถ โข สา ภิกฺขุนี มฺจกา วุฏฺหิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา, ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยาหํ เอวมกาสึ. ตสฺสา เม, ภนฺเต, อยฺโย อานนฺโท อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณฺหาตุ, อายตึ ¶ สํวรายา’’ติ. ‘‘ตคฺฆ ตํ [ตคฺฆ ตฺวํ (สี. ปี. ก.)], ภคินิ, อจฺจโย อจฺจคมา, ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยา ตฺวํ เอวมกาสิ. ยโต จ โข ตฺวํ, ภคินิ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหาม. วุทฺธิ เหสา, ภคินิ, อริยสฺส วินเย โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ อายตึ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. สุคตวินยสุตฺตํ
๑๖๐. ‘‘สุคโต ¶ ¶ วา, ภิกฺขเว, โลเก ติฏฺมาโน สุคตวินโย วา ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สุคโต? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ¶ ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. อยํ, ภิกฺขเว, สุคโต.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สุคตวินโย? โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. อยํ, ภิกฺขเว, สุคตวินโย. เอวํ สุคโต วา, ภิกฺขเว, โลเก ติฏฺมาโน สุคตวินโย วา ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานนฺติ.
‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ทุคฺคหิตํ สุตฺตนฺตํ ปริยาปุณนฺติ ทุนฺนิกฺขิตฺเตหิ ปทพฺยฺชเนหิ. ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ปทพฺยฺชนสฺส ¶ อตฺโถปิ ทุนฺนโย โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ทุพฺพจา โหนฺติ โทวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อกฺขมา อปฺปทกฺขิณคฺคาหิโน อนุสาสนึ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เย เต ภิกฺขู พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต น สกฺกจฺจํ สุตฺตนฺตํ ปรํ วาเจนฺติ. เตสํ อจฺจเยน ฉินฺนมูลโก สุตฺตนฺโต โหติ อปฺปฏิสรโณ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, เถรา ภิกฺขู พาหุลิกา โหนฺติ ¶ สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, น วีริยํ อารภนฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เตสํ ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ. สาปิ โหติ พาหุลิกา สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ.
‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สุคฺคหิตํ สุตฺตนฺตํ ปริยาปุณนฺติ สุนิกฺขิตฺเตหิ ปทพฺยฺชเนหิ. สุนิกฺขิตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ปทพฺยฺชนสฺส อตฺโถปิ สุนโย ¶ โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สุวจา โหนฺติ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ขมา ปทกฺขิณคฺคาหิโน อนุสาสนึ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เย เต ภิกฺขู พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต สกฺกจฺจํ สุตฺตนฺตํ ปรํ วาเจนฺติ. เตสํ อจฺจเยน นจฺฉินฺนมูลโก [อจฺฉินฺนมูลโก (สฺยา. กํ.) อ. นิ. ๕.๑๕๖] สุตฺตนฺโต โหติ สปฺปฏิสรโณ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เถรา ภิกฺขู น พาหุลิกา โหนฺติ น สาถลิกา, โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา, ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา, วีริยํ อารภนฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เตสํ ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ. สาปิ โหติ น พาหุลิกา น สาถลิกา, โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา, ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา, วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย ¶ . อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตติ. อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. ทสมํ.
อินฺทฺริยวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
อินฺทฺริยานิ สทฺธา ปฺา, สติ สงฺขานปฺจมํ;
กปฺโป โรโค ปริหานิ, ภิกฺขุนี สุคเตน จาติ.