📜
(๒๔) ๔. อาวาสิกวคฺโค
๑. อาวาสิกสุตฺตํ
๒๓๑. ‘‘ปฺจหิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ อภาวนีโย โหติ. กตเมหิ ปฺจหิ? น อากปฺปสมฺปนฺโน โหติ น วตฺตสมฺปนฺโน; น พหุสฺสุโต โหติ น สุตธโร; น ปฏิสลฺเลขิตา [สลฺเลขิตา (ก. สี.)] โหติ น ปฏิสลฺลานาราโม; น กลฺยาณวาโจ โหติ น กลฺยาณวากฺกรโณ; ทุปฺปฺโ โหติ ชโฬ เอฬมูโค. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ อภาวนีโย โหติ.
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ภาวนีโย โหติ. กตเมหิ ปฺจหิ? อากปฺปสมฺปนฺโน ¶ โหติ วตฺตสมฺปนฺโน; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร; ปฏิสลฺเลขิตา โหติ ปฏิสลฺลานาราโม; กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ; ปฺวา โหติ อชโฬ ¶ อเนฬมูโค. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ภาวนีโย โหตี’’ติ. ปมํ.
๒. ปิยสุตฺตํ
๒๓๒. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ.
‘‘กตเมหิ ปฺจหิ? สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ¶ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา ¶ ; กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. ทุติยํ.
๓. โสภนสุตฺตํ
๒๓๓. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ อาวาสํ โสเภติ. กตเมหิ ปฺจหิ? สีลวา ¶ โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; ปฏิพโล โหติ อุปสงฺกมนฺเต ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุํ; จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ อาวาสํ โสเภตี’’ติ. ตติยํ.
๔. พหูปการสุตฺตํ
๒๓๔. ‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ อาวาสสฺส ¶ พหูปกาโร โหติ. กตเมหิ ปฺจหิ? สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ขณฺฑผุลฺลํ ปฏิสงฺขโรติ; มหา โข ปน ภิกฺขุสงฺโฆ อภิกฺกนฺโต นานาเวรชฺชกา ภิกฺขู คิหีนํ อุปสงฺกมิตฺวา อาโรเจติ – ‘มหา โข, อาวุโส, ภิกฺขุสงฺโฆ อภิกฺกนฺโต นานาเวรชฺชกา ภิกฺขู, กโรถ ปฺุานิ, สมโย ปฺุานิ กาตุ’นฺติ; จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ อาวาสสฺส พหูปกาโร โหตี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. อนุกมฺปสุตฺตํ
๒๓๕. ‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ คิหีนํ [คิหึ (สฺยา.), คิหี (กตฺถจิ)] อนุกมฺปติ. กตเมหิ ปฺจหิ? อธิสีเล [อธิสีเลสุ (สฺยา.)] สมาทเปติ; ธมฺมทสฺสเน นิเวเสติ; คิลานเก อุปสงฺกมิตฺวา สตึ อุปฺปาเทติ – ‘อรหคฺคตํ อายสฺมนฺโต ¶ สตึ อุปฏฺาเปถา’ติ; มหา โข ปน ภิกฺขุสงฺโฆ อภิกฺกนฺโต นานาเวรชฺชกา ภิกฺขู คิหีนํ อุปสงฺกมิตฺวา อาโรเจติ – ‘มหา โข, อาวุโส, ภิกฺขุสงฺโฆ อภิกฺกนฺโต นานาเวรชฺชกา ภิกฺขู, กโรถ ปฺุานิ, สมโย ปฺุานิ กาตุ’นฺติ; ยํ โข ปนสฺส โภชนํ เทนฺติ ลูขํ วา ปณีตํ วา ตํ อตฺตนา ปริภฺุชติ, สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ คิหีนํ อนุกมฺปตี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. ปมอวณฺณารหสุตฺตํ
๒๓๖. ‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ; อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ; อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ; อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ¶ ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ; สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ; อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ; อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ; อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ; สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ทุติยอวณฺณารหสุตฺตํ
๒๓๗. ‘‘ปฺจหิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ; อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ; อาวาสมจฺฉรี โหติ อาวาสปลิเคธี; กุลมจฺฉรี โหติ กุลปลิเคธี; สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ. อิเมหิ ¶ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ; อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ; น อาวาสมจฺฉรี โหติ น อาวาสปลิเคธี; น กุลมจฺฉรี โหติ น กุลปลิเคธี; สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. สตฺตมํ.
๘. ตติยอวณฺณารหสุตฺตํ
๒๓๘. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ¶ อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ; อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ; อาวาสมจฺฉรี โหติ; กุลมจฺฉรี โหติ; ลาภมจฺฉรี โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ; อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ ¶ ; น อาวาสมจฺฉรี โหติ; น กุลมจฺฉรี โหติ ¶ ; น ลาภมจฺฉรี โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ปมมจฺฉริยสุตฺตํ
๒๓๙. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ ¶ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อาวาสมจฺฉรี โหติ; กุลมจฺฉรี โหติ; ลาภมจฺฉรี โหติ; วณฺณมจฺฉรี [ธมฺมมจฺฉรี (ก.)] โหติ; สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? น อาวาสมจฺฉรี โหติ; น กุลมจฺฉรี โหติ; น ลาภมจฺฉรี โหติ; น วณฺณมจฺฉรี โหติ; สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. นวมํ.
๑๐. ทุติยมจฺฉริยสุตฺตํ
๒๔๐. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ปฺจหิ? อาวาสมจฺฉรี โหติ; กุลมจฺฉรี โหติ; ลาภมจฺฉรี โหติ; วณฺณมจฺฉรี โหติ; ธมฺมมจฺฉรี โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ปฺจหิ? น อาวาสมจฺฉรี โหติ; น กุลมจฺฉรี โหติ; น ลาภมจฺฉรี ¶ โหติ; น วณฺณมจฺฉรี โหติ; น ธมฺมมจฺฉรี โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ทสมํ.
อาวาสิกวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
อาวาสิโก ¶ ปิโย จ โสภโน,
พหูปกาโร อนุกมฺปโก จ;
ตโย อวณฺณารหา เจว,
มจฺฉริยา ทุเวปิ จาติ [ยถาภตํ จาปิ อวณฺณเคธา, จตุกฺกมจฺเฉร ปฺจเมน จาติ (สี. สฺยา.) ยถาภตํ อวณฺณฺจ, จตุโก มจฺฉริเยน จาติ (ก.)].