📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

องฺคุตฺตรนิกาโย

ปฺจกนิปาตปาฬิ

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. เสขพลวคฺโค

๑. สํขิตฺตสุตฺตํ

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, เสขพลานิ [เสกฺขพลานิ (ก.)]. กตมานิ ปฺจ? สทฺธาพลํ, หิรีพลํ [หิริพลํ (สี. ปี.)], โอตฺตปฺปพลํ, วีริยพลํ [วิริยพลํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ปฺาพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ เสขพลานิ.

‘‘ตสฺมาติห , ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘สทฺธาพเลน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม เสขพเลน, หิรีพเลน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม เสขพเลน, โอตฺตปฺปพเลน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม เสขพเลน, วีริยพเลน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม เสขพเลน, ปฺาพเลน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม เสขพเลนา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. ปมํ.

๒. วิตฺถตสุตฺตํ

. ‘‘ปฺจิมานิ , ภิกฺขเว, เสขพลานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธาพลํ, หิรีพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, วีริยพลํ, ปฺาพลํ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, สทฺธาพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สทฺธาพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, หิรีพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก หิริมา โหติ, หิรียติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, หิรียติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, หิรีพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, โอตฺตปฺปพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก โอตฺตปฺปี โหติ, โอตฺตปฺปติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, โอตฺตปฺปติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, โอตฺตปฺปพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, วีริยพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วีริยพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปฺาพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฺาพลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ เสขพลานิ.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘สทฺธาพเลน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม เสขพเลน, หิรีพเลน… โอตฺตปฺปพเลน … วีริยพเลน… ปฺาพเลน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม เสขพเลนา’ติ. เอวฺหิ โข, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. ทุกฺขสุตฺตํ

. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ, กายสฺส จ เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, กุสีโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ, กายสฺส จ เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ, กายสฺส จ เภทา ปรํ มรณา สุคติ ปาฏิกงฺขา. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ, หิรีมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, ปฺวา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ, กายสฺส จ เภทา ปรํ มรณา สุคติ ปาฏิกงฺขา’’ติ. ตติยํ.

๔. ยถาภตสุตฺตํ

. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ , กุสีโต โหติ , ทุปฺปฺโ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ, หิรีมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, ปฺวา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. สิกฺขาสุตฺตํ

. ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ, ตสฺส ทิฏฺเว [ทิฏฺเ เจว (สี.)] ธมฺเม ปฺจ สหธมฺมิกา วาทานุปาตา [วาทานุวาทา (อ. นิ. ๘.๑๒; อ. นิ. ๓.๕๘)] คารยฺหา านา อาคจฺฉนฺติ. กตเม ปฺจ? สทฺธาปิ นาม เต นาโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรีปิ นาม เต นาโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โอตฺตปฺปมฺปิ นาม เต นาโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วีริยมฺปิ นาม เต นาโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ปฺาปิ นาม เต นาโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ, ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม อิเม ปฺจ สหธมฺมิกา วาทานุปาตา คารยฺหา านา อาคจฺฉนฺติ.

‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน อสฺสุมุโข [อสฺสุมุโขปิ (สฺยา.)] รุทมาโน ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม ปฺจ สหธมฺมิกา ปาสํสา านา [ปาสํสํ านํ (สฺยา.)] อาคจฺฉนฺติ. กตเม ปฺจ? สทฺธาปิ นาม เต อโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรีปิ นาม เต อโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โอตฺตปฺปมฺปิ นาม เต อโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วีริยมฺปิ นาม เต อโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ปฺาปิ นาม เต อโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน อสฺสุมุโข รุทมาโน ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม อิเม ปฺจ สหธมฺมิกา ปาสํสา านา อาคจฺฉนฺตี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. สมาปตฺติสุตฺตํ

. ‘‘น ตาว, ภิกฺขเว, อกุสลสฺส สมาปตฺติ โหติ ยาว สทฺธา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, สทฺธา อนฺตรหิตา โหติ, อสทฺธิยํ ปริยุฏฺาย ติฏฺติ; อถ อกุสลสฺส สมาปตฺติ โหติ.

‘‘น ตาว, ภิกฺขเว, อกุสลสฺส สมาปตฺติ โหติ ยาว หิรี ปจฺจุปฏฺิตา โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, หิรี อนฺตรหิตา โหติ, อหิริกํ ปริยุฏฺาย ติฏฺติ; อถ อกุสลสฺส สมาปตฺติ โหติ.

‘‘น ตาว, ภิกฺขเว, อกุสลสฺส สมาปตฺติ โหติ ยาว โอตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, โอตฺตปฺปํ อนฺตรหิตํ โหติ, อโนตฺตปฺปํ ปริยุฏฺาย ติฏฺติ; อถ อกุสลสฺส สมาปตฺติ โหติ.

‘‘น ตาว, ภิกฺขเว, อกุสลสฺส สมาปตฺติ โหติ ยาว วีริยํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, วีริยํ อนฺตรหิตํ โหติ, โกสชฺชํ ปริยุฏฺาย ติฏฺติ; อถ อกุสลสฺส สมาปตฺติ โหติ.

‘‘น ตาว, ภิกฺขเว, อกุสลสฺส สมาปตฺติ โหติ ยาว ปฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ปฺา อนฺตรหิตา โหติ, ทุปฺปฺา [ทุปฺปฺํ (ก.)] ปริยุฏฺาย ติฏฺติ; อถ อกุสลสฺส สมาปตฺติ โหตี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. กามสุตฺตํ

. ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, สตฺตา กาเมสุ ลฬิตา [ปลาฬิตา (สี.)]. อสิตพฺยาภงฺคึ [อสิตพฺยาภงฺคิ เจปิ (?)], ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต โอหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ, ‘สทฺธาปพฺพชิโต กุลปุตฺโต’ติ อลํ วจนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? ลพฺภา [ลพฺภา หิ (สฺยา.)], ภิกฺขเว, โยพฺพเนน กามา เต จ โข ยาทิสา วา ตาทิสา วา. เย จ, ภิกฺขเว, หีนา กามา เย จ มชฺฌิมา กามา เย จ ปณีตา กามา , สพฺเพ กามา ‘กามา’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, ทหโร กุมาโร มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก ธาติยา ปมาทมนฺวาย กฏฺํ วา กลํ [กถลํ (ก.)] วา มุเข อาหเรยฺย. ตเมนํ ธาติ สีฆํ สีฆํ [สีฆสีฆํ (สี.)] มนสิ กเรยฺย; สีฆํ สีฆํ มนสิ กริตฺวา สีฆํ สีฆํ อาหเรยฺย. โน เจ สกฺกุเณยฺย สีฆํ สีฆํ อาหริตุํ, วาเมน หตฺเถน สีสํ ปริคฺคเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน วงฺกงฺคุลึ กริตฺวา สโลหิตมฺปิ อาหเรยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อตฺเถสา, ภิกฺขเว, กุมารสฺส วิเหสา; เนสา นตฺถี’ติ วทามิ. กรณียฺจ โข เอตํ [เอวํ (ก.)], ภิกฺขเว, ธาติยา อตฺถกามาย หิเตสินิยา อนุกมฺปิกาย, อนุกมฺปํ อุปาทาย. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, โส กุมาโร วุทฺโธ โหติ อลํปฺโ, อนเปกฺขา ทานิ [อนเปกฺขา ปน (สี. สฺยา. กํ.)], ภิกฺขเว, ธาติ ตสฺมึ กุมาเร โหติ – ‘อตฺตคุตฺโต ทานิ กุมาโร นาลํ ปมาทายา’ติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยาวกีวฺจ ภิกฺขุโน สทฺธาย อกตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิริยา อกตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โอตฺตปฺเปน อกตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วีริเยน อกตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ปฺาย อกตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, อนุรกฺขิตพฺโพ ตาว เม โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สทฺธาย กตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิริยา กตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โอตฺตปฺเปน กตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วีริเยน กตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ปฺาย กตํ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, อนเปกฺโข ทานาหํ, ภิกฺขเว [ปนาหํ (สี. สฺยา. กํ.)], ตสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ โหมิ – ‘อตฺตคุตฺโต ทานิ ภิกฺขุ นาลํ ปมาทายา’’’ติ. สตฺตมํ.

๘. จวนสุตฺตํ

. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. กตเมหิ ปฺจหิ? อสทฺโธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม . อหิริโก, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. อโนตฺตปฺปี, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. กุสีโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. ทุปฺปฺโ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. กตเมหิ ปฺจหิ? สทฺโธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น จวติ , ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. หิรีมา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. โอตฺตปฺปี, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. อารทฺธวีริโย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. ปฺวา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปมอคารวสุตฺตํ

. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. กตเมหิ ปฺจหิ? อสฺสทฺโธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. อหิริโก, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. อโนตฺตปฺปี, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. กุสีโต , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. ทุปฺปฺโ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส จวติ, นปฺปติฏฺาติ สทฺธมฺเม.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. กตเมหิ ปฺจหิ? สทฺโธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. หิริมา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. โอตฺตปฺปี, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. อารทฺธวีริโย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. ปฺวา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส น จวติ, ปติฏฺาติ สทฺธมฺเม’’ติ. นวมํ.

๑๐. ทุติยอคารวสุตฺตํ

๑๐. ‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส อภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. กตเมหิ ปฺจหิ? อสฺสทฺโธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส อภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. อหิริโก, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส อภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. อโนตฺตปฺปี, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส อภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. กุสีโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส อภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. ทุปฺปฺโ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส อภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส อภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส ภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. กตเมหิ ปฺจหิ? สทฺโธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส ภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. หิรีมา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ…เป… โอตฺตปฺปี, ภิกฺขเว , ภิกฺขุ…เป… อารทฺธวีริโย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ…เป… ปฺวา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส ภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว , ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส ภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุ’’นฺติ. ทสมํ.

เสขพลวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

สํขิตฺตํ วิตฺถตํ ทุกฺขา, ภตํ สิกฺขาย ปฺจมํ;

สมาปตฺติ จ กาเมสุ, จวนา ทฺเว อคารวาติ.