📜

(๒๔) ๔. กมฺมวคฺโค

๑. สํขิตฺตสุตฺตํ

๒๓๒. ‘‘จตฺตาริมานิ , ภิกฺขเว, กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ [อกณฺหํ อสุกฺกํ (สี. สฺยา. ปี.) (ที. นิ. ๓.๓๑๒; ม. นิ. ๒.๘๑)] อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติ. ปมํ.

๒. วิตฺถารสุตฺตํ

๒๓๓. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว , กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌํ [สพฺยาปชฺฌํ (สพฺพตฺถ)] กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ. โส สพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา สพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปชฺชติ. ตเมนํ สพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปนฺนํ สมานํ สพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺติ. โส สพฺยาพชฺเฌหิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโ สมาโน สพฺยาพชฺฌํ เวทนํ เวทิยติ [เวทยติ (ก.) อ. นิ. ๖.๖๓] เอกนฺตทุกฺขํ, เสยฺยถาปิ สตฺตา เนรยิกา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ.

‘‘กตมฺจ , ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ. โส อพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, อพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, อพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา อพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปชฺชติ. ตเมนํ อพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปนฺนํ สมานํ อพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺติ. โส อพฺยาพชฺเฌหิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโ สมาโน อพฺยาพชฺฌํ เวทนํ เวทิยติ เอกนฺตสุขํ, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ. โส สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ โลกํ อุปปชฺชติ. ตเมนํ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ โลกํ อุปปนฺนํ สมานํ สพฺยาพชฺฌาปิ อพฺยาพชฺฌาปิ ผสฺสา ผุสนฺติ. โส สพฺยาพชฺเฌหิปิ อพฺยาพชฺเฌหิปิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโ สมาโน สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ เวทนํ เวทิยติ โวกิณฺณสุขทุกฺขํ, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา, ยมิทํ [ยมฺปิทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา, ยมิทํ [ยมฺปิทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว , กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติ. ทุติยํ.

๓. โสณกายนสุตฺตํ

๒๓๔. อถ โข สิขาโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สิขาโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘ปุริมานิ, โภ โคตม, ทิวสานิ ปุริมตรานิ โสณกายโน มาณโว เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘สมโณ โคตโม สพฺพกมฺมานํ อกิริยํ ปฺเปติ, สพฺพกมฺมานํ โข ปน อกิริยํ ปฺเปนฺโต อุจฺเฉทํ อาห โลกสฺส – กมฺมสจฺจายํ [กมฺมสจฺจายี (ก.)], โภ, โลโก กมฺมสมารมฺภฏฺายี’’’ติ.

‘‘ทสฺสนมฺปิ โข อหํ, พฺราหฺมณ, โสณกายนสฺส มาณวสฺส นาภิชานามิ; กุโต ปเนวรูโป กถาสลฺลาโป! จตฺตาริมานิ, พฺราหฺมณ, กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถิ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ; อตฺถิ , พฺราหฺมณ, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ.

‘‘กตมฺจ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ. โส สพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา สพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปชฺชติ. ตเมนํ สพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปนฺนํ สมานํ สพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺติ. โส สพฺยาพชฺเฌหิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโ สมาโน สพฺยาพชฺฌํ เวทนํ เวทิยติ เอกนฺตทุกฺขํ, เสยฺยถาปิ สตฺตา เนรยิกา. อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ.

‘‘กตมฺจ , พฺราหฺมณ, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ อพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ. โส อพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, อพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา , อพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา อพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปชฺชติ. ตเมนํ อพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปนฺนํ สมานํ อพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺติ. โส อพฺยาพชฺเฌหิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโ สมาโน อพฺยาพชฺฌํ เวทนํ เวทิยติ เอกนฺตสุขํ, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ. โส สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ โลกํ อุปปชฺชติ. ตเมนํ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ โลกํ อุปปนฺนํ สมานํ สพฺยาพชฺฌาปิ อพฺยาพชฺฌาปิ ผสฺสา ผุสนฺติ. โส สพฺยาพชฺเฌหิปิ อพฺยาพชฺเฌหิปิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโ สมาโน สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ เวทนํ เวทิยติ โวกิณฺณสุขทุกฺขํ, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? ตตฺร, พฺราหฺมณ, ยมิทํ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา, ยมิทํ กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา, ยมิทํ กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา – อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, พฺราหฺมณ, จตฺตาริ กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติ. ตติยํ.

๔. ปมสิกฺขาปทสุตฺตํ

๒๓๕. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ , ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี โหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ…เป… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ…เป… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ทุติยสิกฺขาปทสุตฺตํ

๒๓๖. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺเจน มาตา [เอกจฺโจ มาตรํ (ก.)] ชีวิตา โวโรปิตา โหติ, ปิตา [ปิตรํ (ก.)] ชีวิตา โวโรปิโต [โวโรปิตา (ก.)] โหติ, อรหํ [อรหนฺตํ (ก.)] ชีวิตา โวโรปิโต [โวโรปิตา (ก.)] โหติ , ตถาคตสฺส ทุฏฺเน จิตฺเตน โลหิตํ อุปฺปาทิตํ [อุปฺปาทิตา (ก.)] โหติ, สงฺโฆ ภินฺโน โหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, สมฺมาทิฏฺิ [สมฺมาทิฏฺิโก (สี. สฺยา. กํ.)] โหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ…เป… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ…เป… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. อริยมคฺคสุตฺตํ

๒๓๗. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ…เป… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ.

‘‘กตมฺจ , ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ? อิธ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ…เป… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ…เป… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. โพชฺฌงฺคสุตฺตํ

๒๓๘. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กมฺมานิ…เป… กณฺหํ กณฺหวิปากํ…เป… อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ…เป… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ…เป… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ? อิธ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ…เป… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? สติสมฺโพชฺฌงฺโค, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค, วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติ. สตฺตมํ.

๘. สาวชฺชสุตฺตํ

๒๓๙. ‘‘จตูหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? สาวชฺเชน กายกมฺเมน, สาวชฺเชน วจีกมฺเมน, สาวชฺเชน มโนกมฺเมน, สาวชฺชาย ทิฏฺิยา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? อนวชฺเชน กายกมฺเมน, อนวชฺเชน วจีกมฺเมน, อนวชฺเชน มโนกมฺเมน, อนวชฺชาย ทิฏฺิยา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อพฺยาพชฺฌสุตฺตํ

๒๔๐. ‘‘จตูหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? สพฺยาพชฺเฌน กายกมฺเมน, สพฺยาพชฺเฌน วจีกมฺเมน, สพฺยาพชฺเฌน มโนกมฺเมน, สพฺยาพชฺฌาย ทิฏฺิยา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘จตูหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? อพฺยาพชฺเฌน กายกมฺเมน, อพฺยาพชฺเฌน วจีกมฺเมน, อพฺยาพชฺเฌน มโนกมฺเมน, อพฺยาพชฺฌาย ทิฏฺิยา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. นวมํ.

๑๐. สมณสุตฺตํ

๒๔๑. ‘‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, (ปโม) สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ; สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณหิ อฺเหี’ติ [สมเณหิ อฺเติ (สี. ปี. ก.) เอตฺถ อฺเหีติ สกาย ปฏิฺาย สจฺจาภิฺเหีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ที. นิ. ๒.๒๑๔; ม. นิ. ๑.๑๔๐] – เอวเมตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา สีหนาทํ นทถ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปโม สมโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม สมโณ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ทุติโย สมโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย สมโณ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ตติโย สมโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย สมโณ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ สมโณ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ สมโณ.

‘‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, ปโม สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ; สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’ติ – เอวเมตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา สีหนาทํ นทถา’’ติ. ทสมํ.

๑๑. สปฺปุริสานิสํสสุตฺตํ

๒๔๒. ‘‘สปฺปุริสํ , ภิกฺขเว, นิสฺสาย จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขา. กตเม จตฺตาโร? อริเยน สีเลน วฑฺฒติ, อริเยน สมาธินา วฑฺฒติ, อริยาย ปฺาย วฑฺฒติ, อริยาย วิมุตฺติยา วฑฺฒติ – สปฺปุริสํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อิเม จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ. เอกาทสมํ.

กมฺมวคฺโค จตุตฺโถ.

ตสฺสุทฺทานํ –

สํขิตฺต วิตฺถาร โสณกายน,

สิกฺขาปทํ อริยมคฺโค โพชฺฌงฺคํ;

สาวชฺชฺเจว อพฺยาพชฺฌํ,

สมโณ จ สปฺปุริสานิสํโสติ.