📜

๕. มหายฺวคฺโค

๑-๒. สตฺตวิฺาณฏฺิติสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๔-๔๕. ปฺจมสฺส ปเม วิฺาณฏฺิติโยติ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส านานิ. เสยฺยถาปีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต, ยถา มนุสฺสาติ อตฺโถ. อปริมาเณสุ หิ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ มนุสฺสานํ วณฺณสณฺานาทิวเสน ทฺเวปิ เอกสทิสา นตฺถิ. เยปิ หิ กตฺถจิ ยมกภาตโร วณฺเณน วา สณฺาเนน วา สทิสา โหนฺติ, เตสมฺปิ อาโลกิตวิโลกิตกถิตหสิตคมนฏฺานาทีหิ วิเสโส โหติเยว. ตสฺมา นานตฺตกายาติ วุตฺตา. ปฏิสนฺธิสฺา ปน เนสํ ติเหตุกาปิ ทฺวิเหตุกาปิ อเหตุกาปิ โหติ. ตสฺมา นานตฺตสฺิโนติ วุตฺตา. เอกจฺเจ จ เทวาติ ฉ กามาวจรเทวา. เตสุ หิ เกสฺจิ กาโย นีโล โหติ, เกสฺจิ ปีตกาทิวณฺโณ. สฺา ปน เตสํ ทฺวิเหตุกาปิ ติเหตุกาปิ โหติ, อเหตุกา นตฺถิ. เอกจฺเจจ วินิปาติกาติ จตุอปายวินิมุตฺตา อุตฺตรมาตา ยกฺขินี, ปิยงฺกรมาตา, ผุสฺสมิตฺตา, ธมฺมคุตฺตาติ เอวมาทิกา อฺเ จ เวมานิกา เปตา. เอเตสฺหิ ปีตโอทาตกาฬมงฺคุรจฺฉวิสามวณฺณาทิวเสน เจว กิส ถูลรสฺสทีฆวเสน จ กาโย นานา โหติ, มนุสฺสานํ วิย ทฺวิเหตุกติเหตุกอเหตุกวเสน สฺาปิ. เต ปน เทวา วิย น มเหสกฺขา, กปณมนุสฺสา วิย อปฺเปสกฺขา ทุลฺลภฆาสจฺฉาทนา ทุกฺขปีฬิตา วิหรนฺติ. เอกจฺเจ กาฬปกฺเข ทุกฺขิตา ชุณฺหปกฺเข สุขิตา โหนฺติ. ตสฺมา สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา วินิปาติกาติ วุตฺตา. เย ปเนตฺถ ติเหตุกา, เตสํ ธมฺมาภิสมโยปิ โหติ ปิยงฺกรมาตาทีนํ วิย.

พฺรหฺมกายิกาติ พฺรหฺมปาริสชฺชพฺรหฺมปุโรหิตมหาพฺรหฺมาโน. ปมาภินิพฺพตฺตาติ เต สพฺเพปิ ปมชฺฌาเนน อภินิพฺพตฺตา. พฺรหฺมปาริสชฺชา ปน ปริตฺเตน อภินิพฺพตฺตา, เตสํ กปฺปสฺส ตติโย ภาโค อายุปฺปมาณํ. พฺรหฺมปุโรหิตา มชฺฌิเมน, เตสํ อุปฑฺฒกปฺโป อายุปฺปมาณํ, กาโย จ เตสํ วิปฺผาริกตโร โหติ. มหาพฺรหฺมาโน ปณีเตน, เตสํ กปฺโป อายุปฺปมาณํ, กาโย จ ปน เตสํ อติวิปฺผาริโกว โหติ. อิติ เต กายสฺส นานตฺตา ปมชฺฌานวเสน สฺาย เอกตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโนติ เวทิตพฺพา.

ยถา จ เต, เอวํ จตูสุ อปาเยสุ สตฺตา. นิรเยสุ หิ เกสฺจิ คาวุตํ, เกสฺจิ อฑฺฒโยชนํ, เกสฺจิ โยชนํ อตฺตภาโว โหติ, เทวทตฺตสฺส ปน โยชนสติโก ชาโต. ติรจฺฉาเนสุปิ เกจิ ขุทฺทกา, เกจิ มหนฺตา. เปตฺติวิสเยสุปิ เกจิ สฏฺิหตฺถา, เกจิ อสีติหตฺถา โหนฺติ, เกจิ สุวณฺณา, เกจิ ทุพฺพณฺณา. ตถา กาลกฺจิกา อสุรา. อปิเจตฺถ ทีฆปิฏฺิกเปตา นาม สฏฺิโยชนิกาปิ โหนฺติ. สฺา ปน สพฺเพสมฺปิ อกุสลวิปากาเหตุกาว โหติ. อิติ อาปายิกาปิ นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโนตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ.

อาภสฺสราติ ทณฺฑอุกฺกาย อจฺจิ วิย เอเตสํ สรีรโต อาภา ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปตนฺตี วิย สรติ วิสฺสรตีติ อาภสฺสรา. เตสุ ปฺจกนเย ทุติยตติยชฺฌานทฺวยํ ปริตฺตํ ภาเวตฺวา อุปปนฺนา ปริตฺตาภา นาม โหนฺติ, เตสํ ทฺเว กปฺปา อายุปฺปมาณํ. มชฺฌิมํ ภาเวตฺวา อุปปนฺนา อปฺปมาณาภา นาม โหนฺติ, เตสํ จตฺตาโร กปฺปา อายุปฺปมาณํ. ปณีตํ ภาเวตฺวา อุปปนฺนา อาภสฺสรา นาม โหนฺติ, เตสํ อฏฺ กปฺปา อายุปฺปมาณํ. อิธ ปน อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน สพฺเพว เต คหิตา. สพฺเพสฺหิ เตสํ กาโย เอกวิปฺผาโรว โหติ, สฺา ปน อวิตกฺกวิจารมตฺตา วา อวิตกฺกอวิจารา วาติ นานา.

สุภกิณฺหาติ สุเภน โวกิณฺณา วิกิณฺณา, สุเภน สรีรปฺปภาวณฺเณน เอกคฺฆนาติ อตฺโถ. เอเตสฺหิ น อาภสฺสรานํ วิย ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปภา คจฺฉติ. ปฺจกนเย ปน ปริตฺตมชฺฌิมปณีตสฺส จตุตฺถชฺฌานสฺส วเสน โสฬสพาตฺตึสจตุสฺสฏฺิกปฺปายุกา ปริตฺตอปฺปมาณสุภกิณฺหา นาม หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ. อิติ สพฺเพปิ เต เอกตฺตกายา เจว จตุตฺถชฺฌานสฺาย เอกตฺตสฺิโน จาติ เวทิตพฺพา. เวหปฺผลาปิ จตุตฺถวิฺาณฏฺิติเมว ภชนฺติ. อสฺสตฺตา วิฺาณาภาวา เอตฺถ สงฺคหํ น คจฺฉนฺติ, สตฺตาวาเสสุ คจฺฉนฺติ.

สุทฺธาวาสา วิวฏฺฏปกฺเข ิตา น สพฺพกาลิกา, กปฺปสตสหสฺสมฺปิ อสงฺเขยฺยมฺปิ พุทฺธสุฺเ โลเก น อุปฺปชฺชนฺติ. โสฬสกปฺปสหสฺสอพฺภนฺตเร พุทฺเธสุ อุปฺปนฺเนสุเยว อุปฺปชฺชนฺติ. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺติสฺส ภควโต ขนฺธาวารฏฺานสทิสา โหนฺติ. ตสฺมา เนว วิฺาณฏฺิตึ น สตฺตาวาสํ ภชนฺติ. มหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘น โข ปน โส, สาริปุตฺต, อาวาโส สุลภรูโป, โย มยา อนาวุตฺถปุพฺโพ อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา อฺตฺร สุทฺธาวาเสหิ เทเวหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๐) อิมินา สุตฺเตน สุทฺธาวาสาปิ จตุตฺถวิฺาณฏฺิตึ จตุตฺถสตฺตาวาสฺจ ภชนฺตีติ วทติ, ตํ อปฺปติพาหิยตฺตา สุตฺตสฺส อนุฺาตํ.

เนวสฺานาสฺายตนํ ยเถว สฺาย, เอวํ วิฺาณสฺสาปิ สุขุมตฺตา เนว วิฺาณํ นาวิฺาณํ. ตสฺมา วิฺาณฏฺิตีสุ น วุตฺตํ. ทุติเย สมาธิปริกฺขาราติ มคฺคสมาธิสฺส สมฺภารา.

๓. ปมอคฺคิสุตฺตวณฺณนา

๔๖. ตติเย สพฺเพปิ ราคาทโย อนุฑหนฏฺเน อคฺคี. อาหุเนยฺยคฺคีติอาทีสุ ปเนตฺถ อาหุนํ วุจฺจติ สกฺกาโร, อาหุนํ อรหนฺตีติ อาหุเนยฺยา. มาตาปิตโร หิ ปุตฺตานํ พหุปการตฺตา อาหุนํ อรหนฺติ, เตสุ วิปฺปฏิปชฺชมานา ปุตฺตา นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตนฺติ. ตสฺมา กิฺจาปิ มาตาปิตโร น อนุฑหนฺติ, อนุฑหนสฺส ปน ปจฺจยา โหนฺติ. อิติ อนุฑหนฏฺเเนว อาหุเนยฺยคฺคีติ วุจฺจนฺติ. คหปตีติ ปน เคหสามิโก วุจฺจติ, โส มาตุคามสฺส สยนวตฺถาลงฺการาทิอนุปฺปทาเนน พหุปกาโร. ตํ อติจรนฺโต มาตุคาโม นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตติ. ตสฺมา โสปิ ปุริมนเยเนว อนุฑหนฏฺเน คหปตคฺคีติ วุตฺโต. ทกฺขิเณยฺยคฺคีติ เอตฺถ ปน ทกฺขิณาติ จตฺตาโร ปจฺจยา, ภิกฺขุสงฺโฆ ทกฺขิเณยฺโย. โส หิ คิหีนํ ตีสุ สรเณสุ ปฺจสุ สีเลสุ ทสสุ สีเลสุ มาตาปิตุปฏฺาเน ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณุปฏฺาเนติ เอวมาทีสุ กลฺยาณธมฺเมสุ นิโยชเนน พหุปกาโร. ตสฺมึ มิจฺฉาปฏิปนฺนา คิหี ภิกฺขุสงฺฆํ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตนฺติ. ตสฺมา โสปิ ปุริมนเยเนว อนุฑหนฏฺเน ทกฺขิเณยฺยคฺคีติ วุตฺโต. กฏฺโต นิพฺพตฺโต ปากติโกว อคฺคิ กฏฺคฺคิ นาม.

๔. ทุติยอคฺคิสุตฺตวณฺณนา

๔๗. จตุตฺเถ อุคฺคตสรีรสฺสาติ โส กิร พฺราหฺมณมหาสาโล อตฺตภาเวนปิ โภเคหิปิ อุคฺคโต สารปฺปตฺโต อโหสิ, ตสฺมา อุคฺคตสรีโรตฺเวว ปฺายิตฺถ. อุปกฺขโฏติ ปจฺจุปฏฺิโต. ถูณูปนีตานีติ ยูปสงฺขาตํ ถูณํ อุปนีตานิ. ยฺตฺถายาติ วธิตฺวา ยชนตฺถาย. อุปสงฺกมีติ โส กิร สพฺพํ ตํ ยฺสมฺภารํ สชฺเชตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ กิร โคตโม มหาปฺโ, กึ นุ โข เม ยฺสฺส วณฺณํ กเถสฺสติ อุทาหุ อวณฺณํ, ปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ อิมินา การเณน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อคฺคิสฺสอาทานนฺติ ยฺยชนตฺถาย นวสฺส มงฺคลคฺคิโน อาทิยนํ. สพฺเพน สพฺพนฺติ สพฺเพน สุเตน สพฺพํ สุตํ สเมติ สํสนฺทติ, เอกสทิสํ โหตีติ ทสฺเสติ. สตฺถานีติ วิหึสนฏฺเน สตฺถานิ วิยาติ สตฺถานิ. สยํ ปมํ สมารมฺภตีติ อตฺตนาว ปมตรํ อารภติ. หนฺตุนฺติ หนิตุํ.

ปหาตพฺพาติ ปริหริตพฺพา. อโตหยนฺติ อโต หิ มาตาปิติโต อยํ. อาหุโตติ อาคโต. สมฺภูโตติ อุปฺปนฺโน. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, คหปตคฺคีติ อยํ ปุตฺตทาราทิคโณ ยสฺมา, คหปติ, วิย เคหสามิโก วิย หุตฺวา อคฺคติ วิจรติ, ตสฺมา คหปตคฺคีติ วุจฺจติ. อตฺตานนฺติ จิตฺตํ. ทเมนฺตีติ อินฺทฺริยทมเนน ทเมนฺติ. สเมนฺตีติ ราคาทิสมเนน สเมนฺติ. เตสฺเว ปรินิพฺพาปเนน ปรินิพฺพาเปนฺติ. นิกฺขิปิตพฺโพติ ยถา น วินสฺสติ, เอวํ เปตพฺโพ. อุปวายตนฺติ อุปวายตุ. เอวฺจ ปน วตฺวา พฺราหฺมโณ สพฺเพสมฺปิ เตสํ ปาณานํ ชีวิตํ ทตฺวา ยฺสาลํ วิทฺธํเสตฺวา สตฺถุ สาสเน โอปานภูโต อโหสีติ.

๕-๖. สฺาสุตฺตทฺวยวณฺณนา

๔๘-๔๙. ปฺจเม อมโตคธาติ นิพฺพานปติฏฺา. อมตปริโยสานาติ นิพฺพานาวสานา. ฉฏฺเ เมถุนธมฺมสมาปตฺติยาติ เมถุนธมฺเมน สมงฺคิภาวโต. นฺหารุททฺทุลนฺติ นฺหารุขณฺฑํ นฺหารุวิเลขนํ วา. อนุสนฺทตีติ ปวตฺตติ. นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโสติ นตฺถิ มยฺหํ ปุพฺเพน อภาวิตกาเลน สทฺธึ อปรํ ภาวิตกาเล วิเสโส. โลกจิตฺเรสูติ ติธาตุกโลกสนฺนิวาสสงฺขาเตสุ โลกจิตฺเรสุ. อาลสฺเยติ อาลสิยภาเว. วิสฺสฏฺิเยติ วิสฺสฏฺภาเว. อนนุโยเคติ โยคสฺส อนนุยุฺชเน. อหงฺการมมงฺการมานาปคตนฺติ อหงฺการทิฏฺิโต จ มมงฺการตณฺหาโต จ นววิธมานโต จ อปคตํ. วิธาสมติกฺกนฺตนฺติ ติสฺโส วิธา อติกฺกนฺตํ. สนฺตนฺติ ตปฺปจฺจนีกกิเลเสหิ สนฺตํ. สุวิมุตฺตนฺติ ปฺจหิ วิมุตฺตีหิ สุฏฺุ วิมุตฺตํ.

๗. เมถุนสุตฺตวณฺณนา

๕๐. สตฺตเม อุปสงฺกมีติ ภุตฺตปาตราโส ทาสกมฺมกรปริวุโต อุปสงฺกมิ. ภวมฺปิโนติ ภวมฺปิ นุ. พฺรหฺมจารี ปฏิชานาตีติ ‘‘อหํ พฺรหฺมจารี’’ติ เอวํ พฺรหฺมจริยวาสํ ปฏิชานาตีติ ปุจฺฉติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘พฺราหฺมณสมเย เวทํ อุคฺคณฺหนฺตา อฏฺจตฺตาลีส วสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ. สมโณ ปน โคตโม อคารํ อชฺฌาวสนฺโต ตีสุ ปาสาเทสุ ติวิธนาฏกรติยา อภิรมิ, อิทานิ กึ นุ โข วกฺขตี’’ติ อิมมตฺถํ สนฺธาเยวํ ปุจฺฉติ. ตโต ภควา มนฺเตน กณฺหสปฺปํ คณฺหนฺโต วิย อมิตฺตํ คีวาย ปาเทน อกฺกมนฺโต วิย อตฺตโน สํกิเลสกาเล ฉพฺพสฺสานิ ปธานจริยาย รชฺชสุขํ วา ปาสาเทสุ นาฏกสมฺปตฺตึ วา อารพฺภ วิตกฺกมตฺตสฺสาปิ อนุปฺปนฺนภาวํ สนฺธาย สีหนาทํ นทนฺโต ยฺหิ ตํ พฺราหฺมณาติอาทิมาห. ตตฺถ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตินฺติ ทฺวีหิ ทฺวีหิ สมาปชฺชิตพฺพภาวํ. ทุกฺขสฺมาติ สกลวฏฺฏทุกฺขโต. สฺชคฺฆตีติ หสิตกถํ กเถติ. สํกีฬตีติ เกฬึ กโรติ. สํเกฬายตีติ มหาหสิตํ หสติ. จกฺขุนา จกฺขุนฺติ อตฺตโน จกฺขุนา ตสฺสา จกฺขุํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา อุปนิชฺฌายติ. ติโรกุฏฺฏํ วา ติโรปาการํ วาติ ปรกุฏฺเฏ วา ปรปากาเร วา. เทโวติ เอโก เทวราชา. เทวฺตโรติ อฺตโร เทวปุตฺโต. อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธินฺติ อรหตฺตฺเจว สพฺพฺุตฺาณฺจ.

๘. สํโยคสุตฺตวณฺณนา

๕๑. อฏฺเม สํโยควิสํโยคนฺติ สํโยควิสํโยคสาธกํ. ธมฺมปริยายนฺติ ธมฺมการณํ. อชฺฌตฺตํ อิตฺถินฺทฺริยนฺติ นิยกชฺฌตฺเต อิตฺถิภาวํ. อิตฺถิกุตฺตนฺติ อิตฺถิกิริยํ. อิตฺถากปฺปนฺติ นิวาสนปารุปนาทิอิตฺถิอากปฺปํ. อิตฺถิวิธนฺติ อิตฺถิยา มานวิธํ. อิตฺถิฉนฺทนฺติ อิตฺถิยา อชฺฌาสยจฺฉนฺทํ. อิตฺถิสฺสรนฺติ อิตฺถิสทฺทํ. อิตฺถาลงฺการนฺติ อิตฺถิยา ปสาธนภณฺฑํ. ปุริสินฺทฺริยาทีสุปิ เอเสว นโย. พหิทฺธา สํโยคนฺติ ปุริเสน สทฺธึ สมาคมํ. อติวตฺตตีติ อนภิรตาติ เอวํ วุตฺตาย พลววิปสฺสนาย อริยมคฺคํ ปตฺวา อติวตฺตติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.

๙. ทานมหปฺผลสุตฺตวณฺณนา

๕๒. นวเม สาเปโขติ สตณฺโห. ปฏิพทฺธจิตฺโตติ วิปาเก พทฺธจิตฺโต. สนฺนิธิเปโขติ นิธานเปโข หุตฺวา. เปจฺจาติ ปรโลกํ คนฺตฺวา. ตํ กมฺมํ เขเปตฺวาติ ตํ กมฺมวิปากํ เขเปตฺวา. อิทฺธินฺติ วิปากิทฺธึ. ยสนฺติ ปริวารสมฺปทํ. อาธิปจฺจนฺติ เชฏฺภาวการณํ. อาคนฺตา อิตฺถตฺตนฺติ อิตฺถภาวํ อิเม ปฺจกฺขนฺเธ ปุน อาคนฺตา, น ตตฺรูปปตฺติโก น อุปรูปปตฺติโก, เหฏฺาคามีเยว โหตีติ อตฺโถ. สาหุ ทานนฺติ ทานํ นาเมตํ สาธุ ภทฺทกํ สุนฺทรํ. ตานิ มหายฺานีติ ตานิ สปฺปินวนีตทธิมธุผาณิตาทีหิ นิฏฺานํ คตานิ มหาทานานิ. จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารนฺติ สมถวิปสฺสนาจิตฺตสฺส อลงฺการภูตฺเจว ปริวารภูตฺจ. พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตนฺติ น สกฺกา ตตฺถ ทาเนน อุปปชฺชิตุํ. ยสฺมา ปน ตํ สมถวิปสฺสนาจิตฺตสฺส อลงฺการภูตํ, ตสฺมา เตน ทานาลงฺกเตน จิตฺเตน ฌานฺเจว อริยมคฺคฺจ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌาเนน ตตฺถ อุปปชฺชติ. อนาคามี โหตีติ ฌานานาคามี นาม โหติ. อนาคนฺตา อิตฺถตฺตนฺติ ปุน อิตฺถภาวํ น อาคนฺตา, อุปรูปปตฺติโก วา ตตฺรูปปตฺติโก วา หุตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ. อิติ อิเมสุ ทาเนสุ ปมํ ตณฺหุตฺตริยทานํ, ทุติยํ จิตฺตีการทานํ, ตติยํ หิโรตฺตปฺปทานํ, จตุตฺถํ นิรวเสสทานํ , ปฺจมํ ทกฺขิเณยฺยทานํ, ฉฏฺํ โสมนสฺสุปวิจารทานํ, สตฺตมํ อลงฺการปริวารทานํ นามาติ.

๑๐. นนฺทมาตาสุตฺตวณฺณนา

๕๓. ทสมํ อตฺถุปฺปตฺติวเสน เทสิตํ. สตฺถา กิร วุตฺถวสฺโส ปวาเรตฺวา ทฺเว อคฺคสาวเก โอหาย ‘‘ทกฺขิณาคิรึ จาริกํ คมิสฺสามี’’ติ นิกฺขมิ, ราชา ปเสนทิ โกสโล, อนาถปิณฺฑิโก คหปติ, วิสาขา มหาอุปาสิกา, อฺเ จ พหุชนา ทสพลํ นิวตฺเตตุํ นาสกฺขึสุ. อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ‘‘สตฺถารํ นิวตฺเตตุํ นาสกฺขิ’’นฺติ รโห จินฺตยมาโน นิสีทิ. อถ นํ ปุณฺณา นาม ทาสี ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เต, สามิ, น ปุพฺเพ วิย อินฺทฺริยานิ วิปฺปสนฺนานี’’ติ ปุจฺฉิ. อาม, ปุณฺเณ, สตฺถา จาริกํ ปกฺกนฺโต, ตมหํ นิวตฺเตตุํ นาสกฺขึ. น โข ปน สกฺกา ชานิตุํ ปุน สีฆํ อาคจฺเฉยฺย วา น วา, เตนาหํ จินฺตยมาโน นิสินฺโนติ. สจาหํ ทสพลํ นิวตฺเตยฺยํ, กึ เม กเรยฺยาสีติ? ภุชิสฺสํ ตํ กริสฺสามีติ. สา คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘นิวตฺตถ, ภนฺเต’’ติ อาห. มม นิวตฺตนปจฺจยา ตฺวํ กึ กริสฺสสีติ? ตุมฺเห, ภนฺเต, มม ปราธีนภาวํ ชานาถ, อฺํ กิฺจิ กาตุํ น สกฺโกมิ, สรเณสุ ปน ปติฏฺาย ปฺจ สีลานิ รกฺขิสฺสามีติ. สาธุ สาธุ ปุณฺเณติ, สตฺถา ธมฺมคารเวน เอกปทสฺมิฺเว นิวตฺติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ธมฺมครุ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ธมฺมคารโว’’ติ (อ. นิ. ๕.๙๙).

สตฺถา นิวตฺติตฺวา เชตวนมหาวิหารํ ปาวิสิ. มหาชโน ปุณฺณาย สาธุการสหสฺสานิ อทาสิ. สตฺถา ตสฺมึ สมาคเม ธมฺมํ เทเสสิ, จตุราสีติปาณสหสฺสานิ อมตปานํ ปิวึสุ. ปุณฺณาปิ เสฏฺินา อนุฺาตา ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชิ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน อามนฺเตตฺวา ‘‘อหํ ยํ ทิสํ จาริกาย นิกฺขนฺโต, ตตฺถ น คจฺฉามิ. ตุมฺเห ตุมฺหากํ ปริสาย สทฺธึ ตํ ทิสํ จาริกํ คจฺฉถา’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. อิมิสฺสํ อตฺถุปฺปตฺติยํ เอกํ สมยํ อายสฺมา สาริปุตฺโตติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ เวฬุกณฺฑกีติ เวฬุกณฺฏกนครวาสินี. ตสฺส กิร นครสฺส ปาการคุตฺตตฺถาย ปาการปริยนฺเตน เวฬู โรปิตา, เตนสฺส เวฬุกณฺฏกนฺเตว นามํ ชาตํ. ปารายนนฺติ นิพฺพานสงฺขาตปารํ อยนโต ปารายนนฺติ ลทฺธโวหารํ ธมฺมํ. สเรน ภาสตีติ สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺส อุปริมตเล สุสํวิหิตารกฺขฏฺาเน นิสินฺนา สมาปตฺติพเลน รตฺติภาคํ วีตินาเมตฺวา สมาปตฺติโต วุฏฺาย ‘‘อิมํ รตฺตาวเสสํ กตราย รติยา วีตินาเมสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ธมฺมรติยา’’ติ กตสนฺนิฏฺานา ตีณิ ผลานิ ปตฺตา อริยสาวิกา อฑฺฒเตยฺยคาถาสตปริมาณํ ปารายนสุตฺตํ มธุเรน สรภฺเน ภาสติ. อสฺโสสิ โขติ อากาสฏฺกวิมานานิ ปริหริตฺวา ตสฺส ปาสาทสฺส อุปริภาคํ คเตน มคฺเคน นรวาหนยานํ อารุยฺห คจฺฉมาโน อสฺโสสิ. กถาปริโยสานํ อาคมยมาโน อฏฺาสีติ ‘‘กึ สทฺโท เอส ภเณ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นนฺทมาตาย อุปาสิกาย สรภฺสทฺโท’’ติ วุตฺเต โอตริตฺวา ‘‘อิทมโวจา’’ติ อิทํ เทสนาปริโยสานํ โอโลเกนฺโต อวิทูรฏฺาเน อากาเส อฏฺาสิ.

สาธุ ภคินิ, สาธุ ภคินีติ ‘‘สุคฺคหิตา เต ภคินิ ธมฺมเทสนา สุกถิตา, ปาสาณกเจติเย นิสีทิตฺวา โสฬสนฺนํ ปารายนิกพฺราหฺมณานํ สมฺมาสมฺพุทฺเธน กถิตทิวเส จ อชฺช จ น กิฺจิ อนฺตรํ ปสฺสามิ, มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย เต สตฺถุ กถิเตน สทฺธึ สทิสเมว กถิต’’นฺติ วตฺวา สาธุการํ ททนฺโต เอวมาห. โก ปเนโส ภทฺรมุขาติ อิมสฺมึ สุสํวิหิตารกฺขฏฺาเน เอวํ มหนฺเตน สทฺเทน โก นาเมส, ภทฺรมุข, ลทฺธมุข, กึ นาโค สุปณฺโณ เทโว มาโร พฺรหฺมาติ สุวณฺณปฏฺฏวณฺณํ วาตปานํ วิวริตฺวา วิคตสารชฺชา ตีณิ ผลานิ ปตฺตา อริยสาวิกา เวสฺสวเณน สทฺธึ กถยมานา เอวมาห. อหํ เต ภคินิ ภาตาติ สยํ โสตาปนฺนตฺตา อนาคามิอริยสาวิกํ เชฏฺิกํ มฺมาโน ‘‘ภคินี’’ติ วตฺวา ปุน ตํ ปมวเย ิตตฺตา อตฺตโน กนิฏฺํ, อตฺตานํ ปน นวุติวสฺสสตสหสฺสายุกตฺตา มหลฺลกตรํ มฺมาโน ‘‘ภาตา’’ติ อาห. สาธุ ภทฺรมุขาติ, ภทฺรมุข, สาธุ สุนฺทรํ, สฺวาคมนํ เต อาคมนํ, อาคนฺตุํ ยุตฺตฏฺานเมวสิ อาคโตติ อตฺโถ. อิทํ เต โหตุ อาติเถยฺยนฺติ อิทเมว ธมฺมภณนํ ตว อติถิปณฺณากาโร โหตุ, น หิ เต อฺํ อิโต อุตฺตริตรํ ทาตพฺพํ ปสฺสามีติ อธิปฺปาโย . เอวฺเจว เม ภวิสฺสติ อาติเถยฺยนฺติ เอวํ อตฺตโน ปตฺติทานํ ยาจิตฺวา ‘‘อยํ เต ธมฺมกถิกสกฺกาโร’’ติ อฑฺฒเตฬสานิ โกฏฺสตานิ รตฺตสาลีนํ ปูเรตฺวา ‘‘ยาวายํ อุปาสิกา จรติ, ตาว มา ขยํ คมึสู’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ปกฺกามิ. ยาว อุปาสิกา อฏฺาสิ, ตาว โกฏฺานํ เหฏฺิมตลํ นาม ทฏฺุํ นาสกฺขึสุ. ตโต ปฏฺาย ‘‘นนฺทมาตาย โกฏฺาคารํ วิยา’’ติ โวหาโร อุทปาทิ.

อกตปาตราโสติ อภุตฺตปาตราโส. ปุฺนฺติ ปุพฺพเจตนา จ มุฺจนเจตนา จ. ปุฺมหีติ อปรเจตนา. สุขาย โหตูติ สุขตฺถาย หิตตฺถาย โหตุ. เอวํ อตฺตโน ทาเน เวสฺสวณสฺส ปตฺตึ อทาสิ.

ปกรเณติ การเณ. โอกฺกสฺส ปสยฺหาติ อากฑฺฒิตฺวา อภิภวิตฺวา. ยกฺขโยนินฺติ ภุมฺมเทวตาภาวํ. เตเนว ปุริเมน อตฺตภาเวน อุทฺทสฺเสตีติ ปุริมสรีรสทิสเมว สรีรํ มาเปตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺโต สิริคพฺภสยนตเล อตฺตานํ ทสฺเสติ. อุปาสิกา ปฏิเทสิตาติ อุปาสิกา อหนฺติ เอวํ อุปาสิกาภาวํ เทเสสึ. ยาวเทติ ยาวเทว. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

มหายฺวคฺโค ปฺจโม.

ปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.