📜

(๑๓) ๓. กุสินารวคฺโค

๑-๒. กุสินารสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๒๔-๑๒๕. ตติยสฺส ปเม ตณฺหาเคเธน คถิโตติ ตณฺหาพนฺธเนน พทฺโธ. ตณฺหามุจฺฉนายาติ ตณฺหาย วเสน มุจฺฉาปตฺติยา. มุจฺฉิโตติ มุจฺฉํ โมหํ ปมาทํ อาปนฺโน. อชฺโฌปนฺโนติ อธิโอปนฺโน. ตณฺหาย อธิภวิตฺวา อชฺโฌตฺถโฏ คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา วิย ิโต. เตนาห ‘‘อชฺโฌปนฺโนติ ตณฺหาย คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา ปวตฺโต’’ติ. อนาทีนวทสฺสาวีติ คถิตาทิภาเวน ปริโภเค อาทีนวมตฺตมฺปิ น ปสฺสติ. นิสฺสรณปฺโติ อยมตฺโถ อาหารปริโภเคติ ตตฺถ ปโยชนปริจฺเฉทิกา ‘‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; ๒.๒๔; ๓.๗๕; สํ. นิ. ๔.๑๒๐; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙) ปวตฺตา อาหารปฏิพทฺธฉนฺทราคนิสฺสรณภูตา ปฺา อสฺส อตฺถีติ นิสฺสรณปฺโ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ทุติเย นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

กุสินารสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โคตมกเจติยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๖. ตติเย สมฺพหุลาติ ปฺจสตมตฺตา. ปฺจสตา กิร พฺราหฺมณา ติณฺณํ เวทานํ ปารคู อปรภาเค ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺเม จ อานิสํสํ ปสฺสมานา ภควโต สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา น จิรสฺเสว สพฺพํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา ปริยตฺตึ นิสฺสาย มานํ อุปฺปาเทสุํ – ‘‘ยํ ยํ ภควา กเถติ, ตํ ตํ มยํ ขิปฺปเมว ชานาม. ภควา หิ อิตฺถิลิงฺคาทีนิ ตีณิ ลิงฺคานิ, นามาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ, ปมาทโย สตฺต วิภตฺติโย มุฺจิตฺวา น กิฺจิ กเถติ, เอวํ กถิเต จ อมฺหากํ คณฺิปทํ นาม นตฺถี’’ติ, เต ภควติ อคารวา หุตฺวา ตโต ปฏฺาย ภควโต อุปฏฺานมฺปิ ธมฺมสฺสวนมฺปิ อภิณฺหํ น คจฺฉนฺติ. เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สมฺพหุลา กิร พฺราหฺมณปพฺพชิตา…เป… ธมฺมสฺสวนํ น คจฺฉนฺตี’’ติ. มุขปฏิฺํ คเหตฺวาติ ‘‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห, ภิกฺขเว’’ติอาทินา ตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ เตหิ ภิกฺขูหิ วุตฺตํ ปฏิวจนํ คเหตฺวา. ตฺหิ อตฺตโน มุเขเนว ปฏิฺาตตฺตา ‘‘มุขปฏิฺา’’ติ วุจฺจติ.

เนวอาคตฏฺานํ น คตฏฺานํ อทฺทสํสุ. กสฺมา? อฺาณโต. เต กิร ตสฺส สุตฺตสฺส อตฺถํ น ชานึสุ. เตสฺหิ ตสฺมึ สมเย วิจิตฺรนยํ เทสนาวิลาสยุตฺตมฺปิ ตํ สุตฺตํ ฆนปุถุเลน ทุสฺสปฏฺเฏน มุขํ พทฺธํ กตฺวา ปุรโต ปิตมนุฺโภชนํ วิย อโหสิ. นนุ จ ภควา อตฺตนา เทสิตํ ธมฺมํ ปเร าเปตุํ กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต, โส กสฺมา ยถา เต น ชานนฺติ, ตถา เทเสตีติ? เตสํ มานภฺชนตฺถํ. ภควา หิ ‘‘อภพฺพา อิเม อิมํ มานขิลํ อนุปหจฺจ มคฺคํ วา ผลํ วา สจฺฉิกาตุ’’นฺติ เตสํ สุตปริยตฺตึ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา เทสนากุสโล มานภฺชนตฺถํ ‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติอาทินา มูลปริยายสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑) อภาสิ.

สมฺมาสมฺพุทฺโธ‘‘มยฺหํ กถา นิยฺยาตี’’ติ มุขสมฺปตฺตเมว กเถตีติ จินฺตยึสูติ อิทํ องฺคุตฺตรภาณกานํ วฬฺชนกตนฺตินีหาเรน วุตฺตํ. มชฺฌิมภาณกา ปน เอวํ วทนฺติ – เอวํ มานภฺชนตฺถํ เทสิตฺจ ปน ตํ สุตฺตํ สุตฺวา เต ภิกฺขู ‘‘ตํเยว กิร ปถวึ ทิฏฺิคติโก สฺชานาติ, เสโขปิ อรหาปิ ตถาคโตปิ อภิชานาติ, กิ นามิทํ กถํ นามิท’’นฺติ จินฺเตนฺตา ‘‘ปุพฺเพ มยํ ภควตา กถิตํ ยํกิฺจิ ขิปฺปเมว ชานาม, อิทานิ ปนิมสฺส มูลปริยายสฺส อนฺตํ วา โกฏึ วา น ชานาม น ปสฺสาม, อโห พุทฺธา นาม อปฺปเมยฺยา อตุลา’’ติ อุทฺธตทาา วิย สปฺปา นิมฺมทา หุตฺวา พุทฺธูปฏฺานฺจ ธมฺมสฺสวนฺจ สกฺกจฺจํ อคมํสุ. เตน สมเยน ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา ภิกฺขู ‘‘อโห พุทฺธานํ อานุภาโว, เต นามพฺราหฺมณปพฺพชิตา ตถา มานมทมตฺตา ภควตา มูลปริยายเทสนาย นิหตมานา กตา’’ติ กถํ สมุฏฺาเปสุํ. ตํ สุตฺวา ภควา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อหํ เอวํ อิเม มานปคฺคหิตสีเส จรนฺเต นิหตมาเน อกาสิ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหรนฺโต ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, อฺตโร ทิสาปาโมกฺโข พฺราหฺมโณ พาราณสิยํ ปฏิวสติ ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฏุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย, โส ปฺจมตฺตานิ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจติ. ปณฺฑิตมาณวกา พหุฺจ คณฺหนฺติ ลหุฺจ, สุฏฺุ จ อุปธาเรนฺตี’’ติอาทินา ชาตกํ กเถสิ.

ตํ สุตฺวา เต ภิกฺขู ‘‘ปุพฺเพปิ มยํ มาเนเนว อุปหตา’’ติ ภิยฺโยโสมตฺตาย นิหตมานา หุตฺวา อตฺตโน อุปการกมฺมฏฺานปรายณา อเหสุํ. ตโต ภควา เอกํ สมยํ ชนปทจาริกํ จรนฺโต เวสาลึ ปตฺวา โคตมเก เจติเย วิหรนฺโต อิเมสํ ปฺจสตานํ ภิกฺขูนํ าณปริปากํ วิทิตฺวา อิทํ โคตมกสุตฺตํ กเถสิ. อิทฺจ สุตฺตํ สุตฺวา เต ปฺจสตา ภิกฺขู ตสฺมึเยว อาสเน สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ.

อภิฺายาติ กุสลาทิเภทํ ขนฺธาทิเภทฺจ เทเสตพฺพํ ธมฺมํ, เวเนยฺยานฺจ อาสยานุสยจริยาธิมุตฺติอาทิเภทํ, ตสฺส จ เนสํ เทเสตพฺพปฺปการํ ยาถาวโต อภิชานิตฺวาติ อตฺโถ. อิเม ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานีติอาทิ ปเนตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สปฺปจฺจยนฺติ สการณํ, เวเนยฺยานํ อชฺฌาสเยน วา ปุจฺฉาย วา อฏฺุปฺปตฺติยา วา สนิมิตฺตํ เหตูทาหรณสหิตฺจาติ อตฺโถ. ราคาทีนํ ปฏิหรณํ ปฏิหาริยํ, ตเทว ปาฏิหาริยํ, สห ปาฏิหาริเยนาติ สปฺปาฏิหาริยํ. ราคาทิปฺปฏิเสธนวเสเนว หิ สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ. เตนาห ‘‘ปจฺจนีกปฏิหรเณน สปฺปาฏิหาริยเมว กตฺวา’’ติ. อปเร ปน ‘‘ยถารหํ อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิปาฏิหาริยสหิต’’นฺติ วทนฺติ อนุสาสนิปาฏิหาริยรหิตา เทสนา นตฺถีติ กตฺวา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

โคตมกเจติยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ภรณฺฑุกาลามสุตฺตวณฺณนา

๑๒๗. จตุตฺเถ อาฬารกาลามกาเลติ อาฬารกาลามานํ ธรมานกาเล. ปริฺนฺติ ปหานปริฺํ. สา หิ สมติกฺกโม, น อิตรา. เตนาห ‘‘ปริฺา นาม สมติกฺกโม’’ติ. เอตฺถ จ ปโม สตฺถา รูปาวจรสมาปตฺติลาภี ทฏฺพฺโพ, ทุติโย อรูปาวจรสมาปตฺติลาภี, ตติโย สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทฏฺพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ปุคฺคลปฺตฺติยํ (ปุ. ป. ๑๓๐) –

‘‘ยฺวายํ สตฺถา กามานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, น รูปานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, น เวทนานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, รูปาวจรสมาปตฺติยา ลาภี สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ. ยฺวายํ สตฺถา กามานฺจ ปริฺํ ปฺาเปติ, รูปานฺจ ปริฺํ ปฺาเปติ, น เวทนานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, อรูปาวจรสมาปตฺติยา ลาภี สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ. ยฺวายํ สตฺถา กามานฺจ ปริฺํ ปฺาเปติ, รูปานฺจ ปริฺํ ปฺาเปติ, เวทนานฺจ ปริฺํ ปฺาเปติ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ’’ติ.

ตตฺถ ติตฺถิยา สมยํ ชานนฺตา กามานํ ปริฺํ ปฺาเปยฺยุํ ปมชฺฌานํ วทมานา. รูปานํ ปริฺํ ปฺาเปยฺยุํ อรูปราคํ วทมานา. เวทนาปริฺํ ปฺาเปยฺยุํ อสฺาราคํ วทมานา. เต ปน ‘‘อิทํ นาม ปมชฺฌานํ, อยํ รูปภโว, อยํ อสฺาภโว’’ติปิ น ชานนฺติ. เต ปฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตาปิ เกวลํ ‘‘ปฺาเปมา’’ติ วทนฺติ. ตถาคโต ปน กามานํ ปริฺํ อนาคามิมคฺเคน ปฺาเปติ, รูปเวทนานํ อรหตฺตมคฺเคน. เอวเมตฺถ ทฺเว ชนา พาหิรกา, เอโก สมฺมาสมฺพุทฺโธติ อิมสฺมึ โลเก ตโย สตฺถาโร นาม.

ภรณฺฑุกาลามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา

๑๒๘. ปฺจเม อภิกฺกนฺตาติ อติกฺกนฺตา, วิคตาติ อตฺโถติ อาห ‘‘ขเย ทิสฺสตี’’ติ. เตเนว หิ ‘‘นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม’’ติ อนนฺตรํ วุตฺตํ. อภิกฺกนฺตตโรติ อติวิย กนฺตตโร. ตาทิโส จ สุนฺทโร ภทฺทโก นาม โหตีติ อาห ‘‘สุนฺทเร ทิสฺสตี’’ติ. โกติ เทวนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีสุ โก กตโม? เมติ มม. ปาทานีติ ปาเท. อิทฺธิยาติ อิมาย เอวรูปาย เทวิทฺธิยา. ยสสาติ อิมินา เอทิเสน ปริวาเรน ปริจฺเฉเทน. ชลนฺติ วิชฺโชตมาโน. อภิกฺกนฺเตนาติ อติวิย กนฺเตน กมนีเยน อภิรูเปน. วณฺเณนาติ ฉวิวณฺเณน สรีรวณฺณนิภาย. สพฺพา โอภาสยํ ทิสาติ ทส ทิสา ปภาเสนฺโต, จนฺโท วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกาโลกํ กโรนฺโตติ คาถาย อตฺโถ. อภิรูเปติ อุฬารรูเป สมฺปนฺนรูเป. อพฺภนุโมทเนติ สมฺปหํสเน . อิธ ปนาติ ‘‘อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา’’ติ เอตสฺมึ ปเท. เตนาติ สุนฺทรปริยายตฺตา. ขเย วา อิธ อภิกฺกนฺตสทฺโท ทฏฺพฺโพ, เตน ‘‘อภิกฺกนฺตาย ปริกฺขีณาย รตฺติยา’’ติ วุตฺตํ โหติ.

รูปายตนาทีสูติ อาทิสทฺเทน อกฺขราทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สุวณฺณวณฺโณติ สุวณฺณจฺฉวีติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘ฉวิย’’นฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘กฺจนสนฺนิภตฺตโจ’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๕๖). สฺูฬฺหาติ สมฺพนฺธิตา, คนฺถิตาติ อตฺโถ. วณฺณาติ คุณวณฺณาติ อาห ‘‘ถุติย’’นฺติ, โถมนายนฺติ อตฺโถ. กุลวคฺเคติ ขตฺติยาทิกุลโกฏฺาเส. ตตฺถ ‘‘อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน’’ติอาทินา วณฺณิตพฺพฏฺเน วณฺโณ, ฉวิ. วณฺณนฏฺเน อภิตฺถวฏฺเน วณฺโณ, ถุติ. อฺมฺํ อสงฺกรโต วณฺเณตพฺพโต เปตพฺพโต วณฺโณ, ขตฺติยาทิกุลวคฺโค. วณฺณียติ าปียติ เอเตนาติ วณฺโณ, าปกการณํ. วณฺณนโต ถูลรสฺสาทิภาเวน อุปฏฺานโต วณฺโณ, สณฺานํ. มหนฺตํ ขุทฺทกํ มชฺฌิมนฺติ วณฺเณตพฺพโต ปมิตพฺพโต วณฺโณ, ปมาณํ. วณฺณียติ จกฺขุนา ปสฺสียตีติ วณฺโณ, รูปายตนนฺติ เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ วณฺณสทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา. โสติ วณฺณสทฺโท. ฉวิยา ทฏฺพฺโพ รูปายตเน คยฺหมานสฺสปิ ฉวิมุเขเนว คเหตพฺพโต. ฉวิคตา ปน วณฺณธาตุ เอว ‘‘สุวณฺณวณฺโณ’’ติ เอตฺถ วณฺณคฺคหเณน คหิตาติ อปเร.

เกวลปริปุณฺณนฺติ เอกเทสมฺปิ อเสเสตฺวา นิรวเสสโตว ปริปุณฺณนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อนวเสสตา อตฺโถ’’ติ. เกวลกปฺปาติ กปฺป-สทฺโท นิปาโต ปทปูรณมตฺตํ, ‘‘เกวลํ’’อิจฺเจว อตฺโถ. เกวลสทฺโท จ พหุลวาจีติ อาห ‘‘เยภุยฺยตา อตฺโถ’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อีสกํ อสมตฺตํ เกวลํ เกวลกปฺป’’นฺติ วทนฺติ. อนวเสสตฺโถ เอตฺถ เกวลสทฺโท สิยา, อนตฺถนฺตเรน ปน กปฺปสทฺเทน ปทวฑฺฒนํ กตํ ‘‘เกวลา เอว เกวลกปฺปา’’ติ. ตถา วา กปฺปนียตฺตา ปฺเปตพฺพตฺตา เกวลกปฺปา. อพฺยามิสฺสตา วิชาติเยน อสงฺกโร สุทฺธตา. อนติเรกตา ตํปรมตา วิเสสาภาโว. เกวลกปฺปนฺติ เกวลํ ทฬฺหํ กตฺวาติ อตฺโถ. เกวลํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สพฺพสงฺขตวิวิตฺตตฺตา, ตํ เอตสฺส อธิคตํ อตฺถีติ เกวลี, สจฺฉิกตนิโรโธ ขีณาสโว.

กปฺป-สทฺโท ปนายํ สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จาติ อธิปฺปาเยน โอกปฺปนิยปเท ลพฺภมานํ โอกปฺปสทฺทมตฺตํ นิทสฺเสติ, อฺถา กปฺปสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร โอกปฺปนิยปทํ อนิทสฺสนเมว สิยา. สมณกปฺเปหีติ วินยสิทฺเธหิ สมณโวหาเรหิ. นิจฺจกปฺปนฺติ นิจฺจกาลํ. ปฺตฺตีติ นามํ. นามฺเหตํ ตสฺส อายสฺมโต, ยทิทํ กปฺโปติ. กปฺปิตเกสมสฺสูติ กตฺตริยา เฉทิตเกสมสฺสุ. ทฺวงฺคุลกปฺโปติ มชฺฌนฺหิกเวลาย วีติกฺกนฺตาย ทฺวงฺคุลตาวิกปฺโป. เลโสติ อปเทโส. อนวเสสํ ผริตุํ สมตฺถสฺส โอภาสสฺส เกนจิ การเณน เอกเทสผรณมฺปิ สิยา, อยํ ปน สพฺพสฺเสว ผรตีติ ทสฺเสตุํ สมนฺตตฺโถ กปฺปสทฺโท คหิโตติ อาห ‘‘อนวเสสํ สมนฺตโต’’ติ.

อาภาย ผริตฺวาติ วตฺถมาลาลงฺการสรีรสมุฏฺิตาย อาภาย ผริตฺวา. เทวตานฺหิ สรีโรภาสํ ทฺวาทสโยชนมตฺตํ านํ. ตโต ภิยฺโยปิ ผริตฺวา ติฏฺติ, ตถา วตฺถาภรณาทิสมุฏฺิตา ปภา.

หตฺถกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. กฏุวิยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๙. ฉฏฺเ คาวีนํ กยวิกฺกยวเสน โยโค เอตฺถาติ โคโยโค, กยวิกฺกยํ กโรนฺโต คาวีหิ ยุชฺชนฺติ เอตฺถาติ วา โคโยโค, คาวีนํ วิกฺกยฏฺานํ. ตตฺถ ชาโต ปิลกฺขรุกฺโข โคโยคปิลกฺโข, ตสฺมึ. สมีปตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ. เตนาห ‘‘คาวีนํ วิกฺกยฏฺาเน อุฏฺิตปิลกฺขสฺส สนฺติเก’’ติ. ริตฺโต อสฺสาโท เอตสฺสาติ ริตฺตสฺสาโท. เตนาห ‘‘ฌานสุขาภาเวน ริตฺตสฺสาท’’นฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

กฏุวิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ทุติยอนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา

๑๓๑. อฏฺเม อิทํ เต มานสฺมินฺติ เอตฺถ มานสฺมินฺติ ปจฺจตฺเต ภุมฺมวจนํ. อิทนฺติ จ ลิงฺควิปลฺลาเสน นปุํสกนิทฺเทโส กโตติ อาห ‘‘อยํ เต นววิเธน วฑฺฒิตมาโน’’ติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

ทุติยอนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปฏิจฺฉนฺนสุตฺตวณฺณนา

๑๓๒. นวเม อสาธารณสิกฺขาปทนฺติ ภิกฺขุนีนํ อสาธารณํ ภิกฺขูนํเยว ปฺตฺตสิกฺขาปทํ สาธารณสิกฺขาปทนฺติ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ สาธารณํ อุภโตปฺตฺติสิกฺขาปทํ.

ปฏิจฺฉนฺนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เลขสุตฺตวณฺณนา

๑๓๓. ทสเม ถิรฏฺานโตติ ถิรฏฺานโตว. ปาสาเณ เลขสทิสา ปราปราธนิพฺพตฺตา โกธเลขา ยสฺส โส ปาสาณเลขูปมสมนฺนาคโต ปาสาณเลขูปโมติ วุตฺโต. เอวํ อิตเรปิ. อนุเสตีติ อปฺปหีนตาย อนุเสติ. น ขิปฺปํ ลุชฺชตีติ น อนฺตรา นสฺสติ กมฺมฏฺาเนเนว นสฺสนโต. เอวเมวนฺติ เอวํ ตสฺสปิ ปุคฺคลสฺส โกโธ น อนฺตรา ปุนทิวเส วา อปรทิวเส วา นิฏฺาติ, อทฺธนิโย ปน โหติ, มรเณเนว นิฏฺาตีติ อตฺโถ. กกฺขเฬนาติ อติกกฺขเฬน ธมฺมจฺเฉทเกน ถทฺธวจเนน. สํสนฺทตีติ เอกีภวติ. สมฺโมทตีติ นิรนฺตโร โหตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อถ วา สนฺธิยตีติ านคมนาทีสุ กายกิริยาสุ กาเยน สโมธานํ คจฺฉติ, ติลตณฺฑุลา วิย มิสฺสีภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. สํสนฺทตีติ จิตฺตกิริยาสุ จิตฺเตน สโมธานํ คจฺฉติ, ขีโรทกํ วิย เอกีภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. สมฺโมทตีติ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ วจีกิริยาสุ วาจาย สโมธานํ คจฺฉติ, วิปฺปวาสาคโตปิ ปิยสหายโก วิย ปิยตรภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. อปิจ กิจฺจกรณีเยสุ เตหิ สทฺธึ อาทีโตว เอกกิริยาภาวํ อุปคจฺฉนฺโต สนฺธิยติ, ยาว มชฺฌา ปวตฺตนฺโต สํสนฺทติ, ยาว ปริโยสานา อนิวตฺตนฺโต สมฺโมทตีติ เวทิตพฺโพ.

เลขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุสินารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.