📜

(๗) ๒. มหาวคฺโค

๑. ติตฺถายตนสุตฺตวณฺณนา

๖๒. ทุติยสฺส ปเม ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ตพฺพินิมุตฺตสฺส กสฺสจิ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตสฺส อภาวโต. เอตฺถ หิ สตฺตา ตรนฺติ อุปฺปิลวนฺติ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ, ตสฺมา ‘‘ติตฺถ’’นฺติ วุจฺจติ. ปารคมนสงฺขาตฺหิ ตรณํ ทิฏฺิคติกานํ นตฺถิ, ตตฺเถว อปราปรํ นิมุชฺชนุมฺมุชฺชนวเสน ปิลวนเมว เตสํ ตรณํ นาม. อุปฺปาทกาติ ปูรณกสฺสปาทโย. ติตฺเถ ชาตา ติตฺถิยา, ยถาวุตฺตํ วา ทิฏฺิคตสงฺขาตํ ติตฺถํ เอเตสํ อตฺถีติ ติตฺถิกา, ติตฺถิกา เอว ติตฺถิยา. มโนรเมติ สาทุผลภริตตาย อภยทิสตาย จ มโนรเม. อิเมสุเยว ตีสุ าเนสูติ ยถาวุตฺเตสุ ติตฺถายตเนสุ.

โย ยถา ชานาติ, ตสฺส ตถา วุจฺจตีติ อิมินา ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ตถา วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ปุคฺคล-สทฺโท จ ติสฺสนฺนมฺปิ ปกตีนํ สาธารโณ, ตสฺมา ปุริสคฺคหเณน ตโต วิเสสนํ ยถา ‘‘อฏฺ ปุริสปุคฺคลา’’ติ. ปฏิสํวิทิตํ กโรตีติ เกวลํ ชานนวเสน วิทิตํ กโรติ. อนุภวติ วาติ วิปากลกฺขณปฺปตฺตํ อนุภวติ. ปุพฺเพกตเหตูติ อนฺโตคธาวธารณํ ปทนฺติ อาห ‘‘ปุพฺเพกตกมฺมปจฺจเยเนวา’’ติ. อิมินาติ ‘‘สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตู’’ติ อิมินา วจเนน. กมฺมเวทนนฺติ กุสลากุสลกมฺมสหชํ เวทนํ. กิริยเวทนนฺติ ‘‘เนว กุสลากุสลา น จ กมฺมวิปากา’’ติ เอวํ วุตฺตํ กิริยจิตฺตสหชํ เวทนํ. น เกวลฺจ เต กมฺมกิริยเวทนา เอว ปฏิกฺขิปนฺติ, อถ โข สาสเน โลเก จ ปากเฏ วาตาพาธาทิโรเค จ ปฏิกฺขิปนฺติ เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เย วา อิเม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปิตฺตสมุฏฺานาติ ปิตฺตวิการาธิกสมฺภูตา . อนนฺตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. สนฺนิปาติกาติ ปิตฺตาทีนํ ติณฺณมฺปิ วิการานํ สนฺนิปาตโต ชาตา. อุตุปริณามชาติ สีตาทิอุตุโน วิปริณามโต วิสมปริวุตฺติโต ชาตา. วิสมปริหารชาติ อสปฺปายาหารโยคปฏิเสวนวเสน กายสฺส วิสมํ ปริหรณโต ชาตา. โอปกฺกมิกาติ อุปกฺกมโต นิพฺพตฺตา. กมฺมวิปากชาติ กมฺมสฺส วิปากภูตกฺขนฺธโต ชาตา. วิโรธิปจฺจยสมุฏฺานา ธาตูนํ วิการาวตฺถา, ตปฺปจฺจยา วา ทุกฺขา เวทนา อาพาธนฏฺเน อาพาโธ, โส เอว รุชฺชนฏฺเน โรโค. ตตฺถ ‘‘โย ยาปฺยลกฺขโณ, โส โรโค, อิตโร อาพาโธ’’ติ วทนฺติ. สพฺเพสฺจ เนสํ ตํตํธาตูนํ วิสมํ อาสนฺนการณํ, น ตถา อิตรานิ. ตตฺถาปิ จ ปโกปาวตฺถา ธาตุโย อาสนฺนการณํ, น ตถา ปรปจฺจยาวตฺถาติ ทฏฺพฺพํ. อฏฺมํเยว กมฺมวิปากชํ อาพาธํ สมฺปฏิจฺฉนฺติ ‘‘สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตู’’ติ วิปลฺลาสคฺคาเหน. ‘‘ปุพฺเพ’’ติ ปุราตนสฺเสว กมฺมสฺส คหิตตฺตา อุปปชฺชเวทนียมฺปิ เต ปฏิกฺขิปนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ทฺเว ปฏิพาหิตฺวา’’ติ. สมฺปฏิจฺฉนฺตีติ อนุชานนฺติ.

อตฺตนา กตมูลเกนาติ สาหตฺถิกกมฺมเหตุ. อาณตฺติมูลเกนาติ ปรสฺส อาณาปนวเสน กตกมฺมเหตุ. อิมาติ ติสฺโส เวทนา. สพฺเพ ปฏิพาหนฺตีติ สพฺเพ โรเค ปฏิเสเธนฺติ สพฺเพสมฺปิ เตสํ เอเกน อิสฺสเรเนว นิมฺมิตตฺตา ตพฺภาวีภาวาสมฺภวโต. เอส นโย เสเสสุปิ. สพฺพํ ปฏิพาหนฺตีติ เหตุปจฺจยปฏิเสธนโต สพฺพํ นิเสเธนฺติ.

มาติกํ นิกฺขิปิตฺวาติ ติณฺณมฺปิ เวทานํ อสารภาวทสฺสนตฺถํ อุทฺเทสํ กตฺวา. นฺติ ตํ มาติกํ. วิภชิตฺวา ทสฺเสตุนฺติ โทสทสฺสนวเสเนว วิภาคโต ทสฺเสตุํ. ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถนฺติ อตฺตโน ลทฺธิยา ปฏิชานาปนตฺถํ. ลทฺธิโต ลทฺธึ สงฺกมนฺตีติ มูลลทฺธิโต อฺลทฺธึ อุปคจฺฉนฺติ ปฏิชานนฺติ. ปุพฺเพกตเหตุเยว ปฏิสํเวเทตีติ กมฺมเวทนมฺปิ วิปากเวทนํ กตฺวา วทนฺติ. ทิฏฺิคติกา หิ พฺยามูฬฺหจิตฺตา กมฺมนฺตรวิปากนฺตราทีนิ อาโลเฬนฺติ, อสงฺกรโต สฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. ยถา จ อกุสลกมฺเม, เอวํ กุสลกมฺเมปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ ปาณาติปาตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวนฺติ ยถา ปุพฺเพกตเหตุ เอว ปาณาติปาติโน นาม โหนฺติ, น อิทานิ สยํกตการณา, เอวํ ปาณาติปาตา วิรมณมฺปิ ปุพฺเพกตเหตุ เอวาติ วิจาริยมาโน ปุพฺเพกตวาโท อกิริยวาโท เอว สมฺปชฺชติ.

กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท น ตณฺหาฉนฺโท. กตฺตุกมฺยตาติ กาตุมิจฺฉา. ปจฺจตฺตปุริสกาโรติ เตน เตน ปุริเสน กตฺตพฺพกิจฺจํ น โหติ ปุพฺเพกตเหตุ เอว สิชฺฌนโต. อุภยมฺปิ ตํ เอส น ลพฺภตีติ กตฺตพฺพกรณํ สุจริตปูรณํ, อกตฺตพฺพอกรณํ ทุจฺจริตวิรตีติ อิทํ อุภยมฺปิ เอส น ลภติ. สมณาปิ หิ ปุพฺเพกตการณาเยว โหนฺตีติ ปุพฺเพกตการณาเยว สมณาปิ โหนฺติ, น อิทานิ สํวรสมาทานาทินา. อสฺสมณาปิ ปุพฺเพกตการณาเยวาติ ปุพฺเพกตการณาเยว อสฺสมณาปิ โหนฺติ, น สํวรเภเทน.

ยถา ปุพฺเพกตวาเท ฉนฺทวายามานํ อสมฺภวโต ปจฺจตฺตปุริสการานํ อภาโว, เอวํ อิสฺสรนิมฺมานวาเทปิ อิสฺสเรเนว สพฺพสฺส นิมฺมิตภาวานุชานนโตติ วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพกตวาเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ’’ติ. เอส นโย อเหตุกวาเทปีติ อาห ‘‘ตถา อเหตุกวาเทปี’’ติ.

อิเมสนฺติอาทินา อิเมสํ ติตฺถายตนานํ ตุจฺฉาสารตาย ถุสโกฏฺฏเนน กุณฺฑกมตฺตสฺสปิ อลาโภ วิย ปรมตฺถเลสสฺสปิ อภาโว, ตถา ขชฺโชปนโกภาสโต เตชโส ผุลิงฺคมตฺตสฺสปิ อภาโว วิย อนฺธเวณิกสฺสปิ มคฺคสฺส อปฺปฏิลาโภ วิย สทฺทมตฺตํ นิสฺสาย มิจฺฉาภาเคน วิปลฺลตฺถตาย ททฺทรชาตเก (ชา. ๑.๒.๔๓-๔๓) สสกสทิสตา จ วิภาวิตา โหติ. สารภาวนฺติ สีลสาราทิสมฺปตฺติยา สารสพฺภาวํ. นิยฺยานิกภาวนฺติ เอกนฺเตเนว วฏฺฏโต นิยฺยานาวหภาวํ. อนิคฺคหิโตติ น นิคฺคเหตพฺโพ. เตนาห ‘‘นิคฺคเหตุํ อสกฺกุเณยฺโย’’ติ. อสํกิลิฏฺโติ สํกิเลสวิรหิโต. เตนาห ‘‘นิกฺกิเลโส’’ติอาทิ. อนุปวชฺโชติ ธมฺมโต น อุปวทิตพฺโพ. อปฺปฏิกุฏฺโ นาม อปฺปฏิเสธนํ วา สิยา อนกฺโกสนํ วาติ ตทุภยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปฏิพาหิโต อนุปกฺกุฏฺโ’’ติ อาห.

ตสฺส ธมฺมสฺสาติ ‘‘อยํ โข ปน, ภิกฺขเว’’ติอาทินา อุทฺธฏสฺส ธมฺมสฺส. ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวาติ กเถตุกมฺยตาวเสน ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา. ยถาปฏิปาฏิยาติ มาติกาย ยถานิกฺขิตฺตปฺปฏิปาฏิยา. ธาตุโยติ สภาวธารณฏฺเน ธาตุโย. ตา ปน ยสฺมา ตณฺหาทิฏฺิกปฺปนาปริกปฺปิตอตฺตสุภสุขสสฺสตาทิปกติอาทิธุวาทิชีวาทิกายาทิกา วิย น อิจฺฉาสภาวา ทิฏฺิอาทิรหิเตหิ วิมุจฺจมานอุทุมฺพรปุปฺผาทิโลกโวหารวตฺถูนิ วิย จ วาจาวตฺถุมตฺตา, อถ โข สจฺจปรมตฺถภูตาติ อาห ‘‘สภาวา’’ติ, สจฺจสภาวาติ อตฺโถ. อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ หิ ธาตุโย. นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวปฺปกาสโกติ พาหิรปริกปฺปิตชีวาภาวปฺปกาสโก โลกิยมหาชนสํกปฺปิตสตฺตาภาวปฺปกาสโก จ. อากรฏฺเนาติ อุปฺปชฺชนฏฺานภาเวน. อุปฺปตฺติฏฺานมฺปิ หิ อากโร อายตนนฺติ วุจฺจติ ยถา ‘‘กมฺโพโช อสฺสานํ อายตน’’นฺติ. มโนปวิจาราติ ตํ ตํ อารมฺมณํ อุเปจฺจ มนโส วิวิธจรณากาโร. เกหิ กตฺถาติ อาห ‘‘วิตกฺกวิจารปาเทหี’’ติอาทิ. อฏฺารสสุ าเนสูติ ฉ โสมนสฺสฏฺานิยานิ , ฉ โทมนสฺสฏฺานิยานิ, ฉ อุเปกฺขาฏฺานิยานีติ เอวํ อฏฺารสสุ าเนสุ.

ปติฏฺาธาตูติ เสสภูตตฺตยสฺส เจว สพฺพูปาทารูปานฺจ ปติฏฺาสภาวา ธาตุ. อิมินา นเยน อาพนฺธนธาตูติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปิจ กกฺขฬภาวสิทฺโธ สหชาตธมฺมานํ อาธารภาโว ปติฏฺาภาโว. ทฺรวภาวสิทฺธํ สมฺปิณฺฑนํ อาพนฺธนํ. อุณฺหภาวสิทฺธํ มุทุตาปกฺกตาวหํ ปริปาจนํ. ถทฺธภาวาวหํ อุทฺธุมาตนํ วิตฺถมฺภนํ. รูปวิวิตฺโต รูปปริยนฺโต อากาโสติ เยสํ โส ปริจฺเฉโท, เตหิ โส อสมฺผุฏฺโวาติ วุตฺตํ ‘‘อากาสธาตูติ อสมฺผุฏฺธาตู’’ติ. สฺชานนวิธุรา อารมฺมณูปลทฺธิ วิชานนธาตุ. วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ สงฺเขปนฺโตคธตฺตา วิตฺถารสฺส. สงฺเขปโต กเถตุํ น วฏฺฏติ กเถตพฺพสฺส อตฺถสฺส อนวเสสปริยาทานาภาวโต. เตนาห ‘‘วิตฺถารโตว วฏฺฏตี’’ติ. อุภยถาติ สงฺเขปโต วิตฺถารโต จ.

อนิปฺผนฺนาปิ อากาสธาตุ ภูตานิ อุปาทาย คเหตพฺพตามตฺเตน ‘‘อุปาทารูป’’นฺเตว วุจฺจติ. ทิฏฺาเนวาติ สลฺลกฺเขตพฺพานิ อุปาทารูปภาวสามฺโต. เตน สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ สมุทาเย ปวตฺตโวหารสฺส อวยเวปิ ทิสฺสนโต ยถา ‘‘วตฺเถกเทเส ทฑฺเฒ วตฺถํ ทฑฺฒ’’นฺติ. ‘‘ผสฺโส จ เจตนา จ สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ มหาภูมกตฺตา เตสํ ตปฺปธานตฺตา จ สงฺขารกฺขนฺธสฺส. อรูปกฺขนฺธา นามํ อารมฺมณาภิมุขํ นมนโต นามาธีนคฺคหณโต จ. รูปกฺขนฺโธ รูปํ ปริพฺยตฺตํ รุปฺปนฏฺเน. ปจฺจยนฺติ นิสฺสยภูตํ ปจฺจยํ. วิภาเคน ทฺวาจตฺตาลีส. เอกาสีติจิตฺตานิ ‘‘สมฺมสนจาโรย’’นฺติ กตฺวา. อนุกฺกเมน ปฏิปชฺชมาโนติ เอวํ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิยํ ิโต อุปริเมน ติสฺสนฺนํ วิสุทฺธีนํ สมฺปาทนวเสน วิสุทฺธิภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺโต.

ผสฺสายตนนฺติ ผสฺสสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ. สุวณฺณาทีนนฺติ สุวณฺณมณิวชิราทีนํ. อากิณฺณํ วิย หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ เอตฺถาติ อากโร. ยถา จกฺขุ วิปากผสฺสสฺส วิเสสปจฺจโย, น ตถา อิตเรสนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ทฺเว จกฺขุวิฺาณานี’’ติอาทิ. เอส นโย เสสวาเรสุปิ. ทฺวตฺตึสาย วิปากผสฺเสสุ ทฺวิปฺจวิฺาณสหคตผสฺเส เปตฺวา เสสา ทฺวาวีสติ วิปากผสฺสา เวทิตพฺพา. ทิฏฺเมว โหติ เตน สมานโยคกฺขมตฺตา. ‘‘สงฺเขปโต ตาวา’’ติ สงฺเขปกถํ อารภิตฺวาปิ วิตฺถารกถาเปตฺถ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยาวาติ วุตฺตํ ‘‘เหฏฺา…เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ.

โสมนสฺสสฺส อุปฺปตฺติฏฺานภูตํ โสมนสฺสฏฺานิยํ. เตนาห ‘‘โสมนสฺสสฺส การณภูต’’นฺติ. อุปวิจรตีติ อุเปจฺจ ปวตฺตติ. สภาวโต สงฺกปฺปโต จ โสมนสฺสาทิอุปฺปตฺติเหตุกา โสมนสฺสฏฺานิยาทิตาติ อาห ‘‘อิฏฺํ วา โหตู’’ติอาทิ. จตุตฺถํ ทิฏฺเมว โหติ ตทวินาภาวโต.

อริยสจฺจานีติ ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปนายํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘อริยภาวกรานี’’ติอาทิ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๓๑) ปกาสิตํ, ตสฺมา น อิธ ปกาเสตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. สุขาวโพธนตฺถนฺติ เทสิยมานาย วฏฺฏกถาย สุเขน อวโพธนตฺถํ. เตนาห ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ. ทฺวาทสปทนฺติ อวิชฺชาทีหิ ปเทหิ ทฺวาทสปทํ. ปจฺจยวฏฺฏนฺติ ปจฺจยปฺปพนฺธํ. กเถตุกาโม โหติ ปจฺจยาการมุเขน สจฺจานิ ทสฺเสตุกามตาย. คพฺภาวกฺกนฺติวฏฺฏนฺติ คพฺโภกฺกนฺติมุเขน วิปากวฏฺฏํ ทสฺเสติ ‘‘คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติอาทินา. ตสฺมา ปเนตฺถ คพฺภาวกฺกนฺติวเสเนว วฏฺฏํ ทสฺสิตนฺติ อาห ‘‘คพฺภาวกฺกนฺติวฏฺฏสฺมึ หี’’ติอาทิ. คพฺภาวกฺกนฺติวฏฺฏสฺมินฺติ มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตนวเสน ปวตฺตธมฺมปฺปพนฺเธ. ทสฺสิเตติ เทสนาวเสน ทสฺสิเต. ปุริมา ทฺเว โยนิโย อิตราหิ โอฬาริกตาย ปริพฺยตฺตตราติ วุตฺตํ ‘‘คพฺภาวกฺกนฺติ…เป… อวโพเธตุมฺปี’’ติ.

ปจฺจยมตฺตนฺติ ฉนฺนํ ธาตูนํ สาธารณํ ปจฺจยภาวมตฺตํ, น เตหิ ภาคโส นิปฺผาทิยมานํ ปจฺจยวิเสสํ ‘‘กุโต ปเนตํ ฉนฺนํ ธาตูน’’นฺติ อวิภาเคน วุตฺตตฺตา. เตนาห ‘‘อิทํ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิ. น มาตุ น ปิตุ ตาสํ ธาตูนํ อิมสฺส สตฺตสฺส พาหิรภาวโต. คพฺภสฺสาติ เอตฺถ คพฺภติ อตฺตภาวภาเวน วตฺตตีติ คพฺโภ, กลลาทิอวตฺโถ ธมฺมปฺปพนฺโธ. ตนฺนิสฺสิตตฺตา ปน สตฺตสนฺตาโน คพฺโภติ วุตฺโต ยถา มฺจนิสฺสิตา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. ตนฺนิสฺสยภาวโต มาตุกุจฺฉิ คพฺโภติ วุจฺจติ ‘‘คพฺเภ วสติ มาณโว’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๕.๓๖๓). คพฺโภ วิยาติ วา คพฺโภ. ยถา หิ นิวาสฏฺานตาย สตฺตานํ โอวรโก ‘‘คพฺโภ’’ติ วุจฺจติ, เอวํ คพฺภเสยฺยกานํ สตฺตานํ ยาว อภิชาติ นิวาสฏฺานตาย มาตุกุจฺฉิ ‘‘คพฺโภ’’ติ วุจฺจติ. อิธ ปน ปมํ วุตฺตอตฺเถเนว คพฺโภติ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘คพฺโภ จ นามา’’ติอาทิ.

นิรติอตฺเถน นิรโย จ โส ยถาวุตฺเตน อตฺเถน คพฺโภ จาติ นิรยคพฺโภ. เอส นโย เสสปเทสุปิ. อยํ ปน วิเสโส – เทวมนุชาทโย วิย อุทฺธํ ทีฆา อหุตฺวา ติริยํ อฺจิตา ทีฆาติ ติรจฺฉานา. เต เอว ขนฺธโกฏฺาสภาเวน โยนิ จ โส วุตฺตนเยน คพฺโภ จาติ ติรจฺฉานโยนิคพฺโภ. ปกฏฺโต สุขโต อเปตํ อปคโม เปตภาโว, ตํ ปตฺตานํ วิสโยติ เปตฺติวิสโย, เปตโยนิ. มนสฺส อุสฺสนฺนตาย สูรภาวาทิคุเณหิ อุปจิตมานสตาย อุกฺกฏฺคุณจิตฺตตาย มนุสฺสา. ทิพฺพนฺติ กามคุณาทีหิ กีฬนฺติ ลฬนฺติ โชตนฺตีติ เทวา. คพฺภสทฺโท วุตฺตนโย เอว. นานปฺปกาโรติ ยถาวุตฺเตน ตทนนฺตรเภเทน จ นานปฺปการโก. มนุสฺสคพฺโภ อธิปฺเปโต สุปากฏตาย ปจฺจกฺขภาวโต. โอกฺกนฺติ มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมิตฺวา วิย อุปฺปติตฺวาติ กตฺวา. นิพฺพตฺตนํ นิพฺพตฺติ. ปาตุภาโว อุปฺปตฺติปฺปกาสโก จ.

สนฺนิปาโต นาม อเวกลฺลชาติหีนเวกลฺเลติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิธ มาตาปิตโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. สนฺนิปติตาติ สโมธานภาวโต สนฺนิปติตา สมาคตา สํสิลิฏฺา. อุตุนีติ อุตุมตี สฺชาตปุปฺผา. อิทฺจ อุตุสมยํ สนฺธาย วุตฺตํ, น โลกสมฺากรชสฺส ลคฺคนทิวสมตฺตํ. มาตุคามสฺส หิ ยสฺมึ คพฺภาสหสฺิเต โอกาเส ทารโก นิพฺพตฺตติ, ตตฺถ มหตี โลหิตปีฬกา สณฺหิตฺวา อคฺคหิตปุพฺพา เอว ภิชฺชิตฺวา ปคฺฆรติ, วตฺถุ สุทฺธํ โหติ ปคฺฆริตโลหิตตฺตา อนามยตฺตา จ. วิสุทฺเธ วตฺถุมฺหิ มาตาปิตูสุ เอกวารํ สนฺนิปติเตสุ ยาว สตฺต ทิวสานิ เขตฺตเมว โหติ. สุทฺธํ วตฺถุ นหานโต ปรมฺปิ กติปยานิ ทิวสานิ คพฺภสณฺหนตาย เขตฺตเมว โหติ ปริตฺตสฺส โลหิตเลสสฺส วิชฺชมานตฺตา. ตสฺมึ สมเย หตฺถคฺคาหเวณิคฺคาหาทินา องฺคปรามสเนนปิ ทารโก นิพฺพตฺตติเยว. อิตฺถิสนฺตาเนปิ หิ สตฺตปิ ธาตู ลพฺภนฺเตว. ตถา หิ ปาริกาย นาภิปรามสเนน สามสฺส โพธิสตฺตสฺส, ทิฏฺมงฺคลิกาย นาภิปรามสเนน (ชา. อฏฺ. ๔.๑๕.มาตงฺคชาตกวณฺณนา; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๖๕) มณฺฑพฺยสฺส นิพฺพตฺติ อโหสิ. คนฺธนโต อุปฺปนฺนคติยา นิมิตฺตูปฏฺาเนน สูจนโต ทีปนโต คนฺโธติ ลทฺธนาเมน ภวคามิกมฺมุนา อพฺพติ ปวตฺตตีติ คนฺธพฺโพ, ตตฺถ อุปฺปชฺชมานกสตฺโต. ปจฺจุปฏฺิโต โหตีติ น มาตาปิตูนํ สนฺนิปาตํ โอโลกยมาโน สมีเป ิโต ปจฺจุปฏฺิโต นาม โหติ, กมฺมยนฺตยนฺติโต ปน เอโก สตฺโต ตสฺมึ โอกาเส นิพฺพตฺตนโก โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ตทา หิ ตตฺรูปคสตฺโต ตตฺรูปปตฺติอาวหนฺตกมฺมสงฺขาเตน เปลฺลกยนฺเตน ตถตฺถาย เปลฺลิโต อุปนีโต วิย โหติ.

วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เอตฺถ วิฺาณสฺส ปจฺจยภาเวน คหิตตฺตา ‘‘ตโย อรูปิโน ขนฺธา’’ติ วุตฺตํ. อิธ ปน วิฺาณํ ปจฺจยภาเวน อคฺคเหตฺวา คพฺโภกฺกนฺติยา เอว ปจฺจยภาเวน คหิตตฺตา ‘‘วิฺาณกฺขนฺธมฺปิ ปกฺขิปิตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อิธ ปน มนุสฺสคพฺภสฺส โอกฺกนฺติยา อธิปฺเปตตฺตา ‘‘คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ’’ติ วุตฺตํ.

ตณฺหาย สมุทยสจฺจภาเวน คหิตตฺตา ‘‘เปตฺวา ตณฺห’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺเสว ปภาวิกาติ ตสฺเสว ยถาวุตฺตสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส อุปฺปาทิกา. ทุกฺขนิโรโธติ เอตฺถ ทุกฺขคฺคหเณน ตณฺหาปิ คหิตาติ อาห ‘‘เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ…เป… ทุกฺขนิโรโธ’’ติ. อวิเสเสน หิ เตภูมกวฏฺฏํ อิธ ทุกฺขนฺติ อธิปฺเปตํ. อถ วา ทุกฺขสฺส อนุปฺปตฺตินิโรโธ ตพฺภาวิกาย ตณฺหาย อนุปฺปตฺตินิโรเธน วินา น โหตีติ วุตฺตํ ‘‘เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ…เป… ทุกฺขนิโรโธ’’ติ. อนุปฺปตฺตินิโรโธติ จ อนุปฺปตฺตินิโรธนิมิตฺตํ นิพฺพานํ ทสฺเสติ.

‘‘ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อุภยตฺถ ปาฬิยา ปวตฺติอาการเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ ปน วิเสโส’’ติ อาห. ตตฺถาติ วิสทฺธิมคฺเค. อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. อวิชฺชาย ตฺเววาติ อวิชฺชาย ตุ เอว. อเสสวิราคนิโรธาติ เอตฺถ อจฺจนฺตเมว สงฺขาเร วิรชฺชติ เอเตนาติ วิราโค, มคฺโค, ตสฺมา วิราคสงฺขาเตน มคฺเคน อเสสนิโรธา อเสเสตฺวา นิโรธา สมุจฺฉินฺทนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

สกลสฺสาติ อนวเสสสฺส. เกวลสฺสาติ วา สุทฺธสฺส, ปรปริกปฺปิตสตฺตชีวาทิวิรหิตสฺสาติ อตฺโถ. ขีณากาโรปิ วุจฺจติ ‘‘นิรุชฺฌนํ นิโรโธ’’ติ อิมินา อตฺเถน. อรหตฺตมฺปิ นิโรโธติ วุจฺจติ นิโรธนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา. นิพฺพานมฺปิ นิโรโธติ วุจฺจติ อวิชฺชาทีนํ นิโรธสฺส นิมิตฺตภาวโต อวิชฺชาทโย นิรุชฺฌนฺติ เอตฺถาติ นิโรโธติ กตฺวา. ขีณาการทสฺสนวเสนาติ อวิชฺชาทีนํ อนุปฺปตฺตินิโรเธน นิรุชฺฌนาการทสฺสนวเสน. นิพฺพานเมว สนฺธาย, น ปน อรหตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. สภาวธมฺมานํ นิคฺคโห นาม ยถาวุตฺตธมฺมปริจฺเฉทโต อูนาธิกภาวปฺปกาสเนน อตฺตสภาววิภาวเนเนว โหตีติ อาห ‘‘นิคฺคณฺหนฺโต หี’’ติอาทิ.

ติตฺถายตนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ภยสุตฺตวณฺณนา

๖๓. ทุติเย ปริตฺตาตุํ สมตฺถภาเวนาติ อุปฺปนฺนภยโต รกฺขิตุํ สมตฺถภาเวน. นตฺถิ เอตฺถ มาตาปุตฺตํ อฺมฺํ ตายิตุํ สมตฺถนฺติ อมาตาปุตฺตานิ, ตานิเยว อมาตาปุตฺติกานิ. เตนาห ‘‘นตฺถิ เอตฺถา’’ติอาทิ. นฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติ. มาตาปิ ปุตฺตํ ปสฺสิตุํ น ลภติ, ปริตฺตาตุํ น สมตฺถนฺติ อธิปฺปาโย . ปุตฺโตปิ มาตรนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. จิตฺตุตฺราโสเยว ภยํ จิตฺตุตฺราสภยํ. อิมินา โอตฺตปฺปภยาทึ นิวตฺเตติ. อฏวิคฺคหเณน อฏวิวาสิโน วุตฺตา ‘‘สพฺโพ คาโม อาคโต’’ติอาทีสุ วิยาติ อาห ‘‘อฏวีติ เจตฺถ อฏวิวาสิโน โจรา เวทิตพฺพา’’ติ. เอเตติ อฏวิวาสิโน โจรา. เอตํ วุตฺตนฺติ ‘‘อฏวิสงฺโกโป’’ติ อิทํ วุตฺตํ. านคมนาทิอิริยาปถจกฺกสมงฺคิโน อิริยาปถจกฺกสมารุฬฺหา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘อิริยาปถจกฺกมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ. อิริยาปโถเยว ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ อิริยาปถจกฺกํ.

ปริยายนฺตีติ ปริโต เตน เตน ทิสาภาเคน คจฺฉนฺติ. เตนาห ‘‘อิโต จิโต จ คจฺฉนฺตี’’ติ. มาตุเปเมน คนฺตุํ อวิสหิตฺวา อตฺตโน สนฺติกํ อาคจฺฉนฺตํ. อตฺตสิเนหสฺส พลวภาวโต มาตรมฺปิ อนเปกฺขิตฺวา ‘‘อตฺตานํเยว รกฺขิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตํ. เอกสฺมึ าเน นิลีนนฺติ วุตฺตนเยเนว คนฺตฺวา เอกสฺมึ เขเม ปเทเส นิสินฺนํ. กุลฺเล วาติอาทีสุ กูลํ ปรตีรํ วหติ ปาเปตีหิ กุลฺโล, ตรณตฺถาย เวฬุนฬาทีหิ กลาปํ กตฺวา พทฺโธ. ปตฺถริตฺวา พทฺโธ ปน อุฬุมฺโป, จาฏิอาทิ มตฺติกาภาชนํ. วุยฺหมานนฺติ อุทโกเฆน อโธโสตํ นียมานํ.

ยถาวุตฺตานิ ตีณิ ภยานิ สมาตาปุตฺติกานิเยว อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส วเสน อมาตาปุตฺติกานิ ทสฺสิตานีติ อาห ‘‘เอวํ ปริยายโต อมาตาปุตฺติกานิ ภยานิ ทสฺเสตฺวา’’ติ.

ภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เวนาคปุรสุตฺตวณฺณนา

๖๔. ตติเย เอวํนามเก ชนปเทติ ยตฺถ นามคฺคหเณน โกสลสทฺทสฺส รุฬฺหีสทฺทตํ ทสฺเสติ. ตถา หิ โกสลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺเทน ‘‘โกสลา’’ติ วุจฺจติ. อกฺขรจินฺตกา หิ อีทิเสสุ าเนสุ ยุตฺเต วิย สลิงฺควจนานิ (ปาณินิ ๑.๒.๕๑) อิจฺฉนฺติ. อยเมตฺถ รุฬฺหี ยถา อฺตฺถาปิ ‘‘กุรูสุ วิหรติ, องฺเคสุ วิหรตี’’ติ จ. ตพฺพิเสสเน ปน ชนปทสทฺเท ชาติสทฺเท เอกวจนเมว ยถา ‘‘โกสเลสุ ชนปเท’’ติ. จาริกนฺติ จรณํ. จรณํ วา จาโร, โส เอว จาริกา. ตยิทํ มคฺคคมนํ อิธาธิปฺเปตํ, น จุณฺณิกคมนมตฺตนฺติ อาห ‘‘อทฺธานคมนํ คจฺฉนฺโต’’ติ. ตํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘จาริกา จ นาเมสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทูเรปีติ ทูเรปิ นาติทูเรปิ. สหสา คมนนฺติ สีฆคมนํ. มหากสฺสปปจฺจุคฺคมนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน อาฬวกาทีนํ อตฺถาย คมนํ สงฺคณฺหาติ. ภควา หิ มหากสฺสปตฺเถรํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺโต มุหุตฺเตน ติคาวุตมคฺคมคมาสิ. อาฬวกสฺสตฺถาย ตึสโยชนํ, ตถา องฺคุลิมาลสฺส, ปุกฺกุสาติสฺส ปน ปฺจจตฺตาลีสโยชนํ, มหากปฺปินสฺส วีสโยชนสตํ, ธนิยสฺสตฺถาย สตฺต โยชนสตานิ, ธมฺมเสนาปติโน สทฺธิวิหาริกสฺส วนวาสิสฺส ติสฺสสามเณรสฺส ติคาวุตาธิกํ วีสโยชนสตํ อคมาสิ. อิมํ สนฺธายาติ อิมํ อตุริตจาริกํ สนฺธาย.

อุปลภึสูติ เอตฺถ สวนวเสน อุปลภึสูติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โสตทฺวาร…เป… ชานึสู’’ติ อาห. สพฺพมฺปิ วากฺยํ อวธารณผลตฺตา อนฺโตคธาวธารณนฺติ อาห ‘‘ปทปูรณมตฺเต วา นิปาโต’’ติ. อวธารณตฺเถนาติ ปน อิมินา อิฏฺตฺถโตวธารณตฺถํ โข-สทฺทคฺคหณนฺติ ทสฺเสติ. อสฺโสสีติ ปทํ โข-สทฺเท คหิเต เตน ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ วิย โหนฺตํ ปูริตํ นาม โหติ, เตน จ ปุริมปจฺฉิมปทานิ สํสิลิฏฺานิ นาม โหนฺติ, น ตสฺมึ อคฺคหิเตติ อาห ‘‘ปทปูรเณน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมวา’’ติ. มตฺตสทฺโท วิเสสนิวตฺติอตฺโถ. เตนสฺส อนตฺถนฺตรทีปนตา ทสฺสิตา โหติ, เอวสทฺเทน ปน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย เอกนฺติกตา.

สมิตปาปตฺตาติ อจฺจนฺตํ อนวเสสโต สวาสนํ สมิตปาปตฺตา. เอวฺหิ พาหิรกวีตราคเสกฺขาเสกฺขปาปสมนโต ภควโต ปาปสมนํ วิเสสิตํ โหติ. เตนสฺส ยถาภูตคุณาธิคตเมตํ นามํ ยทิทํ สมโณติ ทีเปติ. อเนกตฺถตฺตา นิปาตานํ อิธ อนุสฺสวตฺโถ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ขลูติ อนุสฺสวตฺเถ นิปาโต’’ติ. อาลปนมตฺตนฺติ ปิยาลาปวจนมตฺตํ. ปิยสมุทาหารา เหเต ‘‘โภ’’ติ วา ‘‘อาวุโส’’ติ วา ‘‘เทวานํ ปิยา’’ติ วา. โคตฺตวเสนาติ เอตฺถ คํ ตายตีติ โคตฺตํ. โคตโมติ หิ ปวตฺตมานํ วจนํ พุทฺธิฺจ ตายติ เอกํสิกวิสยตาย รกฺขตีติ โคตฺตํ. ยถา หิ พุทฺธิ อารมฺมณภูเตน อตฺเถน วินา น วตฺตติ, ตถา อภิธานํ อภิเธยฺยภูเตน, ตสฺมา โส โคตฺตสงฺขาโต อตฺโถ ตานิ ตายติ รกฺขตีติ วุจฺจติ. โก ปน โสติ? อฺกุลปรมฺปราสาธารณํ ตสฺส กุลสฺส อาทิปุริสสมุทาคตํ ตํกุลปริยาปนฺนสาธารณํ สามฺรูปนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ สมโณติ อิมินา ปริกฺขกชเนหิ ภควโต พหุมตภาโว ทสฺสิโต สมิตปาปตากิตฺตนโต. โคตโมติ อิมินา โลกิยชเนหิ อุจฺจากุลสมฺภูตตา ทีปิตา เตน อุทิโตทิตวิปุลขตฺติยกุลวิภาวนโต. สพฺพขตฺติยานฺหิ อาทิภูตมหาสมฺมตมหาราชโต ปฏฺาย อสมฺภินฺนํ อุฬารตมํ สกฺยราชกุลํ.

เกนจิ ปาริชุฺเนาติ าติปาริชุฺโภคปาริชุฺาทินา เกนจิปิ ปาริชุฺเน ปริหานิยา อนภิภูโต อนชฺโฌตฺถโฏ. ตถา หิ ตสฺส กุลสฺส น กิฺจิ ปาริชุฺํ โลกนาถสฺส อภิชาติยํ, อถ โข วฑฺฒิเยว. อภินิกฺขมเน จ ตโตปิ สมิทฺธตมภาโว โลเก ปากโฏ ปฺาโตติ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ อิทํ วจนํ ภควโต สทฺธาปพฺพชิตภาวทีปนํ วุตฺตํ มหนฺตํ าติปริวฏฺฏํ มหนฺตฺจ โภคกฺขนฺธํ ปหาย ปพฺพชิตภาวสิทฺธิโต.

อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถติ อิตฺถํ เอวํปกาโร ภูโต ชาโตติ เอวํ กถนตฺเถ. อุปโยควจนนฺติ ‘‘อพฺภุคฺคโต’’ติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถโชตโก, เตน โยคโต ‘‘ตํ โข ปน ภวนฺต’’นฺติ อิทํ สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ. เตนาห ‘‘ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ’’ติ. กลฺยาณคุณสมนฺนาคโตติ กลฺยาเณหิ คุเณหิ ยุตฺโต, ตนฺนิสฺสิโต ตพฺพิสยตายาติ อธิปฺปาโย. เสฏฺโติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กิตฺเตตพฺพโต กิตฺติ, สา เอว สทฺทนียโต สทฺโทติ อาห ‘‘กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติเยวา’’ติ. อภิตฺถวนวเสน ปวตฺโต สทฺโท ถุติโฆโส. สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุคฺคโตติ อนฺสาธารเณ คุเณ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อภิภวิตฺวา อุคฺคโต.

โส ภควาติ โย โส สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ เทวานํ อติเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา โลกนาโถ ภาคฺยวนฺตตาทีหิ การเณหิ สเทวเก โลเก ‘‘ภควา’’ติ ปตฺถฏกิตฺติสทฺโท, โส ภควา. ‘‘ภควา’’ติ จ อิทํ สตฺถุ นามกิตฺตนํ. เตนาห อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ ‘‘ภควาติ เนตํ นามํ มาตรา กต’’นฺติอาทิ (มหานิ. ๘๔). ปรโต ปน ภควาติ คุณกิตฺตนํ. ยถา กมฺมฏฺานิเกน ‘‘อรห’’นฺติอาทีสุ นวสุ าเนสุ ปจฺเจกํ อิติ-สทฺทํ โยเชตฺวา พุทฺธคุณา อนุสฺสริยนฺติ, เอวํ พุทฺธคุณสํกิตฺตเนนปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติปิ อรหํ อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควา’’ติ อาห. ‘‘อิติเปตํ ภูตํ อิติเปตํ ตจฺฉ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๖) วิย อิธ อิติสทฺโท อาสนฺนปจฺจกฺขกรณตฺโถ, ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน จ เตสํ คุณานํ พหุภาโว ทีปิโต, ตานิ จ สํกิตฺเตนฺเตน วิฺุนา จิตฺตสฺส สมฺมุขีภูตาเนว กตฺวา สํกิตฺเตตพฺพานีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห. เอวํ นิรูเปตฺวา กิตฺเตนฺโต โย กิตฺเตติ, ตสฺส ภควติ อติวิย อภิปฺปสาโท โหติ.

อารกตฺตาติ สุวิทูรตฺตา. อรีนนฺติ กิเลสารีนํ. อรานนฺติ สํสารจกฺกสฺส อรานํ. หตตฺตาติ วิทฺธํสิตตฺตา. ปจฺจยาทีนนฺติ จีวราทิปจฺจยานฺเจว ปูชาวิเสสานฺจ. ตโตติ วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๕-๑๒๗). ยถา จ วิสุทฺธิมคฺคโต, เอวํ ตํสํวณฺณนาโตปิ เนสํ วิตฺถาโร คเหตพฺโพ.

อิมํโลกนฺติ นยิทํ มหาชนสฺส สมฺมุขมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข อนวเสสํ ปริยาทายาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสตี’’ติ. ปชาตตฺตาติ ยถาสกํ กมฺมกิเลเสหิ นิพฺพตฺตตฺตา. ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ ปาริเสสนเยน อิตเรสํ ปทนฺตเรน คหิตตฺตา. สเทวกนฺติ จ อวยเวน วิคฺคโห สมุทาโย สมาสตฺโถ. ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ ปจฺจาสตฺตินเยน. ตตฺถ หิ โส ชาโต ตนฺนิวาสี จ. สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปจฺจตฺถิกสมณพฺราหฺมณคฺคหณนฺติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ อปจฺจตฺถิกานํ สมิตพาหิตปาปานฺจ สมณพฺราหฺมณานํ สมณพฺราหฺมณวจเนน คหิตตฺตา. กามํ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทิวิเสสนานํ วเสน สตฺตวิสโย โลกสทฺโทติ วิฺายติ ตุลฺยโยควิสยตฺตา เตสํ, ‘‘สโลมโก สปกฺขโก’’ติอาทีสุ ปน อตุลฺยโยเคปิ อยํ สมาโส ลพฺภตีติ พฺยภิจารทสฺสนโต ปชาคหณนฺติ อาห ‘‘ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณ’’นฺติ.

อรูปิโน สตฺตา อตฺตโน อาเนฺชวิหาเรน วิหรนฺตา ทิพฺพนฺตีติ เทวาติ อิมํ นิพฺพจนํ ลภนฺตีติ อาห ‘‘สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรโลโก คหิโต’’ติ. เตนาห ‘‘อากาสานฺจายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยต’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๑๑๗). สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลโก คหิโต ตสฺส สวิเสสํ มารสฺส วเส วตฺตนโต. สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปีพฺรหฺมโลโก คหิโต อรูปีพฺรหฺมโลกสฺส คหิตตฺตา. จตุปริสวเสนาติ ขตฺติยาทิจตุปริสวเสน. อิตรา ปน จตสฺโส ปริสา สมารกาทิคฺคหเณน คหิตา เอวาติ. อวเสสสตฺตโลโก นาคครุฬาทิเภโท. ตีหากาเรหีติ เทวมารพฺรหฺมสหิตตาสงฺขาเตหิ ตีหิ ปกาเรหิ. ตีสุ ปเทสูติ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทีสุ ตีสุ ปเทสุ. เตน เตนากาเรนาติ สเทวกตฺตาทินา เตน เตน ปกาเรน. เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนนฺติ โปราณา อาหูติ โยชนา.

อภิฺาติ ยการโลเปนายํ นิทฺเทโส, อภิชานิตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อภิฺาย อธิเกน าเณน ตฺวา’’ติ. อนุมานาทิปฏิกฺเขโปติ อนุมานอตฺถาปตฺติอาทิปฺปฏิกฺเขโป เอกปฺปมาณตฺตา. สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณจารตาย หิ สพฺพปจฺจกฺขา พุทฺธา ภควนฺโต.

อนุตฺตรํ วิเวกสุขนฺติ ผลสมาปตฺติสุขํ. เตน วิมิสฺสาปิ กทาจิ ภควโต ธมฺมเทสนา โหตีติ ‘‘หิตฺวาปี’’ติ ปิ-สทฺทคฺคหณํ. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต ยสฺมึ ขเณ ปริสา สาธุการํ วา เทติ, ยถาสุตํ วา ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขติ, ตํ ขณํ ปุพฺพภาเคน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ยถาปริจฺเฉทฺจ สมาปตฺติโต วุฏฺาย ิตฏฺานโต ปฏฺาย ธมฺมํ เทเสติ. อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโตติ อุคฺฆฏิตฺุสฺส วเสน อปฺปํ วา, วิปฺจิตฺุสฺส เนยฺยสฺส วา วเสน พหุํ วา เทเสนฺโต. ธมฺมสฺส กลฺยาณตา จ นิยฺยานิกตา จ สพฺพโส อนวชฺชภาเวเนวาติ อาห ‘‘อนวชฺชเมว กตฺวา’’ติ.

เทสกายตฺเตน อาณาทิวิธินา อติสชฺชนํ ปโพธนํ เทสนาติ สา ปริยตฺติธมฺมวเสน เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘เทสนาย ตาว จาตุปฺปทิกคาถายปี’’ติอาทิ. นิทานนิคมานิปิ สตฺถุ เทสนาย อนุวิธานโต ตทนฺโตคธานิ เอวาติ อาห ‘‘นิทานํ อาทิ, อิทมโวจาติ ปริโยสาน’’นฺติ.

สาสิตพฺพปุคฺคลคเตน ยถาปราธาทิสาสิตพฺพภาเวน อนุสาสนํ ตทงฺควินยาทิวเสน วินยนํ สาสนนฺติ ตํ ปฏิปตฺติธมฺมวเสน เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สีลสมาธิวิปสฺสนา’’ติอาทิ. กุสลานนฺติ อนวชฺชธมฺมานํ สีลสมถวิปสฺสนานํ สีลทิฏฺีนฺจ อาทิภาโว ตํมูลิกตฺตา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ. อริยมคฺคสฺส อนฺตทฺวยวิคเมน มชฺฌิมาปฏิปทาภาโว วิย สมฺมาปฏิปตฺติยา อารพฺภ นิพฺพตฺตีนํ เวมชฺฌตาปิ มชฺฌภาโวติ วุตฺตํ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว…เป… มชฺฌิมํ นามา’’ติ. ผลํ ปริโยสานํ นาม สอุปาทิเสสตาวเสน. นิพฺพานํ ปริโยสานํ นาม อนุปาทิเสสตาวเสน. อิทานิ เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ สาสนสฺส ปริโยสานตํ อาคเมน ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมาติห ตฺว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติอาทิวจนโต ธมฺมเทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อิธ…เป… อธิปฺเปต’’นฺติ. ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ กถาวธิสทฺทปฺปพนฺโธ คาถาวเสน สุตฺตวเสน จ ววตฺถิโต ปริยตฺติธมฺโม, โส อิธ เทสนาติ วุตฺโต, ตสฺส ปน อตฺโถ วิเสสโต สีลาทิ เอวาติ อาห ‘‘ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ตตฺถ สีลํ ทสฺเสตฺวาติ สีลคฺคหเณน สสมฺภารํ สีลํ คหิตํ, ตถา มคฺคคฺคหเณน สสมฺภาโร มคฺโคติ ตทุภยวเสน อนวเสสโต ปริยตฺติอตฺถํ ปริยาทาย ติฏฺติ. เตนาติ สีลาทิทสฺสเนน. อตฺถวเสน หิ อิธ เทสนาย อาทิกลฺยาณาทิภาโว อธิปฺเปโต. กถิกสณฺิตีติ กถิกสฺส สณฺานํ กถนวเสน สมวฏฺานํ.

น โส สาตฺถํ เทเสติ นิยฺยานตฺถวิรหโต ตสฺสา เทสนาย. เอกพฺยฺชนาทิยุตฺตา วาติ สิถิลาทิเภเทสุ พฺยฺชเนสุ เอกปฺปกาเรเนว ทฺวิปฺปกาเรเนว วา พฺยฺชเนน ยุตฺตา ทมิฬภาสา วิย. วิวฏกรณตาย โอฏฺเ อผุสาเปตฺวา อุจฺจาเรตพฺพโต สพฺพนิโรฏฺพฺยฺชนา วา กิราตภาสา วิย. สพฺพสฺเสว วิสฺสชฺชนียยุตฺตตาย สพฺพวิสฺสฏฺพฺยฺชนาวา ยวนภาสา วิย. สพฺพสฺเสว สานุสารตาย สพฺพนิคฺคหิตพฺยฺชนา วา ปารสิกาทิมิลกฺขภาสา วิย. สพฺพาเปสา พฺยฺชเนกเทสวเสเนว ปวตฺติยา อปริปุณฺณพฺยฺชนาติ กตฺวา ‘‘อพฺยฺชนา’’ติ วุตฺตา.

านกรณานิ สิถิลานิ กตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ อกฺขรํ ปฺจสุ วคฺเคสุ ปมตติยนฺติ เอวมาทิ สิถิลํ. ตานิ อสิถิลานิ กตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ อกฺขรํ วคฺเคสุ ทุติยจตุตฺถนฺติ เอวมาทิ ธนิตํ. ทฺวิมตฺตกาลํ ทีฆํ. เอกมตฺตกาลํ รสฺสํ. ตเทว ลหุกํ ลหุกเมว. สํโยคปรํ ทีฆฺจ ครุกํ. านกรณานิ นิคฺคเหตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ นิคฺคหิตํ. ปเรน สมฺพนฺธํ กตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ สมฺพนฺธํ. ตถา น สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ. านกรณานิ วิสฺสฏฺานิ กตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ วิมุตฺตํ. ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโทติ เอวํ สิถิลาทิวเสน พฺยฺชนพุทฺธิยา อกฺขรุปฺปาทกจิตฺตสฺส ทสปฺปกาเรน ปเภโท. สพฺพานิ หิ อกฺขรานิ จิตฺตสมุฏฺานานิ ยถาธิปฺเปตตฺถพฺยฺชนโต พฺยฺชนานิ จ.

อมกฺเขตฺวาติ อมิเลจฺเฉตฺวา, อวินาเสตฺวา, อหาเปตฺวาติ อตฺโถ. ภควา ยมตฺถํ าเปตุํ เอกคาถํ เอกวากฺยมฺปิ เทเสติ, ตมตฺถํ ตาย เทสนาย ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนาย เอว เทเสตีติ อาห ‘‘ปริปุณฺณพฺยฺชนเมว กตฺวา ธมฺมํ เทเสตี’’ติ. อิธ เกวลสทฺโท อนวเสสวาจโก, น อโวมิสฺสตาทิวาจโกติ อาห ‘‘สกลาธิวจน’’นฺติ. ปริปุณฺณนฺติ สพฺพโส ปุณฺณํ. ตํ ปน กิฺจิ อูนํ วา อธิกํ วา น โหตีติ ‘‘อนูนาธิกวจน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยทตฺถํ เทสิตํ, ตสฺส สาธกตฺตา อนูนตา เวทิตพฺพา, ตพฺพิธุรสฺส ปน อสาธกตฺตา อนธิกตา. สกลนฺติ สพฺพภาควนฺตํ. ปริปุณฺณเมวาติ สพฺพโส ปริปุณฺณเมว. เตนาห ‘‘เอกเทสนาปิ อปริปุณฺณา นตฺถี’’ติ. อปริสุทฺธา เทสนา นาม โหติ ตณฺหาสํกิเลสตฺตา. โลกามิสํ จีวราทโย ปจฺจยา, ตตฺถ อคธิตจิตฺตตาย โลกามิสนิรเปกฺโข. หิตผรเณนาติ หิตูปสํหรเณน. เมตฺตาภาวนาย มุทุหทโยติ เมตฺตาภาวนาย กรุณาย วา มุทุหทโย. อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตนาติ สกลสํกิเลสโต วฏฺฏทุกฺขโต จ อุทฺธรณาการาวฏฺิเตน จิตฺเตน, กรุณาธิปฺปาเยนาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สกลํ สาสนํ อิธ พฺรหฺมจริยนฺติ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา. พฺรหฺมจริยนฺติ อิมินา สมานาธิกรณานิ สพฺพปทานิ โยเชตฺวา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ…เป… ปกาเสตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ อาห.

สุนฺทรนฺติ ภทฺทกํ. ภทฺทกตา จ ปสฺสนฺตสฺส หิตสุขาวหภาเวน เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘อตฺถาวหํ สุขาวห’’นฺติ. ตตฺถ อตฺถาวหนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถสํหิตหิตาวหํ. สุขาวหนฺติ ยถาวุตฺตติวิธสุขาวหํ. ตถานุรูปานนฺติ ตาทิสานํ. ยาทิเสหิ ปน คุเณหิ ภควา สมนฺนาคโต, เตหิ จตุปฺปมาณิกสฺส โลกสฺส สพฺพถาปิ อจฺจนฺตปฺปสาทนีโย เตสํ ยถาภูตสภาวตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถารูโป’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยถาภูต…เป… อรหตนฺติ อิมินา ธมฺมปฺปมาณลูขปฺปมาณานํ สตฺตานํ ภควโต ปสาทาวหตา ทสฺสิตา, อิตเรน อิตเรสํ. ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ เอตฺถ โกสิยวตฺถุ กเถตพฺพํ. อุภโตปกฺขิกาติ มิจฺฉาทิฏฺิสมฺมาทิฏฺิวเสน อุภยปกฺขิกา. เกราฏิกาติ สา.

อเนกตฺถตฺตา นิปาตานํ ยาวฺจิทนฺติ นิปาตสมุทาโย อธิมตฺตปฺปมาณปริจฺเฉทํ ทีเปตีติ อาห ‘‘อธิมตฺตปฺปมาณปริจฺเฉทวจนเมต’’นฺติ. อธิมตฺตวิปฺปสนฺนานีติ อธิกปฺปมาเณน วิปฺปสนฺนานิ. วิปฺปสนฺนานีติ จ ปกติอาการํ อติกฺกมิตฺวา วิปฺปสนฺนานีติ อตฺโถ. นนุ จ จกฺขาทีนํ อินฺทฺริยานํ มโนวิฺเยฺยตฺตา กถํ เตน เตสํ วิปฺปสนฺนตา วิฺายตีติ อาห ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิ. ตสฺสาติ พฺราหฺมณสฺส. เตสนฺติ จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ. เอวมฺปิ มนินฺทฺริเยน ปติฏฺิโตกาสสฺส อทิฏฺตฺตา กถํ มนินฺทฺริยสฺส วิปฺปสนฺนตา เตน วิฺายตีติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. นยคฺคาหปฺา เหสา ตสฺส พฺราหฺมณสฺส. มเน วิปฺปสนฺเนเยว โหติ ปสนฺนจิตฺตสมุฏฺิตรูปสมฺปทาหิ เอว จกฺขาทีนํ ปติฏฺิโตกาสสฺส ปสนฺนตาสมฺภวโต.

ชมฺโพนทสุวณฺณํ รตฺตวณฺณเมว โหตีติ อาห ‘‘สุรตฺตวณฺณสฺสา’’ติ. ชมฺโพนทสุวณฺณสฺส ฆฏิกาติ ชมฺโพนทสุวณฺณปิณฺฑํ. อิมินา เนกฺขนฺติ เนกฺขปฺปมาณชมฺโพนทสุวณฺเณน กตํ อกตภณฺฑํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. เนกฺขนฺติ วา อติเรกปฺจสุวณฺเณน กตปิลนฺธนํ กตภณฺฑํ วุตฺตํ. ตฺหิ ฆฏฺฏนมชฺชนกฺขมํ โหตีติ. สุวณฺณนฺติ จ ปฺจธรณสฺส สมฺา, ตสฺมา ปฺจวีสติธรณหิรฺวิจิตํ อาภรณํ อิธ เนกฺขนฺติ อธิปฺเปตํ. ชมฺโพนทนฺติ มหาชมฺพุสาขาย ปวตฺตนทิยํ นิพฺพตฺตํ. ตํ กิร รตนํ รตฺตํ. สุวณฺณากาเร มหาชมฺพุผลรเส วา ปถวิยํ ปวิฏฺเ สุวณฺณงฺกุรา อุฏฺหนฺติ, เตน สุวณฺเณน กตปิลนฺธนนฺติปิ อตฺโถ. สุปริกมฺมกตนฺติ สุฏฺุ กตปริกมฺมํ. สมฺปหฏฺนฺติ สมฺมา ปหฏฺํ ฆฏฺฏนาทิวเสน สุกตปริกมฺมํ. เตนาห ‘‘สุวณฺณการ…เป… สุปริมชฺชิตนฺติ อตฺโถ’’ติ.

วาฬรูปานีติ อาหริมานิ วาฬรูปานิ. ‘‘อกปฺปิยรูปากุโล อกปฺปิยมฺโจ ปลฺลงฺโกติ สารสมาเส. รตนจิตฺรนฺติ ภิตฺติจฺเฉทาทิวเสน รตนจิตฺรํ. รุกฺขตูลลตาตูลโปฏกิตูลานํ วเสน ติณฺณํ ตูลานํ. อุทฺทโลมิยํ เกจีติ สารสมาสาจริยา อุตฺตรวิหาริโน จ. ตถา เอกนฺตโลมิยํ. โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยนฺติ โกเสยฺยกสฏมยํ. อชินจมฺเมหีติ อชินมิคจมฺเมหิ. ตานิ กิร จมฺมานิ สุขุมตรานิ. ตสฺมา ทุปฏฺฏติปฏฺฏานิ กตฺวา สิพฺพนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชินปฺปเวณี’’ติอาทิ.

นิกามลาภีติ ยถิจฺฉิตลาภี. เตนาห ‘‘อิจฺฉิติจฺฉิตลาภี’’ติ. วิปุลลาภีติ อุฬารลาภี. กสิรนฺติ หิ ปริตฺตํ วุจฺจติ, ตปฺปฏิกฺเขเปน อกสิรํ อุฬารํ. เตนาห ‘‘มหนฺตลาภี’’ติอาทิ.

ลทฺธา จ น กปฺปนฺตีติ สามฺเน ปฏิสิทฺธตฺตา สพฺพถา น กปฺปตีติ กสฺสจิ อาสงฺกา สิยา, ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘กิฺจิ กิฺจิ กปฺปตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุทฺธโกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพนรหิตํ. เอตฺถ จ ‘‘สุทฺธโกเสยฺยํ ปน วฏฺฏตี’’ติ วินเย (มหาว. อฏฺ. ๒๕๔) วุตฺตตฺตา อิธาปิ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) ปน ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ สพฺพาเนว โคนกาทีนิ รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เปตฺวา ตูลิก’’นฺติ เอเตน รตนสิพฺพนรหิตาปี ตูลิกา น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. วจนโตติ เอเตน วินเย (จูฬว. ๒๙๗) วุตฺตภาวํ ทสฺเสติ. เอเกน วิธาเนนาติ ยถาวุตฺตเมว วิธานํ สนฺธาย วทติ. ยทิ เอวํ กสฺมา ภควตา ‘‘ลทฺธา จ น กปฺปนฺตี’’ติ สามฺเน ปฏิเสโธ กโตติ อาห ‘‘อกปฺปิยํ ปน อุปาทายา’’ติอาทิ.

ปลฺลงฺกนฺติ เอตฺถ ปริ-สทฺโท สมนฺตโตติ เอตสฺมึ อตฺเถ วตฺตติ, ตสฺมา วามูรุํ ทกฺขิณูรุฺจ สมํ เปตฺวา อุโภ ปาเท อฺมฺสมฺพนฺเธ กตฺวา นิสชฺชา ปลฺลงฺกนฺติ อาห ‘‘สมนฺตโต อูรุพทฺธาสน’’นฺติ. อูรูนํ พนฺธนวเสน นิสชฺชา. ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติ จ ยถา ปลฺลงฺกวเสน นิสชฺชา โหติ, เอวํ อุโภ ปาเท อาภุเช สมิฺชิเต กตฺวาติ อตฺโถ. ตํ ปน อุภินฺนํ ปาทานํ ตถา สมฺพนฺธตากรณนฺติ อาห ‘‘พนฺธิตฺวา’’ติ. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมํ สรีรํ อุชุกํ เปตฺวา อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ, วุทฺธึ ผาตึ คจฺฉติ. เตนาห ‘‘อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก’’ติอาทิ. อุชุํ กายํ เปตฺวาติ อุปริมํ กายํ อุชุกํ เปตฺวา, อยเมว วา ปาโ. เหฏฺิมกายสฺส หิ อนุชุกฏฺปนํ นิสชฺชาวจเนเนว โพธิตนฺติ. อุชุํ กายนฺติ เอตฺถ กาย-สทฺโท อุปริมกายวิสโย.

ปริมุขนฺติ เอตฺถ ปริ-สทฺโท อภิสทฺเทน สมานตฺโถติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานาภิมุข’’นฺติ, พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมณโต นิวาเรตฺวา กมฺมฏฺานํเยว ปุรกฺขตฺวาติ อตฺโถ. เอตฺถ ยถา ‘‘วนนฺตฺเว ปวิสามี’’ติอาทินา ภาวนานุรูปํ เสนาสนํ ทสฺสิตํ, เอวํ ‘‘นิสีทามี’’ติ อิมินา อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิโย สนฺโต อิริยาปโถ ทสฺสิโต, ‘‘ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา’’ติ อิมินา นิสชฺชาย ทฬฺหภาโว, ‘‘ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ อิมินา อารมฺมณปริคฺคหูปาโย. ปริคฺคหิตนิยฺยานนฺติ สพฺพถา คหิตาสมฺโมสํ ปริจฺจตฺตสมฺโมสํ สตึ กตฺวา, ปรมสติเนปกฺกํ อุปฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ ‘‘ปริณายิกา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๖.๒๐) วิย. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ ‘‘สุฺตวิโมกฺข’’นฺติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙-๒๑๐) วิย. ปฏิปกฺขโต นิคฺคมนฏฺโ หิ นิยฺยานฏฺโ.

จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ ทิพฺพภาวาวหตฺตา ทิพฺพวิหารา นาม โหนฺตีติ ตทาสนฺนปฺปวตฺตจงฺกโมปิ ตทุปจารโต ทิพฺโพ นาม โหตีติ อาห ‘‘จตฺตาริ หิ รูปชฺฌานานี’’ติอาทิ. สมาปชฺชิตฺวา จงฺกมนฺตสฺสาติ อิทฺจ จงฺกมนฺตสฺส อนฺตรนฺตรา สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา อุฏฺายุฏฺาย จงฺกมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา อวุฏฺิเตน สกฺกา จงฺกมิตุํ. สมาปตฺติโต วุฏฺาย จงฺกมนฺตสฺสปิ จงฺกโมติ อิทํ ปน สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา อนฺตรนฺตรา สมาปชฺชิตฺวา จงฺกมนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. ทฺวีสุวิหาเรสูติ พฺรหฺมวิหาเร, อริยวิหาเร จ. เมตฺตาฌานาทโย หิตูปสํหาราทิวเสน ปวตฺติยา พฺรหฺมภูตา เสฏฺภูตา วิหาราติ พฺรหฺมวิหารา. อนฺสาธารณตฺตา ปน อริยานํ วิหาราติ อริยวิหารา, จตสฺโสปิ ผลสมาปตฺติโย. อิธ ปน อรหตฺตผลสมาปตฺติเยว อาคตา.

ปจฺจเวกฺขณาย ผลสมาปตฺติ กถิตา สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺิตสฺส ปจฺจเวกฺขณาสมฺภวโต. จงฺกมาทโยติ ผลสมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺสปิ สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺสปิ จงฺกมฏฺานนิสชฺชาทโย. อริยจงฺกมาทโย โหนฺติ น ปน ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย.

เวนาคปุรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สรภสุตฺตวณฺณนา

๖๕. จตุตฺเถ คิชฺฌา เอตฺถ สนฺตีติ คิชฺฌํ, กูฏํ. ตํ เอตสฺสาติ คิชฺฌกูโฏ. คิชฺโฌ วิยาติ วา คิชฺฌํ, กูฏํ. ตํ เอตสฺสาติ คิชฺฌกูโฏ, ปพฺพโต. ตสฺมึ คิชฺฌกูเฏ. เตนาห ‘‘คิชฺฌาวา’’ติอาทิ. อจิรปกฺกนฺโตติ เอตฺถ น เทสนฺตรปกฺกมนํ อธิปฺเปตํ, อถ โข สาสนปกฺกมนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา’’ติอาทิมาห, เตเนว หิ ‘‘อิมสฺสา ธมฺมวินยา’’ติ วุตฺตํ. ลพฺภตีติ ลาโภ, จตุนฺนํ ปจฺจยานเมตํ อธิวจนํ. สกฺกจฺจํ กาตพฺโพ ทาตพฺโพติ สกฺกาโร. ปจฺจยา เอว หิ ปณีตปณีตา สุนฺทรสุนฺทรา อภิสงฺขริตฺวา กตา สกฺการาติ วุจฺจนฺติ. สกฺกาโรติ วา สุนฺทรกาโร, ปเรหิ อตฺตโน คารวกิริยา ปุปฺผาทีหิ วา ปูชา. ลาโภ จ สกฺกาโร จ ลาภสกฺการา, เต นฏฺา ปหีนา เอเตสนฺติ นฏฺลาภสกฺการา.

มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชีติ ตทา กิร ภควโต มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ ยถา ตํ จตฺตาโร อสงฺเขยฺเย ปูริตทานปารมิสฺจยสฺส. สพฺพทิสาสุ หิ ยมกมหาเมโฆ วุฏฺหิตฺวา มโหโฆ วิย สพฺพปารมิโย ‘‘เอกสฺมึ อตฺตภาเว วิปากํ ทสฺสามา’’ติ สมฺปิณฺฑิตา วิย ลาภสกฺการมโหฆํ นิพฺพตฺตยึสุ. ตโต ตโต อนฺนปานยานวตฺถมาลาคนฺธวิเลปนาทิหตฺถา ขตฺติยพฺราหฺมณาทโย อาคนฺตฺวา ‘‘กหํ พุทฺโธ , กหํ ภควา, กหํ เทวเทโว นราสโภ ปุริสสีโห’’ติ ภควนฺตํ ปริเยสนฺติ, สกฏสเตหิปิ ปจฺจเย อาหริตฺวา โอกาสํ อลภมานา สมนฺตา คาวุตปฺปมาณมฺปิ สกฏธุเรน สกฏธุรํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ เจว อนุพนฺธนฺติ จ อนฺธกวินฺทพฺราหฺมโณ วิย. ยถา จ ภควโต, เอวํ ภิกฺขุสงฺฆสฺสปิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, ภิกฺขุสงฺโฆปิ สกฺกโต โหติ…เป… ปริกฺขาราน’’นฺติ (อุทา. ๓๘).

ตถา –

‘‘ยาวตา โข ปน, จุนฺท, เอตรหิ สงฺโฆ วา คโณ วา โลเก อุปฺปนฺโน, นาหํ, จุนฺท, อฺํ เอกํ สงฺฆมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ ยถริวายํ, จุนฺท, ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๗๖).

สฺวายํ ภควโต จ สงฺฆสฺส จ อุปฺปนฺโน ลาภสกฺกาโร เอกโต หุตฺวา ทฺวินฺนํ มหานทีนํ อุทกํ วิย อปฺปเมยฺโย อโหสิ, ภควโต ปน ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อุปฺปนฺโน ลาภสกฺกาโร ธมฺมสฺสปิ อุปฺปนฺโนเยว. ธมฺมธรานฺหิ กโต สกฺกาโร ธมฺมสฺส กโต นาม โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ติณฺณํ รตนานํ มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชี’’ติ.

วุตฺตมตฺถํ ปาฬิยา นิทสฺเสนฺโต ‘‘ยถาหา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สกฺกโตติ สกฺการปฺปตฺโต. ยสฺส หิ จตฺตาโร ปจฺจเย สกฺกตฺวา สุอภิสงฺขเต ปณีตปณีเต อุปเนติ, โส สกฺกโต. ครุกโตติ ครุภาวเหตูนํ อุตฺตมคุณานํ มตฺถกปฺปตฺติยา อนฺสาธารเณน ครุกาเรน สพฺพเทวมนุสฺเสหิ ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุกโต. ยสฺมิฺหิ ครุภาวํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา ปจฺจเย เทนฺติ, โส ครุกโต. มานิโตติ สมฺมาปฏิปตฺติยา มานิโต มเนน ปิยายิโต. ตาย หิ วิฺูนํ มนาปตา. ปูชิโตติ มานนาทิปูชาย เจว จตุปจฺจยปูชาย จ ปูชิโต. ยสฺส หิ สพฺพเมตํ ปูชนฺจ กโรนฺติ, โส ปูชิโต. อปจิโตติ นีจวุตฺติกรเณน อปจิโต. สตฺถารฺหิ ทิสฺวา มนุสฺสา หตฺถิกฺขนฺธาทีหิ โอตรนฺติ, มคฺคํ เทนฺติ, อํสกูฏโต สาฏกํ อปเนนฺติ. อาสนโต วุฏฺหนฺติ, วนฺทนฺตีติ เอวํ โส เตหิ อปจิโต นาม โหติ.

อวณฺณํ ปตฺถริตฺวาติ อวณฺณํ ตตฺถ ตตฺถ สํกิตฺตนวเสน ปตฺถริตฺวา. อาวฏฺฏนิมายนฺติ อาวฏฺเฏตฺวา คหณมายํ. อาวฏฺเฏติ ปุริมาการโต นิวตฺเตติ อตฺตโน วเส วตฺเตติ เอตายาติ อาวฏฺฏนี, มายา, ตํ อาวฏฺฏนิมายํ โอสาเรตฺวา ปริชปฺเปตฺวาติ อตฺโถ. โกฏิโต ปฏฺายาติ อนฺติมโกฏิโต ปฏฺาย. ถทฺธกาเยน ผรุสวาจาย ติณฺณํ รตนานํ อวณฺณกถนํ อนตฺถาวหตฺตา วิสสิฺจนสทิสา โหตีติ อาห ‘‘วิสํ สิฺจิตฺวา’’ติ. อฺาโตติ อาาโต. เตนาห ‘‘าโต’’ติอาทิ.

กายงฺคนฺติ กายเมว องฺคํ, กายสฺส วา องฺคํ, สีสาทิ. วาจงฺคนฺติ ‘‘โหตุ, สาธู’’ติ เอวมาทิวาจาย อวยวํ. เอกเกนาติ อสหาเยน. อิมสฺส ปนตฺถสฺสาติ ‘‘จริยํ จรณกาเล’’ติอาทินา วุตฺตสฺส. ยโต ยโต ครุ ธุรนฺติ ยสฺมึ ยสฺมึ าเน ธุรํ ครุ ภาริกํ โหติ, อฺเ พลิพทฺทา อุกฺขิปิตุํ น สกฺโกนฺติ. ยโต คมฺภีรวตฺตนีติ วตฺตนฺติ เอตฺถาติ วตฺตนี, ทุมฺมคฺคสฺเสตํ นามํ, ยสฺมึ าเน อุทกจิกฺขลฺลมหนฺตตาย วา วิสมจฺฉินฺนตฏภาเวน วา มคฺโค คมฺภีโร โหตีติ อตฺโถ. ตทาสฺสุ กณฺหํ ยุฺเชนฺตีติ อสฺสูติ นิปาตมตฺตํ, ตทา กณฺหํ ยุฺเชนฺตีติ อตฺโถ. ยทา ธุรฺจ ครุ โหติ มคฺโค จ คมฺภีโร, ตทา อฺเ พลิพทฺเท อปเนตฺวา กณฺหเมว ยุฺเชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สฺวาสฺสุ ตํ วหเต ธุรนฺติ เอตฺถปิ อสฺสูติ นิปาตมตฺตเมว, โส ตํ ธุรํ วหตีติ อตฺโถ.

เคหเวตนนฺติ เคเห นิวุฏฺภาวเหตุ ทาตพฺพํ. กาฬโก นาม นาเมนาติ อฺชนวณฺโณ กิเรส, เตนสฺส ‘‘กาฬโก’’ติ นามํ อกํสุ. กาฬกํ อุปสงฺกมิตฺวา อาหาติ กาฬโก กิร เอกทิวสํ จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ มาตา ทุคฺคตา มํ ปุตฺตฏฺาเน เปตฺวา ทุกฺเขน โปเสติ, ยํนูนาหํ ภตึ กตฺวา อิมํ ทุคฺคตภาวโต โมเจยฺย’’นฺติ. โส ตโต ปฏฺาย ภตึ อุปธาเรนฺโต วิจรติ. อถ ตสฺมึ ทิวเส คามโครูเปหิ สทฺธึ ตตฺถ สมีเป จรติ. สตฺถวาหปุตฺโตปิ โคสุตฺตวิตฺตโก, โส ‘‘อตฺถิ นุ โข เอเตสํ คุนฺนํ อนฺตเร สกฏานิ อุตฺตาเรตุํ สมตฺโถ อุสภาชานีโย’’ติ อุปธารยมาโน โพธิสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อาชานีโย สกฺขิสฺสติ มยฺหํ สกฏานิ อุตฺตาเรตุ’’นฺติ อฺาสิ. เตน ตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห. โส อฺเสํ…เป… เคหเมว อคมาสีติ ตทา กิร คามทารกา ‘‘กึ นาเมตํ กาฬกสฺส คเล’’ติ ตสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉนฺติ. โส เต อนุพนฺธิตฺวา ทูรโตว ปลาเปนฺโต มาตุ สนฺติกํ คโต. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

สายนฺหสมยนฺติ สายนฺหกาเล. ภุมฺมตฺเถ เอตํ อุปโยควจนํ. น เหตฺถ อจฺจนฺตสํโยโค สมฺภวติ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เอตฺถ เตหิ เตหิ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกอุปาสกอุปาสิกาทิสตฺเตหิ เจว รูปารมฺมณาทิสงฺขาเรหิ จ ปฏินิวตฺเตตฺวา อปสกฺกิตฺวา นิลียนํ วิเวจนํ กายจิตฺเตหิ ตโต วิวิตฺตตาย ปฏิสลฺลานํ กายวิเวโก, จิตฺตวิเวโก จ. โย ตโต ทุวิธวิเวกโต วุฏฺิโต ภวงฺคปฺปตฺติยา สพฺรหฺมจารีหิ สมาคเมน จ อเปโต. โส ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต นาม โหติ. อยํ ปน ยสฺมา ปฏิสลฺลานานํ อุตฺตมโต ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาสิ, ตสฺมา ‘‘ผลสมาปตฺติโต’’ติ วุตฺตํ. กายสกฺขิโน ภวิสฺสามาติ นามกาเยน เทสนาสมฺปฏิจฺฉนวเสน สกฺขิภูตา ภวิสฺสาม. นนุ จ ‘‘ปฺตฺเต อาสเน นิสีที’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ. ติตฺถิยา หิ ภควโต ปฏิปกฺขา, เต กสฺมา ตสฺส อาสนํ ปฺาเปนฺตีติ อาห ‘‘ตถาคโต หี’’ติอาทิ.

วิคฺคาหิกกถนฺติ วิคฺคาหสํวตฺตนิกํ สารมฺภกถํ. อายาเจยฺยาสีติ วจีเภทํ กตฺวา ยาเจยฺยาสิ. ปตฺเถยฺยาสีติ มนสา อาสีเสยฺยาสิ. ปิเหยฺยาสีติ ตสฺเสว เววจนํ. นิตฺเตชตํ อาปนฺโนติ เตชหานิยา นิตฺเตชภาวํ อาปนฺโน, นิตฺเตชภูโตติ อตฺโถ. ตโต เอว ภิกฺขุอาทโยปิ สมฺมุขา โอโลเกตุํ อสมตฺถตาย ปตฺตกฺขนฺโธ, ปติตกฺขนฺโธติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘โอนตคีโว’’ติ. ทสฺสิตธมฺเมสูติ วุตฺตธมฺเมสุ. วจนมตฺตเมว หิ เตสํ, น ปน ทสฺสนํ ตาทิสสฺเสว ธมฺมสฺส อภาวโต. ภควโต เอว วา ‘‘อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’’ติ ปรสฺส วจนวเสน ทสฺสิตธมฺเมสุ. ปฏิจริสฺสตีติ ปฏิจฺฉาทนวเส จริสฺสติ ปวตฺติสฺสติ, ปฏิจฺฉาทนตฺโถ เอว วา จรติ-สทฺโท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ อาห ‘‘ปฏิจฺฉาเทสฺสตี’’ติ. อฺเนวา อฺนฺติ ปน ปฏิจฺฉาทนาการทสฺสนนฺติ อาห ‘‘อฺเน วา วจเนนา’’ติอาทิ.

ตตฺถ อฺํ วจนนฺติ ยํ สมนุยุฺชนฺเตน ภควตา ปรสฺส โทสวิภาวนํ วจนํ วุตฺตํ, ตํ ตโต อฺเเนว วจเนน ปฏิจฺฉาเทติ. ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ โจทเกน วุตฺตวจนํ วิย ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน, กํ ภณถ, กึ ภณถา’’ติอาทิวจเนน อฺํ อาคนฺตุกกถํ อาหรนฺโต ‘‘ตฺวํ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘ปาฏลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น ตว ปาฏลิปุตฺตคมนํ ปุจฺฉาม, อาปตฺตึ ปุจฺฉามา’’ติ วุตฺเต ตโต ราชคหํ คโตมฺหิ. ราชคหํ วา ยาหิ พฺราหฺมณเคหํ วา, อาปตฺตึ อาปนฺโนสีติ. ‘‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’’นฺติอาทีนิ วทนฺโต วิย สมนุยุฺชเกน วุตฺตวจนโต อฺํ อาคนฺตุกกถํ อาหรนฺโต อปนาเมสฺสติ, วิกฺเขปํ คมยิสฺสติ. อปฺปตีตา โหนฺติ เตน อตุฏฺา อโสมนสฺสิกาติ อปจฺจโย, โทมนสฺเสตํ อธิวจนํ. เนว อตฺตโน, น ปเรสํ หิตํ อภิราธยตีติ อนภิรทฺธิ, โทมนสฺสเมว. เตเนวาห ‘‘อปจฺจเยน โทมนสฺสํ วุตฺต’’นฺติ.

ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺเทน จตุสจฺจธมฺโม วุตฺโตติ อาห ‘‘ยสฺส มคฺคสฺส วา ผลสฺส วา อตฺถายา’’ติ. จตุสจฺจธมฺโม หิ มคฺคผลาธิคมตฺถาย เทสียติ. น นิคฺคจฺฉตีติ น ปวตฺเตติ. นฺติ นํ ธมฺมํ. อิทานิ ‘‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต’’ติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺเทน ปฏิปตฺติธมฺโม ทสฺสิโต, น ปน จตุสจฺจธมฺโมติ อธิปฺปาเยน อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ปฺจ ธมฺมาติ คมฺภีราณจริยภูตานํ ขนฺธาทีนํ อุคฺคหสวนธารณปริจยโยนิโสมนสิกาเร สนฺธายาห. ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ เอตฺถ สมฺมาสทฺโท อุภยตฺถาปิ โยเชตพฺโพ ‘‘สมฺมา ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. โย หิ สมฺมา ธมฺมํ ปฏิปชฺชติ, ตสฺเสว สมฺมา ทุกฺขกฺขโย โหตีติ. โย ปน วุตฺตนเยน ตกฺกโร, ตสฺส นิยฺยานํ อตฺถโต ธมฺมสฺเสว นิยฺยานนฺติ ตปฺปฏิกฺเขเปน ‘‘โส ธมฺโม…เป… น นิยฺยาติ น นิคฺคจฺฉตี’’ติ อาห.

ยทิ ติรจฺฉานสีหสฺส นาโท สพฺพติรจฺฉานเอกจฺจมนุสฺสามนุสฺสนาทโต เสฏฺตฺตา เสฏฺนาโท, กิมงฺคํ ปน ตถาคตสีหสฺส นาโทติ อาห ‘‘สีหนาทนฺติ เสฏฺนาท’’นฺติ. ยทิ วา ติรจฺฉานสีหนาทสฺส เสฏฺนาทตา นิพฺภยตาย อปฺปฏิสตฺตุตาย อิจฺฉิตา, ตถาคตสีหนาทสฺเสว อยมตฺโถ สาติสโยติ อาห ‘‘อภีตนาทํ อปฺปฏินาท’’นฺติ. ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๑๒๙; อ. นิ. ๑.๒๖๘-๒๗๑) หิ โย อตฺโถ วุตฺโต, ตสฺส ภูตตาย อยํ นาโท เสฏฺนาโท นาม โหติ อุตฺตมนาโท. ภูตตฺโถ หิ อุตฺตมตฺโถติ. อิมมตฺถํ ปน วทนฺตสฺส ภควโต อฺโต ภยํ วา อาสงฺกา วา นตฺถีติ อภีตนาโท นาม โหติ. อภูตฺหิ วทโต กุโตจิ ภยํ วา อาสงฺกา วา สิยา, เอวํ ปน วทนฺตํ ภควนฺตํ โกจิ อุฏฺหิตฺวา ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถีติ อยํ นาโท อปฺปฏินาโท นาม โหติ.

สมนฺตโต นิคฺคณฺหนวเสน โตทนํ วิชฺฌนํ สนฺนิโตทกํ, สมฺมา วา นิตุทนฺติ ปีเฬนฺติ เอเตนาติ สนฺนิโตทกํ. วาจายาติ จ ปจฺจตฺเต กรณวจนํ. เตนาห ‘‘วจนปโตเทนา’’ติ. สฺชมฺภริมกํสูติ สมนฺตโต สมฺภริตํ อกํสุ, สพฺเพ ปริพฺพาชกา วาจาโตทเนหิ ตุทึสูติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สมฺภริตํ…เป… วิชฺฌึสู’’ติ. สิงฺคาลกํเยวาติ สิงฺคาลเมว, ‘‘เสคาลกํเยวา’’ติปิ ปาโ. ตสฺเสวาติ สิงฺคาลรวสฺเสว. อถ วา เภรณฺฑกํเยวาติ เภทณฺฑสกุณิสทิสํเยวาติ อตฺโถ. เภทณฺฑํ นาม เอโก ปกฺขี ทฺวิมุโข, ตสฺส กิร สทฺโท อติวิย วิรูโป อมนาโป. เตนาห ‘‘อปิจ ภินฺนสฺสรํ อมนาปสทฺทํ นทตี’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

สรภสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. เกสมุตฺติสุตฺตวณฺณนา

๖๖. ปฺจเม เกสมุตฺตํ นิวาโส เอเตสนฺติ เกสมุตฺติยาติ อาห ‘‘เกสมุตฺตนิคมวาสิโน’’ติ. อฏฺวิธปานกานีติ อมฺพปานาทิอฏฺวิธานิ ปานานิ.

‘‘มา อนุสฺสเวนา’’ติอาทีสุ ปน เอโก ทหรกาลโต ปฏฺาย เอวํ อนุสฺสโว อตฺถิ, เอวํ จิรกาลกตาย อนุสฺสุติยา ลพฺภมานํ กถมิทํ อฺถา สิยา, ตสฺมา ภูตเมตนฺติ อนุสฺสเวน คณฺหาติ, ตถา คหณํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘มา อนุสฺสเวนา’’ติ อาห. อนุ อนุ สวนํ อนุสฺสโว. อปโร ‘‘อมฺหากํ ปิตุปิตามหาทิวุทฺธานํ อุปเทสปรมฺปราย อิทมาภตํ, เอวํ ปรมฺปราภตกถํ นาม น อฺถา สิยา, ตสฺมา ภูตเมต’’นฺติ คณฺหาติ, ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘มา ปรมฺปรายา’’ติ อาห. เอโก เกนจิ กิสฺมิฺจิ วุตฺตมตฺเต ‘‘เอวํ กิร เอต’’นฺติ คณฺหาติ, ตํ นิเสเธนฺโต ‘‘มา อิติกิรายา’’ติ อาห. ปิฏกํ คนฺโถ สมฺปทียติ เอตสฺสาติ ปิฏกสมฺปทานํ, คนฺถสฺส อุคฺคณฺหนโก. เตน ปิฏกอุคฺคณฺหนกภาเวน เอกจฺโจ ตาทิสํ คนฺถํ ปคุณํ กตฺวา เตน ตํ สเมนฺตํ สเมติ, ตสฺมา ‘‘ภูตเมต’’นฺติ คณฺหาติ, ตํ สนฺธาเยส ปฏิกฺเขโป ‘‘มา ปิฏกสมฺปทาเนนา’’ติ, อตฺตโน อุคฺคหคนฺถสมฺปตฺติยา มา คณฺหิตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. สเมตนฺติ สํคตํ.

โกจิ กฺจิ วิตกฺเกนฺโต ‘‘เอวเมว เตน ภวิตพฺพ’’นฺติ เกวลํ อตฺตโน สงฺกปฺปวเสน ‘‘ภูตมิท’’นฺติ คณฺหาติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘มา ตกฺกเหตู’’ติ. อฺโ ‘‘อิมาย ยุตฺติยา ภูตมิท’’นฺติ เกวลํ อนุมานโต นยคฺคาเหน คณฺหาติ, ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘มา นยเหตู’’ติ อาห. กสฺสจิ ‘‘เอวเมตํ สิยา’’ติ ปริกปฺเปนฺตสฺส เอกํ การณํ อุปฏฺาติ, โส ‘‘อตฺเถต’’นฺติ อตฺตโน ปริกปฺปิตากาเรน คณฺหาติ, ตํ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘มา อาการปริวิตกฺเกนา’’ติ อาห. อปรสฺส จินฺตยโต ยถาปริกปฺปิตํ กฺจิ อตฺถํ ‘‘เอวเมตํ น อฺถา’’ติ อภินิวิสนฺตสฺส เอกา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. ยา ยสฺส ตํ การณํ นิชฺฌายนฺตสฺส ปจฺจกฺขํ วิย นิรูเปตฺวา จินฺเตนฺตสฺส ขมติ. โส ‘‘อตฺเถต’’นฺติ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา คณฺหาติ, ตํ สนฺธายาห ‘‘มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา’’ติ.

อกุสลเวรสฺสาติ ปาณาติปาตาทิปฺจวิธํ เวรํ สนฺธาย วทติ. โกโธ นาม เจตโส ทุกฺขนฺติ อาห ‘‘โกธจิตฺตสฺส อภาเวนา’’ติ. กิเลสสฺสาติ จิตฺตํ วิพาเธนฺตสฺส อุปตาเปนฺตสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาทิกิเลสสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

เกสมุตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา

๖๗. ฉฏฺเ ปาโต อสิตพฺพโภชนํ ปาตราสํ, ภุตฺตํ ปาตราสํ เอเตสนฺติ ภุตฺตปาตราสา. ทาสา นาม อนฺโตชาตา วา ธนกฺกีตา วา กรมรานีตา วา สยํ วา ทาสพฺยํ อุปคตา. ภตฺตเวตนภตา กมฺมการา นาม.

นิจฺฉาโตติ เอตฺถ ฉาตํ วุจฺจติ ตณฺหา ชิฆจฺฉาเหตุตาย, สา อสฺส นตฺถีติ นิจฺฉาโต. เตนาห ‘‘นิตฺตณฺโห’’ติ. อพฺภนฺตเร สนฺตาปกรานํ กิเลสานนฺติ อตฺตโน สนฺตาเน ทรถปริฬาหชนเนน สนฺตาปนกิเลสานํ. อนฺโตตาปนกิเลสานํ อภาวา สีโต สีตโล ภูโต ชาโตติ สีติภูโต. เตนาห ‘‘สีตลีภูโต’’ติ. มคฺคผลนิพฺพานสุขานิ วา ปฏิสํเวเทตีติ สุขปฺปฏิสํเวที. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา

๖๘. สตฺตเม กถาวตฺถูนีติ กถาย ปวตฺติฏฺานานิ. ยสฺมา เตหิ วินา กถา น ปวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘กถาการณานี’’ติ วุตฺตํ. อตติ สตติ สตตํ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อทฺธา, กาโลติ อาห ‘‘อตีตมทฺธานํ นาม กาโลปิ วตฺตตี’’ติ. ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตาย หิ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโนปิ กาโล ตสฺเสว ธมฺมสฺส ปวตฺติอวตฺถาวิเสสํ อุปาทาย เตเนว โวหาเรน อตีโตติอาทินา โวหรียติ, อตีตาทิเภโท จ นามายํ นิปฺปริยายโต ธมฺมานํเยว โหติ, น กาลสฺสาติ อาห ‘‘ขนฺธาปิ วตฺตนฺตี’’ติ. ยถาวุตฺตมตฺถํ อิตเรสุ ทฺวีสุ อติทิสติ ‘‘อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุปิ เอเสว นโย’’ติ. อตีตมทฺธานนฺติอาทีสุ จ ทฺเว ปริยายา สุตฺตนฺตปริยาโย, อภิธมฺมปริยาโย จ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ปฏิสนฺธิโต ปุพฺเพ อตีโต อทฺธา นาม, จุติโต ปจฺฉา อนาคโต อทฺธา นาม, สห จุติปฏิสนฺธีติ ตทนฺตรํ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา นาม. อภิธมฺมปริยาเยน ตีสุ ขเณสุ อุปฺปาทโต ปุพฺเพ อตีโต อทฺธา นาม, อุปฺปาทโต อุทฺธํ อนาคโต อทฺธา นาม, ขณตฺตยํ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา นาม. ตตฺถายํ สุตฺตนฺตเทสนาติ สุตฺตนฺตปริยาเยเนว อตีตาทิวิสยํ กถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตีเต กสฺสโป นามา’’ติอาทิมาห.

เอกํเสเนว พฺยากาตพฺโพ วิสฺสชฺเชตพฺโพติ เอกํสพฺยากรณีโย. ‘‘จกฺขุ อนิจฺจ’’นฺติ ปฺเห อุตฺตรปทาวธารณํ สนฺธาย ‘‘เอกํเสเนว พฺยากาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ นิจฺจตาย เลสสฺสปิ ตตฺถ อภาวโต, ปุริมปทาวธารเณ ปน วิภชฺชพฺยากรณียตาย. เตนาห ‘‘อนิจฺจํ นาม จกฺขูติ ปุฏฺเน ปนา’’ติอาทิ. จกฺขุโสเต วิเสสตฺถสามฺตฺถานํ อสาธารณภาวโต ทฺวินฺนํ เตสํ สทิสโจทนา ปฏิจฺฉนฺนมุเขเนว พฺยากรณียา ปฏิกฺเขปวเสน อนุฺาตวเสน จ วิสฺสชฺชิตพฺพโตติ อาห ‘‘ยถา จกฺขุ, ตถา โสตํ…เป… อยํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปฺโห’’ติ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีวสรีรานํ อนฺตาปฺเห ยสฺส เยน อนฺตา โจทิตา, โส เอว ปรมตฺถโต นุปลพฺภตีติ จ ฌานตฺตยสฺส เมตฺเตยฺยตากิตฺตนสทิโสติ อพฺยากาตพฺพตาย ปนีโย วุตฺโต. เอวรูโป หิ ปฺโห ติธา อวิสฺสชฺชนียตฺตา พฺยากรณํ อกตฺวา เปตพฺโพ.

ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ านํ, การณนฺติ อาห ‘‘การณาการเณ’’ติ. ยุตฺเตน การเณนาติ อนุรูเปน การเณน. ปโหตีติ นิคฺคณฺหิตุํ สมตฺโถ โหติ. สสฺสตวาทิภาวเมว ทีเปตีติ อตฺตนา คหิเต อุจฺเฉทวาเท โทสํ ทิสฺวา อตฺตโนปิ สสฺสตวาทิภาวเมว ทีเปติ. ปุคฺคลวาทิมฺหีติ อิมินา วจฺฉกุตฺติยวาทึ ทสฺเสติ. ปฺหํ ปุจฺฉนฺเตหิ ปฏิปชฺชิตพฺพา ปฏิปทา ปฺหปุจฺฉนกานํ วตฺตํ.

ปฏิจรตีติ ปฏิจฺฉาทนวเสน จรติ ปวตฺตติ. ปฏิจฺฉาทนตฺโถ เอว วา จรติสทฺโท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ อาห ‘‘ปฏิจฺฉาเทตี’’ติ. อฺเนฺนฺติ ปน ปฏิจฺฉาทนาการทสฺสนนฺติ อาห ‘‘อฺเน วจเนนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อฺเน วจเนนาติ ยํ โจทเกน จุทิตกสฺส โทสวิภาวนํ วจนํ วุตฺตํ, ตํ ตโต อฺเน วจเนน ปฏิจฺฉาเทติ. โย หิ ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน, กํ ภณถ, กึ ภณถา’’ติ วทติ. ‘‘เอวรูปํ กิฺจิ ตยา ทิฏฺ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘น สุณามี’’ติ โสตํ วา อุปเนติ, อยํ อฺเนฺํ ปฏิจรติ นาม. ‘‘โก อาปนฺโน’’ติอาทินา หิ โจทนํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว วิกฺเขปาปชฺชนํ อฺเนฺํ ปฏิจรณํ, พหิทฺธา กถาปนามนํ วิสฺสชฺเชตฺวาติ อยเมเตสํ วิเสโส. เตเนวาห ‘‘อาคนฺตุกกถํ โอตาเรนฺโต’’ติอาทิ. ตตฺถ อปนาเมตีติ วิกฺเขเปติ. ตตฺราติ ตสฺมึ พหิทฺธากถาย อปนามเน.

อุปนิสีทติ ผลํ เอตฺถาติ การณํ อุปนิสา, อุเปจฺจ นิสฺสยตีติ วา อุปนิสา, สห อุปนิสายาติ สอุปนิโสติ อาห ‘‘สอุปนิสฺสโย สปจฺจโย’’ติ.

โอหิตโสโตติ อนฺวิหิตตฺตา ธมฺมสฺสวนาย อปนามิตโสโต. ตโต เอว ตทตฺถํ ปิตโสโต. กุสลธมฺมนฺติ อริยมคฺโค อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อริยมคฺค’’นฺติ.

กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฺติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา

๖๙. อฏฺเม ภควา มูลํ การณํ เอเตสํ ยาถาวโต อธิคมายาติ ภควํมูลกา. เตนาห ‘‘ภควนฺตฺหิ นิสฺสาย มยํ อิเม ธมฺเม อาชานาม ปฏิวิชฺฌามา’’ติ. อมฺหากํ ธมฺมาติ เตหิ อตฺตนา อธิคนฺตพฺพตาย วุตฺตํ. เสวิตพฺพาเสวิตพฺพานฺหิ ยาถาวโต อธิคมฺาณานิ อธิคจฺฉนกสมฺพนฺธีนิ, ตานิ จ สมฺมาสมฺพุทฺธมูลกานิ อนฺวิสยตฺตา. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธนา’’ติอาทิ. อิเม ธมฺมาติ อิเม าณธมฺมา. อาชานามาติ อภิมุขํ ปจฺจกฺขโต ชานาม. ปฏิวิชฺฌามาติ ตสฺเสว เววจนํ, อธิคจฺฉามาติ อตฺโถ. ภควา เนตา เอเตสนฺติ ภควํเนตฺติกา. เนตาติ เสวิตพฺพธมฺเม เวเนยฺยสนฺตานํ ปาเปตา. วิเนตาติ อเสวิตพฺพธมฺเม เวเนยฺยสนฺตานโต อปเนตา. ตทงฺควินยาทิวเสน วา วิเนตา. อถ วา ยถา อลมริยาณทสฺสนวิเสโส โหติ, เอวํ วิเสสโต เนตา. อนุเนตาติ ‘‘อิเม ธมฺมา เสวิตพฺพา, อิเม น เสวิตพฺพา’’ติ อุภยสมฺปาปนาปนยนตฺถํ ปฺาเปตา. เตนาห ‘‘ยถาสภาวโต’’ติอาทิ.

ปฏิสรนฺติ เอตฺถาติ ปฏิสรณํ, ภควา ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ภควํปฏิสรณา. อาปาถํ อุปคจฺฉนฺตา หิ ภควา ปฏิสรณํ สโมสรณฏฺานํ. เตนาห ‘‘จตุภูมกธมฺมา’’ติอาทิ. ปฏิสรติ สภาวสมฺปฏิเวธวเสน ปจฺเจกํ อุปคจฺฉตีติ วา ปฏิสรณํ, ภควา ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ภควํปฏิสรณา. ปฏิสรติ ปฏิวิชฺฌตีติ วา ปฏิสรณํ, ตสฺมา ปฏิวิชฺฌนวเสน ภควา ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ภควํปฏิสรณา. เตนาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ. ปฏิเวธวเสนาติ ปฏิวิชฺฌิตพฺพตาวเสน. อสติปิ มุเข อตฺถโต เอวํ วทนฺโต วิย โหตีติ อาห ‘‘ผสฺโส อาคจฺฉติ อหํ ภควา กินฺนาโม’’ติ. ผสฺโส าณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺโตเยว หิ อตฺตโน ‘‘อหํ กินฺนาโม’’ติ นามํ ปุจฺฉนฺโต วิย, ภควา จสฺส นามํ กโรนฺโต วิย โหติ.

ปฏิภาตูติ เอตฺถ ปฏิสทฺทาเปกฺขาย ‘‘ภควนฺต’’นฺติ อุปโยควจนํ, อตฺโถ ปน สามิวจนวเสเนว เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภควโต’’ติ. ปฏิภาตูติ จ ภาโค โหตุ. ภควโต หิ เอส ภาโค, ยทิทํ ธมฺมสฺส เทสนา, อมฺหากํ ปน ภาโค สวนนฺติ อธิปฺปาโย. เอวฺหิ สทฺทลกฺขเณน สเมติ. เกจิ ปน ปฏิภาตูติ ปทสฺส ทิสฺสตูติ อตฺถํ วทนฺติ, าเณน ทิสฺสตุ, เทสียตูติ วา อตฺโถ. อุปฏฺาตูติ าณสฺส ปจฺจุปติฏฺตุ. ปาฬิยํ โก อธิปฺปยาโสติ เอตฺถ โก อธิกปฺปโยโคติ อตฺโถ.

โลกวชฺชวเสนาติ โลกิยชเนหิ ปกติยา ครหิตพฺพวชฺชวเสน. วิปากวชฺชวเสนาติ วิปากสฺส อปายสํวตฺตนิกวชฺชวเสน. กถนฺติอาทินา อุภยวชฺชวเสนปิ อปฺปสาวชฺชตาย วิสยํ ทสฺเสติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

อฺติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อกุสลมูลสุตฺตวณฺณนา

๗๐. นวเม ลุพฺภตีติ โลโภ. ทุสฺสตีติ โทโส. มุยฺหตีติ โมโห. โลภาทีนิ ปเนตานิ อสหชาตานํ ปาณาติปาตาทีนํ เกสฺจิ อกุสลานํ อุปนิสฺสยปจฺจยฏฺเน, สหชาตานํ อทินฺนาทานาทีนํ เกสฺจิ สมฺปยุตฺตา หุตฺวา อุปฺปาทกฏฺเน, สยฺจ อกุสลานีติ สาวชฺชทุกฺขวิปากฏฺเนาติ อาห ‘‘อกุสลานํ มูลานิ, อกุสลานิ จ ตานิ มูลานี’’ติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘รตฺโต โข, อาวุโส, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนตี’’ติอาทิ. ยทปีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘โยปิ, ภิกฺขเว, โลโภ’’ติ. ตทปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยติ อาห ‘‘โสปิ อกุสลมูล’’นฺติ. วินาปิ ลิงฺควิปลฺลาเสน อตฺถโยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อกุสลมูลํ วา’’ติอาทิมาห. สพฺพตฺถาติ ‘‘ยทปิ, ภิกฺขเว, โทโส, ตทปิ อกุสลมูล’’นฺติอาทีสุ. อภิสงฺขโรตีติ เอตฺถ อายูหตีติ อตฺถํ วตฺวา ตฺจ อายูหนํ ปจฺจยสมวายสิทฺธิโต สมฺปิณฺฑนํ ราสิกรณํ วิย โหตีติ อาห ‘‘สมฺปิณฺเฑติ ราสึ กโรตี’’ติ.

ปาฬิยํ ‘‘วเธนา’’ติอาทีสุ วเธนาติ มารเณน วา โปถเนน วา. วธสทฺโท หิ หึสนตฺโถ วิเหนตฺโถ จ โหติ. พนฺธเนนาติ อทฺทุพนฺธนาทินา. ชานิยาติ ธนชานิยา, ‘‘สตํ คณฺหถ, สหสฺสํ คณฺหถา’’ติ เอวํ ปวตฺติตทณฺเฑนาติ อตฺโถ. ครหายาติ ปฺจสิขมุณฺฑกกรณํ, โคมยสิฺจนํ, คีวาย กุรณฺฑกพนฺธนนฺติ เอวมาทีนิ กตฺวา ครหปาปเนน. ตตฺถ ปฺจสิขมุณฺฑกกรณํ นาม กากปกฺขกรณํ. โคมยสิฺจนํ สีเสน กโณทกาวเสจนํ. กุรณฺฑกพนฺธนํ คทฺทุลพนฺธนํ.

กาลสฺมึ น วทตีติ ยุตฺตกาเล น วทติ, วตฺตพฺพกาลสฺส ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา อยุตฺตกาเล วตฺตา โหติ. อภูตวาทีติ ยํ นตฺถิ, ตสฺส วตฺตา. เตนาห ‘‘ภูตํ น วทตี’’ติ. อตฺถํ น วทตีติ การณํ น วทติ, อการณนิสฺสิตํ นิปฺผลํ วตฺตา โหติ. ธมฺมํ น วทตีติ สภาวํ น วทติ, อสภาวํ วตฺตา อยถาวาทีติ อตฺโถ. วินยํ น วทตีติ สํวรวินยํ น วทติ, น สํวรวินยปฺปฏิสํยุตฺตสฺส วตฺตา โหติ, อตฺตโน สุณนฺตสฺส จ น สํวรวินยาวหสฺส วตฺตาติ อตฺโถ.

อตจฺฉนฺติ อภูตตฺถํ. เตนาห ‘‘อิตรํ ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. อถ วา อภูตนฺติ อสนฺตํ อวิชฺชมานํ. อตจฺฉนฺติ อตถาการํ.

ปุฺกมฺมโต เอติ อุปฺปชฺชตีติ อโย, วฑฺฒิ. ตปฺปฏิกฺเขเปน อนโย, อวฑฺฒีติ อาห ‘‘อนยํ อาปชฺชตีติ อวฑฺฒึ อาปชฺชตี’’ติ. มาลุวาสิปาฏิกา นาม ทีฆสณฺานํ มาลุวาปกฺกํ , มาลุวาผลโปฏฺลิกาติ อตฺโถ . ผลิตายาติ อาตเปน สุสฺสิตฺวา ภินฺนาย. วฏรุกฺขาทีนํ มูเลติ วฏรุกฺขาทีนํ สมีเป. สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺโกนฺตีติ กสฺมา น สกฺโกนฺติ? ภวนวินาสภยา. รุกฺขมูเล ปติตมาลุวาพีชโต หิ ลตา อุปฺปชฺชิตฺวา รุกฺขํ อภิรุหติ. สา มหาปตฺตา เจว พหุปตฺตา จ มหาโกลิรปตฺตสณฺาเนหิ ตโต จ มหนฺตตเรหิ สาขาวิฏปนฺตเรหิ ปตฺเตหิ สมนฺนาคตา. อถ นํ รุกฺขํ มูลโต ปฏฺาย วินนฺธมานา สพฺพวิฏปานิ สฺฉาเทตฺวา มหนฺตํ ภารํ ชเนตฺวา ติฏฺติ, สา วาเต วายนฺเต เทเว วา วสฺสนฺเต โอฆนเหฏฺาคตา โอลมฺพนเหตุภูตํ ฆนภาวํ ชเนตฺวา ตสฺส รุกฺขสฺส สพฺพสาขํ ภิชฺชติ, ภูมิยํ นิปาเตติ. ตโต ตสฺมึ รุกฺเข ปติฏฺิตวิมานํ ภิชฺชติ วินสฺสติ. อิติ ตา เทวตาโย ภวนวินาสภยา สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. เอตฺถ จ ยํ สาขฏฺกวิมานํ โหติ, ตํ สาขาสุ ภิชฺชมานาสุ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชิตฺวา สพฺพสาขาสุ ภินฺนาสุ สพฺพํ ภิชฺชติ, รุกฺขฏฺกวิมานํ ปน ยาว รุกฺขสฺส มูลมตฺตมฺปิ ติฏฺติ, ตาว น นสฺสตีติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ตตฺถ ปลุชฺชิตฺวาติ ตตฺถ ตตฺถ ภิชฺชิตฺวา. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

อกุสลมูลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อุโปสถสุตฺตวณฺณนา

๗๑. ทสเม ตทหูติ เอตฺถ ตสฺมึ อหนีติ อตฺโถติ อาห ‘‘ตสฺมึ อหุ อุโปสเถ’’ติ. อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ, อุโปสถทิวโส. อุปวสนฺตีติ จ สีเลน วา อนสเนน วา ขีรสายนาทิวิธินา วา อุเปตา หุตฺวา วสนฺตีติ อตฺโถ. อุโปสถทิวเส หิ สาสนิกา สีเลน, พาหิรกา สพฺพโส อาหารสฺส อภุฺชเนน ขีรสายนมธุสายนาทิวิธินา วา อุเปตา หุตฺวา วิหรนฺติ. โส ปเนส อุโปสถทิวโส อฏฺมิจาตุทฺทสิปนฺนรสิเภเทน ติวิโธ, ตสฺมา เสสทฺวยนิวารณตฺถํ ‘‘ปนฺนรสิกอุโปสถทิวเส’’ติ วุตฺตํ. ววสฺสคฺคตฺเถติ วจสายตฺเถ. ทิวสทฺโท ทิวาสทฺโท วิย ทิวสปริยาโย, ตสฺส วิเสสนภาเวน วุจฺจมาโน ทิวาสทฺโท สวิเสเสน ทีเปตีติ อาห ‘‘ทิวสสฺส ทิวา, มชฺฌนฺหิเก กาเลติ อตฺโถ’’ติ. ปฏิจฺฉาเปตฺวาติ สมฺปฏิจฺฉนํ กาเรตฺวา. วิปากผเลนาติ สทิสผเลน. น มหปฺผโล โหติ มโนทุจฺจริตทุสฺสีลฺเยน อุปกฺกิลิฏฺภาวโต. วิปากานิสํเสนาติ อุทฺรยผเลน. วิปาโกภาเสนาติ ปฏิปกฺขวิคมชนิเตน สภาวสงฺขาเตน วิปาโกภาเสน. น มหาโอภาโส อปริสุทฺธภาวโต. วิปากวิปฺผารสฺสาติ วิปากเวปุลฺลสฺส.

นาหํกฺวจนีติอาทิวจนสฺส มิจฺฉาภินิเวสวเสน ปวตฺตตฺตา ‘‘อิทํ ตสฺส มุสาวาทสฺมึ วทามี’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํ, จตุโกฏิกสุฺตาทสฺสนวเสน ปวตฺตํ ปน อริยทสฺสนเมวาติ น ตตฺถ มุสาวาโท. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘นาหํ กฺวจนิ, กสฺสจิ กิฺจนตสฺมึ, น จ มม กฺวจนิ, กิสฺมิฺจิ กิฺจนตตฺถี’’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๗๐).

เอตฺถ หิ จตุโกฏิกสุฺตา กถิตา. กถํ? อริโย (วิสุทฺธิ. ๒.๗๖๐; ม. นิ. อฏฺ. ๓.๗๐) หิ นาหํ กฺวจนีติ กฺวจิ อตฺตานํ น ปสฺสติ, กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ อตฺตโน อตฺตานํ กสฺสจิ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ น ปสฺสติ, ภาติฏฺาเน ภาตรํ, สหายฏฺาเน สหายํ, ปริกฺขารฏฺาเน ปริกฺขารํ มฺิตฺวา อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. น จ มม กฺวจนีติ เอตฺถ มม-สทฺทํ ตาว เปตฺวา กฺวจนิ ปรสฺส จ อตฺตานํ กฺวจิ น ปสฺสตีติ อยมตฺโถ. อิทานิ มม-สทฺทํ อาหริตฺวา ‘‘มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนตตฺถี’’ติ โส ปรสฺส อตฺตานํ ‘‘มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนภาเวน อตฺถี’’ติ น ปสฺสติ, อตฺตโน ภาติกฏฺาเน ภาตรํ, สหายฏฺาเน สหายํ, ปริกฺขารฏฺาเน ปริกฺขารนฺติ กิสฺมิฺจิ าเน ปรสฺส อตฺตานํ อิมินา กิฺจนภาเวน อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. เอวมยํ ยสฺมา เนว กตฺถจิ อตฺตานํ ปสฺสติ, น ตํ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ. น กตฺถจิ ปรสฺส อตฺตานํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ อตฺตโน กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, ตสฺมา อยํ สุฺตา จตุโกฏิกาติ เวทิตพฺพา.

ยสฺมา ปน มิจฺฉาทิฏฺิกานํ ยาถาวทสฺสนสฺส อสมฺภวโต ยถาวุตฺตจตุโกฏิกสุฺตาทสฺสนํ น สมฺภวติ, ตสฺมา ‘‘นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา’’ติอาทิวจนํ (ที. นิ. ๑.๑๗๑) วิย มิจฺฉาคาหวเสน ‘‘นาหํ กฺวจนี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ยุตฺโต เจตฺถ มุสาวาทสมฺภโว. กตฺถจีติ าเน, กาเล วา. อถ ‘‘นิปฺผโล’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. ‘‘น มหปฺผโล’’ติ สทฺเทน หิ มหปฺผลาภาโวว โชติโต, น ปน สพฺพถา ผลาภาโวติ อาห ‘‘พฺยฺชนเมว หิ เอตฺถ สาวเสส’’นฺติอาทิ. เสสปเทสุปีติ ‘‘น มหานิสํโส’’ติอาทีสุปิ.

อฏฺหิ การเณหีติ –

‘‘อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ปยิรุทาหาสิ – ‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาวฺจ โส ภควา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ, เอวํ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนํ พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสามิ, น ปเนตรหิ อฺตฺร เตน ภควตา’’ติ –

อาทินา มหาโควินฺทสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๒๙๖) วิตฺถาริเตหิ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนาทีหิ พุทฺธานุภาวทีปเกหิ อฏฺหิ การเณหิ. อถ ‘‘นวหิ การเณหี’’ติ อวตฺวา ‘‘อฏฺหิ การเณหี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอตฺถ หิ…เป… สพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรา พุทฺธคุณา สงฺคหิตา’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติ อิมินา วจเนน อวิเสสโต สพฺเพปิ โลกิยโลกุตฺตรา พุทฺธคุณา ทีปิตา, ตสฺมา เตน ทีปิตคุเณ สนฺธาย ‘‘อฏฺหิ การเณหี’’ติ วุตฺตนฺติ. อรหนฺติอาทีหิ ปาฏิเยกฺกคุณาว นิทฺทิฏฺาติ อรหนฺติอาทีหิ เอเกเกหิ ปเทหิ เอเกเก คุณาว นิทฺทิฏฺาติ อตฺโถ.

สหตนฺติกนฺติ ปาฬิธมฺมสหิตํ. ปุริมนเยเนว โยชนา กาตพฺพาติ ‘‘กิลิฏฺสฺมิฺหิ กาเย ปสาธนํ ปสาเธตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬมานา น โสภนฺตี’’ติอาทินา นเยน โยชนา กาตพฺพาติ อตฺโถ.

สงฺฆสฺส อนุสฺสรณํ นาม ตสฺส คุณานุสฺสรณเมวาติ อาห ‘‘อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ คุเณ อนุสฺสรตี’’ติ. ทฺเว ตโย วาเร คาหาปิตํ อุสุมนฺติ ทฺเว ตโย วาเร อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา เสทนวเสน คาหาปิตํ อุสุมํ. ปุริมนเยเนว โยชนา กาตพฺพาติ ‘‘กิลิฏฺสฺมิฺหิ วตฺเถ ปสาธนํ ปสาเธตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬมานา น โสภนฺตี’’ติอาทินา นเยน โยชนา กาตพฺพา.

ปหีนกาลโต ปฏฺาย…เป… วิรตาวาติ เอเตน ปหานเหตุกา อิธาธิปฺเปตา วิรตีติ ทสฺเสติ. กมฺมกฺขยกราเณน หิ ปาณาติปาตทุสฺสีลฺยสฺส ปหีนตฺตา อรหนฺโต อจฺจนฺตเมว ตโต ปฏิวิรตาติ วุจฺจติ สมุจฺเฉทวเสน ปหานวิรตีนํ อธิปฺเปตตฺตา. กิฺจาปิ ปหานวิรมณานํ ปุริมปจฺฉิมกาลตา นตฺถิ, มคฺคธมฺมานํ ปน สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ สมฺมาวาจาทีนฺจ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเว อเปกฺขิเต สหชาตานมฺปิ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน คหณํ ปุริมปจฺฉิมภาเวเนว โหตีติ, คหณปฺปวตฺติอาการวเสน ปจฺจยภูเตสุ สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ ปหายกธมฺเมสุ ปหานกิริยาย ปุริมกาลโวหาโร, ปจฺจยุปฺปนฺนาสุ จ วิรตีสุ วิรมณกิริยาย อปรกาลโวหาโร จ โหตีติ ปหานํ วา สมุจฺเฉทวเสน, วิรติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน โยเชตพฺพา.

อถ วา ปาโณ อติปาตียติ เอเตนาติ ปาณาติปาโต, ปาณฆาตเหตุภูโต ธมฺมสมูโห. โก ปน โส? อหิริกาโนตฺตปฺปโทสโมหวิหึสาทโย กิเลสา. เต หิ อรหนฺโต อริยมคฺเคน ปหาย สมุคฺฆาเตตฺวา ปาณาติปาตทุสฺสีลฺยโต อจฺจนฺตเมว ปฏิวิรตาติ วุจฺจนฺติ, กิเลเสสุ ปหีเนสุ กิเลสนิมิตฺตสฺส กมฺมสฺส อนุปฺปชฺชนโต. อทินฺนาทานํ ปหายาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. วิรตาวาติ อวธารเณน ตสฺสา วิรติยา กาลาทิวเสน อปริยนฺตตํ ทสฺเสติ. ยถา หิ อฺเ สมาทินฺนวิรติกาปิ อนวฏฺิตจิตฺตตาย ลาภชีวิตาทิเหตุ สมาทานํ ภินฺทนฺติ, น เอวํ อรหนฺโต, อรหนฺโต ปน สพฺพโส ปหีนปาณาติปาตตฺตา อจฺจนฺตวิรตา เอวาติ.

ทณฺฑนสงฺขาตสฺส ปรวิเหนสฺส จ ปริวชฺชนภาวทีปนตฺถํ ทณฺฑสตฺถานํ นิกฺเขปวจนนฺติ อาห ‘‘ปรูปฆาตตฺถายา’’ติอาทิ. ลชฺชีติ เอตฺถ วุตฺตลชฺชาย โอตฺตปฺปมฺปิ วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. น หิ ปาปชิคุจฺฉนปาปุตฺตาสรหิตํ, ปาปภยํ วา อลชฺชนํ อตฺถีติ. ธมฺมครุตาย วา อรหนฺตานํ ธมฺมสฺส จ อตฺตา ธีนตฺตา อตฺตาธิปติภูตา ลชฺชาว วุตฺตา, น ปน โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ. ‘‘ทยํ เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺนา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ทยา-สทฺโท ‘‘อทยาปนฺโน’’ติอาทีสุ กรุณาย ปวตฺตตีติ? สจฺจเมตํ, อยํ ปน ทยา-สทฺโท อนุรกฺขณตฺถํ อนฺโตนีตํ กตฺวา ปวตฺตมาโน เมตฺตาย กรุณาย จ ปวตฺตตีติ อิธ เมตฺตาย ปวตฺตมาโน วุตฺโต. มิชฺชติ สินิยฺหตีติ เมตฺตา, เมตฺตา เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตํ, เมตฺตํ จิตฺตํ เอตสฺสาติ เมตฺตจิตฺโต, ตสฺส ภาโว เมตฺตจิตฺตตา, เมตฺตาอิจฺเจว อตฺโถ.

สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ เอเตน ตสฺสา วิรติยา ปวตฺตวเสน อปริยนฺตตํ ทสฺเสติ. ปาณภูเตติ ปาณชาเต. อนุกมฺปกาติ กรุณายนกา, ยสฺมา ปน เมตฺตา กรุณาย วิเสสปจฺจโย โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตาย เอว ทยาปนฺนตายา’’ติ. เอวํ เยหิ ธมฺเมหิ ปาณาติปาตา วิรติ สมฺปชฺชติ, เตหิ ลชฺชาเมตฺตากรุณาธมฺเมหิ สมงฺคิภาโว ทสฺสิโต.

ปรปริคฺคหิตสฺส อาทานนฺติ ปรสนฺตกสฺส อาทานํ. เถโน วุจฺจติ โจโร, ตสฺส ภาโว เถยฺยํ, กามฺเจตฺถ ‘‘ลชฺชี ทยาปนฺโน’’ติ น วุตฺตํ, อธิการวเสน ปน อตฺถโต วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ยถา หิ ลชฺชาทโย ปาณาติปาตปฺปหานสฺส วิเสสปจฺจยา, เอวํ อทินฺนาทานปฺปหานสฺสปีติ , ตสฺมา สาปิ ปาฬิ อาเนตฺวา วตฺตพฺพา. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. อถ วา สุจิภูเตนาติ เอเตน หิโรตฺตปฺปาทีหิ สมนฺนาคโม, อหิริกาทีนฺจ ปหานํ วุตฺตเมวาติ ‘‘ลชฺชี’’ติอาทิ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อเสฏฺจริยนฺติ อเสฏฺานํ หีนานํ, อเสฏฺํ วา ลามกํ จริยํ, นิหีนวุตฺตึ เมถุนนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมํ เสฏฺํ อาจารนฺติ เมถุนวิรติมาห. อาราจารี เมถุนาติ เอเตน – ‘‘อิเธกจฺโจ น เหว โข มาตุคาเมน สทฺธึ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, อปิจ โข มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหนํ สาทิยติ, โส ตํ อสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชตี’’ติอาทินา (อ. นิ. ๗.๕๐) วุตฺตา สตฺตวิธเมถุนสํโยคาปิ ปฏิวิรติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.

‘‘สจฺจโต เถตโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๙) วิย เถต-สทฺโท ถิรปริยาโย, ถิรภาโว จ สจฺจวาทิตาย ิตกถตฺตา กถาวเสน เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘ิตกถาติ อตฺโถ’’ติ. น ิตกโถติ ยถา หลิทฺทิราคาทโย อนวฏฺิตสภาวตาย น ิตา, เอวํ น ิตา กถา ยสฺส โส น ิตกโถติ หลิทฺทิราคาทโย ยถา กถาย อุปมา โหนฺติ, เอวํ โยเชตพฺพํ. เอส นโย ‘‘ปาสาณเลขา วิยา’’ติอาทีสุปิ. สทฺธา อยติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ สทฺธายา, สทฺธายา เอว สทฺธายิกา ยถา เวนยิกา. สทฺธาย วา อยิตพฺพา สทฺธายิกา, สทฺเธยฺยาติ อตฺโถ. วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ วิสํวาทนโตติ อธิปฺปาโย.

เอกํ ภตฺตํ เอกภตฺตํ, ตํ เอเตสมตฺถีติ เอกภตฺติกา, เอกสฺมึ ทิวเส เอกวารเมว ภุฺชนกา. ตยิทํ รตฺติโภชเนนปิ สิยาติ อาห ‘‘รตฺตูปรตา’’ติ. เอวมฺปิ สายนฺหโภชเนนปิ สิยุํ เอกภตฺติกาติ ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ ‘‘วิรตา วิกาลโภชนา’’ติ วุตฺตํ. อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌนฺหิกา อยํ พุทฺธานํ อริยานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ โภชนสฺส กาโล นาม, ตทฺโ วิกาโล. อฏฺกถายํ ปน ทุติยปเทน รตฺติโภชนสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา อปรณฺโห ‘‘วิกาโล’’ติ วุตฺโต.

สงฺเขปโต ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓) ภควโต สาสนํ สจฺฉนฺทราคปฺปวตฺติโต นจฺจาทีนํ ทสฺสนํ น อนุโลเมตีติ อาห ‘‘สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา’’ติ. อตฺตนา ปโยชิยมานํ ปเรหิ ปโยชาปียมานฺจ นจฺจํ นจฺจภาวสามฺโต ปาฬิยํ เอเกเนว นจฺจสทฺเทน คหิตํ, ตถา คีตวาทิตสทฺทา จาติ อาห ‘‘นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสนา’’ติ . อาทิ-สทฺเทน คายนคายาปนวาทนวาทาปนานิ สงฺคณฺหาติ. ทสฺสเนน เจตฺถ สวนมฺปิ สงฺคหิตํ วิรูเปกเสสนเยน. อาโลจนสภาวตาย วา ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สวนกิริยายปิ ทสฺสนสงฺเขปสพฺภาวโต ทสฺสนาอิจฺเจว วุตฺตํ. อวิสูกภูตสฺส คีตสฺส สวนํ กทาจิ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘วิสูกภูตํ ทสฺสน’’นฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกปาฏฺกถาย ‘‘ธมฺมูปสํหิตํ คีตํ วฏฺฏติ, คีตูปสํหิโต ธมฺโม น วฏฺฏตี’’ติ.

ยํกิฺจีติ คนฺถิตํ วา อคนฺถิตํ วา ยํ กิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธชาตนฺติ คนฺธชาติยํ. ตสฺสาปิ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ วจนโต ธูปิตสฺสปิ อธูปิตสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ วิเลปนาทิ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. อุจฺจาติ อุจฺจสทฺเทน สมานตฺถํ เอกํ สทฺทนฺตรํ. เสติ เอตฺถาติ สยนํ. อุจฺจาสยนํ มหาสยนฺจ สมณสารุปฺปรหิตํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ปมาณาติกฺกนฺตํ อกปฺปิยตฺถรณ’’นฺติ, อาสนฺทาทิอาสนฺเจตฺถ สยเนน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยสฺมา ปน อาธาเร ปฏิกฺขิตฺเต ตทาธารกิริยา ปฏิกฺขิตฺตาว โหติ, ตสฺมา ‘‘อุจฺจาสยนมหาสยนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ตทุปโภคภูตนิสชฺชานิปชฺชเนหิ วิรติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพา. อถ วา ‘‘อุจฺจาสยนาสนมหาสยนาสนา’’ติ, เอตสฺมึ อตฺเถ เอกเสสนเยน อยํ นิทฺเทโส กโต ยถา ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ. (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑) อาสนกิริยาปุพฺพกตฺตา วา สยนกิริยาย สยนคฺคหเณเนว อาสนมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

‘‘กีวา’’ติ อยํ นิปาโต. ‘‘กิตฺตก’’นฺติ อิมสฺส อตฺถํ โพเธตีติ อาห ‘‘กีวมหปฺผโลติ กิตฺตกํ มหปฺผโล’’ติ. เสสปเทสูติ ‘‘กีวมหานิสํโส’’ติอาทีสุ. รตฺต-สทฺโท รตนปริยาโยติ อาห ‘‘ปหูตรตฺตรตนานนฺติ ปหูเตน รตฺตสงฺขาเตน รตเนน สมนฺนาคตาน’’นฺติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘ปหูตสตฺตรตนาน’’นฺติปิ ปาโ ทิสฺสติ. เภริตลสทิสํ กตฺวาติ เภริตลํ วิย สมํ กตฺวา. ตโต เอกํ ภาคํ น อคฺฆตีติ ยถาวุตฺตํ จกฺกวตฺติรชฺชํ ตโต โสฬสภาคโต เอกํ ภาคํ น อคฺฆติ. ตโต พหุตรํ โหตีติ จกฺกวตฺติรชฺชสิริโต พหุตรํ โหติ.

จาตุมหาราชีกานนฺติอาทีสุ จาตุมหาราชิกา นาม สิเนรุปพฺพตสฺส เวมชฺเฌ โหนฺติ, เตสุ พหู ปพฺพตฏฺาปิ อากาสฏฺาปิ, เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา, ขิฑฺฑาปโทสิกา, มโนปโทสิกา, สีตวลาหกา, อุณฺหวลาหกา, จนฺทิมา, เทวปุตฺโต, สูริโย, เทวปุตฺโตติ เอเต สพฺเพ จาตุมหาราชิกเทวโลกฏฺกา เอว. เตตฺตึส ชนา ตตฺถ อุปฺปนฺนาติ ตาวตึสา. อปิจ ตาวตึสาติ เตสํ เทวานํ นามเมวาติ วุตฺตํ. เตปิ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา, อตฺถิ อากาสฏฺกา, เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา, ตถา ยามาทีนํ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. ตตฺถ ทิพฺพสุขํ ยาตา ปยาตา สมฺปตฺตาติ ยามา. ตุฏฺา ปหฏฺาติ ตุสิตา. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน รมิตุกามกาเล ยถารุจิเต โภเค นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรติ. จิตฺตาจารํ ตฺวา ปเรหิ นิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตี.

ตตฺถ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ มนุสฺสคณนาย นวุติวสฺสสตสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ. ตาวตึสานํ เทวานํ ติสฺโส จ วสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานิ. ยามานํ เทวานํ จุทฺทส จ วสฺสโกฏิโย จตฺตาริ จ วสฺสสตสหสฺสานิ. ตุสิตานํ เทวานํ สตฺตปฺาส จ วสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานิ. นิมฺมานรตีนํ เทวานํ ทฺเว จ วสฺสโกฏิสตานิ ติสฺโส จ วสฺสโกฏิโย จตฺตาริ จ วสฺสสตสหสฺสานิ. ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ นว จ วสฺสโกฏิสตานิ เอกวีส โกฏิโย จ สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานิ.

มุฏฺิหตฺถปาทเกติ ปาทตลโต ยาว อฏนิยา เหฏฺิมนฺโต, ตาว มุฏฺิรตนปฺปมาณปาทเก. ตฺจ โข มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺเถน, ยสฺสิทานิ วฑฺฒกีหตฺโถติ สมฺา. สีลสมาทานโต ปฏฺาย อฺํ กิฺจิ อกตฺวา ธมฺมสฺสวเนน วา กมฺมฏฺานมนสิกาเรน วา วีตินาเมตพฺพนฺติ อาห ‘‘ตํ ปน อุปวสนฺเตน…เป… วิจาเรตพฺพ’’นฺติ.

วาจํ ภินฺทิตฺวา อุโปสถงฺคานิ สมาทาตพฺพานีติ ‘‘อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวส’’นฺติ กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ‘‘อุโปสถงฺควเสน อฏฺ สิกฺขาปทานิ สมาทิยามี’’ติ เอกโต กตฺวา ปุน ปจฺเจกํ ‘‘ปาณาติปาตา เวรมณิสิกฺขาปทํ สมาทิยามิ…เป… อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณิสิกฺขาปทํ สมาทิยามี’’ติ เอวํ วจีเภทํ กตฺวา ยถาปาฬิ สมาทาตพฺพานิ. ปาฬึ อชานนฺเตน ปน อตฺตโน ภาสาย ปจฺเจกํ วา ‘‘พุทฺธปฺตฺตํ อุโปสถํ อธิฏฺามี’’ติ เอกโต อธิฏฺานวเสน วา สมาทาตพฺพานิ, อฺํ อลภนฺเตน อธิฏฺาตพฺพานิ. อุปาสกสีลฺหิ อตฺตนา สมาทิยนฺเตนปิ สมาทินฺนํ ปรสนฺติเก สมาทิยนฺเตนปิ, เอกชฺฌํ สมาทินฺนมฺปิ สมาทินฺนเมว โหติ ปจฺเจกํ สมาทินฺนมฺปิ. ตํ ปน เอกชฺฌํ สมาทิยโต เอกาเยว วิรติ เอกา เจตนา โหติ. สา ปน สพฺพวิรติเจตนานํ กิจฺจการีติ เตนปิ สพฺพสิกฺขาปทานิ สมาทินฺนาเนว. ปจฺเจกํ สมาทิยโต ปน นานาวิรติเจตนาโย ยถาสกํ กิจฺจวเสน อุปฺปชฺชนฺติ , สพฺพสมาทาเน ปน วจีเภโท กาตพฺโพเยว. ปรูปโรธปฏิสํยุตฺตา ปรวิหึสาสํยุตฺตา.

นนุ จ ‘‘มณิ’’นฺติ วุตฺเต เวฬุริยมฺปิ สงฺคหิตเมว, กิมตฺถํ ปน เวฬุริยนฺติ อาห ‘‘เวฬุริยนฺติ…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ‘‘มณิ’’นฺติ วตฺวาว ‘‘เวฬุริย’’นฺติ อิมินา ชาติมณิภาวํ ทสฺเสตีติ โยเชตพฺพํ. เอกวสฺสิกเวฬุวณฺณนฺติ ชาติโต เอกวสฺสาติกฺกนฺตเวฬุวณฺณํ. ลทฺธกนฺติ สุนฺทรํ. จนฺทปฺปภา ตารคณาว สพฺเพติ ยถา จนฺทปฺปภาย กลํ สพฺเพ ตาราคณา นานุภวนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘จนฺทปฺปภาติ สามิอตฺเถ ปจฺจตฺต’’นฺติ.

อุโปสถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.