📜
(๑๗) ๒. อาฆาตวคฺโค
๑. ปมอาฆาตปฏิวินยสุตฺตํ
๑๖๑. ‘‘ปฺจิเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อาฆาตปฏิวินยา ยตฺถ ภิกฺขุโน อุปฺปนฺโน อาฆาโต สพฺพโส ปฏิวิเนตพฺโพ. กตเม ปฺจ? ยสฺมึ, ภิกฺขเว, ปุคฺคเล อาฆาโต ชาเยถ, เมตฺตา ตสฺมึ ปุคฺคเล ภาเวตพฺพา; เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, ปุคฺคเล อาฆาโต ชาเยถ, กรุณา ตสฺมึ ปุคฺคเล ภาเวตพฺพา; เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, ปุคฺคเล อาฆาโต ชาเยถ, อุเปกฺขา ตสฺมึ ปุคฺคเล ภาเวตพฺพา; เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, ปุคฺคเล อาฆาโต ชาเยถ, อสติอมนสิกาโร ตสฺมึ ปุคฺคเล อาปชฺชิตพฺโพ; เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ. ยสฺมึ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคเล อาฆาโต ชาเยถ, กมฺมสฺสกตา ตสฺมึ ปุคฺคเล อธิฏฺาตพฺพา – ‘กมฺมสฺสโก อยมายสฺมา กมฺมทายาโท กมฺมโยนิ กมฺมพนฺธุ กมฺมปฺปฏิสรโณ, ยํ กมฺมํ กริสฺสติ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา ตสฺส ทายาโท ภวิสฺสตี’ติ; เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาฆาตปฏิวินยา, ยตฺถ ภิกฺขุโน อุปฺปนฺโน อาฆาโต สพฺพโส ปฏิวิเนตพฺโพ’’ติ. ปมํ.
๒. ทุติยอาฆาตปฏิวินยสุตฺตํ
๑๖๒. ตตฺร ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘ปฺจิเม, อาวุโส, อาฆาตปฏิวินยา ¶ ยตฺถ ภิกฺขุโน อุปฺปนฺโน อาฆาโต สพฺพโส ปฏิวิเนตพฺโพ. กตเม ปฺจ? อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ ปริสุทฺธวจีสมาจาโร; เอวรูเปปิ, อาวุโส, ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ ¶ ปุคฺคโล อปริสุทฺธวจีสมาจาโร โหติ ปริสุทฺธกายสมาจาโร; เอวรูเปปิ, อาวุโส, ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ อปริสุทฺธวจีสมาจาโร, ลภติ จ กาเลน กาลํ เจตโส วิวรํ เจตโส ปสาทํ; เอวรูเปปิ, อาวุโส, ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ อปริสุทฺธวจีสมาจาโร, น จ ลภติ กาเลน ¶ กาลํ เจตโส วิวรํ เจตโส ปสาทํ; เอวรูเปปิ, อาวุโส, ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปริสุทฺธกายสมาจาโร ปริสุทฺธวจีสมาจาโร, ลภติ จ กาเลน วา กาลํ เจตโส วิวรํ เจตโส ปสาทํ; เอวรูเปปิ, อาวุโส, ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ.
‘‘ตตฺราวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อปริสุทฺธกายสมาจาโร ปริสุทฺธวจีสมาจาโร, กถํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ? เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปํสุกูลิโก รถิยาย นนฺตกํ ทิสฺวา วาเมน ปาเทน นิคฺคณฺหิตฺวา ทกฺขิเณน ปาเทน ปตฺถริตฺวา [วิตฺถาเรตฺวา (สี. ปี.)], โย ตตฺถ สาโร ตํ ปริปาเตตฺวา อาทาย ปกฺกเมยฺย; เอวเมวํ ขฺวาวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อปริสุทฺธกายสมาจาโร ปริสุทฺธวจีสมาจาโร, ยาสฺส อปริสุทฺธกายสมาจารตา น ¶ สาสฺส ตสฺมึ สมเย มนสิ กาตพฺพา, ยา ¶ จ ขฺวาสฺส ปริสุทฺธวจีสมาจารตา สาสฺส ตสฺมึ สมเย มนสิ กาตพฺพา. เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ.
‘‘ตตฺราวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อปริสุทฺธวจีสมาจาโร ปริสุทฺธกายสมาจาโร, กถํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ? เสยฺยถาปิ, อาวุโส, โปกฺขรณี เสวาลปณกปริโยนทฺธา. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ฆมฺมาภิตตฺโต ฆมฺมปเรโต กิลนฺโต ตสิโต ปิปาสิโต. โส ตํ โปกฺขรณึ โอคาเหตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ อิติจิติ จ เสวาลปณกํ อปวิยูหิตฺวา อฺชลินา ปิวิตฺวา ปกฺกเมยฺย. เอวเมวํ โข, อาวุโส ¶ , ยฺวายํ ปุคฺคโล อปริสุทฺธวจีสมาจาโร ปริสุทฺธกายสมาจาโร, ยาสฺส อปริสุทฺธวจีสมาจารตา น สาสฺส ตสฺมึ สมเย มนสิ กาตพฺพา, ยา จ ขฺวาสฺส ปริสุทฺธกายสมาจารตา สาสฺส ตสฺมึ สมเย มนสิ กาตพฺพา. เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ.
‘‘ตตฺราวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อปริสุทฺธกายสมาจาโร อปริสุทฺธวจีสมาจาโร ลภติ จ ¶ กาเลน กาลํ เจตโส วิวรํ เจตโส ปสาทํ, กถํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ? เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปริตฺตํ โคปเท [โคปทเก (สี. สฺยา.)] อุทกํ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ฆมฺมาภิตตฺโต ฆมฺมปเรโต กิลนฺโต ตสิโต ปิปาสิโต. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อิทํ โข ปริตฺตํ โคปเท อุทกํ. สจาหํ อฺชลินา วา ปิวิสฺสามิ ภาชเนน วา โขเภสฺสามิปิ ตํ ¶ โลเฬสฺสามิปิ ตํ อเปยฺยมฺปิ ตํ กริสฺสามิ. ยํนูนาหํ จตุกฺกุณฺฑิโก [จตุคุณฺฑิโก (สี.), จตุกุณฺฑิโก (สฺยา. กํ. ปี.), จตุโกณฺฑิโก (ที. นิ. ๓.๗)] นิปติตฺวา โคปีตกํ ปิวิตฺวา ปกฺกเมยฺย’นฺติ. โส จตุกฺกุณฺฑิโก นิปติตฺวา โคปีตกํ ปิวิตฺวา ปกฺกเมยฺย. เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อปริสุทฺธกายสมาจาโร อปริสุทฺธวจีสมาจาโร ลภติ จ กาเลน กาลํ เจตโส วิวรํ เจตโส ปสาทํ, ยาสฺส อปริสุทฺธกายสมาจารตา น สาสฺส ตสฺมึ สมเย มนสิ กาตพฺพา; ยาปิสฺส อปริสุทฺธวจีสมาจารตา น สาปิสฺส ตสฺมึ สมเย มนสิ กาตพฺพา. ยฺจ โข โส ลภติ กาเลน กาลํ เจตโส วิวรํ ¶ เจตโส ปสาทํ, ตเมวสฺส [ตเทวสฺส (สี. สฺยา.)] ตสฺมึ สมเย มนสิ กาตพฺพํ. เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ.
‘‘ตตฺราวุโส ¶ , ยฺวายํ ปุคฺคโล อปริสุทฺธกายสมาจาโร อปริสุทฺธวจีสมาจาโร น จ ลภติ กาเลน กาลํ เจตโส วิวรํ เจตโส ปสาทํ, กถํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ? เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปุริโส อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน. ตสฺส ปุรโตปิสฺส ทูเร คาโม ปจฺฉโตปิสฺส ทูเร คาโม. โส น ลเภยฺย สปฺปายานิ โภชนานิ, น ลเภยฺย สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, น ลเภยฺย ปติรูปํ อุปฏฺากํ, น ลเภยฺย คามนฺตนายกํ. ตเมนํ อฺตโร ปุริโส ปสฺเสยฺย อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน. โส ตสฺมึ ปุริเส การฺุํเยว อุปฏฺาเปยฺย, อนุทฺทยํเยว อุปฏฺาเปยฺย, อนุกมฺปํเยว อุปฏฺาเปยฺย – ‘อโห วตายํ ปุริโส ลเภยฺย สปฺปายานิ โภชนานิ, ลเภยฺย สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, ลเภยฺย ปติรูปํ อุปฏฺากํ, ลเภยฺย คามนฺตนายกํ! ตํ กิสฺส เหตุ? มายํ ¶ [อยํ (ก.)] ปุริโส อิเธว อนยพฺยสนํ อาปชฺชี’ติ [อาปชฺเชยฺย (ก.)]! เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อปริสุทฺธกายสมาจาโร อปริสุทฺธวจีสมาจาโร น จ ลภติ กาเลน กาลํ เจตโส วิวรํ เจตโส ปสาทํ, เอวรูเปปิ [เอวรูเป (ปี.)], อาวุโส, ปุคฺคเล การฺุํเยว อุปฏฺาเปตพฺพํ อนุทฺทยาเยว อุปฏฺาเปตพฺพา อนุกมฺปาเยว อุปฏฺาเปตพฺพา – ‘อโห วต อยมายสฺมา กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวยฺย, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวยฺย, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวยฺย ¶ ! ตํ กิสฺส เหตุ? มายํ อายสฺมา [อยมายสฺมา (ก.)] กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชี’ติ [อุปปชฺชตีติ (ก.)]! เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ.
‘‘ตตฺราวุโส ¶ , ยฺวายํ ปุคฺคโล ปริสุทฺธกายสมาจาโร ปริสุทฺธวจีสมาจาโร ลภติ จ กาเลน กาลํ เจตโส วิวรํ เจตโส ปสาทํ, กถํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ? เสยฺยถาปิ, อาวุโส, โปกฺขรณี อจฺโฉทกา สาโตทกา สีโตทกา [อจฺโฉทิกา สาโตทิกา สีโตทิกา (สี.)] เสตกา [เสโตทกา (ก.)] สุปติตฺถา รมณียา นานารุกฺเขหิ สฺฉนฺนา. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ฆมฺมาภิตตฺโต ฆมฺมปเรโต กิลนฺโต ตสิโต ปิปาสิโต ¶ . โส ตํ โปกฺขรณึ โอคาเหตฺวา นฺหาตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา ตตฺเถว รุกฺขจฺฉายาย นิสีเทยฺย วา นิปชฺเชยฺย วา.
เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล ปริสุทฺธกายสมาจาโร ปริสุทฺธวจีสมาจาโร ลภติ จ กาเลน กาลํ เจตโส วิวรํ เจตโส ปสาทํ, ยาปิสฺส ¶ ปริสุทฺธกายสมาจารตา สาปิสฺส ตสฺมึ สมเย มนสิ กาตพฺพา; ยาปิสฺส ปริสุทฺธวจีสมาจารตา สาปิสฺส ตสฺมึ สมเย มนสิ กาตพฺพา; ยมฺปิ ลภติ กาเลน กาลํ เจตโส วิวรํ เจตโส ปสาทํ, ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย มนสิ กาตพฺพํ. เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อาฆาโต ปฏิวิเนตพฺโพ. สมนฺตปาสาทิกํ, อาวุโส, ปุคฺคลํ อาคมฺม จิตฺตํ ปสีทติ.
‘‘อิเม โข, อาวุโส, ปฺจ อาฆาตปฏิวินยา, ยตฺถ ภิกฺขุโน อุปฺปนฺโน อาฆาโต สพฺพโส ปฏิวิเนตพฺโพ’’ติ. ทุติยํ.
๓. สากจฺฉสุตฺตํ
๑๖๓. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
[อ. นิ. ๕.๖๕-๖๖] ‘‘ปฺจหาวุโส ¶ , ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ สากจฺโฉ สพฺรหฺมจารีนํ. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ, สีลสมฺปทากถาย จ อาคตํ ปฺหํ ¶ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, สมาธิสมฺปทากถาย จ อาคตํ ปฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, ปฺาสมฺปทากถาย จ อาคตํ ปฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, วิมุตฺติสมฺปทากถาย จ อาคตํ ปฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทากถาย จ อาคตํ ปฺหํ พฺยากตฺตา โหติ. อิเมหิ โข, อาวุโส, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ สากจฺโฉ สพฺรหฺมจารีน’’นฺติ. ตติยํ.
๔. สาชีวสุตฺตํ
๑๖๔. [อ. นิ. ๕.๖๕] ตตฺร ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ…เป… ‘‘ปฺจหิ, อาวุโส, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํสาชีโว สพฺรหฺมจารีนํ. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ ¶ , สีลสมฺปทากถาย จ อาคตํ ปฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, สมาธิสมฺปทากถาย จ อาคตํ ปฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, ปฺาสมฺปทากถาย จ อาคตํ ปฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, วิมุตฺติสมฺปทากถาย จ อาคตํ ปฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทากถาย จ อาคตํ ปฺหํ พฺยากตฺตา โหติ. อิเมหิ โข, อาวุโส, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํสาชีโว สพฺรหฺมจารีน’’นฺติ. จตุตฺถํ.
๕. ปฺหปุจฺฉาสุตฺตํ
๑๖๕. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ…เป… ‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ปรํ ปฺหํ ปุจฺฉติ, สพฺโพ โส ปฺจหิ าเนหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน. กตเมหิ ปฺจหิ? มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา [โมมุหตฺตา (สี.)] ปรํ ปฺหํ ปุจฺฉติ, ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต ปรํ ปฺหํ ปุจฺฉติ, ปริภวํ ปรํ ¶ ปฺหํ ปุจฺฉติ, อฺาตุกาโม ปรํ ปฺหํ ปุจฺฉติ, อถ วา ปเนวํจิตฺโต [อถ วา ปกุปฺปนฺโต (สี. ปี.)] ปรํ ปฺหํ ปุจฺฉติ – ‘สเจ เม ปฺหํ ปุฏฺโ สมฺมเทว พฺยากริสฺสติ อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ [โน จ (สฺยา.)] เม ปฺหํ ปุฏฺโ สมฺมเทว พฺยากริสฺสติ อหมสฺส สมฺมเทว พฺยากริสฺสามี’ติ. โย หิ โกจิ, อาวุโส, ปรํ ปฺหํ ปุจฺฉติ, สพฺโพ โส อิเมหิ ปฺจหิ ¶ าเนหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน. อหํ โข ปนาวุโส, เอวํจิตฺโต ปรํ ปฺหํ ปุจฺฉามิ – ‘สเจ เม ปฺหํ ปุฏฺโ สมฺมเทว พฺยากริสฺสติ ¶ อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ เม ปฺหํ ปุฏฺโ สมฺมเทว พฺยากริสฺสติ, อหมสฺส สมฺมเทว พฺยากริสฺสามี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. นิโรธสุตฺตํ
๑๖๖. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ…เป… ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ ¶ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ [สมาปชฺเชยฺยปิ วุฏฺเหยฺยปิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – อตฺเถตํ านํ. โน เจ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺํ อาราเธยฺย, อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ [กพฬึการาหารภกฺขานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – อตฺเถตํ าน’’นฺติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อฏฺานํ โข เอตํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อนวกาโส ยํ โส ภิกฺขุ อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – นตฺเถตํ าน’’นฺติ.
ทุติยมฺปิ โข…เป… ตติยมฺปิ โข อายสฺมา ¶ สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – อตฺเถตํ านํ. โน เจ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺํ อาราเธยฺย, อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – อตฺเถตํ าน’’นฺติ.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อฏฺานํ โข เอตํ, อาวุโส สาริปุตฺต ¶ , อนวกาโส ยํ โส ภิกฺขุ อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – นตฺเถตํ าน’’นฺติ.
อถ ¶ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยาวตติยกมฺปิ [ยาวตติยมฺปิ (สี. สฺยา. ปี.)] โข เม อายสฺมา อุทายี ปฏิกฺโกสติ, น จ เม โกจิ ภิกฺขุ อนุโมทติ. ยํนูนาหํ เยน ภควา เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – อตฺเถตํ านํ. โน เจ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺํ ¶ อาราเธยฺย, อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – อตฺเถตํ าน’’นฺติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อฏฺานํ โข เอตํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อนวกาโส ยํ โส ภิกฺขุ อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – นตฺเถตํ าน’’นฺติ.
ทุติยมฺปิ โข…เป… ตติยมฺปิ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ ¶ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – อตฺเถตํ านํ ¶ . โน เจ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺํ อาราเธยฺย, อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – อตฺเถตํ าน’’นฺติ.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อฏฺานํ โข เอตํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อนวกาโส ยํ โส ภิกฺขุ อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – นตฺเถตํ าน’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ภควโตปิ โข เม สมฺมุขา อายสฺมา อุทายี ยาวตติยกํ ปฏิกฺโกสติ, น จ เม โกจิ ภิกฺขุ อนุโมทติ. ยํนูนาหํ ตุณฺหี อสฺส’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.
อถ ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายึ อามนฺเตสิ – ‘‘กํ ปน ตฺวํ, อุทายิ, มโนมยํ กายํ ปจฺเจสี’’ติ? ‘‘เย เต, ภนฺเต, เทวา อรูปิโน สฺามยา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข ตุยฺหํ, อุทายิ, พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน! ตฺวมฺปิ นาม ภณิตพฺพํ มฺสี’’ติ! อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อตฺถิ นาม, อานนฺท, เถรํ ภิกฺขุํ วิเหสิยมานํ อชฺฌุเปกฺขิสฺสถ ¶ . น หิ นาม, อานนฺท, การฺุมฺปิ ภวิสฺสติ เถรมฺหิ [พฺยตฺตมฺหิ (สฺยา. กํ. ก.)] ภิกฺขุมฺหิ วิเหสิยมานมฺหี’’ติ.
อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – อตฺเถตํ านํ. โน เจ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺํ อาราเธยฺย ¶ , อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ – อตฺเถตํ าน’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.
อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เยนายสฺมา อุปวาโณ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาวุโส อุปวาณ, อฺเ เถเร ภิกฺขู วิเหเสนฺติ. มยํ เตน น มุจฺจาม. อนจฺฉริยํ โข, ปเนตํ อาวุโส อุปวาณ, ยํ ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เอตเทว อารพฺภ อุทาหเรยฺย ยถา อายสฺมนฺตํเยเวตฺถ อุปวาณํ ปฏิภาเสยฺย. อิทาเนว อมฺหากํ สารชฺชํ โอกฺกนฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ เอตทโวจ –
‘‘กตีหิ นุ โข, อุปวาณ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ? ‘‘ปฺจหิ, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภนฺเต, เถโร ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย ¶ อเนลคลาย [อเนลคฬาย (สฺยา. กํ.)] อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; อาสวานํ ¶ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภนฺเต, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ ¶ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ.
‘‘สาธุ ¶ สาธุ, อุปวาณ! อิเมหิ โข, อุปวาณ, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. อิเม เจ, อุปวาณ, ปฺจ ธมฺมา เถรสฺส ภิกฺขุโน น สํวิชฺเชยฺยุํ, ตํ สพฺรหฺมจารี น สกฺกเรยฺยุํ น ครุํ กเรยฺยุํ น มาเนยฺยุํ น ปูเชยฺยุํ ขณฺฑิจฺเจน ปาลิจฺเจน วลิตฺตจตาย. ยสฺมา จ โข, อุปวาณ, อิเม ปฺจ ธมฺมา เถรสฺส ภิกฺขุโน สํวิชฺชนฺติ, ตสฺมา ตํ สพฺรหฺมจารี สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. โจทนาสุตฺตํ
๑๖๗. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โจทเกน, อาวุโส, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’.
‘‘กตเม ปฺจ? กาเลน วกฺขามิ, โน อกาเลน; ภูเตน วกฺขามิ, โน อภูเตน; สณฺเหน วกฺขามิ, โน ผรุเสน; อตฺถสํหิเตน วกฺขามิ, โน อนตฺถสํหิเตน; เมตฺตจิตฺโต [เมตฺตจิตฺเตน (สี. ปี. ก.) จูฬว. ๔๐๐ ปสฺสิตพฺพํ] วกฺขามิ, โน โทสนฺตโร [โทสนฺตเรน (สี. ปี. ก.)]. โจทเกน, อาวุโส, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน อิเม ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ.
‘‘อิธาหํ ¶ , อาวุโส, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปสฺสามิ อกาเลน โจทิยมานํ โน กาเลน กุปิตํ, อภูเตน โจทิยมานํ โน ภูเตน กุปิตํ, ผรุเสน โจทิยมานํ โน สณฺเหน กุปิตํ, อนตฺถสํหิเตน โจทิยมานํ โน อตฺถสํหิเตน กุปิตํ, โทสนฺตเรน โจทิยมานํ โน เมตฺตจิตฺเตน กุปิตํ.
‘‘อธมฺมจุทิตสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน ปฺจหากาเรหิ อวิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ [อุปทหิตพฺโพ (สี. สฺยา. ปี.)] – ‘อกาเลนายสฺมา จุทิโต โน กาเลน ¶ , อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; อภูเตนายสฺมา จุทิโต โน ภูเตน ¶ , อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; ผรุเสนายสฺมา จุทิโต โน สณฺเหน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย ¶ ; อนตฺถสํหิเตนายสฺมา จุทิโต โน อตฺถสํหิเตน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; โทสนฺตเรนายสฺมา จุทิโต โน เมตฺตจิตฺเตน, อลํ เต อวิปฺปฏิสารายา’ติ. อธมฺมจุทิตสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อวิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ.
‘‘อธมฺมโจทกสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน ปฺจหากาเรหิ วิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ – ‘อกาเลน เต, อาวุโส, โจทิโต [จุทิโต (สี. สฺยา. ปี.)] โน กาเลน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; อภูเตน เต, อาวุโส, โจทิโต โน ภูเตน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; ผรุเสน เต, อาวุโส, โจทิโต โน สณฺเหน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; อนตฺถสํหิเตน เต, อาวุโส, โจทิโต โน อตฺถสํหิเตน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; โทสนฺตเรน เต, อาวุโส, โจทิโต โน เมตฺตจิตฺเตน, อลํ เต วิปฺปฏิสารายา’ติ. อธมฺมโจทกสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ วิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยถา น อฺโปิ ภิกฺขุ ¶ อภูเตน โจเทตพฺพํ มฺเยฺยาติ.
‘‘อิธ ปนาหํ, อาวุโส, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปสฺสามิ กาเลน โจทิยมานํ โน อกาเลน กุปิตํ, ภูเตน โจทิยมานํ โน อภูเตน กุปิตํ, สณฺเหน โจทิยมานํ โน ผรุเสน กุปิตํ, อตฺถสํหิเตน โจทิยมานํ โน อนตฺถสํหิเตน กุปิตํ, เมตฺตจิตฺเตน โจทิยมานํ โน โทสนฺตเรน กุปิตํ.
‘‘ธมฺมจุทิตสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน ปฺจหากาเรหิ วิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ – ‘กาเลนายสฺมา จุทิโต โน อกาเลน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; ภูเตนายสฺมา จุทิโต โน อภูเตน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; สณฺเหนายสฺมา จุทิโต โน ผรุเสน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; อตฺถสํหิเตนายสฺมา จุทิโต โน อนตฺถสํหิเตน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; เมตฺตจิตฺเตนายสฺมา จุทิโต โน โทสนฺตเรน, อลํ เต วิปฺปฏิสารายา’ติ. ธมฺมจุทิตสฺส ¶ , อาวุโส, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ วิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ.
‘‘ธมฺมโจทกสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน ปฺจหากาเรหิ อวิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ – ‘กาเลน เต, อาวุโส, โจทิโต โน อกาเลน, อลํ ¶ เต อวิปฺปฏิสาราย; ภูเตน เต, อาวุโส, โจทิโต โน อภูเตน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; สณฺเหน เต, อาวุโส, โจทิโต โน ¶ ผรุเสน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; อตฺถสํหิเตน เต, อาวุโส, โจทิโต โน อนตฺถสํหิเตน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; เมตฺตจิตฺเตน เต, อาวุโส, โจทิโต โน โทสนฺตเรน, อลํ เต อวิปฺปฏิสารายา’ติ. ธมฺมโจทกสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อวิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยถา อฺโปิ ¶ ภิกฺขุ ภูเตน โจทิตพฺพํ มฺเยฺยาติ.
‘‘จุทิเตน, อาวุโส, ปุคฺคเลน ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ – สจฺเจ จ, อกุปฺเป จ. มํ เจปิ [ปฺจหิ (สฺยา. ก.)], อาวุโส, ปเร โจเทยฺยุํ กาเลน วา อกาเลน วา ภูเตน วา อภูเตน วา สณฺเหน วา ผรุเสน วา อตฺถสํหิเตน วา อนตฺถสํหิเตน วา เมตฺตจิตฺตา [เมตฺตจิตฺเตน (สี. ปี. ก.) ม. นิ. ๑.๒๒๗ ปสฺสิตพฺพํ] วา โทสนฺตรา [โทสนฺตเรน (สี. ปี. ก.)] วา, อหมฺปิ ทฺวีสุเยว ธมฺเมสุ ปติฏฺเหยฺยํ – สจฺเจ จ, อกุปฺเป จ. สเจ ชาเนยฺยํ – ‘อตฺเถโส มยิ ธมฺโม’ติ, ‘อตฺถี’ติ นํ วเทยฺยํ – ‘สํวิชฺชเตโส มยิ ธมฺโม’ติ. สเจ ชาเนยฺยํ – ‘นตฺเถโส มยิ ธมฺโม’ติ, ‘นตฺถี’ติ นํ วเทยฺยํ – ‘เนโส ธมฺโม มยิ สํวิชฺชตี’ติ.
‘‘เอวมฺปิ โข เต [เอวมฺปิ โข (ก.)], สาริปุตฺต, วุจฺจมานา อถ จ ปนิเธกจฺเจ โมฆปุริสา น ปทกฺขิณํ คณฺหนฺตี’’ติ.
‘‘เย เต, ภนฺเต, ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ชีวิกตฺถา น สทฺธา ¶ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา สา มายาวิโน เกตพิโน [เกฏุภิโน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารา โภชเน อมตฺตฺุโน ชาคริยํ อนนุยุตฺตา สามฺเ อนเปกฺขวนฺโต สิกฺขาย น ติพฺพคารวา พาหุลิกา สาถลิกา โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา กุสีตา หีนวีริยา มุฏฺสฺสติโน อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ทุปฺปฺา เอฬมูคา, เต มยา เอวํ วุจฺจมานา น ปทกฺขิณํ คณฺหนฺติ.
‘‘เย ปน เต, ภนฺเต, กุลปุตฺตา ¶ สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา อสา อมายาวิโน อเกตพิโน อนุทฺธตา อนุนฺนฬา อจปลา อมุขรา อวิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา โภชเน มตฺตฺุโน ชาคริยํ ¶ อนุยุตฺตา สามฺเ อเปกฺขวนฺโต สิกฺขาย ติพฺพคารวา น พาหุลิกา น สาถลิกา โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา อารทฺธวีริยา ¶ ปหิตตฺตา อุปฏฺิตสฺสติโน สมฺปชานา สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา ปฺวนฺโต อเนฬมูคา, เต มยา เอวํ วุจฺจมานา ปทกฺขิณํ คณฺหนฺตีติ.
‘‘เย เต, สาริปุตฺต, ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ชีวิกตฺถา น สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา สา มายาวิโน เกตพิโน อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารา โภชเน อมตฺตฺุโน ชาคริยํ อนนุยุตฺตา สามฺเ อนเปกฺขวนฺโต สิกฺขาย น ติพฺพคารวา พาหุลิกา สาถลิกา โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา กุสีตา หีนวีริยา มุฏฺสฺสติโน อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ทุปฺปฺา เอฬมูคา, ติฏฺนฺตุ เต.
‘‘เย ปน, เต สาริปุตฺต, กุลปุตฺตา สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา อสา อมายาวิโน อเกตพิโน อนุทฺธตา อนุนฺนฬา อจปลา อมุขรา อวิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา โภชเน มตฺตฺุโน ชาคริยํ อนุยุตฺตา สามฺเ อเปกฺขวนฺโต สิกฺขาย ติพฺพคารวา น พาหุลิกา น สาถลิกา โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา อารทฺธวีริยา ปหิตตฺตา อุปฏฺิตสฺสติโน สมฺปชานา สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา ปฺวนฺโต อเนฬมูคา, เต ตฺวํ, สาริปุตฺต, วเทยฺยาสิ ¶ . โอวท, สาริปุตฺต ¶ , สพฺรหฺมจารี; อนุสาส, สาริปุตฺต, สพฺรหฺมจารี – ‘อสทฺธมฺมา วุฏฺาเปตฺวา สทฺธมฺเม ปติฏฺาเปสฺสามิ สพฺรหฺมจารี’ติ. เอวฺหิ เต, สาริปุตฺต, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. สีลสุตฺตํ
๑๖๘. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ทุสฺสีลสฺส, อาวุโส, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ ¶ …เป… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ ¶ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘สีลวโต, อาวุโส, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ ¶ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข, สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ…เป… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ¶ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ [อ. นิ. ๕.๑๖๘; ๖.๕๐; ๗.๖๕]. อฏฺมํ.
๙. ขิปฺปนิสนฺติสุตฺตํ
๑๖๙. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ [สาราณียํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ, กุสเลสุ ธมฺเมสุ สุคฺคหิตคฺคาหี จ, พหฺุจ คณฺหาติ, คหิตฺจสฺส นปฺปมุสฺสตี’’ติ? ‘‘อายสฺมา โข อานนฺโท พหุสฺสุโต. ปฏิภาตุ อายสฺมนฺตํเยว อานนฺท’’นฺติ. ‘‘เตนหาวุโส สาริปุตฺต, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ ¶ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –
‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อตฺถกุสโล จ โหติ, ธมฺมกุสโล จ, พฺยฺชนกุสโล จ ¶ , นิรุตฺติกุสโล จ, ปุพฺพาปรกุสโล จ. เอตฺตาวตา โข ¶ , อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สุคฺคหิตคฺคาหี จ, พหฺุจ คณฺหาติ, คหิตฺจสฺส นปฺปมุสฺสตี’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส! อพฺภุตํ, อาวุโส!! ยาว สุภาสิตํ จิทํ อายสฺมตา อานนฺเทน. อิเมหิ จ มยํ ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ธาเรม – ‘อายสฺมา อานนฺโท อตฺถกุสโล ธมฺมกุสโล พฺยฺชนกุสโล นิรุตฺติกุสโล ปุพฺพาปรกุสโล’’’ติ. นวมํ.
๑๐. ภทฺทชิสุตฺตํ
๑๗๐. เอกํ ¶ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. อถ โข อายสฺมา ภทฺทชิ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ภทฺทชึ อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, อาวุโส ภทฺทชิ, ทสฺสนานํ อคฺคํ, กึ สวนานํ อคฺคํ, กึ สุขานํ อคฺคํ, กึ สฺานํ อคฺคํ, กึ ภวานํ อคฺค’’นฺติ?
‘‘อตฺถาวุโส, พฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี, โย ตํ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, อิทํ ทสฺสนานํ อคฺคํ. อตฺถาวุโส, อาภสฺสรา นาม เทวา สุเขน อภิสนฺนา ปริสนฺนา. เต กทาจิ กรหจิ อุทานํ อุทาเนนฺติ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ! โย ตํ สทฺทํ สุณาติ, อิทํ สวนานํ อคฺคํ. อตฺถาวุโส, สุภกิณฺหา นาม เทวา. เต สนฺตํเยว ตุสิตา สุขํ ปฏิเวเทนฺติ, อิทํ สุขานํ อคฺคํ. อตฺถาวุโส, อากิฺจฺายตนูปคา เทวา, อิทํ สฺานํ ¶ อคฺคํ. อตฺถาวุโส, เนวสฺานาสฺายตนูปคา เทวา, อิทํ ภวานํ อคฺค’’นฺติ. ‘‘สเมติ โข อิทํ อายสฺมโต ภทฺทชิสฺส, ยทิทํ พหุนา ชเนนา’’ติ?
‘‘อายสฺมา ¶ โข, อานนฺโท, พหุสฺสุโต. ปฏิภาตุ อายสฺมนฺตํเยว อานนฺท’’นฺติ. ‘‘เตนหาวุโส ภทฺทชิ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา ภทฺทชิ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –
‘‘ยถา ¶ ปสฺสโต โข, อาวุโส, อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ, อิทํ ทสฺสนานํ อคฺคํ. ยถา สุณโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ, อิทํ สวนานํ อคฺคํ. ยถา สุขิตสฺส อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ, อิทํ สุขานํ อคฺคํ. ยถา สฺิสฺส อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ, อิทํ สฺานํ อคฺคํ. ยถา ภูตสฺส อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ, อิทํ ภวานํ อคฺค’’นฺติ. ทสมํ.
อาฆาตวคฺโค ¶ ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว อาฆาตวินยา, สากจฺฉา สาชีวโต ปฺหํ;
ปุจฺฉา นิโรโธ โจทนา, สีลํ นิสนฺติ ภทฺทชีติ.