📜

(๙) ๔. ธมฺมวคฺควณฺณนา

๘๘. จตุตฺถสฺส ปเม ผลสมาธีติ จตูสุปิ อริยผเลสุ สมาธิ. ตถา ผลปฺา เวทิตพฺพา.

๘๙. ทุติเย สมฺปยุตฺตธมฺเม ปริคฺคณฺหาตีติ ปคฺคาโห. น วิกฺขิปตีติ อวิกฺเขโป.

๙๐. ตติเย นมนฏฺเน นามํ. รุปฺปนฏฺเน รูปํ. สมฺมสนจารสฺส อธิปฺเปตตฺตา ‘‘จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา’’ตฺเวว วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ธมฺม-โกฏฺาสปริจฺเฉทาณํ นาม กถิต’’นฺติ.

๙๑. จตุตฺเถ วิชานนฏฺเน วิชฺชา. วิมุจฺจนฏฺเน วิมุตฺติ.

๙๒. ปฺจเม ภโว นาม สสฺสตํ สทา ภาวโต, สสฺสตวเสน อุปฺปชฺชนทิฏฺิ ภวทิฏฺิ. วิภโว นาม อุจฺเฉโท วินาสนฏฺเน, วิภววเสน อุปฺปชฺชนทิฏฺิ วิภวทิฏฺิ. อุตฺตานตฺถาเนว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.

๙๕. อฏฺเม ทุกฺขํ วโจ เอตสฺมึ วิปฺปฏิกูลคาหิมฺหิ วิปจฺจนีกสาเต อนาทเร ปุคฺคเลติ ทุพฺพโจ, ตสฺส กมฺมํ โทวจสฺสํ, ตสฺส ทุพฺพจสฺส ปุคฺคลสฺส อนาทริยวเสน ปวตฺตา เจตนา. ตสฺส ภาโว โทวจสฺสตา. ตสฺส ภาโวติ จ ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส โทวจสฺสสฺส อตฺถิภาโว, อตฺถโต โทวจสฺสเมว. วิตฺถารโต ปเนสา ‘‘ตตฺถ กตมา โทวจสฺสตา? สหธมฺมิเก วุจฺจมาเน โทวจสฺสาย’’นฺติ อภิธมฺเม อาคตา. สา อตฺถโต สงฺขารกฺขนฺโธ โหติ. จตุนฺนํ วา ขนฺธานํ เอเตนากาเรน ปวตฺตานํ เอตํ อธิวจนนฺติ วทนฺติ.

ปาปโยคโต ปาปา อสฺสทฺธาทโย ปุคฺคลา เอตสฺส มิตฺตาติ ปาปมิตฺโต, ตสฺส ภาโว ปาปมิตฺตตา. วิตฺถารโต ปเนสา ‘‘ตตฺถ กตมา ปาปมิตฺตตา? เย เต ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ทุสฺสีลา อปฺปสฺสุตา มจฺฉริโน ทุปฺปฺา. ยา เตสํ เสวนา นิเสวนา สํเสวนา ภชนา สมฺภชนา ภตฺติ สมฺภตฺติ ตํสมฺปวงฺกตา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๓) เอวํ อาคตา. สาปิ อตฺถโต โทวจสฺสตา วิย ทฏฺพฺพา. ยาย หิ เจตนาย ปุคฺคโล ปาปสมฺปวงฺโก นาม โหติ, สา เจตนา จตฺตาโรปิ วา อรูปิโน ขนฺธา ตทาการปฺปวตฺตา ปาปมิตฺตตา.

๙๖. นวเม สุขํ วโจ เอตสฺมึ ปทกฺขิณคาหิมฺหิ อนุโลมสาเต สาทเร ปุคฺคเลติ สุพฺพโจติอาทินา, กลฺยาณา สทฺธาทโย ปุคฺคลา เอตสฺส มิตฺตาติ กลฺยาณมิตฺโตติอาทินา วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๙๗. ทสเม ปถวีธาตุอาทโย สุขธาตุกามธาตุอาทโย จ เอตาสฺเวว อนฺโตคธาติ เอตาสุ โกสลฺเล ทสฺสิเต ตาสุปิ โกสลฺลํ ทสฺสิตเมว โหตีติ ‘‘อฏฺารส ธาตุโย’’ติ วุตฺตํ. ธาตูติ ชานนนฺติ อิมินา อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ สภาวปริจฺเฉทิกา สวนธารณสมฺมสนปฺปฏิเวธปฺา วุตฺตา. ตตฺถ ธาตูนํ สวนธารณปฺา สุตมยา, อิตรา ภาวนามยา. ตตฺถาปิ สมฺมสนปฺา โลกิยา . วิปสฺสนา หิ สา, อิตรา โลกุตฺตรา. ลกฺขณาทิวเสน อนิจฺจาทิวเสน จ มนสิกรณํ มนสิกาโร, ตตฺถ โกสลฺลํ มนสิการกุสลตา. อฏฺารสนฺนํเยว ธาตูนํ สมฺมสนปฺปฏิเวธปจฺจเวกฺขณปฺา มนสิการกุสลตา, สา อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน ติธา ภินฺนา. ตถา หิ สมฺมสนปฺา ตสฺสา อาทิ, ปฏิเวธปฺา มชฺเฌ, ปจฺจเวกฺขณปฺา ปริโยสานํ.

๙๘. เอกาทสเม อาปตฺติโยว อาปตฺติกฺขนฺธา. ตา ปน อนฺตราปตฺตีนํ อคฺคหเณน ปฺจ, ตาสํ คหเณน สตฺต โหนฺตีติ อาห ‘‘ปฺจนฺนฺจ สตฺตนฺนฺจ อาปตฺติกฺขนฺธาน’’นฺติ. ชานนนฺติ ‘‘อิมา อาปตฺติโย, เอตฺตกา อาปตฺติโย, เอวฺจ ตาสํ อาปชฺชนํ โหตี’’ติ ชานนํ. เอวํ ติปฺปกาเรน ชานนปฺา หิ อาปตฺติกุสลตา นาม. อาปตฺติโต วุฏฺาปนปฺปโยคตาย กมฺมภูตา วาจา กมฺมวาจา, ตถาภูตา อนุสฺสาวนวาจา. ‘‘อิมาย กมฺมวาจาย อิโต อาปตฺติโต วุฏฺานํ โหติ, โหนฺตฺจ ปเม, ตติเย วา อนุสฺสาวเน ยฺย-การํ ปตฺเต, ‘สํวริสฺสามี’ติ วา ปเท ปริโยสิเต โหตี’’ติ เอวํ ตํ ตํ อาปตฺตีหิ วุฏฺานปริจฺเฉทชานนปฺา อาปตฺติวุฏฺานกุสลตา. วุฏฺานนฺติ จ ยถาปนฺนาย อาปตฺติยา ยถา ตถา อนนฺตรายตาปาทนํ. เอวํ วุฏฺานคฺคหเณเนว เทสนายปิ สงฺคโห สิทฺโธ โหติ.

ธมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.