📜
(๑๔) ๔. โยธาชีววคฺโค
๑. โยธาชีวสุตฺตวณฺณนา
๑๓๔. จตุตฺถสฺส ปเม ยุชฺฌนํ โยโธ, โส อาชีโว เอตสฺสาติ โยธาชีโว. ยุทฺธมุปชีวตีติ วา เอตสฺมึ อตฺเถ โยธาชีโวติ นิรุตฺตินเยน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. เตนาห ‘‘ยุทฺธํ อุปชีวตีติ โยธาชีโว’’ติ. สห…เป… ปสฺสตีติ ปุพฺพภาเค วิปสฺสนาปฺาย สมฺมสนวเสน, มคฺคกฺขเณ อภิสมยวเสน อตฺตปจฺจกฺเขน าเณน ปสฺสติ.
โยธาชีวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปริสาสุตฺตวณฺณนา
๑๓๕. ทุติเย อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวา วินีตาติ ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติอาทินา อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวา เกวลํ ธมฺมเทสนาวเสเนว วินีตปริสา. ทุพฺพินีตปริสาติ ทุกฺเขน วินีตปริสา. ปุจฺฉิตฺวา วินีตาติ ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว’’ติอาทินา ปุจฺฉิตฺวา อนุมติคฺคหณวเสน วินีตา. สุวินีตปริสาติ สุเขน วินีตปริสา. อนุมติคฺคหณวเสน วินยนฺหิ น ทุกฺกรํ โหติ.
ปริสาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อุปฺปาทาสุตฺตวณฺณนา
๑๓๗. จตุตฺเถ ¶ ¶ อุปฺปาทา วา ตถาคตานนฺติ ตถาคตานํ อุปฺปาเทปิ เวเนยฺยปุคฺคลานํ มคฺคผลุปฺปตฺติ วิย สงฺขารานํ อนิจฺจาทิสภาโว น ตถาคตุปฺปาทายตฺโต, อถ โข ตถาคตานํ อุปฺปาเทปิ อนุปฺปาเทปิ โหติเมวาติ วุตฺตํ โหติ. ิตาว สา ธาตูติ ิโต เอว โส อนิจฺจสภาโว พฺยภิจาราภาวโต น กทาจิ สงฺขารา อนิจฺจา น โหติ. กามํ อสงฺขตา วิย ธาตุ น นิจฺโจ โส สภาโว, ตถาปิ สพฺพกาลิโกเยวาติ อธิปฺปาโย.
อปโร นโย – ิตาว สา ธาตูติ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ เอสา ธาตุ เอส สภาโว ตถาคตานํ อุปฺปาทโต ปุพฺเพ อุทฺธฺจ อปฺปฏิวิชฺฌิยมาโน น ตถาคเตหิ อุปฺปาทิโต, อถ โข สพฺพกาลํ สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, ิตาว สา ธาตุ, เกวลํ ปน สยมฺภุาเณน อภิสมฺพุชฺฌนโต ‘‘อยํ ธมฺโม ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ ปเวทนโต จ ตถาคโต ธมฺมสฺสามีติ วุจฺจติ อปุพฺพสฺส ตสฺส อุปฺปาทนโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ิตาว สา ธาตู’’ติ.
อภิสมฺพุชฺฌตีติ าเณน อภิสมฺพุชฺฌติ. อภิสเมตีติ าเณน อภิสมาคจฺฉติ. อาจิกฺขตีติ กเถติ. เทเสตีติ ทสฺเสติ. ปฺาเปตีติ ชานาเปติ. ปฏฺเปตีติ าณมุเข เปติ. วิวรตีติ วิวริตฺวา ทสฺเสติ. วิภชตีติ วิภาคโต ทสฺเสติ. อุตฺตานีกโรตีติ ปากฏํ กโรติ.
อถ วา อภิสมฺพุชฺฌตีติ ปจฺจกฺขกรเณน อภิมุขํ พุชฺฌติ, ยาถาวโต ปฏิวิชฺฌติ. ตโต เอว อภิสเมติ อภิมุขํ สมาคจฺฉติ. อาทิโต กเถนฺโต อาจิกฺขติ, อุทฺทิสตีติ อตฺโถ. ตเมว อุทฺเทสํ ปริโยสาเปนฺโต เทเสติ. ยถาอุทฺทิฏฺมตฺถํ นิทสฺสนวเสน ปกาเรหิ าเปนฺโต ปฺาเปติ. ปกาเรหิ เอตมตฺถํ ปติฏฺเปนฺโต ปฏฺเปติ. ยถาอุทฺทิฏฺํ ปฏินิทสฺสนวเสน วิวรติ วิภชติ. วิวฏํ วิภตฺตฺจ อตฺถํ เหตูทาหรณทสฺสเนหิ ปากฏํ กโรนฺโต อุตฺตานีกโรติ.
อุปฺปาทาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๑๐. เกสกมฺพลสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๓๘-๑๔๓. ปฺจเม ¶ ¶ ตนฺตาวุตานํ วตฺถานนฺติ อิทํ ‘‘ยานิ กานิจี’’ติ อิมินา สมานาธิกรณนฺติ อาห ‘‘ปจฺจตฺเต สามิวจน’’นฺติ. วายิตานนฺติ วีตานํ. ลามโกติ นิหีโน, มกฺขลิ โมฆปุริโสติ เอตฺถ มกฺขลีติ ตสฺส นามํ. ตํ กิร สกทฺทมาย ภูมิยา เตลฆฏํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตํ, ‘‘ตาต, มา ขลี’’ติ สามิโก อาห. โส ปมาเทน ขลิตฺวา ปติตฺวา สามิกสฺส ภเยน ปลายิตุํ อารทฺโธ. สามิโก อุปธาวิตฺวา นํ ทุสฺสกณฺเณ อคฺคเหสิ, สาฏกํ ฉฑฺเฑตฺวา อเจลโก หุตฺวา ปลายิ. โส ปณฺเณน วา ติเณน วา ปฏิจฺฉาเทตุมฺปิ อชานนฺโต ชาตรูเปเนว เอกํ คามํ ปาวิสิ. มนุสฺสา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ สมโณ อรหา อปฺปิจฺโฉ, นตฺถิ อิมินา สทิโส’’ติ ปูวภตฺตาทีนิ คเหตฺวา อุปสงฺกมนฺติ. โส ‘‘มยฺหํ สาฏกํ อนิวตฺถภาเวน อิทํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ตโต ปฏฺาย สาฏกํ ลภิตฺวาปิ น นิวาเสสิ, ตเทว จ ปพฺพชฺชํ อคฺคเหสิ. ตสฺส สนฺติเก อฺเปิ อฺเปีติ ปฺจสตา มนุสฺสา ปพฺพชึสุ. ตํ สนฺธายาห ‘‘มกฺขลิ โมฆปุริโส’’ติ. ฉฏฺาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ เอว.
เกสกมฺพลสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑-๑๓. ปมโมรนิวาปสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๔๔-๑๔๖. เอกาทสเม อกุปฺปธมฺมตาย ขยวยสงฺขาตํ อนฺตํ อตีตาติ อจฺจนฺตา, เอวํ อปริหายนสภาวตฺตา อจฺจนฺตา นิฏฺา อสฺสาติ อจฺจนฺตนิฏฺโ. เตนาห ‘‘อนฺตํ อติกฺกนฺตนิฏฺโ’’ติอาทิ. น หิ ปฏิวิทฺธสฺส โลกุตฺตรธมฺมสฺส ทสฺสนํ กุปฺปนํ นาม อตฺถิ. ธุวนิฏฺโติ สตตนิฏฺโ. อจฺจนฺตเมว จตูหิ โยเคหิ เขโม เอตสฺส อตฺถีติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี, นิจฺจโยคกฺเขมีติ อตฺโถ. มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส วุสิตตฺตา ตสฺส อวิหายนสภาวตฺตา อจฺจนฺตํ พฺรหฺมจารีติ อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี, นิจฺจพฺรหฺมจารีติ อตฺโถ. ปริโยสานนฺติ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ วฏฺฏทุกฺขปริโยสานฺจ ¶ . อจฺจนฺตํ ปริโยสานมสฺสาติ อจฺจนฺตปริโยสาโน. ทฺวาทสมเตรสมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ปมโมรนิวาปสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
โยธาชีววคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔๗-๑๕๖. มงฺคลวคฺโค ¶ อุตฺตานตฺโถเยว.
ตติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.