📜
๓. อุรุเวลวคฺโค
๑. ปมอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา
๒๑. ตติยสฺส ปเม มหาเวลา วิย มหาเวลา, วิปุลวาลิกปฺุชตาย มหนฺโต เวลาตโฏ วิยาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มหาวาลิกราสีติ อตฺโถ’’ติ. อุรุ, มรุ, สิกตา, วาลุกา, วณฺณุ, วาลิกาติ อิเม สทฺทา สมานตฺถา, พฺยฺชนเมว นานํ. เตนาห ‘‘อุรูติ วาลิกา วุจฺจตี’’ติ.
นชฺชาติ นทติ สทฺทายตีติ นที, ตสฺสา นชฺชา, นทิยา นินฺนคายาติ อตฺโถ. เนรฺชรายาติ ‘‘เนลฺชลายา’’ติ วตฺตพฺเพ ล-การสฺส ร-การํ กตฺวา ‘‘เนรฺชรายา’’ติ วุตฺตํ, กทฺทมเสวาลปณกาทิโทสรหิตสลิลายาติ อตฺโถ. เกจิ ‘‘นีลํ-ชลายาติ วตฺตพฺเพ เนรฺชรายา’’ติ วทนฺติ. นามเมว วา เอตํ ตสฺสา นทิยาติ เวทิตพฺพํ. ตสฺสา นทิยา ตีเร ยตฺถ ภควา วิหาสิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อชปาลนิคฺโรเธ’’ติ วุตฺตํ. กสฺมา ปนายํ อชปาลนิคฺโรโธ นาม ชาโตติ อาห ‘‘ตสฺสา’’ติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา ตตฺถ เวเท สชฺฌายิตุํ อสมตฺถา มหลฺลกพฺราหฺมณา ปาการปริกฺเขปยุตฺตานิ นิเวสนานิ กตฺวา สพฺเพ วสึสุ, ตสฺมาสฺส อชปาลนิคฺโรโธติ นามํ ชาต’’นฺติ วทนฺติ ¶ . ตตฺรายํ วจนตฺโถ – น ชปนฺตีติ อชปา, มนฺตานํ อนชฺฌายกาติ อตฺโถ. อชปาลนฺติ อาทิยนฺติ นิวาสํ เอตฺถาติ อชปาโลติ. อปเร ¶ ปน วทนฺติ ‘‘ยสฺมา มชฺฌนฺหิกสมเย อนฺโตปวิฏฺเ อเช อตฺตโน ฉายาย ปาเลติ รกฺขติ, ตสฺมา ‘อชปาโล’ติสฺส นามํ รุฬฺห’’นฺติ. สพฺพตฺถาปิ นามเมตํ ตสฺส รุกฺขสฺส.
ปมาภิสมฺพุทฺโธติ ปมํ อภิสมฺพุทฺโธ, อนุนาสิกโลเปนายํ นิทฺเทโส. เตเนวาห ‘‘สมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปมเมวา’’ติ. ปมนฺติ จ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, ตสฺมา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปมํ อชปาลนิคฺโรเธ วิหรามีติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อยํ วิตกฺโกติ อยํ ‘‘กินฺนุ ขฺวาหํ…เป… วิหเรยฺย’’นฺติ เอวํ ปวตฺตวิตกฺโก. หตฺถี จ วานโร จ ติตฺติโร จ หตฺถิวานรติตฺติรา.
เย วุทฺธมปจายนฺตีติ ชาติวุทฺโธ, วโยวุทฺโธ, คุณวุทฺโธติ ตโย วุทฺธา. เตสุ ชาติสมฺปนฺโน ชาติวุทฺโธ นาม, วเย ิโต วโยวุทฺโธ นาม, คุณสมฺปนฺโน คุณวุทฺโธ นาม. เตสุ คุณสมฺปนฺโน วโยวุทฺโธ อิมสฺมึ าเน วุทฺโธติ อธิปฺเปโต. อปจายนฺตีติ เชฏฺาปจายิกากมฺเมน ปูเชนฺติ. ธมฺมสฺส โกวิทาติ เชฏฺาปจายนธมฺมสฺส โกวิทา กุสลา. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. ปาสํสาติ ปสํสารหา. สมฺปราเย จ สุคฺคตีติ สมฺปเรตพฺเพ อิมํ โลกํ หิตฺวา คนฺตพฺเพ ปรโลเกปิ เตสํ สุคติเยว. อยํ ปเนตฺถ ปิณฺฑตฺโถ – ขตฺติยา วา โหนฺตุ พฺราหฺมณา วา เวสฺสา วา สุทฺทา วา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา ติรจฺฉานคตา วา, เย เกจิ สตฺตา เชฏฺาปจิติกมฺเมน สีลาทิคุณสมฺปนฺนานํ วโยวุทฺธานํ อปจิตึ กโรนฺติ, เต อิมสฺมิฺจ อตฺตภาเว เชฏฺาปจิติการกาติ ปสํสํ วณฺณนํ โถมนํ ลภนฺติ, กายสฺส จ เภทา สคฺเค นิพฺพตฺตนฺตีติ.
อฺสฺมินฺติ ปรสฺมึ. อตฺตา น โหตีติ อฺโ, ปโร. โส ปเนตฺถ น โย โกจิ อธิปฺเปโต, อถ โข ครุฏฺานิโย. เตนาห ‘‘กฺจิ ครุฏฺาเน อฏฺเปตฺวา’’ติ. ปติสฺสติ ครุโน อาณํ สมฺปฏิจฺฉตีติ ปติสฺโส, น ปติสฺโส อปฺปติสฺโส, ปติสฺสยรหิโต, ครุปสฺสยรหิโตติ อตฺโถ.
สเทวเกติ ¶ อวยเวน วิคฺคโห สมุทาโย สมาสตฺโถ. สเทวกคฺคหเณน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ ปาริเสสาเยน อิตเรสํ ปทนฺตเรหิ สงฺคหิตตฺตา. สมารกคฺคหเณน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ ปจฺจาสตฺติาเยน. ตตฺถ หิ มาโร ชาโต ตนฺนิวาสี จ โหติ. สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ ปจฺจาสตฺติาเยเนว. สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชายาติ สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ อปจฺจตฺถิกานํ อสมิตาพาหิตปาปานฺจ สมณพฺราหฺมณานํ ¶ เตเนว วจเนน คหิตตฺตา. กามํ ‘‘สเทวเก’’ติอาทิวิเสสนานํ วเสน สตฺตวิสโย โลกสทฺโทติ วิฺายติ ตุลฺยโยควิสยตฺตา เตสํ, ‘‘สโลมโก สปกฺขโก’’ติอาทีสุ ปน อตุลฺยโยเค อยํ สมาโส ลพฺภตีติ พฺยภิจารทสฺสนโต ปชาคหณนฺติ ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ.
เทวภาวสามฺเน มารพฺรหฺเมสุ คหิเตสุปิ อิตเรหิ เตสํ ลพฺภมานวิเสสทสฺสนตฺถํ วิสุํ คหณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มาโร นามา’’ติอาทิมาห. มาโร พฺรหฺมานมฺปิ วิจกฺขุกมฺมาย ปโหตีติ อาห ‘‘สพฺเพส’’นฺติ. อุปรีติ อุปริภาเค. พฺรหฺมาติ ทสสหสฺสิพฺรหฺมานํ สนฺธายาห. ตถา จาห ‘‘ทสหิ องฺคุลีหี’’ติอาทิ. อิธ ทีฆนิกายาทโย วิย พาหิรกานมฺปิ คนฺถนิกาโย ลพฺภตีติ อาห ‘‘เอกนิกายาทิวเสนา’’ติ. วตฺถุวิชฺชาทีติ อาทิ-สทฺเทน วิชฺชาฏฺานานิ สงฺคยฺหนฺติ. ยถาสกํ กมฺมกิเลเสหิ ปชาตตฺตา นิพฺพตฺตตฺตา ปชา, สตฺตนิกาโย, ตสฺสา ปชาย. สเทวมนุสฺสายาติ วา อิมินา สมฺมุติเทวคฺคหณํ ตทวสิฏฺมนุสฺสโลกคฺคหณฺจ ทฏฺพฺพํ.
เอวํ ภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โลกวเสน วุตฺตานิ ‘‘โลกียนฺติ เอตฺถ กมฺมํ กมฺมผลานี’’ติ กตฺวา. ปชาวเสน ‘‘เหตุปจฺจเยหิ ปชาตา’’ติ กตฺวา. สีลสมฺปนฺนตรนฺติ เอตฺถ ปริปุณฺณสมฺปนฺนตา อธิปฺเปตา ‘‘สมฺปนฺนํ สาลิเกทาร’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๔.๑) วิย. เตนาห ‘‘อธิกตรนฺติ อตฺโถ’’ติ. ปริปุณฺณฺหิ อธิกตรนฺติ วตฺตุํ อรหติ. การณนฺติ ยุตฺตึ. อตฺถนฺติ อวิปรีตตฺถํ. วฑฺฒินฺติ อติวฑฺฒินิมิตฺตํ.
อิมินา ¶ วจเนนาติ อิมสฺมึ สุตฺเต อนนฺตรํ วุตฺตวจเนน. น เกวลํ อิมินาว, สุตฺตนฺตรมฺปิ อาเนตฺวา ปฏิพาหิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เม อาจริโย อตฺถี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ น เม อาจริโย อตฺถีติ โลกุตฺตรธมฺเม มยฺหํ อาจริโย นาม นตฺถิ. กิฺจาปิ โลกิยธมฺมานมฺปิ ยาทิโส โลกนาถสฺส อธิคโม, น ตาทิโส อธิคโม ปรูปเทโส อตฺถิ. โลกุตฺตรธมฺเม ปนสฺส เลโสปิ นตฺถิ. นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโลติ มยฺหํ สีลาทีหิ คุเณหิ ปฏินิธิภูโต ปุคฺคโล นาม นตฺถิ. สรนฺติ กรเณ เอตํ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘สรนฺเตนา’’ติ, สรนฺติ วา สรณเหตุ จาติ อตฺโถ.
ยโตติ ภุมฺมตฺเถ โตสทฺโทติ อาห ‘‘ยสฺมึ กาเล’’ติ. รตฺติโย ชานนฺตีติ รตฺตฺู, อตฺตโน ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย พหู รตฺติโย ชานนฺติ, จิรปพฺพชิตาติ วุตฺตํ โหติ. รตฺตฺูนํ ¶ มหนฺตภาโว รตฺตฺุมหนฺตํ. ภาวปฺปธาโน เอส นิทฺเทโส. ‘‘รตฺตฺุมหตฺต’’นฺติ วา ปาโ. เอส นโย เสเสสุปิ. เถรนวมชฺฌิมานํ วเสน วิปุลภาโว เวปุลฺลมหนฺตํ. สิกฺขตฺตยสงฺคหิตสฺส สาสนพฺรหฺมจริยสฺส ฌานาภิฺาทิวเสน วิปุลภาโว พฺรหฺมจริยมหนฺตํ. วิสิฏฺสฺส ปจฺจยลาภสฺส วิปุลภาโว ลาภคฺคมหนฺตํ. จตุพฺพิเธน มหนฺเตนาติ จตุพฺพิเธน มหนฺตภาเวน. มหาปชาปติยา ทุสฺสยุคทานกาเลติ ภควโต สงฺเฆ คารวสฺส ปากฏกาลทสฺสนมตฺตํ. น หิ ภควา ตโต ปุพฺเพ สงฺเฆ คารวรหิโต วิหาสิ.
ปมอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒.ทุติยอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา
๒๒. ทุติเย หุหุงฺกชาติเกนาติ โส กิร ทิฏฺมงฺคลิโก มานวเสน โกธวเสน จ ‘‘หุหุ’’นฺติ กโรนฺโต วิจรติ, ตสฺมา หุหุงฺกชาติโกติ วุจฺจติ. ‘‘หุหุกฺกชาติโก’’ติปิ ปนฺติ, เตน สทฺธึ อาคตาติ อตฺโถ. ชราชิณฺณาติ ชราย ขณฺฑทนฺตปลิตเกสาทิภาวํ อาปาทิตา. วโยวุทฺธาติ องฺคปจฺจงฺคานํ วุทฺธิมริยาทปฺปตฺตา. ชาติมหลฺลกาติ อุปปตฺติยา มหลฺลกภาเวน สมนฺนาคตา. มหตฺตํ ลนฺติ คณฺหนฺตีติ ¶ มหลฺลกา, ชาติยา มหลฺลกา, น วิภวาทินาติ ชาติมหลฺลกา. วโยอนุปฺปตฺตาติ ปจฺฉิมวยํ สมฺปตฺตา, ปจฺฉิมวโย นาม วสฺสสตสฺส ปจฺฉิโม ตติโย ภาโค. ชิณฺณาติ วา โปราณา, จิรกาลปฺปวตฺตกุลนฺวยาติ วุตฺตํ โหติ. วุทฺธาติ สีลาจาราทิคุณวุทฺธิยุตฺตา. มหลฺลกาติ วิภวมหนฺตตาย สมนฺนาคตา. มหทฺธนาติ มหาโภคา. อทฺธคตาติ มคฺคปฺปฏิปนฺนา พฺราหฺมณานํ วตจริยาทิมริยาทํ อวีติกฺกมฺม จรมานา. วโยอนุปฺปตฺตาติ ชาติวุทฺธภาวํ อนฺติมวยํ อนุปฺปตฺตา. สุตํ เนตนฺติ เอตฺถ สุตํ โน เอตนฺติ ปทจฺเฉโท. โนติ จ กรณตฺเถ สามิวจนํ. เตนาห ‘‘อมฺเหหิ สุต’’นฺติ.
อกาเลติ อยุตฺตกาเล. อสภาวํ วทตีติ ยํ นตฺถิ, ตํ วทติ. อนตฺถํ วทตีติ อการณนิสฺสิตํ วทติ. อการณนิสฺสิตนฺติ จ นิปฺผลนฺติ อตฺโถ. ผลฺหิ การณนิสฺสิตํ. อการณนิสฺสิตตา จ ตทวินาภาวโต อการเณ นิสฺสิตํ, นิปฺผลํ สมฺผนฺติ วุตฺตํ โหติ. อวินยํ วทตีติ น สํวรวินยปฺปฏิสํยุตฺตํ วทติ, อตฺตโน สุณนฺตสฺส จ น สํวรวินยาวหํ วทตีติ วุตฺตํ โหติ. น หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกนฺติ อหิตสํหิตตฺตา จิตฺตํ อนุปฺปเวเสตฺวา นิเธตุํ อยุตฺตํ. กเถตุํ อยุตฺตกาเลนาติ ธมฺมํ กเถนฺเตน โย อตฺโถ ยสฺมึ กาเล ¶ วตฺตพฺโพ, ตโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ ตสฺส อกาโล, ตสฺมึ อยุตฺตกาเล วตฺตา. อปเทสรหิตนฺติ สุตฺตาปเทสรหิตํ. สาปเทสํ สการณํ กตฺวา น กเถตีติ ‘‘ภควตา อสุเก สุตฺเต เอวํ วุตฺต’’นฺติ เอวํ สาปเทสํ การณสหิตํ กตฺวา น กเถติ.
ปริยนฺตรหิตนฺติ ปริจฺเฉทรหิตํ, สุตฺตํ วา ชาตกํ วา นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส อนุโยคํ อุปมํ วา วตฺถุํ วา อาหริตฺวา ยํ สุตฺตํ ชาตกํ วา นิกฺขิปิตํ, ตสฺส สรีรภูตํ กถํ อนามสิตฺวา พาหิรกถํเยว กเถติ, นิกฺขิตฺตํ นิกฺขิตฺตมตฺตเมว โหติ, ‘‘สุตฺตํ นุ โข กเถติ ชาตกํ นุ โข, นาสฺส อนฺตํ วา โกฏึ วา ปสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. ยถา วฏรุกฺขสาขานํ คตคตฏฺาเน ปาโรหา โอตรนฺติ, โอติณฺโณ-ติณฺณฏฺาเน วิรุฬฺหึ อาปชฺชิตฺวา ปุน วฑฺฒนฺติเยว, เอวํ อฑฺฒโยชนมฺปิ โยชนมฺปิ คจฺฉติเยว. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ปน มูลรุกฺโข วินสฺสติ, อนุชาตปาโรหมูลานิเยว ติฏฺนฺติ, เอวํ อยมฺปิ นิคฺโรธธมฺมกถิโก นาม โหติ. นิกฺขิตฺตํ นิกฺขิตฺตเมว กตฺวา ปสฺเสเนว ปริหรนฺโต คจฺฉติ. โย ปน พหุมฺปิ ¶ ภณนฺโต ‘‘เอตทตฺถมิทํ วุตฺต’’นฺติ นิกฺขิตฺตสุตฺตโต อฺมฺปิ อนุโยคูปมาวตฺถุวเสน ตทุปโยคีนํ อาหริตฺวา อาหริตฺวา ชานาเปตุํ สกฺโกติ, ตถารูปสฺส ธมฺมกถิกสฺส พหุมฺปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. น โลกิยโลกุตฺตรอตฺถนิสฺสิตนฺติ อตฺตโน ปเรสฺจ น โลกิยโลกุตฺตรหิตาวหํ.
ปกฏฺานํ อุกฺกฏฺานํ สีลาทิอตฺถานํ โพธนโต สภาวนิรุตฺติวเสน จ พุทฺธาทีหิ ภาสิตตฺตา ปกฏฺานํ วจนปฺปพนฺธานํ อาฬีติ ปาฬิ, ปริยตฺติธมฺโม. ปุริมสฺส อตฺถสฺส ปจฺฉิเมน อตฺเถน อนุสนฺธานํ อนุสนฺธิ, อตฺถมุเขน ปน ปาฬิปฺปเทสานมฺปิ อนุสนฺธิ โหติเยว. สฺวายํ อนุสนฺธิ ปุจฺฉานุสนฺธิอชฺฌาสยานุสนฺธิยถานุสนฺธิอาทิวเสน จตุพฺพิโธ, ตํตํเทสนานํ ปน ปุพฺพาปรปาฬิวเสน อนุสนฺธิวเสน ปุพฺพาปรวเสนาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. อุคฺคหิตนฺติ พฺยฺชนโส อตฺถโส จ อุทฺธํ อุทฺธํ คหิตํ, ปริยาปุณนวเสน เจว ปริปุจฺฉาวเสน จ หทเยน คหิตนฺติ อตฺโถ. วฏฺฏทุกฺขนิสฺสรณตฺถิเกหิ โสตพฺพโต สุตํ, ปริยตฺติธมฺโม. ตํ ธาเรตีติ สุตธโร. โย หิ สุตธโร, สุตํ ตสฺมึ ปติฏฺิตํ โหติ สุปฺปติฏฺิตํ อโรคิกํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สุตสฺส อาธารภูโต’’ติ. เตนาห ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ. เอกํ ปทํ เอกกฺขรมฺปิ อวินฏฺํ หุตฺวา สนฺนิจียตีติ สนฺนิจโย, สุตํ สนฺนิจโย เอตสฺมินฺติ สุตสนฺนิจโย. อชฺโฌสายาติ อนุปฺปวิสิตฺวา. ติฏฺตีติ น สมฺมุสฺสติ.
ปคุณาติ วาจุคฺคตา. นิจฺจลิกนฺติ อวิปริวตฺตํ. สํสนฺทิตฺวาติ อฺเหิ สํสนฺทิตฺวา. สมนุคฺคาหิตฺวาติ ¶ ปริปุจฺฉาวเสน อตฺถํ โอคาหิตฺวา. ปพนฺธสฺส วิจฺเฉทาภาวโต คงฺคาโสตสทิสํ. ‘‘ภวงฺคโสตสทิส’’นฺติ วา ปาโ, อกิตฺติมํ สุขปฺปวตฺตีติ อตฺโถ. สุตฺเตกเทสสฺส สุตฺตมตฺตสฺส จ วจสา ปริจโย อิธ นาธิปฺเปโต, วคฺคาทิวเสน ปน อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘สุตฺตทสก…เป… สชฺฌายิตา’’ติ, ‘‘ทสสุตฺตานิ คตานิ, ทสวคฺคานิ คตานี’’ติอาทินา สลฺลกฺเขตฺวา วาจาย สชฺฌายิตาติ อตฺโถ. มนสา อนุ อนุ เปกฺขิตา ภาคโส นิชฺฌายิตา จินฺติตา มนสานุเปกฺขิตา. รูปคตํ วิย ปฺายตีติ รูปคตํ วิย จกฺขุสฺส วิภูตํ หุตฺวา ปฺายติ. สุปฺปฏิวิทฺธาติ นิชฺชฏํ นิคฺคุมฺพํ กตฺวา สุฏฺุ ยาถาวโต ปฏิวิทฺธา.
อธิกํ ¶ เจโตติ อภิเจโต, อุปจารชฺฌานจิตฺตํ. ตสฺส ปน อธิกตา ปากติกกามาวจรจิตฺเตหิ สุนฺทรตาย, สา ปฏิปกฺขโต สุทฺธิยาติ อาห ‘‘อภิกฺกนฺตํ วิสุทฺธํ จิตฺต’’นฺติ. อธิจิตฺตนฺติ สมาธิมาห. โสปิ อุปจารสมาธิ ทฏฺพฺโพ. วิเวกชํ ปีติสุขํ, สมาธิชํ ปีติสุขํ, อปีติชํ กายสุขํ, สติปาริสุทฺธิชํ าณสุขนฺติ จตุพฺพิธมฺปิ ฌานสุขํ ปฏิปกฺขโต นิกฺขนฺตตํ อุปาทาย เนกฺขมฺมสุขนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘เนกฺขมฺมสุขํ วินฺทตี’’ติ. อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตุํ สมตฺโถติ อิมินา เตสุ ฌาเนสุ สมาปชฺชนวสีภาวมาห. นิกามลาภีติ ปน วจนโต อาวชฺชนาธิฏฺานปจฺจเวกฺขณวสิโยปิ วุตฺตา เอวาติ เวทิตพฺพา. สุเขเนว ปจฺจนีกธมฺเม วิกฺขมฺเภตฺวาติ เอเตน เตสํ ฌานานํ สุขปฺปฏิปทตํ ขิปฺปาภิฺตฺจ ทสฺเสติ.
วิปุลานนฺติ เวปุลฺลํ ปาปิตานํ ฌานานํ. วิปุลตา นาม สุภาวิตภาเวน จิรตรปฺปวตฺติยา, สา จ ปริจฺเฉทานุรูปาว อิจฺฉิตพฺพาติ ‘‘วิปุลาน’’นฺติ วตฺวา ‘‘ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺาตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห. ปริจฺเฉทกาลฺหิ อปฺปตฺวาว วุฏฺหนฺโต อกสิรลาภี น โหติ ยาวทิจฺฉิตํ ปวตฺเตตุํ อสมตฺถตฺตา. อิทานิ ยถาวุตฺเต สมาปชฺชนาทิวสีภาเว พฺยติเรกวเสน วิภาเวตุํ ‘‘เอกจฺโจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ลาภีเยว โหตีติ อิทํ ปฏิลทฺธมตฺตสฺส ฌานสฺส วเสน วุตฺตํ. ตถาติ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ. ปาริปนฺถิเกติ วสีภาวสฺส ปจฺจนีกธมฺเม. ฌานาธิคมสฺส ปน ปจฺจนีกธมฺมา ปเคว วิกฺขมฺภิตา, อฺถา ฌานาธิคโม เอว น สิยา. กิจฺเฉน วิกฺขมฺเภตีติ กิจฺเฉน วิโสเธติ. กามาทีนวปจฺจเวกฺขณาทีหิ กามจฺฉนฺทาทีนํ วิย อฺเสมฺปิ สมาธิปาริปนฺถิกานํ ทูรสมุสฺสารณํ อิธ วิกฺขมฺภนํ วิโสธนฺจาติ เวทิตพฺพํ. นาฬิกยนฺตนฺติ กาลมานนาฬิกยนฺตมาห.
อฏฺปิตสงฺกปฺโปติ ¶ น สมฺมาปณิหิตสงฺกปฺโป. อภิฺาปารคูติ สพฺเพสํ โลกิยโลกุตฺตรธมฺมานํ อภิฺาย ปารํ คโต, สพฺพธมฺเม อภิวิสิฏฺาย อคฺคมคฺคปฺาย ชานิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. ปริฺาปารคูติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ปริฺาย ปารํ คโต, ปฺจกฺขนฺเธ ปริชานิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. ภาวนาปารคูติ จตุนฺนํ มคฺคานํ ภาวนาย ปารํ คโต, จตฺตาโร มคฺเค ภาเวตฺวา ิโตติ อตฺโถ. ปหานปารคูติ สพฺพกิเลสานํ ปหาเนน ปารํ คโต, สพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา ิโตติ อตฺโถ ¶ . สจฺฉิกิริยาปารคูติ นิโรธสจฺฉิกิริยาย ปารํ คโต, นิโรธํ สจฺฉิกตฺวา ิโตติ อตฺโถ. สมาปตฺติปารคูติ สพฺพสมาปตฺตีนํ สมาปชฺชเนน ปารํ คโต, สพฺพา สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ ยํ พฺรหฺมจริยสฺส เกวลํ สกลภาโว, เตน สมนฺนาคโต, สกลจตุมคฺคพฺรหฺมจริยวาโสติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สกลพฺรหฺมจริโย’’ติ, ปริปุณฺณมคฺคพฺรหฺมจริโยติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
ทุติยอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. โลกสุตฺตวณฺณนา
๒๓. ตติเย โลโกติ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก. อตฺถโต ปุริมสฺมึ อริยสจฺจทฺวยํ, อิธ ปน ทุกฺขํ อริยสจฺจํ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘โลโกติ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ. วิสํยุตฺโตติ วิสํสฏฺโ น ปฏิพทฺโธ, สพฺเพสํ สํโยชนานํ สมฺมเทว สมุจฺฉินฺนตฺตา ตโต วิปฺปมุตฺโตติ อตฺโถ. โลกสมุทโยติ สุตฺตนฺตนเยน ตณฺหา, อภิธมฺมนเยน ปน อภิสงฺขาเรหิ สทฺธึ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ. โลกนิโรโธติ นิพฺพานํ. สจฺฉิกโตติ อตฺตปจฺจกฺโข กโต. โลกนิโรธคามินี ปฏิปทาติ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยสงฺคโห อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. โส หิ โลกนิโรธํ นิพฺพานํ คจฺฉติ อธิคจฺฉติ, ตทตฺถํ อริเยหิ ปฏิปชฺชียติ จาติ โลกนิโรธคามินี ปฏิปทาติ วุจฺจติ.
เอตฺตาวตา ตถานิ อภิสมฺพุทฺโธ ยาถาวโต คโตติ ตถาคโตติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. จตฺตาริ หิ อริยสจฺจานิ ตถานิ นาม. ยถาห –
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อิทํ ทุกฺขนฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐; ปฏิ. ม. ๒.๘) วิตฺถาโร.
อปิจ ¶ ตถาย คโตติ ตถาคโต, คโตติ จ อวคโต อตีโต ปตฺโต ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา ภควา ¶ สกลโลกํ ตีรณปริฺาย ตถาย อวิปรีตาย คโต อวคโต, ตสฺมา โลโก ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต. โลกสมุทยํ ปหานปริฺาย ตถาย คโต อตีโตติ ตถาคโต. โลกนิโรธํ สจฺฉิกิริยาย ตถาย คโต ปตฺโตติ ตถาคโต. โลกนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ตถํ อวิปรีตํ คโต ปฏิปนฺโนติ ตถาคโตติ. เอวํ อิมิสฺสา ปาฬิยา ตถาคตภาวทีปนวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิติ ภควา จตุสจฺจาภิสมฺโพธวเสน อตฺตโน ตถาคตภาวํ ปกาเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ ทิฏฺาทิอภิสมฺโพธวเสนปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. อฏฺกถายํ ปน ‘‘จตูหิ สจฺเจหิ อตฺตโน พุทฺธภาวํ กเถตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ตถาคตสทฺทพุทฺธสทฺทานํ อตฺถโต นินฺนานากรณตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตถา เจว หิ ปาฬิ ปวตฺตาติ. ทิฏฺนฺติ รูปายตนํ ทฏฺพฺพโต. เตน ยํ ทิฏฺํ ยํ ทิสฺสติ, ยํ ทกฺขติ, ยํ สมวาเย ปสฺเสยฺย, ตํ สพฺพํ ทิฏฺนฺเตว คหิตํ กาลวิเสสสฺส อนามฏฺภาวโต ยถา ‘‘ทุทฺธ’’นฺติ ทสฺเสติ. สุตนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สุตนฺติ สทฺทายตนํ โสตพฺพโต. มุตนฺติ สนิสฺสเย อินฺทฺริเย นิสฺสยํ มฺุจิตฺวา ปาปุณิตฺวา คเหตพฺพํ. เตนาห ‘‘ปตฺวา คเหตพฺพโต’’ติ. วิฺาตนฺติ วิชานิตพฺพํ. ตํ ปน ทิฏฺาทิวินิมุตฺตํ วิฺเยฺยนฺติ อาห ‘‘สุขทุกฺขาทิ ธมฺมารมฺมณ’’นฺติ. ปตฺตนฺติ ยถา ตถา ปตฺวา หตฺถคตํ, อธิคตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา’’ติ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺติยา อตฺถํ ปริยิฏฺํ. ตํ ปน ปตฺตํ วา สิยา อปฺปตฺตํ วา, อุภยถาปิ ปริเยสิตเมวาติ อาห ‘‘ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา’’ติ. ทฺวเยนปิ ทฺวิปฺปการมฺปิ ปตฺตํ ทฺวิปฺปการมฺปิ ปริเยสิตํ เตน เตน ปกาเรน ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธนฺติ ทสฺเสติ. จิตฺเตน อนุสฺจริตนฺติ เต ปน อปาเปตฺวา จิตฺเตเนว อนุ อนุ สฺจริตํ, วิปริตกฺกิตนฺติ อตฺโถ.
ปีตกนฺติอาทีติ อาทิสทฺเทน โลหิตโอทาตาทิสพฺพํ รูปารมฺมณภาคํ สงฺคณฺหาติ. สุมโนติ ราควเสน โลภวเสน สทฺธาทิวเสน วา สุมโน. ทุมฺมโนติ พฺยาปาทวิตกฺกวเสน วา วิหึสาวิตกฺกวเสน วา ทุมฺมโน. มชฺฌตฺโตติ อฺาณวเสน, าณวเสน วา มชฺฌตฺโต. เอส นโย สพฺพตฺถ. ตตฺถ อาทิสทฺเทน สงฺขสทฺโท, ปณวสทฺโท, ปตฺตคนฺโธ, ปุปฺผคนฺโธ, ปุปฺผรโส, ผลรโส, อุปาทินฺนํ, อนุปาทินฺนํ, มชฺฌตฺตเวทนา ¶ กุสลกมฺมํ อกุสลกมฺมนฺติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อปฺปตฺตนฺติ าเณน อสมฺปตฺตํ, อวิทิตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘าเณน อสจฺฉิกต’’นฺติ. โลเกน คตนฺติ โลเกน าตํ. ตเถว คตตฺตาติ ตเถว าตตฺตา อภิสมฺพุทฺธตฺตา ¶ , คตสทฺเทน เอกตฺตํ พุทฺธิอตฺถนฺติ อตฺโถ. คติอตฺโถ หิ ธาตโว พุทฺธิอตฺถา ภวนฺตีติ อกฺขรจินฺตกา.
ยฺจ, ภิกฺขเว, รตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌตีติ ยสฺสฺจ วิสาขปุณฺณมาย รตฺติยํ ตถาอาคตตฺตาทิอตฺเถน ตถาคโต ภควา โพธิมณฺเฑ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน ติณฺณํ มารานํ มตฺถกํ มทฺทิตฺวา อุตฺตริตราภาวโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อาสวกฺขยาเณน สทฺธึ สพฺพฺุตฺาณํ อธิคจฺฉติ. ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายตีติ ยสฺสฺจ วิสาขปุณฺณมาย รตฺติยํเยว กุสินารายํ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน ยมกสาลานมนฺตเร อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ. ยํ เอตสฺมึ อนฺตเรติ อิมาสํ ทฺวินฺนํ สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสนิพฺพานธาตูนํ มชฺเฌ ปฺจจตฺตาลีสวสฺสปริมาณกาเล ปมโพธิยมฺปิ มชฺฌิมโพธิยมฺปิ ปจฺฉิมโพธิยมฺปิ ยํ สุตฺตเคยฺยาทิปฺปเภทํ ธมฺมํ ภาสติ นิทสฺสนวเสน, ลปติ อุทฺทิสนวเสน, นิทฺทิสติ ปรินิทฺทิสนวเสน. สพฺพํ ตํ ตเถว โหตีติ ตํ เอตฺถนฺตเร เทสิตํ สพฺพํ สุตฺตเคยฺยาทินวงฺคํ พุทฺธวจนํ อตฺถโต พฺยฺชนโต จ อนูนํ อนธิกํ สพฺพาการปริปุณฺณํ ราคมทนิมฺมทนํ โทสมทนิมฺมทนํ โมหมทนิมฺมทนํ, นตฺถิ ตตฺถ วาลคฺคมตฺตมฺปิ อวกฺขลิตํ, เอกมุทฺทิกาย ลฺฉิตํ วิย เอกาย นาฬิยา มิตํ วิย เอกตุลาย ตุลิตํ วิย จ ตํ ตเถว โหติ ยสฺสตฺถาย ภาสิตํ, เอกนฺเตเนว ตสฺส สาธนโต, โน อฺถา, ตสฺมา ตถํ อวิตถํ อนฺถํ. เอเตน ตถาวาทิตาย ตถาคโตติ ทสฺเสติ. คทอตฺโถ อยํ คตสทฺโท ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา, ตสฺมา ตถํ คทตีติ ตถาคโตติ อตฺโถ. อถ วา อาคทนํ อาคโท, วจนนฺติ อตฺโถ. ตโต อวิปรีโต อาคโท อสฺสาติ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ตถาคโตติ เอวเมตฺถ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
ยถาวาทีติ เย ธมฺเม ภควา ‘‘อิเม ธมฺมา อกุสลา สาวชฺชา วิฺุครหิตา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ ปเรสํ ธมฺมํ เทเสนฺโต วทติ, เต ธมฺเม เอกนฺเตเนว สยํ ปหาสิ. เย ปน ¶ ธมฺเม ภควา – ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา อนวชฺชา วิฺุปฺปสตฺถา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ วทติ, เต ธมฺเม เอกนฺเตเนว สยํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตสฺมา ยถาวาที ภควา ตถาการีติ เวทิตพฺโพ. ตถา สมฺมเทว สีลาทิปริปูรณวเสน สมฺมาปฏิปทายํ ยถาการี ภควา, ตเถว ธมฺมเทสนาย ปเรสํ ตตฺถ ปติฏฺาปนวเสน ตถาวาที. ภควโต หิ วาจาย กาโย อนุโลเมติ, กายสฺสปิ วาจา, ตสฺมา ¶ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที จ โหติ. เอวํภูตสฺส จ ยถา วาจา, กาโยปิ ตถา คโต ปวตฺโต. ยถา จ กาโย, วาจาปิ ตถา คตา ปวตฺตาติ อตฺโถ.
อภิภู อนภิภูโตติ อุปริ ภวคฺคํ, เหฏฺา อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ ภควา สพฺพสตฺเต อภิภวติ สีเลนปิ สมาธินาปิ ปฺายปิ วิมุตฺติยาปิ, น ตสฺส ตุลา วา ปมาณํ วา อตฺถิ. อสโม อสมสโม อปฺปฏิโม อปฺปฏิภาโค อปฺปฏิปุคฺคโล อตุโล อปฺปเมยฺโย อนุตฺตโร ธมฺมราชา เทวเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา, ตโต เอว อยํ น เกนจิ อภิภูโต. ทกฺขตีติ สพฺพํ ปสฺสติ. วิเสสวจนิจฺฉายปิ อภาวโต อนวเสสวิสโย ทสสทฺโท. เตน ยํ กิฺจิ เนยฺยํ นาม, สพฺพํ ตํ หตฺถตเล อามลกํ วิย ปสฺสตีติ ทีเปติ. อวิปรีตํ อาสยาทิอวโพเธน หิตูปสํหาราทินา จ สตฺเต, ภาวฺตฺถตฺตูปนยวเสน สงฺขาเร, สพฺพากาเรน สุจิณฺณวสิตาย สมาปตฺติโย, จิตฺตฺจ วเส วตฺเตตีติ วสวตฺตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
วิสํยุตฺโตติ จตูหิ โยเคหิ วิสํยุตฺโต. เตนาห ‘‘จตุนฺนํ โยคานํ ปหาเนน วิสํยุตฺโต’’ติ. ตณฺหาทิฏฺิอุปเยหิ วิรหิโตติ สพฺพสฺมิมฺปิ โลเก ตณฺหาทิฏฺิสงฺขาเตหิ อุปเยหิ วิรหิโต.
อภิภวิตฺวา ิโตติ ตพฺพิสยกิเลสปฺปหาเนน อภิภุยฺย อติกฺกมิตฺวา ิโต. จตฺตาโรปิ คนฺเถ โมเจตฺวา ิโตติ สพฺเพ อภิชฺฌากายคนฺถาทิเก สกสนฺตานโต โมเจตฺวา ิโต. เวเนยฺยสนฺตาเน วา อตฺตโน เทสนาวิลาเสน เตสํ ปโมจโนติ สพฺพคนฺถปฺปโมจโน. ผุฏฺสฺส ปรมา สนฺตีติ อสฺส อเนน ขีณาสเวน พุทฺเธน ¶ ปรมา สนฺติ าณผุสเนน ผุฏฺาติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘ผุฏฺสฺสา’’ติอาทิ. นิพฺพาเน กุโตจิ ภยํ นตฺถีติ กุโตจิ ภยการณโต นิพฺพาเน ภยํ นตฺถิ อสงฺขตภาเวน สพฺพโส เขมตฺตา. เตนาห ภควา – ‘‘เขมฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ เขมคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๓๗๙-๔๐๘). นิพฺพานปฺปตฺตสฺส วา กุโตจิ ภยํ นตฺถีติ นิพฺพานํ อกุโตภยนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, น กุโตจิ ภยํ เอตฺถ เอตสฺมึ อธิคเตติ อกุโตภยํ, นิพฺพานนฺติ เอวเมตฺถ นิพฺพจนฺจ ทฏฺพฺพํ.
อนีโฆ นิทฺทุกฺโข. สพฺพกมฺมกฺขยํ ปตฺโตติ สพฺเพสํ กมฺมานํ ขยํ ปริโยสานํ อจฺจนฺตภาวํ ปตฺโต. อุปธี สมฺมเทว ขียนฺติ เอตฺถาติ อุปธิสงฺขโย, นิพฺพานนฺติ อาห ‘‘อุปธิสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน’’ติ. จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ. ปวตฺตยีติ เตปริวฏฺฏํ ทฺวาทสาการํ ปวตฺเตสิ ¶ . มหนฺเตหิ สีลาทิคุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา มหนฺตํ. วีตสารทนฺติ จตุเวสารชฺชโยเคน วีตสารทํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
โลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. กาฬการามสุตฺตวณฺณนา
๒๔. จตุตฺเถ พาฬฺหํ โข เน ปสํสสีติ เน สมเณ พาฬฺหํ กตฺวา ปสํสสิ วณฺณยสิ. กีทิสํ สีลํ เอเตสนฺติ กึสีลา. โก สมาจาโร เอเตสนฺติ กึสมาจารา. คุณมคฺคสณฺิตาติ คุณคฺคสณฺิตา. ม-กาโร ปทสนฺธิกโร, อคฺคคุเณ ปติฏฺิตาติ วุตฺตํ โหติ. สนฺตินฺทฺริยา สนฺตมานสา, ‘‘สนฺตํ เตสํ คตํ ิต’’นฺติปิ ปนฺติ. เอกกิยาติ เอกกา, จตูสุ อิริยาปเถสุ เอกกา หุตฺวา วิหรนฺตีติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘อทุติยา’’ติ. ตาทิสา สมณา มมาตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน –
‘‘กายกมฺมํ สุจิ เนสํ, วาจากมฺมํ อนาวิลํ;
มโนกมฺมํ สุวิสุทฺธํ, ตาทิสา สมณา มม.
‘‘วิมลา ¶ สงฺขมุตฺตาภา, สุทฺธา อนฺตรพาหิรา;
ปุณฺณา สุทฺเธหิ ธมฺเมหิ, ตาทิสา สมณา มม.
‘‘ลาเภน อุนฺนโต โลโก, อลาเภน จ โอนโต;
ลาภาลาเภน เอกฏฺา, ตาทิสา สมณา มม.
‘‘ยเสน อุนฺนโต โลโก, อยเสน จ โอนโต;
ยสายเสน เอกฏฺา, ตาทิสา สมณา มม.
‘‘ปสํสายุนฺนโต โลโก, นินฺทายปิ จ โอนโต;
สมา นินฺทาปสํสาสุ, ตาทิสา สมณา มม.
‘‘สุเขน ¶ อุนฺนโต โลโก, ทุกฺเขนปิ จ โอนโต;
อกมฺปา สุขทุกฺเขสุ, ตาทิสา สมณา มมา’’ติ. (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๓๐๓ จูฬสุภทฺทาวตฺถุ) –
เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ.
‘‘ทูเร สนฺโต’’ติอาทิคาถาย อยมตฺโถ. สนฺโตติ ราคาทีนํ สนฺตตาย พุทฺธาทโย สนฺโต นาม, อิธ ปน ปุพฺพพุทฺเธสุ กตาธิการา อุสฺสนฺนกุสลมูลา ภาวิตภาวนา สตฺตา สนฺโตติ อธิปฺเปตา. ปกาสนฺตีติ ทูเร ิตาปิ พุทฺธานํ าณปถํ อาคจฺฉนฺตา ปากฏา โหนฺติ. หิมวนฺโตวาติ ยถา ติโยชนสหสฺสวิตฺถโต ปฺจโยชนสตุพฺเพโธ จตุราสีติยา กูฏสหสฺเสหิ ปฏิมณฺฑิโต หิมวนฺตปพฺพโต ทูเร ิตานมฺปิ อภิมุเข ิโต วิย ปกาสติ, เอวํ ปกาสนฺตีติ อตฺโถ. อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺตีติ ลาภครุกา, วิตฺถิณฺณปรโลกา, อามิสจกฺขุกา, ชีวิกตฺถาย ปพฺพชิตา, พาลปุคฺคลา อสนฺโต นาม. เต เอตฺถ พุทฺธานํ ทกฺขิณสฺส ชาณุมณฺฑลสฺส สนฺติเก นิสินฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ น ปฺายนฺติ. รตฺตึ ขิตฺตา ยถา สราติ รตฺตึ จตุรงฺคสมนฺนาคเต อนฺธกาเร ขิตฺตา สรา วิย ตถารูปสฺส อุปนิสฺสยภูตสฺส ปุพฺพเหตุโน อภาเวน น ปฺายนฺตีติ อตฺโถ.
พฺรหฺมเทยฺยนฺติ เสฏฺเทยฺยํ, ยถา ทินฺนํ น ปุน คเหตพฺพํ โหติ นิสฺสฏฺํ ปริจฺจตฺตํ, เอวํ ทินฺนนฺติ อตฺโถ.
ทิฏฺํ น มฺตีติ เอตฺถ ทิฏฺนฺติ มํสจกฺขุนาปิ ทิฏฺํ, ทิพฺพจกฺขุนาปิ ทิฏฺํ, รูปายตนสฺเสตํ อธิวจนํ. ยฺหิ จกฺขุทฺวเยน กตทสฺสนกิริยาสมาปนํ, ยํ ¶ จกฺขุทฺวยํ ปสฺสติ อปสฺสิ ปสฺสิสฺสติ, สมวาเย ปสฺเสยฺย, ตํ สพฺพํ กาลวิเสสวจนิจฺฉาย อภาวโต ‘‘ทิฏฺ’’นฺเตว วุตฺตํ ยถา ‘‘ทุทฺธ’’นฺติ. เตเนวาห ‘‘ทิฏฺํ รูปายตน’’นฺติ. เอวรูปานิ หิ วจนานีติ ‘‘ทฏฺพฺพํ โสตพฺพ’’นฺติอาทีนิ.
ลาเภปิ ตาที, อลาเภปิ ตาทีติ ยถา อลาภกาเล ลาภสฺส ลทฺธกาเลปิ ตเถวาติ ตาทิโส. ยเสปีติ ยเส สติปิ มหาปริวารกาเลปิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กาฬการามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. พฺรหฺมจริยสุตฺตวณฺณนา
๒๕. ปฺจเม ¶ นยิทนฺติ เอตฺถ น-อิติ ปฏิเสเธ นิปาโต, ตสฺส ‘‘วุสฺสตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ ‘‘น วุสฺสตี’’ติ, ย-กาโร ปทสนฺธิกโร. อิทํ-สทฺโท ‘‘เอกมิทาหํ, ภิกฺขเว, สมยํ อุกฺกฏฺายํ วิหรามิ สุภควเน สาลราชมูเล’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๙๑; ม. นิ. ๑.๕๐๑) นิปาตมตฺตํ, ‘‘อิทํ โข ตํ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตกํ สีลมตฺตก’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๗) ยถาวุตฺเต อาสนฺนปจฺจกฺเข อาคโต.
‘‘อิทฺหิ ตํ เชตวนํ, อิสิสงฺฆนิเสวิตํ;
อาวุตฺถํ ธมฺมราเชน, ปีติสฺชนนํ มมา’’ติ. (ม. นิ. ๓.๓๘๗-๓๘๘; สํ. นิ. ๑.๔๘, ๑๐๑) –
อาทีสุ วกฺขมาเน อาสนฺนปจฺจกฺเข. อิธาปิ วกฺขมาเนเยว อาสนฺนปจฺจกฺเข ทฏฺพฺโพ.
พฺรหฺมจริย-สทฺโท –
‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ,
กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ,
อิทฺจ เต นาค มหาวิมานํ.
‘‘อหฺจ ภริยา จ มนุสฺสโลเก,
สทฺธา อุโภ ทานปตี อหุมฺหา;
โอปานภูตํ เม ฆรํ ตทาสิ,
สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ.
‘‘ตํ ¶ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ,
ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ,
อิทฺจ เม วีร มหาวิมาน’’นฺติ. –
อิมสฺมึ ¶ ปุณฺณกชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑๕๙๕) ทาเน อาคโต.
‘‘เกน ปาณิ กามทโท, เกน ปาณิ มธุสฺสโว;
เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปฺุํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ. –
อิมสฺมึ องฺกุรเปตวตฺถุสฺมึ (เป. ว. ๒๗๕, ๒๗๗) เวยฺยาวจฺเจ.
‘‘เอวํ โข ตํ, ภิกฺขเว, ติตฺติริยํ นาม พฺรหฺมจริยํ อโหสี’’ติ อิมสฺมึ ติตฺติรชาตเก (จูฬว. ๓๑๑) ปฺจสิกฺขาปทสีเล.
‘‘ตํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เนว นิพฺพิทาย น วิราคาย…เป… ยาวเทว พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา’’ติ อิมสฺมึ มหาโควินฺทสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๓๒๙) พฺรหฺมวิหาเร.
‘‘ปเร อพฺรหฺมจารี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ พฺรหฺมจารี ภวิสฺสามา’’ติ อิมสฺมึ สลฺเลขสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๘๓) เมถุนวิรติยํ.
‘‘มยฺจ ภริยา นาติกฺกมาม,
อมฺเห จ ภริยา นาติกฺกมนฺติ;
อฺตฺร ตาหิ พฺรหฺมจริยํ จราม,
ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร’’ติ. –
อิมสฺมึ มหาธมฺมปาลชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๙๗) สทารสนฺโตเส.
‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, สาริปุตฺต, จตุรงฺคสมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ จริตา, ตปสฺสี สุทํ โหมี’’ติ โลมหํสสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๕๕) วีริเย.
‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;
มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌตี’’ติ. –
นิมิชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๔๒๙) อตฺตทมนวเสน กเต อฏฺงฺคิเก อุโปสเถ.
‘‘อิทํ ¶ ¶ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย…เป… อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ มหาโควินฺทสุตฺเตเยว (ที. นิ. ๒.๓๒๙) อริยมคฺเค.
‘‘ตยิทํ พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’’นฺติ ปาสาทิกสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๑๗๔) สิกฺขตฺตยสงฺคหิเต สกลสฺมึ สาสเน. อิธาปิ อริยมคฺเค สาสเน จ วตฺตติ.
วุสฺสตีติ วุสียติ, จรียตีติ อตฺโถ. ชนกุหนตฺถนฺติ ‘‘อโห อยฺโย สีลวา วตฺตสมฺปนฺโน อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติอาทินา ชนสฺส สตฺตโลกสฺส วิมฺหาปนตฺถํ. เกจิ ปน ‘‘กุหนตฺถนฺติ ปาปิจฺฉสฺส อิจฺฉาปกตสฺส สโต สามนฺตชปฺปนอิริยาปถนิสฺสิตปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาเตน ติวิเธน กุหนวตฺถุนา กุหกภาเวน ชนสฺส วิมฺหาปนตฺถ’’นฺติ วทนฺติ. อิธาปิ อยเมวตฺโถ ทสฺสิโต. เตเนวาห ‘‘ตีหิ กุหนวตฺถูหิ ชนสฺส กุหนตฺถายา’’ติ, ชนสฺส วิมฺหาปนตฺถายาติ อตฺโถ. ชนลาปนตฺถนฺติ ‘‘เอวรูปสฺส นาม อยฺยสฺส ทินฺนํ มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’’ติ ปสนฺนจิตฺเตหิ ‘‘เกนตฺโถ, กึ อาหรียตู’’ติ วทาปนตฺถํ. ‘‘ชนลปนตฺถ’’นฺติปิ ปนฺติ, ตสฺส ปาปิจฺฉสฺส สโต ปจฺจยตฺถํ ปริกโถภาสาทิวเสน ลปนภาเวน อุปลาปกภาเวน ชนสฺส ลปนตฺถนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘น ชนลปนตฺถนฺติ น ชนสฺส อุปลาปนตฺถ’’นฺติ.
น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถ’’นฺติปิ ปนฺติ. ตตฺถ ยฺวายํ ‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘ลาภี อสฺสํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๕) สีลานิสํสภาเวน วุตฺโต จตุปจฺจยลาโภ จ. จตุนฺนํ ปจฺจยานํ สกฺกจฺจทานสงฺขาโต อาทรพหุมานครุกรณสงฺขาโต จ สกฺกาโร, โย จ ‘‘สีลสมฺปนฺโน พหุสฺสุโต สุตธโร อารทฺธวีริโย’’ติอาทินา นเยน อุคฺคจฺฉนกถุติโฆสสงฺขาโต สิโลโก พฺรหฺมจริยํ วสนฺตานํ ทิฏฺธมฺมิโก อานิสํโส, ตทตฺถนฺติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถนฺติ ปาปิจฺฉสฺเสว สโต ลาภาทิครุตาย ลาภสกฺการสิโลกสงฺขาตสฺส อานิสํสสฺส อุทยสฺส นิปฺผาทนตฺถ’’นฺติ เอวมตฺถํ วทนฺติ.
น ¶ อิติ มํ ชโน ชานาตูติ เอวํ พฺรหฺมจริยวาเส สติ ‘‘สีลวา กลฺยาณธมฺโม’’ติอาทินา ¶ มํ โลโก ชานาตุ สมฺภาเวตูติ อตฺตโน สนฺตคุณวเสน สมฺภาวนตฺถมฺปิ น อิทํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. เกจิ ปน ‘‘ปาปิจฺฉสฺส สโต อสนฺตคุณสมฺภาวนาธิปฺปาเยน ‘อิติ เอวํคุโณติ มํ โลโก ชานาตู’ติ น อิทํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ เอวเมตฺถ อตฺถํ วทนฺติ. สพฺพตฺถาปิ ปเนตฺถ ปุริโม ปุริโมเยว อตฺถวิกปฺโป สุนฺทรตโร.
อถ โขติ เอตฺถ อถาติ อฺตฺเถ นิปาโต, โขติ อวธารเณ. เตน กุหนาทิโต อฺทตฺถํเยว อิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตีติ ทสฺเสติ. อิทานิ ตํ ปโยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สํวรตฺถํ ปหานตฺถ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ปฺจวิโธ สํวโร – ปาติโมกฺขสํวโร, สติสํวโร, าณสํวโร, ขนฺติสํวโร, วีริยสํวโรติ. ‘‘อิติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติอาทินา (วิภ. ๕๑๑) นเยน อาคโต อยํ ปาติโมกฺขสํวโร, สีลสํวโรติปิ วุจฺจติ. ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) อาคโต อยํ สติสํวโร.
‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, สติ เตสํ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๑; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๔; เนตฺติ. ๔.๑๑, ๔๕) –
อาคโต อยํ าณสํวโร. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๔; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) นเยน อาคโต อยํ ขนฺติสํวโร.
‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) นเยน อาคโต อยํ วีริยสํวโร.
อตฺถโต ปน ปาณาติปาตาทีนํ ปชหนวเสน วตฺตปฺปฏิวตฺตานํ ปูรณวเสน จ ปวตฺตา เจตนา เจว วิรติ จ. สงฺเขปโต สพฺโพ กายวจีสํยโม, วิตฺถารโต สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อวีติกฺกโม สีลสํวโร. สติ เอว สติสํวโร, สติปฺปธานา วา กุสลา ขนฺธา. าณเมว าณสํวโร. อธิวาสนวเสน อโทโส, อโทสปฺปธานา วา ¶ ตถาปวตฺตา กุสลา ขนฺธา ขนฺติสํวโร, ปฺาติ เอเก. กามวิตกฺกาทีนํ อภิภวนวเสน ปวตฺตํ วีริยเมว วีริยสํวโร. เตสุ ปโม กายทุจฺจริตาทีสุ ทุสฺสีลสฺส สํวรณโต สํวโร, ทุติโย มุฏฺสฺสจฺจสฺส ¶ , ตติโย อฺาณสฺส, จตุตฺโถ อกฺขนฺติยา, ปฺจโม โกสชฺชสฺส สํวรณโต ปิทหนโต สํวโรติ เวทิตพฺโพ. เอวเมตสฺส สํวรสฺส อตฺถาย สํวรตฺถํ สํวรนิปฺผาทนตฺถนฺติ อตฺโถ.
ตีหิ ปหาเนหีติ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทสงฺขาเตหิ ตีหิ ปหาเนหิ. ปฺจวิธปฺปหานมฺปิ อิธ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ปฺจวิธฺหิ ปหานํ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวเสน. ตตฺถ ยํ ทีปาโลเกเนว ตมสฺส ปฏิปกฺขภาวโต อโลภาทีหิ โลภาทิกสฺส นามรูปปริจฺเฉทาทิวิปสฺสนาาเณหิ ตสฺส ตสฺส อนตฺถสฺส ปหานํ, เสยฺยถิทํ – ปริจฺจาเคน โลภาทิมลสฺส, สีเลน ปาณาติปาตาทิทุสฺสีลฺยสฺส, สทฺธาทีหิ อสฺสทฺธิยาทิกสฺส, นามรูปววตฺถาเนน สกฺกายทิฏฺิยา, ปจฺจยปริคฺคเหน อเหตุวิสมเหตุทิฏฺีนํ, ตสฺเสว อปรภาเคน กงฺขาวิตรเณน กถํกถีภาวสฺส, กลาปสมฺมสเนน อหํมมาติ คาหสฺส, มคฺคามคฺคววตฺถาเนน อมคฺเค มคฺคสฺาย, อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา, วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา, ภยทสฺสเนน สภเย อภยสฺาย, อาทีนวทสฺสเนน อสฺสาทสฺาย, นิพฺพิทานุปสฺสเนน อภิรติสฺาย, มุจฺจิตุกมฺยตาาเณน อมุจฺจิตุกมฺยตาย, อุเปกฺขาาเณน อนุเปกฺขาย, อนุโลเมน ธมฺมฏฺิติยํ นิพฺพาเน จ ปฏิโลมภาวสฺส, โคตฺรภุนา สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหสฺส ปหานํ, เอตํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม.
ยํ ปน อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺติภาวนิวารณโต ฆฏปฺปหาเรเนว อุทกปิฏฺเ เสวาลสฺส, เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานํ, เอตํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ นาม. ยํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน สนฺตาเน ‘‘ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗; วิภ. ๖๒๘) นเยน วุตฺตสฺส สมุทยปกฺขิยสฺส กิเลสคหณสฺส อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติภาเวน สมุจฺฉินฺทนํ, เอตํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ นาม. ยํ ปน ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺถํ กิเลสานํ, เอตํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นาม. ยํ สพฺพสงฺขตนิสฺสฏตฺตา ปหีนสพฺพสงฺขตํ นิพฺพานํ, เอตํ นิสฺสรณปฺปหานํ นาม ¶ . ตสฺส ปฺจวิธสฺสปิ ตถา ตถา ราคาทิกิเลสานํ ปฏินิสฺสชฺชนฏฺเน สมติกฺกมนฏฺเน วา ปหานสฺส อตฺถาย, ปหานสาธนตฺถนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ตตฺถ สํวเรน กิเลสานํ จิตฺตสนฺตาเน ปเวสนิวารณํ ปหาเนน จ ปเวสนิวารณเมว สมุคฺฆาโต จาติ วทนฺติ. อุภเยนปิ ปน ยถารหํ อุภยํ สมฺปชฺชตีติ ทฏฺพฺพํ. สีลาทิธมฺมา เอว หิ สํวรณโต สํวรํ, ปชหนโต ปหานนฺติ.
อนีติหนฺติ ¶ อีติโย วุจฺจนฺติ อุปทฺทวา ทิฏฺธมฺมิกา สมฺปรายิกา จ. อีติโย หนฺตีติ อีติหํ, อนุ อีติหนฺติ อนีติหํ, สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ. อถ วา อีตีหิ อนตฺเถหิ สทฺธึ หนนฺติ คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อีติหา, ตณฺหาทิอุปกฺกิเลสา. นตฺถิ เอตฺถ อีติหาติ อนีติหํ. อีติหา วา ยถาวุตฺเตนตฺเถน ติตฺถิยสมยา, ตปฺปฏิปกฺขโต อิทํ อนีติหํ. ‘‘อนิติห’’นฺติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ‘‘อิติหาย’’นฺติ ธมฺเมสุ อเนกํสคฺคาหภาวโต วิจิกิจฺฉา อิติหํ นาม, สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตตฺตา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชนฺตานํ นิกฺกงฺขภาวสาธนโต จ นตฺถิ เอตฺถ อิติหนฺติ อนิติหํ, อปรปตฺติยนฺติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ, ‘‘อตกฺกาวจโร’’ติ (ที. นิ. ๒.๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗-๘) จ. คาถาพนฺธสุขตฺถํ ปน ‘‘อนีติห’’นฺติ ทีฆํ กตฺวา ปนฺติ. ปจฺฉิมํ ปเนตฺถ อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิติหปริวชฺชิต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
นิพฺพานสงฺขาตํ โอคธํ ปติฏฺํ ปารํ คจฺฉตีติ นิพฺพาโนคธคามี, วิมุตฺติรสตฺตา เอกนฺเตเนว นิพฺพานสมฺปาปโกติ อตฺโถ, ตํ นิพฺพาโนคธคามินํ พฺรหฺมจริยํ. นิพฺพาโนคโธติ วา อริยมคฺโค วุจฺจติ เตน วินา นิพฺพานาวคาหณสฺส อสมฺภวโต ตสฺส จ นิพฺพานํ อนาลมฺพิตฺวา อปฺปวตฺตนโต, ตฺเจตํ เอกนฺตสมฺปาทเนน คจฺฉตีติ นิพฺพาโนคธคามี. อถ วา นิพฺพาโนคธคามินนฺติ นิพฺพานสฺส อนฺโตคามินํ. มคฺคพฺรหฺมจริยฺหิ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กริตฺวา ตสฺส อนฺโต เอว ปวตฺตตีติ. อิมเมว จ อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสตุํ ‘‘นิพฺพานสฺส อนฺโตคามิน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. โสติ โย โส สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, โส ภควา อเทสยิ เทเสสิ ¶ . มหนฺเตหีติ มหาอาตุเมหิ อุฬารชฺฌาสเยหิ. มหนฺตํ นิพฺพานํ, มหนฺเต วา สีลกฺขนฺธาทิเก เอสนฺติ คเวสนฺตีติ มเหสิโน, พุทฺธาทโย อริยา. เตหิ อนุยาโต ปฏิปนฺโน.
ยถา พุทฺเธน เทสิตนฺติ ยถา อภิฺเยฺยาทิภาเวน สมฺมาสมฺพุทฺเธน มยา เทสิตํ, เอวํ เย เอตํ มคฺคพฺรหฺมจริยํ ตทตฺถํ สาสนพฺรหฺมจริยฺจ ปฏิปชฺชนฺติ. เต ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ อนุสาสนฺตสฺส สตฺถุ มยฺหํ สาสนการิโน โอวาทปฺปฏิกรา สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ ปริยนฺตํ อปฺปวตฺตึ กริสฺสนฺติ, ทุกฺขสฺส วา อนฺตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสนฺตีติ.
พฺรหฺมจริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กุหสุตฺตวณฺณนา
๒๖. ฉฏฺเ ¶ กุหกาติ สามนฺตชปฺปนาทินา กุหนวตฺถุนา กุหกา, อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉาย โกหฺํ กตฺวา ปเรสํ วิทฺธํสกาติ อตฺโถ. ถทฺธาติ ‘‘โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๒๕, ๒๗) เอวํ วุตฺเตน โกเธน จ, ‘‘ทุพฺพโจ โหติ โทวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อกฺขโม อปฺปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนิ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๘๑; ปารา. ๔๒๖). เอวํ วุตฺเตน โทวจสฺเสน จ, ‘‘ชาติมโท, โคตฺตมโท, ลาภมโท, อาโรคฺยมโท, โยพฺพนมโท, ชีวิตมโท’’ติ (วิภ. ๘๓๒) เอวํ วุตฺตชาติมทาทิเภเทน มาเนน จ ครุกาตพฺเพสุ ครูสุปิ นิปจฺจการํ อกตฺวา อโยสลากํ คิลิตฺวา ิตา วิย อโนนตา หุตฺวา วิจรณกา. เตนาห ‘‘โกเธน จา’’ติอาทิ.
อุปลาปกาติ มิจฺฉาชีววเสน กุลสงฺคณฺหกา. ลปาติ ปจฺจยตฺถํ ปยุตฺตวาจาวเสน นิปฺเปสิกตาวเสน ลปกาติ อตฺโถ. สิงฺคนฺติ สิงฺคารํ. ตฺหิ กุสลสฺส วิชฺฌนโต สุฏฺุ อาเสวิตตาย สีเส ปริกฺขิตฺตํ สุนิพฺพตฺตํ วิสาณํ วิย ถิรตฺตา จ สิงฺคํ วิยาติ สิงฺคํ, นาคริกภาวสงฺขาตสฺส กิเลสสิงฺคสฺเสตํ นามํ. สิงฺคารภาโว สิงฺคารตา, สิงฺคารกรณกอากาโร วา. จาตุรภาโว จาตุรตา. ตถา ¶ จาตุริยํ. ปริกฺขตภาโว ปริกฺขตตา, ปริขณิตฺวา ปิตสฺเสว ทฬฺหสิงฺคารสฺเสตํ นามํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. เอวํ สพฺเพหิ วาเรหิ กิเลสสิงฺคารตาว กถิตา.
อุคฺคตนฬาติ นฬสทิสํ ตุจฺฉมานํ อุกฺขิปิตฺวา วิจรณกา. เตนาห ‘‘ตุจฺฉมานํ อุกฺขิปิตฺวา ิตา’’ติ. ยสฺมา เต กุหนาทิโยคโต น สมฺมาปฏิปนฺนา, ตสฺมา ‘‘มม สนฺตกา น โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อปคตาติ ยทิปิ เต มม สาสเน ปพฺพชิตา, ยถานุสิฏฺํ ปน อปฺปฏิปชฺชนโต อปคตา เอว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, อิโต เต สุวิทูเร ิตาติ ทสฺเสติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘นภฺจ ทูเร ปถวี จ ทูเร,
ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;
ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ,
สตฺจ ธมฺโม อสตฺจ ราชา’’ติ. (ชา. ๒.๒๑.๔๑๔);
สพฺพตฺถ ¶ ปตฺถฏตาย เวปุลฺลํ ปาปุณนฺตีติ สพฺพตฺถ ปตฺถฏภาเวน สีลาทิธมฺมกฺขนฺธปาริปูริยา เวปุลฺลํ ปาปุณนฺติ.
กุหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สนฺตุฏฺิสุตฺตวณฺณนา
๒๗. สตฺตเม นิทฺโทสานีติ อวชฺชรหิตานิ อาคมนสุทฺธิโต กายมณฺฑนาทิกิเลสวตฺถุภาวาภาวโต จ. ตตฺถ สุลภตาย ปริเยสนทุกฺขสฺส อภาโว ทสฺสิโต, อปฺปตาย ปริหรณทุกฺขสฺสปิ อภาโว ทสฺสิโต, อนวชฺชตาย อครหิตพฺพตาย ภิกฺขุสารุปฺปภาโว ทสฺสิโต โหติ. อปฺปตาย วา ปริตฺตาสสฺส อวตฺถุตา, สุลภตาย เคธาทีนํ อวตฺถุตา, อนวชฺชตาย อาทีนวทสฺสนนิสฺสรณปฺานํ อตฺถิตา ทสฺสิตา โหติ. อปฺปตาย วา ลาเภน น โสมนสฺสํ ชนยนฺติ, อลาเภน น โทมนสฺสํ ชนยนฺติ, อนวชฺชตาย วิปฺปฏิสารนิมิตฺตํ อฺาณุเปกฺขํ น ชนยนฺติ อวิปฺปฏิสารวตฺถุภาวโต.
ปํสุกูลนฺติ ¶ สงฺการกูฏาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ปํสูนํ อุปริ ิตตฺตา อพฺภุคฺคตฏฺเน ปํสุกูลํ วิยาติ ปํสุกูลํ, ปํสุ วิย กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ปํสุกูลนฺติ เอวํ ลทฺธนามํ รถิกาทีสุ ปติตนนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา กตจีวรํ. รุกฺขมูลนฺติ วิเวกานุรูปํ ยํ กิฺจิ รุกฺขสมีปํ. ยํ กิฺจิ มุตฺตนฺติ ยํ กิฺจิ โคมุตฺตํ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘โคมุตฺตปริภาวิตหรีตกขณฺฑํ ปูติมุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ‘‘ปูติภาเวน อาปณาทิโต วิสฺสฏฺํ ฉฑฺฑิตํ อปริคฺคหิตํ ยํ กิฺจิ เภสชฺชํ ปูติมุตฺตนฺติ อธิปฺเปต’’นฺติ อปเร.
ยโต โขติ ปจฺจตฺเต นิสฺสกฺกวจนํ, ยํ โขติ วุตฺตํ โหติ. เตน ตุฏฺโ โหตีติ วุตฺตกิริยํ ปรามสติ. ตุฏฺโติ สนฺตุฏฺโ. อิทมสฺสาหนฺติ ยฺวายํ จตุพฺพิเธน ยถาวุตฺเตน ปจฺจเยน อปฺเปน สุลเภน สนฺโตโส, อิทํ อิมสฺส ภิกฺขุโน สีลสํวราทีสุ อฺตรํ เอกํ สามฺงฺคํ สมณภาวการณนฺติ อหํ วทามิ. สนฺตุฏฺสฺส หิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปริปุณฺณํ โหติ, สมถวิปสฺสนา จ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. อถ วา สามฺํ นาม อริยมคฺโค, ตสฺส สงฺเขปโต ทฺเว องฺคา พาหิรํ อชฺฌตฺติกนฺติ. ตตฺถ พาหิรํ สปฺปุริสูปนิสฺสโย สทฺธมฺมสฺสวนฺจ. อชฺฌตฺติกํ ปน โยนิโสมนสิกาโร ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ จ. เตสุ ยสฺมา ยถารหํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติภูตา ตสฺส มูลภูตา เจเต ธมฺมา, ยทิทํ อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฏฺิตา ปวิวิตฺตตา อสํสฏฺตา ¶ อารทฺธวีริยตาติ เอวมาทโย, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อิทมสฺสาหํ อฺตรํ สามฺงฺคนฺติ วทามี’’ติ.
เสนาสนมารพฺภาติ วิหาราทึ มฺจปีาทิฺจ เสนาสนํ นิสฺสาย. จีวรํ ปานโภชนนฺติ นิวาสนาทิจีวรํ อมฺพปานกาทิปานํ ขาทนียโภชนียาทิภฺุชิตพฺพวตฺถฺุจ อารพฺภาติ สมฺพนฺโธ. วิฆาโตติ วิฆาตภาโว, จิตฺตสฺส ทุกฺขํ น โหตีติ โยชนา. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ‘‘อมุกสฺมึ นาม อาวาเส ปจฺจยา สุลภา’’ติ ลภิตพฺพฏฺานคมเนน วา ‘‘มยฺหํ ปาปุณาติ, น ตุยฺห’’นฺติ วิวาทาปชฺชเนน วา นวกมฺมกรณาทิวเสน วา เสนาสนาทีนิ ปริเยสนฺตานํ อสนฺตุฏฺานํ อิจฺฉิตาลาภาทินา โย วิฆาโต จิตฺตสฺส โหติ, โส ตตฺถ สนฺตุฏฺสฺส น โหติ. ทิสา นปฺปฏิหฺตีติ สนฺตุฏฺิยา จาตุทฺทิสภาเวน ทิสา น ปฏิหนติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘จาตุทฺทิโส อปฺปฏิโฆ จ โหติ, สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรนา’’ติ (สุ. นิ. ๔๒).
สมณธมฺมสฺส ¶ อนุโลมาติ สมณธมฺมสฺส สมถวิปสฺสนาภาวนาย, อริยมคฺคสฺเสว วา อนุจฺฉวิกา อปฺปิจฺฉตาทโย. ตุฏฺจิตฺตสฺส ภิกฺขุโนติ ตุฏฺจิตฺเตน ภิกฺขุนา. อธิคฺคหิตา โหนฺตีติ ปฏิปกฺขธมฺเม อภิภวิตฺวา คหิตา โหนฺติ. อนฺโตคตาติ อพฺภนฺตรคตา. น ปริพาหิราติ น พาหิรา กตา.
สนฺตุฏฺิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อริยวํสสุตฺตวณฺณนา
๒๘. อฏฺเม วํส-สทฺโท ‘‘ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา นิสีทตี’’ติอาทีสุ ทฺวินฺนํ โคปานสีนํ สนฺธานฏฺาเน เปตพฺพทณฺฑเก อาคโต.
‘‘วํโส วิสาโล จ ยถา วิสตฺโต,
ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา;
วํสกฺกฬีโรว อสชฺชมาโน,
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. –
อาทีสุ กฏฺเก. ‘‘เภริสทฺโท มุทิงฺคสทฺโท วํสตาลสทฺโท’’ติอาทีสุ ตูริยวิเสเส, เวณูติปิ วุจฺจติ ¶ . ‘‘ภินฺเนน ปิฏฺิวํเสน มโต หตฺถี’’ติอาทีสุ หตฺถิอาทีนํ ปิฏฺิเวมชฺเฌ ปเทเส. ‘‘กุลวํสํ เปสฺสามี’’ติอาทีสุ กุลนฺวเย. ‘‘วํสานุรกฺขโก ปเวณีปาลโก’’ติอาทีสุ คุณานุปุพฺพิยํ คุณานํ ปพนฺธปฺปวตฺติยํ. อิธ ปน จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามตาสงฺขาตคุณานํ ปพนฺเธ ทฏฺพฺโพ. ตสฺส ปน วํสสฺส กุลนฺวยํ คุณนฺวยฺจ นิทสฺสนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขตฺติยวํโสติ ขตฺติยกุลวํโส. เอส นโย เสสปเทสุปิ. สมณวํโส ปน สมณตนฺติ สมณปเวณี. มูลคนฺธาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ยถา สารคนฺธาทีนํ สงฺคโห, เอวเมตฺถ โครสาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ, ทุติเยน ปน อาทิ-สเทน กาสิกวตฺถสปฺปิมณฺฑาทีนํ.
อริย-สทฺโท อมิลกฺเขสุปิ มนุสฺเสสุ ปวตฺตติ, เยสํ นิวสนฏฺานํ อริยํ อายตนนฺติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘ยาวตา, อานนฺท, อริยํ อายตน’’นฺติ ¶ (ที. นิ. ๒.๑๕๒; อุทา. ๗๖). โลกิยสาธุชเนสุปิ ‘‘เย หิ โว อริยา ปริสุทฺธกายสมาจารา, เตสํ อหํ อฺตโร’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๕). อิธ ปน เย ‘‘อารกา กิเลเสหี’’ติอาทินา ลทฺธนิพฺพจนา ปฏิวิทฺธอริยสจฺจา, เต เอว อธิปฺเปตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เก ปน เต อริยา’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘‘อริยา วุจฺจนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เย มหาปณิธานกปฺปโต ปฏฺาย ยาวายํ กปฺโป, เอตฺถนฺตเร อุปฺปนฺนา สมฺมาสมฺพุทฺธา. เต ตาว สรูปโต ทสฺเสตฺวา ตทฺเปิ สมฺมาสมฺพุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺเธ พุทฺธสาวเก จ สงฺคเหตฺวา อนวเสสโต อริเย ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยาว สาสนํ อนฺตรธายติ, ตาว สตฺถา ธรติ เอว นามาติ อิมเมว ภควนฺตํ. เย เจตรหิ พุทฺธสาวกา, เต จ สนฺธาย ปจฺจุปฺปนฺนคฺคหณํ. ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล เต เต ปจฺจุปฺปนฺนาติ เจ, อตีตานาคตคฺคหณํ น กตฺตพฺพํ สิยา.
อิทานิ ยถา ภควา ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสสฺสามิ, ยทิทํ ฉ ฉกฺกานี’’ติ ฉฉกฺกเทสนาย (ม. นิ. ๓.๔๒๐) อฏฺหิ ปเทหิ วณฺณํ อภาสิ. เอวํ มหาอริยวํสเทสนาย อริยานํ วํสํ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อริยวํสา อคฺคฺา รตฺตฺา วํสฺา โปราณา, อสํกิณฺณา อสํกิณฺณปุพฺพา น สํกียนฺติ น สํกียิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺา สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหี’’ติ เยหิ นวหิ ปเทหิ วณฺณํ อภาสิ, ตานิ ตาว อาเนตฺวา โถมนาวเสเนว วณฺเณนฺโต ‘‘เต โข ปเนเต’’ติอาทิมาห. อคฺคาติ ชานิตพฺพา สพฺพวํเสหิ เสฏฺภาวโต เสฏฺภาวสาธนโต จ.
รตฺตฺา จิรรตฺตาติ ชานิตพฺพา รตฺตฺูหิ พุทฺธาทีหิ เตหิ จ ตถา อนุฏฺิตตฺตา. วํสาติ ชานิตพฺพาติ ¶ พุทฺธาทีนํ อริยานํ วํสาติ ชานิตพฺพา. โปราณาติ ปุราตนา. น อธุนปฺปตฺติกาติ น อธุนาตนา. อวิกิณฺณาติ น ขิตฺตา น ฉฑฺฑิตา. เตนาห ‘‘อนปนีตา’’ติ. น อปนีตปุพฺพาติ น ฉฑฺฑิตปุพฺพา, ติสฺสนฺนมฺปิ สิกฺขานํ ปริปูรณูปายภาวโต น ปริจฺจตฺตปุพฺพา. ตโต เอว อิทานิปิ น อปนียนฺติ, อนาคเตปิ น อปนียิสฺสนฺติเยว. ธมฺมสภาวสฺส วิชานเนน วิฺู. สมิตปาปา สมณา เจว ¶ พาหิตปาปา พฺราหฺมณา จ. เตหิ อปฺปฏิกุฏฺา อปฺปฏิกฺขิตฺตา. เย หิ น ปฏิกฺโกสิตพฺพา, เต อนินฺทิตพฺพา. อครหิตพฺพา อปริจฺจชิตพฺพตาย อปฺปฏิกฺขิปิตพฺพา โหนฺตีติ.
สนฺตุฏฺโติ เอตฺถ ยถาธิปฺเปตสนฺโตสเมว ทสฺเสนฺเตน ปจฺจยสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺโติ วุตฺตํ, ฌานวิปสฺสนาทิวเสนปิ อิธ ภิกฺขุโน สนฺตุฏฺตา โหตีติ. อิตรีตเรนาติ อิตเรน อิตเรน. อิตรสทฺโท อนิยมวจโน ทฺวิกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโน ยํ-กิฺจิสทฺเทหิ สมานตฺโถ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘เยน เกนจี’’ติ. สฺวายํ อนิยมวาจิตาย เอว ยถา ถูลาทีนํ อฺตรวจโน, เอวํ ยถาลทฺธาทีนมฺปิ อฺตรวจโนติ. ตตฺถ ทุติยปกฺขสฺเสว อิธ อิจฺฉิตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ โข’’ติอาทิมาห. นนุ จ ยถาลทฺธาทโยปิ ถูลาทโย เอว? สจฺจเมตํ, ตถาปิ อตฺถิ วิเสโส. โย หิ ยถาลทฺเธสุ ถูลาทีสุ สนฺโตโส, โส ยถาลาภสนฺโตโสว, น อิตโร. น หิ โส ปจฺจยมตฺตสนฺนิสฺสโย อิจฺฉิโต, อถ โข อตฺตโน กายพลสารุปฺปภาวสนฺนิสฺสโยปิ. ถูลทุกาทโย ตโยปิ จีวเร ลพฺภนฺติ, มชฺฌิโม จตุปจฺจยสาธารโณ, ปจฺฉิโม ปน จีวเร เสนาสเน จ ลพฺภตีติ ทฏฺพฺพํ. อิเม ตโย สนฺโตเสติ อิทํ สพฺพสงฺคาหิกนเยน วุตฺตํ. เย หิ ปรโต คิลานปจฺจยํ ปิณฺฑปาเต เอว ปกฺขิปิตฺวา จีวเร วีสติ, ปิณฺฑปาเต ปนฺนรส, เสนาสเน ปนฺนรสาติ สมปฺาส สนฺโตสา วุจฺจนฺติ, เต สพฺเพปิ ยถารหํ อิเมสุ เอว ตีสุ สนฺโตเสสุ สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉนฺตีติ.
จีวรํ ชานิตพฺพนฺติ ‘‘อิทํ นาม จีวรํ กปฺปิย’’นฺติ ชาติโต จีวรํ ชานิตพฺพํ. จีวรเขตฺตนฺติ จีวรสฺส อุปฺปตฺติกฺเขตฺตํ. ปํสุกูลนฺติ ปํสุกูลจีวรํ, ปํสุกูลลกฺขณปฺปตฺตํ จีวรํ ชานิตพฺพนฺติ อตฺโถ. จีวรสนฺโตโสติ จีวเร ลพฺภมาโน สพฺโพ สนฺโตโส ชานิตพฺโพ. จีวรปฺปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ ชานิตพฺพานิ, ยานิ โคเปนฺโต จีวรสนฺโตเสน สมฺมเทว สนฺตุฏฺโ โหตีติ. โขมกปฺปาสิกโกเสยฺยกมฺพลสาณภงฺคานิ โขมาทีนิ. ตตฺถ โขมํ นาม โขมสุตฺเตหิ วายิตํ โขมปฏฺฏจีวรํ. ตถา เสสานิปิ. สาณนฺติ สาณวากสุตฺเตหิ กตจีวรํ. ภงฺคนฺติ ปน โขมสุตฺตาทีนิ สพฺพานิ, เอกจฺจานิ วา มิสฺเสตฺวา กตจีวรํ. ภงฺคมฺปิ วากมยเมวาติ เกจิ. ฉาติ คณนปริจฺเฉโท. ยทิ เอวํ อิโต อฺา ¶ วตฺถชาติ นตฺถีติ? โน นตฺถิ. สา ปน ¶ เอเตสํ อนุโลมาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกูลาทีนี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน ปตฺตุณฺณํ, โสมารปฏฺฏํ, จีนปฏฺฏํ, อิทฺธิชํ, เทวทินฺนนฺติ เตสํ สงฺคโห. ตตฺถ ทุกูลํ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา. ปตฺตุณฺณเทเส สฺชาตวตฺถํ ปตฺตุณฺณํ. ‘‘โกเสยฺยวิเสโส’’ติ หิ อภิธานโกเส วุตฺตํ. โสมารเทเส จีนเทเส จ ชาตวตฺถานิ โสมารจีนปฏฺฏานิ. ปตฺตุณฺณาทีนิ ตีณิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา. อิทฺธิชํ เอหิภิกฺขูนํ ปฺุิทฺธิยา นิพฺพตฺตจีวรํ, ตํ โขมาทีนํ อฺตรํ โหตีติ เตสํ เอว อนุโลมํ. เทวตาหิ ทินฺนจีวรํ เทวทินฺนํ, ตํ กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ ชาลินิยา เทวกฺาย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทินฺนวตฺถสทิสํ, ตมฺปิ โขมาทีนํเยว อนุโลมํ โหติ เตสุ อฺตรภาวโต.
อิมานีติ อนฺโตคธาวธารณวจนํ, อิมานิ เอวาติ อตฺโถ. พุทฺธาทีนํ ปริโภคโยคฺคตาย กปฺปิยจีวรานิ. อิทานิ อวธารเณน นิวตฺติตานิ เอกเทเสน ทสฺเสตุํ ‘‘กุสจีร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กุสติเณหิ อฺเหิ วา ตาทิเสหิ ติเณหิ กตจีวรํ กุสจีรํ. อกฺกวากาทีหิ วาเกหิ กตจีวรํ วากจีรํ. จตุกฺโกเณหิ ติโกเณหิ วา ผลเกหิ กตจีวรํ ผลกจีรํ. มนุสฺสานํ เกเสหิ กตกมฺพลํ เกสกมฺพลํ. จามริวาลอสฺสวาลาทีหิ กตํ วาลกมฺพลํ. มกจิตนฺตูหิ วายิโต โปตฺถโก. จมฺมนฺติ มิคจมฺมาทิ ยํ กิฺจิ จมฺมํ. อุลูกปกฺเขหิ คนฺถิตฺวา กตจีวรํ อุลูกปกฺขํ. ภุชปตฺตตจาทิมยํ รุกฺขทุสฺสํ. ติรีฏกนฺติ อตฺโถ. สุขุมตราหิ ลตาหิ ลตาวาเกหิ วา วายิตํ ลตาทุสฺสํ. เอรกวาเกหิ กตํ เอรกทุสฺสํ. ตถา กทลิทุสฺสํ. สุขุเมหิ เวฬุวิลีเวหิ กตํ เวฬุทุสฺสํ. อาทิ-สทฺเทน วกฺกลาทีนํ สงฺคโห. อกปฺปิยจีวรานิ ติตฺถิยทฺธชภาวโต.
อฏฺนฺนํ มาติกานํ วเสนาติ ‘‘สีมาย เทติ, กติกาย เทตี’’ติอาทินา (มหาว. ๓๗๙) อาคตานํ อฏฺนฺนํ จีวรุปฺปตฺติมาติกานํ วเสน. จีวรานํ ปฏิลาภกฺเขตฺตทสฺสนตฺถฺหิ ภควตา ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา’’ติอาทินา มาติกา ปิตา. มาติกาติ หิ มาตโร จีวรุปฺปตฺติชนิกาติ.
โสสานิกนฺติ ¶ สุสาเน ปติตํ. ปาปณิกนฺติ อาปณทฺวาเร ปติตํ. รถิยนฺติ ปฺุตฺถิเกหิ วาตปานนฺตเรน รถิกาย ฉฑฺฑิตโจฬกํ. สงฺการกูฏกนฺติ สงฺการฏฺาเน ฉฑฺฑิตโจฬกํ. สินานนฺติ นหานโจฬกํ, ยํ ภูตเวชฺเชหิ สสีสํ นหายิตฺวา กาลกณฺณิโจฬนฺติ ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ. ติตฺถนฺติ ติตฺถโจฬํ, สินานติตฺเถ ฉฑฺฑิตปิโลติกา. อคฺคิทฑฺฒนฺติ อคฺคินา ทฑฺฒปฺปเทสํ. ตฺหิ มนุสฺสา ฉฑฺเฑนฺติ. โคขายิตาทีนิ ปากฏาเนว. ตานิปิ หิ มนุสฺสา ฉฑฺเฑนฺติ. ธชํ อุสฺสาเปตฺวาติ ¶ นาวํ อาโรหนฺเตหิ วา ยุทฺธํ ปวิสนฺเตหิ วา ธชยฏฺึ อุสฺสาเปตฺวา, ตตฺถ พทฺธํ วาเตน อานีตํ เตหิ ฉฑฺฑิตนฺติ อธิปฺปาโย.
สาทกภิกฺขุนาติ คหปติจีวรสฺส สาทิยนภิกฺขุนา. เอกมาสมตฺตนฺติ จีวรมาสสฺิตํ เอกมาสมตฺตํ วิตกฺเกตุํ วฏฺฏติ, น ตโต ปรนฺติ อธิปฺปาโย. สพฺพสฺสปิ หิ ตณฺหานิคฺคหตฺถา สาสเน ปฏิปตฺตีติ. ปํสุกูลิโก อทฺธมาเสเนว กโรติ อปรปฺปฏิพทฺธตฺตา ปฏิลาภสฺส, อิตรสฺส ปน ปรปฺปฏิพทฺธตฺตา มาสมตฺตํ อนฺุาตํ. อิทํ มาสฑฺฒมาสมตฺตํ…เป… วิตกฺกสนฺโตโส วิตกฺเกนฺตสฺส ปริมิตกาลิกตฺตา. มหาเถรํ ตตฺถ อตฺตโน สหายํ อิจฺฉนฺโตปิ ครุคารเวน ‘‘คามทฺวารํ, ภนฺเต, คมิสฺสามิ’’อิจฺเจวาห. เถโรปิ ตสฺส อชฺฌาสยํ ตฺวา ‘‘อหมฺปาวุโส, คมิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน วิตกฺกสฺส อวสโร มา โหตู’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉมาโน คามํ ปาวิสิ. อุจฺจารปลิพุทฺโธติ อุจฺจาเรน ปีฬิโต. ตทา ภควโต ทุกฺกรกิริยานุสฺสรณมุเขน ตถาคเต อุปฺปนฺนสฺส ปีติโสมนสฺสเวคสฺส พลวภาเวน กิเลสานํ วิกฺขมฺภิตตฺตา ตสฺมึเยว…เป… ตีณิ ผลานิ ปตฺโต.
กตฺถ ลภิสฺสามีติ จินฺตนาปิ ลาภาสาปุพฺพิกาติ ตถา ‘‘อจินฺเตตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สุนฺทรํ ลภิสฺสามิ, มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติเอวมาทิจินฺตนาย กา นาม กถา, กถํ ปน คนฺตพฺพนฺติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานสีเสเนว คมน’’นฺติ. เตน จีวรํ ปฏิจฺจ กิฺจิปิ น จินฺเตตพฺพเมวาติ ทสฺเสติ. อเปสโล อปฺปติรูปายปิ ปริเยสนาย ปจฺจโย ภเวยฺยาติ ‘‘เปสลํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อาหริยมานนฺติ สุสานาทีสุ ปติตํ วตฺถํ ‘‘อิเม ภิกฺขู ปํสุกูลปริเยสนํ จรนฺตี’’ติ ตฺวา เกนจิ ปุริเสน ตโต อานียมานํ. เอวํ ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺสปีติ เอวํ ปฏิลาภสนฺโตสํ อโกเปตฺวา ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺสปิ. อตฺตโนปโหนกมตฺเตเนวาติ ¶ ยถาลทฺธานํ ปํสุกูลานํ เอกปฏฺฏทุปฏฺฏานํ อตฺถาย อตฺตโน ปโหนกปฺปมาเณเนว. อวธารเณน อุปริ ปจฺจาสํ นิวตฺเตติ. คาเม ภิกฺขาย อาหิณฺฑนฺเตน สปทานจารินา วิย ทฺวารปฺปฏิปาฏิยา จรณํ โลลุปฺปวิวชฺชนํ นาม โลลุปฺปสฺส ทูรสมุสฺสาริตตฺตา.
ยาเปตุนฺติ อตฺตภาวํ ปวตฺเตตุํ. โธวนุปเคนาติ โธวนโยคฺเคน. ปณฺณานีติ อมฺพชมฺพาทิปณฺณานิ. อโกเปตฺวาติ สนฺโตสํ อโกเปตฺวา. ปโหนกนีหาเรเนวาติ อนฺตรวาสกาทีสุ ยํ กาตุกาโม, ตสฺส ปโหนกนิยาเมเนว ยถาลทฺธํ ถูลสุขุมาทึ คเหตฺวา กรณํ. ติมณฺฑลปฺปฏิจฺฉาทนมตฺตสฺเสวาติ นิวาสนํ เจ นาภิมณฺฑลํ, ชาณุมณฺฑลํ, อิตรฺเจ คลวาฏมณฺฑลํ ¶ , ชาณุมณฺฑลนฺติ ติมณฺฑลปฺปฏิจฺฉาทนมตฺตสฺเสว กรณํ. ตํ ปน อตฺถโต ติณฺณํ จีวรานํ เหฏฺิมนฺเตน วุตฺตปริมาณํเยว โหติ. อวิจาเรตฺวา น วิจาเรตฺวา.
กุสิพนฺธนกาเลติ มณฺฑลานิ โยเชตฺวา สิพฺพนกาเล. สตฺต วาเรติ สตฺต สิพฺพนวาเร. กปฺปพินฺทุอปเทเสน กสฺสจิ วิการสฺส อกรณํ กปฺปสนฺโตโส.
สีตปฺปฏิฆาตนาทิ อตฺถาปตฺติโต สิชฺฌตีติ มุขฺยเมว จีวรปริโภเค ปโยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘หิริโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนมตฺตวเสนา’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ภควา ‘‘ยาวเทว หิริโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนตฺถ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘; มหานิ. ๒๐๖). วฏฺฏติ, น ตาวตา สนฺโตโส กุปฺปติ สมฺภารานํ ทกฺขิเณยฺยานํ อลาภโต. สารณียธมฺเม ตฺวาติ สีลวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สาธารณโภคิภาเว ตฺวา. อิตีติอาทินา ปมสฺเสว อริยวํสสฺส ปํสุกูลิกงฺคเตจีวริกงฺคานํ เตสฺจสฺส ปจฺจยตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อิเม ธมฺมา อฺมฺสฺส สมุฏฺาปกา อุปตฺถมฺภกา จา’’ติ ทีเปติ. เอส นโย อิโต ปเรสุ.
สนฺตุฏฺโ โหติ วณฺณวาทีติ เอตฺถ จตุกฺโกฏิกํ สมฺภวติ. ตตฺถ จตุตฺโถเยว ปกฺโข วณฺณิตโถมิโตติ ตถา เทสนา กตา. เอโก สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ น กเถติ เสยฺยถาปิ เถโร นาฬโก. เอโก น สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ เสยฺยถาปิ อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต. เอโก เนว สนฺตุฏฺโ โหติ, น สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ เสยฺยถาปิ เถโร ลาฬุทายิ ¶ . เอโก สนฺตุฏฺโ เจว โหติ, สนฺโตสสฺส จ วณฺณํ กเถติ เสยฺยถาปิ เถโร มหากสฺสโป.
อเนสนนฺติ อยุตฺตํ เอสนํ. เตนาห ‘‘อปฺปติรูป’’นฺติ, สาสเน ิตานํ อปฺปติรูปํ อโยคฺคํ. โกหฺํ กโรนฺโตติ จีวรุปฺปาทนนิมิตฺตํ ปเรสํ กุหนํ วิมฺหาปนํ กโรนฺโต. อุตฺตสตีติ ตณฺหาสนฺตาเสน อุปรูปริ ตสติ. ปริตสฺสตีติ ปริโต ตสฺสติ. ยถา สพฺเพ กายวจิปฺปโยคา ตทตฺถา เอว ชายนฺติ, เอวํ สพฺพภาเคหิ ตสติ. คธิตํ วุจฺจติ คิทฺโธ, โส เจตฺถ อภิชฺฌาลกฺขโณ อธิปฺเปโต. คธิตํ เอตสฺส นตฺถีติ อคธิโตติ อาห ‘‘วิคตโลภคิทฺโธ’’ติ. มุจฺฉนฺติ ตณฺหาวเสน มุยฺหนํ. ตสฺส สมุสฺสยสฺส อธิคตํ อนาปนฺโน อนุปคโต. อโนตฺถโต อนชฺโฌตฺถโต. อปริโยนทฺโธติ ตณฺหจฺฉทเนน อจฺฉาทิโต. อาทีนวํ ปสฺสมาโนติ ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ โทสํ ปสฺสนฺโต. คธิตปริโภคโต นิสฺสรติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ ¶ , อิทมฏฺิกตา. ตํ ปชานาตีติ นิสฺสรณปฺโ. เตนาห ‘‘ยาวเทว…เป… ชานนฺโต’’ติ.
เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ อตฺตานํ เนว อุกฺกํเสติ น อุกฺขิปติ น อุกฺกฏฺโต ทหติ. อหนฺติอาทิ อุกฺกํสนาการทสฺสนํ. น วมฺเภติ น หีเฬติ น นิหีนโต ทหติ. ตสฺมึ จีวรสนฺโตเสติ ตสฺมึ ยถาวุตฺเต วีสติวิเธ จีวรสนฺโตเส. กามฺเจตฺถ วุตฺตปฺปการสนฺโตสคฺคหเณเนว จีวรเหตุ อเนสนาปชฺชนาทิปิ คหิตเมว ตสฺมึ สติ ตสฺส ภาวโต, อสติ จ อภาวโต. วณฺณวาทิตาอตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนานิ ปน คหิตานิ น โหนฺตีติ ‘‘วณฺณวาทาทีสุ วา’’ติ วิกปฺโป วุตฺโต. เอตฺถ จ ทกฺโขติอาทิ เยสํ ธมฺมานํ วเสนสฺส ยถาวุตฺตสนฺโตสาที อิชฺฌนฺติ, ตํทสฺสนํ. ตตฺถ ทกฺโขติ อิมินา เตสํ สมุฏฺาปนปฺํ ทสฺเสติ. อนลโสติ อิมินา ปคฺคณฺหนวีริยํ, สมฺปชาโนติ อิมินา ปาริหาริยปฺํ, ปฏิสฺสโตติ อิมินา ตตฺถ อสมฺโมสวุตฺตึ ทสฺเสติ.
ปิณฺฑปาโต ชานิตพฺโพติ ปเภทโต ปิณฺฑปาโต ชานิตพฺโพ. ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตนฺติ ปิณฺฑปาตสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ. ปิณฺฑปาตสนฺโตโส ชานิตพฺโพติ ¶ ปิณฺฑปาตสนฺโตสปฺปเภโท ชานิตพฺโพ. อิธ เภสชฺชมฺปิ ปิณฺฑปาตคติกเมว. อาหริตพฺพโต หิ สปฺปิอาทีนมฺปิ คหณํ กตํ.
ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตํ ปิณฺฑปาตสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ เขตฺตํ วิย เขตฺตํ. อุปฺปชฺชติ เอตฺถ, เอเตนาติ จ อุปฺปตฺติฏฺานํ. สงฺฆโต วา หิ ภิกฺขุโน ปิณฺฑปาโต อุปฺปชฺชติ อุทฺทิสฺสวเสน วา. ตตฺถ สกลสฺส สงฺฆสฺส ทาตพฺพภตฺตํ สงฺฆภตฺตํ. กติปเย ภิกฺขู อุทฺทิสิตฺวา อุทฺเทเสน ทาตพฺพภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ. นิมนฺเตตฺวา ทาตพฺพภตฺตํ นิมนฺตนํ. สลากาย ทาตพฺพภตฺตํ สลากภตฺตํ. เอกสฺมึ ปกฺเข เอกทิวสํ ทาตพฺพภตฺตํ ปกฺขิกํ. อุโปสเถ อุโปสเถ ทาตพฺพภตฺตํ อุโปสถิกํ. ปาฏิปททิวเส ทาตพฺพภตฺตํ ปาฏิปทิกํ. อาคนฺตุกานํ ทาตพฺพภตฺตํ อาคนฺตุกภตฺตํ. ธุรเคเห เอว เปตฺวา ทาตพฺพภตฺตํ ธุรภตฺตํ. กุฏึ อุทฺทิสฺส ทาตพฺพภตฺตํ กุฏิภตฺตํ. คามวาสิอาทีหิ วาเรน ทาตพฺพภตฺตํ วารภตฺตํ. วิหารํ อุทฺทิสฺส ทาตพฺพภตฺตํ วิหารภตฺตํ. เสสานิ ปากฏาเนว.
วิตกฺเกติ ‘‘กตฺถ นุ โข อหํ อชฺช ปิณฺฑาย จริสฺสามี’’ติ. ‘‘สฺเว กตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ เถเรน วุตฺเต ‘‘อสุกคาเม, ภนฺเต’’ติ กามเมตํ ปฏิวจนทานํ, เยน ปน จิตฺเตน จินฺเตตฺวา ตํ วุตฺตํ, ตํ สนฺธายาห ‘‘เอตฺตกํ จินฺเตตฺวา’’ติ. ตโต ปฏฺายาติ วิตกฺกมาฬเก ตฺวา ¶ วิตกฺกิตกาลโต ปฏฺาย. ตโต ปรํ วิตกฺเกนฺโต อริยวํสา จุโต โหตีติ อิทํ ติณฺณมฺปิ อริยวํสิกานํ วเสน คเหตพฺพํ, น เอกจาริกสฺเสว. สพฺโพปิ หิ อริยวํสิโก เอกวารเมว วิตกฺเกตุํ ลภติ, น ตโต ปรํ. ปริพาหิโรติ อริยวํสิกภาวโต พหิภูโต. สฺวายํ วิตกฺกสนฺโตโส กมฺมฏฺานมนสิกาเรน น กุปฺปติ วิสุชฺฌติ จ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย. เตเนวาห ‘‘กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตพฺพ’’นฺติ. คเหตพฺพเมวาติ อฏฺานปฺปยุตฺโต เอว-สทฺโท. ยาปนมตฺตเมว คเหตพฺพนฺติ โยเชตพฺพํ.
เอตฺถาติ เอตสฺมึ ปิณฺฑปาตปฺปฏิคฺคหเณ. อปฺปนฺติ อตฺตโน ยาปนปฺปมาณโตปิ อปฺปํ คเหตพฺพํ ทายกสฺส จิตฺตาราธนตฺถํ. ปมาเณเนวาติ อตฺตโน ปมาเณเนว อปฺปํ คเหตพฺพํ. ปมาเณน คเหตพฺพนฺติ เอตฺถ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิคฺคหณสฺมิฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. มกฺเขตีติ วิทฺธํเสติ อปเนติ. วินิปาเตติ วินาเสติ อฏฺานวินิโยเคน. สาสนนฺติ สตฺถุสาสนํ อนุสิฏฺึ น กโรติ น ปฏิปชฺชติ. สปทานจารินา วิย ¶ ทฺวารปฏิปาฏิยา จรณํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโสติ อาห ‘‘ทฺวารปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพ’’นฺติ.
หราเปตฺวาติ อธิกํ อปเนตฺวา. อาหารเคธโต นิสฺสรติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ. ชิฆจฺฉาย ปฏิวิโนทนตฺถํ กตา, กายสฺส ิติอาทิปโยชนํ ปน อตฺถาปตฺติโต อาคตเมวาติ อาห ‘‘ชิฆจฺฉาย…เป… สนฺโตโส นามา’’ติ. นิทหิตฺวา น ปริภฺุชิตพฺพํ ตทหุปีติ อธิปฺปาโย. อิตรตฺถ ปน สิกฺขาปเทเนว วาริตํ. สารณียธมฺเม ิเตนาติ สีลวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สาธารณโภคิภาเว ิเตน.
เสนาสเนนาติ สยเนน อาสเนน จ. ยตฺถ ยตฺถ หิ มฺจาทิเก วิหาราทิเก จ เสติ, ตํ เสนํ. ยตฺถ ยตฺถ ปีาทิเก อาสติ, ตํ อาสนํ. ตทุภยํ เอกโต กตฺวา ‘‘เสนาสน’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘มฺโจ’’ติอาทิ. ตตฺถ มฺโจ มสารกาทิ. ตถา ปีํ. มฺจภิสิ, ปีภิสีติ ทุวิโธ ภิสิ. วิหาโร ปาการปริจฺฉินฺโน สกโล อาวาโส, ‘‘ทีฆมุขปาสาโท’’ติ เกจิ. อฑฺฒโยโค ทีฆปาสาโท, ‘‘เอกปสฺสจฺฉาทนกเสนาสน’’นฺติ เกจิ. ปาสาโทติ จตุรสฺสปาสาโท, ‘‘อายตจตุรสฺสปาสาโท’’ติ เกจิ. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท. คุหาติ เกวลา ปพฺพตคุหา. เลณํ ทฺวารพนฺธํ. อฏฺโฏ พหลภิตฺติกเคหํ, ยสฺส โคปานสิโย อคฺคเหตฺวา อิฏฺกาหิ เอว ฉทนํ โหติ, ‘‘อฏฺฏลากาเรน กรียตี’’ติปิ วทนฺติ. มาโฬ เอกกูฏสงฺคหิโต อเนกโกโณ ปฏิสฺสยวิเสโส, ‘‘วฏฺฏากาเรน กตเสนาสน’’นฺติ เกจิ.
ปิณฺฑปาเต ¶ วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘สาทโก ภิกฺขุ ‘อหํ กตฺถ วสิสฺสามี’ติ วิตกฺเกตี’’ติอาทินา ยถารหํ ปิณฺฑปาเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ‘‘ตโต ปรํ วิตกฺเกนฺโต อริยวํสา จุโต โหติ ปริพาหิโร, เสนาสนํ กุหึ ลภิสฺสามีติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว คนฺตพฺพ’’นฺติ จ เอวมาทิ สพฺพํ ปุริมนเยเนว.
กสฺมา ปเนตฺถ ปจฺจยสนฺโตสํ ทสฺเสนฺเตน ภควตา คิลานปจฺจยสนฺโตโส น คหิโตติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘คิลานปจฺจโย ปน ปิณฺฑปาเต เอว ปวิฏฺโ’’ติ อาห, อาหริตพฺพตาสามฺเนาติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ ตตฺถาปิ ปิณฺฑปาเต วิย วิตกฺกสนฺโตสาทโยปิ ¶ ปนฺนรส สนฺโตสา อิจฺฉิตพฺพาติ? โนติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. นนุ เจตฺถ ทฺวาทเสว ธุตงฺคานิ วินิโยคํ คตานิ, เอกํ ปน เนสชฺชิกงฺคํ น กตฺถจิ วินิยุตฺตนฺติ อาห ‘‘เนสชฺชิกงฺคํ ภาวนารามอริยวํสํ ภชตี’’ติ. อยฺจ อตฺโถ อฏฺกถารุฬฺโห เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิมาห.
ปถวึ ปตฺถรมาโน วิยาติอาทิ อริยวํสเทสนาย สุทุกฺกรภาวทสฺสนํ มหาวิสยตฺตา ตสฺสา เทสนาย. ยสฺมา นยสหสฺสปฏิมณฺฑิตํ โหติ, อริยมคฺคาธิคมาย วิตฺถารโต ปวตฺติยมานา เทสนา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ อยฺจ ภาวนารามอริยวํสกถา อริยมคฺคาธิคมาย วิตฺถารโต ปวตฺติยมานา เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สหสฺสนยปฏิมณฺฑิตํ…เป… เทสนํ อารภี’’ติ.
ปฏิปกฺขวิธมนโต อภิมุขภาเวน รมณํ อารมณํ อาราโมติ อาห ‘‘อภิรตีติ อตฺโถ’’ติ. พฺยธิกรณานมฺปิ ปทานํ วเสน ภวติ พาหิรตฺถสมาโส ยถา ‘‘อุรสิโลโม กณฺเกาโฬ’’ติ อาห ‘‘ภาวนาย อาราโม อสฺสาติ ภาวนาราโม’’ติ. อภิรมิตพฺพฏฺเน วา อาราโม, ภาวนา อาราโม อสฺสาติ ภาวนาราโมติ เอวมฺเปตฺถ สมาสโยชนา เวทิตพฺพา. ภาเวนฺโต รมตีติ เอเตน ภาวนารามสทฺทานํ กตฺตุสาธนตํ กมฺมธารยสมาสตฺจ ทสฺเสติ. ‘‘ปชหนฺโต รมตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปหานาราโมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
กามํ ‘‘เนสชฺชิกงฺคํ ภาวนารามอริยวํสํ ภชตี’’ติ วุตฺตํ ภาวนานุโยคสฺส อนุจฺฉวิกตฺตา, เนสชฺชิกงฺควเสน ปน เนสชฺชิกสฺส ภิกฺขุโน เอกจฺจาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติภาโวติ ตมฺปิ สงฺคณฺหนฺโต ‘‘เตรสนฺนํ ธุตงฺคาน’’นฺติ วตฺวา วินยํ ปตฺวา ครุเก าตพฺพนฺติ อิจฺฉิตตฺตา สลฺเลขสฺส อปริจฺจชนวเสน ปฏิปตฺติ นาม วินเย ิตสฺเสวาติ อาห ¶ ‘‘เตรสนฺนํ…เป… กถิตํ โหตี’’ติ. กามํ สุตฺตาภิธมฺมปิฏเกสุปิ ตตฺถ ตตฺถ สีลกถา อาหฏาเยว, เยหิ ปน คุเณหิ สีลสฺส โวทานํ โหติ, เตสุ กถิเตสุ ยถา สีลกถาพาหุลฺลํ วินยปิฏกํ กถิตํ โหติ, เอวํ ภาวนากถาพาหุลฺลํ สุตฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกฺจ จตุตฺเถน อริยวํเสน กถิเตน กถิตเมว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ภาวนาราเมน อวเสสํ ปิฏกทฺวยํ กถิต’’นฺติ. ‘‘โส เนกฺขมฺมํ ภาเวนฺโต ¶ รมตี’’ติ เนกฺขมฺมปทํ อาทึ กตฺวา ตตฺถ เทสนาย ปวตฺตตฺตา สพฺเพสมฺปิ วา สมถวิปสฺสนามคฺคธมฺมานํ ยถาสกํ ปฏิปกฺขโต นิกฺขมเนน เนกฺขมฺมสฺิตานํ ตตฺถ อาคตตฺตา โส ปาโ เนกฺขมฺมปาฬีติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘เนกฺขมปาฬิยา กเถตพฺโพ’’ติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพปิ กุสลา ธมา, เนกฺขมฺมนฺติ ปวุจฺจเร’’ติ. ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยนาติ ทสุตฺตรสุตฺตนฺตธมฺเมน (ที. นิ. ๓.๓๕๐ อาทโย) ทสุตฺตรสุตฺตนฺเต อาคตนเยนาติ วา อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.
โสติ ชาคริยํ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ. เนกฺขมฺมนฺติ กาเมหิ นิกฺขนฺตภาวโต เนกฺขมฺมสฺิตํ ปมชฺฌานูปจารํ, โส ‘‘อภิชฺฌํ โลเก ปหายา’’ติอาทินา (วิภ. ๕๐๘) อาคโต. ปมชฺฌานสฺส ปุพฺพภาคภาวนา หิ อิธาธิปฺเปตา, ตสฺมา ‘‘อพฺยาปาท’’นฺติอาทีสุปิ เอวเมว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สอุปายานฺหิ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ อฏฺารสนฺนํ มหาวิปสฺสนานํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานฺจ วเสเนตฺถ เทสนา ปวตฺตาติ. ตตฺถ อพฺยาปาทนฺติ เมตฺตา. อาโลกสฺนฺติ วิภูตํ กตฺวา มนสิกรเณน อุปฏฺิตอาโลกสฺชานนํ. อวิกฺเขปนฺติ สมาธึ. ธมฺมววตฺถานนฺติ กุสลาทิธมฺมานํ ยาถาวนิจฺฉยํ, ‘‘สปจฺจยนามววตฺถาน’’นฺติปิ วทนฺติ. เอวํ กามจฺฉนฺทาทินีวรณปฺปหาเนน ‘‘อภิชฺฌํ โลเก ปหายา’’ติอาทินา วุตฺตสฺส ปมชฺฌานสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทาย ภาวนารามตํ ปหานารามตฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สห อุปาเยน อฏฺสมาปตฺตีหิ อฏฺารสหิ จ มหาวิปสฺสนาหิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘าณ’’นฺติอาทิมาห. นามรูปปริคฺคหณกงฺขาวิตรณานฺหิ วิพนฺธภูตสฺส โมหสฺส ทูรีกรเณน าตปริฺาย ิตสฺส อนิจฺจสฺาทโย สิชฺฌนฺติ. ตถา ฌานสมาปตฺตีสุ อนภิรตินิมิตฺเตน ปาโมชฺเชน ตตฺถ อนภิรติยา วิโนทิตาย ฌานาทีนํ สมธิคโมติ สมาปตฺติวิปสฺสนํ อรติวิโนทนอวิชฺชาปทาลนอุปาโย. อุปฺปฏิปาฏินิทฺเทโส ปน นีวรณสภาวาย อวิชฺชาย เหฏฺานีวรเณสุ สงฺคหทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. กิฺจาปิ ปมชฺฌานูปจาเรเยว ทุกฺขํ, จตุตฺถชฺฌานูปจาเรเยว สุขํ ปหียติ, อติสยปฺปหานํ ปน สนฺธายาห ‘‘จตุตฺถชฺฌานํ สุขทุกฺเข’’ติ.
อนิจฺจสฺส ¶ , อนิจฺจนฺติ จ อนุปสฺสนา อนิจฺจานุปสฺสนา, เตภูมกธมฺมานํ อนิจฺจตํ คเหตฺวา ¶ ปวตฺตาย อนุปสฺสนาเยตํ นามํ. นิจฺจสฺนฺติ สงฺขตธมฺเมสุ นิจฺจา สสฺสตาติ ปวตฺตํ มิจฺฉาสฺํ. สฺาสีเสน ทิฏฺิจิตฺตานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. นิพฺพิทานุปสฺสนนฺติ สงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนากาเรน ปวตฺตํ อนุปสฺสนํ. นนฺทินฺติ สปฺปีติกตณฺหํ. วิราคานุปสฺสนนฺติ วิรชฺชนากาเรน ปวตฺตํ อนุปสฺสนํ. นิโรธานุปสฺสนนฺติ สงฺขารานํ นิโรธสฺส อนุปสฺสนํ. ‘‘เต สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติเยว, อายตึ สมุทยวเสน น อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ เอวํ วา อนุปสฺสนา นิโรธานุปสฺสนา. เตเนวาห ‘‘นิโรธานุปสฺสนาย นิโรเธติ โน สมุเทตี’’ติ. มุจฺจิตุกามตา หิ อยํ พลปฺปตฺตาติ. ปฏินิสฺสชฺชนากาเรน ปวตฺตา อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา. ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา หิ อยํ. อาทานนฺติ นิจฺจาทิวเสน คหณํ. สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณานํ วเสน เอกตฺตคฺคหณํ ฆนสฺา. อายูหนํ อภิสงฺขรณํ. อวตฺถาวิเสสาปตฺติ วิปริณาโม. ธุวสฺนฺติ ถิรภาวคฺคหณํ.
นิมิตฺตนฺติ สมูหฆนวเสน, สกิจฺจปริจฺเฉทตาย จ สงฺขารานํ สวิคฺคหตํ. ปณิธินฺติ ราคาทิปณิธึ. สา ปนตฺถโต ตณฺหาวเสน สงฺขาเรสุ นินฺนตา. อภินิเวสนฺติ อตฺตานุทิฏฺิ. อนิจฺจทุกฺขาทิวเสน สพฺพธมฺมตีรณํ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนา. สาราทานาภินิเวสนฺติ อสาเร สารนฺติ คหณวิปลฺลาสํ. ‘‘อิสฺสรกุตฺตาทิวเสน โลโก สมุปฺปนฺโน’’ติ อภินิเวโส สมฺโมหาภินิเวโส. เกจิ ปน ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธานนฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) ปวตฺตสํสยาปตฺติ สมฺโมหาภินิเวโส’’ติ วทนฺติ. สงฺขาเรสุ ตาณเลณภาวคฺคหณํ อาลยาภินิเวโส. ‘‘อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา’’ติ (ที. นิ. ๒.๖๔, ๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗, ๘) จ วจนโต อาลโย ตณฺหา, สาเยว จกฺขาทีสุ รูปาทีสุ จ อภินิเวสวเสน ปวตฺติยา อาลยาภินิเวโสติ เกจิ. เอวํ ิตา เต สงฺขารา ปฏินิสฺสชฺชียนฺตีติ ปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา. วฏฺฏโต วิคตตฺตา วิวฏฺฏํ นิพฺพานํ, ตตฺถ อารมฺมณสงฺขาเตน อนุปสฺสเนน ปวตฺติยา วิวฏฺฏานุปสฺสนา โคตฺรภุ. สํโยคาภินิเวสนฺติ สํยุชฺชนวเสน สงฺขาเรสุ นิเวสนํ. ทิฏฺเกฏฺเติ ทิฏฺิยา สหชาเตกฏฺเ ปหาเนกฏฺเ จ. โอฬาริเกติ อุปริมคฺควชฺเฌ กิเลเส ¶ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, อฺถา ทสฺสนปฺปหาตพฺพาปิ ทุติยมคฺควชฺเฌหิปิ โอฬาริกาติ. อณุสหคเตติ อณุภูเต. อิทํ เหฏฺิมมคฺควชฺเฌ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ. สพฺพกิเลเสติ อวสิฏฺสพฺพกิเลเส. น หิ ปมาทิมคฺเคหิปิ ปหีนา กิเลสา ปุน ปหียนฺตีติ.
เอวนฺติ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๔๑, ๙๕) เนกฺขมฺมปาฬิยา โยชนํ นิคเมตฺวา ทีฆนิกาเยติอาทินา ทสุตฺตรปริยาเยน (ที. นิ. ๓.๓๕๐ อาทโย) โยชนํ ทสฺเสติ ¶ . เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมตีติ จ นยิทํ ทสุตฺตรสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๓๕๐ อาทโย) อาคตนิยาเมน วุตฺตํ, ตตฺถ ปน ‘‘เอโก ธมฺโม ภาเวตพฺโพ, เอโก ธมฺโม ปหาตพฺโพ’’ติ เทสนา อาคตา. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา อตฺถโต เภโท นตฺถิ, ตสฺมา ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๔๑, ๙๕) เนกฺขมฺมปาฬิยํ อาคตนีหาเรเนว ‘‘เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมตี’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย เสสวาเรสุปิ.
เอวนฺติอาทินา ทสุตฺตรปริยาเยน (ที. นิ. ๓.๓๕๐ อาทโย) โยชนํ นิคเมตฺวา อิทานิ สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยน (ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) โยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘มชฺฌิมนิกาเย’’ติอาทิ อารทฺธํ. กามฺเจตฺถ กายานุปสฺสนาวเสเนว สํขิปิตฺวา โยชนา กตา, เอกวีสติยา ปน านานํ วเสนปิ โยชนา กาตพฺพา. อิทานิ อภิธมฺมนิทฺเทสปริยาเยน ทสฺเสตุํ ‘‘อภิธมฺเม นิทฺเทสปริยาเยนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อนิจฺจโตติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาสุ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๙๘; วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๖๙๘) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.
อุกฺกณฺิตนฺติ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ ปนฺตเสนาสเนสุ จ อุกฺกณฺาทิฺจ, อนนุโยโคติ อตฺโถ. อริยวํสปูรโก ธีโร สีลวา ภิกฺขุ อริยวํสปริปูรณสฺส เภทํ อนิจฺฉนฺโต สมาหิโต วิปสฺสโก จ ปจฺจยฆาเตน อรติยา รติยา จ สหิตา อภิภวิตา โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อรติรติสโห, ภิกฺขเว, ธีโร’’ติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
อริยวํสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ธมฺมปทสุตฺตวณฺณนา
๒๙. นวเม ¶ ฌานาทิเภโท ธมฺโม ปชฺชติ เอเตนาติ ธมฺมปทํ, อนภิชฺฌาว ธมฺมปทํ อนภิชฺฌาธมฺมปทํ, อนภิชฺฌาปธาโน วา ธมฺมโกฏฺาโส อนภิชฺฌาธมฺมปทํ. เอวํ เสเสสุปิ. อตฺถโต ปน อนภิชฺฌาธมฺมปทํ นาม อโลโภ วา อโลภสีเสน อธิคตชฺฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ วา. อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ นาม เมตฺตา วา เมตฺตาสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. สมฺมาสติธมฺมปทํ นาม สูปฏฺิตสฺสติ วา สติสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. สมฺมาสมาธิธมฺมปทํ นาม อฏฺสมาปตฺติ วา อฏฺสมาปตฺติสีเสน อธิคตชฺฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ วา. ทสอสุภวเสน วา อธิคตชฺฌานาทีนิ อนภิชฺชา ธมฺมปทํ. จตุพฺรหฺมวิหารวเสน ¶ อธิคตานิ อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ. ทสานุสฺสติ อาหาเรปฏิกูลสฺาวเสน อธิคตานิ สมฺมาสติธมฺมปทํ. ทสกสิณอานาปานวเสน อธิคตานิ สมฺมาสมาธิธมฺมปทํ. อนภิชฺฌาลูติ อนภิชฺฌายนสีโล. อภิปุพฺโพ เฌสทฺโท อภิชฺฌายนฏฺโ. เตเนวาห ‘‘นิตฺตณฺโห หุตฺวา’’ติ. ปกติภาวํ อวิชหนฺเตนาติ ปริสุทฺธภาวํ สภาวสงฺขาตอนวชฺชสงฺขาตํ ปกติภาวํ อวิชหนฺเตน. สาวชฺชธมฺมสมุปฺปตฺติยา หิ จิตฺตสฺส อนวชฺชภาโว ชหิโต โหตีติ.
ธมฺมปทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา
๓๐. ทสเม อภิฺาตาติ เอทิโส จ เอทิโส จาติ อภิลกฺขณวเสน าตา. เตนาห ‘‘าตา ปากฏา’’ติ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เอตฺถ ปฏิสลฺลานนฺติ เตหิ เตหิ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกอุปาสกาทิสตฺเตหิ เจว รูปารมฺมณาทิสงฺขาเรหิ จ ปฏินิวตฺติตฺวา อปสกฺกิตฺวา สลฺลีนํ นิลียนํ, เอกีภาโว ปวิเวโกติ วุตฺตํ โหติ. โย ตโต วุฏฺิโต, โส ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต นาม โหติ. ภควา ปน ยสฺมา ปฏิสลฺลานา อุตฺตมโต ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาสิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺิโต’’ติ. วตฺถุกาเมสูติ รูปาทีสุ กิเลสกามสฺส วตฺถุภูเตสุ กาเมสุ. พหลราคนฺติ ถิรมูลทุมฺโมจนียตาหิ อชฺโฌสาเนน พหลภูตํ กิเลสกามํ ¶ . สการณาติ เยหิ การเณหิ ปเรสํ วาเท โทสํ ทสฺเสนฺติ, เตหิ การเณหิ สการณา. น หิ ลกฺขณยุตฺเตน เหตุนา วินา ปรวาเทสุ โทสํ ทสฺเสตุํ สกฺกา.
เอวมาทีติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ, ตสฺมา เอวมาทิวาทิโน เอวํ เหตุปฺปฏิกฺเขปวาทิโนติ อตฺโถ. เอตฺถ จ นตฺถิกทิฏฺิ วิปากํ ปฏิพาหติ, อกิริยทิฏฺิ กมฺมํ ปฏิพาหติ, อเหตุกทิฏฺิ อุภยํ ปฏิพาหติ. ตตฺถ กมฺมํ ปฏิพาหนฺเตน วิปาโก ปฏิพาหิโต โหติ, วิปากํ ปฏิพาหนฺเตนปิ กมฺมํ ปฏิพาหิตํ. อิติ สพฺเพเปเต อตฺถโต อุภยปฏิพาหกา อเหตุวาทา เจว อกิริยวาทา จ นตฺถิกวาทา จ โหนฺติ.
โอกฺกนฺตนิยมาติ โอคาฬฺหมิจฺฉตฺตนิยมา. สชฺฌายตีติ ตํ ทิฏฺิทีปกํ คนฺถํ อุคฺคเหตฺวา ปติ. วีมํสตีติ ตสฺส อตฺถํ วิจาเรติ. ตสฺสาติอาทิ วีมํสนาการทสฺสนํ. ตสฺมึ ¶ อารมฺมเณติ ยถาปริกปฺปิตเหตุปจฺจยาภาวาทิเก นตฺถิ เหตูติอาทินยปฺปวตฺตาย ลทฺธิยา อารมฺมเณ. มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺตีติ ‘‘นตฺถิ เหตู’’ติอาทิวเสน อนุสฺสวูปลทฺเธ อตฺเถ ตทาการปริวิตกฺกเนหิ สวิคฺคเห วิย สรูปโต จิตฺตสฺส ปจฺจุปฏฺิเต จิรกาลปริจเยน เอวเมตนฺติ นิชฺฌานกฺขมภาวูปคมเนน นิชฺฌานกฺขนฺติยา ตถาคหิเต ปุนปฺปุนํ ตเถว อาเสวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส มิจฺฉาวิตกฺเกน สมานียมานา มิจฺฉาวายาโมปตฺถมฺภิตา อตํสภาวํ ตํสภาวนฺติ คณฺหนฺตี มิจฺฉาสตีติ ลทฺธนามา ตํลทฺธิสหคตา ตณฺหา สนฺติฏฺติ. จิตฺตํ เอกคฺคํ โหตีติ ยถาวุตฺตวิตกฺกาทิปจฺจยลาเภน ตสฺมึ อารมฺมเณ อวฏฺิตตาย อเนกคฺคตํ ปหาย จิตฺตํ เอกคฺคํ อปฺปิตํ วิย โหติ มิจฺฉาสมาธินา. โสปิ หิ ปจฺจยวิเสเสน ลทฺธภาวนาพโล กทาจิ สมาธานปฏิรูปกิจฺจกโร โหติเยว ปหรณวิชฺฌนาทีสุ วิยาติ ทฏฺพฺพํ.
ชวนานิ ชวนฺตีติ อเนกกฺขตฺตุํ เตนากาเรน ปุพฺพภาคิเยสุ ชวนวาเรสุ ปวตฺเตสุ สพฺพปจฺฉิเม ชวนวาเร สตฺต ชวนานิ ชวนฺติ. ปมชวเน สเตกิจฺโฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสูติ ธมฺมสภาวทสฺสนเมตํ, น ปน ตสฺมึ ขเณ เตสํ สเตกิจฺฉภาวาปาทนํ เกนจิ ¶ สกฺกา กาตุํ. ตตฺถาติ เตสุ ตีสุ มิจฺฉาทสฺสเนสุ. โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมตีติ ยสฺส เอกสฺมึเยว อภินิเวโส อาเสวนา ปวตฺตา, โส เอกํเยว ทสฺสนํ โอกฺกมติ. ยสฺส ทฺวีสุ ตีสุปิ วา อภินิเวโส อาเสวนา ปวตฺตา, โส ทฺเว ตีณิ โอกฺกมติ. เอเตน ยา ปุพฺเพ อุภยปฏิพาหิกตามุเขน ปวตฺตา อตฺถสิทฺธา สพฺพทิฏฺิกา, สา ปุพฺพภาคิยา, มิจฺฉานิยาโมกฺกนฺติยา ปน ยถาสกํ ปจฺจยสมุทาคมทิฏฺิโต ภินฺนารมฺมณานํ วิย วิเสสาธิคมานํ เอกชฺฌํ อนุปฺปตฺติยา อภิกิณฺณา เอวาติ ทสฺเสติ. เอกสฺมึ โอกฺกนฺเตปิ ทฺวีสุ ตีสุ โอกฺกนฺเตสุปิ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโกว โหตีติ อิมินา ติสฺสนฺนมฺปิ ทิฏฺีนํ สมานผลตํ สมานพลฺจ ทสฺเสติ. ตสฺมา ติสฺโสปิ เจตนา เอกสฺส อุปฺปนฺนา อฺมฺํ อนุพลปฺปทายิกา โหนฺติ.
กึ ปเนส เอตสฺมิฺเว อตฺตภาเว นิยโต, อุทาหุ อฺสฺมิมฺปีติ? เอตสฺมิฺเว นิยโต. อกุสลฺหิ นาเมตํ อพลํ, น กุสลํ วิย มหาพลํ. อฺถา สมฺมตฺตนิยาโม วิย อจฺจนฺติโก สิยา, อาเสวนวเสน ปน ภวนฺตเรปิ ตํ ตํ ทิฏฺึ โรเจติเยว. เตเนวาห ‘‘วฏฺฏขาณุโก นาเมส สตฺโต’’ติ. ตสฺมา ‘‘สกึ นิมุคฺโค นิมุคฺโค เอว พาโล’’ติ วิย วฏฺฏขาณุโชตนา, ยาทิเสหิ ปน ปจฺจเยหิ อยํ ตํ ทสฺสนํ โอกฺกนฺโต ปุน กทาจิ มิจฺฉตฺตนิยาโม ตปฺปฏิกฺเขปปจฺจเย ปฏิจฺจ ตโต สีสุกฺเขปนมสฺส น โหตีติ น วตฺตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ. เอทิสาติ ‘‘พุทฺธานมฺปิ อเตกิจฺฉา’’ติอาทินา วุตฺตสทิสา.
อตฺตโน ¶ นินฺทาภเยนาติ ‘‘สมฺมา ทิฏฺิฺจ นาม เต ครหนฺตี’’ติอาทินา อตฺตโน อุปริ ปเรหิ วตฺตพฺพนินฺทาภเยน. ฆฏฺฏนภเยนาติ ตถา ปเรสํ อปสาทนภเยน. สหธมฺเมน ปเรน อตฺตโน อุปริ กาตพฺพนิคฺคโห อุปารมฺโภ, ตโต ปริตฺตาโส อุปารมฺภภยํ. ตํ ปน อตฺถโต อุปวาทภยํ โหตีติ อาห ‘‘อุปวาทภเยนา’’ติ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน อภิชฺฌา วินยติ เอเตนาติ อภิชฺฌาวินโย, อรหตฺตผลํ. เตนาห ‘‘อภิชฺฌาวินโย วุจฺจติ อรหตฺต’’นฺติ.
ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุรุเวลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.