📜
๕. จูฬวคฺโค
๑. สมฺมุขีภาวสุตฺตวณฺณนา
๔๑. ปฺจมสฺส ปเม สมฺมุโข ภวติ เยน โส สมฺมุขีภาโว, ปุรโต วิชฺชมานตา, ตสฺมา สมฺมุขีภาวา. ปฺุกมฺมนฺติ ทานสงฺขาตํ ปฺุกมฺมํ. ทฺเว ธมฺมา สุลภา พาหิรตฺตา ยถาสกํ ปจฺจยสมวาเยน ลพฺภนโต. สทฺธา ปน ทุลฺลภา ปจุรชนสฺส อนวฏฺิตกิจฺจตฺตา. เตเนวาห ‘‘ปุถุชฺชนสฺสา’’ติอาทิ.
สมฺมุขีภาวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ติานสุตฺตวณฺณนา
๔๒. ทุติเย มจฺฉริยเมว มลํ มจฺฉริยมลํ, จิตฺตสฺส มลีนสภาวาปาทนโต วิคตํ มจฺฉริยมลํ เอตฺถาติ วิคตมจฺฉริยมลํ. เคธาภาเวน โกจิ กิฺจิ เทนฺโตปิ ตตฺถ อาสตฺตึ น วิสฺสชฺเชติ, อยํ ปน น ตาทิโสติ อาห ‘‘วิสฺสฏฺจาโค’’ติ. มลีนหตฺโถว จิตฺตวิสุทฺธิยา ¶ อภาวโต. โธตหตฺโถว โธตหตฺเถน กาตพฺพกิจฺจสาธนโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘จิตฺเต สุทฺเธ วิสุชฺฌนฺติ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา’’ติ. ยาจิตุํ ยุตฺโต ยาจกานํ มโนรถปูรณโต. ยาจโยโค ปโยคาสเหหิ ยาจเกหิ สุฏฺุ ยุตฺตภาวโต. ตํสมงฺคี เอว ตตฺถ รโต นาม, น จิตฺตมตฺเตเนวาติ อาห ‘‘ทานํ…เป… รโต นาม โหตี’’ติ.
‘‘อุจฺจา, ภนฺเต’’ติ วตฺวา อยํ มํ อุจฺจโต วทตีติ จินฺเตยฺยาติ ปุน ‘‘นาติอุจฺจา ตุมฺเห’’ติ อาห, สรีเรนาติ อธิปฺปาโย. เมจกวณฺณสฺสาติ นีโลภาสสฺส. ปุจฺฉีติ ภิกฺขู ปุจฺฉิ. ภูมิยํ เลขํ ลิขนฺโต อจฺฉีติ ปมํ ¶ มฺเจ นิปชฺชิตฺวา อุฏฺาย ภูมิยํ เลขํ ลิขนฺโต อจฺฉิ ‘‘อขีณาสโวติ มฺนา โหตู’’ติ. ตถา หิ ราชา ขีณาสวสฺส นาม…เป… นิวตฺติ. ธชปคฺคหิตาวาติ ปคฺคหิตธชาว. สิลาเจติยฏฺานนฺติ ถูปารามสฺส จ มหาเจติยสฺส จ อนฺตเร สิลาย กตเจติยฏฺานํ. เจติยํ…เป… อฏฺาสิ สาวกสฺส ตํ กูฏาคารนฺติ กตฺวา.
ปจฺฉาภาเคนาติ ธมฺมกถิกสฺส เถรสฺส ปิฏฺิปสฺเสน. โคนโสติ มณฺฑลสปฺโป. ธมฺมสฺสวนนฺตราย พหูนํ สคฺคมคฺคปฺปฏิลาภนฺตราโย ภเวยฺยาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ธมฺมสฺสวนนฺตรายํ น กริสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. วิสํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ วิปสฺสนาเตเชน วิสเวคํ วิกฺขมฺเภตฺวา. คาถาสหสฺสนฺติ คาถาสหสฺสวนฺตํ. ปฏฺานคาถายาติ ปฏฺาปนคาถาย, อาทิคาถายาติ อตฺโถ. ปฏฺาน…เป… อวสานคาถํ เอว ววตฺถเปสิ, น ทฺวินฺนํ อนฺตเร วุตฺตํ กิลนฺตกายตฺตา. สรภาณํ สายนฺหธมฺมกถา. ปคฺคณฺหาตีติ ปจฺจกฺขํ กโรนฺตี คณฺหาติ, สกฺกจฺจํ สุณาตีติ อตฺโถ. ธมฺมกถนทิวเส ธมฺมกถิกานํ อกิลมนตฺถํ สทฺธา อุปาสกา สินิทฺธโภชนํ มธุปานกฺจ เทนฺติ สรสฺส มธุรภาวาย สปฺปิมธุกเตลาทิฺจ เภสชฺชํ. เตนาห ‘‘อริยวํสํ กเถสฺสามี’’ติอาทิ. จตูหิ ทาาหิ ฑํสิตฺวาติ ทฬฺหทฏฺภาวทสฺสนํ. จริสฺสามีติ สมฺมาเนสฺสามิ, สกฺกจฺจํ สุณิสฺสามีติ อตฺโถ. นิมฺมเถตฺวาติ นิมฺมทฺทิตฺวา, อปเนตฺวาติ อตฺโถ.
ติานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อตฺถวสสุตฺตวณฺณนา
๔๓. ตติเย อตฺโถ นาม ผลํ, ตํ เอตสฺส วโสติ อตฺถวโส. เหตุ, อตฺโถ เอตสฺส อตฺถีติ อตฺโถ, โส เอวาติ อาห ‘‘ตโย อตฺเถ ตีณิ การณานี’’ติ. ธมฺมเทสนา นาม อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน ¶ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปกาสนาติ อาห ‘‘จตุสจฺจธมฺมํ ปกาเสตี’’ติ. อฏฺกถํ าเณน ปฏิสํเวทีติ ปาฬิปทานํ อตฺถํ วิวรณาเณน ปฏิ ปฏิ สํเวทนสีโล ‘‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ’’ติ. เอเตน อตฺถปฏิสมฺภิทาพฺยาปารมาห. ปาฬิธมฺมํ ปฏิสํเวทีติ ปาฬิคตึ ปาฬึ ปทวิวรณํ ปฏิ ปฏิ สํเวทนสีโล. เอเตน ธมฺมปฏิสมฺภิทาพฺยาปารมาห.
อตฺถวสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. กถาปวตฺติสุตฺตวณฺณนา
๔๔. จตุตฺเถ ¶ ปวตฺตินีติ ยาว อธิปฺเปตตฺถนิคมนา อวิจฺเฉเทน ปวตฺตินี. ปฏิฆาตาภาเวน อปฺปฏิหตา. นิยฺยานิกา สปฺปาฏิหีรกา.
กถาปวตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา
๔๕. ปฺจเม ปณฺฑิตปฺตฺตานีติ ปณฺฑิเตหิ ปมํ ปฺตฺตานิ. กถิตานีติ เสยฺยโส กถิตานิ. มหาปุริเสหีติ พุทฺธโพธิสตฺเตหิ. กรุณาติ กรุณาเจโตวิมุตฺติ วุตฺตา. ปุพฺพภาโคติ ตสฺส อุปจาโร. ทโมติ อินฺทฺริยสํวโร ‘‘มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ ทมน’’นฺติ กตฺวา. อตฺตทมนนฺติ จิตฺตทมนํ. ปุณฺโณวาเท (ม. นิ. ๓.๓๙๖) ‘‘สกฺขิสฺสสิ โข, ตฺวํ ปุณฺณ, อิมินา ทมูปสเมนา’’ติ อาคตตฺตา ทโมติ วุตฺตา ขนฺติปิ. อาฬวเก อาฬวกสุตฺเต (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๙๐) ‘‘สจฺจา ทมา จาคา’’ติ เอวํ วุตฺตา ปฺาปิ อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘ทโม’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. รกฺขนํ โคปนํ ปฏิชคฺคนนฺติ มาตาปิตูนํ มนุสฺสามนุสฺสกตูปทฺทวโต รกฺขนํ, พฺยาธิอาทิอนตฺถโต โคปนํ, ฆาสจฺฉาทนาทีหิ เวยฺยาวจฺจกรเณน ปฏิชคฺคนํ. สนฺโต นาม สพฺพกิเลสทรถปริฬาหูปสเมน อุปสนฺตกายวจีสมาจารตาย จ. อุตฺตมฏฺเน สนฺตานนฺติ มตฺเตยฺยตาทีหิ เสฏฺฏฺเน สนฺตานํ.
อิธ อิเมสํเยว ติณฺณํ านานํ กรเณนาติ อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตานํ ติณฺณํ านานํ กรเณน นิพฺพตฺตเนน. เอตานิ…เป… การณานีติ มาตุปฏฺานํ ปิตุปฏฺานนฺติ เอตานิ ทฺเว อุตฺตมปุริสานํ ¶ การณานิ. อุตฺตมกิจฺจกรเณน หิ มาตาปิตุอุปฏฺากา ‘‘อุตฺตมปุริสา’’ติ วุตฺตา. เตนาห ‘‘มาตาปิตุ…เป… วุตฺโต’’ติ. อนุปทฺทวภาเวน เขมํ.
ปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา
๔๖. ฉฏฺเ ¶ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกนฺติ เอตฺถ ‘‘มนุสฺสา ปฺุํ ปสวนฺตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา ภาวนามยสฺสปิ ปฺุสฺส สงฺคณฺหนโต โลกุตฺตรสฺสปิ สมฺภโว ทฏฺพฺโพ.
สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา
๔๗. สตฺตเม สเมจฺจ สมฺภูย ปจฺจเยหิ กตํ สงฺขตํ. นิมิตฺตานีติ สฺชานนสฺส นิมิตฺตานิ. เหตุปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนํ อุปฺปาโท, อตฺตลาโภ. วโยติ ภงฺโค. ิตสฺสาติ อุปฺปาทกฺขณโต อุทฺธํ ิติกฺขณปตฺตสฺส. สา ปนสฺส อวตฺถา อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนาติ กตฺวา อฺถตฺตํ ชราติ จ วุตฺตา. ยสฺมา ธมฺโม อุปฺปชฺชมาโน เอว ภิชฺชติ, ตถา สติ อุปฺปาทภงฺคา สมานกฺขณา สิยุํ, น จ ตํ ยุชฺชติ, ตสฺมา อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนา ภงฺคาภิมุขาวตฺถา ชราติ เวทิตพฺพา. เย ปน ‘‘สงฺขารานํ ิติ นตฺถี’’ติ วทนฺติ, เตสํ ตํ มิจฺฉา. ยถา หิ ตสฺเสว ธมฺมสฺส อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนา ภงฺคาวตฺถา อิจฺฉิตา, อฺถา ‘‘อฺํ อุปฺปชฺชติ, อฺํ นิรุชฺฌตี’’ติ อาปชฺชติ, เอวํ อุปฺปชฺชมานสฺส ภงฺคาภิมุขา ธมฺมา อิจฺฉิตพฺพา. สา จ ิติกฺขโณ. น หิ อุปฺปชฺชมาโน ภิชฺชตีติ สกฺกา วิฺาตุนฺติ.
สงฺขตนฺติ เตภูมกา ธมฺมา ปจฺจยสมุปฺปนฺนตฺตา. ยทิ เอวํ มคฺคผลธมฺมา กถนฺติ อาห ‘‘มคฺคผลานิ ปนา’’ติอาทิ. ลกฺขณกถา หิ ยาวเทว สมฺมสนตฺถา. อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปาโท, น านภงฺคกฺขเณสุ. กสฺมา? อุปฺปาทอุปฺปาทกฺขณานํ อฺมฺํ ปริจฺฉินฺนตฺตา. ยถา หิ อุปฺปาทสงฺขาเตน วิกาเรน อุปฺปาทกฺขโณ ปริจฺฉินฺโน, เอวํ อุปฺปาทกฺขเณนปิ อุปฺปาโท ปริจฺฉินฺโน. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตายปิ กาลสฺส โลกสมฺาวเสเนว วุตฺตํ. ลกฺขณํ น สงฺขตํ, สงฺขตํ น ลกฺขณนฺติ เนสํ เภททสฺสนํ. อวตฺถาวโต หิ อวตฺถา ภินฺนาวาติ ¶ . ปริจฺฉินฺนนฺติ เอตฺถ อุปฺปาทวเยหิ ตาว สงฺขตํ ปริจฺฉินฺนํ โหตุ, ชราย ปน ตํ กถํ ปริจฺฉินฺนนฺติ วุจฺจติ? น วุจฺจติ ปริจฺเฉโท ปุพฺพนฺตาปรนฺตมตฺเตน, อถ โข สภาวเภเทนาติ นายํ โทโส. สงฺขตํ ธมฺมชาตํ ปริจฺฉินฺนํ ตพฺพนฺตํ ธมฺมชาตํ ¶ สงฺขตนฺติ ปฺายติ เอวํ เตสํ อภาเวน นิพฺพานเมตนฺติ ลกฺขิตพฺพโต สฺชานิตพฺพโต. อิทานิ ‘‘ยถา หี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺตํ อุปมาหิ วิภาเวติ.
สงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อสงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา
๔๘. อฏฺเม อสงฺขตสฺสาติ วุตฺตนเยน น สงฺขตสฺส. เตนาห ‘‘ปจฺจเยหี’’ติอาทิ. ยถา อุปฺปาทาทีนํ ภาเวน สงฺขตธมฺมชาตํ สงฺขตนฺติ ปฺายติ, เอวํ เตสํ อภาเวน นิพฺพานํ อสงฺขตนฺติ ปฺายติ.
อสงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปพฺพตราชสุตฺตวณฺณนา
๔๙. นวเม อิธ สาล-สทฺโท รุกฺขสามฺปริยาโย, น รุกฺขวิเสสปริยาโยติ อาห ‘‘มหาสาลาติ มหารุกฺขา’’ติ. กุลเชฏฺกนฺติ ตสฺมึ กุเล เชฏฺภูตํ สามิภูตํ. สิลามโย น ปํสุมโย มิสฺสโก จ. คามํ คามูปจารฺจ เปตฺวา สพฺพํ อรฺนฺติ อาห ‘‘อรฺสฺมินฺติ อคามกฏฺาเน’’ติ. มหนฺโต ปพฺพโต เสโลติ โยชนา.
ปพฺพตราชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อาตปฺปกรณียสุตฺตวณฺณนา
๕๐. ทสเม สรีรสมฺภวานนฺติ สรีเร สมฺภูตานํ. ทุกฺขานนฺติ อนิฏฺานํ. พหลานนฺติ นิรนฺตรปฺปวตฺติยา อวิรฬานํ. ตาปนวเสนาติ ทุกฺขาปนวเสน. ติพฺพานนฺติ กุรูรานํ. ตาสํ ยถาวุตฺตานํ อธิวาสนาย ปหาตพฺพทุกฺขเวทนานํ ปชหนํ นาม ขมนเมวาติ อาห ‘‘ขมนตฺถายา’’ติ ¶ . อาณาเปตฺวาติ ‘‘อาตปฺปํ กรณีย’’นฺติ พุทฺธาณํ วิธาย. โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา สสมฺภารานํ มคฺคธมฺมานํ กถิตตฺตา.
อาตปฺปกรณียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. มหาโจรสุตฺตวณฺณนา
๕๑. เอกาทสเม ¶ มหาพลวโจโร มหาโจโรติ อาห ‘‘มหนฺโต พลวโจโร’’ติ. พลวโจโรติ จ มหาถามตาย มหาปริวารตาย มหาโจริยกมฺมสมตฺถตาย จ เวทิตพฺโพ. มหตํ คามนิคมานํ วิลุปฺปนํ มหาวิโลโป. ตํ ตํ การณํ ปกฺขิปิตฺวาติ ตํ ตํ อกรณเมว การณํ กตฺวา ตปฺปฏิพทฺธาย กถาย ปกฺขิปิตฺวา. อตฺถํ กถยิสฺสนฺตีติ ตสฺส ตสฺส อตฺถฺจ กถยิสฺสนฺติ. หรนฺตาติ อปเนนฺตา ปริหรนฺตา. ทสวตฺถุกายาติ ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖๙) อาทิทสวตฺถุสนฺนิสฺสิตาย. อนฺตํ คเหตฺวา ิตทิฏฺิยาติ ตเมว สสฺสตาทิอนฺตํ คเหตฺวา อวิสฺสชฺเชตฺวา ิตทิฏฺิยา.
มหาโจรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
จูฬวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกํ