📜
(๒๓) ๓. ทีฆจาริกวคฺโค
๑. ปมทีฆจาริกสุตฺตํ
๒๒๑. ‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, อาทีนวา ทีฆจาริกํ อนวตฺถจาริกํ อนุยุตฺตสฺส วิหรโต. กตเม ปฺจ? อสฺสุตํ น สุณาติ, สุตํ น ปริโยทาเปติ, สุเตเนกจฺเจน อวิสารโท โหติ, คาฬฺหํ [พาฬฺหํ (สฺยา.)] โรคาตงฺกํ ผุสติ, น จ มิตฺตวา โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา ทีฆจาริกํ อนวตฺถจาริกํ อนุยุตฺตสฺส วิหรโต.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา สมวตฺถจาเร. กตเม ปฺจ? อสฺสุตํ สุณาติ, สุตํ ปริโยทาเปติ, สุเตเนกจฺเจน วิสารโท โหติ, น คาฬฺหํ โรคาตงฺกํ ผุสติ, มิตฺตวา จ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา สมวตฺถจาเร’’ติ. ปมํ.
๒. ทุติยทีฆจาริกสุตฺตํ
๒๒๒. ‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, อาทีนวา ทีฆจาริกํ อนวตฺถจาริกํ อนุยุตฺตสฺส วิหรโต. กตเม ปฺจ? อนธิคตํ นาธิคจฺฉติ, อธิคตา ปริหายติ, อธิคเตเนกจฺเจน อวิสารโท โหติ, คาฬฺหํ โรคาตงฺกํ ผุสติ, น จ มิตฺตวา โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา ทีฆจาริกํ อนวตฺถจาริกํ อนุยุตฺตสฺส วิหรโต.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา ¶ สมวตฺถจาเร. กตเม ปฺจ? อนธิคตํ อธิคจฺฉติ, อธิคตา น ปริหายติ, อธิคเตเนกจฺเจน วิสารโท โหติ, น คาฬฺหํ โรคาตงฺกํ ผุสติ, มิตฺตวา จ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา สมวตฺถจาเร’’ติ. ทุติยํ.
๓. อตินิวาสสุตฺตํ
๒๒๓. ‘‘ปฺจิเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อาทีนวา อตินิวาเส. กตเม ปฺจ? พหุภณฺโฑ โหติ พหุภณฺฑสนฺนิจโย, พหุเภสชฺโช โหติ พหุเภสชฺชสนฺนิจโย, พหุกิจฺโจ โหติ พหุกรณีโย พฺยตฺโต กึกรณีเยสุ, สํสฏฺโ วิหรติ คหฏฺปพฺพชิเตหิ อนนุโลมิเกน คิหิสํสคฺเคน, ตมฺหา จ อาวาสา ปกฺกมนฺโต สาเปกฺโข ปกฺกมติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา อตินิวาเส.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา สมวตฺถวาเส. กตเม ปฺจ? น พหุภณฺโฑ โหติ น พหุภณฺฑสนฺนิจโย, น พหุเภสชฺโช โหติ น พหุเภสชฺชสนฺนิจโย, น พหุกิจฺโจ โหติ น พหุกรณีโย น พฺยตฺโต กึกรณีเยสุ, อสํสฏฺโ วิหรติ คหฏฺปพฺพชิเตหิ อนนุโลมิเกน คิหิสํสคฺเคน, ตมฺหา จ อาวาสา ปกฺกมนฺโต อนเปกฺโข ปกฺกมติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา สมวตฺถวาเส’’ติ. ตติยํ.
๔. มจฺฉรีสุตฺตํ
๒๒๔. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา อตินิวาเส. กตเม ปฺจ? อาวาสมจฺฉรี โหติ, กุลมจฺฉรี โหติ, ลาภมจฺฉรี โหติ, วณฺณมจฺฉรี โหติ, ธมฺมมจฺฉรี โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา อตินิวาเส.
‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, อานิสํสา สมวตฺถวาเส. กตเม ปฺจ? น ¶ อาวาสมจฺฉรี โหติ, น กุลมจฺฉรี โหติ, น ลาภมจฺฉรี โหติ, น วณฺณมจฺฉรี โหติ, น ธมฺมมจฺฉรี โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา สมวตฺถวาเส’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ปมกุลูปกสุตฺตํ
๒๒๕. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา กุลูปเก [กุลุปเก (สฺยา. ปี.), กุลูปเค (สี.)]. กตเม ปฺจ? อนามนฺตจาเร ¶ อาปชฺชติ, รโห นิสชฺชาย อาปชฺชติ, ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน อาปชฺชติ, มาตุคามสฺส อุตฺตริ ฉปฺปฺจวาจาหิ ¶ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาปชฺชติ, กามสงฺกปฺปพหุโล วิหรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา กุลูปเก’’ติ. ปฺจมํ.
๖. ทุติยกุลูปกสุตฺตํ
๒๒๖. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา กุลูปกสฺส ภิกฺขุโน อติเวลํ กุเลสุ สํสฏฺสฺส วิหรโต. กตเม ปฺจ? มาตุคามสฺส อภิณฺหทสฺสนํ, ทสฺสเน สติ สํสคฺโค, สํสคฺเค สติ วิสฺสาโส, วิสฺสาเส สติ โอตาโร, โอติณฺณจิตฺตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘อนภิรโต วา พฺรหฺมจริยํ จริสฺสติ อฺตรํ วา สํกิลิฏฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชิสฺสติ สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสติ’. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา กุลูปกสฺส ภิกฺขุโน อติเวลํ กุเลสุ สํสฏฺสฺส วิหรโต’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. โภคสุตฺตํ
๒๒๗. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา โภเคสุ. กตเม ปฺจ? อคฺคิสาธารณา โภคา, อุทกสาธารณา โภคา, ราชสาธารณา โภคา, โจรสาธารณา โภคา, อปฺปิเยหิ ทายาเทหิ สาธารณา โภคา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา โภเคสุ.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา โภเคสุ. กตเม ปฺจ? โภเค นิสฺสาย อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สมฺมา ¶ สุขํ ปริหรติ, มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ, ปุตฺตทารทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ¶ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ, มิตฺตามจฺเจ สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ, สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา โภเคสู’’ติ. สตฺตมํ.
๘. อุสฺสูรภตฺตสุตฺตํ
๒๒๘. ‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, อาทีนวา อุสฺสูรภตฺเต กุเล. กตเม ปฺจ? เย เต อติถี ปาหุนา, เต น กาเลน ¶ ปฏิปูเชนฺติ; ยา ตา พลิปฏิคฺคาหิกา เทวตา, ตา น กาเลน ปฏิปูเชนฺติ; เย เต สมณพฺราหฺมณา เอกภตฺติกา รตฺตูปรตา วิรตา วิกาลโภชนา, เต น กาเลน ปฏิปูเชนฺติ; ทาสกมฺมกรโปริสา วิมุขา กมฺมํ กโรนฺติ; ตาวตกํเยว อสมเยน ภุตฺตํ อโนชวนฺตํ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา อุสฺสูรภตฺเต กุเล.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา สมยภตฺเต กุเล. กตเม ปฺจ? เย เต อติถี ปาหุนา, เต กาเลน ปฏิปูเชนฺติ; ยา ตา พลิปฏิคฺคาหิกา เทวตา, ตา กาเลน ปฏิปูเชนฺติ; เย เต สมณพฺราหฺมณา เอกภตฺติกา รตฺตูปรตา วิรตา วิกาลโภชนา, เต กาเลน ปฏิปูเชนฺติ; ทาสกมฺมกรโปริสา อวิมุขา กมฺมํ กโรนฺติ; ตาวตกํเยว สมเยน ภุตฺตํ โอชวนฺตํ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา สมยภตฺเต กุเล’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ปมกณฺหสปฺปสุตฺตํ
๒๒๙. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา กณฺหสปฺเป. กตเม ปฺจ? อสุจิ, ทุคฺคนฺโธ, สภีรุ, สปฺปฏิภโย, มิตฺตทุพฺภี – อิเม โข, ภิกฺขเว ¶ , ปฺจ อาทีนวา กณฺหสปฺเป. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจิเม อาทีนวา มาตุคาเม. กตเม ปฺจ? อสุจิ, ทุคฺคนฺโธ, สภีรุ, สปฺปฏิภโย, มิตฺตทุพฺภี – อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา มาตุคาเม’’ติ. นวมํ.
๑๐. ทุติยกณฺหสปฺปสุตฺตํ
๒๓๐. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา กณฺหสปฺเป. กตเม ปฺจ? โกธโน, อุปนาหี, โฆรวิโส, ทุชฺชิวฺโห, มิตฺตทุพฺภี – อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา กณฺหสปฺเป.
‘‘เอวเมวํ ¶ โข, ภิกฺขเว, ปฺจิเม อาทีนวา มาตุคาเม. กตเม ปฺจ? โกธโน, อุปนาหี, โฆรวิโส, ทุชฺชิวฺโห, มิตฺตทุพฺภี. ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส โฆรวิสตา – เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ติพฺพราโค. ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส ทุชฺชิวฺหตา – เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปิสุณวาโจ. ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส มิตฺตทุพฺภิตา – เยภุยฺเยน ¶ , ภิกฺขเว, มาตุคาโม อติจารินี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา มาตุคาเม’’ติ. ทสมํ.
ทีฆจาริกวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว ทีฆจาริกา วุตฺตา, อตินิวาสมจฺฉรี;
ทฺเว จ กุลูปกา โภคา, ภตฺตํ สปฺปาปเร ทุเวติ.