📜

(๑๒) ๒. อนฺธกวินฺทวคฺโค

๑. กุลูปกสุตฺตํ

๑๑๑. ‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต กุลูปโก ภิกฺขุ กุเลสุ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? อสนฺถววิสฺสาสี [อสนฺถุตวิสฺสาสี (สี.), อสนฺธววิสฺสาสี (ก.)] จ โหติ, อนิสฺสรวิกปฺปี จ, วิสฺสฏฺุปเสวี [วิยตฺถุปเสวี (สี.), พฺยตฺถุปเสวี (สฺยา. กํ.), วฺยตฺตูปเสวี (ปี.)] จ, อุปกณฺณกชปฺปี จ, อติยาจนโก จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต กุลูปโก ภิกฺขุ กุเลสุ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต กุลูปโก ภิกฺขุ กุเลสุ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? น อสนฺถววิสฺสาสี จ โหติ, น อนิสฺสรวิกปฺปี จ, น วิสฺสฏฺุปเสวี จ, น อุปกณฺณกชปฺปี จ, น อติยาจนโก จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต กุลูปโก ภิกฺขุ กุเลสุ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. ปมํ.

๒. ปจฺฉาสมณสุตฺตํ

๑๑๒. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปจฺฉาสมโณ น อาทาตพฺโพ. กตเมหิ ปฺจหิ? อติทูเร วา คจฺฉติ อจฺจาสนฺเน วา , น ปตฺตปริยาปนฺนํ คณฺหติ, อาปตฺติสามนฺตา ภณมานํ น นิวาเรติ, ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตติ, ทุปฺปฺโ โหติ ชโฬ เอฬมูโค. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปจฺฉาสมโณ น อาทาตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปจฺฉาสมโณ อาทาตพฺโพ. กตเมหิ ปฺจหิ? นาติทูเร คจฺฉติ น อจฺจาสนฺเน, ปตฺตปริยาปนฺนํ คณฺหติ, อาปตฺติสามนฺตา ภณมานํ นิวาเรติ , ภณมานสฺส น อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตติ, ปฺวา โหติ อชโฬ อเนฬมูโค. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปจฺฉาสมโณ อาทาตพฺโพ’’ติ. ทุติยํ.

๓. สมฺมาสมาธิสุตฺตํ

๑๑๓. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ สมฺมาสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ รูปานํ, อกฺขโม สทฺทานํ, อกฺขโม คนฺธานํ, อกฺขโม รสานํ, อกฺขโม โผฏฺพฺพานํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ สมฺมาสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ สมฺมาสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฏฺพฺพานํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ สมฺมาสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหริตุ’’นฺติ. ตติยํ.

๔. อนฺธกวินฺทสุตฺตํ

๑๑๔. เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ วิหรติ อนฺธกวินฺเท. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘เย เต, อานนฺท, ภิกฺขู นวา อจิรปพฺพชิตา อธุนาคตา อิมํ ธมฺมวินยํ, เต โว, อานนฺท, ภิกฺขู ปฺจสุ ธมฺเมสุ สมาทเปตพฺพา [สมาทาเปตพฺพา (?)] นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา . กตเมสุ ปฺจสุ? ‘เอถ ตุมฺเห, อาวุโส, สีลวา โหถ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา วิหรถ อาจารโคจรสมฺปนฺนา อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวิโน, สมาทาย สิกฺขถ สิกฺขาปเทสู’ติ – อิติ ปาติโมกฺขสํวเร สมาทเปตพฺพา นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา.

‘‘‘เอถ ตุมฺเห, อาวุโส, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา วิหรถ อารกฺขสติโน นิปกฺกสติโน [นิปกสติโน (สี. สฺยา.), เนปกฺกสติโน (?)], สารกฺขิตมานสา สตารกฺเขน เจตสา สมนฺนาคตา’ติ – อิติ อินฺทฺริยสํวเร สมาทเปตพฺพา นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา.

‘‘‘เอถ ตุมฺเห, อาวุโส, อปฺปภสฺสา โหถ, ภสฺเส ปริยนฺตการิโน’ติ – อิติ ภสฺสปริยนฺเต สมาทเปตพฺพา นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา.

‘‘‘เอถ ตุมฺเห, อาวุโส, อารฺิกา โหถ, อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวถา’ติ – อิติ กายวูปกาเส สมาทเปตพฺพา นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา.

‘‘‘เอถ ตุมฺเห, อาวุโส, สมฺมาทิฏฺิกา โหถ สมฺมาทสฺสเนน สมนฺนาคตา’ติ – อิติ สมฺมาทสฺสเน สมาทเปตพฺพา นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา. เย เต, อานนฺท, ภิกฺขู นวา อจิรปพฺพชิตา อธุนาคตา อิมํ ธมฺมวินยํ, เต โว, อานนฺท, ภิกฺขู อิเมสุ ปฺจสุ ธมฺเมสุ สมาทเปตพฺพา นิเวเสตพฺพา ปติฏฺาเปตพฺพา’’ติ . จตุตฺถํ.

๕. มจฺฉรินีสุตฺตํ

๑๑๕. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อาวาสมจฺฉรินี โหติ, กุลมจฺฉรินี โหติ, ลาภมจฺฉรินี โหติ, วณฺณมจฺฉรินี โหติ, ธมฺมมจฺฉรินี โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? น อาวาสมจฺฉรินี โหติ, น กุลมจฺฉรินี โหติ, น ลาภมจฺฉรินี โหติ, น วณฺณมจฺฉรินี โหติ, น ธมฺมมจฺฉรินี โหติ . อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค’’ติ. ปฺจมํ.

๖. วณฺณนาสุตฺตํ

๑๑๖. ‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ, สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. อิสฺสุกินีสุตฺตํ

๑๑๗. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อิสฺสุกินี จ โหติ, มจฺฉรินี จ, สทฺธาเทยฺยํ [สทฺธาเทยฺยฺจ (สฺยา.)] วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ , อนิสฺสุกินี จ โหติ, อมจฺฉรินี จ, สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค’’ติ. สตฺตมํ.

๘. มิจฺฉาทิฏฺิกสุตฺตํ

๑๑๘. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, มิจฺฉาทิฏฺิกา จ โหติ, มิจฺฉาสงฺกปฺปา จ, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค . กตเมหิ ปฺจหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, สมฺมาทิฏฺิกา จ, โหติ, สมฺมาสงฺกปฺปา จ, สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค’’ติ. อฏฺมํ.

๙. มิจฺฉาวาจาสุตฺตํ

๑๑๙. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, มิจฺฉาวาจา จ โหติ, มิจฺฉากมฺมนฺตา จ, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, สมฺมาวาจา จ โหติ, สมฺมากมฺมนฺตา จ, สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตติ. อิเมหิ โข ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค’’ติ. นวมํ.

๑๐. มิจฺฉาวายามสุตฺตํ

๑๒๐. ‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, มิจฺฉาวายามา จ โหติ, มิจฺฉาสตินี จ [มิจฺฉาสติ จ (สฺยา.)], สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, สมฺมาวายามา จ โหติ, สมฺมาสตินี จ, สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ภิกฺขุนี ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค’’ติ. ทสมํ.

อนฺธกวินฺทวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

กุลูปโก ปจฺฉาสมโณ, สมาธิอนฺธกวินฺทํ;

มจฺฉรี วณฺณนา อิสฺสา, ทิฏฺิวาจาย วายมาติ.