📜
(๒๐) ๕. พฺราหฺมณวคฺโค
๑. โสณสุตฺตวณฺณนา
๑๙๑. ปฺจมสฺส ปเม พฺราหฺมณธมฺมาติ พฺราหฺมณสภาวา. สุนเขสูติ กุกฺกุเรสุ. เนว กิณนฺติ น วิกฺกิณนฺตีติ น คณฺหนฺตา กิณนฺติ, น ททนฺตา วิกฺกิณนฺติ. สมฺปิเยเนว สํวาสํ สํพนฺธาย สมฺปวตฺเตนฺตีติ ปิโย ปิยํ อุปสงฺกมิตฺวา ปเวณิยา พนฺธนตฺถํ สํวาสํ ปวตฺตยนฺติ ¶ . อุทราวเทหกนฺติ อุทรํ อวทิหิตฺวา อุปจินิตฺวา ปูเรตฺวา. อวเสสํ อาทาย ปกฺกมนฺตีติ ยํ ภฺุชิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตํ ภณฺฑิกํ กตฺวา คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตํ.
๒. โทณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๑๙๒. ทุติเย ตฺวมฺปิ โนติ ตฺวมฺปิ นุ. ปวตฺตาโรติ ปวตฺตยิตาโร. เยสนฺติ เยสํ สนฺตกํ. มนฺตปทนฺติ ¶ เวทสงฺขาตํ มนฺตเมว. คีตนฺติ อฏฺกาทีหิ ทสหิ โปราณกพฺราหฺมเณหิ สรสมฺปตฺติวเสน สชฺฌายิตํ. ปวุตฺตนฺติ อฺเสํ วุตฺตํ, วาจิตนฺติ อตฺโถ. สมีหิตนฺติ สมุปพฺยูฬฺหํ ราสิกตํ, ปิณฺฑํ ¶ กตฺวา ปิตนฺติ อตฺโถ. ตทนุคายนฺตีติ เอตรหิ พฺราหฺมณา ตํ เตหิ ปุพฺเพหิ คีตํ อนุคายนฺติ อนุสชฺฌายนฺติ. ตทนุภาสนฺตีติ ตํ อนุภาสนฺติ. อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. ภาสิตมนุภาสนฺตีติ เตหิ ภาสิตํ อนุภาสนฺติ. สชฺฌายิตมนุสชฺฌายนฺตีติ เตหิ สชฺฌายิตํ อนุสชฺฌายนฺติ. วาจิตมนุวาเจนฺตีติ เตหิ อฺเสํ วาจิตํ อนุวาเจนฺติ. เสยฺยถิทนฺติ เต กตเมติ อตฺโถ. อฏฺโกติอาทีนิ เตสํ นามานิ. เต กิร ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกตฺวา ปรูปฆาตํ อกตฺวา กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ภควโต ปาวจเนน สห สํสนฺเทตฺวา มนฺเต คนฺเถสุํ. อปราปเร ปน พฺราหฺมณา ปาณาติปาตาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา ตโย เวเท ภินฺทิตฺวา พุทฺธวจเนน สทฺธึ วิรุทฺเธ อกํสุ. ตฺยาสฺสุ’เมติ เอตฺถ อสฺสูติ นิปาตมตฺตํ, เต พฺราหฺมณา อิเม ปฺจ พฺราหฺมเณ ปฺาเปนฺตีติ อตฺโถ.
มนฺเต อธียมาโนติ เวเท สชฺฌายนฺโต คณฺหนฺโต. อาจริยธนนฺติ อาจริยทกฺขิณํ อาจริยภาคํ. น อิสฺสตฺเถนาติ น โยธาชีวกมฺเมน อุปฺปาเทติ. น ราชโปริเสนาติ น ราชุปฏฺากภาเวน. เกวลํ ภิกฺขาจริยายาติ สุทฺธาย ภิกฺขาจริยาย เอว. กปาลํ ¶ อนติมฺมาโนติ ตํ ภิกฺขาภาชนํ อนติมฺมาโน. โส หิ ปุณฺณปตฺตํ อาทาย สีสํ นฺหาโต กุลทฺวาเรสุ ตฺวา ‘‘อหํ อฏฺจตฺตาลีส วสฺสานิ โกมารพฺรหฺมจริยํ จรึ, มนฺตาปิ เม คหิตา, อาจริยสฺส อาจริยธนํ ทสฺสามิ, ธนํ เม เทถา’’ติ ยาจติ. ตํ สุตฺวา มนุสฺสา ยถาสตฺติ ยถาพลํ อฏฺปิ โสฬสปิ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ เทนฺติ. เอวํ สกลคามํ จริตฺวา ลทฺธธนํ อาจริยสฺส นิยฺยาเทติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เอวํ โข โทณ พฺราหฺมโณ พฺรหฺมสโม โหตีติ เอวํ พฺรหฺมวิหาเรหิ สมนฺนาคตตฺตา พฺราหฺมโณ พฺรหฺมสโม นาม โหติ.
เนว ¶ กเยน น วิกฺกเยนาติ เนว อตฺตนา กยํ กตฺวา คณฺหาติ, น ปเรน วิกฺกยํ กตฺวา ทินฺนํ. อุทกูปสฺสฏฺนฺติ อุทเกน อุปสฺสฏฺํ ปริจฺจตฺตํ. โส หิ ยสฺมึ กุเล วยปฺปตฺตา ทาริกา อตฺถิ, คนฺตฺวา ตสฺส ทฺวาเร ติฏฺติ. ‘‘กสฺมา ิโตสี’’ติ วุตฺเต ‘‘อหํ อฏฺจตฺตาลีส วสฺสานิ โกมารพฺรหฺมจริยํ จรึ, ตํ สพฺพํ ตุมฺหากํ เทมิ, ตุมฺเห มยฺหํ ทาริกํ เทถา’’ติ วทติ. เต ทาริกํ อาเนตฺวา ตสฺส หตฺเถ อุทกํ ปาเตตฺวา เทนฺติ. โส ตํ อุทกูปสฺสฏฺํ ภริยํ คณฺหิตฺวา คจฺฉติ. อติมีฬฺหโชติ อติมีฬฺเห ¶ มหาคูถราสิมฺหิ ชาโต. ตสฺส สาติ ตสฺส เอสา. น ทวตฺถาติ น กีฬนตฺถา. น รตตฺถาติ น กามรติอตฺถา. เมถุนํ ¶ อุปฺปาเทตฺวาติ ธีตรํ วา ปุตฺตํ วา อุปฺปาเทตฺวา ‘‘อิทานิ ปเวณิ ฆฏียิสฺสตี’’ติ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชติ. สุคตึ สคฺคํ โลกนฺติ พฺรหฺมโลกเมว สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เทวสโม โหตีติ ทิพฺพวิหาเรหิ สมนฺนาคตตฺตา เทวสโม นาม โหติ.
ตเมว ปุตฺตสฺสาทํ นิกามยมาโนติ ยฺวาสฺส ธีตรํ วา ปุตฺตํ วา ชาตํ ทิสฺวา ปุตฺตเปมํ ปุตฺตสฺสาโท อุปฺปชฺชติ, ตํ ปตฺถยมาโน อิจฺฉมาโน. กุฏุมฺพํ อชฺฌาวสตีติ กุฏุมฺพํ สณฺเปตฺวา กุฏุมฺพมชฺเฌ วสติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๓. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา
๑๙๓. ตติเย ปเควาติ ปมฺเว. กามราคปริยุฏฺิเตนาติ กามราคคฺคหิเตน. กามราคปเรเตนาติ กามราคานุคเตน. นิสฺสรณนฺติ ติวิธํ กามราคสฺส นิสฺสรณํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, ตทงฺคนิสฺสรณํ, สมุจฺเฉทนิสฺสรณนฺติ. ตตฺถ อสุเภ ปมชฺฌานํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ นาม, วิปสฺสนา ตทงฺคนิสฺสรณํ นาม, อรหตฺตมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ นาม. ตํ ติวิธมฺปิ นปฺปชานาตีติ อตฺโถ. อตฺตตฺถมฺปีติอาทีสุ อรหตฺตสงฺขาโต อตฺตโน อตฺโถ อตฺตตฺโถ นาม, ปจฺจยทายกานํ อตฺโถ ปรตฺโถ นาม, สฺเวว ทุวิโธ อุภยตฺโถ นาม. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อยํ ปน วิเสโส – พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณนฺติอาทีสุ หิ ทฺเวว นิสฺสรณานิ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณฺจ สมุจฺเฉทนิสฺสรณฺจ. ตตฺถ พฺยาปาทสฺส ตาว เมตฺตาย ปมชฺฌานํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ นาม, อนาคามิมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ, ถินมิทฺธสฺส อาโลกสฺา วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ ¶ , อรหตฺตมคฺโค ¶ สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส โย โกจิ สมโถ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, อุทฺธจฺจสฺส ปเนตฺถ อรหตฺตมคฺโค, กุกฺกุจฺจสฺส อนาคามิมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ. วิจิกิจฺฉาย ธมฺมววตฺถานํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, ปมมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ.
ยา ปเนตฺถ เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, อุทปตฺโต สํสฏฺโ ลาขาย วาติอาทิกา อุปมา วุตฺตา, ตาสุ อุทปตฺโตติ อุทกภริตา ปาติ. สํสฏฺโติ ¶ วณฺณเภทกรณวเสน สํสฏฺโ. อุกฺกุธิโตติ กุธิโต. อุสฺสทกชาโตติ อุสุมกชาโต. เสวาลปณกปริโยนทฺโธติ ติลพีชกาทิเภเทน เสวาเลน วา นีลมณฺฑูกปิฏฺิวณฺเณน วา อุทกปิฏฺึ ฉาเทตฺวา นิพฺพตฺเตน ปณเกน ปริโยนทฺโธ. วาเตริโตติ วาเตน เอริโต กมฺปิโต. อาวิโลติ อปฺปสนฺโน. ลุฬิโตติ อสนฺนิสินฺโน. กลลีภูโตติ กทฺทมีภูโต. อนฺธกาเร นิกฺขิตฺโตติ โกฏฺกนฺตราทิเภเท อนาโลกฏฺาเน ปิโต. อิมสฺมึ สุตฺเต ภควา ตีหิ ภเวหิ เทสนํ นิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน นิฏฺเปสิ, พฺราหฺมโณ ปน สรณมตฺเต ปติฏฺิโตติ.
๔. การณปาลีสุตฺตวณฺณนา
๑๙๔. จตุตฺเถ การณปาลีติ ปาโลติ ตสฺส นามํ, ราชกุลานํ ปน กมฺมนฺเต กาเรตีติ การณปาลี นาม ชาโต. กมฺมนฺตํ ¶ กาเรตีติ ปาโตว อุฏฺาย ทฺวารฏฺฏาลกปากาเร อกเต กาเรติ, ชิณฺเณ ปฏิชคฺคาเปติ. ปิงฺคิยานึ พฺราหฺมณนฺติ เอวํนามกํ อนาคามิผเล ปติฏฺิตํ อริยสาวกํ พฺราหฺมณํ. โส กิร ปาโตว อุฏฺาย คนฺธมาลาทีนิ คาหาเปตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา นครํ อาคจฺฉติ, อิทํ พฺราหฺมณสฺส เทวสิกํ วตฺตนฺติ. ตํ โส เอวํ วตฺตํ กตฺวา อาคจฺฉนฺตํ อทฺทส. เอตทโวจาติ ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ปฺวา าณุตฺตโร, กหํ นุ โข ปาโตว คนฺตฺวา อาคจฺฉตี’’ติ จินฺเตตฺวา อนุกฺกเมน สนฺติกํ อาคตํ สฺชานิตฺวา ‘‘หนฺท กุโต นู’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
ตตฺถ ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺสาปิ ทิวา, มชฺฌนฺหิกกาเลติ อตฺโถ. ปณฺฑิโต มฺเติ ภวํ ปิงฺคิยานี สมณํ โคตมํ ปณฺฑิโตติ มฺติ, อุทาหุ โนติ อยเมตฺถ อตฺโถ. โก จาหํ, โภติ, โภ, สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยชานเน อหํ โก นาม? โก จ สมณสฺส ¶ โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ ชานิสฺสามีติ กุโต จาหํ สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ ชานิสฺสามิ, เกน นาม การเณน ชานิสฺสามีติ เอวํ สพฺพถาปิ อตฺตโน อชานนภาวํ ทีเปติ. โสปิ นูนสฺส ตาทิโสวาติ โย สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ ชาเนยฺย, โสปิ นูน ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต ตาทิโส ¶ พุทฺโธเยว ภเวยฺย. สิเนรุํ วา หิ ปถวึ วา อากาสํ วา ปเมตุกาเมน ตปฺปมาโณ ทณฺโฑ ¶ วา รชฺชุ วา ลทฺธุํ วฏฺฏติ, สมณสฺส โคตมสฺส ปฺํ ชานนฺเตนปิ ตสฺส าณสทิสเมว สพฺพฺุตฺาณํ ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. อาทรวเสน ปเนตฺถ อาเมฑิตํ กตํ. อุฬารายาติ อุตฺตมาย เสฏฺาย. โก จาหํ, โภติ, โภ, อหํ สมณสฺส โคตมสฺส ปสํสเน โก นาม. โก จ สมณํ โคตมํ ปสํสิสฺสามีติ เกน การเณน ปสํสิสฺสามิ.
ปสตฺถปฺปสตฺโถติ สพฺพคุณานํ อุปริ จเรหิ สพฺพโลกปสตฺเถหิ อตฺตโน คุเณเหว ปสตฺโถ, น ตสฺส อฺเหิ ปสํสนกิจฺจํ อตฺถิ. ยถา หิ จมฺปกปุปฺผํ วา นีลุปฺปลํ วา ปทุมํ วา โลหิตจนฺทนํ วา อตฺตโน วณฺณคนฺธสิริยาว ปาสาทิกฺเจว สุคนฺธฺจ, น ตสฺส อาคนฺตุเกหิ วณฺณคนฺเธหิ โถมนกิจฺจํ อตฺถิ. ยถา จ มณิรตนํ วา จนฺทมณฺฑลํ วา อตฺตโน อาโลเกเนว โอภาสติ, น ตสฺส อฺเน โอภาสนกิจฺจํ อตฺถิ, เอวํ สมโณ โคตโม สพฺพโลกปสตฺเถหิ อตฺตโน คุเณเหว ปสตฺโถ โถมิโต, สพฺพโลกสฺส เสฏฺตํ ปาปิโต. น ตสฺส อฺเน ปสํสนกิจฺจํ อตฺถิ.
ปสตฺเถหิ วา ปสตฺโถติปิ ปสตฺถปฺปสตฺโถ. เก ปน ปสตฺถา นาม? ราชา ปเสนทิ โกสโล กาสิโกสลวาสิเกหิ ปสตฺโถ, พิมฺพิสาโร องฺคมคธวาสีหิ, เวสาลิกา ลิจฺฉวี วชฺชิตฏฺวาสีหิ ปสตฺถา, ปาเวยฺยกา มลฺลา โกสินารกา มลฺลา อฺเปิ เต เต ขตฺติยา เตหิ เตหิ ชานปเทหิ ปสตฺถา, จงฺกิอาทโย พฺราหฺมณา พฺราหฺมณคเณหิ, อนาถปิณฺฑิกาทโย อุปาสกา อุปาสกคเณหิ, วิสาขาอาทิกา อุปาสิกา อเนกสตาหิ อุปาสิกาหิ, สกุลุทายิอาทโย ปริพฺพาชกา อเนเกหิ ปริพฺพาชกสเตหิ, อุปฺปลวณฺณตฺเถริอาทิกา มหาสาวิกา อเนเกหิ ภิกฺขุนิสเตหิ, สาริปุตฺตตฺเถราทโย มหาเถรา ¶ อเนกสเตหิ ภิกฺขูหิ, สกฺกาทโย เทวา อเนกสหสฺเสหิ เทเวหิ, มหาพฺรหฺมาทโย พฺรหฺมาโน อเนกสหสฺเสหิ พฺรหฺเมหิ ปสตฺถา. เต สพฺเพปิ ทสพลํ โถเมนฺติ วณฺเณนฺติ ปสํสนฺตีติ ภควา ‘‘ปสตฺถปฺปสตฺโถ’’ติ วุจฺจติ. อตฺถวสนฺติ อตฺถานิสํสํ.
อถสฺส ¶ ¶ โส อตฺตโน ปสาทการณํ อาจิกฺขนฺโต เสยฺยถาปิ, โภ, ปุริโสติอาทิมาห. ตตฺถ อคฺครสปริติตฺโตติ โภชนรเสสุ ปายาโส สฺเนหรเสสุ โคสปฺปิ, กสาวรเสสุ ขุทฺทกมธุ อเนฬกํ, มธุรรเสสุ สกฺกราติ เอวมาทโย อคฺครสา นาม. เตสุ เยน เกนจิ ปริติตฺโต อากณฺปฺปมาณํ ภฺุชิตฺวา ิโต. อฺเสํ หีนานนฺติ อคฺครเสหิ อฺเสํ หีนรสานํ. สุตฺตโสติ สุตฺตโต, สุตฺตภาเวนาติ อตฺโถ. เสสุปิ เอเสว นโย. ตโต ตโตติ สุตฺตาทีสุ ตโต ตโต. อฺเสํ ปุถุสมณพฺราหฺมณาปฺปวาทานนฺติ เย อฺเสํ ปุถูนํ สมณพฺราหฺมณานํ ลทฺธิสงฺขาตปฺปวาทา, เตสํ. น ปิเหตีติ น ปตฺเถติ, เต กถิยมาเน โสตุมฺปิ น อิจฺฉติ. ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปเรโตติ ชิฆจฺฉาย เจว ทุพฺพลภาเวน จ อนุคโต. มธุปิณฺฑิกนฺติ สาลิปิฏฺํ ภชฺชิตฺวา จตุมธุเรน โยเชตฺวา กตํ พทฺธสตฺตุปิณฺฑิกํ, มธุรปูวเมว วา. อธิคจฺเฉยฺยาติ ¶ ลเภยฺย. อเสจนกนฺติ มธุรภาวกรณตฺถาย อฺเน รเสน อนาสิตฺตกํ โอชวนฺตํ ปณีตรสํ.
หริจนฺทนสฺสาติ สุวณฺณวณฺณจนฺทนสฺส. โลหิตจนฺทนสฺสาติ รตฺตวณฺณจนฺทนสฺส. สุรภิคนฺธนฺติ สุคนฺธํ. ทรถาทโย วฏฺฏทรถา, วฏฺฏกิลมถา, วฏฺฏปริฬาหา เอว. อุทานํ อุทาเนสีติ อุทาหารํ อุทาหริ. ยถา หิ ยํ เตลํ มานํ คเหตุํ น สกฺโกติ, วิสฺสนฺทิตฺวา คจฺฉติ, ตํ อวเสโกติ วุจฺจติ. ยฺจ ชลํ ตฬากํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อชฺโฌตฺถริตฺวา คจฺฉติ, ตํ โอโฆติ วุจฺจติ. เอวเมวํ ยํ ปีติวจนํ หทยํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อธิกํ หุตฺวา อนฺโต อสณฺหิตฺวา พหิ นิกฺขมติ, ตํ อุทานนฺติ วุจฺจติ. เอวรูปํ ปีติมยวจนํ นิจฺฉาเรสีติ อตฺโถ.
๕. ปิงฺคิยานีสุตฺตวณฺณนา
๑๙๕. ปฺจเม นีลาติ อิทํ สพฺพสงฺคาหิกํ. นีลวณฺณาติอาทิ ตสฺเสว วิภาคทสฺสนํ. ตตฺถ น เตสํ ปกติวณฺโณ นีโล, นีลวิเลปนวิลิตฺตตฺตา ปเนตํ วุตฺตํ. นีลวตฺถาติ ปฏทุกูลโกเสยฺยาทีนิปิ เตสํ นีลาเนว โหนฺติ. นีลาลงฺการาติ นีลมณีหิ นีลปุปฺเผหิ อลงฺกตา, เตสํ หตฺถาลงฺการ-อสฺสาลงฺการ-รถาลงฺการ-สาณิวิตานกฺจุกาปิ สพฺเพ นีลาเยว โหนฺติ. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ปทุมํ ¶ ยถาติ ยถา สตปตฺตํ รตฺตปทุมํ. โกกนทนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ปาโตติ ปเคว สุริยุคฺคมนกาเล ¶ . สิยาติ ภเวยฺย. อวีตคนฺธนฺติ ¶ อวิคตคนฺธํ. องฺคีรสนฺติ ภควโต องฺคมงฺเคหิ รสฺมิโย นิจฺฉรนฺติ, ตสฺมา องฺคีรโสติ วุจฺจติ. ตปนฺตมาทิจฺจมิวนฺตลิกฺเขติ ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ อาโลกกรณวเสน อนฺตลิกฺเข ตปนฺตํ อาทิจฺจํ วิย วิโรจมานํ. องฺคีรสํ ปสฺสาติ อตฺตานเมว วา มหาชนํ วา สนฺธาย เอวํ วทติ.
๖. มหาสุปินสุตฺตวณฺณนา
๑๙๖. ฉฏฺเ มหาสุปินาติ มหนฺเตหิ ปุริเสหิ ปสฺสิตพฺพโต มหนฺตานฺจ อตฺถานํ นิมิตฺตภาวโต มหาสุปินา. ปาตุรเหสุนฺติ ปากฏา อเหสุํ. ตตฺถ สุปินํ ปสฺสนฺโต จตูหิ การเณหิ ปสฺสติ ธาตุกฺโขภโต วา อนุภูตปุพฺพโต วา เทวโตปสํหารโต วา ปุพฺพนิมิตฺตโต วาติ.
ตตฺถ ปิตฺตาทีนํ โขภกรณปจฺจยปฺปโยเคน ขุภิตธาตุโก ธาตุกฺโขภโต สุปินํ ปสฺสติ. ปสฺสนฺโต จ นานาวิธํ สุปินํ ปสฺสติ ปพฺพตา ปตนฺโต วิย, อากาเสน คจฺฉนฺโต วิย, วาฬมิคหตฺถิโจราทีหิ อนุพทฺโธ วิย จ. อนุภูตปุพฺพโต ปสฺสนฺโต ปุพฺเพ อนุภูตปุพฺพํ อารมฺมณํ ปสฺสติ. เทวโตปสํหารโต ปสฺสนฺตสฺส เทวตา อตฺถกามตาย วา อนตฺถกามตาย วา อตฺถาย วา อนตฺถาย วา นานาวิธานิ อารมฺมณานิ อุปสํหรนฺติ. โส ตาสํ เทวตานํ อานุภาเวน ตานิ อารมฺมณานิ ปสฺสติ. ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสนฺโต ปฺุาปฺุวเสน อุปฺปชฺชิตุกามสฺส อตฺถสฺส วา อนตฺถสฺส วา ปุพฺพนิมิตฺตภูตํ สุปินํ ปสฺสติ โพธิสตฺตมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตํ, โกสลราชา วิย โสฬส สุปิเน, อยเมว ภควา โพธิสตฺตภูโต อิเม ปฺจ มหาสุปิเน วิย จาติ.
ตตฺถ ยํ ธาตุกฺโขภโต อนุภูตปุพฺพโต จ สุปิเน ปสฺสติ, น ตํ สจฺจํ โหติ. ยํ เทวโตปสํหารโต ปสฺสติ, ตํ สจฺจํ วา โหติ อลิกํ วา. กุทฺธา หิ เทวตา อุปาเยน ¶ วินาเสตุกามา วิปรีตมฺปิ กตฺวา ทสฺเสนฺติ. ยํ ปน ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสติ, ตํ เอกนฺตํ สจฺจเมว ¶ โหติ. เอเตสํ จตุนฺนํ มูลการณานํ สํสคฺคเภทโตปิ สุปินเภโท โหติเยว.
ตํ ปเนตํ จตุพฺพิธมฺปิ สุปินํ เสขปุถุชฺชนาว ปสฺสนฺติ อปฺปหีนวิปลฺลาสตฺตา, อเสขา น ¶ ปสฺสนฺติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา. กึ ปเนตํ ปสฺสนฺโต สุตฺโต ปสฺสติ ปฏิพุทฺโธ, อุทาหุ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธติ? กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว สุตฺโต ปสฺสติ, อภิธมฺมวิโรโธ อาปชฺชติ. ภวงฺคจิตฺเตน หิ สุปติ, ตํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ ราคาทิสมฺปยุตฺตํ วา น โหติ. สุปินํ ปสฺสนฺตสฺส จ อีทิสานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อถ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, วินยวิโรโธ อาปชฺชติ. ยฺหิ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, ตํ สพฺโพหาริกจิตฺเตน ปสฺสติ. สพฺโพหาริกจิตฺเตน จ กเต วีติกฺกเม อนาปตฺติ นาม นตฺถิ. สุปินํ ปสฺสนฺเตน ปน กเตปิ วีติกฺกเม เอกนฺตํ อนาปตฺติ เอว. อถ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, น นาม ปสฺสติ. เอวฺจ สติ สุปินสฺส อภาโว จ อาปชฺชติ? น อภาโว. กสฺมา? ยสฺมา กปิมิทฺธปเรโต ปสฺสติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘กปิมิทฺธปเรโต โข, มหาราช, สุปินํ ปสฺสตี’’ติ.
กปิมิทฺธปเรโตติ มกฺกฏนิทฺทาย ยุตฺโต. ยถา หิ มกฺกฏสฺส นิทฺทา ลหุปริวตฺตา โหติ, เอวํ ยา นิทฺทา ปุนปฺปุนํ กุสลาทิจิตฺตโวกิณฺณตฺตา ลหุปริวตฺตา, ยสฺสา ปวตฺติยํ ปุนปฺปุนํ ภวงฺคโต อุตฺตรณํ โหติ, ตาย ยุตฺโต สุปินํ ปสฺสติ. เตนายํ สุปิโน กุสโลปิ โหติ อกุสโลปิ อพฺยากโตปิ. ตตฺถ สุปินนฺเต เจติยวนฺทนธมฺมสฺสวนธมฺมเทสนาทีนิ ¶ กโรนฺตสฺส กุสโล, ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส อกุสโล, ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณ อพฺยากโตติ เวทิตพฺโพ. สฺวายํ ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา เจตนาย ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ อสมตฺโถ. ปวตฺเต ปน อฺเหิ กุสลากุสเลหิ อุปตฺถมฺภิโต วิปากํ เทติ. กิฺจาปิ วิปากํ เทติ, อถ โข อวิสเย อุปฺปนฺนตฺตา อพฺโพหาริกาว สุปินนฺตเจตนา. โส ปเนส สุปิโน กาลวเสนปิ ทิวา ตาว ทิฏฺโ น สเมติ, ตถา ปมยาเม มชฺฌิมยาเม ปจฺฉิมยาเม จ. พลวปจฺจูเส ปน อสิตปีตขายิเต สมฺมา ปริณามํ คเต กายสฺมึ โอชาย ปติฏฺิตาย อรุเณ อุคฺคจฺฉมาเนว ทิฏฺโ ¶ สุปิโน สเมติ. อิฏฺนิมิตฺตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต อิฏฺํ ปฏิลภติ, อนิฏฺนิมิตฺตํ ปสฺสนฺโต อนิฏฺํ.
อิเม ปน ปฺจ มหาสุปิเน เนว โลกิยมหาชโน ปสฺสติ, น มหาราชาโน, น จกฺกวตฺติราชาโน, น อคฺคสาวกา, น ปจฺเจกพุทฺธา, น สมฺมาสมฺพุทฺธา, เอโก สพฺพฺุโพธิสตฺโตเยว ปสฺสติ. อมฺหากํ ปน โพธิสตฺโต กทา อิเม สุปิเน ปสฺสีติ? ‘‘สฺเว พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ จาตุทฺทสิยํ ปกฺขสฺส รตฺติวิภายนกาเล ปสฺสิ. เตรสิยนฺติปิ วทนฺติเยว. โส อิเม สุปิเน ทิสฺวา อุฏฺาย ปลฺลงฺกํ อาภฺุชิตฺวา นิสินฺโน จินฺเตสิ – ‘‘สเจ มยา ¶ กปิลวตฺถุนคเร อิเม สุปินา ทิฏฺา อสฺสุ, ปิตุ มหาราชสฺส กเถยฺยํ. สเจ ปน เม มาตา ชีเวยฺย, ตสฺสา กเถยฺยํ. อิมสฺมึ โข ปน าเน อิเมสํ ปฏิคฺคาหโก นาม นตฺถิ, อหเมว ปฏิคณฺหิสฺสามี’’ติ. ตโต ‘‘อิทํ อิมสฺส ¶ ปุพฺพนิมิตฺตํ อิทํ อิมสฺสา’’ติ สยเมว สุปิเน ปฏิคฺคณฺหิตฺวา อุรุเวลคาเม สุชาตาย ทินฺนํ ปายาสํ ปริภฺุชิตฺวา โพธิมณฺฑํ อารุยฺห โพธึ ปตฺวา อนุกฺกเมน เชตวเน วิหรนฺโต อตฺตโน มกุลพุทฺธกาเล ทิฏฺเ ปฺจ มหาสุปิเน วิตฺถาเรตุํ ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา อิมํ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ มหาปถวีติ จกฺกวาฬคพฺภํ ปูเรตฺวา ิตา มหาปถวี. มหาสยนํ อโหสีติ สิริสยนํ อโหสิ. โอหิโตติ ปิโต. โส ปน น อุทกสฺมึเยว ปิโต อโหสิ, อถ โข ปาจีนสมุทฺทสฺส อุปรูปริภาเคน คนฺตฺวา ปาจีนจกฺกวาฬมตฺถเก ปิโต อโหสีติ เวทิตพฺโพ. ปจฺฉิเม สมุทฺเท ทกฺขิเณ สมุทฺเทติ เอเตสุปิ เอเสว นโย. ติริยา นาม ติณชาตีติ ทพฺพติณํ วุจฺจติ. นาภิยา อุคฺคนฺตฺวา นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสีติ นงฺคลมตฺเตน รตฺตทณฺเฑน นาภิโต อุคฺคนฺตฺวา ปสฺสนฺตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว วิทตฺถิมตฺตํ รตนมตฺตํ พฺยามมตฺตํ ยฏฺิมตฺตํ คาวุตมตฺตํ อฑฺฒโยชนมตฺตํ โยชนมตฺตนฺติ เอวํ อุคฺคนฺตฺวา อุคฺคนฺตฺวา อเนกโยชนสหสฺสํ นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสิ. ปาเทหิ อุสฺสกฺกิตฺวาติ อคฺคนขโต ปฏฺาย ปาเทหิ อภิรุหิตฺวา. นานาวณฺณาติ เอโก นีลวณฺโณ, เอโก ปีตวณฺโณ, เอโก โลหิตวณฺโณ, เอโก ปณฺฑุปลาสวณฺโณติ เอวํ นานาวณฺณา. เสตาติ ปณฺฑรา ปริสุทฺธา. มหโต มีฬฺหปพฺพตสฺสาติ ติโยชนุพฺเพธสฺส คูถปพฺพตสฺส. อุปรูปริ ¶ จงฺกมตีติ มตฺถกมตฺถเก จงฺกมติ ¶ . ทีฆายุกพุทฺธา ปน ติโยชนิเก มีฬฺหปพฺพเต อนุปวิสิตฺวา นิสินฺนา วิย โหนฺติ.
เอวํ เอตฺตเกน าเนน ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สห ปุพฺพนิมิตฺเตหิ ปฏิลาภํ ทสฺเสตุํ ยมฺปิ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพคุณทายกตฺตา พุทฺธานํ อรหตฺตมคฺโค อนุตฺตรา สมฺมาสมฺโพธิ นาม. ตสฺมา ยํ โส จกฺกวาฬมหาปถวึ สิริสยนภูตํ อทฺทส, ตํ พุทฺธภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ หิมวนฺตปพฺพตราชานํ พิมฺโพหนํ อทฺทส, ตํ สพฺพฺุตฺาณพิมฺโพหนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ จตฺตาโร หตฺถปาเท จกฺกวาฬมตฺถเก ิเต อทฺทส, ตํ ธมฺมจกฺกสฺส อปฺปฏิวตฺติยภาเว ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ อตฺตานํ อุตฺตานกํ นิปนฺนํ อทฺทส, ตํ ตีสุ ภเวสุ อวกุชฺชานํ สตฺตานํ อุตฺตานมุขภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ปสฺสนฺโต ¶ วิย อโหสิ, ตํ ทิพฺพจกฺขุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ ยาว ภวคฺคา เอกาโลกํ อโหสิ, ตํ อนาวรณาณสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. เสสํ ปาฬิวเสเนว เวทิตพฺพนฺติ.
๗. วสฺสสุตฺตวณฺณนา
๑๙๗. สตฺตเม เนมิตฺตาติ นิมิตฺตปากา. เตโชธาตุ ปกุปฺปตีติ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ. ปาณินา อุทกํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวาติ อุปฺปนฺนํ อุตุสมุฏฺานํ อุทกํ ติโยชนสเตน หตฺเถน ปฏิคฺคเหตฺวา. ปมตฺตา โหนฺตีติ อตฺตโน กีฬาย ปมตฺตา โหนฺติ วิปฺปวุฏฺสติโน. เตสฺหิ สกาย รติยา ‘‘รมามา’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน อกาเลปิ ¶ เทโว วสฺสติ, ตทภาเว น วสฺสติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘น กาลวสฺส’’นฺติ. อฏฺมนวมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๑๐. นิสฺสารณียสุตฺตวณฺณนา
๒๐๐. ทสเม นิสฺสารณียาติ นิสฺสฏา วิสฺุตฺตา. ธาตุโยติ อตฺตสฺุสภาวา. กามํ มนสิกโรโตติ กามํ มนสิกโรนฺตสฺส, อสุภชฺฌานโต วุฏฺาย อคทํ คเหตฺวา วิสํ วีมํสนฺโต วิย วีมํสนตฺถํ กามาภิมุขํ จิตฺตํ เปเสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. น ปกฺขนฺทตีติ นปฺปวิสติ. นปฺปสีทตีติ ปสาทํ นาปชฺชติ. น สนฺติฏฺตีติ นปฺปติฏฺหติ. น วิมุจฺจตีติ น อธิมุจฺจติ. ยถา ปน กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปฏิลียติ ปติกุฏติ ปติวฏฺฏติ น สํปสารียติ, เอวํ ปฏิลียติ ¶ น สํปสารียติ. เนกฺขมฺมํ โข ปนาติ อิธ เนกฺขมฺมํ นาม อสุเภสุ ปมชฺฌานํ, ตทสฺส มนสิกโรโต จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ตสฺส ตํ จิตฺตนฺติ ตสฺส ตํ อสุภชฺฌานจิตฺตํ. สุคตนฺติ โคจเร คตตฺตา สุฏฺุ คตํ. สุภาวิตนฺติ อหานภาคิยตฺตา สุฏฺุ ภาวิตํ. สุวุฏฺิตนฺติ กามโต วุฏฺิตํ. สุวิมุตฺตนฺติ กาเมหิ สุฏฺุ วิมุตฺตํ. กามปจฺจยา อาสวา นาม กามเหตุกา จตฺตาโร อาสวา. วิฆาตาติ ทุกฺขา. ปริฬาหาติ ¶ กามราคปริฬาหา. น โส ตํ เวทนํ เวทิยตีติ โส ตํ กามเวทนํ วิฆาตปริฬาหเวทนฺจ น เวทิยติ. อิทมกฺขาตํ กามานํ นิสฺสรณนฺติ อิทํ อสุภชฺฌานํ กาเมหิ นิสฺสฏตฺตา กามานํ นิสฺสรณนฺติ อกฺขาตํ. โย ปน ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต ตติยมคฺคํ ปตฺวา อนาคามิผเลน นิพฺพานํ ทิสฺวา ‘‘ปุน กามา นาม นตฺถี’’ติ ชานาติ. ตสฺส จิตฺตํ อจฺจนฺตนิสฺสรณเมว. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
อยํ ¶ ปน วิเสโส – ทุติยวาเร เมตฺตาฌานานิ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ นาม. ตติยวาเร กรุณาฌานานิ วิหึสาย นิสฺสรณํ นาม. จตุตฺถวาเร อรูปชฺฌานานิ รูปานํ นิสฺสรณํ นาม. อจฺจนฺตนิสฺสรณฺเจตฺถ อรหตฺตผลํ โยเชตพฺพํ. ปฺจมวาเร สกฺกายํ มนสิกโรโตติ สุทฺธสงฺขาเร ปริคฺคณฺหิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส สุกฺขวิปสฺสกสฺส ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาย วีมํสนตฺถํ ปฺจุปาทานกฺขนฺธาภิมุขํ จิตฺตํ เปเสนฺตสฺส. อิทมกฺขาตํ สกฺกายสฺส นิสฺสรณนฺติ อิทํ อรหตฺตมคฺเคน จ ผเลน จ นิพฺพานํ ทิสฺวา ิตสฺส ภิกฺขุโน ‘‘ปุน สกฺกาโย นตฺถี’’ติ อุปฺปนฺนํ อรหตฺตผลสมาปตฺติจิตฺตํ สกฺกายสฺส นิสฺสรณนฺติ อกฺขาตํ. อิทานิ เอวํ สกฺกายนิสฺสรณํ นิโรธํ ปตฺวา ิตสฺส ขีณาสวสฺส วณฺณํ กเถนฺโต ตสฺส กามนนฺทีปิ นานุเสตีติอาทิมาห. ตตฺถ นานุเสตีติ น นิพฺพตฺตติ. อนนุสยาติ อนิพฺพตฺติยา. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
พฺราหฺมณวคฺโค ปฺจโม.
จตุตฺถปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๕. ปฺจมปณฺณาสกํ