📜

๓. ปุคฺคลวคฺโค

๑. สมิทฺธสุตฺตวณฺณนา

๒๑. ตติยสฺส ปเม รุจฺจตีติ กายสกฺขิอาทีสุ ปุคฺคเลสุ อติวิย สุนฺทรตรปณีตตรภาเวน เต จิตฺตสฺส อภิรุจิอุปฺปาทโก กตโมติ ปุจฺฉติ. สทฺธินฺทฺริยํ ธุรํ อโหสิ สทฺธาธุรํ มคฺควุฏฺานนฺติ กตฺวา, เสสินฺทฺริยานิ ปน กถนฺติ อาห ‘‘เสสานี’’ติอาทิ. ปฏิวิทฺธมคฺโควาติ ตีหิปิ เถเรหิ อตฺตโน อตฺตโน ปฏิวิทฺธอรหตฺตมคฺโค เอว กถิโต, ตสฺมา น สุกรํ เอกํเสน พฺยากาตุํ ‘‘อยํ…เป… ปณีตตโร จา’’ติ. ภุมฺมนฺตเรเนว กเถสิ ‘‘ตีสุปิ ปุคฺคเลสุ อคฺคมคฺคฏฺโว ปณีตตโร’’ติ.

สมิทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. คิลานสุตฺตวณฺณนา

๒๒. ทุติเย หิตานีติ ภพฺยานิ. วุทฺธิกรานีติ อาโรคฺยาทิวุทฺธิกรานิ. อนุจฺฉวิกนฺติ อุปฏฺานกิริยาย อนุรูปํ. วาตาปมารโรเคนาติ วาตโรเคน จ อปมารโรเคน จ, วาตนิทาเนน วา อปมารโรเคน. นิฏฺปฺปตฺตคิลาโนติ ‘‘อิมินา โรเคน น จิรสฺเสว มริสฺสตี’’ติ นิฏฺํ ปตฺโต คิลาโน. ขิปิตกํ นาม วมถุโรโค. กจฺฉูติ ถุลฺลกจฺฉุอาพาโธ. ติณปุปฺผกชโร วิสมวาตสมฺผสฺสชโรโค. เยสนฺติ เยสํ โรคานํ. ปฏิชคฺคเนนาติ ปฏิการมตฺเตน. ผาสุกนฺติ พฺยาธิวูปสมเนน สรีรสฺส ผาสุภาโว. พฺยาธินิทานสมุฏฺานชานเนน ปณฺฑิโต, ปฏิการกิริยาย ยุตฺตการิตาย ทกฺโข, อุฏฺานวีริยสมฺปตฺติยา อนลโส.

ปทปรโมปุคฺคโล กถิโต สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนสฺส อโยคฺคภาวโต. อลภนฺโตว ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวนาย โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ ปจฺเจกโพธึ. นฺติ, ยโต. โอวาทํ ลภิตฺวาติ อาภิสมาจาริกวตฺตํ โอวาทมตฺตํ. เอตฺตโกปิ หิ ตสฺส หิตาวโหติ. ตนฺนิสฺสิโตวาติ วิปฺจิตฺุนิสฺสิโตว โหติ. ปุนปฺปุนํ เทเสตพฺโพว สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนสฺส โยคฺคภาวโต.

คิลานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สงฺขารสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ตติเย วิวิเธหิ อากาเรหิ อาพาธนโต พฺยาพาโธว พฺยาพชฺฌํ, กายิกํ เจตสิกฺจ ทุกฺขํ. สห พฺยาพชฺเฌน วตฺตตีติ สพฺยาพชฺฌํ. เตนาห ‘‘สทุกฺข’’นฺติ. เจตนาราสินฺติ ปุพฺพเจตนาทิราสึ. เจตนํ ปุนปฺปุนํ ปวตฺเตนฺโต ‘‘ราสึ กโรติ ปิณฺฑํ กโรตี’’ติ จ วุตฺโต. สทุกฺขนฺติ นิรนฺตรทุกฺขํ. เตนาห ‘‘สาพาธํ นิรสฺสาท’’นฺติ. อตฺถีติ อุชุกํ ทุกฺขเวทนา นตฺถีติ อวตฺตพฺพตฺตา วุตฺตํ. อนิฏฺสภาวตฺตา อนิฏฺารมฺมณตฺตา จ ทุกฺขปกฺขิกาว สา ทฏฺพฺพา. น หิ อกุสลวิปากา อิฏฺา นาม อตฺถี, กุสลวิปากา ปน อุเปกฺขาเวทนา ตตฺถ อปฺปาวสรา. อฏฺกถายํ ปน นิรยสฺส ทุกฺขพหุลตฺตา ทุกฺขสฺส จ ตตฺถ พลวตาย สา อพฺโพหาริกฏฺาเน ิตาติ วุตฺตํ. อุปมํ กตฺวา อาหโฏ วิเสโส วิย สามฺสฺส ยถา อโยปิณฺฑิโรหิโน วิย รูปานนฺติ. ปฏิภาคอุปมาติ ปฏิพิมฺพอุปมา.

เต อคฺคเหตฺวาติ เหฏฺิมพฺรหฺมโลเก อคฺคเหตฺวา. โวมิสฺสกสุขทุกฺขนฺติ วิมิสฺสกสุขทุกฺขํ ปีติมิสฺสกภาวโต. กมฺมนฺติ ปาปกมฺมํ. กมฺมสีเสน ผลํ วทติ. กามฺเจตฺถ ‘‘อพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปชฺชตี’’ติ อาคตํ, ‘‘อพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺตี’’ติ ปน วจเนน โลกุตฺตรผสฺสาปิ สงฺคยฺหนฺตีติ ‘‘ตีณิ สุจริตานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ กถิตานี’’ติ วุตฺตํ.

สงฺขารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. พหุการสุตฺตวณฺณนา

๒๔. จตุตฺเถ อวสฺสยํ คโตติ วฏฺฏทุกฺขปริมุตฺติยา อวสฺสโย มยฺหนฺติ สรณคมนกฺกเมน อุปคโต โหติ. สตนฺติกนฺติ สปริยตฺติธมฺมํ. อคฺคหิตสรณปุพฺพสฺสาติ อคฺคหิตปุพฺพสรณสฺส. อกตาภินิเวสสฺส วเสน วุตฺตนฺติ ตสฺมึ อตฺตภาเว น กโต สรณคมนาภินิเวโส เยนาติ อกตาภินิเวโส, ตสฺส วเสน วุตฺตํ. กามํ ปุพฺเพปิ สรณทายโก อาจริโย วุตฺโต, ปพฺพชฺชาทายโกปิ สรณทายโกว. ปุพฺเพ ปน อุปาสกภาวาปาทกวเสน สรณทายโก อธิปฺเปโต. อิทํ ปน คหิตปพฺพชฺชสฺส สรณคมนํ. ปพฺพชา หิ สวิเสสํ สรณคมนนฺติ ปพฺพชฺชาทายโก ปุน วุตฺโต. เอเตติ ปพฺพชฺชาทายกาทโย. ทุวิเธน ปริจฺฉินฺนาติ โลกิยธมฺมสมฺปาปโก โลกุตฺตรธมฺมสมฺปาปโกติ ทฺวิปฺปกาเรน ปริจฺฉินฺนา, กตาภินิเวสอกตาภินิเวสวเสน วา. อุปรีติ ปมมคฺคโต อุปริ. เนว สกฺโกตีติ อาจริเยน กตสฺส อุปการสฺส มหานุภาวตฺตา ตสฺส ปติการํ นาม กาตุํ น สกฺโกติ.

พหุการสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วชิรูปมสุตฺตวณฺณนา

๒๕. ปฺจเม อรุอิติ ปุราณํ ทุฏฺวณํ วุจฺจติ. ก-กาโร ปทสนฺธิกโรติ อรุกูปมํ จิตฺตํ เอตสฺสาติ อรุกูปมจิตฺโต อปฺปมตฺตกสฺสปิ ทุกฺขสฺส อสหนโต. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อิตฺตรกาโลภาเสนาติ ปริตฺตเมว กาโล าโณภาสวิรเหน. ลคตีติ โกธาสงฺควเสน กุปฺปนฺโต ปุคฺคโล สมฺมุขา, ‘‘กึ วทสี’’ติอาทินา ปรมฺมุขา จ อุปนยฺหนวเสน ลคติ, น ตณฺหาสงฺควเสน. กุปฺปตีติ กุชฺฌติ. พฺยาปชฺชตีติ วิปนฺนจิตฺโต โหติ. ถทฺธภาวํ อาปชฺชติ อีสกมฺปิ มุทุตฺตาภาวโต. ทุฏฺารุโกติ มํสโลหิตานํ ทุฏฺภาเวน ปกติภาวํ ชหิตฺวา ิโต ทุฏฺวโณ. ‘‘ทุฏฺารุตา’’ติปิ ปนฺติ, ตตฺถาปิ ตากาโร ปทสนฺธิกโร.

ตสฺสาติ ทุฏฺารุกสฺส. สวนนฺติ อสุจิวิสนฺทนํ. อุทฺธุมาตสฺส วิยาติ โกเธน อุทฺธํ อุทฺธํ ธุมาตกสฺส วิย โกธูปายาสสฺส อวิสฺสชฺชนโต. จณฺฑิกตสฺสาติ กุปิตสฺส. เอตฺถ จ กิฺจาปิ เหฏฺิมมคฺควชฺฌาปิ กิเลสา เตหิ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิตตฺตา สมุจฺฉินฺนา, ตถาปิ ตสฺมึ สนฺตาเน อคฺคมคฺคสฺส อนุปฺปนฺนตฺตา ตตฺถ อปฺปหีนาปิ กิเลสา อตฺเถวาติ กตฺวา เตสํ าณานํ วิชฺชูปมตา วุตฺตา, น เตหิ มคฺเคหิ ปหีนานํ กิเลสานํ อตฺถิภาวโตติ ทฏฺพฺพํ.

วชิรูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เสวิตพฺพสุตฺตวณฺณนา

๒๖. ฉฏฺเ อุปสงฺกมิตพฺโพติ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตพฺโพ. อลฺลียิตพฺโพติ ฉายาย วิย วินา ภาวนาย นิลฺลียิตพฺโพ. ปุนปฺปุนํ อุปาสิตพฺโพติ อภิณฺหโส อุปนิสีทิตพฺโพ. อนุทฺทยาติ เมตฺตาปุพฺพภาโค. อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘เอตสฺส สีเลน อภิวุทฺธิ ภวิสฺสตี’’ติ อุปการตฺถํ อุปเสวนาทิ วฏฺฏติ.

น ปฏิหฺิสฺสตีติ ‘‘อเปหิ, กึ เอเตนา’’ติ ปฏิกฺเขปาภาวโต ปิยสีลตฺตา น ปฏิหฺิสฺสติ. ผาสุ ภวิสฺสตีติ ทฺวีสุ หิ สีลวนฺเตสุ เอเกน สีลสฺส วณฺเณ กถิเต อิตโร อนุโมทติ. เตน เตสํ กถา ผาสุ เจว โหติ ปวตฺตินี จ. เอกสฺมึ ปน ทุสฺสีเล สติ ทุสฺสีลสฺส สีลกถา ทุกฺกถา, เนว สีลกถา โหติ, น ผาสุ โหติ, น ปวตฺตินี. ทุสฺสีลสฺส หิ สีลกถา อผาสุ ภวิสฺสติ. สีลกถาย วุตฺตมตฺถํ สมาธิปฺากถาสุปิ อติทิสติ ‘‘สมาธิปฺากถาสุปิ เอเสว นโย’’ติ. ทฺเว หิ สมาธิลาภิโน สมาธิกถํ สปฺปฺา จ ปฺากถํ กเถนฺตา รตฺตึ วา ทิวสํ วา อติกฺกมนฺตมฺปิ น ชานนฺติ.

ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ ตสฺมึ ตสฺมึ อนุคฺคเหตพฺเพ ปฺาย โสเธตพฺเพ วฑฺเฒตพฺเพ จ อธิกสีลํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ อตฺโถ. ตฺจ อนุคฺคณฺหนํ สีลสฺส อสปฺปายานุปการธมฺเม วชฺเชตฺวา ตปฺปฏิปกฺขเสวเนน โหตีติ อาห ‘‘สีลสฺส อสปฺปาเย’’ติอาทิ. สีลสฺส อสปฺปายานุปการธมฺมา นาม อนาจาราโคจราทโย, ตปฺปฏิปกฺขโต อุปการธมฺมา เวทิตพฺพา. ตสฺมึ ตสฺมึาเนติ ตํตํสิกฺขาโกฏฺาสปทฏฺาเน. อนุคฺคณฺหาติ นามาติ อภินฺนํ อสํกิลิฏฺํ กตฺวา อนุคฺคณฺหาติ นาม. ขารปริสฺสาวเนติ รชกานํ อูสขาราทิขารปริสฺสาวนปเฏ. หายตีติ สีลาทินา ปริหายติ. เสฏฺํ ปุคฺคลนฺติ สีลาทิคุเณหิ เสฏฺํ อุตฺตริตรํ อุตฺตมํ ปุคฺคลํ.

เสวิตพฺพสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ชิคุจฺฉิตพฺพสุตฺตวณฺณนา

๒๗. สตฺตเม อพฺภุคฺคจฺฉตีติ เอตฺถ อภิ-สทฺทาเปกฺขาย ‘‘น’’นฺติ สามิอตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘อสฺสา’’ติ ‘‘ตํ โข ปน ภวนฺต’’นฺติอาทีสุ วิย. ปาปโก กิตฺติสทฺโทติ ลามกภาเวน กเถตพฺพสทฺโท. คูถกูโป วิย ทุสฺสีลฺยนฺติ เอเตน ทุสฺสีลสฺส คูถสทิสตฺตเมว ทสฺเสติ. วจนนฺติ อนิฏฺวจนํ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘คูถกูโป วิย ทุสฺสีลฺย’’นฺติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน. สุจิมิตฺโตติ สีลาจารสุทฺธิยา สุจิมิตฺโต. สห อยนฺติ ปวตฺตนฺตีติ สหายาติ อาห ‘‘สหคามิโน’’ติ.

ชิคุจฺฉิตพฺพสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. คูถภาณีสุตฺตวณฺณนา

๒๘. อฏฺเม คูถภาณีติ คูถสทิสวจนตฺตา คูถภาณี. ยถา หิ คูถํ นาม มหาชนสฺส อนิฏฺํ โหติ, เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ อนิฏฺํ โหติ. ทุคฺคนฺธกถนฺติ กิเลสาสุจิสํกิลิฏฺตาย คูถํ วิย ทุคฺคนฺธวายนกถํ. ปุปฺผภาณีติ สุปุปฺผสทิสวจนตฺตา ปุปฺผภาณี . ยถา หิ ผุลฺลานิ วสฺสิกานิ วา อธิมุตฺติกานิ วา มหาชนสฺส อิฏฺานิ กนฺตานิ โหนฺติ, เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ อิฏฺํ โหติ กนฺตํ. ปุปฺผานิ วิยาติ จมฺปกสุมนาทิสุคนฺธปุปฺผานิ วิย. สุคนฺธกถนฺติ สุจิคนฺธวายนกถํ กิเลสทุคฺคนฺธาภาวโต. มธุภาณีติ เอตฺถ ‘‘มุทุภาณี’’ติปิ ปนฺติ. อุภยตฺถาปิ หิ มธุรวจโนติ อตฺโถ. ยถา หิ จตุมธุรํ นาม มธุรํ ปณีตํ, เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ มธุรํ โหติ. มธุรกถนฺติ กณฺณสุขตาย เปมนียตาย จ สทฺทโต อตฺถโต จ มธุรสภาวกถํ. อตฺตเหตุ วาติ อตฺตโน วา หตฺถปาทาทิจฺเฉทนหรณเหตุ. ปรเหตุ วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เตนาห ‘‘อตฺตโน วา’’ติอาทิ.

‘‘เนลงฺโคติ โข, ภนฺเต, สีลานเมตํ อธิวจน’’นฺติ สุตฺเต (สํ. นิ. ๔.๓๔๗) อาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘เอตฺถ วุตฺตสีลํ วิยา’’ติ. ปูเรติ คุณานํ ปาริปูริยํ. สุกุมาราติ อผรุสตาย มุทุกา โกมลา. ปุรสฺสาติ เอตฺถ ปุร-สทฺโท ตนฺนิวาสิวาจโก ทฏฺพฺโพ ‘‘คาโม อาคโต’’ติอาทีสุ วิย. เตนาห ‘‘นครวาสีน’’นฺติ. มนํ อปฺปายติ วฑฺเฒตีติ มนาปา. เตนาห ‘‘จิตฺตวุทฺธิกรา’’ติ.

คูถภาณีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อนฺธสุตฺตวณฺณนา

๒๙. นวเม อนฺโธติอาทีสุ ปาฬิปเทสุ ปโม ทิฏฺธมฺมิกโภคสํหรณปฺาจกฺขุโน จ สมฺปรายิกตฺถสาธนปฺาจกฺขุโน จ อภาวา ‘‘อนฺโธ’’ติ วุจฺจติ ทุติโยปิ, ตติโย ปน ทฺวินฺนมฺปิ ภาวา ‘‘ทฺวิจกฺขู’’ติ วุจฺจติ. ปฺาจกฺขูติ อายโกสลฺลภูตา ปฺาจกฺขุ. เตนาห ‘‘ผาตึ กเรยฺยา’’ติ. อธมุตฺตเมติ อธเม เจว อุตฺตเม จ. ปฏิปกฺขวเสนาติ ปฏิปกฺขสฺส อตฺถิตาวเสน. สุกฺกสปฺปฏิภาคาติ สุกฺกธมฺเมหิ ปหายเกหิ สปฺปฏิภาคาติ ชาเนยฺย. กณฺหสปฺปฏิภาคาติ กณฺหธมฺเมหิ ปหาตพฺเพหิ สปฺปฏิภาคาติ ชาเนยฺย.

ตถาชาติกาติ ยาทิเสหิ สปุตฺตทารปริชนสาติมิตฺตพนฺธวคฺคํ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, ตาทิสา โภคาปิ น สนฺติ. ปุฺานิ จ น กโรตีติ สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกยาจกานํ สนฺตปฺปนวเสน ปุฺานิ น กโรติ. อุภยตฺถาติ อุภยสฺมึ โลเก, อุภยสฺมึ วา อตฺเถติ วิคฺคโหติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิธโลเก’’ติอาทิมาห. อุภเยนาติ วุตฺตมตฺถํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมึ าเนติ ยสฺมึเยว าเน. น โสจตีติ โสกเหตูนํ ตตฺถ อภาวโต น โสจติ.

อนฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อวกุชฺชสุตฺตวณฺณนา

๓๐. ทสเม อวกุชฺชปฺโติ นิกฺกุชฺชปฺโ. เตนาห ‘‘อโธมุขปฺโ’’ติ. ปุพฺพปฏฺปนาติ ปมารมฺโภ. สนฺนิฏฺานนฺติ กถาปริโยสานํ. อปฺปนาติ เทสนาย นิฏฺาปนํ. อเนเก วา อนุสนฺธิโยติ โยเชตพฺพํ. สมาธิ วาติอาทีสุ โลกุตฺตรธมฺมา ปรมตฺถโต สาสนนฺติ ตทตฺโถปาทกสมาธิ ตสฺส อาทีติ วุตฺโต, ตทาสนฺนตฺตา วิปสฺสนา, ตสฺส มูลภาเวน เอกเทสตฺตา มคฺโค.

สาสนสฺส ปาริปูริสุทฺธิโย นาม สตฺถารา เทสิตนิยาเมเนว สิทฺธา, ตา ปเนตฺถ กเถนฺตสฺส วเสน คเหตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนูนํ กตฺวา เทเสนฺตี’’ติ, ‘‘นิคฺคณฺึ กตฺวา เทเสนฺตี’’ติ จ วุตฺตํ. ตตฺถ นิชฺชฏนฺติ นิคฺคุมฺพํ อนากุลํ. นิคฺคณฺินฺติ คณฺิฏฺานรหิตํ สุวิฺเยฺยํ กตฺวา.

อากิณฺณานีติ อากิริตฺวา สํกิริตฺวา ปิตานีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปกฺขิตฺตานี’’ติ. อุจฺฉงฺโค วิย อุจฺฉงฺคปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพติ อุจฺฉงฺคสทิสปฺตาย อุจฺฉงฺคปฺโ. เอวํ ปฺา วิย ปุคฺคโลปิ อุจฺฉงฺโค วิย โหติ, ตสฺมึ ธมฺมานํ อจิรฏฺานโตติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. ยถา จ อุจฺฉงฺคสทิสา ปฺา, เอวํ นิกฺกุชฺชกุมฺภสทิสา ปฺา เอวาติ ทฏฺพฺพา.

สํวิทหนปฺายาติ ‘‘เอวํ กเต อิทํ นาม ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ตํตํอตฺถกิจฺจํ สํวิธาตุํ สมตฺถตาย วิจารณปฺาย รหิโต. เสยฺโยติ เสฏฺโ ปาสํโส. ปุพฺพภาคปฏิปทนฺติ จิตฺตวิสุทฺธิอาทิกํ อริยมคฺคสฺส อธิคมาย ปุพฺพภาคปฏิปตฺตึ.

อวกุชฺชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุคฺคลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.