📜
(๒๑) ๑. กิมิลวคฺโค
๑. กิมิลสุตฺตํ
๒๐๑. เอกํ ¶ ¶ ¶ สมยํ ภควา กิมิลายํ [กิมฺพิลายํ (สี. ปี.) อ. นิ. ๖.๔๐; ๗.๕๙] วิหรติ เวฬุวเน. อถ โข อายสฺมา กิมิโล [กิมฺพิโล (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา กิมิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม น จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, กิมิล, ตถาคเต ปรินิพฺพุเต ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย สตฺถริ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, ธมฺเม อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, สงฺเฆ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, สิกฺขาย อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, อฺมฺํ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา. อยํ โข, กิมิล, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม น จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ.
‘‘โก ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, กิมิล, ตถาคเต ปรินิพฺพุเต ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย สตฺถริ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, ธมฺเม สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, สงฺเฆ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, สิกฺขาย สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, อฺมฺํ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา. อยํ โข, กิมิล, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม ¶ จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ. ปมํ.
๒. ธมฺมสฺสวนสุตฺตํ
๒๐๒. ‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, อานิสํสา ธมฺมสฺสวเน. กตเม ปฺจ? อสฺสุตํ สุณาติ ¶ , สุตํ ปริโยทาเปติ, กงฺขํ วิตรติ [วิหนติ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)], ทิฏฺึ อุชุํ กโรติ, จิตฺตมสฺส ปสีทติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา ธมฺมสฺสวเน’’ติ. ทุติยํ.
๓. อสฺสาชานียสุตฺตํ
๒๐๓. ‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร [ภทฺโท (ปี.)] อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘กตเมหิ ปฺจหิ? อชฺชเวน, ชเวน, มทฺทเวน, ขนฺติยา, โสรจฺเจน – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. ‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส.
‘‘กตเมหิ ปฺจหิ? อชฺชเวน, ชเวน, มทฺทเวน, ขนฺติยา, โสรจฺเจน – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ตติยํ.
๔. พลสุตฺตํ
๒๐๔. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธาพลํ, หิริพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, วีริยพลํ, ปฺาพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ พลานี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. เจโตขิลสุตฺตํ
๒๐๕. [อ. นิ. ๙.๗๑; ม. นิ. ๑.๑๘๕; ที. นิ. ๓.๓๑๙] ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, เจโตขิลา. กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ ¶ น สมฺปสีทติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย ¶ สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปโม เจโตขิโล.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเม กงฺขติ…เป… สงฺเฆ กงฺขติ…เป… สิกฺขาย กงฺขติ…เป… สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ ¶ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปฺจโม เจโตขิโล. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ เจโตขิลา’’ติ. ปฺจมํ.
๖. วินิพนฺธสุตฺตํ
๒๐๖. [อ. นิ. ๙.๗๒; ที. นิ. ๓.๓๒๐] ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, เจตโสวินิพนฺธา [เจโตวินิพทฺธา (สารตฺถทีปนีฏีกายํ)]. กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค [อวิคตราโค (ก.)] โหติ อวิคตจฺฉนฺโท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห อวิคตตณฺโห. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉนฺโท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห อวิคตตณฺโห, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปโม เจตโสวินิพนฺโธ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย อวีตราโค โหติ…เป… รูเป อวีตราโค ¶ โหติ…เป… ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ…เป… อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย ¶ พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปฺจโม เจตโสวินิพนฺโธ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ยาคุสุตฺตํ
๒๐๗. ‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, อานิสํสา ยาคุยา. กตเม ปฺจ? ขุทฺทํ [ขุทํ (สี. ปี.) ขุธาติ สกฺกตานุโลมํ. มหาว. ๒๘๒] ปฏิหนติ, ปิปาสํ ปฏิวิเนติ, วาตํ อนุโลเมติ, วตฺถึ โสเธติ, อามาวเสสํ ¶ ปาเจติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา ยาคุยา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. ทนฺตกฏฺสุตฺตํ
๒๐๘. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา ทนฺตกฏฺสฺส อขาทเน. กตเม ปฺจ? อจกฺขุสฺสํ, มุขํ ทุคฺคนฺธํ โหติ, รสหรณิโย น วิสุชฺฌนฺติ, ปิตฺตํ เสมฺหํ ภตฺตํ ปริโยนนฺธติ [ปริโยนทฺธนฺติ (สี. ปี.), ปริโยนทฺธติ (สฺยา. กํ. ก.) จูฬว. ๒๘๒ ปสฺสิตพฺพํ], ภตฺตมสฺส นจฺฉาเทติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา ทนฺตกฏฺสฺส อขาทเน.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา ทนฺตกฏฺสฺส ขาทเน. กตเม ปฺจ? จกฺขุสฺสํ, มุขํ ¶ น ทุคฺคนฺธํ โหติ, รสหรณิโย วิสุชฺฌนฺติ, ปิตฺตํ เสมฺหํ ภตฺตํ น ปริโยนนฺธติ, ภตฺตมสฺส ฉาเทติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา ทนฺตกฏฺสฺส ขาทเน’’ติ. อฏฺมํ.
๙. คีตสฺสรสุตฺตํ
๒๐๙. [จูฬว. ๒๔๙] ‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, อาทีนวา อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ ภณนฺตสฺส. กตเม ปฺจ? อตฺตนาปิ ตสฺมึ สเร สารชฺชติ, ปเรปิ ตสฺมึ สเร สารชฺชนฺติ, คหปติกาปิ อุชฺฌายนฺติ – ‘ยเถว มยํ คายาม, เอวเมวํ โข สมณา สกฺยปุตฺติยา คายนฺตี’ติ, สรกุตฺติมฺปิ นิกามยมานสฺส สมาธิสฺส ภงฺโค โหติ, ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ ภณนฺตสฺสา’’ติ. นวมํ.
๑๐. มุฏฺสฺสติสุตฺตํ
๒๑๐. [มหาว. ๓๕๓] ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมยโต ¶ . กตเม ปฺจ? ทุกฺขํ สุปติ, ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌติ, ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ, เทวตา น รกฺขนฺติ, อสุจิ มุจฺจติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมยโต.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา อุปฏฺิตสฺสติสฺส สมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมยโต. กตเม ปฺจ? สุขํ สุปติ, สุขํ ปฏิพุชฺฌติ, น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ ¶ , เทวตา รกฺขนฺติ, อสุจิ น มุจฺจติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา อุปฏฺิตสฺสติสฺส สมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมยโต’’ติ. ทสมํ.
กิมิลวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
กิมิโล ¶ ธมฺมสฺสวนํ, อาชานีโย พลํ ขิลํ;
วินิพนฺธํ ยาคุ กฏฺํ, คีตํ มุฏฺสฺสตินา จาติ.