📜

๕. โรหิตสฺสวคฺโค

๑. สมาธิภาวนาสุตฺตวณฺณนา

๔๑. ปฺจมสฺส ปเม ทิฏฺธมฺมสุขวิหารายาติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สุขวิหารตฺถาย, นิกฺกิเลสตาย นิรามิเสน สุเขน วิหรณตฺถายาติ อตฺโถ. อิมินา จตฺตาริ ผลสมาปตฺติชฺฌานานิ ขีณาสวสฺส อาสวกฺขยาธิคมโต อปรภาเค อธิคตรูปารูปชฺฌานานิ จ กถิตานิ. ทิพฺพจกฺขุาณทสฺสนปฺปฏิลาภายาติ ทิพฺพจกฺขุาณปฺปฏิลาภตฺถาย. ทิพฺพจกฺขุาณฺหิ รูปคตสฺส ทิพฺพสฺส อิตรสฺส จ ทสฺสนฏฺเน อิธ ‘‘าณทสฺสน’’นฺติ อธิปฺเปตํ. อาโลกสฺํ มนสิ กโรตีติ ทิวา วา รตฺตึ วา สูริยทีปจนฺทมณิอุกฺกาวิชฺชุลตาทีนํ อาโลโก ทิวา รตฺติฺจ อุปลทฺโธ, ยถาลทฺธวเสเนว อาโลกํ มนสิ กโรติ จิตฺเต เปติ, ตถา จ นํ มนสิ กโรติ, ยถาสฺส สุภาวิตาโลกกสิณสฺส วิย กสิณาโลโก ยถิจฺฉกํ ยาวทิจฺฉกฺจ โส อาโลโก รตฺติยํ อุปติฏฺติ , เยน ตตฺถ ทิวาสฺํ เปติ, ทิวา วิย วิคตถินมิทฺโธ โหติ. เตนาห ‘‘ยถา ทิวา ตถา รตฺติ’’นฺติ.

ยถา ทิวา อาโลกสฺา มนสิ กตา, ตเถว นํ รตฺติมฺปิ มนสิ กโรตีติ ยถา ทิวา ทิฏฺโ อาโลโก, ตเถว ตํ รตฺตึ มนสิ กโรติ. ทุติยปเทติ ‘‘ยถา รตฺตึ ตถา ทิวา’’ติ อิมสฺมึ วากฺเย. เอส นโยติ อิมินา ยถา รตฺติยํ จนฺทาโลกาทิ อาโลโก ทิฏฺโ, เอวเมว รตฺตึ ทิฏฺากาเรเนว ทิวา ตํ อาโลกํ มนสิ กโรติ จิตฺเต เปตีติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. อิติ วิวเฏน เจตสาติ เอวํ อปิหิเตน จิตฺเตน, ถินมิทฺธาปิธาเนน อปิหิตจิตฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. อปริโยนทฺเธนาติ สมนฺตโต อนทฺเธน อสฺฉาทิเตน. กิฺจาปีติอาทินา อตฺตนา วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถติ. อาโลกสทิสํ กตํ ‘‘ยถา ทิวา ตถา รตฺติ’’นฺติอาทินา.

สตฺตฏฺานิกสฺสาติ ‘‘อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๔; ๒.๓๗๖; ม. นิ. ๑.๑๐๙) วุตฺตสฺส สตฺตฏฺานิกสฺส สติสมฺปชฺสฺส อตฺถาย. ปริคฺคหิตวตฺถารมฺมณตายาติ วตฺถุโน อารมฺมณสฺส จ ยาถาวโต วิทิตภาเวน. ยถา หิ สปฺปํ ปริเยสนฺเตน ตสฺส อาสเย วิทิเต โสปิ วิทิโต คหิโต เอว จ โหติ มนฺตาคทพเลน ตสฺส คหณสฺส สุกรตฺตา, เอวํ เวทนาย อาสยภูเต วตฺถุมฺหิ อารมฺมเณ จ วิทิเต อาทิกมฺมิกสฺสปิ เวทนา วิทิตา คหิตา เอว โหติ สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ ตสฺสา คหณสฺส สุกรตฺตา. ปเคว ปริฺาตวตฺถุกสฺส ขีณาสวสฺส. ตสฺส หิ อุปฺปาทกฺขเณปิ ิติกฺขเณปิ ภงฺคกฺขเณปิ เวทนา วิทิตา ปากฏา โหนฺติ ‘‘ตา เวทนา เอวํ อุปฺปชฺชิตฺวา’’ติอาทินา. น เกวลฺจ เวทนา เอว, อิธ วุตฺตา สฺาทโยปิ อวุตฺตา เจตนาทโยปิ วิทิตาว อุปฺปชฺชนฺติ เจว ติฏฺนฺติ จ นิรุชฺฌนฺติ จ. นิทสฺสนมตฺตฺเหตํ, ยทิทํ ปาฬิยํ เวทนาสฺาวิตกฺกคฺคหณํ. เตน อนวเสสโต สพฺพธมฺมานมฺปิ อุปฺปาทาทิโต วิทิตภาวํ ทสฺเสติ.

อปิจ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ, อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ, อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ. กถํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ ? อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโย, ตณฺหาสมุทยา กมฺมสมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโยติ นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส สมุทยํ ปสฺสติ. เอวํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ. กถํ เวทนาย อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ? อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยตุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ, ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยตุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ, อนตฺตโต มนสิกโรโต สุฺตุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. เอวํ เวทนาย อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. อิติ ขยโต ภยโต สุฺโต ชานาติ. กถํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ? อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธ…เป… เอวํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ. อิมินาปิ นเยเนตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อิติ รูปนฺติ เอตฺถ อิติสทฺโท อนวเสสโต รูปสฺส สรูปนิทสฺสนตฺโถติ ตสฺส อิทํ รูปนฺติ เอเตน สาธารณโต สรูปนิทสฺสนมาห, เอตฺตกํ รูปนฺติ เอเตน อนวเสสโต, น อิโต ปรํ รูปํ อตฺถีติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อฺสฺส อภาวํ. อิติ เวทนาติอาทีสุปิ อยํ เวทนา, เอตฺตกา เวทนา, อิโต ปรํ เวทนา นตฺถิ. อยํ สฺา…เป… อิเม สงฺขารา…เป… อิทํ วิฺาณํ, เอตฺตกํ วิฺาณํ, อิโต ปรํ วิฺาณํ นตฺถีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย’’ติ.

าเณน ชานิตฺวา ปโรปรานิ. ปโรปรานีติ ปรานิ จ โอปรานิ จ. อุตฺตมาธมานีติ ปรตฺตภาวสกตฺตภาวาทีนิ อุตฺตมาธมานิ. จลิตนฺติ ตณฺหาทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ. อนีโฆติ ราคาทิอีฆรหิโต. อตาริ โสติ โส เอวรูโป อรหา ชาติชรํ อตริ.

สมาธิภาวนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒-๔. ปฺหพฺยากรณสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๒-๔๔. ทุติเย เอเตสํ ปฺหานนฺติ เอกํสพฺยากรณาทีนํ จตุนฺนํ ปฺหานํ. ตสฺมึ ตสฺมึ าเน พฺยากรณํ ชานาตีติ ‘‘จกฺขุํ อนิจฺจ’’นฺติ ปุฏฺเ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ เอกํเสเนว พฺยากาตพฺพํ. ‘‘อนิจฺจา นาม จกฺขุ’’นฺติ ปุฏฺเ ปน ‘‘น เกวลํ จกฺขุเมว, โสตมฺปิ อนิจฺจ’’นฺติ เอวํ วิภชิตฺวา พฺยากาตพฺพํ. ‘‘ยถา จกฺขุํ ตถา โสตํ, ยถา โสตํ ตถา จกฺขุ’’นฺติ ปุฏฺเ ‘‘เกนฏฺเน ปุจฺฉสี’’ติ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทสฺสนฏฺเน ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺเต ‘‘น หี’’ติ พฺยากาตพฺพํ. ‘‘อนิจฺจฏฺเน ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺเต ‘‘อามา’’ติ พฺยากาตพฺพํ. ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติอาทีนิ ปุฏฺเน ปน ‘‘อพฺยากตเมตํ ภควตา’’ติ เปตพฺโพ, เอส ปฺโห น พฺยากาตพฺโพติ เอวํ ชานาตีติ อตฺโถ. อตฺถสมาคเมนาติ อตฺถสฺส ปฏิลาเภน ลทฺธพฺเพน. สมิติ สงฺคติ สโมธานนฺติ สมโย, ปฏิลาโภ. สมโย เอว อภิสมโย, อภิมุขภาเวน วา สมโย อภิสมโยติ เอวเมตฺถ ปทตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. ตติยจตุตฺถานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ปฺหพฺยากรณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๖. โรหิตสฺสสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๕-๔๖. ปฺจเม (สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๐๗) เอโกกาเสติ จกฺกวาฬสฺส ปริยนฺตสฺิเต เอกสฺมึ โอกาเส. ภุมฺมนฺติ ‘‘ยตฺถา’’ติ อิทํ ภุมฺมวจนํ. สามฺโต วุตฺตมฺปิ ‘‘โส โลกสฺส อนฺโต’’ติ วจนโต วิสิฏฺวิสยเมว โหติ. ‘‘น ชายติ, น มียตี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น จวติ, น อุปปชฺชตี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทํ อปราปรํ…เป… คหิต’’นฺติ. ปทคมเนนาติ ปทสา คมเนน. สตฺถา สงฺขารโลกสฺส อนฺตํ สนฺธาย วทติ อุปริ สพฺพานิ ปกาเสตุกาโม. สงฺขารโลกสฺส หิ อนฺโต นิพฺพานํ.

ทฬฺหํ ถิรํ ธนุ เอตสฺสาติ ทฬฺหธนฺวา, โส เอว ‘‘ทฬฺหธมฺมา’’ติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ทฬฺหธนู’’ติ. อุตฺตมปฺปมาณํ นาม สหสฺสถามธนุ. ธนุคฺคณฺหนสิปฺปจิตฺตกตาย ธนุคฺคโห, น ธนุคฺคหณมตฺเตนาติ อาห ‘‘ธนุคฺคโหติ ธนุอาจริโย’’ติ. ‘‘ธนุคฺคโห’’ติ วตฺวา ‘‘สิกฺขิโต’’ติ วุตฺเต ธนุสิกฺขาย สิกฺขิโตติ วิฺายติ. สิกฺขา จ เอตฺตเกน กาเลน สิกฺขนฺตสฺส อุกฺกํสคตา โหตีติ อาห ‘‘ทฺวาทส วสฺสานิ ธนุสิปฺปํ สิกฺขิโต’’ติ. อุสภปฺปมาเณติ วีสติ ยฏฺิโย อุสภํ, ตสฺมึ อุสภปฺปมาเณ ปเทเส. วาลคฺคนฺติ วาลโกฏึ. กตหตฺโถติ ปริจิตหตฺโถ. กตสรกฺเขโปติ ถิรลกฺเข จ จลลกฺเข จ ปเรสํ ทสฺสนวเสน สรกฺเขปสฺส กตาปี. เตนาห ‘‘ทสฺสิตสิปฺโป’’ติ, ‘‘กตโยคฺโค’’ติ เกจิ. อสนฺติ เอเตนาติ อสนํ, กณฺโฑ. ตาลจฺฉาทินฺติ ตาลจฺฉายํ. สา ปน รตนมตฺตา วิทตฺถิจตุรงฺคุลา.

ปุรตฺถิมา สมุทฺทาติ เอกสฺมึ จกฺกวาเฬ ปุรตฺถิมา สมุทฺทา. สมุทฺทสีเสน ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏึ วทติ. ปจฺฉิมสมุทฺโทติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นิปฺปปฺจตนฺติ อทนฺตการิตํ. สมฺปตฺเตติ ตาทิเสน ชเวน คจฺฉนฺเตน สมฺปตฺเต. อโนตตฺเตติ เอตฺถาปิ ‘‘สมฺปตฺเต’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ, ตถา ‘‘นาคลตาทนฺตกฏฺ’’นฺติ เอตฺถาปิ. ตทาติ ยทา โส โลกนฺตคเวสโก อโหสิ, ตทา. ทีฆายุกกาโลติ อเนกวสฺสสหสฺสายุกกาโล. จกฺกวาฬโลกสฺสาติ สามฺวเสน เอกวจนํ, จกฺกวาฬโลกานนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ นิพฺพตฺติปุพฺพปริจยสิทฺธาย นิกนฺติยา.

สสฺิมฺหิ สมนเกติ น รูปธมฺมมตฺตเก, อถ โข ปฺจกฺขนฺธสมุทาเยติ ทสฺเสติ. สมิตปาโปติ สมุจฺฉินฺนสํกิเลสธมฺโม. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว.

โรหิตสฺสสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สุวิทูรสุตฺตวณฺณนา

๔๗. สตฺตเม สุวิทูรวิทูร-สทฺทานํ สมานตฺถานํเยว เอกตฺถ คหณํ อิธ นิทฺเทโส ทูราสนฺนภาวสฺส อเปกฺขาสิทฺธตฺตา อิธาธิปฺเปตสฺส ทูรภาวสฺส เกนจิ ปริยาเยน อนาสนฺนภาวทสฺสนตฺถํ กตนฺติ อาห ‘‘เกนจิ ปริยาเยน อนาสนฺนานิ หุตฺวา’’ติอาทิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

สุวิทูรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิสาขสุตฺตวณฺณนา

๔๘. อฏฺเม วากฺกรณจาตุริยโต วจนคุณเหตูนํ ปูริยา โปรี, โปริยํ ภวาติ โปรี, ตาย โปริยา. เตนาห ‘‘ปริปุณฺณวาจายา’’ติ, อกฺขรปทปริปุณฺณาย วาจายาติ อตฺโถ. อปลิพุทฺธายาติ ปิตฺตาทีหิ น วิพทฺธาย อนนุพุนฺธิตาย. อเนลคลายาติ อเนลาย อคลาย นิทฺโทสาย อคฬิตปทพฺยฺชนาย จ. เถรสฺส หิ กถยโต ปทํ วา พฺยฺชนํ วา น ปริหายติ. เตนาห ‘‘อเนลคลายาติ นิทฺโทสาย เจว อคฬิตาย จา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิทฺโทสายาติ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ วิคตโทสาย. อปติตปทพฺยฺชนายาติ อวิรหิตปทพฺยฺชนาย. อถ วา อเนลคลายาติ น เอลํ โทสํ คลตีติ อเนลคลา. อวิจฺฉินฺนวาจาย อเนลคลาย ยถา ทนฺธมนุสฺสา มุเขน เขฬํ คฬนฺเตน วาจํ ภาสนฺติ, น เอวรูปาย. อถ โข นิทฺโทสาย วิสทวาจายาติ อตฺโถ. วิวฏฺฏปฺปกาสินี วาจา น กทาจิ วิวฏฺฏมุตฺตาติ กตฺวา อาห ‘‘วิวฏฺฏปริยาปนฺนายา’’ติ, วิวฏฺฏํ อมุฺจิตฺวา ปวตฺตายาติ อตฺโถ. วิวฏฺฏปฺปกาสินี หิ วาจา วิวฏฺฏํ ปริจฺฉิชฺช อาปาเทนฺตี ปวตฺตติ. นวโลกุตฺตรธมฺโม สพฺพธมฺเมหิ สมุสฺสิตฏฺเน อพฺภุคฺคตฏฺเน จ ธโช นามาติ อาห ‘‘อพฺภุคฺคตฏฺเนา’’ติอาทิ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

วิสาขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วิปลฺลาสสุตฺตวณฺณนา

๔๙. นวเม อนิจฺจาทีนิ วตฺถูนิ นิจฺจนฺติอาทินา วิปรีตโต อสนฺตีติ วิปลฺลาสา , สฺาย วิปลฺลาโส สฺาวิปลฺลาโส. อิตเรสุปิ ตีสุ เอเสว นโย. เอวเมเต จตุนฺนํ วตฺถูนํ วเสน จตฺตาโร, เตสุ วตฺถูสุ สฺาทีนํ วเสน ทฺวาทส โหนฺติ. เตสุ อฏฺ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ. อสุเภ สุภนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา สกทาคามิมคฺเคน ตนุกา โหนฺติ, อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ. ทุกฺเข สุขนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา อรหตฺตมคฺเคน ปหียนฺตีติ เวทิตพฺพา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

วิปลฺลาสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อุปกฺกิเลสสุตฺตวณฺณนา

๕๐. ทสเม อุปกฺกิลิฏฺภาวกรเณนาติ มลีนภาวกรเณน. ปฺจวิธาย สุราย จตุพฺพิธสฺส จ เมรยสฺสาติ เอตฺถ ปูวสุรา, ปิฏฺสุรา, โอทนสุรา, กิณฺณปกฺขิตฺตา, สมฺภารสํยุตฺตาติ ปฺจ สุรา. ปุปฺผาสโว, ผลาสโว, มธฺวาสโว, คุฬาสโวติ จตฺตาโร อาสวา, จตุพฺพิธํ เมรยํ นาม. ตตฺถ ปูเว ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา มทฺทิตฺวา กตา ปูวสุรา. เอวํ เสสสุราปิ. กิณฺณาติ ปน ตสฺสา สุราย พีชํ วุจฺจติ. เย สุรา ‘‘โมทกา’’ติปิ วุจฺจนฺติ, เต ปกฺขิปิตฺวา กตา กิณฺณปกฺขิตฺตา. ธาตกิอาสวาทินานาสมฺภาเรหิ สํโยชิตา สมฺภารสํยุตฺตา.มธุกตาลนาฬิเกราทิปุปฺผรโส จิรปริวาสิโต ปุปฺผาสโว. ปนสาทิผลรโส ผลาสโว. มุทฺทิการโส มธฺวาสโว. อุจฺฉุรโส คุฬาสโว.

อุปกฺกิเลสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

โรหิตสฺสวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ