📜

๒. พลวคฺโค

๑. อนนุสฺสุตสุตฺตวณฺณนา

๑๑. ทุติยสฺส ปเม ปุพฺพาหํ, ภิกฺขเว, อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสูติ อหํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ จตูสุ สจฺจธมฺเมสุ. อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺโต ปฏิชานามีติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส กรเณน อภิชานิตฺวา โวสานปารมึ สพฺเพสํ กิจฺจานํ นิฏฺิตตฺตา กตกิจฺจภาวํ ปารํ ปตฺโต ปฏิชานามีติ มหาโพธิปลฺลงฺเก อตฺตโน อาคมนียคุณํ ทสฺเสติ. ตถาคตสฺสาติ อฏฺหิ การเณหิ ตถาคตสฺส. ตถาคตพลานีติ ยถา เตหิ คนฺตพฺพํ, ตเถว คตานิ ปวตฺตานิ าณพลานิ. อาสภํ านนฺติ เสฏฺฏฺานํ. สีหนาทนฺติ อภีตนาทํ. พฺรหฺมจกฺกนฺติ เสฏฺจกฺกํ. ปวตฺเตตีติ กเถติ.

๒. กูฏสุตฺตวณฺณนา

๑๒. ทุติเย เสขพลานีติ เสขานํ าณพลานิ. อคฺคนฺติ อุตฺตมํ. เสสพลานิ โคปานสิโย กูฏํ วิย สงฺคณฺหาตีติ สงฺคาหิกํ. ตาเนว พลานิ สํหตานิ กโรตีติ สงฺฆาตนิยํ.

๓. สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๓. ตติเย ตตฺถ มุฏฺสฺสจฺเจ น กมฺปตีติ สติพลํ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ.

๔. วิตฺถตสุตฺตวณฺณนา

๑๔. จตุตฺเถ สติเนปกฺเกนาติ เอตฺถ เนปกฺกํ วุจฺจติ ปฺา, สา สติยา อุปการกภาเวน คหิตา.

๕. ทฏฺพฺพสุตฺตวณฺณนา

๑๕. ปฺจเม สวิสยสฺมึเยว โลกิยโลกุตฺตรธมฺเม กเถตุํ กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สทฺธาพลํ ทฏฺพฺพนฺติอาทิมาห. ยถา หิ จตฺตาโร เสฏฺิปุตฺตา, ราชาติ ราชปฺจเมสุ สหาเยสุ ‘‘นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’’ติ วีถึ โอติณฺเณสุ เอกสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ. ทุติยตติยจตุตฺถสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ. อถ สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล กิฺจาปิ ราชา สพฺพตฺถ อิสฺสโร, อิมสฺมึ ปน กาเล อตฺตโน เคเหเยว ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ วิจาเรติ, เอวเมวํ สทฺธาปฺจเมสุ พเลสุ เตสุ สหาเยสุ เอกโต วีถึ โอตรนฺเตสุ วิย เอการมฺมเณ อุปฺปชฺชมาเนสุปิ ยถา ปมสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ โสตาปตฺติยงฺคานิ ปตฺวา อธิโมกฺขลกฺขณํ สทฺธาพลเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ทุติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สมฺมปฺปธานานิ ปตฺวา ปคฺคหลกฺขณํ วีริยพลเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ , เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ตติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สติปฏฺานานิ ปตฺวา อุปฏฺานลกฺขณํ สติพลเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา จตุตฺถสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ ฌานวิโมกฺเข ปตฺวา อวิกฺเขปลกฺขณํ สมาธิพลเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล ปน ยถา อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, ราชาว เคเห วิจาเรติ, เอวเมว อริยสจฺจานิ ปตฺวา ปชานนลกฺขณํ ปฺาพลเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺตีติ เอวมิธ ปฺจ พลานิ มิสฺสกานิ กถิตานิ. ฉฏฺํ อุตฺตานตฺถเมว. เอวํ ปุริมวคฺเค จ อิธ จ อฏฺสุ สุตฺเตสุ เสขพลาเนว กถิตานิ. กรณฺฑโกลวาสี มหาทตฺตตฺเถโร ปนาห – ‘‘เหฏฺา จตูสุ สุตฺเตสุ เสขพลานิ กถิตานิ, อุปริ จตูสุ อเสขพลานี’’ติ.

๗. ปมหิตสุตฺตวณฺณนา

๑๗. สตฺตเม สีลาทโย มิสฺสกาว กถิตา. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติเยว. วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปจฺจเวกฺขณาณํ, ตํ โลกิยเมว.

๘-๑๐. ทุติยหิตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๘-๒๐. อฏฺเม ทุสฺสีโล พหุสฺสุโต กถิโต, นวเม อปฺปสฺสุโต ทุสฺสีโล, ทสเม พหุสฺสุโต ขีณาสโวติ.

พลวคฺโค ทุติโย.