📜

(๑๗) ๒. ปฏิปทาวคฺโค

๑. สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๖๑. ทุติยสฺส ปเม ทุกฺขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺาติอาทีสุ ปาฬิยา อาคตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ –

‘‘ตตฺถ กตมา ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา? กิจฺเฉน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา อุปฺปชฺชติ ปฺา ปชานนา…เป… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา? กิจฺเฉน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา อุปฺปชฺชติ ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา? อกิจฺเฉน อกสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา อุปฺปชฺชติ ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา? อกิจฺเฉน อกสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา อุปฺปชฺชติ ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา’’ติ (วิภ. ๘๐๑) – อยเมตฺถ ปาฬิ.

ตตฺถ กิจฺเฉน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺสาติ ปุพฺพภาเค อาคมนกาเล กิจฺเฉน กสิเรน ทุกฺเขน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิเลเส วิกฺขมฺเภตฺวา โลกุตฺตรสมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส. ทนฺธํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺสาติ วิกฺขมฺภิเตสุ กิเลเสสุ วิปสฺสนาปริวาเส จิรํ วสิตฺวา ตํ โลกุตฺตรสมาธิสงฺขาตํ านํ ทนฺธํ สณิกํ อภิชานนฺตสฺส ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส, ปาปุณนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ ยา เอสา เอวํ อุปฺปชฺชติ, อยํ กิเลสวิกฺขมฺภนปฺปฏิปทาย ทุกฺขตฺตา, วิปสฺสนาปริวาสปฺาย จ ทนฺธตฺตา มคฺคกาเล เอกจิตฺตกฺขเณ อุปฺปนฺนาปิ ปฺา อาคมนวเสน ‘‘ทุกฺขปฏิปทาทนฺธาภิฺา นามา’’ติ วุจฺจติ. อุปริ ตีสุ ปเทสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิตฺถารสุตฺตวณฺณนา

๑๖๒. ทุติเย อกตาภินิเวโสติ อกตาธิกาโร. รูปานํ ลกฺขณาทีหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คหณํ รูปปริคฺคโห. ตีสุ อทฺธาสุ กิลมตีติ ปุพฺพนฺเต อปรนฺเต ปุพฺพนฺตาปรนฺเตติ เอวํ ตีสุ ปเทเสสุ กิลมติ. ปฺจสุ าเณสูติ รูปปริคฺคหาทีสุ ปฺจสุ าเณสุ. นวสุ วิปสฺสนาาเณสูติ อุทยพฺพยาทินววิปสฺสนาาเณสุ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

วิตฺถารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อสุภสุตฺตวณฺณนา

๑๖๓. ตติเย ‘‘ยถา เอตํ, ตถา อิท’’นฺติ อิมินา นเยนาติ เอเตน –

‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;

อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, กาเย ฉนฺทํ วิราชเย’’ติ. (สุ. นิ. ๒๐๕); –

อิมํ เทสนานยํ สงฺคณฺหาติ. ตสฺสตฺโถ – ยถา อิทํ สวิฺาณกาสุภํ อายุอุสฺมาวิฺาณานํ อนปคมา จรติ ติฏฺติ นิสีทติ สยติ, ตถา เอตํ เอตรหิ สุสาเน สยิตํ อวิฺาณกมฺปิ ปุพฺเพ เตสํ ธมฺมานํ อนปคมา อโหสิ. ยถา จ เอตํ เอตรหิ มตสรีรํ เตสํ ธมฺมานํ อปคมา น จรติ น ติฏฺติ น นิสีทติ น เสยฺยํ กปฺเปติ, ตถา อิทํ สวิฺาณกมฺปิ เตสํ ธมฺมานํ อปคมา ภวิสฺสติ. ยถา จ อิทํ สวิฺาณกํ เนตรหิ สุสาเน มตํ เสติ น อุทฺธุมาตกาทิภาวมุปคตํ, ตถา เอตํ เอตรหิ มตสรีรมฺปิ ปุพฺเพ อโหสิ. ยถา ปเนตํ เอตรหิ อวิฺาณกาสุภํ มตกสุสาเน เสติ อุทฺธุมาตกาทิภาวฺจ อุปคตํ, ตถา อิทํ สวิฺาณกมฺปิ ภวิสฺสตีติ. ตตฺถ ยถา อิทํ ตถา เอตนฺติ อตฺตนา มตสรีรสฺส สมานภาวํ กโรนฺโต พาหิเร โทสํ ปชหติ. ยถา เอตํ ตถา อิทนฺติ มตสรีเรน อตฺตโน สมานภาวํ กโรนฺโต อชฺฌตฺติเก ราคํ ปชหติ. เยนากาเรน อุภยํ สมํ กโรติ, ตํ สมฺปชานนฺโต อุภยตฺถ โมหํ ปชหติ.

พหิทฺธา ทิฏฺานนฺติ พหิทฺธา สุสานาทีสุ ทิฏฺานํ อุทฺธุมาตกาทิทสนฺนํ อสุภานํ. ‘‘นวนฺนํ ปาฏิกุลฺยานํ วเสนา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อนฺติมชีวิกาภาวโต ปิณฺฑปาตสฺส อลาภลาเภสุ ปริตสฺสนเคธาทิสมุปฺปตฺติโต ภตฺตสฺส สมฺมทชนนโต กิมิกุลสํวทฺธนโตติ เอวมาทีหิปิ อากาเรหิ อาหาเรปฏิกูลตา ปจฺจเวกฺขิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกานํ ยทิทํ ปิณฺโฑลฺยํ อติปาโปยํ โลกสฺมึ ยทิทํ ปิณฺโฑลฺโย วิจรติ ปตฺตปาณีติ (สํ. นิ. ๓.๘๐; อิติวุ. ๙๑). อลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ คธิโต มุจฺฉิโต อชฺโฌปนฺโน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชตีติ (อ. นิ. ๓.๑๒๔). ภุตฺโต จ อาหาโร กสฺสจิ กทาจิ มรณํ วา มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ อาวหตี’’ติ.

กฏุกีฏกาทโย ทฺวตฺตึสกุลปฺปเภทา กิมิโย นํ อุปนิสฺสาย ชีวนฺตีติ? วุจฺจเต – อนฺติมชีวิกาภาโว ตาว จิตฺตสํกิเลสวิโสธนตฺถํ กมฺมฏฺานาภินิเวสนโต ปเคว มนสิ กาตพฺโพ ‘‘มาหํ ฉวาลาตสทิโส ภเวยฺย’’นฺติ. ตถา ปิณฺฑปาตสฺส อลาภลาเภสุ ปริตสฺสนเคธาทิสมุปฺปตฺตินิวารณํ ปเคว อนุฏฺาตพฺพํ สุปริสุทฺธสีลสฺส ปฏิสงฺขานวโต ตทภาวโต. ภตฺตสมฺมโท อเนกนฺติโก ปริโภเค อนฺโตคโธวาติ เวทิตพฺโพ. กิมิกุลสํวทฺธนํ ปน สงฺคเหตพฺพํ, สงฺคหิตเมว วา ‘‘นวนฺนํ ปาฏิกุลฺยานํ วเสนา’’ติ เอตฺถ นิยมสฺส อกตตฺตา. อิมินา วา นเยน อิตเรสมฺเปตฺถ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ ยถาสมฺภวเมตฺถ ปฏิกูลตาปจฺจเวกฺขณสฺส อธิปฺเปตตฺตา.

เอวฺจ กตฺวา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๔-๒๙๕) ทสหิ อากาเรหิ ปฏิกูลตา เวทิตพฺพา. เสยฺยถิทํ – คมนโต, ปริเยสนโต, ปริโภคโต, อาสยโต, นิธานโต, อปริปกฺกโต, ปริปกฺกโต, ผลโต, นิสฺสนฺทโต, สมฺมกฺขนโตติ. เอวํ ทสนฺนํ วเสน ปาฏิกุลฺยวจเนนปิ อิธ ‘‘นวนฺน’’นฺติ วจนํ น วิรุชฺฌติ, สมฺมกฺขนสฺส ปริโภคาทีสุ ลพฺภมานภาวา วิสุํ ตํ อคฺคเหตฺวา น วทนฺติ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๐๔) ปน สมฺมกฺขนํ ปริโภคาทีสุ ลพฺภมานมฺปิ นิสฺสนฺทวเสน วิเสสโต ปฏิกูลนฺติ ทสฺเสตุํ สพฺพปจฺฉา ปิตา.

อุกฺกณฺิตสฺาย สมนฺนาคโตติ ตีสุ ภเวสุ อรุจฺจนวเสน ปวตฺตาย วิปสฺสนาปฺาย สมนฺนาคโต. นิพฺพิทานุปสฺสนา เหสา สฺาสีเสน วุตฺตา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

อสุภสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๖. ปมขมสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๖๔-๑๖๖. จตุตฺเถ ปธานกรณกาเล สีตาทีนิ นกฺขมติ น สหตีติ อกฺขมา. ขมติ สหติ อภิภวตีติ ขมา. อินฺทฺริยทมนํ ทมา. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๔; ๖.๕๘) นเยน วิตกฺกสมนํ สมาติ อาห ‘‘อกุสลวิตกฺกานํ วูปสมนปฏิปทา’’ติ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ, สพฺเพสมฺปิ กิเลสานํ สมนวเสน ปวตฺตา ปฏิปทา สมา. ปฺจมฉฏฺานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ปมขมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๘. มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๖๗-๑๖๘. สตฺตมฏฺเมสุ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺสาติอาทินา โมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส เหฏฺา ติณฺณํ มคฺคานํ สุขปฏิปททนฺธาภิฺภาโว, อรหตฺตมคฺคสฺส ทุกฺขปฏิปทขิปฺปาภิฺภาโว วุตฺโต, สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปน เหฏฺิมานํ ติณฺณํ มคฺคานํ สุขปฏิปททนฺธาภิฺภาโว, อรหตฺตมคฺคสฺส จ สุขปฏิปทขิปฺปาภิฺภาโว ทสฺสิโต. ยํ ปน วุตฺตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๘๐๑) ‘‘พุทฺธานํ ปน จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขปฏิปทขิปฺปาภิฺาว อเหสุํ, ตถา ธมฺมเสนาปติสฺส. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปน ปมมคฺโค สุขปฏิปทขิปฺปาภิฺโ อโหสิ, อุปริ ตโย ทุกฺขปฏิปททนฺธาภิฺา’’ติ. ยฺจ วุตฺตํ อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๗๖) ‘‘ตถาคตสฺส หิ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส จ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขปฏิปทขิปฺปาภิฺาว อเหสุํ, มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปน ปมมคฺโค สุขปฏิปทขิปฺปาภิฺโ อุปริ ตโย ทุกฺขปฏิปทขิปฺปาภิฺา’’ติ, ตํ สพฺพํ อฺมฺํ นานุโลเมติ. อิมาย ปาฬิยา อิมาย จ อฏฺกถาย น สเมติ, ตสฺมา วีมํสิตพฺพเมตํ. ตํตํภาณกานํ วา มเตน ตตฺถ ตตฺถ ตถา ตถา วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.

มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สสงฺขารสุตฺตวณฺณนา

๑๖๙. นวเม สสงฺขาเรน ทุกฺเขน กสิเรน อธิมตฺตปโยคํ กตฺวาว กิเลสปรินิพฺพานธมฺโมติ สสงฺขารปรินิพฺพายี. อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน อธิมตฺตปโยคํ อกตฺวาว กิเลสปรินิพฺพานธมฺโมติ อสงฺขารปรินิพฺพายี. ธมฺมานุสารี ปุคฺคโล หิ อาคมนมฺหิ กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต อปฺปทุกฺเขน อกสิเรน อกิลมนฺโตว วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ. สทฺธานุสารี ปุคฺคโล ปน ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต หุตฺวา วิกฺขมฺเภตุํ, ตสฺมา ธมฺมานุสาริสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกํ าณํ อทนฺธํ ติขิณํ สูรํ หุตฺวา วหติ. ยถา นาม ติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อติสีฆํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ น โหติ, เอวรูปา ธมฺมานุสาริโน ปุพฺพภาคภาวนา โหติ. สทฺธานุสาริโน ปน ปุพฺพภาคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกํ าณํ ทนฺธํ อติขิณํ อสูรํ หุตฺวา วหติ. ยถา นาม กุณฺเน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ น มฏฺํ โหติ, อติสีฆํ น วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ อิจฺฉิตพฺพํ โหติ, เอวรูปา สทฺธานุสาริโน ปุพฺพภาคภาวนา โหติ. เอวํ สนฺเตปิ เนสํ กิเลสกฺขเย นานตฺตํ นตฺถิ, อนวเสสาว กิเลสา ขียนฺติ.

สสงฺขารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ยุคนทฺธสุตฺตวณฺณนา

๑๗๐. ทสเม สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวตีติ อิทํ สมถยานิกสฺส วเสน วุตฺตํ. โส หิ ปมํ อุปจารสมาธึ วา อปฺปนาสมาธึ วา อุปฺปาเทติ, อยํ สมโถ. โส ตฺจ ตํสมฺปยุตฺเต จ ธมฺเม อนิจฺจาทีหิ วิปสฺสติ, อยํ วิปสฺสนา, อิติ ปมํ สมโถ, ปจฺฉา วิปสฺสนา. เตน วุจฺจติ ‘‘สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวตี’’ติ. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ สมถํ ภาเวตีติ อิทํ ปน วิปสฺสนายานิกสฺส วเสน วุตฺตํ. โส ตํ วุตฺตปฺปการํ สมถํ อสมฺปาเทตฺวา ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ อนิจฺจาทีหิ วิปสฺสติ. ปโม โลกุตฺตรมคฺโค นิพฺพตฺตตีติ โสตาปตฺติมคฺคํ สนฺธาย วทติ, โลกิยมคฺควเสเนว วา อิมิสฺสา ปาฬิยา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กถํ? มคฺโค สฺชายติ, ปุพฺพภาคิโย โลกิยมคฺโค อุปฺปชฺชติ. อาเสวติ นิพฺพิทานุปสฺสนาวเสน. ภาเวติ มุจฺจิตุกมฺยตาวเสน. พหุลีกโรติ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาวเสน. อาเสวติ วา ภยตุปฏฺานาทิาณวเสน. ภาเวติ มุจฺจิตุกมฺยตาทิาณวเสน. พหุลีกโรติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาวเสน. สํโยชนานิ ปหียนฺติ. อนุสยา พฺยนฺตี โหนฺตีติ มคฺคปฺปฏิปาฏิยา ปหียนฺติ พฺยนฺตี โหนฺติ.

ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสนฺติ โอภาสาทีสุ อริยธมฺโมติ ปวตฺตํ อุทฺธจฺจํ วิกฺเขโป ธมฺมุทฺธจฺจํ , เตน ธมฺมุทฺธจฺเจน วิปสฺสนาวีถิโต อุคฺคมเนน วิรูปํ คหิตํ ปวตฺติยมานํ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสํ โหติ, อนิจฺจโต มนสิ กโรติ, โอภาโส อุปฺปชฺชติ, โอภาโส ธมฺโมติ โอภาสํ อาวชฺชติ, ตโต วิกฺเขโป อุทฺธจฺจํ, เตน อุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตมานโส อนิจฺจโต อุปฏฺานํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ทุกฺขโต…เป… อนตฺตโต อุปฏฺานํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตถา อนิจฺจโต มนสิกโรโต าณํ อุปฺปชฺชติ…เป… ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺานํ อุเปกฺขา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, นิกนฺติ ธมฺโมติ นิกนฺตึ อาวชฺชติ, ตโต วิกฺเขโป อุทฺธจฺจํ, เตน อุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตมานโส อนิจฺจโต อุปฏฺานํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ทุกฺขโต…เป… อนตฺตโต อุปฏฺานํ ยถาภูตํ นปฺปชานาตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๖). เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

ยุคนทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฏิปทาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.