📜
๔. เทวทูตวคฺโค
๑. สพฺรหฺมกสุตฺตวณฺณนา
๓๑. จตุตฺถสฺส ¶ ¶ ปเม สพฺรหฺมกานีติ สเสฏฺกานิ. เยสนฺติ เยสํ กุลานํ. ปุตฺตานนฺติ ปุตฺเตหิ. ปูชิตสทฺทโยเคน หิ อิทํ กรณตฺเถ สามิวจนํ. เตนาติ อาหาราทินา. ปฏิชคฺคิตา โคปิตาติ ยถากาลํ ตสฺส ตสฺส ทาตพฺพสฺส ทาเนน เวยฺยาวจฺจสฺส จ กรเณน ปฏิชคฺคิตา เจว อุปฺปนฺนานตฺถปฺปหรเณน โคปิตา จ โหนฺติ. เตสนฺติ มาตาปิตูนํ. พฺรหฺมาทิภาวสาธนตฺถนฺติ เตสํ คุณานํ อตฺถิตาย โลเก พฺรหฺมา นาม วุจฺจติ, อาจริโย นาม วุจฺจติ, อาหุเนยฺโย นาม วุจฺจติ, เต มาตาปิตูนํ ปุตฺตกํ ปฏิลภนฺตีติ ทสฺสนวเสน เนสํ พฺรหฺมาทิภาวสาธนตฺถํ ‘‘พหุการา’’ติ, วตฺวา ตํ เตสํ พหุการตํ นานาการโต ทสฺเสตุํ ‘‘อาปาทกา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มาตาปิตโร หิ ปุตฺตานํ ชีวิตสฺส อาปาทกา, สรีรสฺส โปสกา, อาจารสมาจารานํ สิกฺขาปกา สกลสฺสปิ อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร. เตนาห ‘‘ปุตฺตานํ หี’’ติอาทิ. อิฏฺารมฺมณํ ตาว เต ทสฺเสนฺตุ, อนิฏฺารมฺมณํ กถนฺติ? ตมฺปิ ทสฺเสตพฺพเมว วชฺชนียภาวชานาปนตฺถํ.
อวิชหิตา โหนฺตีติ ตาสํ ภาวนาย พฺรหฺมานํ พฺรหฺมโลเก อุปฺปนฺนตฺตา อวิชหิตา โหนฺติ ภาวนา. โลภนียวยสฺมึ ปมโยพฺพเน อติวิย มุทุภาวปฺปตฺตทสฺสนตฺถํ สตวิหตคฺคหณํ. ปาฏิเยกฺกนฺติ วิสุํ. อิมินา การเณนาติ อิมินา ยถาวุตฺเตน ปุตฺเตสุ ปวตฺติเตหิ อติกฺกเมน เมตฺตาทิสมุปฺปตฺติสงฺขาเตน การเณน.
ถรุสิปฺปนฺติ อสิสตฺติกุนฺตกลาปาทิอายุธสิปฺปํ. มุทฺทาคณนาติ องฺคุลิสํโกจนาทินา หตฺถมุทฺทาย คณนา. อาทิสทฺเทน ปาณาทีนํ สงฺคโห. ปจฺฉาจริยา นาม มาตาปิตูนํ สนฺติเก อุคฺคหิตคหฏฺวตฺตสฺเสว ปุคฺคลสฺส ยถาสกํ หตฺถาจริยาทีนํ สิปฺปคฺคาหาปนนฺติ กตฺวา สพฺพปมํ อาจริยา นามาติ โยเชตพฺพํ. อานีย หุตํ อาหุตํ. ปกาเรหิ หุตํ ปาหุตํ. อภิสงฺขตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ.
นโม กเรยฺยาติ สายํ ปาตํ อุปฏฺานํ คนฺตฺวา ‘‘อิทํ มยฺหํ อุตฺตมปฺุกฺเขตฺต’’นฺติ นมกฺการํ กเรยฺย. ตาย นํ ปาริจริยายาติ เอตฺถ นนฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถาวุตฺตปริจรเณนาติ อตฺโถ ¶ . อถ วา ปาริจริยายาติ ¶ ภรณกิจฺจกรณกุลวํสปฺปติฏฺานาปนาทินา ปฺจวิธอุปฏฺาเนน. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – ‘ภโต เนสํ ภริสฺสามิ, กิจฺจํ เนสํ กริสฺสามิ, กุลวํสํ เปสฺสามิ, ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามิ, อถ วา ปน เปตานํ กาลกตานํ ทกฺขิณํ อนุปฺปทสฺสามี’ติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ, ปาปา นิวาเรนฺติ, กลฺยาเณ นิเวเสนฺติ, สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺติ, ปติรูเปน ทาเรน สํโยเชนฺติ, สมเย ทายชฺชํ นิยฺยาเทนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๖๗).
อปิจ โย มาตาปิตโร ตีสุ วตฺถูสุ อภิปฺปสนฺเน กตฺวา สีเลสุ วา ปติฏฺาเปตฺวา ปพฺพชฺชาย วา นิโยเชตฺวา อุปฏฺหติ, อยํ มาตาปิตูปฏฺากานํ อคฺโคติ เวทิตพฺโพ. สา ปนายํ ปาริจริยา ปุตฺตสฺส อุภยโลกหิตสุขาวหาติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ วุตฺตํ. ปสํสนฺตีติ ‘‘อยํ ปุคฺคโล มตฺเตยฺโย เปตฺเตยฺโย สคฺคสํวตฺตนิยํ ปฏิปทํ ปูเรตี’’ติ อิเธว นํ ปสํสนฺติ. อาโมทติ อาทิโต ปฏฺาย โมทปฺปตฺติยา. ปโมทติ นานปฺปการโมทสมฺปวตฺติยา.
สพฺรหฺมกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา
๓๒. ทุติเย ตถาชาติโกติ ตถาสภาโว. จิตฺเตกคฺคตาลาโภติ จิตฺเตกคฺคตาย อธิคโม. รูปเมว กิเลสุปฺปตฺติยา การณภาวโต รูปนิมิตฺตํ. เอส นโย เสเสสุปิ. สสฺสตาทินิมิตฺตนฺติ สสฺสตุจฺเฉทภาวนิมิตฺตํ. ปุคฺคลนิมิตฺตนฺติ ปุคฺคลาภินิเวสนนิมิตฺตํ. ธมฺมนิมิตฺตนฺติ ธมฺมารมฺมณสงฺขาตํ นิมิตฺตํ. ‘‘สิยา นุ โข, ภนฺเต’’ติ เถเรน ปุฏฺโ ภควา ‘‘สิยา’’ติ อโวจ โลกุตฺตรสมาธิปฺปฏิลาภํ สนฺธาย. โส หิ นิพฺพานํ สนฺตํ ปณีตนฺติ จ ปสฺสติ. เตนาห ‘‘อิธานนฺทา’’ติอาทิ.
นิพฺพานํ ¶ สนฺตนฺติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวาติ นิพฺพานํ สนฺตนฺติ อาภุชิตฺวา ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา ¶ . ทิวสมฺปีติอาทินา อสงฺขตาย ธาตุยา อจฺจนฺตสนฺตปณีตาทิภาวํ ทสฺเสติ. อฏฺวิเธติ ‘‘สนฺตํ ปณีตํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ เอวํ อฏฺวิเธ อาโภคสฺิเต สมนฺนาหาเร. นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. อิมสฺมึ าเน…เป… ลพฺภนฺเตวาติ ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุโน เอวํ โหตี’’ติ อาคเต อิมสฺมึ สุตฺตปฺปเทเส เอโกปิ อาโภคสมนฺนาหาโร เจปิ สพฺเพ อฏฺปิ อาโภคสมนฺนาหารา ลพฺภนฺเตว สมนฺนาหรตํ อตฺถาวหตฺตา.
าเณน ชานิตฺวาติ วิปสฺสนาาณสหิเตน มคฺคาเณน ชานิตฺวา. ปรานิ จ โอปรานิ จ จกฺขาทีนิ อายตนานิ. สนฺตตายาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิตาย. กายทุจฺจริตาทิธูมวิรหิโตติ กายทุจฺจริตาทิ เอว สนฺตาปนฏฺเน ธูโม, เตน วิรหิโต. อนีโฆติ อปาโป. ชาติชราคหเณเนว พฺยาธิมรณมฺปิ คหิตเมวาติ ตพฺภาวภาวโตติ วุตฺตํ.
อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๓. ตติเย, ‘‘สาริปุตฺต, มยา สํขิตฺเตน เทสิตํ ธมฺมํ ตาทิเสนปิ น สุกรํ วิฺาตุ’’นฺติ อิมินา อธิปฺปาเยเนว วทนฺโต เถรสฺส าณํ สพฺพมติกฺกมํ. อฺาตาโร จ ทุลฺลภาติ หิ อิมินา สามฺวจเนน สาริปุตฺตตฺเถรมฺปิ อนฺโตคธํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต เตนปิ อตฺตโน เทสนาย ทุปฺปฏิวิทฺธภาวํ ทสฺเสติ.
สมฺมาติ เหตุนา การเณน. เตนาห ‘‘อุปาเยนา’’ติอาทิ. มานาภิสมยาติ มานสฺส ทสฺสนาภิสมยา. ปหานาภิสมโยติ จ ทสฺสนาภิสมโยติ จ ปริฺาภิสมโย วุตฺโต. อรหตฺตมคฺโค หิ ปริฺากิจฺจสิทฺธิยา กิจฺจวเสน มานํ ปสฺสติ, อสมฺโมหปฺปฏิเวธวเสนาติ วุตฺตํ โหติ, อยมสฺส ทสฺสนาภิสมโย. เตน ทิฏฺโ ปน ปหานาภิสมโย จ. ทสฺสนาภิสมเยน หิ ปริฺาภิสมยเมว ปหียติ. ทิฏฺวิเสน ทิฏฺสตฺตานํ ชีวิตํ วิย อยมสฺส ปหานาภิสมโย ¶ . อฏฺกถายํ ปน ปหานาภิสมยสฺส ทสฺสนาภิสมยนานนฺตริยกตฺตา ‘‘ปหานาภิสมเยน’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ปหานาภิสมเย หิ คหิเต ทสฺสนาภิสมโย คหิโตว โหติ.
อนฺตมกาสิ ¶ ทุกฺขสฺสาติ อรหตฺตมคฺเคน มานสฺส ปหีนตฺตา เย อิเม ‘‘กายพนฺธนสฺส อนฺโต ชีรติ (จูฬว. ๒๗๘), หริตนฺตํ วา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐๔) เอวํ วุตฺตอนฺติมมริยาทนฺโต จ ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๘๐; อิติวุ. ๙๑) เอวํ วุตฺตลามกนฺโต จ ‘‘สกฺกาโย เอโก อนฺโต’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๓) เอวํ วุตฺตโกฏฺาสนฺโต จ ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺส สปจฺจยสงฺขยา’’ติ เอวํ วุตฺตโกฏฺาสนฺโต จาติ จตฺตาโร อนฺตา, เตสุ สพฺพสฺเสว วฏฺฏทุกฺขสฺส อทุํ จตุตฺถโกฏิสงฺขาตํ อนฺตมกาสิ, ปริจฺเฉทํ ปริวฏุมํ อกาสิ, อนฺติมสมุทยมตฺตาวเสสํ ทุกฺขมกาสีติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตมกาสี’’ติ.
นนุ จ ‘‘ปหาน’’นฺติ อิมสฺส นิทฺเทเส นิพฺพานํ อาคตํ? อิธ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานสงฺขาตํ อรหตฺตผลํ วุตฺตํ, ตสฺมา นิทฺเทเสนายํ วณฺณนา วิรุชฺฌตีติ อาห ‘‘นิทฺเทเส ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตานิ ปทานิ อาคตานีติ ตสฺมึ นิทฺเทเส ‘‘ปหานํ วูปสมํ ปฏินิสฺสคฺค’’นฺติอาทีนิ (จูฬนิ. ๗๕ อุทยมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส) ปทานิ อาคตานิ.
ธมฺมตกฺกปุเรชวนฺติ อิมินา ตสฺมึ จตุตฺถชฺฌานวิโมกฺเข ตฺวา ฌานงฺคานิ วิปสฺสิตฺวา อธิคตํ อรหตฺตวิโมกฺขํ วทติ. อรหตฺตวิโมกฺขสฺส หิ มคฺคสมฺปยุตฺตสมฺมาสงฺกปฺปสงฺขาโต ธมฺมตกฺโก ปุเรชโว โหติ.
สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. นิทานสุตฺตวณฺณนา
๓๔. จตุตฺเถ ปิณฺฑกรณตฺถายาติ อายูหนวเสน ราสิกรณตฺถาย. อภินฺนานีติ เอกเทเสนปิ อขณฺฑิตานิ. ภินฺนกาลโต ปฏฺาย หิ พีชํ พีชกิจฺจาย น อุปกปฺปติ. อปูตีนีติ อุทกเตมเนน ปูติภาวํ น อุปคตานิ. ปูติพีชฺหิ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. เตนาห ‘‘ปูติภาเวน อพีชตฺตํ อปฺปตฺตานี’’ติ. น วาเตน น จ อาตเปน หตานีติ ¶ วาเตน จ อาตเปน จ น หตานิ, นิโรชตํ น ปาปิตานิ. นิโรชฺหิ กสฏพีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. สาราทานีติ ตณฺฑุลสารสฺส อาทานโต สาราทานิ. นิสฺสารฺหิ พีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. เตนาห ‘‘คหิตสารานี’’ติ, ปติฏฺิตสารานีติ อตฺโถ. สนฺนิจยภาเวน สุขํ สยิตานีติ จตฺตาโร มาเส โกฏฺปกฺขิตฺตนิยาเมเนว สุขสยิตานิ.
กมฺมวิภตฺตีติ ¶ กมฺมวิภาโค. ทิฏฺธมฺโม วุจฺจติ ปจฺจกฺขภูโต ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตภาโว, ตตฺถ เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ. ปจฺจุปนฺนภวโต อนนฺตรํ เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ อุปปชฺชเวทนียํ. อปรปริยายเวทนียนฺติ ทิฏฺธมฺมานนฺตรภวโต อฺสฺมึ อตฺตภาวปริยาเย อตฺตภาวปริวตฺเต เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ. ปฏิปกฺเขหิ อนภิภูตตาย ปจฺจยวิเสเสน ปฏิลทฺธวิเสสตาย จ พลวภาวปฺปตฺตา ตาทิสสฺส ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส วเสน สาติสยา หุตฺวา ปวตฺตา ปมชวนเจตนา ตสฺมึเยว อตฺตภาเว ผลทายินี ทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม. สา หิ วุตฺตากาเรน พลวตี ชวนสนฺตาเน คุณวิเสสยุตฺเตสุ อุปการานุปการวสปฺปวตฺติยา อาเสวนาลาเภน อปฺปวิปากตาย จ ปมชวนเจตนา อิตรทฺวยํ วิย ปวตฺตสนฺตานุปรมาเปกฺขํ โอกาสลาภาเปกฺขฺจ กมฺมํ น โหตีติ อิเธว ปุปฺผมตฺตํ วิย ปวตฺติวิปากมตฺตํ ผลํ เทติ. ตถา อสกฺโกนฺตนฺติ กมฺมสฺส วิปากทานํ นาม อุปธิปฺปโยคาทิปจฺจยนฺตรสมวาเยเนว โหตีติ ตทภาวโต ตสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตํ. อโหสิกมฺมนฺติ อโหสิ เอว กมฺมํ, น ตสฺส วิปาโก อโหสิ อตฺถิ ภวิสฺสติ จาติ เอวํ เวทิตพฺพํ กมฺมํ.
อตฺถสาธิกาติ ทานาทิปาณาติปาตาทิอตฺถสฺส นิปฺผาทิกา. กา ปน สาติ อาห ‘‘สตฺตมชวนเจตนา’’ติ. สา หิ สนฺนิฏฺาปกเจตนา วุตฺตนเยน ปฏิลทฺธวิเสสา ปุริมชวนเจตนาหิ ลทฺธาเสวนา จ สมานา อนนฺตรตฺตภาเว วิปากทายินี อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ปุริมอุปมายเยวาติ มิคลุทฺทโกปมายเยว.
สติ สํสารปฺปวตฺติยาติ อิมินา อสติ สํสารปฺปวตฺติยํ อโหสิกมฺมปกฺเข ติฏฺติ วิปจฺจโนกาสสฺส อภาวโตติ ทีเปติ. ยํ ครุกนฺติ ¶ ยํ อกุสลํ มหาสาวชฺชํ, กุสลฺจ มหานุภาวํ กมฺมํ. กุสลํ วา หิ โหตุ อกุสลํ วา, ยํ ครุกํ มาตุฆาตาทิกมฺมํ วา มหคฺคตกมฺมํ วา, ตเทว ปมํ วิปจฺจติ. เตนาห ‘‘กุสลากุสเลสุ ปนา’’ติอาทิ. ยํ พหุลนฺติ ยํ พหุลํ อภิณฺหโส กตํ สมาเสวิตํ. เตนาห ‘‘กุสลากุสเลสุ ปน ยํ พหุลํ โหตี’’ติอาทิ. ยทาสนฺนํ นาม มรณกาเล อนุสฺสริตํ กมฺมํ, อาสนฺนกาเล กเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘ยํ ปน กุสลากุสเลสุ อาสนฺนมรเณ’’ติอาทิ. อนุสฺสริตุนฺติ ปริพฺยตฺตภาเวน อนุสฺสริตุํ.
เตสํ อภาเวติ เตสํ ยํครุกาทีนํ ติณฺณํ กมฺมานํ อภาเว. ยตฺถ กตฺถจิ วิปากํ เทตีติ ปฏิสนฺธิชนกวเสน วิปากํ เทติ. ปฏิสนฺธิชนกวเสน หิ ครุกาทิกมฺมจตุกฺกํ วุตฺตํ. ตตฺถ ครุกํ สพฺพปมํ วิปจฺจติ, ครุเก อสติ พหุลีกตํ, ตสฺมึ อสติ ยทาสนฺนํ ¶ , ตสฺมึ อสติ ‘‘กฏตฺตา วา ปนา’’ติ วุตฺตํ ปุริมชาตีสุ กตกมฺมํ วิปจฺจติ. พหุลาสนฺนปุพฺพกเตสุ จ พลาพลํ ชานิตพฺพํ. ปาปโต ปาปนฺตรํ กลฺยาณฺจ, กลฺยาณโต กลฺยาณนฺตรํ ปาปฺจ พหุลีกตํ. ตโต มหโตว ปุพฺพกตาทิ อปฺปฺจ พหุลานุสฺสรเณน วิปฺปฏิสาราทิชนนโต, ปฏิปกฺขสฺส อปริปุณฺณตาย อารทฺธวิปากสฺส กมฺมสฺส กมฺมเสสสฺส วา อปรปริยายเวทนียสฺส อปริกฺขีณตาย สนฺตติยา ปริณามวิเสสโตติ เตหิ เตหิ การเณหิ อายูหิตผลํ ปมํ วิปจฺจติ. มหานารทกสฺสปชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑๑๕๓ อาทโย) วิเทหรฺโ เสนาปติ อลาโต, พีชโก ทาโส, ราชกฺา รุจา จ เอตฺถ นิทสฺสนํ. ตถา หิ วุตฺตํ ภควตา –
‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ สมตฺตา สมาทินฺนา, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติ –
อาทิ ¶ . สพฺพํ มหากมฺมวิภงฺคสุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๓๐๓) วิตฺถาเรตพฺพํ. กึ พหุนา. ยํ ตํ ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺคาณํ, ตสฺเสวายํ วิสโย, ยทิทํ ตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส เตน เตน การเณน ปุพฺพาปรวิปากตา สมตฺถียติ.
อิทานิ ชนกาทิกมฺมจตุกฺกํ วิภชนฺโต ‘‘ชนกํ นามา’’ติอาทิมาห. ปวตฺตึ น ชเนตีติ ปวตฺติวิปากํ น ชเนติ. ปมนเย ชนกกมฺมสฺส ปฏิสนฺธิวิปากมตฺตสฺเสว วุตฺตตฺตา ตสฺส ปวตฺติวิปากทายกตฺตมฺปิ อนุชานนฺโต ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฏิสนฺธิทานาทิวเสน วิปากสนฺตานสฺส นิพฺพตฺตกํ ชนกํ. สุขทุกฺขสนฺตานสฺส นามรูปปฺปพนฺธสฺส วา จิรตรํ ปวตฺติเหตุภูตํ อุปตฺถมฺภกํ. เตนาห ‘‘สุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตตี’’ติ. อุปปีฬกํ สุขทุกฺขปฺปพนฺเธ ปวตฺตมาเน สณิกํ สณิกํ หาเปติ. เตนาห ‘‘สุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาเธติ, อทฺธานํ ปวตฺติตุํ น เทตี’’ติ.
วาตกาฬโก มหลฺลโก โจเร ฆาเตตุํ น สกฺโกตีติ โส กิร มหลฺลกกาเล เอกปฺปหาเรน สีสํ ฉินฺทิตุํ น สกฺโกติ, ทฺเว ตโย วาเร ปหรนฺโต มนุสฺเส กิลเมติ, ตสฺมา เต เอวมาหํสุ. อนุโลมิกํ ขนฺตึ ปฏิลภิตฺวาติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส โอรโต อนุโลมิกํ ขนฺตึ ลภิตฺวา ¶ . ตรุณวจฺฉาย คาวิยา มทฺทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปิโตติ เอกา กิร ยกฺขินี เธนุเวเสน อาคนฺตฺวา อุเร ปหริตฺวา มาเรสิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. นคเร ภโว นาคริโย.
ฆาเตตฺวาติ อุปจฺฉินฺทิตฺวา. กมฺมสฺส อุปจฺฉินฺทนํ นาม ตสฺส วิปากปฺปฏิพาหนเมวาติ อาห ‘‘ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา’’ติ. ตฺจ อตฺตโน วิปากุปฺปตฺติยา โอกาสกรณนฺติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรตี’’ติ. วิปจฺจนาย กโตกาสํ กมฺมํ วิปกฺกมฺเมว นาม โหตีติ อาห ‘‘เอวํ ปน กมฺเมน กเต โอกาเส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม วุจฺจตี’’ติ. อุปปีฬกํ อฺสฺส วิปากํ อุปจฺฉินฺทติ, น สยํ อตฺตโน วิปากํ เทติ. อุปฆาตกํ ปน ทุพฺพลกมฺมํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อตฺตโน วิปากํ อุปฺปาเทตีติ อยเมเตสํ วิเสโส. กิฺจิ พหฺวาพาธตาทิปจฺจยูปสนฺนิปาเตน วิปากสฺส วิพาธกํ อุปปีฬกํ, ตถา วิปากสฺเสว อุปจฺเฉทกํ. อุปฆาตกกมฺมํ ปน อุปฆาเตตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสกรเณน วิปจฺจเน ¶ สติ ชนกเมว สิยา. ชนกาทิภาโว นาม วิปากํ ปติ อิจฺฉิตพฺโพ, น กมฺมํ ปตีติ วิปากสฺเสว อุปฆาตกตา ยุตฺตา วิย ทิสฺสติ, วีมํสิตพฺพํ.
อปโร นโย – ยสฺมึ กมฺเม กเต ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ วิปากกฏตฺตารูปานํ อุปฺปตฺติ โหติ, ตํ ชนกํ. ยสฺมึ ปน กเต อฺเน ชนิตสฺส อิฏฺสฺส วา อนิฏฺสฺส วา ผลสฺส วิพาธกวิจฺเฉทกปจฺจยานุปฺปตฺติยา อุปพฺรูหนปจฺจยุปฺปตฺติยา ชนกสามตฺถิยานุรูปํ ปริสุทฺธิจิรตรปฺปพนฺธา โหติ, ตํ อุปตฺถมฺภกํ. ชนเกน นิพฺพตฺติตํ กุสลผลํ วา อกุสลผลํ วา เยน ปจฺจนีกภูเตน โรคธาตุวิสมตาทินิมิตฺตตาย วิพาธยติ, ตํ อุปปีฬกํ. เยน ปน กมฺมุนา ชนกสามตฺถิยวเสน จิรตรปฺปพนฺธารหมฺปิ สมานํ ผลํ วิจฺเฉทกปจฺจยุปฺปตฺติยา อุปหฺติ วิจฺฉิชฺชติ, ตํ อุปฆาตกนฺติ อยเมตฺถ สาโร.
ตตฺถ เกจิ ทุติยสฺส กุสลภาวํ อิตฺถตฺตมาคตสฺส อปฺปาพาธทีฆายุกตาสํวตฺตนวเสน, ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนํ อกุสลภาวํ พหฺวาพาธอปฺปายุกตาสํวตฺตนวเสน วณฺเณนฺติ. ตถา จ วุตฺตํ มชฺฌิมนิกาเย จูฬกมฺมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๒๙๐) –
‘‘จตฺตาริ หิ กมฺมานิ – อุปปีฬกํ, อุปจฺเฉทกํ, ชนกํ, อุปตฺถมฺภกนฺติ. พลวกมฺเมน หิ นิพฺพตฺตํ ปวตฺเต อุปปีฬกํ อาคนฺตฺวา อตฺถโต เอวํ วทติ นาม ‘สจาหํ ปมตรํ ชาเนยฺยํ, น เต อิธ นิพฺพตฺติตุํ ทเทยฺยํ, จตูสุเยว ตํ อปาเยสุ นิพฺพตฺตาเปยฺยํ. โหตุ, ตฺวํ ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺต, อหํ อุปปีฬกกมฺมํ นาม ตํ ปีเฬตฺวา ¶ นิโรชํ นิยูสํ กสฏํ กริสฺสามี’ติ. ตโต ปฏฺาย ตํ ตาทิสํ กโรติ. กึ กโรติ? ปริสฺสยํ อุปเนติ, โภเค วินาเสติ.
‘‘ตตฺถ ทารกสฺส มาตุกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย มาตุ อสฺสาโท วา สุขํ วา น โหติ, มาตาปิตูนํ ปีฬาว อุปฺปชฺชติ. เอวํ ปริสฺสยํ อุปเนติ. ทารกสฺส ปน มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย เคเห โภคา อุทกํ ปตฺวา โลณํ วิย ราชาทีนํ วเสน นสฺสนฺติ, กุมฺภโทหนเธนุโย ¶ ขีรํ น เทนฺติ, สูรตา โคณา จณฺฑา โหนฺติ, กาณา โหนฺติ, ขฺชา โหนฺติ, โคมณฺฑเล โรโค ปตติ, ทาสาทโย วจนํ น กโรนฺติ, วาปิตํ สสฺสํ น ชายติ, เคหคตํ เคเห, อรฺคตํ อรฺเ นสฺสติ, อนุปุพฺเพน ฆาสจฺฉาทนมตฺตํ ทุลฺลภํ โหติ, คพฺภปริหาโร น โหติ, วิชาตกาเล มาตุ ถฺํ ฉิชฺชติ, ทารโก ปริหารํ อลภนฺโต ปีฬิโต นิโรโช นิยูโส กสโฏ โหติ. อิทํ อุปปีฬกกมฺมํ นาม.
‘‘ทีฆายุกกมฺเมน ปน นิพฺพตฺตสฺส อุปจฺเฉทกกมฺมํ อาคนฺตฺวา อายุํ ฉินฺทติ. ยถา หิ ปุริโส อฏฺุสภคมนํ กตฺวา สรํ ขิเปยฺย, ตมฺโ ธนุโต มุตฺตมตฺตํ มุคฺคเรน ปหริตฺวา ตตฺเถว ปาเตยฺย, เอวํ ทีฆายุกกมฺเมน นิพฺพตฺตสฺส อุปจฺเฉทกกมฺมํ อายุํ ฉินฺทติ. กึ กโรติ? โจรานํ อฏวึ ปเวเสติ, วาฬมจฺโฉทกํ โอตาเรติ, อฺตรํ วา ปน สปริสฺสยานํ อุปเนติ. อิทํ อุปจฺเฉทกกมฺมํ นาม. ‘อุปฆาตก’นฺติปิ เอตสฺเสว นามํ. ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกํ ปน กมฺมํ ชนกกมฺมํ นาม. อปฺปโภคกุลาทีสุ นิพฺพตฺตสฺส โภคสมฺปทาทิกรเณน อุปตฺถมฺภกกมฺมํ อุปตฺถมฺภกกมฺมํ นาม.
‘‘ปริตฺตกมฺเมนปิ นิพฺพตฺตํ เอตํ ปวตฺเต ปาณาติปาตาทิวิรติกมฺมํ อาคนฺตฺวา อตฺถโต เอวํ วทติ นาม ‘สจาหํ ปมตรํ ชาเนยฺยํ, น เต อิธ นิพฺพตฺติตุํ ทเทยฺยํ, เทวโลเกเยว ตํ นิพฺพตฺตาเปยฺยํ, โหตุ, ตฺวํ ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺต, อหํ อุปตฺถมฺภกกมฺมํ นาม อุปตฺถมฺภํ เต กริสฺสามี’ติ อุปตฺถมฺภํ กโรติ. กึ กโรติ? ปริสฺสยํ นาเสติ, โภเค อุปฺปาเทติ.
‘‘ตตฺถ ทารกสฺส มาตุกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย มาตาปิตูนํ สุขเมว สาตเมว โหติ. เยปิ ปกติยา มนุสฺสามนุสฺสปริสฺสยา โหนฺติ, เต สพฺเพ อปคจฺฉนฺติ ¶ . เอวํ ปริสฺสยํ นาเสติ. ทารกสฺส ปน มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย เคเห โภคานํ ปมาณํ น โหติ, นิธิกุมฺภิโย ปุรโตปิ ปจฺฉโตปิ เคหํ ปริวฏฺฏมานา ปวิสนฺติ. มาตาปิตโร ¶ ปเรหิ ปิตธนสฺสปิ สมฺมุขีภาวํ คจฺฉนฺติ, เธนุโย พหุขีรา โหนฺติ, โคณา สุขสีลา โหนฺติ, วปฺปฏฺาเน สสฺสานิ สมฺปชฺชนฺติ, วฑฺฒิยา วา สมฺปยุตฺตํ, ตาวกาลิกํ วา ทินฺนํ ธนํ อโจทิตา สยเมว อาหริตฺวา เทนฺติ, ทาสาทโย สุพฺพจา โหนฺติ, กมฺมนฺตา น ปริหายนฺติ, ทารโก คพฺภโต ปฏฺาย ปริหารํ ลภติ, โกมาริกเวชฺชา สนฺนิหิตาว โหนฺติ. คหปติกุเล ชาโต เสฏฺิฏฺานํ, อมจฺจกุลาทีสุ ชาโต เสนาปติฏฺานาทีนิ ลภติ. เอวํ โภเค อุปฺปาเทติ. โส อปริสฺสโย สโภโค จิรํ ชีวติ. อิทํ อุปตฺถมฺภกกมฺมํ นาม. อิเมสุ จตูสุ ปุริมานิ ทฺเว อกุสลาเนว, ชนกํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ, อุปตฺถมฺภกํ กุสลเมวา’’ติ.
เอตฺถ วิพาธูปฆาตา นาม กุสลวิปากมฺหิ น ยุตฺตาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทฺเว อกุสลาเนวา’’ติ วุตฺตํ. เทวทตฺตาทีนํ ปน นาคาทีนํ อิโต อนุปฺปทินฺนยาปนกเปตานฺจ นรกาทีสุ อกุสลวิปากูปตฺถมฺภนูปปีฬนูปฆาตกานิ สนฺตีติ จตุนฺนมฺปิ กุสลากุสลภาโว น วิรุชฺฌติ. เอวฺจ กตฺวา ยา พหูสุ อานนฺตริเยสุ กเตสุ เอเกน คหิตปฺปฏิสนฺธิกสฺส อิตเรสํ ตสฺส อนุพลปฺปทายิตา วุตฺตา, สาปิ สมตฺถิตา โหติ.
สุตฺตนฺตปริยาเยน เอกาทส กมฺมานิ วิภชิตฺวา อิทานิ อภิธมฺมปริยาปนฺนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานี’’ติอาทินา วิภงฺคปาฬึ (วิภ. ๘๑๐) ทสฺเสติ. ตตฺถ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานีติ คติสมฺปตฺติยา ปฏิพาหิตานิ นิวาริตานิ ปฏิเสธิตานิ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ จ คติสมฺปตฺตีติ สมฺปนฺนคติ เทวโลโก จ มนุสฺสโลโก จ. คติวิปตฺตีติ วิปนฺนคติ จตฺตาโร อปายา. อุปธิสมฺปตฺตีติ อตฺตภาวสมิทฺธิ. อุปธิวิปตฺตีติ หีนอตฺตภาวตา. กาลสมฺปตฺตีติ สุราชสุมนุสฺสกาลสงฺขาโต สมฺปนฺนกาโล. กาลวิปตฺตีติ ทุราชทุมฺมนุสฺสกาลสงฺขาโต วิปนฺนกาโล. ปโยคสมฺปตฺตีติ สมฺมาปโยโค. ปโยควิปตฺตีติ มิจฺฉาปโยโค.
อิทานิ ¶ ยถาวุตฺตปาฬิยา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนิฏฺารมฺมณานุภวนารเห กมฺเม วิชฺชมาเนเยวาติ อิมินา อนิฏฺารมฺมณานุภวนนิมฺมิตฺตกสฺส ปาปกมฺมสฺส สพฺภาวํ ทสฺเสติ. ตํ กมฺมนฺติ ตํ ปาปกํ กมฺมํ. เอกจฺจสฺส หิ อนิฏฺารมฺมณานุภวนนิมิตฺตํ ¶ พหุปาปกมฺมํ วิชฺชมานมฺปิ คติวิปตฺติยํ ิตสฺเสว วิปจฺจติ. ยทิ ปน โส เอเกน กลฺยาณกมฺเมน คติสมฺปตฺติยํ เทเวสุ วา มนุสฺเสสุ วา นิพฺพตฺเตยฺย, ตาทิเส าเน อกุสลสฺส วาโร นตฺถิ, เอกนฺตํ กุสลสฺเสวาติ ตํ กมฺมํ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ. ปติพาหิตํ หุตฺวาติ พาธิตํ หุตฺวา. อตฺตภาวสมิทฺธิยนฺติ สรีรสมฺปตฺติยํ. กิลิฏฺกมฺมสฺสาติ หตฺถิเมณฺฑอสฺสพนฺธกโคปาลกาทิกมฺมสฺส. ปลายิตพฺพยุตฺตกาเลติ หตฺถิอาทิปจฺจตฺถิกสมาคมกาเล. ลฺชํ เทตีติ เอวํ เม พาธตํ ปเรสํ วเส น โหตีติ เทติ. โจริกยุตฺตกาเลติ ปกฺขพลาทีนํ ลพฺภมานกาเล. อนฺตรกปฺเปติ ปริโยสานปฺปตฺเต อนฺตรกปฺเป.
อภิธมฺมนเยน โสฬส กมฺมานิ วิภชิตฺวา ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๔-๒๓๕) ทฺวาทส กมฺมานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อปรานิปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตีตภเวสุ กตสฺส กมฺมสฺส อตีตภเวสุเยว วิปกฺกวิปากํ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ กมฺมํ อตีเต อายูหิต’’นฺติอาทิ. วิปากวารนฺติ วิปจฺจนาวสรํ วิปากวารํ. ‘‘วิปากวารํ ลภตี’’ติ อิมินา วุตฺตเมวตฺถํ ‘‘ปฏิสนฺธึ ชเนสี’’ติอาทินา วิภาเวติ. ตตฺถ ปฏิสนฺธึ ชเนสีติ อิมินา จ ปฏิสนฺธิทายกสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติวิปากทายิตาปิ วุตฺตา โหติ. ปวตฺติวิปากสฺเสว ปน ทายกํ รูปชนกสีเสน วทติ. ตสฺเสว อตีตสฺส กมฺมสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส จ ปจฺจยเวกลฺเลน อตีตภเวสุเยว อวิปกฺกวิปากฺจ, อตีเตเยว ปรินิพฺพุตสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียอุปปชฺชเวทนียอปรปริยายเวทนียสฺส กมฺมสฺส อวิปกฺกวิปากฺจ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติปิ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน วิปากวารํ น ลภี’’ติอาทิ.
อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อวิปกฺกวิปากสฺส ปจฺจุปฺปนฺนภเว ปจฺจยสมฺปตฺติยา วิปจฺจมานํ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน อตีเต อายูหิต’’นฺติอาทิมาห. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส ¶ อติกฺกนฺตวิปากกาลสฺส จ ปจฺจุปฺปนฺนภเว ปรินิพฺพายนฺตสฺส จ อวิปจฺจมานวิปากํ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อลทฺธวิปากวาร’’นฺติอาทิ. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส วิปาการหสฺส อวิปกฺกวิปากสฺส อนาคตภเว ปจฺจยสมฺปตฺติยา วิปจฺจิตพฺพํ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ปน อตีเต อายูหิต’’นฺติอาทิมาห. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อติกฺกนฺตวิปากกาลสฺส จ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส อวิปจฺจิตพฺพวิปากฺจ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ ¶ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ อนาคเต วิปากวารํ น ลภิสฺสตี’’ติอาทิ. เอวํ ตาว อตีตกมฺมํ อตีตปจฺจุปฺปนฺนานาคตวิปากาวิปากวเสน ฉธา ทสฺสิตํ.
อิทานิ ปจฺจุปฺปนฺนภเว กตสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส อิเธว วิปจฺจมานํ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ปน เอตรหิ อายูหิต’’นฺติอาทิมาห. ยํ ปน เอตรหิ วิปากวารํ น ลภตีติอาทินา ตสฺเสว ปจฺจุปฺปนฺนสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อิธ อวิปจฺจมานฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายนฺตสฺส อิธ อวิปจฺจมานฺจ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว กมฺมสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส อปรปริยายเวทนียสฺส จ อนาคตภเว วิปจฺจิตพฺพวิปากํ คเหตฺวา ‘‘อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน เอตรหิ อายูหิตํ อนาคเต วิปากวารํ ลภิสฺสตี’’ติอาทิ. ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว กมฺมสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อนาคตภเว อวิปจฺจิตพฺพฺจ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส อปรปริยายเวทนียสฺส อวิปจฺจิตพฺพฺจ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสตี’’ติอาทิ.
เอวฺจ ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมํ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตวิปากาวิปากวเสน จตุธา ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาคตภเว กตสฺส กมฺมสฺส อนาคเต วิปจฺจิตพฺพวิปากํ คเหตฺวา ‘‘ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ปนานาคเต อายูหิสฺสตี’’ติอาทิมาห. ตสฺเสว อนาคตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อวิปจฺจิตพฺพฺจ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส อวิปจฺจิตพฺพฺจ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสตี’’ติอาทิ ¶ . เอวํ อนาคตกมฺมํ อนาคตวิปากาวิปากวเสน ทฺวิธา ทสฺสิตํ. เอวนฺติอาทินา ยถาวุตฺตทฺวาทสกมฺมานิ นิคเมติ.
อิทานิ สพฺเพสุ ยถาวุตฺตปฺปเภเทสุ กมฺเมสุ ยานิ อภิธมฺมนเยน วิภตฺตานิ โสฬส กมฺมานิ, ยานิ จ ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน วิภตฺตานิ ทฺวาทส กมฺมานิ, ตานิ สพฺพานิ สุตฺตนฺติกปริยาเยน วิภตฺเตสุ เอกาทสวิเธสุเยว กมฺเมสุ อนฺโตคธานิ, ตานิ จ ทิฏฺธมฺมเวทนียอุปปชฺชเวทนียอปรปริยายเวทนีเยสุ ตีสุเยว อนฺโตคธานีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อิมานิ เจวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺตโน านา โอสกฺกิตฺวาติ อตฺตโน ยถาวุตฺตทฺวาทสโสฬสปฺปเภทสงฺขาตฏฺานโต ปริหาเปตฺวา, ตํ ตํ ปเภทํ หิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เอกาทส กมฺมานิเยว ¶ ภวนฺตีติ ตํสภาวานํเยว กมฺมานํ ทฺวาทสธา โสฬสธา จ วิภชิตฺวา วุตฺตตฺตา เอวมาห. ยสฺมา เอกาทสธา วุตฺตกมฺมานิ ทิฏฺธมฺมเวทนียานิ วา สิยุํ อุปปชฺชเวทนียานิ วา อปรปริยายเวทนียานิ วา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตีณิเยว กมฺมานิ โหนฺตี’’ติ.
เตสํ สงฺกมนํ นตฺถีติ เตสํ ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีนํ สงฺกมนํ นตฺถิ, สงฺกมนํ อุปปชฺชเวทนียาทิภาวาปตฺติ. เตนาห ‘‘ยถาาเนเยว ติฏฺนฺตี’’ติ, อตฺตโน ทิฏฺธมฺมเวทนียาทิฏฺาเนเยว ติฏฺนฺตีติ อตฺโถ. ทิฏฺธมฺมเวทนียเมว หิ ปมชวนเจตนา, อุปปชฺชเวทนียเมว สตฺตมชวนเจตนา, มชฺเฌ ปฺจ อปรปริยายเวทนียเมวาติ นตฺถิ เตสํ อฺมฺํ สงฺคโห, ตสฺมา อตฺตโน อตฺตโน ทิฏฺธมฺมเวทนียาทิสภาเวเยว ติฏฺนฺติ. เตเนว ภควตา – ‘‘ทิฏฺเ วา ธมฺเม, อุปปชฺช วา, อปเร วา ปริยาเย’’ติ ตโย วิกปฺปา ทสฺสิตา. เตเนวาห ‘‘ทิฏฺธมฺมเวทนียํ กมฺม’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ทิฏฺเ วา ธมฺเม’’ติ สตฺถา น วเทยฺยาติ อสติ นิยาเม น วเทยฺย. ยสฺมา ปน เตสํ สงฺกมนํ นตฺถิ, นิยตสภาวา หิ ตานิ, ตสฺมา สตฺถา ‘‘ทิฏฺเ วา ธมฺเม’’ติอาทิมโวจ.
สุกฺกปกฺเขติ ‘‘อโลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติอาทินา อาคเต กุสลปกฺเข. นิรุทฺเธติ อริยมคฺคาธิคเมน อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุทฺเธ. ตาลวตฺถุ วิย กตนฺติ ยถา ตาเล ฉินฺเน ิตฏฺาเน กิฺจิ น โหติ, เอวํ กมฺเม ปหีเน กิฺจิ น โหตีติ อตฺโถ. ตาลวตฺถูติ วา มตฺถกจฺฉินฺโน ตาโล วุตฺโต ปตฺตผลมกุลสูจิอาทีนํ อภาวโต. ตโต เอว โส อวิรุฬฺหิธมฺโม. เอวํ ปหีนกมฺโม สตฺตสนฺตาโน. เตนาห ¶ ‘‘มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิยา’’ติ. อนุอภาวํ กตํ ปจฺฉโต ธมฺมปฺปวตฺติยา อภาวโต. เตนาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. อปฺปวตฺติกตกาโล วิยาติ พีชานํ สพฺพโส อปฺปวตฺติยา กตกาโล วิย. ฉินฺนมูลกานนฺติ กิเลสมูลสฺส สพฺพโส ฉินฺนตฺตา ฉินฺนมูลกานํ. กิเลสา หิ ขนฺธานํ มูลานิ.
เวทนียนฺติ เวทิตพฺพํ. อฺํ วตฺถุ นตฺถีติ อฺํ อธิฏฺานํ นตฺถิ. สุคติสฺิตาปิ เหฏฺิมนฺเตน สงฺขารทุกฺขโต อนปคตตฺตา ทุคฺคติโย เอวาติ วุตฺตํ ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย’’ติ, เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โลโภ เอตสฺส การณภูโต อตฺถีติ โลภํ, โลภนิมิตฺตํ กมฺมํ. ตถา โทสนฺติ เอตฺถาปิ. เตนาห ‘‘โลภโทสสีเสน โลภชฺจ โทสชฺจ กมฺมเมว นิทฺทิฏฺ’’นฺติ. วฏฺฏวิวฏฺฏนฺติ วฏฺฏฺจ วิวฏฺฏฺจ.
นิทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา
๓๕. ปฺจเม ¶ อาฬวิยนฺติ อาฬวิรฏฺเ, น อาฬวินคเร. เตนาห ‘‘อาฬวิยนฺติ อาฬวิรฏฺเ’’ติ. อถาติ อวิจฺเฉทตฺเถ นิปาโต. ตตฺถ ภควโต นิสชฺชาย อวิจฺฉินฺนาย เอวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. หตฺถโต หตฺถํ คตตฺตาติ อาฬวกสฺส ยกฺขสฺส หตฺถโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส หตฺถํ, ตโต ราชปุริสานํ หตฺถํ คตตฺตา.
มาฆสฺสาติ มาฆมาสสฺส. เอวํ ผคฺคุนสฺสาติ เอตฺถาปิ. ขุรนฺตเรหิ กทฺทโม อุคฺคนฺตฺวา ติฏฺตีติ กทฺทโม ขุรนฺตเรหิ อุคฺคนฺตฺวา ติฏฺติ. จตูหิ ทิสาหิ วายนฺโต วาโต เวรมฺโภติ วุจฺจติ เวรมฺภวาตสทิสตฺตา.
ปฺจทฺวารกายนฺติ ปฺจทฺวารานุสาเรน ปวตฺตํ วิฺาณกายํ. โขภยมานาติ กิเลสโขภวเสน โขภยมานา จิตฺตํ สงฺโขภํ กโรนฺตา. เจตสิกาติ มโนทฺวาริกจิตฺตสนฺนิสฺสิตา. เตนาห ‘‘มโนทฺวารํ โขภยมานา’’ติ. โส ราโคติ ตํสทิโส ราโค. ภวติ หิ ตํสทิเส ตพฺโพหาโร ยถา ‘‘สา เอว ติตฺติริกา, ตานิ เอว โอสธานี’’ติ. ยาทิโส หิ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปชฺชนกราโค, ตาทิโส เอว ตโต อฺสฺส ราคภาวสามฺโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ตถารูโป ¶ ราโค’’ติอาทิ. อิจฺฉิตาลาเภน รชนีเยสุ วา นิรุทฺเธสุ วตฺถูสุ โทมนสฺสุปฺปตฺติยา โทสปริฬาหานํ สมฺภโว เวทิตพฺโพ.
น ลิมฺปติ อนุปลิตฺตจิตฺตตฺตา. สีติภูโต นิพฺพุตสพฺพปริฬาหตฺตา. อาสตฺติโย วุจฺจนฺติ ตณฺหาโย ตตฺถ ตตฺถ อาสฺชนฏฺเน. ทรถนฺติ ปริฬาหชาตํ. เจตโสติ สามิวจนํ.
หตฺถกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เทวทูตสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ฉฏฺเ เทวทูตานีติ ลิงฺควิปลฺลาสํ กตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เทวทูตา’’ติ, อุภยลิงฺคํ วา เอตํ ปทํ, ตสฺมา นปุํสกลิงฺควเสน ปาฬิยํ วุตฺตสฺส ปุลฺลิงฺควเสน อตฺถทสฺสนํ กตํ. เทโวติ มจฺจูติ อภิภวนฏฺเน สตฺตานํ อตฺตโน วเส วตฺตาปนโต มจฺจุราชา ‘‘เทโว’’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ เทโว ปกติสตฺเต อภิภวติ, เอวํ มจฺจุ สพฺพสตฺเต อภิภวติ, ตสฺมา เทโว ¶ วิยาติ เทโว. ‘‘ตสฺส ทูตา’’ติ วตฺวา อิทานิสฺส ทูเต เตสํ ทูตภาวฺจ วิภาเวตุํ ‘‘ชิณฺณพฺยาธิมตา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน โจทนตฺเถน เทวสฺส ทูตา วิยาติ เทวทูตาติ ทสฺเสติ. ‘‘อหํ อสุกํ ปมทฺทิตุํ อาคมิสฺสามิ, ตุวํ ตสฺส เกเส คเหตฺวา มา วิสฺสชฺเชหี’’ติ มจฺจุเทวสฺส อาณากรา ทูตา วิยาติ หิ ทูตาติ วุจฺจนฺติ.
อิทานิ สทฺธาตพฺพฏฺเน เทวา วิย ทูตาติ เทวทูตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เทวา วิย ทูตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อลงฺกตปฺปฏิยตฺตายาติ อิทํ อตฺตโน ทิพฺพานุภาวํ อาวิกตฺวา ิตายาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เทวตาย พฺยากรณสทิสเมว โหติ น จิรสฺเสว ชราพฺยาธิมรณสฺส สมฺภวโต. วิสุทฺธิเทวานนฺติ ขีณาสวพฺรหฺมานํ. เต หิ จริมภเว โพธิสตฺตานํ ชิณฺณาทิเภทํ ทสฺเสนฺติ, ตสฺมา อนฺติมภวิกโพธิสตฺตานํ วิสุทฺธิเทเวหิ อุปฏฺาปิตภาวํ อุปาทาย ตทฺเสมฺปิ เตหิ อนุปฏฺาปิตานมฺปิ ตถา โวหริตพฺพตา ปริยายสิทฺธาติ เวทิตพฺพา. ทิสฺวาวาติ ¶ วิสุทฺธิเทเวหิ ทสฺสิเต ทิสฺวาว. ตโตเยว หิ เต วิสุทฺธิเทวานํ ทูตา วุตฺตา.
กสฺมา อารทฺธนฺติ เกวลํ เทวทูเต เอว สรูปโต อทสฺเสตฺวาติ อธิปฺปาโย. เทวานํ ทูตานํ ทสฺสนูปายตฺตา ตถา วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เทวทูตา…เป… สมนุยฺุชตี’’ติ อาห. ตตฺถ เทวทูตา…เป… ทสฺสนตฺถนฺติ เทวทูตานํ อนุยฺุชนฏฺานูปคสฺส กมฺมสฺส ทสฺสนตฺถํ.
เอกจฺเจ เถราติ อนฺธกาทิเก วิฺาณวาทิโน จ สนฺธาย วทติ. เนรยิเก นิรเย ปาเลนฺติ ตโต นิคฺคนฺตุํ อปฺปทานวเสน รกฺขนฺตีติ นิรยปาลา. อถ วา นิรยปาลตาย เนรยิกานํ นิรยทุกฺเขน ปริโยนทฺธาย อลํ สมตฺถาติ นิรยปาลา. ตนฺติ ‘‘นตฺถิ นิรยปาลา’’ติ วจนํ. ปฏิเสธิตเมวาติ ‘‘อตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลา อตฺถิ จ การณิกา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม (กถา. ๘๖๖) ปฏิเสธิตเมว. ยทิ นิรยปาลา นาม น สิยุํ, กมฺมการณาปิ น ภเวยฺย. สติ หิ การณิเก กมฺมการณาย ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ. เอตฺถาห – ‘‘กึ ปเนเต นิรยปาลา เนรยิกา, อุทาหุ อเนรยิกา’’ติ. กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว เนรยิกา นิรยสํวตฺตนิเยน กมฺเมน นิพฺพตฺตา, สยมฺปิ นิรยทุกฺขํ ปจฺจนุภเวยฺยุํ, ตถา สติ อฺเสํ เนรยิกานํ ฆาตนาย อสมตฺถา สิยุํ, ‘‘อิเม เนรยิกา อิเม นิรยปาลา’’ติ ววตฺถานฺจ น สิยา. เย จ เย ฆาเตนฺติ, เตหิ สมานรูปพลปฺปมาเณหิ อิตเรสํ ภยสนฺตาสา น สิยุํ. อถ อเนรยิกา, เนสํ ตตฺถ กถํ สมฺภโวติ? วุจฺจเต – อเนรยิกา นิรยปาลา อนิรยคติสํวตฺตนิยกมฺมนิพฺพตฺติโต. นิรยูปปตฺติสํวตฺตนิยกมฺมโต ¶ หิ อฺเเนว กมฺมุนา เต นิพฺพตฺตนฺติ รกฺขสชาติกตฺตา. ตถา หิ วทนฺติ สพฺพตฺถิวาทิโน –
‘‘โกธา กุรูรกมฺมนฺตา, ปาปาภิรุจิโน ตถา;
ทุกฺขิเตสุ จ นนฺทนฺติ, ชายนฺติ ยมรกฺขสา’’ติ.
ตตฺถ ยเทเก วทนฺติ ‘‘ยาตนาทุกฺขํ ปฏิสํเวเทยฺยุํ, อถ วา อฺมฺํ ฆาเตยฺยุ’’นฺติอาทิ, ตยิทํ อสารํ นิรยปาลานํ เนรยิกภาวสฺเสว ¶ อภาวโต. ยทิปิ อเนรยิกา นิรยปาลา, อโยมยาย ปน อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย นิรยภูมิยา ปริกฺกมมานา กถํ ทาหทุกฺขํ นานุภวนฺตีติ? กมฺมานุภาวโต. ยถา หิ อิทฺธิมนฺโต เจโตวสิปฺปตฺตา มหาโมคฺคลฺลานาทโย เนรยิเก อนุกมฺปนฺตา อิทฺธิพเลน นิรยภูมึ อุปคตา ทาหทุกฺเขน น พาธียนฺติ, เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
อิทฺธิวิสยสฺส อจินฺเตยฺยภาวโตติ เจ? อิทมฺปิ ตํสมานํ กมฺมวิปากสฺส อจินฺเตยฺยภาวโต. ตถารูเปน หิ กมฺมุนา เต นิพฺพตฺตา ยถา นิรยทุกฺเขน อพาธิตา เอว หุตฺวา เนรยิเก ฆาเตนฺติ, น เจตฺตเกน พาหิรวิสยาภาโว ยุชฺชติ อิฏฺานิฏฺตาย ปจฺเจกํ ทฺวารปุริเสสุปิ วิภตฺตสภาวตฺตา. ตถา หิ เอกจฺจสฺส ทฺวารสฺส ปุริสสฺส จ อิฏฺํ เอกจฺจสฺส อนิฏฺํ, เอกจฺจสฺส จ อนิฏฺํ เอกจฺจสฺส อิฏฺํ โหติ. เอวฺจ กตฺวา ยเทเก วทนฺติ ‘‘นตฺถิ กมฺมวเสน เตชสา ปรูปตาปน’’นฺติอาทิ, ตทปาหตํ โหติ. ยํ ปน วทนฺติ ‘‘อเนรยิกานํ เตสํ กถํ ตตฺถ สมฺภโว’’ติ นิรเย เนรยิกานํ ยาตนาสพฺภาวภาวโต. เนรยิกสตฺตยาตนาโยคฺคฺหิ อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตนฺตํ กมฺมํ ตาทิสนิกนฺติ วินามิตํ นิรยฏฺาเน เอว นิพฺพตฺเตติ. เต หิ เนรยิเกหิ อธิกตรพลาโรหปริณาหา อติวิย ภยานกทสฺสนา กุรูรตรปโยคา จ โหนฺติ. เอเตเนว ตตฺถ เนรยิกานํ วิพาธกกากสุนขาทีนมฺปิ นิพฺพตฺติยา อตฺถิภาโว สํวณฺณิโตติ ทฏฺพฺโพ.
กถมฺคติเกหิ อฺคติกพาธนนฺติ จ น วตฺตพฺพํ อฺตฺถาปิ ตถา ทสฺสนโต. ยํ ปเนเก วทนฺติ ‘‘อสตฺตสภาวา เอว นิรเย นิรยปาลา นิรเย สุนขาทโย จา’’ติ, ตมฺเปเตสํ มติมตฺตํ อฺตฺถ ตถา อทสฺสนโต. น หิ กาจิ อตฺถิ ตาทิสี ธมฺมปฺปวตฺติ, ยา อสตฺตสภาวา, สมฺปติสตฺเตหิ อปฺปโยชิตา จ อตฺถกิจฺจํ สาเธนฺตี ทิฏฺปุพฺพา. เปตานํ ปานียนิวารกานํ ทณฺฑาทิหตฺถานฺจ ปุริสานํ สพฺภาเว อสตฺตภาเว จ วิเสสการณํ นตฺถีติ ตาทิสานํ ¶ สพฺภาเว กึ ปาปกานํ วตฺตพฺพํ. สุปิโนปฆาโตปิ อตฺถกิจฺจสมตฺถตาย อปฺปมาณํ ทสฺสนาทิมตฺเตนปิ ¶ ตทตฺถสิทฺธิโต. ตถา หิ สุปิเน อาหารูปโภคาทินา น อตฺถสิทฺธิ, อิทฺธินิมฺมานรูปํ ปเนตฺถ ลทฺธปริหารํ อิทฺธิวิสยสฺส อจินฺเตยฺยภาวโต. อิธาปิ กมฺมวิปากสฺส อจินฺเตยฺยภาวโตติ เจ? ตํ น, อสิทฺธตฺตา. เนรยิกานํ กมฺมวิปาโก นิรยปาลาติ สิทฺธเมตฺตํ, วุตฺตนเยน ปาฬิโต จ เตสํ สตฺตภาโว เอว สิทฺโธ. สกฺกา หิ วตฺตุํ สตฺตสงฺขาตา นิรยปาลสฺิตา ธมฺมปฺปวตฺติ สาภิสนฺธิกปรูปฆาติ อตฺถกิจฺจสพฺภาวโต โอชาหาราทิ รกฺขสสนฺตติ วิย. อภิสนฺธิปุพฺพกตา เจตฺถ น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ ตถา ตถา อภิสนฺธิยา ฆาตนโต. ตโต เอว น สงฺฆาตปพฺพเตหิ อเนกนฺติกตา. เย ปน วทนฺติ ‘‘ภูตวิเสสา เอว เต วณฺณสณฺานาทิวิเสสวนฺโต เภรวาการา นรกปาลาติ สมฺํ ลภนฺตี’’ติ, ตทสิทฺธํ อุชุกเมว ปาฬิยํ ‘‘อตฺถิ นิรเย นิรยปาลา’’ติ วาทสฺส ปติฏฺาปิตตฺตา.
อปิจ ยถา อริยวินเย นรกปาลานํ ภูตมตฺตตา อสิทฺธา, ตถา ปฺตฺติมตฺตวาทิโนปิ ภูตมตฺตตา อสิทฺธา สพฺพโส รูปธมฺมานํ อตฺถิภาวสฺเสว อปฺปฏิชานนโต. น หิ ตสฺส ภูตานิ นาม ปรมตฺถโต สนฺติ. ยทิ ปรมตฺถํ คเหตฺวา โวหรติ, อถ กสฺมา จกฺขุรูปาทีนิ ปฏิกฺขิปตีติ? ติฏฺเตสา อนวฏฺิตตกฺกานํ อปฺปหีนวิปลฺลาสานํ วาทวีมํสา. เอวํ อตฺเถว นิรเย นิรยปาลาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. สติ จ เนสํ สพฺภาเว อสติปิ พาหิเร วิสเย นรเก วิย เทสาทินิยโม โหตีติ วาโท น สิชฺฌติ, สติ เอว ปน พาหิเร วิสเย เทสาทินิยโมติ ทฏฺพฺพํ.
เทวทูตสราปนวเสน สตฺเต ยถูปจิเต ปฺุกมฺเม ยเมติ นิยเมตีติ ยโม. ตสฺส ยมสฺส เวมานิกเปตานํ ราชภาวโต รฺโ. เตนาห ‘‘ยมราชา นาม เวมานิกเปตราชา’’ติ. กมฺมวิปากนฺติ อกุสลกมฺมวิปากํ. เวมานิกเปตา หิ กณฺหสุกฺกวเสน มิสฺสกํ กมฺมํ กตฺวา วินิปาติกเทวตา วิย สุกฺเกน กมฺมุนา ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. ตถา หิ มคฺคผลภาคิโนปิ โหนฺติ, ปวตฺติยํ ปน กมฺมานุรูปํ กทาจิ ปฺุผลํ, กทาจิ อปฺุผลํ ปจฺจนุภวนฺติ. เยสํ ปน อริยมคฺโค อุปฺปชฺชติ, เตสํ มคฺคาธิคมโต ปฏฺาย ปฺุผลเมว อุปฺปชฺชตีติ ทฏฺพฺพํ. อปฺุผลํ ปุพฺเพ วิย กฏุกํ น โหติ, มนุสฺสตฺตภาเว ิตานํ ¶ วิย มุทุกเมว โหตีติ อปเร. ธมฺมิโก ราชาติ เอตฺถ ตสฺส ธมฺมิกภาโว ธมฺมเทวปุตฺตสฺส วิย อุปฺปตฺตินิยโต ธมฺมตาวเสน เวทิตพฺโพ. ทฺวาเรสูติ อวีจิมหานรกสฺส จตูสุ ทฺวาเรสุ. ขีณาสวา พฺราหฺมณา นาม อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน.
อนุโยควตฺตนฺติ ¶ อนุโยเค กเต วตฺติตพฺพวตฺตํ. อาโรเปนฺโตติ การาเปนฺโต, อตฺตโน ปุจฺฉํ อุทฺทิสฺส ปฏิวจนํ ทาเปนฺโต ปุจฺฉติ. ปรสฺส หิ อธิปฺปายํ าตุํ อิจฺฉนฺโต ตทุปคํ ปโยคํ กโรนฺโต ปุจฺฉติ นาม. ลทฺธินฺติ คาหํ. ปติฏฺาเปนฺโตติ ตตฺถ นิจฺจกาลํ การาเปนฺโต. การณํ ปุจฺฉนฺโตติ ยุตฺตึ ปุจฺฉนฺโต. สมนุภาสตีติ ยถานุยุตฺตมตฺถํ วิภูตํ กตฺวา กเถติ.
ชิณฺณนฺติ ชราปตฺติยา ชิณฺณํ. เอกจฺโจ ทหรกาลโต ปฏฺาย ปณฺฑุโรคาทินา อภิภูตกายตาย ชิณฺณสทิโส โหติ, อยํ น ตถา ชราปตฺติยา ชิณฺโณติ ทสฺเสติ. โคปานสี วิย วงฺกนฺติ วงฺกโคปานสี วิย วงฺกํ. น หิ วงฺกภาวสฺส นิทสฺสนตฺถํ อวงฺกโคปานสี คยฺหติ. ภคฺคนฺติ ภคฺคสรีรํ กฏิยํ ภคฺคกายตฺตา. เตนาห ‘‘อิมินาปิสฺส วงฺกภาวเมว ทีเปตี’’ติ. ทณฺฑปฏิสรณนฺติ านคมเนสุ ทณฺโฑ ปฏิสรณํ เอตสฺสาติ ทณฺฑปฏิสรณํ เตน วินา วตฺติตุํ อสมตฺถตฺตา. เตนาห ‘‘ทณฺฑทุติย’’นฺติ. ชราตุรนฺติ ชราย ปตฺถตสํกิลนฺตกายํ. สพฺพโส กิมิหตํ วิย มหาขลฺลาฏํ สีสมสฺสาติ มหาขลฺลาฏสีสํ. สฺชาตวลินฺติ สมนฺตโต ชาตวลิกํ. ชราธมฺโมติ ชราปกติโก. เตนาห ‘‘ชราสภาโว’’ติ. สภาโว จ นาม เตโชธาตุยา อุณฺหตา วิย น กทาจิ วิคจฺฉตีติ อาห ‘‘อปริมุตฺโต ชรายา’’ติอาทิ.
อตฺถโต เอวํ วทติ นาม, วาจาย อวทนฺโตปิ อตฺถาปตฺติโต เอวํ วทนฺโต วิย โหติ วิฺูนนฺติ อตฺโถ. ตรุโณ อโหสึ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. อูรูนํ พลํ เอตสฺส อตฺถีติ อูรุพลี. เตน ทูเรปิ คมนาคมนลงฺฆนาทิสมตฺถตํ ทสฺเสติ, พาหุพลีติ ปน อิมินา หตฺเถหิ กาตพฺพกิจฺจสมตฺถตํ, ชวคฺคหเณน เวคสา ปวตฺติสมตฺถตํ. อนฺตรหิตาติ นฏฺา. เอตฺถ จ น โข ปนาหนฺติอาทิ ชราย เทวทูตภาวทสฺสนํ. เตนาห ‘‘เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต’’ติ. อาพาธสฺส ¶ อตฺถิตาย อาพาธิกํ. วิวิธํ ทุกฺขํ อาทหตีติ พฺยาธิ, วิเสเสน วา อาธิยติ เอเตนาติ พฺยาธิ, พฺยาธิ สํชาโต เอตสฺสาติ พฺยาธิตํ. เอส นโย ทุกฺขิตนฺติ เอตฺถาปิ.
ทุติยํ เทวทูตนฺติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. พฺยาธินา อภิหโตติ พฺยาธินา พาธิโต, อุปทฺทุโตติ อตฺโถ.
วิปริภินฺนวณฺโณติ วิปริภินฺนนีลวณฺโณ. ตฺหิ ยตฺถ ยตฺถ คหิตปุพฺพกํ, ตตฺถ ตตฺถ ปณฺฑุวณฺณํ, มํสุสฺสทฏฺาเน รตฺตวณฺณํ, เยภุยฺเยน จ นีลสาฏกปารุตํ วิย โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิปริภินฺนนีลวณฺโณ’’ติ.
‘‘โก ¶ ลภติ, โก น ลภตี’’ติ นิรยุปคสฺเสว วเสนายํ วิจารณาติ ‘‘เยน ตาว พหุ ปาปํ กต’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. พหุ ปาปํ กตนฺติ พหุโส ปาปํ กตํ. เตน ปาปสฺส พหุลีกรณมาห. พหูติ วา มหนฺตํ. มหตฺโถปิ หิ พหุสทฺโท ทิสฺสติ ‘‘พหุ วต กตํ อสฺสา’’ติอาทีสุ, ครุกนฺติ วุตฺตํ โหติ. โส ครุกํ พหุลํ วา ปาปํ กตฺวา ิโต นิรเย นิพฺพตฺตติเยว, น ยมปุริเสหิ ยมสฺส สนฺติกํ นียตีติ. ปริตฺตนฺติ ปมาณปริตฺตตาย กาลปริตฺตตาย จ ปริตฺตํ. ปุริมสฺมึ อตฺเถ อครูติ อตฺโถ, ทุติยสฺมึ อพหุลนฺติ. ยถาวุตฺตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กตฺตพฺพเมว กโรนฺตีติ ทณฺฑเมว กโรนฺติ. อนุวิชฺชิตฺวาติ วีมํสิตฺวา. วินิจฺฉยฏฺานนฺติ อฏฺฏกรณฏฺานํ. ปริตฺตปาปกมฺมาติ ทุพฺพลปาปกมฺมา. อตฺตโน ธมฺมตายาติ ปเรหิ อสาริยมาเนปิ อตฺตโน ธมฺมตาย สรนฺติ. เต หิ ปาปกมฺมสฺส ทุพฺพลภาวโต กตูปจิตสฺส จ โอกาสารหกุสลกมฺมสฺส พลวภาวโต อตฺตโน ธมฺมตายปิ สรนฺติ. สาริยมานาปีติ ‘‘อิทํ นาม ตยา กตํ ปฺุกมฺม’’นฺติ ปเรหิ สาริยมานาปิ.
อากาสเจติยนฺติ คิริสิขเร อพฺโภกาเส วิวฏงฺคเณ กตเจติยํ. รตฺตปเฏนาติ รตฺตวณฺเณน ปเฏน ปูเชสิ ปฏากํ กตฺวา. อคฺคิชาลสทฺทนฺติ ปฏปฏายนฺตํ นรเก อคฺคิชาลสทฺทํ สุตฺวาว. อตฺตนา ปูชิตปฏํ อนุสฺสรีติ ตทา ปฏากาย วาตปฺปหารสทฺเท นิมิตฺตสฺส คหิตตฺตา ‘‘มยา ตทา อากาสเจติเย ปูชิตรตฺตปฏสทฺโท วิยา’’ติ อตฺตนา ปูชิตปฏํ อนุสฺสริ.
สุมนปุปฺผกุมฺเภนาติ ¶ กุมฺภปริมาเณน สุมนปุปฺผราสินา. ‘‘ทสาธิกํ นาฬิสหสฺสกุมฺภ’’นฺติ เกจิ, ‘‘ปฺจอมฺพณ’’นฺติ อปเร. ตีหิปิน สรติ พลวโต ปาปกมฺเมน พฺยาโมหิโต. ตุณฺหี อโหสีติ ‘‘กมฺมารโห อย’’นฺติ ตตฺถ ปฏิการํ อปสฺสนฺโต ตุณฺหี อโหสิ.
เอกปกฺขจฺฉทนมตฺตาหีติ มชฺฌิมปฺปมาณสฺส เคหสฺส เอกจฺฉทนปฺปมาเณหิ. สุตฺตาหตํ กริตฺวาติ กาฬสุตฺตํ ปาเตตฺวา. ยถา รโถ สพฺพโส ปชฺชลิโต โหติ อโยมโย, เอวํ ยุคาทโยปิสฺส ปชฺชลิตา สโชติภูตา เอว โหนฺตีติ อาห ‘‘สทฺธึ…เป… รเถ โยเชตฺวา’’ติ. มหากูฏาคารปฺปมาณนฺติ สตฺตภูมกมหากูฏาคารปฺปมาณํ.
วิภตฺโตติ สตฺตานํ สาธารเณน ปาปกมฺมุนา วิภตฺโต. หีนํ กายนฺติ หีนํ สตฺตนิกายํ, หีนํ วา อตฺตภาวํ. อุปาทาเนติ จตุพฺพิเธ อุปาทาเน. อตฺถโต ปน ตณฺหาทิฏฺิคฺคาโหติ อาห ‘‘ตณฺหาทิฏฺิคฺคหเณ’’ติ ¶ . สมฺภวติ ชรามรณํ เอเตนาติ สมฺภโว, อุปาทานนฺติ อาห ‘‘ชาติยา จ มรณสฺส ฉ การณภูเต’’ติ. อนุปาทาติ อนุปาทาย. เตนาห ‘‘อนุปาทิยิตฺวา’’ติ. สกลวฏฺฏทุกฺขํ อติกฺกนฺตาติ จริมจิตฺตนิโรเธน วฏฺฏทุกฺขสฺส กิเลสานมฺปิ อสมฺภวโต สพฺพํ วฏฺฏทุกฺขํ อติกฺกนฺตา.
เทวทูตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. จตุมหาราชสุตฺตวณฺณนา
๓๗. สตฺตเม อมา สห วตฺตนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ กิจฺเจติ อมจฺจา, สหิตา. ปริสติ ภวาติ ปาริสชฺชา, ปริวารฏฺานิยา ปริสาปริยาปนฺนา. เตนาห ‘‘ปริจาริกเทวตา’’ติ. ตาตาติ อาลปนํ. เอวนฺติ ‘‘กจฺจิ พหู มนุสฺสา’’ติอาทินา วุตฺตากาเรน. อฏฺ วาเรติ เอกสฺมึ อฑฺฒมาเส จตุกฺขตฺตุํ ตถา อิตรสฺมินฺติ เอวํ อฏฺ วาเร. อธิฏฺหนฺตีติ อธิติฏฺนฺติ. ปฏิชาคโรนฺตีติ ปฏิ ปฏิ ชาคโรนฺติ. ปฺุํ กโรนฺตา หิ สตฺตา ชาคโรนฺติ นาม กาตพฺพกิจฺจปฺปสุตตฺตา, อิตเร ปน สุปนฺติ นาม สหิตปรหิตวิมุตฺตตฺตา. จาตุทฺทสิอุโปสถสฺส อนุคมนํ วิย ปนฺนรสิอุโปสถสฺส ปจฺจุคฺคมนํ น ลพฺภติ ทิวสาภาวโต.
ตโตติ ¶ ตโต ตโต. ตํ อุปนิสฺสายาติ ตา ตา คามนิคมราชธานิโย อุปนิสฺสาย. อธิวตฺถาติ อารามวนรุกฺขาทีสุ อธิวตฺถา เทวตา. เตติ เต เทวา. สนฺธาย กเถตีติ ภควา กเถติ. วุตฺตนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
นิจฺจํ นิพทฺธํ อุโปสโถ สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร ปฏิ ปฏิ หริตพฺพโต ปวตฺเตตพฺพโต ปาฏิหาริยปกฺโข นาม. คุณงฺเคหีติ อุโปสถงฺเคหิ.
วุตฺถวาโสติ วุสิตพฺรหฺมจริยวาโส. กตฺตพฺพกิจฺจนฺติ ทุกฺขาทีสุ ปริฺาตาทิกิจฺจํ. โอตาเรตฺวาติ ฉฑฺเฑตฺวา. ปริกฺขีณภวสํโยชโนติ สพฺพโส ขีณภวพนฺธโน. การเณน ชานิตฺวาติ วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ชานิตฺวา.
ชานนฺโตติ ‘‘อรหนฺตานํ อนุกรณปฺปฏิปตฺติ เอสา, ยทิทํ สมฺมเทว อุโปสถานุฏฺาน’’นฺติ เอวํ อุโปสถกมฺมสฺส คุณํ ชานนฺโต. เอวรูเปนาติ ยาทิโส ภควโต อุโปสถภาโว วิหิโต, เอวรูเปน ¶ อรหนฺตานุกรเณน อุโปสถกมฺเมน. สกฺกา ปหิตตฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ขีณาสวสมฺปตฺตึ ปาปุณิตุํ. อฏฺมํ อุตฺตานตฺถเมว สตฺตเม วุตฺตนยตฺตา.
จตุมหาราชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สุขุมาลสุตฺตวณฺณนา
๓๙. นวเม นิทฺทุกฺโขติ กายิกเจตสิกทุกฺขวิรหิโต. สทุกฺเข หิ สวิฆาเต สุขุมาลตฺตา อนวสรา, ตสฺมา สุขิโต นิทฺทุกฺขตาย สุขุมาโล นาม. ยาวสฺส สุขุมาลตฺตา ปรมุกฺกํสคตาติ อาห ‘‘ปรมสุขุมาโล’’ติ. อติวิย สุขุมาโลติ อตฺโถ. อนฺตมตีตํ อจฺจนฺตํ. สพฺพทา สุขุมาโลติ อาห ‘‘สตตนิทฺทุกฺโข’’ติ. จริยกาเลติ โพธิจริยาย จรณกาเล. เตนาติ โพธิสตฺเตน. อฺตฺถ ปน ปทุมนฺติ รตฺตํ กมลํ. ปุณฺฑรีกนฺติ เสตํ วุจฺจติ. อิตราติ อิตรโปกฺขรณิโย. ‘‘โพธิสตฺตสฺส กิรา’’ติอาทิกํ โปกฺขรณีนํ ¶ อุปฺปตฺติทสฺสนํ. กุทฺทาลกมฺมกาเรติ ขณเก. โปกฺขรณิฏฺานานีติ โปกฺขรณิขณนโยคฺคฏฺานานิ. คณฺหาเปสีติ ขณาเปสิ. โปกฺขรณิสทฺโท เจตฺถ ตาทิเส ชลาสเย นิรุฬฺโห ทฏฺพฺโพ ปงฺกชาทิสทฺทา วิย. โสปานพาหุกานํ มตฺถกฏฺานํ อุณฺหีสนฺติ อธิปฺเปตํ. อุทกเสจนนาฬิกาติ อุทกจฺฉฏาวิสฺสชฺชนนาฬิยนฺตานิ. ปฺจวิธาติ วณฺณวเสน ชาติวเสน จ.
โข ปนสฺสาติ นิปาตมตฺตํ. กาสิก-สทฺโท อติวิย สณฺเห สุขุเม มหคฺฆวตฺเถ นิรุฬฺโห, อฺสฺมิมฺปิ ตถาชาติเก รุฬฺหิวเสน ปวตฺตตีติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘อกาสิกํ จนฺทน’’นฺติ. เหมนฺเต วาโส เหมนฺตํ, เหมนฺตํ อรหตีติ เหมนฺติโก, ปาสาโท. ‘‘อิตเรสุปิ เอเสว นโย’’ติ วตฺวา ตเทว เนสํ อรหตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ เหมนฺติโก’’ติอาทิ วุตฺตํ. สชาลานีติ สชาลวาตปานานิ, อุทกยนฺตานีติ อุทกธาราวิสฺสนฺทนกยนฺตานิ. ปาสาทมตฺถเกติ ปาสาทสฺส อุปริอากาสตเล. พนฺธิตฺวาติ ปโยชิตยนฺเต สุกฺขมหึสจมฺมํ พนฺธิตฺวา. ยนฺตํ ปริวตฺเตตฺวาติ ยถาปโยชิตํ ยนฺตํ ปาสาณาโรปนตฺถฺเจว ปุน เตสํ วิสฺสชฺชนตฺถฺจ ปริวตฺเตตฺวา. ตสฺมึ วิสฺสชฺเชนฺตีติ ฉทนปิฏฺเ พทฺธสุกฺขมหึสจมฺเม วิสฺสชฺเชนฺติ.
สหสฺสถามนฺติ ปุริสสหสฺสพลํ, ปุริสสหสฺเสน วหิตพฺพภารวหํ. ปลฺลงฺเก นิสินฺโนวาติ รตนมยปลฺลงฺเก ยถานิสินฺโน เอว. อุปฺปตนาการปตฺตนฺติ อุปฺปติตฺวา ิตํ วิย. ชิยํ โปเถนฺตสฺสาติ ชิยาฆาตํ กโรนฺตสฺส. ชิยปฺปหารสทฺโทติ ชิยาฆาตสทฺโท. ยนฺเต พทฺธนฺติ ยนฺตพทฺธํ กตฺวา ¶ ปิตํ. สทฺทนฺตเรติ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สทฺทสวนฏฺาเน. คาวุตสฺส จตุตฺโถ ภาโค โกโสติปิ วุจฺจติ ทฺวิสหสฺสทณฺฑปฺปมาณฏฺานํ.
สพฺพฏฺานานีติ มหาปุริสสฺส ตานิ ตานิ สพฺพานิ วสนฏฺานานิ. สิขาพทฺโธติ ปุริสสภาวสฺเสว วิเสสโต ทสฺสนเมตํ. น อุปฺปิลาวิตภาวตฺถนฺติ อุปฺปิลาวิตภาวสงฺขาตํ อตฺถํ น กเถสีติ อตฺโถ. ตสฺส หิ โพธิมูเลเยว เสตุฆาโต. เตเนวาติ อปฺปมาทลกฺขณสฺส ¶ ทีปนโต เอว. อตฺตานํ อติกฺกมิตฺวาติ อตฺตโน ชราปตฺตึ อจินฺเตตฺวา อฏฺฏียติ. น ปเนส มคฺเคน ปหีโน ตทา มคฺคสฺส อนธิคตตฺตา. สิกฺขํ ปฏิกฺขิปิตฺวาติ ยถาสมาทินฺนสิกฺขํ ปหาย.
อวิปรีตพฺยาธิอาทิสภาวาวาติ เอกนฺเตน พฺยาธิอาทิสภาวา เอว. เอวํ ชิคุจฺฉาวิหาเรนาติ เอวํ สกลสฺเสว วฏฺฏทุกฺขสฺส ชิคุจฺฉนวิหาเรน วิหรนฺตสฺส. เอวํ ชิคุจฺฉนนฺติ เอวํ ปรสฺส ชิคุจฺฉนํ. ปรํ อชิคุจฺฉมาโนติ กรุณายเนน เอวํ ปรํ อชิคุจฺฉนฺโต. อภิโภสฺมีติ อภิภวิตา อสฺมิ. อุสฺสาโห อหูติ จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยเมว จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยฺจ อโหสิ, เยน มคฺคพฺรหฺมจริยปรายโณ ชาโต.
สุขุมาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อาธิปเตยฺยสุตฺตวณฺณนา
๔๐. ทสเม อภิภวิตฺวา ปวตฺตนฏฺเน อธิปติ ยํ กิฺจิ เชฏฺกํ น การกํ อตฺตานํ อธิปตีติ กตฺวา อตฺตา เอว อธิปติ, ตโต อาคตํ อตฺตาธิปเตยฺยํ. เตนาห ‘‘อตฺตาน’’นฺติอาทิ. โลกนฺติ สตฺตโลกํ. โส จ โข อิทฺธิวิธาทิคุณวิเสสยุตฺโต อธิปฺเปโต อธิปติภาวสฺส อธิปฺเปตตฺตา. นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมนฺติ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน วุตฺตํ. อิติ ภโวติ เอวํ สมฺปตฺติภโว, ตตฺถ เอวํ อภิวุทฺธีติ. สมฺปตฺติภวสฺส เหตูติ ตํตํสมฺปตฺติภวสฺส ตตฺถ จ อภิวุทฺธิยา เหตุ. ชาตินิมิตฺตสฺส กมฺมภวสฺส กตูปจิตตฺตา ชาติ อนฺโตปวิฏฺา. ชราทีสุปิ เอเสว นโย เหตุสิทฺธิยา ผลสิทฺธิโต.
อสลฺลีนนฺติ น สงฺโกจปฺปตฺตํ. อุปฏฺิตาติ กายาทิสภาวสลฺลกฺขณวเสน อุปฏฺิตา. อสมฺมุฏฺา สมฺโมสาภาวโต. อสารทฺโธติ สารมฺภสฺส สารมฺภเหตูนฺจ วิกฺขมฺภเนน อสารทฺโธ. เอกคฺคํ ¶ อเนกคฺคภาวสฺส ทูรสมุสฺสาปิตตฺตา. นิมฺมลํ กตฺวาติ ราคาทิมลานํ อปนยเนน มลรหิตํ กตฺวา. โคปายตีติ สํกิเลสานตฺถโต รกฺขติ. อยนฺติ เอวํปฏิปนฺโน ภิกฺขุ. สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติ อสุทฺธภาวสฺส กิเลสสฺสปิ อภาวโต.
อติกฺกมิตฺวา ¶ มฺสีติ อสกฺขึ กตฺวา มฺสิ. ตาย ตณฺหาย นิพฺพตฺโตติ ตมฺมโย, ตณฺหาวสิโก. ตสฺส ภาโว ตมฺมยตา, ตสฺสา ตมฺมยตาย อภาเวน. น หายติ ปฺาทิคุณเวปุลฺลปฺปตฺติยา.
อาธิปเตยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
เทวทูตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.