📜

๒. อนุสยวคฺโค

๓. กุลสุตฺตวณฺณนา

๑๓. ทุติยสฺส ตติเย นาลนฺติ น ยุตฺตํ นานุจฺฉวิกํ. น มนาเปนาติ น มนมฺหิ อปฺปนเกน อากาเรน นิสินฺนาสนโต ปจฺจุฏฺเนฺติ, อนาทรเมว ทสฺเสนฺติ. สนฺตมสฺส ปริคุหนฺตีติ วิชฺชมานมฺปิ เทยฺยธมฺมํ เอตสฺส นิคุหนฺติ ปฏิจฺฉาเทนฺติ. อสกฺกจฺจํ เทนฺติ โน สกฺกจฺจนฺติ ลูขํ วา โหตุ ปณีตํ วา, อสหตฺถา อจิตฺตีกาเรน เทนฺติ, โน จิตฺตีกาเรน.

๔. ปุคฺคลสุตฺตวณฺณนา

๑๔. จตุตฺเถ อุภโตภาควิมุตฺโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺโต, อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต วิมุตฺโต, มคฺเคน นามกายโต. โส จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ เอเกกโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตานํ จตุนฺนํ, นิโรธา วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตอนาคามิโน จ วเสน ปฺจวิโธ โหติ. ปาฬิ ปเนตฺถ ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตี’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘) เอวํ อฏฺวิโมกฺขลาภิโน วเสน อาคตา.

ปฺาย วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโต. โส สุกฺขวิปสฺสโก, จตูหิ ฌาเนหิ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตา จตฺตาโร จาติ อิเมสํ วเสน ปฺจวิโธ โหติ. ปาฬิ ปเนตฺถ อฏฺวิโมกฺขปฏิกฺเขปวเสเนว อาคตา. ยถาห – ‘‘น เหว โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปฺาวิมุตฺโต’’ติ.

ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโตติ กายสกฺขี. โส ฌานผสฺสํ ปมํ ผุสติ, ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. โส โสตาปตฺติผลฏฺํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคฏฺา ฉพฺพิโธ โหติ. เตนาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล กายสกฺขี’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘).

ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. ตตฺริทํ สงฺเขปลกฺขณํ – ทุกฺขา สงฺขารา, สุโข นิโรโธติ าตํ โหติ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผุสิตํ ปฺายาติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. วิตฺถารโต ปน โสปิ กายสกฺขี วิย ฉพฺพิโธ โหติ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา ปฺาย…เป… อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต’’ติ.

สทฺธาย วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. โสปิ วุตฺตนเยเนว ฉพฺพิโธ โหติ. เตนาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา ปฺาย…เป… โน จ โข ยถาทิฏฺิปฺปตฺตสฺส. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต’’ติ. เอตสฺส หิ สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ สทฺทหนฺตสฺส วิย โอกปฺเปนฺตสฺส วิย อธิมุจฺจนฺตสฺส วิย จ กิเลสกฺขโย โหติ, ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกาณํ อทนฺธํ ติขิณํ สูรํ หุตฺวา วหติ. ตสฺมา ยถา นาม นาติติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ น โหติ, อสิ สีฆํ น วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลวตโร วายาโม กาตพฺโพ โหติ, เอวรูปา สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา. ยถา ปน สุนิสิเตน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อสิ สีฆํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ น โหติ, เอวรูปา ปฺาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา เวทิตพฺพา.

ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. ธมฺโมติ ปฺา, ปฺาปุพฺพงฺคมํ มคฺคํ ภาเวตีติ อตฺโถ. สทฺธานุสาริมฺหิปิ เอเสว นโย. อุโภเปเต โสตาปตฺติมคฺคฏฺาเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ปฺาวาหึ ปฺาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี. ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, สทฺธาวาหึ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘). อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนสา อุภโตภาควิมุตฺตาทิกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๗๗๑, ๘๘๙) ปฺาภาวนาธิกาเร วุตฺตา. ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ.

๕. อุทกูปมาสุตฺตวณฺณนา

๑๕. ปฺจเม อุทกูปมาติ นิมุชฺชนาทิอาการํ คเหตฺวา อุทเกน อุปมิตา. สกึ นิมุคฺโคติ เอกวารเมว นิมุคฺโค. เอกนฺตกาฬเกหีติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺึ สนฺธาย วุตฺตํ. อุมฺมุชฺชตีติ อุฏฺหติ. สาธูติ โสภนา ภทฺทกา. หายติเยวาติ จงฺกวาเร อาสิตฺตอุทกํ วิย ปริหายเตว . อุมฺมุชฺชิตฺวา วิปสฺสติ วิโลเกตีติ อุฏฺหิตฺวา คนฺตพฺพทิสํ วิปสฺสติ วิโลเกติ. ปตรตีติ คนฺตพฺพทิสาภิมุโข ตรติ นาม. ปฏิคาธปฺปตฺโต โหตีติ อุฏฺาย วิโลเกตฺวา ปตริตฺวา เอกสฺมึ าเน ปติฏฺาปตฺโต นาม โหติ, ติฏฺติ น ปุนาคจฺฉติ. ติณฺโณปารงฺคโต ถเล ติฏฺตีติ สพฺพกิเลโสฆํ ตริตฺวา ปรตีรํ คนฺตฺวา นิพฺพานถเล ปติฏฺิโต นาม โหติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.

๖. อนิจฺจานุปสฺสีสุตฺตวณฺณนา

๑๖. ฉฏฺเ อนิจฺจาติ เอวํ ปฺาย ผรนฺโต อนุปสฺสตีติ อนิจฺจานุปสฺสี. อนิจฺจาติ เอวํ สฺา อสฺสาติ อนิจฺจสฺี. อนิจฺจาติ เอวํ าเณน ปฏิสํเวทิตา อสฺสาติ อนิจฺจปฏิสํเวที. สตตนฺติ สพฺพกาลํ. สมิตนฺติ ยถา ปุริมจิตฺเตน ปจฺฉิมจิตฺตํ สมิตํ สมุปคตํ ฆฏฺฏิตํ โหติ, เอวํ. อพฺโพกิณฺณนฺติ นิรนฺตรํ อฺเน เจตสา อสํมิสฺสํ. เจตสา อธิมุจฺจมาโนติ จิตฺเตน สนฺนิฏฺาปยมาโน. ปฺาย ปริโยคาหมาโนติ วิปสฺสนาาเณน อนุปวิสมาโน.

อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา เอกกฺขเณเยว. อิธ สมสีสี กถิโต. โส จตุพฺพิโธ โหติ โรคสมสีสี, เวทนาสมสีสี, อิริยาปถสมสีสี, ชีวิตสมสีสีติ. ตตฺถ ยสฺส อฺตเรน โรเคน ผุฏฺสฺส สโต โรควูปสโม จ อาสวกฺขโย จ เอกปฺปหาเรเนว โหติ, อยํ โรคสมสีสี นาม. ยสฺส ปน อฺตรํ เวทนํ เวทยโต เวทนาวูปสโม จ อาสวกฺขโย จ เอกปฺปหาเรเนว โหติ, อยํ เวทนาสมสีสี นาม. ยสฺส ปน านาทีสุ อิริยาปเถสุ อฺตรสมงฺคิโน วิปสฺสนฺตสฺส อิริยาปถสฺส ปริโยสานฺจ อาสวกฺขโย จ เอกปฺปหาเรเนว โหติ, อยํ อิริยาปถสมสีสี นาม. ยสฺส ปน อุปกฺกมโต วา สรสโต วา ชีวิตปริยาทานฺจ อาสวกฺขโย จ เอกปฺปหาเรเนว โหติ, อยํ ชีวิตสมสีสี นาม. อยมิธ อธิปฺเปโต. ตตฺถ กิฺจาปิ อาสวปริยาทานํ มคฺคจิตฺเตน, ชีวิตปริยาทานํ จุติจิตฺเตน โหตีติ อุภินฺนํ เอกกฺขเณ สมฺภโว นาม นตฺถิ. ยสฺมา ปนสฺส อาสเวสุ ขีณมตฺเตสุ ปจฺจเวกฺขณวารานนฺตรเมว ชีวิตปริยาทานํ คจฺฉติ, อนฺตรํ น ปฺายติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ.

อนฺตราปรินิพฺพายีติ โย ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ ยตฺถ กตฺถจิ อุปฺปนฺโน นิพฺพตฺตกฺขเณ วา โถกํ อติกฺกมิตฺวา วา เวมชฺเฌ ตฺวา วา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตสฺเสตํ นามํ. อุปหจฺจปรินิพฺพายีติ โย ตตฺเถว อายุเวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อสงฺขารปรินิพฺพายีติ โย เตสํเยว ปุคฺคลานํ อสงฺขาเรเนว อปฺปโยเคน กิเลเส เขเปติ. สสงฺขารปรินิพฺพายีติ โย สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิเลเส เขเปติ. อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ โย เหฏฺา จตูสุ สุทฺธาวาเสสุ ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุโต อนุปุพฺเพน อกนิฏฺเ อุปฺปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ.

๗-๙. ทุกฺขานุปสฺสีสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗-๑๙. สตฺตเม ทุกฺขานุปสฺสีติ ปีฬนาการํ ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต. อฏฺเม อนตฺตานุปสฺสีติ อวสวตฺตนาการํ อนตฺตาติ อนุปสฺสนฺโต. นวเม สุขานุปสฺสีติ สุขนฺติ เอวํ าเณน อนุปสฺสนฺโต.

๑๐. นิทฺทสวตฺถุสุตฺตวณฺณนา

๒๐. ทสเม นิทฺทสวตฺถูนีติ นิทฺทสาทิวตฺถูนิ, ‘‘นิทฺทโส ภิกฺขุ, นิพฺพีโส, นิตฺตึโส, นิจฺจตฺตาลีโส, นิปฺปฺาโส’’ติ เอวํ วจนการณานิ. อยํ กิร ปฺโห ติตฺถิยสมเย อุปฺปนฺโน. ติตฺถิยา หิ ทสวสฺสกาเล มตํ นิคณฺํ นิทฺทโสติ วทนฺติ. โส กิร ปุน ทสวสฺโส น โหติ. น เกวลฺจ ทสวสฺโส, นววสฺโสปิ เอกวสฺโสปิ น โหติ. เอเตเนว นเยน วีสติวสฺสาทิกาเลปิ มตํ นิคณฺํ ‘‘นิพฺพีโส นิตฺตึโส นิจฺจตฺตาลีโส นิปฺปฺาโส’’ติ วทนฺติ. อายสฺมา อานนฺโท คาเม วิจรนฺโต ตํ กถํ สุตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภควโต อาโรเจสิ. ภควา อาห – ‘‘น อิทํ, อานนฺท, ติตฺถิยานํ อธิวจนํ, มม สาสเน ขีณาสวสฺเสตํ อธิวจนํ. ขีณาสโว หิ ทสวสฺสกาเล ปรินิพฺพุโต ปุน ทสวสฺโส น โหติ. น เกวลฺจ ทสวสฺโสว, นววสฺโสปิ…เป… เอกวสฺโสปิ. น เกวลฺจ เอกวสฺโสว, เอกาทสมาสิโกปิ…เป… เอกมาสิโกปิ เอกมุหุตฺติโกปิ น โหติเยว’’. กสฺมา? ปุน ปฏิสนฺธิยา อภาวา. นิพฺพีสาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ ภควา ‘‘มม สาสเน ขีณาสวสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ วตฺวา เยหิ การเณหิ นิทฺทโส โหติ, ตานิ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหตีติ สิกฺขาตฺตยปูรเณ พลวจฺฉนฺโท โหติ. อายติฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโมติ อนาคเต ปุนทิวสาทีสุปิ สิกฺขาปูรเณ อวิคตเปเมเนว สมนฺนาคโต โหติ. ธมฺมนิสนฺติยาติ ธมฺมนิสามนาย. วิปสฺสนาเยตํ อธิวจนํ. อิจฺฉาวินเยติ ตณฺหาวินเย. ปฏิสลฺลาเนติ เอกีภาเว. วีริยารมฺเภติ กายิกเจตสิกสฺส วีริยสฺส ปูรเณ. สติเนปกฺเกติ สติยฺเจว นิปกภาเว. ทิฏฺิปฏิเวเธติ มคฺคทสฺสเน. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อนุสยวคฺโค ทุติโย.