📜
(๙) ๔. มจลวคฺโค
๑. ปาณาติปาตสุตฺตํ
๘๑. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ ¶ , กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ปมํ.
๒. มุสาวาทสุตฺตํ
๘๒. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ¶ ปฏิวิรโต โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ทุติยํ.
๓. อวณฺณารหสุตฺตํ
๘๓. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ ¶ อุปทํเสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ตติยํ.
๔. โกธครุสุตฺตํ
๘๔. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? โกธครุ โหติ น สทฺธมฺมครุ, มกฺขครุ โหติ น สทฺธมฺมครุ, ลาภครุ โหติ น สทฺธมฺมครุ, สกฺการครุ โหติ น สทฺธมฺมครุ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? สทฺธมฺมครุ โหติ น โกธครุ, สทฺธมฺมครุ โหติ น มกฺขครุ, สทฺธมฺมครุ โหติ น ลาภครุ, สทฺธมฺมครุ โหติ น สกฺการครุ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ตโมตมสุตฺตํ
๘๕. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? ตโม ตมปรายโณ [… ปรายโน (สฺยา. กํ. ปี.) ปุ. ป. ๑๖๘; สํ. นิ. ๑.๑๓๒], ตโม โชติปรายโณ, โชติ ตมปรายโณ ¶ , โชติ โชติปรายโณ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตโม โหติ ตมปรายโณ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา เวนกุเล วา เนสาทกุเล วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติ. โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณ ทุทฺทสิโก โอโกฏิมโก พวฺหาพาโธ กาโณ วา กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตโม โหติ ตมปรายโณ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตโม โหติ โชติปรายโณ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา เวนกุเล วา เนสาทกุเล วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติ; โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณ ทุทฺทสิโก โอโกฏิมโก พวฺหาพาโธ กาโณ วา กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา, วาจาย ¶ สุจริตํ จริตฺวา, มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตโม โหติ โชติปรายโณ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โชติ โหติ ตมปรายโณ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล ¶ วา อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธฺเ; โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โชติ โหติ ตมปรายโณ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โชติ โหติ โชติปรายโณ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธฺเ; โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน สุจริตํ จรติ ¶ , วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา, วาจาย สุจริตํ จริตฺวา, มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โชติ โหติ โชติปรายโณ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. โอณโตณตสุตฺตํ
๘๖. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? โอณโตณโต, โอณตุณฺณโต, อุณฺณโตณโต, อุณฺณตุณฺณโต. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ [ปุ. ป. ๑๖๙]. ฉฏฺํ.
๗. ปุตฺตสุตฺตํ
๘๗. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สมณมจโล, สมณปุณฺฑรีโก, สมณปทุโม, สมเณสุ สมณสุขุมาโล.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสโข โหติ ปาฏิปโท [ปฏิปโท (สฺยา. กํ. ปี.) ม. นิ. ๒ เสขสุตฺตวณฺณนา โอโลเกตพฺพา]; อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมาโน วิหรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว ¶ , รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส เชฏฺโ ปุตฺโต อาภิเสโก อนภิสิตฺโต มจลปฺปตฺโต; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสโข โหติ ปาฏิปโท, อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมาโน วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ ¶ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, โน จ โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ [ผสฺสิตฺวา (สี. ปี.)]. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อฏฺ จ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ เสนาสนํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต. เยหิ โข ปน สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ วิหรติ, ตฺยสฺส [ตฺยาสฺส (สี.) อ. นิ. ๕.๑๐๔] มนาเปเนว พหุลํ กายกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ ¶ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ วจีกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ มโนกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาปํเยว พหุลํ อุปหารํ อุปหรนฺติ, อปฺปํ อมนาปํ. ยานิ โข ปน ตานิ เวทยิตานิ ปิตฺตสมุฏฺานานิ วา เสมฺหสมุฏฺานานิ วา วาตสมุฏฺานานิ วา สนฺนิปาติกานิ วา อุตุปริณามชานิ วา วิสมปริหารชานิ วา โอปกฺกมิกานิ วา กมฺมวิปากชานิ วา, ตานิ ปนสฺส น พหุเทว อุปฺปชฺชนฺติ. อปฺปาพาโธ โหติ. จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ¶ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ¶ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม ¶ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ.
‘‘ยฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ, มเมว ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ. อหฺหิ, ภิกฺขเว, ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภฺุชามิ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชามิ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ เสนาสนํ ปริภฺุชามิ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภฺุชามิ, อปฺปํ อยาจิโต. เยหิ โข ปน ภิกฺขูหิ สทฺธึ วิหรามิ เต เม มนาเปเนว พหุลํ กายกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ วจีกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ มโนกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาปํเยว พหุลํ อุปหารํ อุปหรนฺติ, อปฺปํ อมนาปํ. ยานิ โข ปน ตานิ เวทยิตานิ ปิตฺตสมุฏฺานานิ วา เสมฺหสมุฏฺานานิ วา วาตสมุฏฺานานิ วา สนฺนิปาติกานิ วา อุตุปริณามชานิ วา วิสมปริหารชานิ วา โอปกฺกมิกานิ วา กมฺมวิปากชานิ วา, ตานิ เม น พหุเทว อุปฺปชฺชนฺติ. อปฺปาพาโธหมสฺมิ. จตุนฺนํ โข ปนสฺมิ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ.
‘‘ยฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ, มเมว ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ ¶ สมณสุขุมาโลติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. สํโยชนสุตฺตํ
๘๘. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สมณมจโล, สมณปุณฺฑรีโก, สมณปทุโม, สมเณสุ สมณสุขุมาโล.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล [ปุ. ป. ๑๙๐ (โถกํ วิสทิสํ)] สมณมจโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ¶ ปริกฺขยา ¶ โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ? อิธ ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา, ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ. อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. สมฺมาทิฏฺิสุตฺตํ
๘๙. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สมณมจโล, สมณปุณฺฑรีโก, สมณปทุโม, สมเณสุ สมณสุขุมาโล.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, สมฺมาสงฺกปฺโป โหติ, สมฺมาวาโจ โหติ, สมฺมากมฺมนฺโต ¶ โหติ, สมฺมาอาชีโว โหติ, สมฺมาวายาโม โหติ, สมฺมาสติ [สมฺมาสตี (สี. ก.)] โหติ, สมฺมาสมาธิ [สมฺมาสมาธี (สี. ก.)] โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, สมฺมาสงฺกปฺโป โหติ, สมฺมาวาโจ โหติ, สมฺมากมฺมนฺโต โหติ, สมฺมาอาชีโว ¶ โหติ, สมฺมาวายาโม โหติ, สมฺมาสติ โหติ, สมฺมาสมาธิ โหติ, สมฺมาาณี โหติ, สมฺมาวิมุตฺติ [สมฺมาวิมุตฺตี (สี. ก.)] โหติ, โน จ โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ ¶ . เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมาทิฏฺิโก โหติ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ โหติ, อฏฺ จ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต…เป… ยฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ, มเมว ตํ, ภิกฺขเว ¶ , สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. นวมํ.
๑๐. ขนฺธสุตฺตํ
๙๐. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สมณมจโล, สมณปุณฺฑรีโก, สมณปทุโม, สมเณสุ สมณสุขุมาโล.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสโข โหติ อปฺปตฺตมานโส, อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมาโน วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา…เป… อิติ สฺา…เป… อิติ สงฺขารา…เป… อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ ¶ ; โน จ โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา…เป… อิติ สฺา…เป… อิติ สงฺขารา…เป… อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ ¶ ; อฏฺ จ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ ¶ . เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต…เป… มเมว ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ทสมํ.
มจลวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปาณาติปาโต จ มุสา, อวณฺณโกธตโมณตา;
ปุตฺโต สํโยชนฺเจว, ทิฏฺิ ขนฺเธน เต ทสาติ.