📜

(๑๐) ๕. อสุรวคฺโค

๑. อสุรสุตฺตํ

๙๑. ‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อสุโร อสุรปริวาโร, อสุโร เทวปริวาโร, เทโว อสุรปริวาโร, เทโว เทวปริวาโร.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อสุโร โหติ อสุรปริวาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม, ปริสาปิสฺส โหติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อสุโร โหติ อสุรปริวาโร.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อสุโร โหติ เทวปริวาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม, ปริสา จ ขฺวสฺส โหติ สีลวตี กลฺยาณธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อสุโร โหติ เทวปริวาโร.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เทโว โหติ อสุรปริวาโร? อิธ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, ปริสา จ ขฺวสฺส โหติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เทโว โหติ อสุรปริวาโร.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เทโว โหติ เทวปริวาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, ปริสาปิสฺส โหติ สีลวตี กลฺยาณธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เทโว โหติ, เทวปริวาโร. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปมํ.

๒. ปมสมาธิสุตฺตํ

๙๒. ‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เจว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น จ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. ทุติยสมาธิสุตฺตํ

๙๓. ‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เจว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น จ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน อชฺฌตฺตํ เจโตสมเถ ปติฏฺาย อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย โยโค กรณีโย. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย ปติฏฺาย อชฺฌตฺตํ เจโตสมเถ โยโค กรณีโย. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล น เจว ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น จ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน เตสํเยว กุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา ตสฺเสว [ตสฺส ตสฺเสว (สี. สฺยา. กํ.)] เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เตน ปุคฺคเลน เตสํเยว กุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน เตสุเยว กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อาสวานํ ขยาย โยโค กรณีโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ตติยํ.

๔. ตติยสมาธิสุตฺตํ

๙๔. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เจว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น จ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.

‘‘ตตฺร , ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘กถํ นุ โข, อาวุโส, สงฺขารา ทฏฺพฺพา? กถํ สงฺขารา สมฺมสิตพฺพา? กถํ สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพา’ [ปสฺสิตพฺพา (ก.)] ติ? ตสฺส โส ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ พฺยากโรติ – ‘เอวํ โข, อาวุโส, สงฺขารา ทฏฺพฺพา, เอวํ สงฺขารา สมฺมสิตพฺพา, เอวํ สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพา’ติ. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘กถํ นุ โข, อาวุโส, จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ? กถํ จิตฺตํ สนฺนิสาเทตพฺพํ ? กถํ จิตฺตํ เอโกทิ กาตพฺพํ? กถํ จิตฺตํ สมาทหาตพฺพ’นฺติ? ตสฺส โส ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ พฺยากโรติ – ‘เอวํ โข, อาวุโส, จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ, เอวํ จิตฺตํ สนฺนิสาเทตพฺพํ, เอวํ จิตฺตํ เอโกทิ กาตพฺพํ [เอโกทิ กตฺตพฺพํ (ปี.)], เอวํ จิตฺตํ สมาทหาตพฺพ’นฺติ. โส อปเรน สมเย ลาภี เจว โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล น เจว ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น จ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี เจว อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘กถํ นุ โข, อาวุโส, จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ? กถํ จิตฺตํ สนฺนิสาเทตพฺพํ? กถํ จิตฺตํ เอโกทิ กาตพฺพํ? กถํ จิตฺตํ สมาทหาตพฺพํ? กถํ สงฺขารา ทฏฺพฺพา? กถํ สงฺขารา สมฺมสิตพฺพา? กถํ สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพา’ติ? ตสฺส โส ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ พฺยากโรติ – ‘เอวํ โข, อาวุโส, จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ, เอวํ จิตฺตํ สนฺนิสาเทตพฺพํ, เอวํ จิตฺตํ เอโกทิ กาตพฺพํ, เอวํ จิตฺตํ สมาทหาตพฺพํ, เอวํ สงฺขารา ทฏฺพฺพา, เอวํ สงฺขารา สมฺมสิตพฺพา, เอวํ สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพา’ติ. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย , เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน เตสุ เจว กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย อุตฺตริ อาสวานํ ขยาย โยโค กรณีโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. จตุตฺถํ.

๕. ฉวาลาตสุตฺตํ

๙๕. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว [อตฺตหิตาย จ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ.

‘‘เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, ฉวาลาตํ อุภโต ปทิตฺตํ [อาทิตฺตํ (ก.)], มชฺเฌ คูถคตํ, เนว คาเม กฏฺตฺถํ ผรติ น อรฺเ ( ) [(กฏฺตฺถํ ผรติ) กตฺถจิ]; ตถูปมาหํ , ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ ยฺวายํ ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, อยํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อยํ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ, อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข [โมกฺโข (ปี.) สํ. นิ. ๓.๖๖๒-๖๖๓; อ. นิ. ๕.๑๘๑] จ อุตฺตโม จ ปวโร จ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ควา ขีรํ, ขีรมฺหา ทธิ, ทธิมฺหา นวนีตํ, นวนีตมฺหา สปฺปิ, สปฺปิมฺหา สปฺปิมณฺโฑ, สปฺปิมณฺโฑ [สปฺปิมฺหา สปฺปิมณฺโฑ (ก.)] ตตฺถ [ตตฺร (สํ. นิ. ๓.๖๖๒-๖๖๒)] อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ, อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. ราควินยสุตฺตํ

๙๖. ‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา ราควินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ ราควินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา โทสวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ โทสวินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา โมหวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ โมหวินยาย สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา น ราควินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรํ ราควินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา น โทสวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรํ โทสวินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา น โมหวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรํ โมหวินยาย สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา น ราควินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ ราควินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา น โทสวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ โทสวินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา น โมหวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ โมหวินยาย สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ราควินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรฺจ ราควินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ โทสวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรฺจ โทสวินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ โมหวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรฺจ โมหวินยาย สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว , ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ฉฏฺํ.

๗. ขิปฺปนิสนฺติสุตฺตํ

๙๗. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ขิปฺปนิสนฺตี จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารกชาติโก [ธารณชาติโก (ก.)] โหติ, ธาตานฺจ [ธตานฺจ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขี โหติ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย, ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, โน จ สนฺทสฺสโก โหติ สมาทปโก [สมาทาปโก (?)] สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เหว โข ขิปฺปนิสนฺตี โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารกชาติโก โหติ, โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขี โหติ, โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เหว โข ขิปฺปนิสนฺตี โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารกชาติโก โหติ, โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขี โหติ, โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, โน จ สนฺทสฺสโก โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ขิปฺปนิสนฺตี จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารกชาติโก โหติ, ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขี โหติ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย, ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. อตฺตหิตสุตฺตํ

๙๘. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อฏฺมํ.

๙. สิกฺขาปทสุตฺตํ

๙๙. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว , เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ ; อตฺตนา มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิยา สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว , ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรโต โหติ, ปรํ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา อทินฺนาทานา อปฺปฏิวิรโต โหติ, ปรํ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา กาเมสุมิจฺฉาจารา อปฺปฏิวิรโต โหติ, ปรํ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา มุสาวาทา อปฺปฏิวิรโต โหติ, ปรํ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา อปฺปฏิวิรโต โหติ, ปรํ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิยา สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ…เป… อตฺตนา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา อปฺปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิยา สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ…เป… อตฺตนา จ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิยา สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. นวมํ.

๑๐. โปตลิยสุตฺตํ

๑๐๐. อถ โข โปตลิโย ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข โปตลิยํ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘จตฺตาโรเม, โปตลิย, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, โปตลิย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล [ปุ. ป. ๑๖๕] อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โปตลิย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โปตลิย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โปตลิย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิเม โข, โปตลิย, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ โข, โปตลิย, จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ กตโม เต ปุคฺคโล ขมติ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ?

‘‘จตฺตาโรเม, โภ โคตม, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, โภ โคตม, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โภ โคตม, เอกจฺโจ ปุคฺคโล วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โภ โคตม, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โภ โคตม, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิเม โข, โภ โคตม, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ, โภ โคตม, จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ ยฺวายํ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน; อยํ เม ปุคฺคโล ขมติ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อภิกฺกนฺตา [อภิกฺกนฺตตรา (ก.)] เหสา, โภ โคตม, ยทิทํ อุเปกฺขา’’ติ.

‘‘จตฺตาโรเม, โปตลิย, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร…เป… อิเม โข, โปตลิย, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ โข, โปตลิย, จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ ยฺวายํ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน; อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อภิกฺกนฺตา เหสา, โปตลิย, ยทิทํ ตตฺถ ตตฺถ กาลฺุตา’’ติ.

‘‘จตฺตาโรเม, โภ โคตม, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร…เป… อิเม โข, โภ โคตม, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ, โภ โคตม, จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ ยฺวายํ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน; อยํ เม ปุคฺคโล ขมติ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อภิกฺกนฺตา เหสา, โภ โคตม, ยทิทํ ตตฺถ ตตฺถ กาลฺุตา.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ, เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต . เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ทสมํ.

อสุรวคฺโค ปฺจโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

อสุโร ตโย สมาธี, ฉวาลาเตน ปฺจมํ;

ราโค นิสนฺติ อตฺตหิตํ, สิกฺขา โปตลิเยน จาติ.

ทุติยปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

๓. ตติยปณฺณาสกํ