📜

๒. พลวคฺโค

๑. อนนุสฺสุตสุตฺตํ

๑๑. ‘‘ปุพฺพาหํ , ภิกฺขเว, อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺโต ปฏิชานามิ. ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธาพลํ, หิรีพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, วีริยพลํ, ปฺาพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ตถาคตสฺส ตถาคตพลานิ เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติ. ปมํ.

๒. กูฏสุตฺตํ

๑๒. ‘‘ปฺจิมานิ , ภิกฺขเว, เสขพลานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธาพลํ, หิรีพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, วีริยพลํ, ปฺาพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ เสขพลานิ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ เสขพลานํ เอตํ อคฺคํ เอตํ สงฺคาหิกํ เอตํ สงฺฆาตนิยํ, ยทิทํ ปฺาพลํ.

‘‘เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว , กูฏาคารสฺส เอตํ อคฺคํ เอตํ สงฺคาหิกํ เอตํ สงฺฆาตนิยํ, ยทิทํ กูฏํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเมสํ ปฺจนฺนํ เสขพลานํ เอตํ อคฺคํ เอตํ สงฺคาหิกํ เอตํ สงฺฆาตนิยํ, ยทิทํ ปฺาพลํ.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘สทฺธาพเลน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม เสขพเลน, หิรีพเลน… โอตฺตปฺปพเลน… วีริยพเลน… ปฺาพเลน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม เสขพเลนา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. สํขิตฺตสุตฺตํ

๑๓. ‘‘ปฺจิมานิ , ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธาพลํ, วีริยพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ, ปฺาพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ พลานี’’ติ. ตติยํ.

๔. วิตฺถตสุตฺตํ

๑๔. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธาพลํ, วีริยพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ, ปฺาพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สทฺธาพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ . อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สทฺธาพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, วีริยพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วีริยพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว , สติพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต, จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สติพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สมาธิพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมาธิพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปฺาพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฺาพลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ พลานี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ทฏฺพฺพสุตฺตํ

๑๕. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธาพลํ, วีริยพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ, ปฺาพลํ . กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สทฺธาพลํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสุ. เอตฺถ สทฺธาพลํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, วีริยพลํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ. เอตฺถ วีริยพลํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สติพลํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ สติปฏฺาเนสุ. เอตฺถ สติพลํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สมาธิพลํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ ฌาเนสุ. เอตฺถ สมาธิพลํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, ปฺาพลํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ อริยสจฺเจสุ. เอตฺถ ปฺาพลํ ทฏฺพฺพํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ พลานี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ปุนกูฏสุตฺตํ

๑๖. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธาพลํ, วีริยพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ, ปฺาพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ พลานิ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ พลานํ เอตํ อคฺคํ เอตํ สงฺคาหิกํ เอตํ สงฺฆาตนิยํ, ยทิทํ ปฺาพลํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กูฏาคารสฺส เอตํ อคฺคํ เอตํ สงฺคาหิกํ เอตํ สงฺฆาตนิยํ, ยทิทํ กูฏํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเมสํ ปฺจนฺนํ พลานํ เอตํ อคฺคํ เอตํ สงฺคาหิกํ เอตํ สงฺฆาตนิยํ, ยทิทํ ปฺาพล’’นฺติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมหิตสุตฺตํ

๑๗. ‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตนา สีลสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ ปฺาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตายา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยหิตสุตฺตํ

๑๘. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตนา น สีลสมฺปนฺโน โหติ, ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, ปรํ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, ปรํ ปฺาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, ปรํ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, ปรํ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตายา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ตติยหิตสุตฺตํ

๑๙. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ เนว อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตนา น สีลสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ ปฺาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติ. อิเมหิ โข , ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ เนว อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตายา’’ติ. นวมํ.

๑๐. จตุตฺถหิตสุตฺตํ

๒๐. ‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ ปฺาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จา’’ติ. ทสมํ.

พลวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

อนนุสฺสุตกูฏฺจ, สํขิตฺตํ วิตฺถเตน จ;

ทฏฺพฺพฺจ ปุน กูฏํ, จตฺตาโรปิ หิเตน จาติ.