📜
(๑๓) ๓. ภยวคฺโค
๑. อตฺตานุวาทสุตฺตวณฺณนา
๑๒๑. ตติยสฺส ปเม อตฺตานํ อนุวทนฺตสฺส อุปฺปชฺชนกภยนฺติ อตฺตานํ อนุวทนฺตสฺส ปาปกมฺมิโน อุปฺปชฺชนกภยํ. ทฺวตฺตึสกมฺมการเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยนฺติ อคาริกานํ วเสน วุตฺตํ ¶ , อนคาริกานํ ปน วินยทณฺฑํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยมฺปิ ทณฺฑภยนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
อตฺตานุวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อูมิภยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๒. ทุติเย โกธูปายาสสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เอตฺถ กุชฺฌนฏฺเน โกโธ, สฺเวว จิตฺตสฺส กายสฺส จ อติปฺปมทฺทนมถนุปฺปาทเนหิ ทฬฺหอายาสฏฺเน อุปายาโส. อเนกวารํ ปวตฺติตฺวา อตฺตนา สมเวตํ สตฺตํ อชฺโฌตฺถริตฺวา สีสํ อุกฺขิปิตุํ อทตฺวา อูมิสทิสตา ทฏฺพฺพา. ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ อูมีสุ โอสีทิตฺวา มรติ, เอวํ ¶ อิมสฺมึ สาสเน โกธูปายาเส โอสีทิตฺวา วิพฺภมติ, ตสฺมา โกธูปายาโส ‘‘อูมิภย’’นฺติ วุตฺโต. โอทริกตฺตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ กุมฺภีเลน ขาทิโต มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน โอทริกตฺเตน โอทริกภาเวน อามิสเคเธน มิจฺฉาชีเวน ชีวิกกปฺปเนน นาสิตสีลาทิคุณตาย ขาทิตธมฺมสรีโร วิพฺภมติ, ตสฺมา โอทริกตฺตํ ‘‘กุมฺภีลภย’’นฺติ วุตฺตํ.
อนุปฏฺิตาย สติยาติ กายคตํ สตึ อนุฏฺาเปตฺวา. อสํวุเตหีติ อปิหิเตหิ. ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ อาวฏฺเฏ นิมุชฺชิตฺวา มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิโต ปฺจกามคุณาวฏฺเฏ นิมุชฺชิตฺวา วิพฺภมติ. กามราคาภิภูโต หิ สตฺโต อิโต จ เอตฺโต, เอตฺโต จ อิโตติ เอวํ มนาปิยรูปาทิวิสยสงฺขาเต อาวฏฺเฏ อตฺตานํ สํสาเรตฺวา ยถา ตโต พหิภูเต เนกฺขมฺเม จิตฺตมฺปิ น อุปฺปาเทติ, เอวํ อาวฏฺเฏตฺวา พฺยสนาปาทเนน กามคุณานํ อาวฏฺฏสทิสตา ทฏฺพฺพา.
อนุทฺธํเสตีติ กิลเมติ วิโลลติ. ราคานุทฺธํสิเตนาติ ราเคน อนุทฺธํสิเตน. มาตุคามสฺเสตํ อธิวจนนฺติ. ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ จณฺฑมจฺฉํ อาคมฺม ลทฺธปฺปหาโร มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน มาตุคามํ อารพฺภ อุปฺปนฺนกามราโค วิพฺภมติ, ตสฺมา มาตุคาโม ‘‘สุสุกาภย’’นฺติ วุตฺโต. มาตุคาโม หิ โยนิโสมนสิการรหิตํ อธีรปุริสํ อิตฺถิกุตฺตภูเตหิ อตฺตโน หาสภาววิลาเสหิ อภิภุยฺย คเหตฺวา ธีรชาติกมฺปิ อตฺตโน ¶ รูปาทีหิ สมฺปโลภนวเสน อนวเสสํ อตฺตโน อุปการธมฺเม สีลาทิเก สมฺปาเทตุํ อสมตฺถํ กโรนฺโต อนยพฺยสนํ ปาเปติ.
อิมานิ ปน จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา ยถา อุทกํ อโนโรหนฺตสฺส อุทกํ นิสฺสาย อุทกปิปาสาวินยนํ สรีรสุทฺธิปริฬาหูปสโม กายอุตุคฺคาหาปนนฺติ, เอวมาทิ อานิสํโส นตฺถิ, เอวเมวํ อิมานิ จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา สาสเน อปพฺพชนฺตสฺสปิ อิมํ สาสนํ นิสฺสาย สงฺเขปโต วฏฺฏทุกฺขูปสโม, วิตฺถารโต ปน สีลานิสํสาทิวเสน อเนกวิโธ อานิสํโส นตฺถิ. ยถา ปน อิมานิ จตฺตาริ ภยานิ อภายิตฺวา ¶ อุทกํ โอโรหนฺตสฺส วุตฺตปฺปกาโร อานิสํโส โหติ, เอวํ อิมานิ อภายิตฺวา สาสเน ปพฺพชนฺตสฺสปิ วุตฺตปฺปกาโร อานิสํโส โหติ. มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถโร ปนาห ‘‘จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา อุทกํ อโนตรนฺโต โสตํ ฉินฺทิตฺวา ปรตีรํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, อภายิตฺวา โอตรนฺโต สกฺโกติ, เอวเมวํ ภายิตฺวา สาสเน อปพฺพชนฺโตปิ ตณฺหาโสตํ ฉินฺทิตฺวา นิพฺพานปารํ ทฏฺุํ น สกฺโกติ, อภายิตฺวา ปพฺพชนฺโต สกฺโกตี’’ติ.
อูมิภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปมนานากรณสุตฺตวณฺณนา
๑๒๓. ตติเย พฺรหฺมกายิกานํ เทวานนฺติ เอตฺถ พฺรหฺมานํ กาโย สมูโหติ พฺรหฺมกาโย, ตปฺปริยาปนฺนตาย ตตฺถ คตาติ พฺรหฺมกายิกา. เอตาย จ สพฺพสฺสปิ พฺรหฺมกายสฺส สมฺาย ภวิตพฺพํ. อาภสฺสรานํ เทวานนฺติอาทินา ปน ทุติยชฺฌานภูมิกาทีนํ อุปริ คหิตตฺตา โคพลีพทฺทฺาเยน ตทวสิฏฺานํ อยํ สมฺา, ตสฺมา ‘‘พฺรหฺมกายิกานํ เทวาน’’นฺติ ปมชฺฌานภูมิกานํเยว คหณํ เวทิตพฺพํ. สห พฺยยติ คจฺฉตีติ สหพฺโย, สหวตฺตนโก. ตสฺส ภาโว สหพฺยตา, สหปวตฺตีติ อาห ‘‘สหภาวํ อุปคจฺฉตี’’ติ. กปฺโป อายุปฺปมาณนฺติ เอตฺถ ยทิปิ พฺรหฺมปาริสชฺชาทีนํ อายุโน อนฺตรํ อตฺถิ, อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ปเนตํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปมชฺฌานํ อตฺถิ หีน’’นฺติอาทิมาห.
ทฺเว กปฺปา อายุปฺปมาณนฺติ เอตฺถ ปน หีนชฺฌาเนน นิพฺพตฺตานํ วเสน อยํ ปริจฺเฉโท กโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุติยชฺฌานํ วุตฺตนเยเนว ติวิธํ โหตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. จตฺตาโร กปฺปาติ เอตฺถ ปน อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน จตุสฏฺิ กปฺปา วตฺตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ เหฏฺา วุตฺตํ ‘กปฺโป ทฺเว กปฺปา’ติ ¶ , กมฺปิ อาหริตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ อาห. กถํ ปเนตฺถ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘กปฺโปติ จ คุณสฺสปิ นาม’’นฺติ. ตตฺถ ปมํ วุตฺโต กปฺโป, ตโต เอเกน คุเณน, เอกสฺมึ วาเร คณนายาติ อตฺโถ. ทฺเว กปฺปา โหนฺตีติ เอกวารคณนาย กปฺปสฺส ทฺวิคุณิตตฺตา ทฺเว มหากปฺปา โหนฺตีติ อตฺโถ. ทุติเยนาติ ทุติยวารคณนาย. จตฺตาโรติ ทุติยวารคณนาย ทฺวีสุ กปฺเปสุ ทฺวิคุณิเตสุ ¶ จตฺตาโร มหากปฺปา โหนฺตีติ อตฺโถ. ปุน เต จตฺตาโร กปฺปาติ วุตฺตนเยน ทฺเว วาเร คุเณตฺวา เย จตฺตาโร กปฺปา ทสฺสิตา, ปุน เต จตฺตาโร กปฺปา จตุคฺคุณา โหนฺตีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ทฺเว วาเร คุเณตฺวา เย จตฺตาโร กปฺปา ทสฺสิตา, เตสุ จตุกฺขตฺตุํ คุณิเตสุ จตุสฏฺิ กปฺปา สมฺปชฺชนฺตีติ. ตถา หิ จตฺตาโร เอกสฺมึ วาเร คุณิตา อฏฺ โหนฺติ, ปุน เต อฏฺ ทุติยวาเร คุณิตา โสฬส โหนฺติ, ปุน เต โสฬส ตติยวาเร คุณิตา ทฺวตฺตึส โหนฺติ, ปุน เต ทฺวตฺตึส จตุตฺถวาเร คุณิตา จตุสฏฺิ โหนฺติ. เตเนวาห ‘‘อิเมหิ จตูหิ คุเณหิ คุณิตา เอเกน คุเณน อฏฺ โหนฺตี’’ติอาทิ. เอตฺถ จ เหฏฺา อุโปสถสุตฺเต (อ. นิ. ๓.๗๑) –
‘‘ยานิ มานุสกานิ ปฺาส วสฺสานิ, จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว’’ติ –
อาทินา กามาวจรเทวานเมว อายุปฺปมาณํ ทสฺสิตํ. เหฏฺาเยว –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา…เป… อากาสานฺจายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อากาสานฺจายตนูปคานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ วีสติ กปฺปสหสฺสานิ อายุปฺปมาณ’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๑๑๗) –
อาทินา อรูปาวจรานํเยว อายุปฺปมาณํ วุตฺตํ. อิธ ปน รูปาวจรานเมว อายุปฺปมาณํ ทสฺสิตํ. วิภงฺคปาฬิยํ (วิภ. ๑๐๒๒) ปน ‘‘มนุสฺสานํ กิตฺตกํ อายุปฺปมาณํ, วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติอาทินา เทวมนุสฺสานฺเจว รูปารูปาวจรสตฺตานฺจ อายุปฺปมาณํ ทสฺสิตํ.
ตตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มนุสฺสานํ เทวานฺจ อายุํ ปริจฺฉินฺทมาเนน จตูสุ อปาเยสุ ภุมฺมเทเวสุ ¶ จ อายุ น ปริจฺฉินฺนํ. ตํ กสฺมาติ? นิรเย ตาว กมฺมเมว ปมาณํ. ยาว กมฺมํ น ขียติ, ตาว ปจฺจนฺติ. ตถา เสสอปาเยสุ. ภุมฺมเทวานมฺปิ กมฺมเมว ปมาณํ. ตตฺถ นิพฺพตฺตา หิ เกจิ สตฺตาหมตฺตํ ติฏฺนฺติ, เกจิ อฑฺฒมาสํ, กปฺปํ ติฏฺมานาปิ อตฺถิเยว. ตตฺถ มนุสฺเสสุ คิหิภาเว ิตาเยว โสตาปนฺนาปิ โหนฺติ, สกทาคามิผลํ อนาคามิผลํ อรหตฺตมฺปิ ปาปุณนฺติ, เตสุ โสตาปนฺนาทโย ยาวชีวํ ¶ ติฏฺนฺติ, ขีณาสวา ปน ปรินิพฺพายนฺติ วา ปพฺพชนฺติ วา. กสฺมา? อรหตฺตํ นาม เสฏฺคุณํ, คิหิลิงฺคํ หีนํ, ตํ หีนตาย อุตฺตมํ คุณํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา เต ปรินิพฺพาตุกามา วา โหนฺติ ปพฺพชิตุกามา วา. ภุมฺมเทวา ปน อรหตฺตํ ปตฺตาปิ ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ, ฉสุ กามาวจเรสุ เทเวสุ โสตาปนฺนสกทาคามิโน ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ, อนาคามินา รูปภวํ คนฺตุํ วฏฺฏติ ขีณาสเวน ปรินิพฺพาตุํ. กสฺมา? นิลียโนกาสสฺส อภาวา. รูปาวจรารูปาวจเรสุ สพฺเพปิ ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ, ตตฺถ รูปาวจเร นิพฺพตฺตา โสตาปนฺนสกทาคามิโน น ปุน อิธาคจฺฉนฺติ, ตตฺเถว ปรินิพฺพายนฺติ. เอเต หิ ฌานอนาคามิโน นาม.
อฏฺสมาปตฺติลาภีนํ ปน กึ นิยเมติ? ปคุณชฺฌานํ. ยเทวสฺส ปคุณํ โหติ, เตน อุปปชฺชติ. สพฺเพสุ ปคุเณสุ กึ นิยเมติ? เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติ. เอกํเสเนว หิ โส เนวสฺานาสฺายตเน อุปปชฺชติ. นวสุ พฺรหฺมโลเกสุ นิพฺพตฺตอริยสาวกานํ ตตฺรูปปตฺติปิ อุปรูปปตฺติปิ, น เหฏฺูปปตฺติ. ปุถุชฺชนานํ ปน ตตฺรูปปตฺติปิ โหติ, อุปรูปปตฺติปิ, เหฏฺูปปตฺติปิ. ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ จตูสุ จ อรูเปสุ อริยสาวกานํ ตตฺรูปปตฺติปิ โหติ อุปรูปปตฺติปิ. ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺโต อนาคามี นว พฺรหฺมโลเก โสเธตฺวา มตฺถเก ิโต ปรินิพฺพาติ. เวหปฺผลํ, อกนิฏฺํ, เนวสฺานาสฺายตนนฺติ อิเม ตโย เทวโลกา เสฏฺภวา นาม. อิเมสุ ตีสุ าเนสุ นิพฺพตฺตอนาคามิโน เนว อุทฺธํ คจฺฉนฺติ, น อโธ, ตตฺถ ตตฺเถว ปรินิพฺพายนฺตีติ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ.
ปมนานากรณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๖. ทุติยนานากรณสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๒๔-๖. จตุตฺเถ เต ธมฺเมติ เต ‘‘รูปคต’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺเต รูปาทโย ธมฺเม. อนิจฺจโตติ อิมินา นิจฺจปฺปฏิกฺเขปโต เตสํ อนิจฺจตมาห, ตโต เอว จ อุทยวยวนฺตโต วิปริณามโต ตาวกาลิกโต จ เต อนิจฺจาติ โชติตํ โหติ. ยฺหิ นิพฺพตฺตํ โหติ, ตํ อุทยวยปริจฺฉินฺนํ ¶ . ชราย มรเณน จ ตเทว วิปรีตํ, อิตฺตรกฺขณเมว จ โหตีติ. ทุกฺขโตติ อิมินา สุขปฺปฏิกฺเขปโต เตสํ ¶ ทุกฺขตมาห. ตโต เอว จ อภิณฺหปฺปฏิปีฬนโต ทุกฺขวตฺถุโต จ เต ทุกฺขาติ โชติตํ โหติ. อุทยวยวนฺตตาย หิ เต อภิณฺหปฺปฏิปีฬนโต นิรนฺตรทุกฺขตาย ทุกฺขสฺเสว จ อธิฏฺานภูตา. ปจฺจยยาปนียตาย โรคมูลตาย จ โรคโต. ทุกฺขตาสูลโยคโต กิเลสาสุจิปคฺฆรณโต อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปริปกฺกปภินฺนโต จ คณฺฑโต. ปีฬาชนนโต, อนฺโตตุทนโต, ทุนฺนีหรณโต จ สลฺลโต. อวฑฺฒิอาวหนโต อฆวตฺถุโต จ อฆโต. อเสริภาวชนนโต อาพาธปทฏฺานตาย จ อาพาธโต. อวสวตฺตนโต อวิเธยฺยตาย จ ปรโต. พฺยาธิชรามรเณหิ ปลุชฺชนียตาย ปโลกโต. สามินิวาสิการกเวทกอธิฏฺายกวิรหโต สฺุโต. อตฺตปฺปฏิกฺเขปฏฺเน อนตฺตโต. รูปาทิธมฺมา หิ น เอตฺถ อตฺตา อตฺถีติ อนตฺตา. เอวํ สยมฺปิ อตฺตา น โหนฺตีติ อนตฺตา. เตน อพฺยาปารโต นิรีหโต ตุจฺฉโต อนตฺตาติ ทีปิตํ โหติ. ลกฺขณตฺตยเมว สุขาวโพธนตฺถํ เอกาทสหิ ปเทหิ วิภชิตฺวา คหิตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฺจมฉฏฺานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ทุติยนานากรณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ปมตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๗. สตฺตเม วตฺตมานสมีเป วตฺตมาเน วิย โวหริตพฺพนฺติ ‘‘โอกฺกมตี’’ติ อาห ‘‘โอกฺกนฺโต โหตีติ อตฺโถ’’ติ. ทสสหสฺสจกฺกวาฬปตฺถรโณ สมุชฺชลภาเวน อุฬาโร. เทวานุภาวนฺติ เทวานํ ปภานุภาวํ. เทวานฺหิ ปภํ โส โอภาโส อธิภวติ, น เทเว. เตนาห ‘‘เทวาน’’นฺติอาทิ. รุกฺขคจฺฉาทินา เกนจิ น หฺตีติ อฆา, อสมฺพาธา. เตนาห ‘‘นิจฺจวิวรา’’ติ. อสํวุตาติ เหฏฺา อุปริ เกนจิ อปิหิตา. เตนาห ‘‘เหฏฺาปิ อปฺปติฏฺา’’ติ. ตตฺถ ปิ-สทฺเทน ยถา เหฏฺา อุทกสฺส ปิธายิกา สนฺธาริกา ปถวี นตฺถิ อสํวุตา โลกนฺตริกา, เอวํ อุปริปิ จกฺกวาเฬสุ เทววิมานานํ อภาวโต อสํวุตา อปฺปติฏฺาติ ทสฺเสติ. อนฺธกาโร เอตฺถ อตฺถีติ อนฺธการา. จกฺขุวิฺาณํ น ชายติ อาโลกสฺส อภาวโต, น จกฺขุโน. ตถา หิ ‘‘เตโนภาเสน ¶ อฺมฺํ สฺชานนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ชมฺพุทีเป ิตมชฺฌนฺหิกเวลาย ปุพฺพวิเทหวาสีนํ อตฺถงฺคมวเสน อุปฑฺฒํ สูริยมณฺฑลํ ปฺายติ, อปรโคยานวาสีนํ อุคฺคมนวเสน. เอวํ เสสทีเปสุปีติ อาห ‘‘เอกปฺปหาเรเนว ตีสุ ทีเปสุ ปฺายนฺตี’’ติ. อิโต อฺถา ทฺวีสุ เอว ทีเปสุ ปฺายนฺติ. เอเกกาย ทิสาย นวนวโยชนสตสหสฺสานิ อนฺธการวิธมนมฺปิ อิมินาว นเยน ทฏฺพฺพํ. ปภาย นปฺปโหนฺตีติ ¶ อตฺตโน ปภาย โอภาสิตุํ นาภิสมฺภุณนฺติ. ยุคนฺธรปพฺพตมตฺถกสมปฺปมาเณ อากาเส วิจรณโต ‘‘จกฺกวาฬปพฺพตสฺส เวมชฺเฌน จรนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
พฺยาวฏาติ ขาทนตฺถํ คณฺหิตุํ อุปกฺกมนฺตา. วิปริวตฺติตฺวาติ วิวฏฺฏิตฺวา. ฉิชฺชิตฺวาติ มุจฺฉาปวตฺติยา ิตฏฺานโต มุจฺจิตฺวา, องฺคปจฺจงฺคเฉทนวเสน วา ฉิชฺชิตฺวา. อจฺจนฺตขาเรติ อาตปสนฺตปาภาเวน อติสีตภาวํ สนฺธาย อจฺจนฺตขารตา วุตฺตา สิยา. น หิ ตํ กปฺปสณฺานอุทกํ สมฺปตฺติกรมหาเมฆวุฏฺํ ปถวิสนฺธารกํ กปฺปวินาสกอุทกํ วิย ขารํ ภวิตุมรหติ, ตถา สติ ปถวีปิ วิลีเยยฺย, เตสํ วา ปาปกมฺมผเลน เปตานํ ปกติอุทกสฺส ปุพฺพเขฬภาวาปตฺติ วิย ตสฺส อุทกสฺส ขารภาวาปตฺติ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อจฺจนฺตขาเร อุทเก’’ติ.
ปมตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุติยตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๘. อฏฺเม อาลียนฺติ อารมิตพฺพฏฺเน เสวียนฺตีติ อาลยา, ปฺจ กามคุณา. อารมนฺตีติ รตึ วินฺทนฺติ กีฬนฺติ ลฬนฺติ. อาลียนฺติ วา อลฺลียนฺตา อภิรมณวเสน เสวนฺตีติ อาลยา, ตณฺหาวิจริตานิ. เตหิ อาลเยหิ รมนฺตีติ อาลยารามา. ยเถว หิ สุสชฺชิตํ ปุปฺผผลภริตรุกฺขาทิสมฺปนฺนอุยฺยานํ ปวิฏฺโ ราชา ตาย สมฺปตฺติยา รมติ, สมฺมุทิโต อาโมทิตปฺปโมทิโต โหติ, น อุกฺกณฺเติ, สายมฺปิ นิกฺขมิตุํ น อิจฺฉติ, เอวมิเมหิ กามาลยตณฺหาลเยหิ สตฺตา รมนฺติ, สํสารวฏฺเฏ ปมุทิตา อนุกฺกณฺิตา วสนฺติ. เตน เตสํ ภควา ทุวิธมฺปิ อาลยํ อุยฺยานภูมึ วิย ทสฺเสนฺโต ‘‘อาลยารามา’’ติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ทุติยตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙-๑๐. อานนฺทอจฺฉริยสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๒๙-๑๓๐. นวเม ¶ ปฏิสนฺถารธมฺมนฺติ ปกติจาริตฺตวเสน วุตฺตํ, อุปคตานํ ปน ภิกฺขูนํ ¶ ภิกฺขุนีนฺจ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวเสน เจว จิตฺตรุจิวเสน จ ยถากาลํ ธมฺมํ เทเสติเยว, อุปาสกอุปาสิกานํ ปน อุปนิสินฺนกกถาวเสน. ทสมํ อุตฺตานเมว.
อานนฺทอจฺฉริยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.