📜
(๑๘) ๓. สฺเจตนิยวคฺโค
๑. เจตนาสุตฺตํ
๑๗๑. [กถา. ๕๓๙] ‘‘กาเย ¶ วา, ภิกฺขเว, สติ กายสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ ¶ สุขทุกฺขํ. วาจาย วา, ภิกฺขเว, สติ วจีสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ. มเน วา, ภิกฺขเว, สติ มโนสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ อวิชฺชาปจฺจยาว.
‘‘สามํ วา ตํ, ภิกฺขเว, กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ. ปเร วาสฺส [ปเร วา ตสฺส (ก.)] ตํ, ภิกฺขเว, กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรนฺติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ. สมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ. อสมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ.
‘‘สามํ วา ตํ, ภิกฺขเว, วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; ปเร วาสฺส ตํ, ภิกฺขเว ¶ , วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรนฺติ; ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; สมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, วจีสงฺขารํ ¶ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; อสมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ.
‘‘สามํ วา ตํ, ภิกฺขเว, มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; ปเร วาสฺส ตํ, ภิกฺขเว, มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรนฺติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; สมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; อสมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ.
‘‘อิเมสุ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อวิชฺชา อนุปติตา, อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา โส กาโย น โหติ ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ, สา วาจา น โหติ ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ, โส มโน น โหติ ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ, เขตฺตํ ตํ [วตฺถุํ ตํ (สพฺพตฺถ)] น โหติ…เป… วตฺถุํ ตํ ¶ น โหติ…เป… อายตนํ ตํ น โหติ…เป… อธิกรณํ ตํ น โหติ ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺข’’นฺติ.
‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อตฺตภาวปฏิลาภา. กตเม จตฺตาโร? อตฺถิ, ภิกฺขเว, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ อตฺตสฺเจตนา กมติ, โน ปรสฺเจตนา. อตฺถิ, ภิกฺขเว, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ ปรสฺเจตนา กมติ, โน อตฺตสฺเจตนา. อตฺถิ, ภิกฺขเว, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ อตฺตสฺเจตนา จ กมติ ปรสฺเจตนา จ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ เนวตฺตสฺเจตนา กมติ, โน ปรสฺเจตนา. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อตฺตภาวปฏิลาภา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต ¶ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ – ‘ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ อตฺตสฺเจตนา กมติ โน ปรสฺเจตนา, อตฺตสฺเจตนาเหตุ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา กายา จุติ โหติ. ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ¶ ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ ปรสฺเจตนา กมติ โน อตฺตสฺเจตนา, ปรสฺเจตนาเหตุ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา กายา จุติ โหติ. ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ อตฺตสฺเจตนา จ กมติ ปรสฺเจตนา จ, อตฺตสฺเจตนา จ ปรสฺเจตนา จ เหตุ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา กายา จุติ โหติ. ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ เนว อตฺตสฺเจตนา กมติ โน ปรสฺเจตนา, กตเม เตน เทวา ทฏฺพฺพา’’’ติ? ‘‘เนวสฺานาสฺายตนูปคา, สาริปุตฺต, เทวา เตน ทฏฺพฺพา’’ติ.
‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ตมฺหา กายา จุตา อาคามิโน ¶ โหนฺติ อาคนฺตาโร อิตฺถตฺตํ? โก ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ ¶ สตฺตา ตมฺหา กายา จุตา อนาคามิโน โหนฺติ อนาคนฺตาโร อิตฺถตฺต’’นฺติ? ‘‘อิธ, สาริปุตฺต, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ โหนฺติ, โส ทิฏฺเว ธมฺเม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; ตตฺถ ิโต ตทธิมุตฺโต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน เนวสฺานาสฺายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตโต จุโต อาคามี โหติ อาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.
‘‘อิธ ปน, สาริปุตฺต, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ, โส ทิฏฺเว ธมฺเม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; ตตฺถ ิโต ตทธิมุตฺโต ¶ ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน เนวสฺานาสฺายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตโต จุโต อนาคามี โหติ อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.
‘‘อยํ โข, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ตมฺหา กายา จุตา อาคามิโน โหนฺติ อาคนฺตาโร อิตฺถตฺตํ. อยํ ปน, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ตมฺหา กายา จุตา อนาคามิโน โหนฺติ อนาคนฺตาโร อิตฺถตฺต’’นฺติ. ปมํ.
๒. วิภตฺติสุตฺตํ
๑๗๒. ตตฺร ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘อทฺธมาสูปสมฺปนฺเนน เม, อาวุโส, อตฺถปฏิสมฺภิทา สจฺฉิกตา โอธิโส พฺยฺชนโส. ตมหํ อเนกปริยาเยน อาจิกฺขามิ เทเสมิ ปฺาเปมิ ปฏฺเปมิ วิวรามิ วิภชามิ อุตฺตานีกโรมิ. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา, โส ¶ มํ ปฺเหน. อหํ เวยฺยากรเณน สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา โย โน ธมฺมานํ สุกุสโล.
‘‘อทฺธมาสูปสมฺปนฺเนน ¶ เม, อาวุโส, ธมฺมปฏิสมฺภิทา สจฺฉิกตา โอธิโส พฺยฺชนโส. ตมหํ อเนกปริยาเยน อาจิกฺขามิ เทเสมิ ปฺาเปมิ ปฏฺเปมิ วิวรามิ วิภชามิ อุตฺตานีกโรมิ. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา, โส มํ ปฺเหน. อหํ เวยฺยากรเณน สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา โย โน ธมฺมานํ สุกุสโล.
‘‘อทฺธมาสูปสมฺปนฺเนน เม, อาวุโส, นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา สจฺฉิกตา โอธิโส พฺยฺชนโส. ตมหํ อเนกปริยาเยน อาจิกฺขามิ เทเสมิ ปฺาเปมิ ปฏฺเปมิ วิวรามิ วิภชามิ อุตฺตานีกโรมิ. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา, โส มํ ปฺเหน. อหํ เวยฺยากรเณน สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา โย โน ธมฺมานํ สุกุสโล.
‘‘อทฺธมาสูปสมฺปนฺเนน เม, อาวุโส, ปฏิภานปฏิสมฺภิทา สจฺฉิกตา โอธิโส พฺยฺชนโส. ตมหํ อเนกปริยาเยน อาจิกฺขามิ เทเสมิ ปฺาเปมิ ปฏฺเปมิ วิวรามิ วิภชามิ อุตฺตานีกโรมิ. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา, โส มํ ปฺเหน. อหํ เวยฺยากรเณน สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา โย โน ธมฺมานํ สุกุสโล’’ติ. ทุติยํ.
๓. มหาโกฏฺิกสุตฺตํ
๑๗๓. อถ ¶ โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺโน ¶ โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ ¶ , อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา ¶ เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ยถา กถํ ปน, อาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ยาวตา, อาวุโส, ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติ ตาวตา ปปฺจสฺส คติ; ยาวตา ปปฺจสฺส คติ ¶ ตาวตา ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติ. ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา ปปฺจนิโรโธ ปปฺจวูปสโม’’ติ. ตติยํ.
๔. อานนฺทสุตฺตํ
๑๗๔. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยนายสฺมา มหาโกฏฺิโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหาโกฏฺิเกน สทฺธึ ¶ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ มหาโกฏฺิกํ เอตทโวจ –
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ ¶ . ยถา กถํ ปนาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ยาวตา, อาวุโส, ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติ ตาวตา ปปฺจสฺส คติ ¶ . ยาวตา ปปฺจสฺส คติ ตาวตา ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ ¶ คติ. ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา ปปฺจนิโรโธ ปปฺจวูปสโม’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. อุปวาณสุตฺตํ
๑๗๕. อถ ¶ โข อายสฺมา อุปวาโณ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุปวาโณ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, วิชฺชายนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, จรเณนนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ ปนาวุโส ¶ สาริปุตฺต, วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อฺตฺร วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, วิชฺชายนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, จรเณนนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อฺตฺร วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ยถา กถํ ปนาวุโส, อนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘วิชฺชาย ¶ เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, สอุปาทาโนว สมาโน อนฺตกโร อภวิสฺส. จรเณน เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, สอุปาทาโนว สมาโน อนฺตกโร อภวิสฺส. วิชฺชาจรเณน เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, สอุปาทาโนว สมาโน อนฺตกโร อภวิสฺส. อฺตฺร วิชฺชาจรเณน เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, ปุถุชฺชโน อนฺตกโร อภวิสฺส. ปุถุชฺชโน หิ, อาวุโส, อฺตฺร วิชฺชาจรเณน. จรณวิปนฺโน โข, อาวุโส, ยถาภูตํ น ชานาติ น ปสฺสติ. จรณสมฺปนฺโน ยถาภูตํ ¶ ชานาติ ปสฺสติ. ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ อนฺตกโร โหตี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. อายาจนสุตฺตํ
๑๗๖. ‘‘สทฺโธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺย – ‘ตาทิโส โหมิ ยาทิสา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’ติ [อ. นิ. ๒.๑๓๑ อิทํ สุตฺตํ อาคตํ]. เอสา, ภิกฺขเว ¶ ¶ , ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ, ยทิทํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา.
‘‘สทฺธา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี เอวํ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย – ‘ตาทิสา โหมิ ยาทิสา เขมา จ ภิกฺขุนี อุปฺปลวณฺณา จา’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวิกานํ ภิกฺขุนีนํ, ยทิทํ เขมา จ ภิกฺขุนี อุปฺปลวณฺณา จ.
‘‘สทฺโธ, ภิกฺขเว, อุปาสโก เอวํ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺย – ‘ตาทิโส โหมิ ยาทิโส จิตฺโต จ คหปติ หตฺถโก จ อาฬวโก’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวกานํ อุปาสกานํ, ยทิทํ จิตฺโต จ คหปติ หตฺถโก จ อาฬวโก.
‘‘สทฺธา, ภิกฺขเว, อุปาสิกา เอวํ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย – ‘ตาทิสา โหมิ ยาทิสา ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา เวฬุกณฺฑกิยา จ นนฺทมาตา’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวิกานํ อุปาสิกานํ, ยทิทํ ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา เวฬุกณฺฑกิยา จ นนฺทมาตา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ราหุลสุตฺตํ
๑๗๗. อถ ¶ โข อายสฺมา ราหุโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ราหุลํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘ยา จ, ราหุล ¶ , อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ ยา จ พาหิรา ปถวีธาตุ, ปถวีธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ, เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ปถวีธาตุยา นิพฺพินฺทติ, ปถวีธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
‘‘ยา จ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ ยา จ พาหิรา อาโปธาตุ ¶ , อาโปธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ, เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา อาโปธาตุยา นิพฺพินฺทติ, อาโปธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
‘‘ยา ¶ จ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ ยา จ พาหิรา เตโชธาตุ, เตโชธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ, เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา เตโชธาตุยา นิพฺพินฺทติ, เตโชธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
‘‘ยา จ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ ยา จ พาหิรา วาโยธาตุ, วาโยธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ, เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา วาโยธาตุยา นิพฺพินฺทติ, วาโยธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
‘‘ยโต โข, ราหุล, ภิกฺขุ อิมาสุ จตูสุ ธาตูสุ เนวตฺตานํ น อตฺตนิยํ สมนุปสฺสติ, อยํ วุจฺจติ, ราหุล, ภิกฺขุ อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหํ, วิวตฺตยิ สํโยชนํ, สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. ชมฺพาลีสุตฺตํ
๑๗๘. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรติ. ตสฺส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ [ตสฺส โก เอตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), เอวํ โข ตสฺส (?) ‘‘เอวํ หิ ตสฺสา ภิกฺขเว ชมฺพาลิยา’’ติ ปาโ วิย], ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น สกฺกายนิโรโธ ¶ ปาฏิกงฺโข. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส เลปคเตน [ลสคเตน (สี. ปี.)] หตฺเถน สาขํ คณฺเหยฺย, ตสฺส โส หตฺโถ สชฺเชยฺยปิ คณฺเหยฺยปิ [คยฺเหยฺยปิ (?)] พชฺเฌยฺยปิ [ขชฺเชยฺยปิ (สี.)]; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรติ. ตสฺส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น สกฺกายนิโรโธ ปาฏิกงฺโข.
‘‘อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรติ ¶ . ตสฺส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สกฺกายนิโรโธ ปาฏิกงฺโข. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส สุทฺเธน หตฺเถน สาขํ คณฺเหยฺย, ตสฺส โส หตฺโถ เนว สชฺเชยฺย น คณฺเหยฺย น พชฺเฌยฺย; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรติ. ตสฺส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สกฺกายนิโรโธ ปาฏิกงฺโข.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรโต อวิชฺชาปฺปเภเท จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น อวิชฺชาปฺปเภโท ปาฏิกงฺโข. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ชมฺพาลี ¶ อเนกวสฺสคณิกา. ตสฺสา ปุริโส ยานิ เจว อายมุขานิ ตานิ ปิทเหยฺย, ยานิ จ อปายมุขานิ ตานิ วิวเรยฺย, เทโว จ น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. เอวฺหิ ตสฺสา, ภิกฺขเว, ชมฺพาลิยา น อาฬิปฺปเภโท ¶ ปาฏิกงฺโข. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรโต อวิชฺชาปฺปเภเท จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น อวิชฺชาปฺปเภโท ปาฏิกงฺโข.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรโต อวิชฺชาปฺปเภเท จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชาปฺปเภโท ปาฏิกงฺโข. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ชมฺพาลี อเนกวสฺสคณิกา. ตสฺสา ปุริโส ยานิ เจว อายมุขานิ ตานิ วิวเรยฺย, ยานิ จ อปายมุขานิ ตานิ ปิทเหยฺย, เทโว จ สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. เอวฺหิ ตสฺสา, ภิกฺขเว, ชมฺพาลิยา อาฬิปฺปเภโท ปาฏิกงฺโข. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ ¶ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อวิชฺชาปฺปเภทํ ¶ มนสิ กโรโต อวิชฺชาปฺปเภเท จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชาปฺปเภโท ปาฏิกงฺโข ¶ . อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. นิพฺพานสุตฺตํ
๑๗๙. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเว ธมฺเม น ปรินิพฺพายนฺตี’’ติ?
‘‘อิธาวุโส อานนฺท, สตฺตา อิมา หานภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, อิมา ิติภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, อิมา วิเสสภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, ¶ อิมา นิพฺเพธภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ. อยํ โข, อาวุโส อานนฺท, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเว ธมฺเม น ปรินิพฺพายนฺตี’’ติ.
‘‘โก ปนาวุโส สาริปุตฺต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายนฺตี’’ติ? ‘‘อิธาวุโส อานนฺท, สตฺตา อิมา หานภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, อิมา ิติภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, อิมา วิเสสภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, อิมา นิพฺเพธภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ. อยํ โข, อาวุโส อานนฺท, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายนฺตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. มหาปเทสสุตฺตํ
๑๘๐. เอกํ ¶ สมยํ ภควา โภคนคเร วิหรติ อานนฺทเจติเย [อานนฺเท เจติเย (ที. นิ. ๒.๑๘๖) มหาว. ๓๐๓ ปน อฺถา อาคตํ]. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ¶ ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, มหาปเทเส เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ ¶ , สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘กตเม, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มหาปเทสา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ [โอสาเรตพฺพานิ], วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ [โอสาริยมานานิ] วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอตรนฺติ [โอสรนฺติ (ที. นิ. ๒.๑๘๘)] น วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; อิมสฺส จ ภิกฺขุโน ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติ เหตํ [อิติ หิทํ (สี. สฺยา. กํ. ก.)], ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ.
[เอตฺตโก ปาโ ทีฆนิกาเย น ทิสฺสติ, เปยฺยาลมุเขน ทสฺสิโต ภเวยฺย] ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ¶ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ [เอตฺตโก ปาโ ทีฆนิกาเย น ทิสฺสติ, เปยฺยาลมุเขน ทสฺสิโต ภเวยฺย]. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย ¶ สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอตรนฺติ วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; อิมสฺส จ ภิกฺขุโน สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส สงฺโฆ วิหรติ สเถโร สปาโมกฺโข. ตสฺส เม สงฺฆสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา ¶ อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอตรนฺติ น วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ¶ ; ตสฺส จ สงฺฆสฺส ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติ เหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส สงฺโฆ วิหรติ สเถโร สปาโมกฺโข. ตสฺส เม สงฺฆสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ, วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอตรนฺติ วินเย จ ¶ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; ตสฺส จ สงฺฆสฺส สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา. เตสํ เม เถรานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอตรนฺติ น วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; เตสฺจ เถรานํ ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติ เหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา. เตสํ เม เถรานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย ¶ สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอตรนฺติ วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; เตสฺจ เถรานํ สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส เอโก เถโร ภิกฺขุ วิหรติ พหุสฺสุโต ¶ อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร. ตสฺส เม เถรสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอตรนฺติ น วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; ตสฺส จ เถรสฺส ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติ เหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส เอโก เถโร ภิกฺขุ ¶ วิหรติ พหุสฺสุโต อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร. ตสฺส เม เถรสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอตรนฺติ วินเย ¶ จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; ตสฺส จ เถรสฺส สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มหาปเทสา’’ติ. ทสมํ.
สฺเจตนิยวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
เจตนา ¶ วิภตฺติ โกฏฺิโก, อานนฺโท อุปวาณปฺจมํ;
อายาจน-ราหุล-ชมฺพาลี, นิพฺพานํ มหาปเทเสนาติ.