📜

(๒๐) ๕. มหาวคฺโค

๑. โสตานุคตสุตฺตํ

๑๙๑. ‘‘โสตานุคตานํ , ภิกฺขเว, ธมฺมานํ, วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ [มุฏฺสฺสตี (สี.)] กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ [ปิลปนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. โสตานุคตานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ, วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ อยํ ปโม อานิสํโส ปาฏิกงฺโข.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ; อปิ จ โข ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อยํ วา โส ธมฺมวินโย, ยตฺถาหํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริ’นฺติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปเมว วิเสสคามี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส กุสโล เภริสทฺทสฺส. โส อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน เภริสทฺทํ สุเณยฺย. ตสฺส น เหว โข อสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – ‘เภริสทฺโท นุ โข, น นุ โข เภริสทฺโท’ติ! อถ โข เภริสทฺโทตฺเวว นิฏฺํ คจฺเฉยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ; อปิ จ โข ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อยํ วา โส ธมฺมวินโย, ยตฺถาหํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริ’นฺติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. โสตานุคตานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ , วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ อยํ ทุติโย อานิสํโส ปาฏิกงฺโข.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ, นปิ ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ; อปิ จ โข เทวปุตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อยํ วา โส ธมฺมวินโย, ยตฺถาหํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริ’นฺติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส กุสโล สงฺขสทฺทสฺส. โส อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน สงฺขสทฺทํ สุเณยฺย. ตสฺส น เหว โข อสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – ‘สงฺขสทฺโท นุ โข, น นุ โข สงฺขสทฺโท’ติ! อถ โข สงฺขสทฺโทตฺเวว นิฏฺํ คจฺเฉยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ, นปิ ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ; อปิ จ โข เทวปุตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อยํ วา โส ธมฺมวินโย, ยตฺถาหํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริ’นฺติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. โสตานุคตานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ, วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ อยํ ตติโย อานิสํโส ปาฏิกงฺโข.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ, นปิ ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ, นปิ เทวปุตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ; อปิ จ โข โอปปาติโก โอปปาติกํ สาเรติ – ‘สรสิ ตฺวํ, มาริส, สรสิ ตฺวํ , มาริส, ยตฺถ มยํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริมฺหา’ติ. โส เอวมาห – ‘สรามิ, มาริส, สรามิ, มาริสา’ติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทฺเว สหายกา สหปํสุกีฬิกา [สหปํสุกีฬกา (สฺยา. กํ.)]. เต กทาจิ กรหจิ อฺมฺํ สมาคจฺเฉยฺยุํ. อฺโ ปน [สมาคจฺเฉยฺยุํ, ตเมนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สหายโก สหายกํ เอวํ วเทยฺย – ‘อิทมฺปิ, สมฺม, สรสิ, อิทมฺปิ, สมฺม, สรสี’ติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘สรามิ , สมฺม, สรามิ, สมฺมา’ติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ, นปิ ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ, นปิ เทวปุตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ; อปิ จ โข โอปปาติโก โอปปาติกํ สาเรติ – ‘สรสิ ตฺวํ, มาริส, สรสิ ตฺวํ, มาริส, ยตฺถ มยํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริมฺหา’ติ. โส เอวมาห – ‘สรามิ, มาริส, สรามิ, มาริสา’ติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โข โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. โสตานุคตานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ, วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ อยํ จตุตฺโถ อานิสํโส ปาฏิกงฺโข. โสตานุคตานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ, วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ อิเม จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ. ปมํ.

๒. านสุตฺตํ

๑๙๒. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, านานิ จตูหิ าเนหิ เวทิตพฺพานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวาเสน, ภิกฺขเว, สีลํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. สํโวหาเรน, ภิกฺขเว, โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. อาปทาสุ, ภิกฺขเว, ถาโม เวทิตพฺโพ, โส จ โข ทีเฆน อทฺธุนา , น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. สากจฺฉาย, ภิกฺขเว, ปฺา เวทิตพฺพา, สา จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนาติ.

[สํ. นิ. ๑.๑๒๒] ‘‘‘สํวาเสน , ภิกฺขเว, สีลํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สํวสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ทีฆรตฺตํ โข อยมายสฺมา ขณฺฑการี ฉิทฺทการี สพลการี กมฺมาสการี, น สนฺตตการี น สนฺตตวุตฺติ [สตตวุตฺติ (สฺยา. กํ.)]; สีเลสุ ทุสฺสีโล อยมายสฺมา, นายมายสฺมา สีลวา’’’ติ.

‘‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สํวสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ทีฆรตฺตํ โข อยมายสฺมา อขณฺฑการี อจฺฉิทฺทการี อสพลการี อกมฺมาสการี สนฺตตการี สนฺตตวุตฺติ; สีเลสุ สีลวา อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ทุสฺสีโล’ติ. ‘สํวาเสน, ภิกฺขเว, สีลํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘สํโวหาเรน, ภิกฺขเว, โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สํโวหรมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อฺถา โข อยมายสฺมา เอเกน เอโก โวหรติ, อฺถา ทฺวีหิ, อฺถา ตีหิ, อฺถา สมฺพหุเลหิ; โวกฺกมติ อยมายสฺมา ปุริมโวหารา ปจฺฉิมโวหารํ; อปริสุทฺธโวหาโร อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ปริสุทฺธโวหาโร’’’ติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สํโวหรมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยเถว โข อยมายสฺมา เอเกน เอโก โวหรติ, ตถา ทฺวีหิ, ตถา ตีหิ, ตถา สมฺพหุเลหิ. นายมายสฺมา โวกฺกมติ ปุริมโวหารา ปจฺฉิมโวหารํ; ปริสุทฺธโวหาโร อยมายสฺมา, นายมายสฺมา อปริสุทฺธโวหาโร’ติ . ‘สํโวหาเรน, ภิกฺขเว, โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘อาปทาสุ, ภิกฺขเว, ถาโม เวทิตพฺโพ, โส จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ าติพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน, โภคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน, โรคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน น อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ตถาภูโต โข อยํ โลกสนฺนิวาโส ตถาภูโต อยํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ยถาภูเต โลกสนฺนิวาเส ยถาภูเต อตฺตภาวปฏิลาเภ อฏฺ โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตติ – ลาโภ จ, อลาโภ จ, ยโส จ, อยโส จ, นินฺทา จ, ปสํสา จ, สุขฺจ, ทุกฺขฺจา’ติ. โส าติพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โภคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โรคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ าติพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โภคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โรคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ตถาภูโต โข อยํ โลกสนฺนิวาโส ตถาภูโต อยํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ยถาภูเต โลกสนฺนิวาเส ยถาภูเต อตฺตภาวปฏิลาเภ อฏฺ โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตติ – ลาโภ จ, อลาโภ จ, ยโส จ, อยโส จ, นินฺทา จ, ปสํสา จ, สุขฺจ, ทุกฺขฺจา’ติ. โส าติพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โภคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โรคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. ‘อาปทาสุ, ภิกฺขเว, ถาโม เวทิตพฺโพ, โส จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘สากจฺฉาย, ภิกฺขเว, ปฺา เวทิตพฺพา, สา จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ , อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สากจฺฉายมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยถา โข อิมสฺส อายสฺมโต อุมฺมคฺโค ยถา จ อภินีหาโร ยถา จ ปฺหาสมุทาหาโร, ทุปฺปฺโ อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ปฺวา. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ อยมายสฺมา น เจว คมฺภีรํ อตฺถปทํ อุทาหรติ สนฺตํ ปณีตํ อตกฺกาวจรํ นิปุณํ ปณฺฑิตเวทนียํ. ยฺจ อยมายสฺมา ธมฺมํ ภาสติ ตสฺส จ นปฺปฏิพโล สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา อตฺถํ อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปฺาเปตุํ ปฏฺเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุํ. ทุปฺปฺโ อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ปฺวา’’’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, จกฺขุมา ปุริโส อุทกรหทสฺส ตีเร ิโต ปสฺเสยฺย ปริตฺตํ มจฺฉํ อุมฺมุชฺชมานํ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘ยถา โข อิมสฺส มจฺฉสฺส อุมฺมคฺโค ยถา จ อูมิฆาโต ยถา จ เวคายิตตฺตํ, ปริตฺโต อยํ มจฺโฉ, นายํ มจฺโฉ มหนฺโต’ติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สากจฺฉายมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยถา โข อิมสฺส อายสฺมโต อุมฺมคฺโค ยถา จ อภินีหาโร ยถา จ ปฺหาสมุทาหาโร, ทุปฺปฺโ อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ปฺวา. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ อยมายสฺมา น เจว คมฺภีรํ อตฺถปทํ อุทาหรติ สนฺตํ ปณีตํ อตกฺกาวจรํ นิปุณํ ปณฺฑิตเวทนียํ. ยฺจ อยมายสฺมา ธมฺมํ ภาสติ, ตสฺส จ น ปฏิพโล สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา อตฺถํ อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปฺาเปตุํ ปฏฺเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุํ. ทุปฺปฺโ อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ปฺวา’’’ติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สากจฺฉายมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยถา โข อิมสฺส อายสฺมโต อุมฺมคฺโค ยถา จ อภินีหาโร ยถา จ ปฺหาสมุทาหาโร, ปฺวา อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ทุปฺปฺโ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ อยมายสฺมา คมฺภีรฺเจว อตฺถปทํ อุทาหรติ สนฺตํ ปณีตํ อตกฺกาวจรํ นิปุณํ ปณฺฑิตเวทนียํ. ยฺจ อยมายสฺมา ธมฺมํ ภาสติ, ตสฺส จ ปฏิพโล สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา อตฺถํ อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปฺาเปตุํ ปฏฺเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุํ. ปฺวา อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ทุปฺปฺโ’’’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, จกฺขุมา ปุริโส อุทกรหทสฺส ตีเร ิโต ปสฺเสยฺย มหนฺตํ มจฺฉํ อุมฺมุชฺชมานํ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘ยถา โข อิมสฺส มจฺฉสฺส อุมฺมคฺโค ยถา จ อูมิฆาโต ยถา จ เวคายิตตฺตํ, มหนฺโต อยํ มจฺโฉ, นายํ มจฺโฉ ปริตฺโต’ติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สากจฺฉายมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยถา โข อิมสฺส อายสฺมโต อุมฺมคฺโค ยถา จ อภินีหาโร ยถา จ ปฺหาสมุทาหาโร, ปฺวา อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ทุปฺปฺโ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ อยมายสฺมา คมฺภีรฺเจว อตฺถปทํ อุทาหรติ สนฺตํ ปณีตํ อตกฺกาวจรํ นิปุณํ ปณฺฑิตเวทนียํ. ยฺจ อยมายสฺมา ธมฺมํ ภาสติ, ตสฺส จ ปฏิพโล สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา อตฺถํ อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปฺาเปตุํ ปฏฺเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุํ. ปฺวา อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ทุปฺปฺโ’ติ.

‘‘‘สากจฺฉาย, ภิกฺขเว, ปฺา เวทิตพฺพา, สา จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ , อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ านานิ อิเมหิ จตูหิ าเนหิ เวทิตพฺพานี’’ติ. ทุติยํ.

๓. ภทฺทิยสุตฺตํ

๑๙๓. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข ภทฺทิโย ลิจฺฉวิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ภทฺทิโย ลิจฺฉวิ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘มายาวี สมโณ โคตโม อาวฏฺฏนึ มายํ [อาวฏฺฏนีมายํ (สี.), อาวฏฺฏนิมายํ (สฺยา. กํ. ก.) ม. นิ. ๒.๖๐ ปสฺสิตพฺพํ] ชานาติ ยาย อฺติตฺถิยานํ สาวเก อาวฏฺเฏตี’ติ. เย เต, ภนฺเต, เอวมาหํสุ – ‘มายาวี สมโณ โคตโม อาวฏฺฏนึ มายํ ชานาติ ยาย อฺติตฺถิยานํ สาวเก อาวฏฺเฏตี’ติ, กจฺจิ เต, ภนฺเต, ภควโต วุตฺตวาทิโน, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จ อนุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุปาโต คารยฺหํ านํ อาคจฺฉติ, อนพฺภกฺขาตุกามา หิ มยํ, ภนฺเต, ภควนฺต’’นฺติ?

‘‘เอถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติ. ยทา ตุมฺเห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, ปชเหยฺยาถ.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, โลโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘อหิตาย, ภนฺเต’’. ‘‘ลุทฺโธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล โลเภน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย [ตทตฺถาย (ก.) อ. นิ. ๓.๖๖] สมาทเปติ ยํส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, โทโส ปุริสสฺส…เป… โมโห ปุริสสฺส…เป… สารมฺโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘อหิตาย, ภนฺเต’’. ‘‘สารทฺโธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล สารมฺเภน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ ยํส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ? ‘‘อกุสลา, ภนฺเต’’. ‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ? ‘‘สาวชฺชา, ภนฺเต’’. ‘‘วิฺุครหิตา วา วิฺุปฺปสตฺถา วา’’ติ? ‘‘วิฺุครหิตา, ภนฺเต’’. ‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, โน วา? กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ. เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติ.

‘‘อิติ โข, ภทฺทิย, ยํ ตํ เต อโวจุมฺหา – เอถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติ. ยทา ตุมฺเห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติ, อถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, ปชเหยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘เอถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติ. ยทา ตุมฺเห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, อโลโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘หิตาย, ภนฺเต’’. ‘‘อลุทฺโธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล โลเภน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิตฺโต เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย น สมาทเปติ ยํ’ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, อโทโส ปุริสสฺส…เป… อโมโห ปุริสสฺส…เป… อสารมฺโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘หิตาย, ภนฺเต’’. ‘‘อสารทฺโธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล สารมฺเภน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิตฺโต เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ , ปรมฺปิ ตถตฺตาย น สมาทเปติ ยํ’ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ? ‘‘กุสลา, ภนฺเต’’. ‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ? ‘‘อนวชฺชา, ภนฺเต’’. ‘‘วิฺุครหิตา วา วิฺุปฺปสตฺถา วา’’ติ? ‘‘วิฺุปฺปสตฺถา, ภนฺเต’’. ‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ โน วา? กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติ.

‘‘อิติ โข, ภทฺทิย, ยํ ตํ เต อโวจุมฺหา – เอถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติ. ยทา ตุมฺเห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตีติ , อถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘เย โข เต, ภทฺทิย, โลเก สนฺโต สปฺปุริสา เต สาวกํ เอวํ สมาทเปนฺติ – ‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, โลภํ วิเนยฺย [วิเนยฺย วิเนยฺย (สี. สฺยา. กํ.)] วิหราหิ. โลภํ วิเนยฺย วิหรนฺโต น โลภชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสา. โทสํ วิเนยฺย วิหราหิ. โทสํ วิเนยฺย วิหรนฺโต น โทสชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสา. โมหํ วิเนยฺย วิหราหิ. โมหํ วิเนยฺย วิหรนฺโต น โมหชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสา. สารมฺภํ วิเนยฺย วิหราหิ. สารมฺภํ วิเนยฺย วิหรนฺโต น สารมฺภชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสา’’’ติ.

เอวํ วุตฺเต ภทฺทิโย ลิจฺฉวิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

‘‘อปิ นุ ตาหํ, ภทฺทิย, เอวํ อวจํ – ‘เอหิ เม ตฺวํ, ภทฺทิย, สาวโก โหหิ; อหํ สตฺถา ภวิสฺสามี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวํวาทึ โข มํ, ภทฺทิย, เอวมกฺขายึ เอเก สมณพฺราหฺมณา อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ – ‘มายาวี สมโณ โคตโม อาวฏฺฏนึ มายํ ชานาติ ยาย อฺติตฺถิยานํ สาวเก อาวฏฺเฏตี’’’ติ. ‘‘ภทฺทิกา , ภนฺเต, อาวฏฺฏนี มายา. กลฺยาณี, ภนฺเต, อาวฏฺฏนี มายา. ปิยา เม, ภนฺเต, าติสาโลหิตา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ, ปิยานมฺปิ เม อสฺส าติสาโลหิตานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, ภนฺเต, ขตฺติยา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, ภนฺเต, พฺราหฺมณา… เวสฺสา … สุทฺทา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.

‘‘เอวเมตํ, ภทฺทิย, เอวเมตํ, ภทฺทิย! สพฺเพ เจปิ, ภทฺทิย, ขตฺติยา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, สพฺเพสมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, ภทฺทิย, พฺราหฺมณา… เวสฺสา… สุทฺทา อาวฏฺเฏยฺยุํ อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, สพฺเพสมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สเทวโก เจปิ, ภทฺทิย, โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ [อาวฏฺเฏยฺย (?)] อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, สเทวกสฺสปิสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. อิเม เจปิ, ภทฺทิย, มหาสาลา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, อิเมสมฺปิสฺส มหาสาลานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ( ) [(สเจ เจเตยฺยุํ) (สี. สฺยา. กํ. ปี.), (อาวฏฺเฏยฺยุํ) (ก.) อ. นิ. ๘.๔๔]. โก ปน วาโท มนุสฺสภูตสฺสา’’ติ! ตติยํ.

๔. สามุคิยสุตฺตํ

๑๙๔. เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกลิเยสุ วิหรติ สามุคํ นาม [สาปูคํ นาม (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โกลิยานํ นิคโม. อถ โข สมฺพหุลา สามุคิยา โกลิยปุตฺตา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต สามุคิเย โกลิยปุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –

‘‘จตฺตาริมานิ, พฺยคฺฆปชฺชา, ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตานิ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ [โสกปริทฺทวานํ (สี.)] สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย. กตมานิ จตฺตาริ? สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, จิตฺตปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ , ทิฏฺิปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, วิมุตฺติปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ.

‘‘กตมฺจ , พฺยคฺฆปชฺชา, สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ? อิธ, พฺยคฺฆปชฺชา, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, สีลปาริสุทฺธิ. อิติ เอวรูปึ สีลปาริสุทฺธึ อปริปูรํ วา ปริปูเรสฺสามิ ปริปูรํ วา ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ, โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ, อิทํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ.

‘‘กตมฺจ, พฺยคฺฆปชฺชา, จิตฺตปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ? อิธ, พฺยคฺฆปชฺชา, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, จิตฺตปาริสุทฺธิ. อิติ เอวรูปึ จิตฺตปาริสุทฺธึ อปริปูรํ วา ปริปูเรสฺสามิ ปริปูรํ วา ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ, โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ, อิทํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, จิตฺตปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ.

‘‘กตมฺจ, พฺยคฺฆปชฺชา, ทิฏฺิปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ? อิธ, พฺยคฺฆปชฺชา, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, ทิฏฺิปาริสุทฺธิ. อิติ เอวรูปึ ทิฏฺิปาริสุทฺธึ อปริปูรํ วา…เป… ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ, โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ, อิทํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, ทิฏฺิปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ .

‘‘กตมฺจ, พฺยคฺฆปชฺชา, วิมุตฺติปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ? ส โข โส, พฺยคฺฆปชฺชา, อริยสาวโก อิมินา จ สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺเคน สมนฺนาคโต อิมินา จ จิตฺตปาริสุทฺธิปธานิยงฺเคน สมนฺนาคโต อิมินา จ ทิฏฺิปาริสุทฺธิปธานิยงฺเคน สมนฺนาคโต รชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิราเชติ, วิโมจนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิโมเจติ. โส รชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิราเชตฺวา, วิโมจนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิโมเจตฺวา สมฺมาวิมุตฺตึ ผุสติ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, วิมุตฺติปาริสุทฺธิ. อิติ เอวรูปึ วิมุตฺติปาริสุทฺธึ อปริปูรํ วา ปริปูเรสฺสามิ ปริปูรํ วา ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ, โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ, อิทํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, วิมุตฺติปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ.

‘‘อิมานิ โข, พฺยคฺฆปชฺชา, จตฺตาริ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตานิ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. วปฺปสุตฺตํ

๑๙๕. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข วปฺโป สกฺโก นิคณฺสาวโก เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วปฺปํ สกฺกํ นิคณฺสาวกํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ –

‘‘อิธสฺส , วปฺป, กาเยน สํวุโต วาจาย สํวุโต มนสา สํวุโต อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ [อนฺวาสฺสเวยฺยุํ (ก.)] อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘ปสฺสามหํ, ภนฺเต, ตํ านํ. อิธสฺส, ภนฺเต, ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ กตํ อวิปกฺกวิปากํ. ตโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’’นฺติ. อยฺเจว โข ปน อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส วปฺเปน สกฺเกน นิคณฺสาวเกน สทฺธึ อนฺตรากถา วิปฺปกตา โหติ.

อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ –

‘‘กาย นุตฺถ, โมคฺคลฺลาน, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา; กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, วปฺปํ สกฺกํ นิคณฺสาวกํ เอตทโวจํ – ‘อิธสฺส, วปฺป, กาเยน สํวุโต วาจาย สํวุโต มนสา สํวุโต อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’นฺติ? เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, วปฺโป สกฺโก นิคณฺสาวโก มํ เอตทโวจ – ‘ปสฺสามหํ, ภนฺเต, ตํ านํ. อิธสฺส, ภนฺเต, ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ กตํ อวิปกฺกวิปากํ. ตโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’นฺติ . อยํ โข โน, ภนฺเต , วปฺเปน สกฺเกน นิคณฺสาวเกน สทฺธึ อนฺตรากถา วิปฺปกตา; อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.

อถ โข ภควา วปฺปํ สกฺกํ นิคณฺสาวกํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เม ตฺวํ, วปฺป, อนุฺเยฺยฺเจว อนุชาเนยฺยาสิ, ปฏิกฺโกสิตพฺพฺจ ปฏิกฺโกเสยฺยาสิ, ยสฺส จ เม ภาสิตสฺส อตฺถํ น ชาเนยฺยาสิ มเมเวตฺถ อุตฺตริ ปฏิปุจฺเฉยฺยาสิ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ, สิยา โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป’’ติ. ‘‘อนุฺเยฺยฺเจวาหํ, ภนฺเต, ภควโต อนุชานิสฺสามิ, ปฏิกฺโกสิตพฺพฺจ ปฏิกฺโกสิสฺสามิ, ยสฺส จาหํ ภควโต ภาสิตสฺส อตฺถํ น ชานิสฺสามิ ภควนฺตํเยเวตฺถ อุตฺตริ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ – ‘อิทํ ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ? โหตุ โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, วปฺป, เย กายสมารมฺภปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, กายสมารมฺภา ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ, สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหิ [วิฺูหีติ (สี. ปี. ก.) สํ. นิ. ๔.๓๖๔ ปสฺสิตพฺพํ]. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, วปฺป, เย วจีสมารมฺภปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, วจีสมารมฺภา ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ. สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหิ. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, วปฺป, เย มโนสมารมฺภปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, มโนสมารมฺภา ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ. สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหิ. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, วปฺป, เย อวิชฺชาปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ. สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหิ. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺส โข, วปฺป, ภิกฺขุโน ฉ สตตวิหารา อธิคตา โหนฺติ. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน; อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป... ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน; อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โส กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยมาโน ‘กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยามี’ติ ปชานาติ; ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยมาโน ‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยามี’ติ ปชานาติ; ‘กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อิเธว สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีตี ภวิสฺสนฺตี’ติ ปชานาติ’’.

‘‘เสยฺยถาปิ, วปฺป, ถูณํ ปฏิจฺจ ฉายา ปฺายติ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย กุทฺทาลปิฏกํ อาทาย. โส ตํ ถูณํ มูเล ฉินฺเทยฺย; มูเล ฉินฺทิตฺวา ปลิขเณยฺย; ปลิขณิตฺวา มูลานิ อุทฺธเรยฺย, อนฺตมโส อุสีรนาฬิมตฺตานิปิ [อุสีรนาฬมตฺตานิปิ (สี.)]. โส ตํ ถูณํ ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺเทยฺย. ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉตฺวา ผาเลยฺย. ผาเลตฺวา สกลิกํ สกลิกํ กเรยฺย. สกลิกํ สกลิกํ กตฺวา วาตาตเป วิโสเสยฺย. วาตาตเป วิโสเสตฺวา อคฺคินา ฑเหยฺย. อคฺคินา ฑเหตฺวา มสึ กเรยฺย . มสึ กริตฺวา มหาวาเต วา โอผุเณยฺย นทิยา วา สีฆโสตาย ปวาเหยฺย. เอวํ หิสฺส, วปฺป, ยา ถูณํ ปฏิจฺจ ฉายา สา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา.

‘‘เอวเมวํ โข, วปฺป, เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน ฉ สตตวิหารา อธิคตา โหนฺติ. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน; อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน; อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โส กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยมาโน ‘กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยามี’ติ ปชานาติ; ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยมาโน ‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยามี’ติ ปชานาติ; ‘กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อิเธว สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีตี ภวิสฺสนฺตี’ติ ปชานาติ’’.

เอวํ วุตฺเต วปฺโป สกฺโก นิคณฺสาวโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ปุริโส อุทยตฺถิโก อสฺสปณิยํ โปเสยฺย. โส อุทยฺเจว นาธิคจฺเฉยฺย, อุตฺตริฺจ กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺส. เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, อุทยตฺถิโก พาเล นิคณฺเ ปยิรุปาสึ. สฺวาหํ อุทยฺเจว นาธิคจฺฉึ, อุตฺตริฺจ กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อโหสึ. เอสาหํ, ภนฺเต, อชฺชตคฺเค โย เม พาเลสุ นิคณฺเสุ ปสาโท ตํ มหาวาเต วา โอผุณามิ นทิยา วา สีฆโสตาย ปวาเหมิ. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต , ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. สาฬฺหสุตฺตํ

๑๙๖. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข สาฬฺโห จ ลิจฺฉวิ อภโย จ ลิจฺฉวิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สาฬฺโห ลิจฺฉวิ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สนฺติ, ภนฺเต, เอเก สมณพฺราหฺมณา ทฺวเยน โอฆสฺส นิตฺถรณํ ปฺเปนฺติ – สีลวิสุทฺธิเหตุ จ ตโปชิคุจฺฉาเหตุ จ. อิธ, ภนฺเต, ภควา กิมาหา’’ติ?

‘‘สีลวิสุทฺธึ โข อหํ, สาฬฺห, อฺตรํ สามฺงฺคนฺติ วทามิ. เย เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา ตโปชิคุจฺฉาวาทา ตโปชิคุจฺฉาสารา ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหรนฺติ, อภพฺพา เต โอฆสฺส นิตฺถรณาย. เยปิ เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา อปริสุทฺธกายสมาจารา อปริสุทฺธวจีสมาจารา อปริสุทฺธมโนสมาจารา อปริสุทฺธาชีวา, อภพฺพา เต าณทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธาย.

‘‘เสยฺยถาปิ, สาฬฺห, ปุริโส นทึ ตริตุกาโม ติณฺหํ กุารึ [กุธารึ (ก.)] อาทาย วนํ ปวิเสยฺย. โส ตตฺถ ปสฺเสยฺย มหตึ สาลลฏฺึ อุชุํ นวํ อกุกฺกุจฺจกชาตํ. ตเมนํ มูเล ฉินฺเทยฺย; มูเล เฉตฺวา อคฺเค ฉินฺเทยฺย; อคฺเค เฉตฺวา สาขาปลาสํ สุวิโสธิตํ วิโสเธยฺย; สาขาปลาสํ สุวิโสธิตํ วิโสเธตฺวา กุารีหิ ตจฺเฉยฺย; กุารีหิ ตจฺเฉตฺวา วาสีหิ ตจฺเฉยฺย; วาสีหิ ตจฺเฉตฺวา เลขณิยา ลิเขยฺย; เลขณิยา ลิขิตฺวา ปาสาณคุเฬน โธเวยฺย [โธเปยฺย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]; ปาสาณคุเฬน โธเวตฺวา นทึ ปตาเรยฺย.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, สาฬฺห, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส นทึ ตริตุ’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อสุ หิ, ภนฺเต, สาลลฏฺิ พหิทฺธา สุปริกมฺมกตา อนฺโต อวิสุทฺธา. ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – สาลลฏฺิ สํสีทิสฺสติ, ปุริโส อนยพฺยสนํ อาปชฺชิสฺสตี’’ติ.

‘‘เอวเมวํ โข, สาฬฺห, เย เต สมณพฺราหฺมณา ตโปชิคุจฺฉาวาทา ตโปชิคุจฺฉาสารา ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหรนฺติ, อภพฺพา เต โอฆสฺส นิตฺถรณาย. เยปิ เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา อปริสุทฺธกายสมาจารา อปริสุทฺธวจีสมาจารา อปริสุทฺธมโนสมาจารา อปริสุทฺธาชีวา, อภพฺพา เต าณทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธาย.

‘‘เย จ โข เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา น ตโปชิคุจฺฉาวาทา น ตโปชิคุจฺฉาสารา น ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหรนฺติ, ภพฺพา เต โอฆสฺส นิตฺถรณาย. เยปิ เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา ปริสุทฺธกายสมาจารา ปริสุทฺธวจีสมาจารา ปริสุทฺธมโนสมาจารา ปริสุทฺธาชีวา, ภพฺพา เต าณทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธาย.

‘‘เสยฺยถาปิ , สาฬฺห, ปุริโส นทึ ตริตุกาโม ติณฺหํ กุารึ อาทาย วนํ ปวิเสยฺย. โส ตตฺถ ปสฺเสยฺย มหตึ สาลลฏฺึ อุชุํ นวํ อกุกฺกุจฺจกชาตํ. ตเมนํ มูเล ฉินฺเทยฺย; มูเล ฉินฺทิตฺวา อคฺเค ฉินฺเทยฺย; อคฺเค ฉินฺทิตฺวา สาขาปลาสํ สุวิโสธิตํ วิโสเธยฺย; สาขาปลาสํ สุวิโสธิตํ วิโสเธตฺวา กุารีหิ ตจฺเฉยฺย; กุารีหิ ตจฺเฉตฺวา วาสีหิ ตจฺเฉยฺย; วาสีหิ ตจฺเฉตฺวา นิขาทนํ อาทาย อนฺโต สุวิโสธิตํ วิโสเธยฺย; อนฺโต สุวิโสธิตํ วิโสเธตฺวา เลขณิยา ลิเขยฺย; เลขณิยา ลิขิตฺวา ปาสาณคุเฬน โธเวยฺย; ปาสาณคุเฬน โธเวตฺวา นาวํ กเรยฺย; นาวํ กตฺวา ผิยาริตฺตํ [ปิยาริตฺตํ (สี. ปี.)] พนฺเธยฺย; ผิยาริตฺตํ พนฺธิตฺวา นทึ ปตาเรยฺย.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, สาฬฺห, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส นทึ ตริตุ’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อสุ หิ, ภนฺเต, สาลลฏฺิ พหิทฺธา สุปริกมฺมกตา, อนฺโต สุวิสุทฺธา นาวากตา [สุวิสุทฺธกตา (ก.)] ผิยาริตฺตพทฺธา. ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘นาวา น สํสีทิสฺสติ, ปุริโส โสตฺถินา ปารํ คมิสฺสตี’’’ติ.

‘‘เอวเมวํ โข , สาฬฺห, เย เต สมณพฺราหฺมณา น ตโปชิคุจฺฉาวาทา น ตโปชิคุจฺฉาสารา น ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหรนฺติ, ภพฺพา เต โอฆสฺส นิตฺถรณาย. เยปิ เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา ปริสุทฺธกายสมาจารา ปริสุทฺธวจีสมาจารา ปริสุทฺธมโนสมาจารา ปริสุทฺธาชีวา, ภพฺพา เต าณทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธาย. เสยฺยถาปิ, สาฬฺห, โยธาชีโว พหูนิ เจปิ กณฺฑจิตฺรกานิ ชานาติ; อถ โข โส ตีหิ าเนหิ ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ ตีหิ? ทูเรปาตี จ, อกฺขณเวธี จ, มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา.

‘‘เสยฺยถาปิ, สาฬฺห, โยธาชีโว ทูเรปาตี; เอวเมวํ โข, สาฬฺห, อริยสาวโก สมฺมาสมาธิ โหติ. สมฺมาสมาธิ, สาฬฺห, อริยสาวโก ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา สพฺพํ รูปํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยา กาจิ สฺา… เย เกจิ สงฺขารา… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิฺาณํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, สาฬฺห, โยธาชีโว อกฺขณเวธี; เอวเมวํ โข, สาฬฺห, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ. สมฺมาทิฏฺิ , สาฬฺห, อริยสาวโก ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, สาฬฺห, โยธาชีโว มหโต กายสฺส ปทาเลตา; เอวเมวํ โข, สาฬฺห, อริยสาวโก สมฺมาวิมุตฺติ โหติ. สมฺมาวิมุตฺติ, สาฬฺห, อริยสาวโก มหนฺตํ อวิชฺชากฺขนฺธํ ปทาเลตี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. มลฺลิกาเทวีสุตฺตํ

๑๙๗. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข มลฺลิกา เทวี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข มลฺลิกา เทวี ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา [สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ ‘‘ทุพฺพโณ จ โหติ ทุรูโป สุปาปโก’’ติ เอวมาทินา ปุลฺลิงฺคิกวเสน ทิสฺสติ] ทสฺสนาย; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ?

‘‘โก ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย; อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จ?

‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ?

‘‘โก ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา, อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จา’’ติ?

‘‘อิธ , มลฺลิเก, เอกจฺโจ มาตุคาโม โกธนา โหติ อุปายาสพหุลา. อปฺปมฺปิ วุตฺตา สมานา อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. สา [โส (สฺยา.)] น ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. อิสฺสามนิกา [อิสฺสามนโก (สฺยา.)] โข ปน โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ อิสฺสติ อุปทุสฺสติ อิสฺสํ พนฺธติ. สา เจ ตโต จุตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, สา [โส (สฺยา.)] ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ.

‘‘อิธ ปน, มลฺลิเก, เอกจฺโจ มาตุคาโม โกธนา โหติ อุปายาสพหุลา. อปฺปมฺปิ วุตฺตา สมานา อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. สา ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. อนิสฺสามนิกา โข ปน โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ น อิสฺสติ น อุปทุสฺสติ น อิสฺสํ พนฺธติ. สา เจ ตโต จุตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, สา ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย; อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จ.

‘‘อิธ ปน, มลฺลิเก, เอกจฺโจ มาตุคาโม อกฺโกธนา โหติ อนุปายาสพหุลา. พหุมฺปิ วุตฺตา สมานา นาภิสชฺชติ น กุปฺปติ น พฺยาปชฺชติ น ปติตฺถียติ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. สา น ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. อิสฺสามนิกา โข ปน โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ อิสฺสติ อุปทุสฺสติ อิสฺสํ พนฺธติ. สา เจ ตโต จุตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, สา ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ.

‘‘อิธ ปน, มลฺลิเก, เอกจฺโจ มาตุคาโม อกฺโกธนา โหติ อนุปายาสพหุลา. พหุมฺปิ วุตฺตา สมานา นาภิสชฺชติ น กุปฺปติ น พฺยาปชฺชติ น ปติตฺถียติ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. สา ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. อนิสฺสามนิกา โข ปน โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ น อิสฺสติ น อุปทุสฺสติ น อิสฺสํ พนฺธติ. สา เจ ตโต จุตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, สา ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา; อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จ.

‘‘อยํ โข, มลฺลิเก, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ. อยํ ปน, มลฺลิเก, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย; อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จ. อยํ โข, มลฺลิเก, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ. อยํ ปน, มลฺลิเก, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา; อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต มลฺลิกา เทวี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยา นูนาหํ [สา นูนาหํ (สฺยา.), ยํ นูนาหํ (ก.)] ภนฺเต, อฺํ ชาตึ [อฺาย ชาติยา (สฺยา.)] โกธนา อโหสึ อุปายาสพหุลา, อปฺปมฺปิ วุตฺตา สมานา อภิสชฺชึ กุปฺปึ พฺยาปชฺชึ ปติตฺถียึ โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสึ, สาหํ, ภนฺเต, เอตรหิ ทุพฺพณฺณา ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย.

‘‘ยา นูนาหํ, ภนฺเต, อฺํ ชาตึ ทาตา อโหสึ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, สาหํ, ภนฺเต, เอตรหิ อฑฺฒา [อฑฺฒา จ (สี. ปี. ก.)] มหทฺธนา มหาโภคา.

‘‘ยา นูนาหํ, ภนฺเต, อฺํ ชาตึ อนิสฺสามนิกา อโหสึ, ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ น อิสฺสึ น อุปทุสฺสึ น อิสฺสํ พนฺธึ, สาหํ, ภนฺเต, เอตรหิ มเหสกฺขา. สนฺติ โข ปน, ภนฺเต, อิมสฺมึ ราชกุเล ขตฺติยกฺาปิ พฺราหฺมณกฺาปิ คหปติกฺาปิ, ตาสาหํ อิสฺสราธิปจฺจํ กาเรมิ. เอสาหํ, ภนฺเต, อชฺชตคฺเค อกฺโกธนา ภวิสฺสามิ อนุปายาสพหุลา, พหุมฺปิ วุตฺตา สมานา นาภิสชฺชิสฺสามิ น กุปฺปิสฺสามิ น พฺยาปชฺชิสฺสามิ น ปติตฺถียิสฺสามิ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ น ปาตุกริสฺสามิ; ทสฺสามิ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. อนิสฺสามนิกา ภวิสฺสามิ, ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ น อิสฺสิสฺสามิ น อุปทุสฺสิสฺสามิ น อิสฺสํ พนฺธิสฺสามิ. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสิกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. อตฺตนฺตปสุตฺตํ

๑๙๘. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ [ปุ. ป. ๑๗๔; ม. นิ. ๒.๗; ที. นิ. ๓.๓๑๔; อ. นิ. ๓.๑๕๗-๑๖๓] ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป โหติ นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. โส เนว อตฺตนฺตโป น ปรนฺตโป ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อเจลโก โหติ มุตฺตาจาโร หตฺถาปเลขโน นเอหิภทฺทนฺติโก นติฏฺภทฺทนฺติโก นาภิหฏํ น อุทฺทิสฺสกตํ น นิมนฺตนํ สาทิยติ. โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น กโฬปิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น เอฬกมนฺตรํ น ทณฺฑมนฺตรํ น มุสลมนฺตรํ น ทฺวินฺนํ ภุฺชมานานํ น คพฺภินิยา น ปายมานาย น ปุริสนฺตรคตาย น สงฺกิตฺตีสุ น ยตฺถ สา อุปฏฺิโต โหติ น ยตฺถ มกฺขิกา สณฺฑสณฺฑจารินี น มจฺฉํ น มํสํ น สุรํ น เมรยํ น ถุโสทกํ ปิวติ. โส เอกาคาริโก วา โหติ เอกาโลปิโก ทฺวาคาริโก วา โหติ ทฺวาโลปิโก…เป… สตฺตาคาริโก วา โหติ สตฺตาโลปิโก; เอกิสฺสาปิ ทตฺติยา ยาเปติ ทฺวีหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ…เป… สตฺตหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ; เอกาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ ทฺวาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ…เป… สตฺตาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ. อิติ เอวรูปํ อฑฺฒมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ.

‘‘โส สากภกฺโขปิ โหติ สามากภกฺโขปิ โหติ นีวารภกฺโขปิ โหติ ททฺทุลภกฺโขปิ โหติ หฏภกฺโขปิ โหติ กณภกฺโขปิ โหติ อาจามภกฺโขปิ โหติ ปิฺากภกฺโขปิ โหติ ติณภกฺโขปิ โหติ โคมยภกฺโขปิ โหติ; วนมูลผลาหาโรปิ ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี.

‘‘โส สาณานิปิ ธาเรติ มสาณานิปิ ธาเรติ ฉวทุสฺสานิปิ ธาเรติ ปํสุกูลานิปิ ธาเรติ ติรีฏานิปิ ธาเรติ อชินมฺปิ ธาเรติ อชินกฺขิปมฺปิ ธาเรติ กุสจีรมฺปิ ธาเรติ วากจีรมฺปิ ธาเรติ ผลกจีรมฺปิ ธาเรติ เกสกมฺพลมฺปิ ธาเรติ วาฬกมฺพลมฺปิ ธาเรติ อุลูกปกฺขมฺปิ ธาเรติ; เกสมสฺสุโลจโกปิ โหติ เกสมสฺสุโลจนานุโยคมนุยุตฺโต; อุพฺภฏฺโกปิ โหติ อาสนปฺปฏิกฺขิตฺโต; อุกฺกุฏิโกปิ โหติ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโต; กณฺฏกาปสฺสยิโกปิ โหติ กณฺฏกาปสฺสเย เสยฺยํ กปฺเปติ; สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. อิติ เอวรูปํ อเนกวิหิตํ กายสฺส อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โอรพฺภิโก โหติ สูกริโก สากุณิโก มาควิโก ลุทฺโท มจฺฉฆาตโก โจโร โจรฆาตโก โคฆาตโก พนฺธนาคาริโก, เย วา ปนฺเปิ เกจิ กุรูรกมฺมนฺตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ราชา วา โหติ ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต, พฺราหฺมโณ วา โหติ มหาสาโล. โส ปุรตฺถิเมน นครสฺส นวํ สนฺถาคารํ การาเปตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ขราชินํ นิวาเสตฺวา สปฺปิเตเลน กายํ อพฺภฺชิตฺวา มควิสาเณน ปิฏฺึ กณฺฑุวมาโน นวํ สนฺถาคารํ ปวิสติ, สทฺธึ มเหสิยา พฺราหฺมเณน จ ปุโรหิเตน. โส ตตฺถ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา หริตุปลิตฺตาย เสยฺยํ กปฺเปติ. เอกิสฺสาย คาวิยา สรูปวจฺฉาย ยํ เอกสฺมึ ถเน ขีรํ โหติ เตน ราชา ยาเปติ; ยํ ทุติยสฺมึ ถเน ขีรํ โหติ เตน มเหสี ยาเปติ; ยํ ตติยสฺมึ ถเน ขีรํ โหติ เตน พฺราหฺมโณ ปุโรหิโต ยาเปติ; ยํ จตุตฺถสฺมึ ถเน ขีรํ โหติ เตน อคฺคึ ชุหติ [ชุหนฺติ (สี. ปี.)]; อวเสเสน วจฺฉโก ยาเปติ. โส เอวมาห – ‘เอตฺตกา อุสภา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตรา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตริโย หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อชา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อุรพฺภา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, (เอตฺตกา อสฺสา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย,) [( ) นตฺถิ สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ] เอตฺตกา รุกฺขา ฉิชฺชนฺตุ ยูปตฺถาย, เอตฺตกา ทพฺภา ลูยนฺตุ พริหิสตฺถายา’ติ [ปริกมฺมตฺถายาติ (ก.)]. เยปิสฺส เต โหนฺติ ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา เตปิ ทณฺฑตชฺชิตา ภยตชฺชิตา อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ กโรนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป โหติ นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ. อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต. โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา; นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ; ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย, มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย, อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย, มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย, เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ.

‘‘โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ. อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรติ. อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี วิรโต อสทฺธมฺมา คามธมฺมา. มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส. ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, น อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, น อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย; อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา, สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา, สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ. ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ; ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ. สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺตวาที ธมฺมวาที วินยวาที; นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ.

‘‘โส พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ. เอกภตฺติโก โหติ รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต โหติ. มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต โหติ. ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อามกธฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. หตฺถิควาสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ. กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต โหติ. ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต โหติ. อุกฺโกฏนวฺจนนิกติสาจิโยคา ปฏิวิรโต โหติ. เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต โหติ.

‘‘โส สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ. เสยฺยถาปิ นาม ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ, สปตฺตภาโรว เฑติ; เอวเมวํ ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมติ , สมาทาเยว ปกฺกมติ. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติ.

‘‘โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ; จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ มนินฺทฺริยํ; มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทติ.

‘‘โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ .

‘‘โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต, (อิมาย จ อริยาย สนฺตุฏฺิยา สมนฺนาคโต,) [( ) นตฺถิ สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ. ม. นิ. ๑.๒๙๖; ม. นิ. ๒.๑๓ ปสฺสิตพฺพํ] อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต [สมนฺนาคโต. โส (ก.)] วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปฺปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ. ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย…เป… สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย…เป… (โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต) อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ , ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ.

‘‘ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ; วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป โหติ นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. โส น อตฺตนฺตโป น ปรนฺตโป ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อฏฺมํ.

๙. ตณฺหาสุตฺตํ

๑๙๙. ภควา เอตทโวจ – ‘‘ตณฺหํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ ชาลินึ สริตํ วิสฏํ วิสตฺติกํ, ยาย อยํ โลโก อุทฺธสฺโต ปริโยนทฺโธ ตนฺตากุลกชาโต คุลาคุณฺิกชาโต [กุลาคุณฺิกชาโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๑๙๙] มุฺชปพฺพชภูโต อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตติ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตมา จ สา, ภิกฺขเว, ตณฺหา ชาลินี สริตา วิสฏา วิสตฺติกา, ยาย อยํ โลโก อุทฺธสฺโต ปริโยนทฺโธ ตนฺตากุลกชาโต คุลาคุณฺิกชาโต มุฺชปพฺพชภูโต อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตติ ? อฏฺารส โข ปนิมานิ, ภิกฺขเว, ตณฺหาวิจริตานิ อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย, อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ พาหิรสฺส อุปาทาย.

‘‘กตมานิ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย? อสฺมีติ, ภิกฺขเว, สติ อิตฺถสฺมีติ โหติ, เอวํสฺมีติ [เอวมสฺมิ (สี.), เอวสฺมิ (สฺยา. กํ. ปี.) วิภ. ๙๗๓ ปสฺสิตพฺพํ] โหติ, อฺถาสฺมีติ โหติ, อสสฺมีติ โหติ, สตสฺมีติ โหติ, สนฺติ โหติ, อิตฺถํ สนฺติ โหติ, เอวํ สนฺติ โหติ, อฺถา สนฺติ โหติ, อปิหํ [อปิห (สี. ปี.), อปิ (สฺยา. กํ.)] สนฺติ โหติ, อปิหํ [อปิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อิตฺถํ สนฺติ โหติ, อปิหํ [อปิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เอวํ สนฺติ โหติ, อปิหํ [อปิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อฺถา สนฺติ โหติ , ภวิสฺสนฺติ โหติ, อิตฺถํ ภวิสฺสนฺติ โหติ, เอวํ ภวิสฺสนฺติ โหติ, อฺถา ภวิสฺสนฺติ โหติ. อิมานิ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย.

‘‘กตมานิ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ พาหิรสฺส อุปาทาย? อิมินาสฺมีติ, ภิกฺขเว, สติ อิมินา อิตฺถสฺมีติ โหติ, อิมินา เอวํสฺมีติ โหติ, อิมินา อฺถาสฺมีติ โหติ, อิมินา อสสฺมีติ โหติ, อิมินา สตสฺมีติ โหติ, อิมินา สนฺติ โหติ, อิมินา อิตฺถํ สนฺติ โหติ, อิมินา เอวํ สนฺติ โหติ, อิมินา อฺถา สนฺติ โหติ, อิมินา อปิหํ สนฺติ โหติ, อิมินา อปิหํ อิตฺถํ สนฺติ โหติ, อิมินา อปิหํ เอวํ สนฺติ โหติ, อิมินา อปิหํ อฺถา สนฺติ โหติ, อิมินา ภวิสฺสนฺติ โหติ, อิมินา อิตฺถํ ภวิสฺสนฺติ โหติ, อิมินา เอวํ ภวิสฺสนฺติ โหติ, อิมินา อฺถา ภวิสฺสนฺติ โหติ. อิมานิ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ พาหิรสฺส อุปาทาย.

‘‘อิติ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย, อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ พาหิรสฺส อุปาทาย. อิมานิ วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ. อิติ เอวรูปานิ อตีตานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ, อนาคตานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ , ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ. เอวํ อฏฺสตํ ตณฺหาวิจริตํ โหนฺติ.

‘‘อยํ โข สา, ภิกฺขเว, ตณฺหา ชาลินี สริตา วิสฏา วิสตฺติกา, ยาย อยํ โลโก อุทฺธสฺโต ปริโยนทฺโธ ตนฺตากุลกชาโต คุลาคุณฺิกชาโต มุฺชปพฺพชภูโต อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. เปมสุตฺตํ

๒๐๐. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, (เปมานิ) [( ) นตฺถิ สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ] ชายนฺติ. กตมานิ จตฺตาริ? เปมา เปมํ ชายติ, เปมา โทโส ชายติ, โทสา เปมํ ชายติ, โทสา โทโส ชายติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, เปมา เปมํ ชายติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคลสฺส อิฏฺโ โหติ กนฺโต มนาโป. ตํ ปเร อิฏฺเน กนฺเตน มนาเปน สมุทาจรนฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘โย โข มฺยายํ ปุคฺคโล อิฏฺโ กนฺโต มนาโป, ตํ ปเร อิฏฺเน กนฺเตน มนาเปน สมุทาจรนฺตี’ติ . โส เตสุ เปมํ ชเนติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เปมา เปมํ ชายติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, เปมา โทโส ชายติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคลสฺส อิฏฺโ โหติ กนฺโต มนาโป. ตํ ปเร อนิฏฺเน อกนฺเตน อมนาเปน สมุทาจรนฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘โย โข มฺยายํ ปุคฺคโล อิฏฺโ กนฺโต มนาโป, ตํ ปเร อนิฏฺเน อกนฺเตน อมนาเปน สมุทาจรนฺตี’ติ. โส เตสุ โทสํ ชเนติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เปมา โทโส ชายติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, โทสา เปมํ ชายติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคลสฺส อนิฏฺโ โหติ อกนฺโต อมนาโป. ตํ ปเร อนิฏฺเน อกนฺเตน อมนาเปน สมุทาจรนฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘โย โข มฺยายํ ปุคฺคโล อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป, ตํ ปเร อนิฏฺเน อกนฺเตน อมนาเปน สมุทาจรนฺตี’ติ. โส เตสุ เปมํ ชเนติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, โทสา เปมํ ชายติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, โทสา โทโส ชายติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคลสฺส อนิฏฺโ โหติ อกนฺโต อมนาโป . ตํ ปเร อิฏฺเน กนฺเตน มนาเปน สมุทาจรนฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘โย โข มฺยายํ ปุคฺคโล อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป, ตํ ปเร อิฏฺเน กนฺเตน มนาเปน สมุทาจรนฺตี’ติ. โส เตสุ โทสํ ชเนติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, โทสา โทโส ชายติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ เปมานิ ชายนฺติ.

‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ยมฺปิสฺส เปมา เปมํ ชายติ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ, โยปิสฺส เปมา โทโส ชายติ โสปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ, ยมฺปิสฺส โทสา เปมํ ชายติ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ, โยปิสฺส โทสา โทโส ชายติ โสปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ.

‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ยมฺปิสฺส เปมา เปมํ ชายติ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ, โยปิสฺส เปมา โทโส ชายติ โสปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ, ยมฺปิสฺส โทสา เปมํ ชายติ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ, โยปิสฺส โทสา โทโส ชายติ โสปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ.

‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ยมฺปิสฺส เปมา เปมํ ชายติ ตมฺปิสฺส ปหีนํ โหติ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวํกตํ อายตึ อนุปฺปาทธมฺมํ, โยปิสฺส เปมา โทโส ชายติ โสปิสฺส ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม, ยมฺปิสฺส โทสา เปมํ ชายติ ตมฺปิสฺส ปหีนํ โหติ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวํกตํ อายตึ อนุปฺปาทธมฺมํ, โยปิสฺส โทสา โทโส ชายติ โสปิสฺส ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เนว อุสฺเสเนติ น ปฏิเสเนติ [น ปฏิสฺเสเนติ (สี. ปี.)] น ธูปายติ น ปชฺชลติ น สมฺปชฺฌายติ [น อปชฺฌายติ (สี.), น ปชฺฌายติ (สฺยา. กํ. ปี.)].

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุสฺเสเนติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ , อตฺตนิ วา เวทนํ, เวทนาย วา อตฺตานํ; สฺํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, สฺาวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา สฺํ, สฺาย วา อตฺตานํ; สงฺขาเร อตฺตโต สมนุปสฺสติ, สงฺขารวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา สงฺขาเร, สงฺขาเรสุ วา อตฺตานํ; วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา วิฺาณํ, วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุสฺเสเนติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อุสฺเสเนติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา รูปํ, น รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; น เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา เวทนํ, น เวทนาย วา อตฺตานํ; น สฺํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น สฺาวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา สฺํ , น สฺาย วา อตฺตานํ; น สงฺขาเร อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น สงฺขารวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา สงฺขาเร, น สงฺขาเรสุ วา อตฺตานํ; น วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา วิฺาณํ, น วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อุสฺเสเนติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิเสเนติ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสนฺตํ ปจฺจกฺโกสติ, โรสนฺตํ ปฏิโรสติ, ภณฺฑนฺตํ ปฏิภณฺฑติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิเสเนติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปฏิเสเนติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสนฺตํ น ปจฺจกฺโกสติ, โรสนฺตํ น ปฏิโรสติ, ภณฺฑนฺตํ น ปฏิภณฺฑติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปฏิเสเนติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธูปายติ? อสฺมีติ, ภิกฺขเว, สติ อิตฺถสฺมีติ โหติ, เอวํสฺมีติ โหติ, อฺถาสฺมีติ โหติ, อสสฺมีติ โหติ, สตสฺมีติ โหติ, สนฺติ โหติ, อิตฺถํ สนฺติ โหติ, เอวํ สนฺติ โหติ, อฺถา สนฺติ โหติ, อปิหํ สนฺติ โหติ, อปิหํ อิตฺถํ สนฺติ โหติ, อปิหํ เอวํ สนฺติ โหติ, อปิหํ อฺถา สนฺติ โหติ, ภวิสฺสนฺติ โหติ, อิตฺถํ ภวิสฺสนฺติ โหติ, เอวํ ภวิสฺสนฺติ โหติ, อฺถา ภวิสฺสนฺติ โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธูปายติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ธูปายติ? อสฺมีติ, ภิกฺขเว, อสติ อิตฺถสฺมีติ น โหติ, เอวํสฺมีติ น โหติ, อฺถาสฺมีติ น โหติ, อสสฺมีติ น โหติ, สตสฺมีติ น โหติ, สนฺติ น โหติ, อิตฺถํ สนฺติ น โหติ, เอวํ สนฺติ น โหติ, อฺถา สนฺติ น โหติ, อปิหํ สนฺติ น โหติ, อปิหํ อิตฺถํ สนฺติ น โหติ, อปิหํ เอวํ สนฺติ น โหติ, อปิหํ อฺถา สนฺติ น โหติ, ภวิสฺสนฺติ น โหติ, อิตฺถํ ภวิสฺสนฺติ น โหติ, เอวํ ภวิสฺสนฺติ น โหติ, อฺถา ภวิสฺสนฺติ น โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ธูปายติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปชฺชลติ? อิมินา อสฺมีติ, ภิกฺขเว, สติ อิมินา อิตฺถสฺมีติ โหติ, อิมินา เอวํสฺมีติ โหติ, อิมินา อฺถาสฺมีติ โหติ, อิมินา อสสฺมีติ โหติ, อิมินา สตสฺมีติ โหติ, อิมินา สนฺติ โหติ, อิมินา อิตฺถํ สนฺติ โหติ, อิมินา เอวํ สนฺติ โหติ, อิมินา อฺถา สนฺติ โหติ, อิมินา อปิหํ สนฺติ โหติ, อิมินา อปิหํ อิตฺถํ สนฺติ โหติ, อิมินา อปิหํ เอวํ สนฺติ โหติ, อิมินา อปิหํ อฺถา สนฺติ โหติ, อิมินา ภวิสฺสนฺติ โหติ, อิมินา อิตฺถํ ภวิสฺสนฺติ โหติ, อิมินา เอวํ ภวิสฺสนฺติ โหติ, อิมินา อฺถา ภวิสฺสนฺติ โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปชฺชลติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปชฺชลติ? อิมินา อสฺมีติ, ภิกฺขเว, อสติ อิมินา อิตฺถสฺมีติ น โหติ, อิมินา เอวํสฺมีติ น โหติ, อิมินา อฺถาสฺมีติ น โหติ, อิมินา อสสฺมีติ น โหติ, อิมินา สตสฺมีติ น โหติ, อิมินา สนฺติ น โหติ, อิมินา อิตฺถํ สนฺติ น โหติ, อิมินา เอวํ สนฺติ น โหติ, อิมินา อฺถา สนฺติ น โหติ, อิมินา อปิหํ สนฺติ น โหติ, อิมินา อปิหํ อิตฺถํ สนฺติ น โหติ, อิมินา อปิหํ เอวํ สนฺติ น โหติ, อิมินา อปิหํ อฺถา สนฺติ น โหติ, อิมินา ภวิสฺสนฺติ น โหติ, อิมินา อิตฺถํ ภวิสฺสนฺติ น โหติ, อิมินา เอวํ ภวิสฺสนฺติ น โหติ, อิมินา อฺถา ภวิสฺสนฺติ น โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปชฺชลติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺปชฺฌายติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสฺมิมาโน ปหีโน น โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺปชฺฌายติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สมฺปชฺฌายติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสฺมิมาโน ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สมฺปชฺฌายตี’’ติ. ทสมํ.

มหาวคฺโค ปฺจโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

โสตานุคตํ านํ, ภทฺทิย สามุคิย วปฺป สาฬฺหา จ;

มลฺลิก อตฺตนฺตาโป, ตณฺหา เปเมน จ ทสา เตติ.

จตุตฺถมหาปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

๕. ปฺจมปณฺณาสกํ