📜

(๖) ๑. พฺราหฺมณวคฺโค

๑. ปมทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๕๒. พฺราหฺมณวคฺคสฺส ปเม ชราชิณฺณาติ ชราวเสน ชิณฺณา, น พฺยาธิอาทีนํ วเสน ชิณฺณสทิสตฺตา ชิณฺณา. วโยวุทฺธาติ วยโส วุทฺธิปฺปตฺติยา วุทฺธา, น สีลาทิวุทฺธิยา. ชาติมหลฺลกาติ ชาติยา มหนฺตตาย จิรรตฺตฺุตาย ชาติมหลฺลกา. ตโย อทฺเธ อติกฺกนฺตาติ ปโม, มชฺฌิโม, ปจฺฉิโมติ ตโย อทฺเธ อตีตา. ตติยํ วยํ อนุปฺปตฺตาติ ตโต เอว ปจฺฉิมํ วยํ อนุปฺปตฺตา. อกตภยปริตฺตาณาติ เอตฺถ ภยปริตฺตาณนฺติ ทุคฺคติภยโต ปริตฺตายกํ ปุฺํ, ตํ อกตํ เอเตหีติ อกตภยปริตฺตาณา. ปติฏฺากมฺมนฺติ สุคติสงฺขาตปฺปติฏฺาวหํ กมฺมํ. อุปสํหรียตีติ สมฺปาปียติ. ‘‘อุปนียตี’’ติ วุตฺตํ, กึ เกน อุปนียตีติ อาห ‘‘อยฺหิ ชาติยา ชรํ อุปนียตี’’ติอาทิ. อยนฺติ โลโก. ชาโต น ชาตภาเวเนว ติฏฺติ, อถ โข ตโต ปรํ ชรํ ปาปียติ, ชราย พฺยาธึ ปาปียติ. เอวํ ปรโต ปรํ ทุกฺขเมว อุปนียติ.

ตายนฏฺเนาติ รกฺขนฏฺเน. นิลียนฏฺเนาติ นิลีนฏฺานภาเวน. ปติฏฺานฏฺเนาติ ปติฏฺานภาเวน. อวสฺสยนฏฺเนาติ อวสฺสยิตพฺพภาเวน. อุตฺตมคติวเสนาติ ปรมคติภาเวน.

ปมทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๕๓. ทุติเย ภชิตพฺพฏฺเน ปเรสํ ภาชิตพฺพฏฺเน ภาชนํ, ภณฺฑกํ.

ทุติยทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๔. อฺตรพฺราหฺมณสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๔-๕๕. ตติเย เยสํ ราคาทีนํ อปฺปหาเนน ปุริสสฺส อตฺตพฺยาพาธาทีนํ สมฺภโว, ปหาเนน อสมฺภโวติ เอวํ ราคาทีนํ ปหายโก อริยธมฺโม มหานุภาวตาย มหานิสํสตาย จ สามํ ปสฺสิตพฺโพติ สนฺทิฏฺิโก. อิมินา นเยน เสเสสุ ปเทสุปิ ยถารหํ นีหริตฺวา วตฺตพฺโพ. สทฺทตฺโถ ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาสุ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔๗) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. จตุตฺถํ อุตฺตานตฺถเมว.

อฺตรพฺราหฺมณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นิพฺพุตสุตฺตวณฺณนา

๕๖. ปฺจเม น กาลนฺตเร ปตฺตพฺพนฺติ ยทา สจฺจปฺปฏิเวโธ, ตทา เอว ลทฺธพฺพตฺตา น กาลนฺตเร ปตฺตพฺพํ. มคฺคาเณน อุปเนตพฺพตฺตา อุปเนยฺยํ. อุปเนยฺยเมว โอปเนยฺยิกนฺติ อาห ‘‘ปฏิปตฺติยา อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ.

นิพฺพุตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปโลกสุตฺตวณฺณนา

๕๗. ฉฏฺเ อาจริยปาจริยานนฺติ อาจริยานมฺปิ อาจริยานํ. นิรนฺตรผุโฏ เนรยิกสตฺเตหิ นิรยคามิกมฺมสฺส การกานํ พหุภาวา. อุภยมฺเปตนฺติ ยถาวุตฺตํ อตฺถทฺวยํ. ฆนนิวาสตนฺติ คามานํ ฆนสนฺนิวาสตํ. เอกนฺเตเนว อธมฺโมติ อโยนิโสมนสิการเหตุกตฺตา อนตฺถเหตุตาย จ นิยเมเนว อธมฺโม. น อธมฺมราโคติ อธิปฺเปโตติ ปรปริกฺขาเรสุ ราโค วิย น มหาสาวชฺโชติ กตฺวา วุตฺตํ. ตถา หิ สกสกปริกฺขารวิสโย ราโค วิสมโลโภ วิย น เอกนฺตโต อปายุปฺปตฺติชนโก. ปรปริกฺขาเรสุ อุปฺปชฺชมานสฺส มหาสาวชฺชตาย อธมฺมราคตา. โลภสฺส สมกาโล นาม นตฺถิ กายทุจฺจริตาทีนํ วิย อโยนิโสมนสิการสมุฏฺานตฺตา. เอสาติ เอโส ปาปธมฺโม. สมโลโภ วิสมลกฺขณาภาวโต. ตถา หิ ตํสมุฏฺาโน ปโยโค มิจฺฉาจาโรติ น วุจฺจติ. อวตฺถุปฏิเสวนสงฺขาเตนาติ ยํ โลกิยสาธุสมนุฺาตํ ราคสฺส วตฺถุฏฺานํ, ตโต อฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฏิเสวนสงฺขาเตน.

วิวิธสสฺสานนฺติ สาลิวีหิอาทินานปฺปการสสฺสานํ. ทุสฺสสฺสนฺติ ปจฺจยทูเสน ทูสิตํ สสฺสํ. สมฺปชฺชมาเนติ นิปฺผชฺชนโต ปเคว คพฺภปริวุทฺธิกาเล. ปาณกาติ สลภาทิปาณกา. ปตนฺตีติ สสฺสานํ มตฺถเก ปตนฺติ. สลากามตฺตเมว สมฺปชฺชตีติ วฑฺฒิตฺวา คพฺภํ คเหตุํ อสมตฺถํ สมฺปชฺชติ. เตติ วาฬอมนุสฺสา. ลทฺโธกาสาติ ยกฺขาธิปตีหิ อนุฺาตตฺตา ลทฺโธกาสา.

ปโลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วจฺฉโคตฺตสุตฺตวณฺณนา

๕๘. สตฺตเม มหาวิปากนฺติ อุฬารผลํ พหุวิปากํ. ธมฺโม นาม กถิตกถา ‘‘อตฺถํ ทหติ วิทหตี’’ติ กตฺวา. อนุธมฺโม นาม ปฏิกถนํ ‘‘ตํ อนุคโต ธมฺโม’’ติ กตฺวา. สห ธมฺเมนาติ สหธมฺโม, โส เอว สหธมฺมิโก. ธมฺมสทฺโท เจตฺถ การณปริยาโยติ อาห ‘‘สการโณ’’ติ. วาทสฺสาติ วจนสฺส. อนุปาโต อนุปจฺฉา ปวตฺติ.

ปริปนฺเถ ติฏฺตีติ ปาริปนฺถิโก. ปนฺเถ ตฺวา ปเรสํ สาปเตยฺยํ ฉินฺทนโต ปนฺถทูหนโจโร. ยทิ ปจฺจเวกฺขณาณํ, กถํ ตํ อเสกฺขนฺติ อาห ‘‘อเสกฺขสฺส ปวตฺตตฺตา’’ติ. อิตรานีติ สีลกฺขนฺธาทีนิ. สยมฺปีติ ปิ-สทฺโท ‘‘อเสกฺขสฺส ปวตฺตา จา’’ติ อิมมตฺถํ สมฺปิณฺเฑติ.

นิพฺพิเสวโนติ วิเสวนรหิโต วิคตวิโลมภาโว. น อุปปริกฺขนฺตีติ น วิจาเรนฺติ. ชาตึ นิพฺพตฺตึ ยาติ อุปคจฺฉตีติ ชาติโย, ชาโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ กุลชาเต’’ติ.

เกวลีติ เกวลวา, ปาริปูริมาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปริปุณฺณภาเวน ยุตฺโต’’ติ. เอตํ เกวลีติ ปทํ. อภิฺาปารนฺติ อภิชานสฺส ปารํ. ปริยนฺตํ คตตฺตา ปารคู. เอส นโย เสสปเทสุปิ. เขตฺตวินิจฺฉยสวเนนาติ ‘‘อิเมหิ สีลาทิคุณสมฺปนฺนา สเทวเก โลเก ปุฺสฺส เขตฺตํ, ตทฺโ น เขตฺต’’นฺติ เอวํ เขตฺตวินิจฺฉยสวเนน รหิตา.

วจฺฉโคตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ติกณฺณสุตฺตวณฺณนา

๕๙. อฏฺเม ทุราสทาติ ทุรุปสงฺกมนา. ครหา มุจฺจิสฺสตีติ มยิ เอวํ กเถนฺเต สมโณ โคตโม กิฺจิ กเถสฺสติ, เอวํ เม วจนมตฺตมฺปิ น ลทฺธนฺติ อยํ ครหา มุจฺจิสฺสตีติ. ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา. ธีราติ ธิติสมฺปนฺนา. พฺยตฺตาติ ปรวาทมทฺทนสมตฺเถน เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคตา. พหุสฺสุตาติ พาหุสจฺจวนฺโต. วาทิโนติ วาทิมคฺคกุสลา. สมฺมตาติ พหุโน ชนสฺส สาธุสมฺมตา. ปณฺฑิตาทิอาการปริจฺเฉทนฺติ เตสํ เตวิชฺชานํ ปณฺฑิตาการาทิอาการปริจฺเฉทํ. อาการสทฺโท การณปริยาโย, ปริจฺเฉทสทฺโท ปริมาณตฺโถติ อาห ‘‘เอตฺตเกน การเณนา’’ติ.

ยถาติ เยนากาเรน, เยน การเณนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยถาติ การณวจน’’นฺติ. ‘‘ทฺวีหิปิ ปกฺเขหี’’ติ วตฺวา เต ปกฺเข สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘มาติโต จ ปิติโต จา’’ติ อาห. เตสํ ปกฺขานํ วเสนสฺส สุชาตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส มาตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ชนกชนิกาภาเวน วินาปิ โลเก มาตาปิตุสมฺา ทิสฺสติ, อิธ ปน สา โอรสปุตฺตวเสเนว อิจฺฉิตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สํสุทฺธคหณิโก’’ติ วุตฺตํ. คพฺภํ คณฺหาติ ธาเรตีติ คหณี, คพฺภาสยสฺิโต มาตุกุจฺฉิปฺปเทโส. ยถาภุตฺตสฺส อาหารสฺส วิปาจนวเสน คณฺหนโต อฉฑฺฑนโต คหณี, กมฺมชเตโชธาตุ.

ปิตา จ มาตา จ ปิตโร, ปิตูนํ ปิตโร ปิตามหา, เตสํ ยุโค ปิตามหยุโค, ตสฺมา ‘‘ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา ปิตามหทฺวนฺทา’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฏฺกถายํ ปน ทฺวนฺทํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ยุคนฺติ อายุปฺปมาณํ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ยุค-สทฺทสฺส จ อตฺถกถา ทสฺสิตา ‘‘ปิตามโหเยวปิตามหยุค’’นฺติ. ปุพฺพปุริสาติ ปุริสคฺคหณฺเจตฺถ อุกฺกฏฺนิทฺเทสวเสน กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอวฺหิ ‘‘มาติโต’’ติ ปาฬิวจนํ สมตฺถิตํ โหติ. อกฺขิตฺโตติ อกฺเขโป. อนวกฺขิตฺโตติ สทฺธถาลิปากาทีสุ อนวกฺขิตฺโต น ฉฑฺฑิโต. ชาติวาเทนาติ เหตุมฺหิ กรณวจนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เกน การเณนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อุภโต…เป… ปิตามหยุคา’’ติ เอเตน พฺราหฺมณสฺส โยนิโทสาภาโว ทสฺสิโต สํสุทฺธคหณิกตากิตฺตนโต. ‘‘อกฺขิตฺโต’’ติ อิมินา กิริยาปราธาภาโว. สํสุทฺธชาติกาปิ หิ สตฺตา กิริยาปราเธน เขปํ ปาปุณนฺติ. ‘‘อนุปกฺกุฏฺโ’’ติ อิมินา อยุตฺตสํสคฺคาภาโว. อยุตฺตสํสคฺคฺหิ ปฏิจฺจ สตฺตา สุทฺธชาติกา กิริยาปราธรหิตาปิ อกฺโกสํ ลภนฺติ.

นฺติ ครหาวจนํ. มนฺเต ปริวตฺเตตีติ เวเท สชฺฌายติ, ปริยาปุณาตีติ อตฺโถ. มนฺเต ธาเรตีติ ยถาอธีเต มนฺเต อสมฺมุฏฺเ กตฺวา หทเย เปติ.

โอฏฺปหตกรณวเสนาติ อตฺถาวธารณวเสน. สนิฆณฺฑุเกฏุภานนฺติ เอตฺถ วจนียวาจกภาเวน อตฺถํ สทฺทฺจ ขณฺฑติ ภินฺทติ วิภชฺช ทสฺเสตีติ นิขณฺฑุ, โส เอว อิธ ข-การสฺส ฆ-การํ กตฺวา ‘‘นิฆณฺฑู’’ติ วุตฺโต. กิฏติ คเมติ กิริยาทิวิภาคํ, ตํ วา อนวเสสปริยาทานโต คเมนฺโต ปูเรตีติ เกฏุภํ. เววจนปฺปกาสกนฺติ ปริยายสทฺททีปกํ, เอเกกสฺส อตฺถสฺส อเนกปริยายวจนวิภาวกนฺติ อตฺโถ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ อเนเกสมฺปิ อตฺถานํ เอกสทฺทวจนียตาวิภาวนวเสนปิ ตสฺส คนฺถสฺส ปวตฺตตฺตา. วจีเภทาทิลกฺขณา กิริยา กปฺปียติ วิกปฺปียติ เอเตนาติ กิริยากปฺโป, โส ปน วณฺณปทสมฺพนฺธปทตฺถาทิวิภาคโต พหุกปฺโปติ อาห ‘‘กิริยากปฺปวิกปฺโป’’ติ. อิทฺจ มูลกิริยากปฺปคนฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. โส หิ มหาวิสโย สตสหสฺสปริมาโณ นมาจริยาทิปฺปกรณํ. านกรณาทิวิภาคโต นิพฺพจนวิภาคโต จ อกฺขรา ปเภทียนฺติ เอเตหีติ อกฺขรปฺปเภทา, สิกฺขานิรุตฺติโย. เอเตสนฺติ จตุนฺนํ เวทานํ.

ปทนฺติ จตุพฺพิธํ, ปฺจวิธํ วา ปทํ, ตํ ปทํ กายตีติ ปทโก, เตเยว วา เวเท ปทโส กายตีติ ปทโก. ตทวเสสนฺติ วุตฺตาวเสสํ วากฺยํ. เอตฺตาวตา สทฺทพฺยากรณํ วตฺวา ปุน ‘‘พฺยากรณ’’นฺติ อตฺถพฺยากรณมาห. ตํ ตํ สทฺทํ ตทตฺถฺจ พฺยากโรติ พฺยาจิกฺขติ เอเตนาติ พฺยากรณํ, สทฺทสตฺถํ. อายตึ หิตํ เตน โลโก น ยตติ น อีหตีติ โลกายตํ. ตฺหิ คนฺถํ นิสฺสาย สตฺตา ปุฺกิริยาย จิตฺตมฺปิ น อุปฺปาเทนฺติ.

อสีติ มหาสาวกาติ อฺาสิโกณฺฑฺโ, วปฺโป, ภทฺทิโย, มหานาโม, อสฺสชิ, นาฬโก, ยโส, วิมโล, สุพาหุ, ปุณฺณชิ, ควมฺปติ, อุรุเวลกสฺสโป, นทีกสฺสโป, คยากสฺสโป, สาริปุตฺโต, มหาโมคฺคลฺลาโน, มหากสฺสโป, มหากจฺจาโน, มหาโกฏฺิโก, มหากปฺปิโน, มหาจุนฺโท, อนุรุทฺโธ, กงฺขาเรวโต, อานนฺโท, นนฺทโก, ภคุ, นนฺทิโย, กิมิโล, ภทฺทิโย, ราหุโล, สีวลิ, อุปาลิ, ทพฺโพ, อุปเสโน, ขทิรวนิยเรวโต, ปุณฺโณ มนฺตานิปุตฺโต, ปุณฺโณ สุนาปรนฺตโก, โสโณ กุฏิกณฺโณ, โสโณ โกฬิวิโส, ราโธ, สุภูติ, องฺคุลิมาโล, วกฺกลิ, กาฬุทายี, มหาอุทายี, ปิลินฺทวจฺโฉ, โสภิโต, กุมารกสฺสโป, รฏฺปาโล, วงฺคีโส, สภิโย, เสโล, อุปวาโณ, เมฆิโย, สาคโต, นาคิโต, ลกุณฺฑกภทฺทิโย, ปิณฺโฑโล ภารทฺวาโช, มหาปนฺถโก, จูฬปนฺถโก, พากุโล, กุณฺฑธาโน, ทารุจีริโย, ยโสโช, อชิโต , ติสฺสเมตฺเตยฺโย, ปุณฺณโก, เมตฺตคุ, โธตโก, อุปสีโว, นนฺโท, เหมโก, โตเทยฺโย, กปฺโป, ชตุกณฺณี, ภทฺราวุโธ, อุทโย, โปสโล, โมฆราชา, ปิงฺคิโยติ เอเต อสีติ มหาสาวกา นาม.

กสฺมา ปเนเต เอว เถรา ‘‘มหาสาวกา’’ติ วุจฺจนฺตีติ? อภินีหารสฺส มหนฺตภาวโต. ตถา หิ ทฺเว อคฺคสาวกาปิ มหาสาวเกสุ อนฺโตคธา. เต หิ สาวกปารมิาณสฺส มตฺถกปฺปตฺติยา สาวเกสุ อคฺคธมฺมาธิคเมน อคฺคฏฺาเน ิตาปิ อภินีหารมหนฺตตาสามฺเน ‘‘มหาสาวกา’’ติปิ วุจฺจนฺติ, อิตเร ปน ปกติสาวเกหิ สาติสยํ มหาภินีหารา. ตถา หิ เต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กตปณิธานา, ตโต เอว สาติสยํ อภิฺาสมาปตฺตีสุ วสิโน ปภินฺนปฺปฏิสมฺภิทา จ. กามํ สพฺเพปิ อรหนฺโต สีลวิสุทฺธิอาทิเก สมฺปาเทตฺวา จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา มคฺคปฺปฏิปาฏิยา อนวเสสโต กิเลเส เขเปตฺวา อคฺคผเล ปติฏฺหนฺติ, ตถาปิ ยถา สทฺธาวิมุตฺตโต ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส, ปฺาวิมุตฺตโต จ อุภโตภาควิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคภาวนาวิเสสสิทฺโธ มคฺคภาวนาวิเสโส, เอวํ อภินีหารมหนฺตตฺตปุพฺพโยคมหนฺตตฺตา หิ สสนฺตาเน สาติสยสฺส คุณวิเสสสฺส นิปฺผาทิตตฺตา สีลาทีหิ คุเณหิ มหนฺตา สาวกาติ มหาสาวกา. เตสุเยว ปน เย โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ ปาโมกฺขภาเวน ธุรภูตานํ สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปาทีนํ สาติสยํ กิจฺจานุภาวนิปฺผตฺติยา การณภูตาย ตชฺชาภินีหาราภินีหฏาย สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ จิรกาลสมฺภาวิตาย สมฺมาปฏิปตฺติยา ยถากฺกมํ ปฺาย สมาธิสฺมิฺจ อุกฺกฏฺปารมิปฺปตฺติยา สวิเสสํ สพฺพคุเณหิ อคฺคภาเว ิตา, เต สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา. อิตเร อฏฺสตฺตติ เถรา สาวกปารมิยา มตฺถเก สพฺพสาวกานํ อคฺคภาเวน อฏฺิตตฺตา ‘‘มหาสาวกา’’อิจฺเจว วุจฺจนฺติ. ปกติสาวกา ปน อภินีหารมหนฺตตฺตาภาวโต ปุพฺพโยคมหนฺตตฺตาภาวโต จ ‘‘สตฺถุสาวกา’’อิจฺเจว วุจฺจนฺติ. เต ปน อคฺคสาวกา วิย มหาสาวกา วิย จ น ปริมิตา, อถ โข อเนกสตา อเนกสหสฺสา.

วยตีติ วโย, อาทิมชฺฌปริโยสาเนสุ กตฺถจิ อปริกิลมนฺโต อวิตฺถายนฺโต เต คนฺเถ สนฺตาเนติ ปเณตีติ อตฺโถ. ทฺเว ปฏิเสธา ปกตึ คเมนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวโย น โหตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ อวยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อวโย นาม…เป… น สกฺโกตี’’ติ วุตฺตํ.

อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. เอตนฺติ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทิวจนํ. ตติยวิชฺชาธิคมาย ปฏิปตฺติกฺกโม วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๗๐) สาติสยํ วิตฺถาริโต, ตถา อิธ อวตฺตุกามตาย ภยเภรวสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๔ อาทโย) วิย สงฺเขปโต จ วตฺตุกามตาย ‘‘ทฺวินฺนํ วิชฺชาน’’มิจฺเจว วุตฺตํ.

วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสปฺปฏิจฺฉาทกสฺส โมหกฺขนฺธสฺส วิชฺชนฏฺเนปิ วิชฺชา. โมโห ปฏิจฺฉาทกฏฺเน ตโมติ วุจฺจติ ตโม วิยาติ กตฺวา. กาตพฺพโต กรณํ, โอภาโสว กรณํ โอภาสกรณํ, อตฺตโน ปจฺจเยหิ โอภาสภาเวน นิพฺพตฺเตตพฺพฏฺเนาติ อตฺโถ. อยํ อตฺโถติ อยเมว อธิปฺเปตตฺโถ. ปสํสาวจนนฺติ ตสฺเสว อตฺถสฺส โถมนาวจนํ ปฏิปกฺขวิธมนปวตฺติวิเสสานํ โพธนโต. โยชนาติ ปสํสาวเสน วุตฺตปทานํ อตฺถทสฺสนวเสน วุตฺตปทสฺส จ โยชนา. อวิชฺชา วิหตาติ เอเตน วิชฺชนฏฺเน วิชฺชาติ อยมฺปิ อตฺโถ ทีปิโตติ ทฏฺพฺพํ. ยสฺมา วิชฺชา อุปฺปนฺนาติ เอเตน วิชฺชาปฏิปกฺขา อวิชฺชา, ปฏิปกฺขตา จสฺสา ปหาตพฺพภาเวน วิชฺชาย จ ปหายกภาเวนาติ ทสฺเสติ. อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเยติ ‘‘ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน’’ติ ปททฺวเยปิ. เอเสว นโยติ ยถาวุตฺตโยชนํ อติทิสติ. ตตฺถายํ โยชนา – เอวํ อธิคตวิชฺชสฺส ตโม วิหโต วิทฺธสฺโต. กสฺมา? ยสฺมา อาโลโก อุปฺปนฺโน าณาโลโก ปาตุภูโตติ. เปสิตตฺตสฺสาติ ยถาธิปฺเปตตฺถสิทฺธิปฺปตฺตึ วิสฺสฏฺจิตฺตสฺส, ปมวิชฺชาธิคมาย เปสิตจิตฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.

วิปสฺสนาปาทกนฺติ อิมินา ตสฺส ฌานจิตฺตสฺส นิพฺเพธภาคิยตมาห. วิปสฺสนา ติวิธา วิปสฺสกปุคฺคลเภเทน. มหาโพธิสตฺตานฺหิ ปจฺเจกโพธิสตฺตานฺจ วิปสฺสนา จินฺตามยาณสํวฑฺฒิตตฺตา สยมฺภุาณภูตา, อิตเรสํ สุตมยาณสํวฑฺฒิตตฺตา ปโรปเทสสมฺภูตา. สา ‘‘เปตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ อวเสสรูปารูปชฺฌานานํ อฺตรโต วุฏฺายา’’ติอาทินา อเนกธา อรูปมุขวเสน จตุธาตุววตฺถาเน วุตฺตานํ เตสํ เตสํ ธาตุปริคฺคหมุขานํ อฺตรมุขวเสน จ อเนกธาว วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๐๖) นานานยโต วิภาวิตา. มหาโพธิสตฺตานํ ปน จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสมุเขน ปเภทคมนโต นานานยํ สพฺพฺุตฺาณสนฺนิสฺสยสฺส อริยมคฺคาณสฺส อธิฏฺานภูตํ ปุพฺพภาคาณคพฺภํ คณฺหาเปนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ปรมคมฺภีรํ สณฺหสุขุมตรํ อนฺสาธารณํ วิปสฺสนาาณํ โหติ, ยํ อฏฺกถาสุ ‘‘มหาวชิราณ’’นฺติ วุจฺจติ. ยสฺส จ ปวตฺติวิภาเคน จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสปฺปเภทสฺส ปาทกภาเวน สมาปชฺชิยมานา จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา เทวสิกํ สตฺถุ วฬฺชนกสมาปตฺติโย วุจฺจนฺติ, สฺวายํ พุทฺธานํ วิปสฺสนาจาโร ปรมตฺถมฺชูสายํ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนายํ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔๔) ทสฺสิโต, อตฺถิเกหิ ตโต คเหตพฺโพติ. อิธ ปน สาวกานํ วิปสฺสนาจารํ สนฺธาย ‘‘วิปสฺสนาปาทก’’นฺติ วุตฺตํ.

กามํ เหฏฺิมมคฺคาณานิปิ อาสวานํ เขปนาณานิ เอว, อนวเสสโต ปน เตสํ เขปนํ อคฺคมคฺคาเณเนวาติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺคาณตฺถายา’’ติ. อาสววินาสนโตติ อาสวานํ นิสฺเสสํ สมุจฺฉินฺทนโต. อาสวานํ ขเย าณํ อาสวกฺขยาณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺร เจตํ าณ’’นฺติ วตฺวา ‘‘ขเย’’ติ อาธาเร ภุมฺมํ, น วิสเยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ ปริยาปนฺนตฺตา’’ติ อาห. อภินีหรตีติ อภิมุขํ นีหรติ, ยถา มคฺคาภิสมโย โหติ, สวนํ ตทภิมุขํ ปวตฺเตติ. อิทํ ทุกฺขนฺติ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส ตทา ภิกฺขุนา ปจฺจกฺขโต คหิตภาวทสฺสนํ. เอตฺตกํ ทุกฺขนฺติ ตสฺส ปริจฺฉิชฺช คหิตภาวทสฺสนํ. น อิโต ภิยฺโยติ ตสฺส อนวเสสโต คหิตภาวทสฺสนํ. เตนาห ‘‘สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติอาทิ. สรสลกฺขณปฏิเวเธนาติ สภาวสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌเนน. อสมฺโมหปฏิเวโธติ จ ยถา ตสฺมึ าเณ ปวตฺเต ปจฺฉา ทุกฺขสจฺจสฺส สรูปาทิปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺติ. เตเนวาห ‘‘ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ. ทุกฺขํ สมุเทติ เอตสฺมาติ ทุกฺขสมุทโย. ยํ านํ ปตฺวาติ ยํ นิพฺพานํ มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยฏฺเน การณภูตํ อาคมฺม. ปตฺวาติ จ ตทุภยวโต ปุคฺคลสฺส ปวตฺติยาติ กตฺวา วุตฺตํ. ปตฺวาติ วา ปาปุณนเหตุ. อปฺปวตฺตินฺติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ. เต วา น ปวตฺตนฺติ เอตฺถาติ อปฺปวตฺติ, นิพฺพานํ. ตสฺสาติ ทุกฺขนิโรธสฺส. สมฺปาปกนฺติ สจฺฉิกิริยาวเสน สมฺมเทว ปาปกํ.

กิเลสวเสนาติ อาสวสงฺขาตกิเลสวเสน. ยสฺมา อาสวานํ ทุกฺขสจฺจปริยาโย ตปฺปริยาปนฺนตฺตา เสสสจฺจานฺจ ตํสมุทยาทิปริยาโย อตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปริยายโต’’ติ. ทสฺเสนฺโต สจฺจานีติ โยชนา. อาสวานฺเจตฺถ คหณํ ‘‘อาสวานํ ขยาณายา’’ติ อารทฺธตฺตา. ตถา หิ ‘‘กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจตี’’ติอาทินา อาสววิมุตฺติสีเสเนว สพฺพกิเลสวิมุตฺติ วุตฺตา. ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทินา มิสฺสกมคฺโค อิธ กถิโตติ ‘‘สห วิปสฺสนาย โกฏิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถสี’’ติ วุตฺตํ. ชานโต ปสฺสโตติ อิมินา ปริฺาสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยา วุตฺตา. วิมุจฺจตีติ อิมินา ปหานาภิสมโย วุตฺโตติ อาห ‘‘อิมินา มคฺคกฺขณํ ทสฺเสตี’’ติ. ชานโตปสฺสโตติ วา เหตุนิทฺเทโส. ยํ ชานนเหตุ กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ โยชนา. ธมฺมานฺหิ สมานกาลิกานมฺปิ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตา สหชาตโกฏิยา ลพฺภติ. ภวาสวคฺคหเณเนว เอตฺถ ภวราคสฺส วิย ภวทิฏฺิยาปิ สมวโรโธติ ทิฏฺาสวสฺสปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

ขีณา ชาตีติอาทีหิ ปเทหิ. ตสฺสาติ ปจฺจเวกฺขณาณสฺส. ภูมินฺติ ปวตฺติฏฺานํ. เยนาธิปฺปาเยน ‘‘กตมา ปนสฺสา’’ติอาทินา โจทนา กตา, ตํ วิวรนฺโต ‘‘น ตาวสฺสา’’ติอาทิมาห . ตตฺถ น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา มคฺคภาวนายาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ การณมาห ‘‘ปุพฺเพว ขีณตฺตา’’ติ. น อนาคตา อสฺส ชาติ ขีณาติ โยชนา. น อนาคตาติ จ อนาคตภาวสามฺํ คเหตฺวา เลเสน โจเทติ. เตนาห ‘‘อนาคเต วายามาภาวโต’’ติ. อนาคตวิเสโส ปเนตฺถ อธิปฺเปโต, ตสฺส เขปเน วายาโม ลพฺภเตว. เตนาห ‘‘ยา ปน มคฺคสฺสา’’ติอาทิ. เอกจตุปฺจโวการภเวสูติ ภวตฺตยคฺคหณํ วุตฺตนเยน อนวเสสโต ชาติยา ขีณภาวทสฺสนตฺถํ. นฺติ ยถาวุตฺตํ ชาตึ. โสติ ขีณาสโว ภิกฺขุ.

พฺรหฺมจริยวาโส นาม อิธ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส นิพฺพตฺตนเมวาติ อาห ‘‘ปริวุตฺถ’’นฺติ. สมฺมาทิฏฺิยา จตูสุ สจฺเจสุ ปริฺาทิกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตมานาย สมฺมาสงฺกปฺปาทีนมฺปิ ทุกฺขสจฺเจ ปริฺาภิสมยานุคุณา ปวตฺติ, อิตเรสุ จ สจฺเจสุ เนสํ ปหานาภิสมยาทิวเสน ปวตฺติ ปากฏา เอว. เตน วุตฺตํ ‘‘จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยวเสนา’’ติ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สตฺตเสขํ สงฺคณฺหาติ.

อิตฺถตฺตายาติ อิเม ปการา อิตฺถํ, ตพฺภาโว อิตฺถตฺตํ, ตทตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. เต ปน ปการา อริยมคฺคพฺยาปารภูตา ปริฺาทโย อิธาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘เอวํโสฬสวิธกิจฺจภาวายา’’ติ. เต หิ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขโต มคฺคานุภาเวน ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, ปริฺาทีสุ จ ปหานเมว ปธานํ ตทตฺถตฺตา อิตเรสนฺติ อาห ‘‘กิเลสกฺขยาย วา’’ติ. ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. ทุติยวิกปฺเป อิตฺถตฺตายาติ นิสฺสกฺเก สมฺปทานวจนนฺติ อาห ‘‘อิตฺถภาวโต’’ติ . อปรนฺติ อนาคตํ. อิเม ปน จริมกตฺตภาวสงฺขาตา ปฺจกฺขนฺธา. ปริฺาตา ติฏฺนฺตีติ เอเตน เตสํ อปฺปติฏฺตํ ทสฺเสติ. อปริฺามูลกา หิ ปติฏฺา. ยถาห ‘‘กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค, อตฺถิ นนฺที, อตฺถิ ตณฺหา, ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรุฬฺห’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๖๔; กถา. ๒๙๖; มหานิ. ๗). เตเนวาห – ‘‘ฉินฺนมูลกา รุกฺขา วิยา’’ติอาทิ.

ยสฺสาติ ปุถุชฺชนสฺส. ตสฺส หิ สีลํ กทาจิ วฑฺฒติ, กทาจิ หายติ. เสกฺขาปิ ปน สีเลสุ ปริปูรการิโนว, อเสกฺเขสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เตนาห ‘‘ขีณาสวสฺสา’’ติอาทิ. วสิปฺปตฺตนฺติ วสีภาวปฺปตฺตํ. สุฏฺุ สมาหิตนฺติ อคฺคผลสมาธินา สมฺมเทว สมาหิตํ. ธิติสมฺปนฺนนฺติ อคฺคผลธิติยา สมนฺนาคตํ. มจฺจุํ ชหิตฺวา ิตนฺติ อายตึ ปุนพฺภวาภาวโต วุตฺตํ. กถํ ปุนพฺภวาภาโวติ อาห ‘‘สพฺเพ ปาปธมฺเม ปชหิตฺวา ิต’’นฺติ. สพฺพสฺสปิ เยฺยธมฺมสฺส จตุสจฺจนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ ‘‘พุทฺธนฺติ จตุสจฺจพุทฺธ’’นฺติ. พุทฺธสาวกาติ สาวกพุทฺธา นมสฺสนฺติ, ปเคว อิตรา ปชา. อิตรา หิ ปชา สาวเกปิ นมสฺสนฺติ. อิติ เอตฺตเกน าเนน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วเสน คาถานํ อตฺถํ วตฺวา อิทานิ สาวกสฺสปิ วเสน อตฺถํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สาวโกปิ โคตโม มุขนิพฺพตฺเตน สมฺปตฺเตน สมฺพนฺเธน, ยโต สพฺเพปิ อริยสาวกา ภควโต โอรสปุตฺตาติ วุจฺจนฺตีติ.

นิวุสฺสตีติ นิวาโส, นิวุตฺโถ ขนฺธสนฺตาโนติ อาห ‘‘นิวุตฺถกฺขนฺธปรมฺปร’’นฺติ. อเวติ, อเวทีติ ปาทฺวเยนปิ ปุพฺเพนิวาสาณสฺส กิจฺจสิทฺธึเยว ทสฺเสติ. เอกตฺตกายเอกตฺตสฺิภาวสามฺโต เวหปฺผลาปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ ‘‘ฉ กามาวจเร, นว พฺรหฺมโลเก’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อิตเร ปน อปจุรภาวโต น วุตฺตา. เอกจฺจานํ อวิสยภาวโต จ อวจนํ ทฏฺพฺพํ. ชาติ ขียติ เอเตนาติ ชาติกฺขโย, อรหตฺตนฺติ อาห ‘‘อรหตฺตํ ปตฺโต’’ติ. ‘‘อภิฺายา’’ติ วตฺตพฺเพ ยการโลเปน ‘‘อภิฺา’’ติ นิทฺเทโส กโตติ อาห ‘‘ชานิตฺวา’’ติ. กิจฺจโวสาเนนาติ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพสฺส โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส ปริโยสาเนน. โวสิโตติ ปริโยสิโต, นิฏฺิโตติ อตฺโถ. โมเนยฺเยน สมนฺนาคโตติ กายโมเนยฺยาทีหิ สมนฺนาคโต. ลปิตํ ลปตีติ ลปิตลาปโน. อตฺตปจฺจกฺขโต ตฺวาติ อิมินา เตสํ วิชฺชานํ ปฏิลทฺธภาวํ ทีเปติ.

ติกณฺณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ชาณุสฺโสณิสุตฺตวณฺณนา

๖๐. นวเม เทยฺยธมฺมสฺเสตํ นามนฺติ ยาคํ กโรนฺเตน ทาตพฺพเทยฺยธมฺมํ สนฺธาย วทติ ตทฺสฺส ปาฬิยํ เทยฺยธมฺมคฺคหเณเนว คหิตตฺตา. มตกภตฺตนฺติ มตเก อุทฺทิสฺส ทาตพฺพภตฺตํ, ปิตุปิณฺฑนฺติ วุตฺตํ โหติ. วรปุริสานนฺติ วิสิฏฺปุริสานํ, อุตฺตมปุริสานนฺติ อตฺโถ. สพฺพเมตํ ทานนฺติ ยถาวุตฺตเภทํ ยฺสทฺธาทิทานํ.

ชาณุสฺโสณิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา

๖๑. ทสเม ชิณฺณานํ หตฺถิสาลาทีนํ ปฏิสงฺขรณํ ปุน ปากติกกรณํ ชิณฺณปฏิสงฺขรณํ , ตสฺส การโก ชิณฺณปฏิสงฺขรณการโก. พาหิรสมเยติ สตฺถุสาสนโต พาหิเร อฺติตฺถิยสมเย. สพฺพจตุกฺเกนาติอาทีสุ สพฺเพสุ ทฺวิปทจตุปฺปทาทิเภเทสุ ปาเณสุ เอเกกสฺมึ จตฺตาโร จตฺตาโร ปาเณ วธิตฺวา ยชิตพฺพํ ยฺํ สพฺพจตุกฺกํ นาม. เสเสสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺส วา ตสฺส วาติ นิสฺสกฺเก สามิวจนนฺติ อาห ‘‘ยสฺมา วา ตสฺมา วา’’ติ. เอวมสฺสายนฺติ เอตฺถ อสฺสูติ นิปาตมตฺตนฺติ อาห ‘‘เอวํ สนฺเตปิ อย’’นฺติ.

วฑฺเฒนฺโตติ ปฏฺเปนฺโต. มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส โอคธํ มูลํ ปติฏฺาภูตํ พฺรหฺมจริโยคธํ. เตนาห ‘‘อรหตฺตมคฺคสงฺขาตสฺสา’’ติอาทิ. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน เจตฺถ อรหตฺตมคฺคสฺเสว คหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุตฺตมํ ปติฏฺาภูตํ อารมฺมณูปนิสฺสยภาเวน.

อปฺเปหิ เวยฺยาวจฺจกราทีหิ อตฺโถ เอติสฺสาติ อปฺปฏฺา ตฺถ-การสฺส ฏฺ-การํ กตฺวา. เตนาห ‘‘ยตฺถ พหู’’ติอาทิ. ยตฺถาติ ยสฺสํ ปฏิปทายํ . อปฺโป สมารมฺโภ เอตสฺสาติ อปฺปสมารมฺโภ. ปาสํสาติ ปสํสารหา. เอตํ เยว กถาเปสฺสามีติ เอเตเนว พฺราหฺมเณน กถาเปสฺสามิ.

โสปฺเปนาติ นิทฺทาย. ปมาเทนาติ ชาคริยาทีสุ อนนุยุฺชนโต สติวิปฺปวาสลกฺขเณน ปมาเทน. ปจฺจนีกปฏิหรณวเสนาติ ปฏิปกฺขาปนยนวเสน. ตถา หิ ภควโต จ สาสนสฺส จ ปฏิปกฺขา ติตฺถิยา, เตสํ หรณโต ปฏิหาริยํ. เต หิ ทิฏฺิหรณวเสน ทิฏฺิปฺปกาสเน อสมตฺถภาเวน จ อิทฺธิอาเทสนานุสาสนีหิ หริตา อปนีตา โหนฺตีติ. ‘‘ปฏี’’ติ วา อยํ สทฺโท ‘‘ปจฺฉา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ โพเธติ ‘‘ตสฺมึ ปฏิปวิฏฺสฺมึ, อฺโ อาคฺฉิ พฺราหฺมโณ’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๙๘๕; จูฬนิ. วตฺถุคาถา ๔) วิย, ตสฺมา สมาหิเต จิตฺเต วิคตูปกฺกิเลเส กตกิจฺเจน ปจฺฉา หริตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ ปฏิหาริยํ, อตฺตโน วา อุปกฺกิเลเสสุ จตุตฺถชฺฌานมคฺเคหิ หริเตสุ ปจฺฉาหรณํ ปฏิหาริยํ, อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิโย จ วิคตูปกฺกิเลเสน กตกิจฺเจน จ สตฺตหิตตฺถํ ปุน ปวตฺเตตพฺพา, หริเตสุ จ อตฺตโน อุปกฺกิเลเสสุ ปรสตฺตานํ อุปกฺกิเลสหรณานิ โหนฺตีติ ปฏิหาริยานิ ภวนฺติ, ปฏิหาริยเมว ปาฏิหาริยํ. ปฏิหาริเย วา อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิสมุทาเย ภวํ เอเกกํ ปาฏิหาริยนฺติ วุจฺจติ. ปฏิหาริยํ วา จตุตฺถชฺฌานํ มคฺโค จ ปฏิปกฺขหรณโต, ตตฺถ ชาตํ นิมิตฺตภูเต, ตโต วา อาคตนฺติ ปาฏิหาริยํ.

อาคตนิมิตฺเตนาติ อาคตาการสลฺลกฺขณวเสน. เอส นโย เสเสสุปิ. เอโก ราชาติ ทกฺขิณมธุราธิปติ เอโก ปณฺฑุราชา. เอวมฺปิ เต มโนติ อิมินา อากาเรน ตว มโน ปวตฺโตติ อตฺโถ. เตน ปกาเรน ปวตฺโตติ อาห ‘‘โสมนสฺสิโต วา’’ติอาทิ. สามฺโชตนา วิเสเส อวติฏฺตีติ อธิปฺปาเยเนวํ วุตฺตํ. ‘‘เอวํ ตว มโน’’ติ อิทฺจ มนโส โสมนสฺสิตตาทิมตฺตทสฺสนํ, น ปน เยน โส โสมนสฺสิโต วา โทมนสฺสิโต วา, ตํทสฺสนํ. โสมนสฺสคฺคหเณน เจตฺถ ตเทกฏฺา ราคาทโย สทฺธาทโย จ ทสฺสิตา โหนฺติ, โทมนสฺสคฺคหเณน โทสาทโย. ทุติยนฺติ ‘‘อิตฺถมฺปิ เต มโน’’ติ ปทํ. อิติปีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท นิทสฺสนตฺโถ ‘‘อตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยเมโก อนฺโต’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕; ๓.๙๐) วิย. เตนาห ‘‘อิมฺจ อิมฺจ อตฺถํ จินฺตยมาน’’นฺติ. ปิ-สทฺโท วุตฺตตฺถสมฺปิณฺฑนตฺโถ.

กเถนฺตานํ สุตฺวาติ กเถนฺตานํ สทฺทํ สุตฺวา. ตสฺส วเสนาติ ตสฺส วิตกฺกิตสฺส วเสน. อฏฺฏการเกนาติ วินิจฺฉยการเกน.

น อริยานนฺติ อริยานํ มคฺคผลจิตฺตํ น ชานาตีติ อตฺโถ. ตฺหิ เตน อนธิคตตฺตา เจโตปริยาเณนปิ น สกฺกา วิฺาตุํ, อฺํ ปน จิตฺตํ ชานาติเยว. เหฏฺิโม อุปริมสฺส จิตฺตํ น ชานาตีติอาทีนิปิ มคฺคผลจิตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. โสตาปนฺนาทโยปิ หิ อตฺตนา อธิคตเมว มคฺคผลํ ปเรหิ อุปฺปาทิตํ สมฺมา เจโตปริยาเณน ชานิตุํ สกฺโกนฺติ, น อตฺตนา อนธิคตํ. สพฺเพปิ อริยา อตฺตโน ผลํ สมาปชฺชนฺติ อธิคตตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเตสุ จา’’ติอาทิมาห. ยทิ อริยา อตฺตนา อธิคตผลํ สมาปชฺชนฺติ, อุปริมาปิ เหฏฺิมํ ผลํ สมาปชฺชนฺติ อธิคตตฺตา โลกิยสมาปตฺติโย วิยาติ กสฺสจิ อาสงฺกา สิยา, ตนฺนิวตฺตนตฺถมาห ‘‘อุปริโม เหฏฺิมํ น สมาปชฺชตี’’ติ.

อุปริโมติ สกทาคามิอาทิอริยปุคฺคโล. เหฏฺิมนฺติ โสตาปตฺติผลาทึ. น สมาปชฺชตีติ สติปิ อธิคตตฺเต น สมาปชฺชติ. กสฺมาติ เจ? การณมาห ‘‘เตสฺหี’’ติอาทิ, เตสํ สกทาคามิอาทีนํ เหฏฺิมา เหฏฺิมา ผลสมาปตฺติ เตสุ เตสุเยว เหฏฺิเมสุ อริยปุคฺคเลสุ ปวตฺตติ, น อุปริเมสูติ อตฺโถ. อิมินา เหฏฺิมํ ผลจิตฺตํ อุปริมสฺส น อุปฺปชฺชตีติ ทสฺเสติ. กสฺมาติ เจ? ปุคฺคลนฺตรภาวูปคมเนน ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา. เอเตน อุปริโม อริโย เหฏฺิมํ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ อตฺตนา อธิคตตฺตา ยถา ตํ โลกิยสมาปตฺตินฺติ เอวํ ปวตฺโต เหตุ พฺยภิจาริโตติ ทฏฺพฺพํ. น หิ โลกิยชฺฌาเนสุ ปุคฺคลนฺตรภาวูปคมนํ นาม อตฺถิ วิเสสาภาวโต, อิธ ปน อสมุคฺฆาฏิตกมฺมกิเลสนิโรธเนน ปุถุชฺชเนหิ วิย โสตาปนฺนสฺส โสตาปนฺนาทีหิ สกทาคามิอาทีนํ ปุคฺคลนฺตรภาวูปคมนํ อตฺถิ. ยโต เหฏฺิมา เหฏฺิมา ผลธมฺมา อุปรูปริมคฺคธมฺเมหิ นิวตฺติตา ปฏิปกฺเขหิ วิย อภิภูตา อปฺปวตฺติธมฺมตํเยว อาปนฺนา. เตเนว วุตฺตํ ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา’’ติ.

อปิจ กุสลกิริยปฺปวตฺติ นาม อฺา, วิปากปฺปวตฺติ จ อฺาติ อนนฺตรผลตฺตา จ โลกุตฺตรกุสลานํ เหฏฺิมโต อุปริโม ภวนฺตรคโต วิย โหติ. ตํตํผลวเสเนว หิ อริยานํ โสตาปนฺนาทินามลาโภ. เต สเจ อฺผลสมงฺคิโนปิ โหนฺติ, โสตาปนฺนาทินามมฺปิ เตสํ อววตฺถิตํ สิยา. ตสฺส ตสฺส วา อริยสฺส ตํ ตํ ผลํ สทิสนฺติ กตฺวา น อุปริมสฺส เหฏฺิมผลสมงฺคิตาย เลโสปิ สมฺภวติ, กุโต ตสฺสา สมาปชฺชนนฺติ ทฏฺพฺพํ. เหฏฺิมา จ โสตาปนฺนาทโย อุปริมํ สกทาคามิผลาทึ น สมาปชฺชนฺติ อนธิคตตฺตา. น หิ อนธิคตํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุํ สกฺกา, ตสฺมา สพฺเพปิ อริยา อตฺตโนเยว ผลํ สมาปชฺชนฺตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

ปวตฺเตนฺตาติ ปวตฺตกา หุตฺวา, ปวตฺตนวเสนาติ อตฺโถ. เอวนฺติ ยถานุสิฏฺาย อนุสาสนิยา วิธิวเสน ปฏิเสธวเสน จ ปวตฺติตาการปรามสนํ. สา จ สมฺมาวิตกฺกา นาม มิจฺฉาวิตกฺกานฺจ ปวตฺติอาการทสฺสนวเสน ปวตฺตติ. ตตฺถ อานิสํสสฺส อาทีนวสฺส จ วิภาวนตฺถํ อนิจฺจสฺเมว, น นิจฺจสฺนฺติ อตฺโถ. ปฏิโยคินิวตฺตนตฺถฺหิ เอว-การคฺคหณํ. อิธาปิ เอวสทฺทคฺคหณสฺส อตฺโถ ปโยชนฺจ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิทํ-คหเณปิ เอเสว นโย. ปฺจกามคุณราคนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ ตทฺราคสฺส โทสาทีนฺจ ปหานสฺส อิจฺฉิตตฺตา ตปฺปหานสฺส จ ตทฺราคาทิเขปสฺส อุปายภาวโต. ตถา วุตฺตํ ทุฏฺโลหิตวิโมจนสฺส ปุพฺพทุฏฺมํสเขปนูปายตา วิย. โลกุตฺตรธมฺมเมวาติ อวธารณํ ปฏิกฺเขปภาวโต สาวชฺชธมฺมนิวตฺตนปรํ ทฏฺพฺพํ, ตสฺส อธิคมูปายานิสํสภูตานํ ตทฺเสํ อนวชฺชธมฺมานํ นานนฺตริยภาวโต.

จินฺตามณิกวิชฺชาสริกฺขกตนฺติ อิมินา ‘‘จินฺตามณี’’ติ เอวํ ลทฺธนามา โลเก เอกา วิชฺชา อตฺถิ, ยาย ปเรสํ จิตฺตํ วิชานนฺตีติ ทีเปติ. ‘‘ตสฺสา กิร วิชฺชาย สาธโก ปุคฺคโล ตาทิเส เทสกาเล มนฺตํ ปริชปฺปิตฺวา ยสฺส จิตฺตํ ชานิตุกาโม, ตสฺส ทิฏฺหตฺถาทิวิเสสสฺชานนมุเขน จิตฺตาจารํ อนุมินนฺโต กเถตี’’ติ เกจิ. อปเร ‘‘วาจํ นิจฺฉราเปตฺวา ตตฺถ อกฺขรสลฺลกฺขณวเสนา’’ติ วทนฺติ.

อิทฺจปน สพฺพนฺติ ‘‘ภวํ โคตโม อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ สพฺพมฺปิ.

สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

พฺราหฺมณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.