📜

(๗) ๒. ปตฺตกมฺมวคฺโค

๑. ปตฺตกมฺมสุตฺตํ

๖๑. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –

‘‘จตฺตาโรเม , คหปติ, ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? โภคา เม อุปฺปชฺชนฺตุ สหธมฺเมนาติ, อยํ ปโม ธมฺโม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ.

‘‘โภเค ลทฺธา สหธมฺเมน ยโส เม อาคจฺฉตุ สห าตีหิ สห อุปชฺฌาเยหีติ, อยํ ทุติโย ธมฺโม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ.

‘‘โภเค ลทฺธา สหธมฺเมน ยสํ ลทฺธา สห าตีหิ สห อุปชฺฌาเยหิ จิรํ ชีวามิ ทีฆมายุํ ปาเลมีติ, อยํ ตติโย ธมฺโม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ.

‘‘โภเค ลทฺธา สหธมฺเมน ยสํ ลทฺธา สห าตีหิ สห อุปชฺฌาเยหิ จิรํ ชีวิตฺวา ทีฆมายุํ ปาเลตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชามีติ, อยํ จตุตฺโถ ธมฺโม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ. อิเม โข, คหปติ, จตฺตาโร ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ.

‘‘อิเมสํ โข, คหปติ, จตุนฺนํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมึ จตฺตาโร ธมฺมา ปฏิลาภาย สํวตฺตนฺติ. กตเม จตฺตาโร? สทฺธาสมฺปทา, สีลสมฺปทา, จาคสมฺปทา, ปฺาสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, คหปติ, สทฺธาสมฺปทา? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ, สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อยํ วุจฺจติ, คหปติ, สทฺธาสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, คหปติ, สีลสมฺปทา? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. อยํ วุจฺจติ, คหปติ, สีลสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, คหปติ, จาคสมฺปทา? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต. อยํ วุจฺจติ, คหปติ, จาคสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, คหปติ, ปฺาสมฺปทา? อภิชฺฌาวิสมโลภาภิภูเตน , คหปติ, เจตสา วิหรนฺโต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติ. อกิจฺจํ กโรนฺโต กิจฺจํ อปราเธนฺโต ยสา จ สุขา จ ธํสติ. พฺยาปาทาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรนฺโต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติ. อกิจฺจํ กโรนฺโต กิจฺจํ อปราเธนฺโต ยสา จ สุขา จ ธํสติ. ถินมิทฺธาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรนฺโต อกิจฺจํ กโรติ กิจฺจํ อปราเธติ. อกิจฺจํ กโรนฺโต กิจฺจํ อปราเธนฺโต ยสา จ สุขา จ ธํสติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรนฺโต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติ. อกิจฺจํ กโรนฺโต กิจฺจํ อปราเธนฺโต ยสา จ สุขา จ ธํสติ. วิจิกิจฺฉาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรนฺโต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติ. อกิจฺจํ กโรนฺโต กิจฺจํ อปราเธนฺโต ยสา จ สุขา จ ธํสติ.

‘‘ส โข โส, คหปติ, อริยสาวโก อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อภิชฺฌาวิสมโลภํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ. พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา พฺยาปาทํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ. ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ. วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ.

‘‘ยโต จ โข, คหปติ, อริยสาวกสฺส อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ. พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ. ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ. วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ. อยํ วุจฺจติ, คหปติ, อริยสาวโก มหาปฺโ ปุถุปฺโ อาปาตทโส [อาปาถทโส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฺาสมฺปนฺโน [หาสปฺโ (ก.)]. อยํ วุจฺจติ, คหปติ , ปฺาสมฺปทา. อิเมสํ โข, คหปติ, จตุนฺนํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมึ อิเม จตฺตาโร ธมฺมา ปฏิลาภาย สํวตฺตนฺติ.

‘‘ส โข โส, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ จตฺตาริ ปตฺตกมฺมานิ กตฺตา โหติ. กตมานิ จตฺตาริ? อิธ คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ. มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ. ปุตฺตทารทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ. มิตฺตามจฺเจ สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ. อิทมสฺส ปมํ านคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํ.

‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ ยา ตา โหนฺติ อาปทา อคฺคิโต วา อุทกโต วา ราชโต วา โจรโต วา อปฺปิยโต วา ทายาทโต [อ. นิ. ๕.๔๑], ตถารูปาสุ อาปทาสุ ปริโยธาย สํวตฺตติ. โสตฺถึ อตฺตานํ กโรติ. อิทมสฺส ทุติยํ านคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํ.

‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ ปฺจพลึ กตฺตา โหติ – าติพลึ, อติถิพลึ, ปุพฺพเปตพลึ, ราชพลึ, เทวตาพลึ. อิทมสฺส ตติยํ านคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํ.

‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ เย เต สมณพฺราหฺมณา มทปฺปมาทา ปฏิวิรตา ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺา เอกมตฺตานํ ทเมนฺติ, เอกมตฺตานํ สเมนฺติ, เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปนฺติ, ตถารูเปสุ สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ . อิทมสฺส จตุตฺถํ านคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํ.

‘‘ส โข โส, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ อิมานิ จตฺตาริ ปตฺตกมฺมานิ กตฺตา โหติ. ยสฺส กสฺสจิ, คหปติ, อฺตฺร อิเมหิ จตูหิ ปตฺตกมฺเมหิ โภคา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, คหปติ, โภคา อฏฺานคตา อปตฺตคตา อนายตนโส ปริภุตฺตา. ยสฺส กสฺสจิ, คหปติ, อิเมหิ จตูหิ ปตฺตกมฺเมหิ โภคา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, คหปติ, โภคา านคตา ปตฺตคตา อายตนโส ปริภุตฺตา’’ติ.

‘‘ภุตฺตา โภคา ภตา ภจฺจา [คตา ภูตา (ก.) ภฏา ภจฺจา (สฺยา. กํ.)], วิติณฺณา อาปทาสุ เม;

อุทฺธคฺคา ทกฺขิณา ทินฺนา, อโถ ปฺจพลี กตา;

อุปฏฺิตา สีลวนฺโต, สฺตา พฺรหฺมจารโย.

‘‘ยทตฺถํ โภคํ อิจฺเฉยฺย, ปณฺฑิโต ฆรมาวสํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, กตํ อนนุตาปิยํ.

‘‘เอตํ [เอวํ (ก.)] อนุสฺสรํ มจฺโจ, อริยธมฺเม ิโต นโร;

อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ. ปมํ;

๒. อานณฺยสุตฺตํ

๖๒. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –

‘‘จตฺตาริมานิ, คหปติ, สุขานิ อธิคมนียานิ คิหินา กามโภคินา กาเลน กาลํ สมเยน สมยํ อุปาทาย. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิสุขํ, โภคสุขํ, อานณฺยสุขํ [อณณสุขํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อนวชฺชสุขํ.

‘‘กตมฺจ, คหปติ, อตฺถิสุขํ? อิธ, คหปติ, กุลปุตฺตสฺส โภคา โหนฺติ อุฏฺานวีริยาธิคตา พาหาพลปริจิตา เสทาวกฺขิตฺตา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา . โส ‘โภคา เม อตฺถิ อุฏฺานวีริยาธิคตา พาหาพลปริจิตา เสทาวกฺขิตฺตา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา’ติ อธิคจฺฉติ สุขํ, อธิคจฺฉติ โสมนสฺสํ. อิทํ วุจฺจติ, คหปติ, อตฺถิสุขํ.

‘‘กตมฺจ, คหปติ, โภคสุขํ? อิธ, คหปติ, กุลปุตฺโต อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ ปริภุฺชติ ปุฺานิ จ กโรติ. โส ‘อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ ปริภุฺชามิ ปุฺานิ จ กโรมี’ติ อธิคจฺฉติ สุขํ, อธิคจฺฉติ โสมนสฺสํ. อิทํ วุจฺจติ, คหปติ, โภคสุขํ .

‘‘กตมฺจ, คหปติ, อานณฺยสุขํ? อิธ, คหปติ, กุลปุตฺโต น กสฺสจิ กิฺจิ ธาเรติ อปฺปํ วา พหุํ วา. โส ‘น กสฺสจิ กิฺจิ ธาเรมิ [กิฺจิ วา เทติ (ก.)] อปฺปํ วา พหุํ วา’ติ อธิคจฺฉติ สุขํ, อธิคจฺฉติ โสมนสฺสํ. อิทํ วุจฺจติ, คหปติ, อานณฺยสุขํ.

‘‘กตมฺจ, คหปติ, อนวชฺชสุขํ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อนวชฺเชน กายกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวชฺเชน วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวชฺเชน มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ. โส ‘อนวชฺเชนมฺหิ กายกมฺเมน สมนฺนาคโต, อนวชฺเชน วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต, อนวชฺเชน มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต’ติ อธิคจฺฉติ สุขํ, อธิคจฺฉติ โสมนสฺสํ. อิทํ วุจฺจติ, คหปติ, อนวชฺชสุขํ. อิมานิ โข, คหปติ, จตฺตาริ สุขานิ อธิคมนียานิ คิหินา กามโภคินา กาเลน กาลํ สมเยน สมยํ อุปาทายา’’ติ.

‘‘อานณฺยสุขํ ตฺวาน, อโถ อตฺถิสุขํ ปรํ;

ภุฺชํ โภคสุขํ มจฺโจ, ตโต ปฺา วิปสฺสติ.

‘‘วิปสฺสมาโน ชานาติ, อุโภ โภเค สุเมธโส;

อนวชฺชสุขสฺเสตํ, กลํ นาคฺฆติ โสฬสิ’’นฺติ. ทุติยํ;

๓. พฺรหฺมสุตฺตํ

๖๓. ‘‘สพฺรหฺมกานิ, ภิกฺขเว [อิติวุ. ๑๐๖], ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ. สปุพฺพาจริยกานิ, ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ , เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ. สปุพฺพเทวตานิ [สปุพฺพเทวานิ (สฺยา. กํ.)], ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ. สาหุเนยฺยกานิ, ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ.

‘‘พฺรหฺมาติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ [มาตาปิตุนฺนํ (สี. ปี.)] เอตํ อธิวจนํ. ปุพฺพาจริยาติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ปุพฺพเทวตาติ [ปุพฺพเทวาติ (สี. สฺยา. กํ.)], ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํ. อาหุเนยฺยาติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ตํ กิสฺส เหตุ? พหุการา, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร, ปุตฺตานํ อาปาทกา โปสกา อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร’’ติ.

‘‘พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร, ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร;

อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ, ปชาย อนุกมฺปกา.

‘‘ตสฺมา หิ เน นมสฺเสยฺย, สกฺกเรยฺย จ ปณฺฑิโต;

อนฺเนน อถ ปาเนน, วตฺเถน สยเนน จ;

อุจฺฉาทเนน นฺหาปเนน, ปาทานํ โธวเนน จ.

‘‘ตาย นํ ปาริจริยาย, มาตาปิตูสุ ปณฺฑิตา;

อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ. ตติยํ;

๔. นิรยสุตฺตํ

๖๔. ‘‘จตูหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’’ติ.

‘‘ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ, มุสาวาโท จ วุจฺจติ;

ปรทารคมนฺจาปิ, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา’’ติ. จตุตฺถํ;

๕. รูปสุตฺตํ

๖๕. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน, โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน , ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน, ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโน – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ.

‘‘เย จ รูเป ปมาณึสุ [เย จ รูเปน ปามึสุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], เย จ โฆเสน อนฺวคู;

ฉนฺทราควสูเปตา, นาภิชานนฺติ เต ชนา [น เต ชานนฺติ ตํ ชนา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].

‘‘อชฺฌตฺตฺจ น ชานาติ, พหิทฺธา จ น ปสฺสติ;

สมนฺตาวรโณ พาโล, ส เว โฆเสน วุยฺหติ.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ น ชานาติ, พหิทฺธา จ วิปสฺสติ;

พหิทฺธา ผลทสฺสาวี, โสปิ โฆเสน วุยฺหติ.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ ปชานาติ, พหิทฺธา จ วิปสฺสติ;

วินีวรณทสฺสาวี, น โส โฆเสน วุยฺหตี’’ติ. ปฺจมํ;

๖. สราคสุตฺตํ

๖๖. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สราโค, สโทโส, สโมโห, สมาโน – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ.

‘‘สารตฺตา รชนีเยสุ, ปิยรูปาภินนฺทิโน;

โมเหน อาวุตา [อธมา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สตฺตา, พทฺธา [พนฺธา (ก.)] วฑฺเฒนฺติ พนฺธนํ.

‘‘ราคชํ โทสชฺจาปิ, โมหชํ จาปวิทฺทสู;

กโรนฺตากุสลํ กมฺมํ [ธมฺมํ (ก.)], สวิฆาตํ ทุขุทฺรยํ.

‘‘อวิชฺชานิวุตา โปสา, อนฺธภูตา อจกฺขุกา;

ยถา ธมฺมา ตถา สนฺตา, น ตสฺเสวนฺติ [นสฺเสวนฺติ (สี.)] มฺเร’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. อหิราชสุตฺตํ

๖๗. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ อฺตโร ภิกฺขุ อหินา ทฏฺโ กาลงฺกโต โหติ. อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ , ภนฺเต, สาวตฺถิยํ อฺตโร ภิกฺขุ อหินา ทฏฺโ กาลงฺกโต’’ติ.

‘‘น หิ นูน [น ห นูน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมตฺเตน จิตฺเตน ผริ. สเจ หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมตฺเตน จิตฺเตน ผเรยฺย, น หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อหินา ทฏฺโ กาลงฺกเรยฺย.

‘‘กตมานิ จตฺตาริ? วิรูปกฺขํ อหิราชกุลํ, เอราปถํ อหิราชกุลํ, ฉพฺยาปุตฺตํ อหิราชกุลํ, กณฺหาโคตมกํ อหิราชกุลํ. น หิ นูน โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมตฺเตน จิตฺเตน ผริ. สเจ หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมตฺเตน จิตฺเตน ผเรยฺย, น หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อหินา ทฏฺโ กาลงฺกเรยฺย.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมตฺเตน จิตฺเตน ผริตุํ อตฺตคุตฺติยา อตฺตรกฺขาย อตฺตปริตฺตายา’’ติ.

[จูฬว. ๒๕๑; ชา. ๑.๒.๑๐๕ ปสฺสิตพฺพํ] ‘‘วิรูปกฺเขหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ เอราปเถหิ เม;

ฉพฺยาปุตฺเตหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ กณฺหาโคตมเกหิ จ.

‘‘อปาทเกหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ ทฺวิปาทเกหิ [ทิปาทเกหิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เม;

จตุปฺปเทหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ พหุปฺปเทหิ เม.

‘‘มา มํ อปาทโก หึสิ, มา มํ หึสิ ทฺวิปาทโก [ทิปาทโก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];

มา มํ จตุปฺปโท หึสิ, มา มํ หึสิ พหุปฺปโท.

‘‘สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา, สพฺเพ ภูตา จ เกวลา;

สพฺเพ ภทฺรานิ ปสฺสนฺตุ, มา กฺจิ [กิฺจิ (สฺยา. กํ. ก.)] ปาปมาคมา.

‘‘อปฺปมาโณ พุทฺโธ, อปฺปมาโณ ธมฺโม;

อปฺปมาโณ สงฺโฆ, ปมาณวนฺตานิ สรีสปานิ [สิรึสปานิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].

‘‘อหิวิจฺฉิกา สตปที, อุณฺณนาภี สรพู มูสิกา;

กตา เม รกฺขา กตา เม ปริตฺตา [กตํ เม ปริตฺตํ (?)], ปฏิกฺกมนฺตุ ภูตานิ;

โสหํ นโม ภควโต, นโม สตฺตนฺนํ สมฺมาสมฺพุทฺธาน’’นฺติ. สตฺตมํ;

๘. เทวทตฺตสุตฺตํ

๖๘. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต อจิรปกฺกนฺเต เทวทตฺเต. ตตฺร โข ภควา เทวทตฺตํ อารพฺภ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อตฺตวธาย, ภิกฺขเว [จูฬว. ๒๕๒; สํ. นิ. ๒.๑๘๔], เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ. ปราภวาย, ภิกฺขเว, เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กทลี อตฺตวธาย ผลํ เทติ, ปราภวาย ผลํ เทติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺตวธาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ, ปราภวาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เวฬุ อตฺตวธาย ผลํ เทติ, ปราภวาย ผลํ เทติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺตวธาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ, ปราภวาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, นโฬ อตฺตวธาย ผลํ เทติ, ปราภวาย ผลํ เทติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺตวธาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ, ปราภวาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อสฺสตรี อตฺตวธาย คพฺภํ คณฺหาติ, ปราภวาย คพฺภํ คณฺหาติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺตวธาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ, ปราภวาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาที’’ติ.

‘‘ผลํ เว กทลึ หนฺติ, ผลํ เวฬุํ ผลํ นฬํ;

สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ, คพฺโภ อสฺสตรึ ยถา’’ติ [จูฬว. ๓๓๕; สํ. นิ. ๑.๑๘๓; ๒.๑๘๔; เนตฺติ. ๙๐]. อฏฺมํ;

๙. ปธานสุตฺตํ

๖๙. ‘‘จตฺตาริมานิ , ภิกฺขเว, ปธานานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวรปฺปธานํ, ปหานปฺปธานํ, ภาวนาปฺปธานํ, อนุรกฺขณาปฺปธานํ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, สํวรปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สํวรปฺปธานํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปหานปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปหานปฺปธานํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาปฺปธานํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อนุรกฺขณาปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุรกฺขณาปฺปธานํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ปธานานี’’ติ.

‘‘สํวโร จ ปหานฺจ, ภาวนา อนุรกฺขณา;

เอเต ปธานา จตฺตาโร, เทสิตาทิจฺจพนฺธุนา;

โย หิ [เยหิ (?)] ภิกฺขุ อิธาตาปี, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ’’ติ. นวมํ;

๑๐. อธมฺมิกสุตฺตํ

๗๐. ‘‘ยสฺมึ , ภิกฺขเว, สมเย ราชาโน อธมฺมิกา โหนฺติ, ราชายุตฺตาปิ ตสฺมึ สมเย อธมฺมิกา โหนฺติ. ราชายุตฺเตสุ อธมฺมิเกสุ พฺราหฺมณคหปติกาปิ ตสฺมึ สมเย อธมฺมิกา โหนฺติ. พฺราหฺมณคหปติเกสุ อธมฺมิเกสุ เนคมชานปทาปิ ตสฺมึ สมเย อธมฺมิกา โหนฺติ. เนคมชานปเทสุ อธมฺมิเกสุ วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺติ . วิสมํ จนฺทิมสูริเยสุ ปริวตฺตนฺเตสุ วิสมํ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปริวตฺตนฺติ. วิสมํ นกฺขตฺเตสุ ตารกรูเปสุ ปริวตฺตนฺเตสุ วิสมํ รตฺตินฺทิวา [รตฺติทิวา (ก.)] ปริวตฺตนฺติ. วิสมํ รตฺตินฺทิเวสุ ปริวตฺตนฺเตสุ วิสมํ มาสทฺธมาสา ปริวตฺตนฺติ. วิสมํ มาสทฺธมาเสสุ ปริวตฺตนฺเตสุ วิสมํ อุตุสํวจฺฉรา ปริวตฺตนฺติ. วิสมํ อุตุสํวจฺฉเรสุ ปริวตฺตนฺเตสุ วิสมํ วาตา วายนฺติ วิสมา อปฺชสา . วิสมํ วาเตสุ วายนฺเตสุ วิสเมสุ อปฺชเสสุ เทวตา ปริกุปิตา ภวนฺติ. เทวตาสุ ปริกุปิตาสุ เทโว น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉติ. เทเว น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉนฺเต วิสมปากานิ [วิสมปากีนิ (สี. สฺยา. กํ.), วิสมํ ปากานิ (ก.)] สสฺสานิ ภวนฺติ. วิสมปากานิ, ภิกฺขเว, สสฺสานิ มนุสฺสา ปริภุฺชนฺตา อปฺปายุกา โหนฺติ ทุพฺพณฺณา จ พวฺหาพาธา [พหฺวาพาธา (ก.)] จ.

‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ราชาโน ธมฺมิกา โหนฺติ, ราชายุตฺตาปิ ตสฺมึ สมเย ธมฺมิกา โหนฺติ. ราชายุตฺเตสุ ธมฺมิเกสุ พฺราหฺมณคหปติกาปิ ตสฺมึ สมเย ธมฺมิกา โหนฺติ. พฺราหฺมณคหปติเกสุ ธมฺมิเกสุ เนคมชานปทาปิ ตสฺมึ สมเย ธมฺมิกา โหนฺติ. เนคมชานปเทสุ ธมฺมิเกสุ สมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺติ. สมํ จนฺทิมสูริเยสุ ปริวตฺตนฺเตสุ สมํ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปริวตฺตนฺติ. สมํ นกฺขตฺเตสุ ตารกรูเปสุ ปริวตฺตนฺเตสุ สมํ รตฺตินฺทิวา ปริวตฺตนฺติ. สมํ รตฺตินฺทิเวสุ ปริวตฺตนฺเตสุ สมํ มาสทฺธมาสา ปริวตฺตนฺติ. สมํ มาสทฺธมาเสสุ ปริวตฺตนฺเตสุ สมํ อุตุสํวจฺฉรา ปริวตฺตนฺติ. สมํ อุตุสํวจฺฉเรสุ ปริวตฺตนฺเตสุ สมํ วาตา วายนฺติ สมา ปฺชสา. สมํ วาเตสุ วายนฺเตสุ สเมสุ ปฺชเสสุ เทวตา อปริกุปิตา ภวนฺติ. เทวตาสุ อปริกุปิตาสุ เทโว สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉติ. เทเว สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉนฺเต สมปากานิ สสฺสานิ ภวนฺติ. สมปากานิ, ภิกฺขเว, สสฺสานิ มนุสฺสา ปริภุฺชนฺตา ทีฆายุกา จ โหนฺติ วณฺณวนฺโต จ พลวนฺโต จ อปฺปาพาธา จา’’ติ.

‘‘คุนฺนํ เจ ตรมานานํ, ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ.

‘‘เอวเมวํ มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส เจ อธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ ทุกฺขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก.

‘‘คุนฺนํ เจ ตรมานานํ, อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา ตา อุชุํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต อุชุํ คเต สติ.

‘‘เอวเมวํ มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส สเจ [โส เจว (สี. ปี.), โส เจ (สฺยา.)] ธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ สุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก’’ติ. ทสมํ;

ปตฺตกมฺมวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

ปตฺตกมฺมํ อานณฺยโก [อนณโก (สี. ปี.), อนณฺยโก (ก.)], สพฺรหฺมนิรยา รูเปน ปฺจมํ;

สราคอหิราชา เทวทตฺโต, ปธานํ อธมฺมิเกน จาติ.