📜
(๗) ๒. ปตฺตกมฺมวคฺโค
๑-๔. ปตฺตกมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา
๖๑-๖๔. ทุติยสฺส ปเม เย อนิฏฺา น โหนฺติ, เต อิฏฺาติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อนิฏฺปฏิกฺเขเปน อิฏฺา’’ติ. อิฏฺาติ จ ปริยิฏฺา วา โหตุ มา วา, อิฏฺารมฺมณภูตาติ อตฺโถ. คเวสิตมฺปิ หิ อิฏฺนฺติ วุจฺจติ, ตํ อิธ นาธิปฺเปตํ. มเนติ มนสฺมึ. กนฺตาติ วา กมนียา, กาเมตพฺพาติ อตฺโถ. มนํ อปฺปายนฺตีติ อิฏฺภาเวน มนํ วฑฺเฒนฺติ. กมฺมสาธโน อิธ โภค-สทฺโทติ อาห ‘‘โภคาติ ภฺุชิตพฺพา’’ติอาทิ. ธมฺมูปฆาตํ กตฺวา กุสลธมฺมํ วิโนเทตฺวา. อุปนิชฺฌายียนฺตีติ ¶ อุปชฺฌายาติ ¶ อาห ‘‘สุขทุกฺเขสุ อุปนิชฺฌายิตพฺพตฺตา’’ติ, สุขทุกฺเขสุ อุปฺปนฺเนสุ อนุสฺสริตพฺพตฺตาติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺสมฺภตฺเตหีติ เอตฺถ ตตฺถ ตตฺถ สงฺคมฺม ทิฏฺมตฺตา นาติทฬฺหมิตฺตา สนฺทิฏฺา, สุฏฺุ ภตฺตา สิเนหวนฺโต ทฬฺหมิตฺตา สมฺภตฺตา.
วิสมโลภนฺติ พลวโลภํ. สุขิตนฺติ สฺชาตสุขํ. ปีณิตนฺติ ธาตํ สุหิตํ. ตถาภูโต ปน ยสฺมา พลสมฺปนฺโน โหติ, ตสฺมา ‘‘พลสมฺปนฺนํ กโรตี’’ติ วุตฺตํ.
โสภเน กายิกวาจสิกกมฺเม รโตติ สูรโต อุการสฺส ทีฆํ กตฺวา, ตสฺส ภาโว โสรจฺจํ, กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. โส ปน อตฺถโต สุสีลภาโวติ อาห ‘‘ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺาติ อธิวาสนกฺขนฺติยฺจ สุสีลตาย จ นิวิฏฺา’’ติ. เอกมตฺตานนฺติ เอกํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ. ราคาทีนฺหิ ปุพฺพภาคิยํ ทมนาทิ ปจฺเจกํ อิจฺฉิตพฺพํ, น มคฺคกฺขเณ วิย เอกชฺฌํ ปฏิสงฺขานมุเขน ปชหนโต. เอกมตฺตานนฺติ วา วิเวกวเสน เอกํ เอกากินํ อตฺตานํ. เตเนวาห ‘‘เอกํ อตฺตโนว อตฺตภาว’’นฺติอาทิ. อุปรูปริภูมีสูติ ฉกามสคฺคสงฺขาตาสุ อุปรูปริกามภูมีสุ. กมฺมสฺส ผลํ อคฺคํ นาม. ตํ ปเนตฺถ อุจฺจคามีติ อาห ‘‘อุทฺธมคฺคมสฺสา’’ติ. สุวคฺเค นิยุตฺตา, สุวคฺคปฺปโยชนาติ วา โสวคฺคิกา. ทสนฺนํ วิเสสานนฺติ ทิพฺพอายุวณฺณยสสุขอาธิปเตยฺยานฺเจว อิฏฺรูปาทีนฺจ ผลวิเสสานํ. วณฺณคฺคหเณน เจตฺถ สโก อตฺตภาววณฺโณ คหิโต, รูปคฺคหเณน พหิทฺธา รูปารมฺมณํ. ทุติยตติยจตุตฺถานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ปตฺตกมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. รูปสุตฺตวณฺณนา
๖๕. ปฺจเม ปมิโนติ อุฬารตาทิวิเสสํ เอเตนาติ ปมาณํ, รุปกาโย ปมาณํ เอตสฺสาติ รูปปฺปมาโณ. ตโต เอว รูเป ปสนฺโนติ รูปปฺปสนฺโน. โฆโสติ เจตฺถ ถุติโฆโส. ลูขนฺติ ปจฺจยลูขตา. ธมฺมาติ สีลาทโย คุณธมฺมา อธิปฺเปตา. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ นานากรณํ ปาฬิยํเยว อาคตํ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กตโม ¶ จ ปุคฺคโล รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาโรหํ วา ปสฺสิตฺวา ¶ ปริณาหํ วา ปสฺสิตฺวา สณฺานํ วา ปสฺสิตฺวา ปาริปูรึ วา ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน.
‘‘กตโม จ ปุคฺคโล โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปรวณฺณนาย ปรโถมนาย ปรปสํสนาย ปรวณฺณหาริกาย ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน.
‘‘กตโม จ ปุคฺคโล ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล จีวรลูขํ วา ปสฺสิตฺวา ปตฺตลูขํ วา ปสฺสิตฺวา เสนาสนลูขํ วา ปสฺสิตฺวา วิวิธํ วา ทุกฺกรการิกํ ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน.
‘‘กตโม จ ปุคฺคโล ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีลํ วา ปสฺสิตฺวา สมาธึ วา ปสฺสิตฺวา ปฺํ วา ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโน’’ติ (ปุ. ป. ๑๗๑-๑๗๒).
ตตฺถ อาโรหนฺติ อุจฺจตํ. สา จ โข ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ปมาณยุตฺตา ทฏฺพฺพา. ปริณาหนฺติ นาติกิสถูลตาวเสน ปีณตํ. สณฺานนฺติ เตสํ เตสํ องฺคปจฺจงฺคานํ สุสณฺิตตํ ทีฆรสฺสวฏฺฏาทิยุตฺตฏฺาเนสุ ตถาภาวํ. ปาริปูรินฺติ สพฺเพสํ สรีราวยวานํ ปริปุณฺณตํ อวิกลตํ. ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวาติ ตสฺมึ รูเป รูปสมฺปตฺติยํ ปมาณภาวํ อุปาทาย. ปสาทํ ชเนตีติ อธิโมกฺขํ ชเนติ อุปฺปาเทติ.
ปรวณฺณนายาติ ‘‘อสุโก เอทิโส จ เอทิโส จา’’ติ ปรสฺส คุณวจเนน. ปรโถมนายาติ ปรมฺมุขา ปรสฺส สิลาฆุปฺปาทเกน อภิตฺถวเนน ปเรน ถุติวเสน, คาถาทิอุปนิพนฺธเนน วุตฺตาย โถมนายาติ วุตฺตํ โหติ. ปรปสํสนายาติ ปรมฺมุขา ปรสฺส คุณสํกิตฺตเนน. ปรวณฺณหาริกายาติ ¶ ปรมฺปรวณฺณหาริกาย ปรมฺปราย ปรสฺส กิตฺตนสทฺทสฺส อุปสํหาเรน. ตตฺถาติ ตสฺมึ ถุติโฆเส.
จีวรลูขนฺติ ถูลชิณฺณพหุตุนฺนกตาทิจีวรสฺส ลูขภาวํ. ปตฺตลูขนฺติ อเนกคนฺถิกาหฏตาทิปตฺตสฺส ¶ ลูขภาวํ. วิวิธํ วา ทุกฺกรการิกนฺติ ธุตงฺคาทิวเสน ปวตฺตนานาวิธํ ทุกฺกรจริยํ. สีลํ วา ปสฺสิตฺวาติ สีลปาริปูริวเสน วิสุทฺธํ กายวจีสุจริตํ าณจกฺขุนา ปสฺสิตฺวา, ฌานาทิอธิคมสุทฺธิสมาธึ วา วิปสฺสนาภิฺาสงฺขาตํ ปฺํ วา ปสฺสิตฺวาติ อตฺโถ.
เอวเมตสฺมึ จตุปฺปมาเณ โลกสนฺนิวาเส พุทฺเธสุ อปฺปสนฺนา มนฺทา, ปสนฺนา พหุกา. รูปปฺปมาณสฺส หิ พุทฺธรูปโต อุตฺตริ ปสาทาวหํ รูปํ นาม นตฺถิ. โฆสปฺปมาณสฺส พุทฺธานํ กิตฺติโฆสโต อุตฺตริ ปสาทาวโห โฆโส นาม นตฺถิ. ลูขปฺปมาณสฺส กาสิกานิ วตฺถานิ มหารหานิ กฺจนภาชนานิ ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเก สพฺพสมฺปตฺติยุตฺเต ปาสาทวเร ปหาย ปํสุกูลจีวรเสลมยปตฺตรุกฺขมูลาทิเสนาสนเสวิโน พุทฺธสฺส ภควโต ลูขโต อุตฺตริ ปสาทาวหํ อฺํ ลูขํ นาม นตฺถิ. ธมฺมปฺปมาณสฺส สเทวเก โลเก อสาธารณสีลาทิคุณสฺส ตถาคตสฺส สีลาทิคุณโต อุตฺตริ ปสาทาวโห อฺโ สีลาทิคุโณ นาม นตฺถิ. อิติ ภควา อิมํ จตุปฺปมาณิกํ โลกสนฺนิวาสํ มุฏฺินา คเหตฺวา วิย ิโตติ.
ปมาณึสูติ ปมาณํ อคฺคเหสุํ. นิยกชฺฌตฺเต ตสฺส คุณํ น ชานาตีติ ตสฺส อพฺภนฺตเร ปวตฺตมานํ สีลาทิคุณํ น ชานาติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
รูปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อหิราชสุตฺตวณฺณนา
๖๗. สตฺตเม ทฏฺวิสาเนวาติ อวธารเณน ทิฏฺวิสาทโย นิวตฺเตติ. กฏฺมุขาทโย หิ จตฺตาโร อาสีวิสา ทฏฺวิโส, ทิฏฺวิโส, ผุฏฺวิโส, วาตวิโสติ ปจฺเจกํ จตุพฺพิธา โหนฺตีติ วิสเวควิการวเสน ¶ โสฬส วุตฺตา. เตสุ ทฏฺวิสานํเยว อิธ คหณํ, น อิตเรสนฺติ ทสฺเสติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
อหิราชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. เทวทตฺตสุตฺตวณฺณนา
๖๘. อฏฺเม ¶ กาเล สมฺปตฺเตติ คพฺภสฺส ปริปากคตตฺตา วิชายนกาเล สมฺปตฺเต. โปตกนฺติ อสฺสตริยา ปุตฺตํ. ‘‘ผลํ เว กทลึ หนฺตี’’ติอาทิคาถาย กุกฺกุชเกเนว ปตฺตวฏฺฏิปสวสฺส อุจฺฉินฺนตฺตา ผลุปฺปตฺติ กทลิยา ปราภวาย โหตีติ อาห ‘‘ผลํ เว กทลึ หนฺตี’’ติ. กุกฺกุชกํ นาม กทลิยา ปุปฺผนาฬํ. ตถา ผลปากปริโยสานตฺตา โอสธีนํ ‘‘ผลํ เวฬุํ นฬ’’นฺติ วุตฺตํ. อยํ ปเนตฺถ ปิณฺฑตฺโถ – ยถา อตฺตโน ผลํ กทลิเวฬุนเฬ วินาเสติ, คพฺโภ จ อสฺสตรึ, เอวํ อตฺตโน กมฺมภูโต สกฺกาโร อสปฺปุริสํ วินาเสตีติ.
เทวทตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปธานสุตฺตวณฺณนา
๖๙. นวเม ปทหติ เอเตหีติ ปธานานิ. อุตฺตมวีริยานิ เสฏฺวีริยานิ วิสิฏฺสฺส อตฺถสฺส สาธนโต. กิเลสานํ สํวรตฺถายาติ ยถา อภิชฺฌาทโย น อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ สติยา อุปฏฺาเนน กิเลสานํ สํวรณตฺถาย. ปชหนตฺถายาติ กามวิตกฺกาทีนํ วิโนทนตฺถาย. ปธานนฺติ ตสฺเสว ปชหนสฺส สาธนวเสน ปวตฺตวีริยํ. กุสลานํ ธมฺมานํ พฺรูหนตฺถายาติ โพชฺฌงฺคสงฺขาตานํ กุสลธมฺมานํ วฑฺฒนตฺถาย. ปธานนฺติ ตสฺเสว วฑฺฒนสฺส สาธนวเสน ปวตฺตวีริยํ.
ปธานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อธมฺมิกสุตฺตวณฺณนา
๗๐. ทสเม วิสมนฺติ ภาวนปุํสกเมตํ. เตนาห ‘‘วิสมา หุตฺวา’’ติ. อสมเยนาติ อกาเล. ภุมฺมตฺเถ เหตํ กรณวจนํ. ปกฏฺํ ¶ ปธานํ อฺชสํ เอเตสนฺติ ปฺชสา, อฺชสํ ปคตา ปฏิปนฺนาติ วา ปฺชสา, ปกติมคฺคคามิโน. น ปฺชสา อปฺชสา, อมคฺคปฺปฏิปนฺนา. เต ปน ยสฺมา มคฺคโต อปคตา นาม โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มคฺคโต อปคตา’’ติอาทิ.
คาถาสุ ปน เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. คุนฺนํ เจ ตรมานานนฺติ คาวีสุ มโหฆํ ตรนฺตีสุ. ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโวติ ยทิ ยูถปติ อุสโภ กุฏิลํ คจฺฉติ. สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺตีติ ¶ สพฺพา ตา คาวิโย กุฏิลเมว คจฺฉนฺติ. กสฺมา? เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ ตสฺส กุฏิลคตตฺตา. โส หิ ตาสํ ปจฺจยิโก อุปทฺทวหโร จ. เอวเมวนฺติ ยถา เจตํ, เอวเมว โย มนุสฺเสสุ ปธานสมฺมโต, ยทิ โส อธมฺมจารี สิยา, เย ตสฺส อนุชีวิโน, สพฺเพปิ อธมฺมิกา โหนฺติ. สามิสมฺปทา หิ ปกติสมฺปทํ สมฺปาเทติ. ยสฺมา เอตเทวํ, ตสฺมา สพฺพํ รฏฺํ ทุกฺขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก.
อธมฺมิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปตฺตกมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.