📜

๔. สุมนวคฺโค

๑. สุมนสุตฺตํ

๓๑. เอกํ สมยํ…เป… อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข สุมนา ราชกุมารี ปฺจหิ รถสเตหิ ปฺจหิ ราชกุมาริสเตหิ ปริวุตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข สุมนา ราชกุมารี ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธสฺสุ, ภนฺเต, ภควโต ทฺเว สาวกา สมสทฺธา สมสีลา สมปฺา – เอโก ทายโก, เอโก อทายโก. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยุํ. เทวภูตานํ ปน เนสํ [เตสํ (สี.)], ภนฺเต, สิยา วิเสโส, สิยา นานากรณ’’นฺติ?

‘‘สิยา, สุมเน’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘โย โส, สุมเน, ทายโก โส อมุํ อทายกํ เทวภูโต สมาโน ปฺจหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา, ทิพฺเพน วณฺเณน, ทิพฺเพน สุเขน, ทิพฺเพน ยเสน, ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน. โย โส, สุมเน, ทายโก โส อมุํ อทายกํ เทวภูโต สมาโน อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ’’.

‘‘สเจ ปน เต, ภนฺเต, ตโต จุตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉนฺติ, มนุสฺสภูตานํ ปน เนสํ, ภนฺเต, สิยา วิเสโส, สิยา นานากรณ’’นฺติ? ‘‘สิยา, สุมเน’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘โย โส, สุมเน, ทายโก โส อมุํ อทายกํ มนุสฺสภูโต สมาโน ปฺจหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – มานุสเกน อายุนา, มานุสเกน วณฺเณน, มานุสเกน สุเขน, มานุสเกน ยเสน, มานุสเกน อาธิปเตยฺเยน. โย โส, สุมเน, ทายโก โส อมุํ อทายกํ มนุสฺสภูโต สมาโน อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ’’.

‘‘สเจ ปน เต, ภนฺเต, อุโภ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ปพฺพชิตานํ ปน เนสํ, ภนฺเต , สิยา วิเสโส, สิยา นานากรณ’’นฺติ? ‘‘สิยา, สุมเน’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘โย โส, สุมเน, ทายโก โส อมุํ อทายกํ ปพฺพชิโต สมาโน ปฺจหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภุฺชติ อปฺปํ อยาจิโต, ยาจิโตว พหุลํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชติ อปฺปํ อยาจิโต, ยาจิโตว พหุลํ เสนาสนํ ปริภุฺชติ อปฺปํ อยาจิโต, ยาจิโตว พหุลํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภุฺชติ อปฺปํ อยาจิโต. เยหิ โข ปน สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ วิหรติ ตฺยสฺส มนาเปเนว พหุลํ กายกมฺเมน สมุทาจรนฺติ อปฺปํ อมนาเปน, มนาเปเนว พหุลํ วจีกมฺเมน สมุทาจรนฺติ อปฺปํ อมนาเปน, มนาเปเนว พหุลํ มโนกมฺเมน สมุทาจรนฺติ อปฺปํ อมนาเปน, มนาปํเยว พหุลํ อุปหารํ อุปหรนฺติ อปฺปํ อมนาปํ . โย โส, สุมเน, ทายโก โส อมุํ อทายกํ ปพฺพชิโต สมาโน อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ อธิคณฺหาตี’’ติ.

‘‘สเจ ปน เต, ภนฺเต, อุโภ อรหตฺตํ ปาปุณนฺติ, อรหตฺตปฺปตฺตานํ ปน เนสํ, ภนฺเต, สิยา วิเสโส, สิยา นานากรณ’’นฺติ? ‘‘เอตฺถ โข ปเนสาหํ, สุมเน, น กิฺจิ นานากรณํ วทามิ, ยทิทํ วิมุตฺติยา วิมุตฺติ’’นฺติ [วิมุตฺตนฺติ (สฺยา. กํ.)].

‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาวฺจิทํ, ภนฺเต, อลเมว ทานานิ ทาตุํ อลํ ปุฺานิ กาตุํ; ยตฺร หิ นาม เทวภูตสฺสาปิ อุปการานิ ปุฺานิ, มนุสฺสภูตสฺสาปิ อุปการานิ ปุฺานิ, ปพฺพชิตสฺสาปิ อุปการานิ ปุฺานี’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, สุมเน! อลฺหิ, สุมเน, ทานานิ ทาตุํ อลํ ปุฺานิ กาตุํ! เทวภูตสฺสาปิ อุปการานิ ปุฺานิ, มนุสฺสภูตสฺสาปิ อุปการานิ ปุฺานิ, ปพฺพชิตสฺสาปิ อุปการานิ ปุฺานี’’ติ .

อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน [อิทํ วตฺวา (สี. ปี.) เอวมุปริปิ] สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘ยถาปิ จนฺโท วิมโล, คจฺฉํ อากาสธาตุยา;

สพฺเพ ตาราคเณ โลเก, อาภาย อติโรจติ.

‘‘ตเถว สีลสมฺปนฺโน, สทฺโธ ปุริสปุคฺคโล;

สพฺเพ มจฺฉริโน โลเก, จาเคน อติโรจติ.

‘‘ยถาปิ เมโฆ ถนยํ, วิชฺชุมาลี สตกฺกกุ;

ถลํ นินฺนฺจ ปูเรติ, อภิวสฺสํ วสุนฺธรํ.

‘‘เอวํ ทสฺสนสมฺปนฺโน, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก;

มจฺฉรึ อธิคณฺหาติ, ปฺจาเนหิ ปณฺฑิโต.

‘‘อายุนา ยสสา เจว [อายุนา จ ยเสน จ (ก.)], วณฺเณน จ สุเขน จ;

ส เว โภคปริพฺยูฬฺโห [โภคปริพฺพูฬฺโห (สี.)], เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ. ปมํ;

๒. จุนฺทีสุตฺตํ

๓๒. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข จุนฺที ราชกุมารี ปฺจหิ รถสเตหิ ปฺจหิ จ กุมาริสเตหิ ปริวุตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข จุนฺที ราชกุมารี ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, ภาตา จุนฺโท นาม ราชกุมาโร, โส เอวมาห – ‘ยเทว โส โหติ อิตฺถี วา ปุริโส วา พุทฺธํ สรณํ คโต, ธมฺมํ สรณํ คโต, สงฺฆํ สรณํ คโต, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึเยว อุปปชฺชติ, โน ทุคฺคติ’นฺติ. สาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ปุจฺฉามิ – ‘กถํรูเป โข, ภนฺเต, สตฺถริ ปสนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึเยว อุปปชฺชติ, โน ทุคฺคตึ? กถํรูเป ธมฺเม ปสนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึเยว อุปปชฺชติ, โน ทุคฺคตึ? กถํรูเป สงฺเฆ ปสนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึเยว อุปปชฺชติ, โน ทุคฺคตึ? กถํรูเปสุ สีเลสุ ปริปูรการี กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึเยว อุปปชฺชติ, โน ทุคฺคติ’’’นฺติ?

‘‘ยาวตา, จุนฺทิ, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา [อปาทา วา ทฺวีปาทา วาจตุปฺปาทา วา พหุปฺปาทา วา (สี.) อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐] รูปิโน วา อรูปิโน วา สฺิโน วา อสฺิโน วา เนวสฺินาสฺิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. เย โข, จุนฺทิ, พุทฺเธ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.

‘‘ยาวตา, จุนฺทิ, ธมฺมา สงฺขตา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เตสํ อคฺคมกฺขายติ. เย, จุนฺทิ, อริเย อฏฺงฺคิเก มคฺเค ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา, อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.

‘‘ยาวตา , จุนฺทิ, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ [เตสํ ธมฺมานํ (สี. ปี. ก.)] อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ – มทนิมฺมทโน ปิปาสวินโย อาลยสมุคฺฆาโต วฏฺฏุปจฺเฉโท ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. เย โข, จุนฺทิ , วิราเค ธมฺเม ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.

‘‘ยาวตา, จุนฺทิ, สงฺฆา วา คณา วา, ตถาคตสาวกสงฺโฆ เตสํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ – จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. เย โข, จุนฺทิ, สงฺเฆ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.

‘‘ยาวตา, จุนฺทิ, สีลานิ, อริยกนฺตานิ สีลานิ เตสํ [อริยกนฺตานิเตสํ (สี. สฺยา. กํ.)] อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ – อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ. เย โข, จุนฺทิ, อริยกนฺเตสุ สีเลสุ ปริปูรการิโน, อคฺเค เต ปริปูรการิโน. อคฺเค โข ปน ปริปูรการีนํ อคฺโค วิปาโก โหตี’’ติ.

‘‘อคฺคโต เว ปสนฺนานํ, อคฺคํ ธมฺมํ วิชานตํ;

อคฺเค พุทฺเธ ปสนฺนานํ, ทกฺขิเณยฺเย อนุตฺตเร.

‘‘อคฺเค ธมฺเม ปสนฺนานํ, วิราคูปสเม สุเข;

อคฺเค สงฺเฆ ปสนฺนานํ, ปุฺกฺเขตฺเต อนุตฺตเร.

‘‘อคฺคสฺมึ ทานํ ททตํ, อคฺคํ ปุฺํ ปวฑฺฒติ;

อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ, ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ.

‘‘อคฺคสฺส ทาตา เมธาวี, อคฺคธมฺมสมาหิโต;

เทวภูโต มนุสฺโส วา, อคฺคปฺปตฺโต ปโมทตี’’ติ. ทุติยํ;

๓. อุคฺคหสุตฺตํ

๓๓. เอกํ สมยํ ภควา ภทฺทิเย วิหรติ ชาติยา วเน. อถ โข อุคฺคโห เมณฺฑกนตฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุคฺคโห เมณฺฑกนตฺตา ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย อตฺตจตุตฺโถ ภตฺต’’นฺติ . อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข อุคฺคโห เมณฺฑกนตฺตา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อุคฺคหสฺส เมณฺฑกนตฺตุโน นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อุคฺคโห เมณฺฑกนตฺตา ภควนฺตํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข อุคฺคโห เมณฺฑกนตฺตา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุคฺคโห เมณฺฑกนตฺตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมา เม, ภนฺเต, กุมาริโย ปติกุลานิ คมิสฺสนฺติ. โอวทตุ ตาสํ, ภนฺเต, ภควา; อนุสาสตุ ตาสํ, ภนฺเต, ภควา, ยํ ตาสํ อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.

อถ โข ภควา ตา กุมาริโย เอตทโวจ – ‘‘ตสฺมาติห, กุมาริโย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ยสฺส โว [ยสฺส โข (สี. สฺยา. กํ.)] มาตาปิตโร ภตฺตุโน ทสฺสนฺติ อตฺถกามา หิเตสิโน อนุกมฺปกา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ตสฺส ภวิสฺสาม ปุพฺพุฏฺายินิโย ปจฺฉานิปาตินิโย กึการปฏิสฺสาวินิโย มนาปจารินิโย ปิยวาทินิโย’ติ. เอวฺหิ โว, กุมาริโย, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘ตสฺมาติห, กุมาริโย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘เย เต ภตฺตุ ครุโน [คุรุโน (ก.)] ภวิสฺสนฺติ มาตาติ วา ปิตาติ วา สมณพฺราหฺมณาติ วา, เต สกฺกริสฺสาม ครุํ กริสฺสาม [ครุกริสฺสาม (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มาเนสฺสาม ปูเชสฺสาม อพฺภาคเต จ อาสโนทเกน ปฏิปูเชสฺสามา’ติ [ปูเชสฺสามาติ (สี.)]. เอวฺหิ โว, กุมาริโย, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘ตสฺมาติห , กุมาริโย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘เย เต ภตฺตุ อพฺภนฺตรา กมฺมนฺตา อุณฺณาติ วา กปฺปาสาติ วา, ตตฺถ ทกฺขา ภวิสฺสาม อนลสา , ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคตา, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุ’นฺติ. เอวฺหิ โว, กุมาริโย, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘ตสฺมาติห, กุมาริโย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘โย โส ภตฺตุ อพฺภนฺตโร [อพฺภนฺตเร (ก.)] อนฺโตชโน ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตสํ กตฺจ กตโต ชานิสฺสาม อกตฺจ อกตโต ชานิสฺสาม, คิลานกานฺจ พลาพลํ ชานิสฺสาม, ขาทนียํ โภชนียฺจสฺส ปจฺจํเสน [ปจฺจยํ เตน (ก. สี.), ปจฺจยํเสน (สฺยา. กํ.), ปจฺจยํ เสนาสนํ ปจฺจตฺตํเสน (ก.) อ. นิ. ๘.๔๖] สํวิภชิสฺสามา’ติ [วิภชิสฺสามาติ (สี. สฺยา. กํ.)]. เอวฺหิ โว, กุมาริโย, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘ตสฺมาติห, กุมาริโย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ ภตฺตา อาหริสฺสติ ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา, ตํ อารกฺเขน [ตํ อารกฺขาย (สี.)] คุตฺติยา สมฺปาเทสฺสาม, ตตฺถ จ ภวิสฺสาม อธุตฺตี อเถนี อโสณฺฑี อวินาสิกาโย’ติ. เอวฺหิ โว, กุมาริโย, สิกฺขิตพฺพํ. อิเมหิ โข, กุมาริโย, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ.

‘‘โย นํ ภรติ สพฺพทา, นิจฺจํ อาตาปิ อุสฺสุโก;

สพฺพกามหรํ โปสํ, ภตฺตารํ นาติมฺติ.

‘‘น จาปิ โสตฺถิ ภตฺตารํ, อิสฺสาจาเรน [อิจฺฉาจาเรน (สี.), อิสฺสาวาเทน (ปี.)] โรสเย;

ภตฺตุ จ ครุโน สพฺเพ, ปฏิปูเชติ ปณฺฑิตา.

‘‘อุฏฺาหิกา [อุฏฺายิกา (สฺยา. กํ. ก.)] อนลสา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ [มนาปา (สี.)] จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘ยา เอวํ วตฺตตี นารี, ภตฺตุฉนฺทวสานุคา;

มนาปา นาม เต เทวา, ยตฺถ สา อุปปชฺชตี’’ติ. ตติยํ;

๔. สีหเสนาปติสุตฺตํ

๓๔. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข สีโห เสนาปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, ภควา สนฺทิฏฺิกํ ทานผลํ ปฺาเปตุ’’นฺติ?

‘‘สกฺกา, สีหา’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘ทายโก, สีห, ทานปติ พหุโน ชนสฺส ปิโย โหติ มนาโป. ยมฺปิ, สีห, ทายโก ทานปติ พหุโน ชนสฺส ปิโย โหติ มนาโป, อิทมฺปิ สนฺทิฏฺิกํ ทานผลํ.

‘‘ปุน จปรํ, สีห, ทายกํ ทานปตึ สนฺโต สปฺปุริสา ภชนฺติ. ยมฺปิ, สีห, ทายกํ ทานปตึ สนฺโต สปฺปุริสา ภชนฺติ, อิทมฺปิ สนฺทิฏฺิกํ ทานผลํ.

‘‘ปุน จปรํ, สีห, ทายกสฺส ทานปติโน กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. ยมฺปิ, สีห, ทายกสฺส ทานปติโน กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, อิทมฺปิ สนฺทิฏฺิกํ ทานผลํ.

‘‘ปุน จปรํ, สีห, ทายโก ทานปติ ยํ ยเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ – ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ – วิสารโท [วิสารโทว (สี.) อ. นิ. ๗.๕๗ ปสฺสิตพฺพํ] อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต. ยมฺปิ, สีห, ทายโก ทานปติ ยํ ยเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ – ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ – วิสารโท อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต, อิทมฺปิ สนฺทิฏฺิกํ ทานผลํ.

‘‘ปุน จปรํ, สีห, ทายโก ทานปติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. ยมฺปิ, สีห, ทายโก ทานปติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, อิทํ [อิทมฺปิ สีห (ก.)] สมฺปรายิกํ ทานผล’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา จตฺตาริ สนฺทิฏฺิกานิ ทานผลานิ อกฺขาตานิ, นาหํ เอตฺถ ภควโต สทฺธาย คจฺฉามิ; อหํ เปตานิ ชานามิ. อหํ, ภนฺเต, ทายโก ทานปติ พหุโน ชนสฺส ปิโย มนาโป. อหํ, ภนฺเต, ทายโก ทานปติ; มํ สนฺโต สปฺปุริสา ภชนฺติ. อหํ, ภนฺเต, ทายโก ทานปติ; มยฺหํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สีโห เสนาปติ ทายโก การโก สงฺฆุปฏฺาโก’ติ. อหํ, ภนฺเต , ทายโก ทานปติ ยํ ยเทว ปริสํ อุปสงฺกมามิ – ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ – วิสารโท อุปสงฺกมามิ อมงฺกุภูโต. ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา จตฺตาริ สนฺทิฏฺิกานิ ทานผลานิ อกฺขาตานิ, นาหํ เอตฺถ ภควโต สทฺธาย คจฺฉามิ; อหํ เปตานิ ชานามิ. ยฺจ โข มํ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห – ‘ทายโก, สีห, ทานปติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชตี’ติ, เอตาหํ น ชานามิ; เอตฺถ จ ปนาหํ ภควโต สทฺธาย คจฺฉามี’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, สีห, เอวเมตํ, สีห! ทายโก ทานปติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชตี’’ติ.

‘‘ททํ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหู,

กิตฺติฺจ ปปฺโปติ ยโส จ วฑฺฒติ [ยสสฺส วฑฺฒติ (สฺยา. กํ.), ยสํ ปวฑฺฒติ (ก.)];

อมงฺกุภูโต ปริสํ วิคาหติ,

วิสารโท โหติ นโร อมจฺฉรี.

‘‘ตสฺมา หิ ทานานิ ททนฺติ ปณฺฑิตา,

วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สุเขสิโน;

เต ทีฆรตฺตํ ติทิเว ปติฏฺิตา,

เทวานํ สหพฺยคตา รมนฺติ เต [สหพฺยตํ คตา รมนฺติ (สี.), สหพฺยตา รมนฺติ เต (ก.)].

‘‘กตาวกาสา กตกุสลา อิโต จุตา [ตโต จุตา (สี.)],

สยํปภา อนุวิจรนฺติ นนฺทนํ [นนฺทเน (สฺยา. กํ.)];

เต ตตฺถ นนฺทนฺติ รมนฺติ โมทเร,

สมปฺปิตา กามคุเณหิ ปฺจหิ;

‘‘กตฺวาน วากฺยํ อสิตสฺส ตาทิโน,

รมนฺติ สคฺเค [รมนฺติ สุมนา (ก.), กมนฺติ สพฺเพ (สฺยา. กํ.)] สุคตสฺส สาวกา’’ติ. จตุตฺถํ;

๕. ทานานิสํสสุตฺตํ

๓๕. ‘‘ปฺจิเม , ภิกฺขเว, ทาเน อานิสํสา. กตเม ปฺจ? พหุโน ชนสฺส ปิโย โหติ มนาโป; สนฺโต สปฺปุริสา ภชนฺติ; กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ; คิหิธมฺมา อนปคโต [คิหิธมฺมา อนเปโต (สี. ปี.), คิหิธมฺมมนุปคโต (ก.)] โหติ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ทาเน อานิสํสา’’ติ.

‘‘ททมาโน ปิโย โหติ, สตํ ธมฺมํ อนุกฺกมํ;

สนฺโต นํ สทา ภชนฺติ [สนฺโต ภชนฺติ สปฺปุริสา (สี.)], สฺตา พฺรหฺมจารโย.

‘‘เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ;

ยํ โส ธมฺมํ อิธฺาย, ปรินิพฺพาติ อนาสโว’’ติ. ปฺจมํ;

๖. กาลทานสุตฺตํ

๓๖. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, กาลทานานิ. กตมานิ ปฺจ? อาคนฺตุกสฺส ทานํ เทติ; คมิกสฺส ทานํ เทติ; คิลานสฺส ทานํ เทติ; ทุพฺภิกฺเข ทานํ เทติ; ยานิ ตานิ นวสสฺสานิ นวผลานิ ตานิ ปมํ สีลวนฺเตสุ ปติฏฺาเปติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ กาลทานานี’’ติ.

‘‘กาเล ททนฺติ สปฺปฺา, วทฺู วีตมจฺฉรา;

กาเลน ทินฺนํ อริเยสุ, อุชุภูเตสุ ตาทิสุ.

‘‘วิปฺปสนฺนมนา ตสฺส, วิปุลา โหติ ทกฺขิณา;

เย ตตฺถ อนุโมทนฺติ, เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺติ วา;

น เตน [น เตสํ (ปี. ก.)] ทกฺขิณา อูนา, เตปิ ปุฺสฺส ภาคิโน.

‘‘ตสฺมา ทเท อปฺปฏิวานจิตฺโต, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ;

ปุฺานิ ปรโลกสฺมึ, ปติฏฺา โหนฺติ ปาณิน’’นฺติ. ฉฏฺํ;

๙. โภชนสุตฺตํ

๓๗. ‘‘โภชนํ , ภิกฺขเว, ททมาโน ทายโก ปฏิคฺคาหกานํ ปฺจ านานิ เทติ. กตมานิ ปฺจ? อายุํ เทติ, วณฺณํ เทติ, สุขํ เทติ, พลํ เทติ, ปฏิภานํ [ปฏิภาณํ (สี.)] เทติ. อายุํ โข ปน ทตฺวา อายุสฺส ภาคี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา; วณฺณํ ทตฺวา วณฺณสฺส ภาคี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา; สุขํ ทตฺวา สุขสฺส ภาคี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา; พลํ ทตฺวา พลสฺส ภาคี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา; ปฏิภานํ ทตฺวา ปฏิภานสฺส ภาคี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา. โภชนํ, ภิกฺขเว, ททมาโน ทายโก ปฏิคฺคาหกานํ อิมานิ ปฺจ านานิ เทตี’’ติ.

‘‘อายุโท พลโท ธีโร, วณฺณโท ปฏิภานโท;

สุขสฺส ทาตา เมธาวี, สุขํ โส อธิคจฺฉติ.

‘‘อายุํ ทตฺวา พลํ วณฺณํ, สุขฺจ ปฏิภานกํ [ปฏิภาณกํ (สี.), ปฏิภานโท (สฺยา. กํ. ปี. ก.)];

ทีฆายุ ยสวา โหติ, ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชตี’’ติ. สตฺตมํ;

๘. สทฺธสุตฺตํ

๓๘. ‘‘ปฺจิเม , ภิกฺขเว, สทฺเธ กุลปุตฺเต อานิสํสา. กตเม ปฺจ? เย เต, ภิกฺขเว, โลเก สนฺโต สปฺปุริสา เต สทฺธฺเว ปมํ อนุกมฺปนฺตา อนุกมฺปนฺติ, โน ตถา อสฺสทฺธํ; สทฺธฺเว ปมํ อุปสงฺกมนฺตา อุปสงฺกมนฺติ, โน ตถา อสฺสทฺธํ; สทฺธฺเว ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺตา ปฏิคฺคณฺหนฺติ, โน ตถา อสฺสทฺธํ; สทฺธฺเว ปมํ ธมฺมํ เทเสนฺตา เทเสนฺติ, โน ตถา อสฺสทฺธํ; สทฺโธ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ สทฺเธ กุลปุตฺเต อานิสํสา.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สุภูมิยํ จตุมหาปเถ มหานิคฺโรโธ สมนฺตา ปกฺขีนํ ปฏิสรณํ โหติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สทฺโธ กุลปุตฺโต พหุโน ชนสฺส ปฏิสรณํ โหติ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกาน’’นฺติ.

‘‘สาขาปตฺตผลูเปโต [สาขาปตฺตพหุเปโต (กตฺถจิ), สาขาปตฺตปลาสูเปโต (?)], ขนฺธิมาว [ขนฺธิมา จ (สี.)] มหาทุโม;

มูลวา ผลสมฺปนฺโน, ปติฏฺา โหติ ปกฺขินํ.

‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา;

ฉายํ ฉายตฺถิกา [ฉายตฺถิโน (สี.)] ยนฺติ, ผลตฺถา ผลโภชิโน.

‘‘ตเถว สีลสมฺปนฺนํ, สทฺธํ ปุริสปุคฺคลํ;

นิวาตวุตฺตึ อตฺถทฺธํ, โสรตํ สขิลํ มุทุํ.

‘‘วีตราคา วีตโทสา, วีตโมหา อนาสวา;

ปุฺกฺเขตฺตานิ โลกสฺมึ, เสวนฺติ ตาทิสํ นรํ.

‘‘เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ;

ยํ โส ธมฺมํ อิธฺาย, ปรินิพฺพาติ อนาสโว’’ติ. อฏฺมํ;

๙. ปุตฺตสุตฺตํ

๓๙. ‘‘ปฺจิมานิ , ภิกฺขเว, านานิ สมฺปสฺสนฺตา มาตาปิตโร ปุตฺตํ อิจฺฉนฺติ กุเล ชายมานํ. กตมานิ ปฺจ? ภโต วา โน ภริสฺสติ; กิจฺจํ วา โน กริสฺสติ; กุลวํโส จิรํ สฺสติ; ทายชฺชํ ปฏิปชฺชิสฺสติ; อถ วา ปน เปตานํ กาลงฺกตานํ ทกฺขิณํ อนุปฺปทสฺสตีติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ านานิ สมฺปสฺสนฺตา มาตาปิตโร ปุตฺตํ อิจฺฉนฺติ กุเล ชายมาน’’นฺติ.

[กถา. ๔๙๑] ‘‘ปฺจ านานิ สมฺปสฺสํ, ปุตฺตํ อิจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา;

ภโต วา โน ภริสฺสติ, กิจฺจํ วา โน กริสฺสติ.

‘‘กุลวํโส จิรํ ติฏฺเ, ทายชฺชํ ปฏิปชฺชติ;

อถ วา ปน เปตานํ, ทกฺขิณํ อนุปฺปทสฺสติ.

‘‘านาเนตานิ สมฺปสฺสํ, ปุตฺตํ อิจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา;

ตสฺมา สนฺโต สปฺปุริสา, กตฺู กตเวทิโน.

‘‘ภรนฺติ มาตาปิตโร, ปุพฺเพ กตมนุสฺสรํ;

กโรนฺติ เนสํ กิจฺจานิ, ยถา ตํ ปุพฺพการินํ.

‘‘โอวาทการี ภตโปสี, กุลวํสํ อหาปยํ;

สทฺโธ สีเลน สมฺปนฺโน, ปุตฺโต โหติ ปสํสิโย’’ติ. นวมํ;

๑๐. มหาสาลปุตฺตสุตฺตํ

๔๐. ‘‘หิมวนฺตํ, ภิกฺขเว, ปพฺพตราชํ นิสฺสาย มหาสาลา ปฺจหิ วฑฺฒีหิ วฑฺฒนฺติ. กตมาหิ ปฺจหิ? สาขาปตฺตปลาเสน วฑฺฒนฺติ; ตเจน วฑฺฒนฺติ; ปปฏิกาย วฑฺฒนฺติ; เผคฺคุนา วฑฺฒนฺติ; สาเรน วฑฺฒนฺติ. หิมวนฺตํ, ภิกฺขเว, ปพฺพตราชํ นิสฺสาย มหาสาลา อิมาหิ ปฺจหิ วฑฺฒีหิ วฑฺฒนฺติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สทฺธํ กุลปุตฺตํ นิสฺสาย อนฺโตชโน ปฺจหิ วฑฺฒีหิ วฑฺฒติ. กตมาหิ ปฺจหิ? สทฺธาย วฑฺฒติ; สีเลน วฑฺฒติ; สุเตน วฑฺฒติ; จาเคน วฑฺฒติ; ปฺาย วฑฺฒติ. สทฺธํ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺตํ นิสฺสาย อนฺโตชโน อิมาหิ ปฺจหิ วฑฺฒีหิ วฑฺฒตี’’ติ.

‘‘ยถา หิ ปพฺพโต เสโล, อรฺสฺมึ พฺรหาวเน;

ตํ รุกฺขา อุปนิสฺสาย, วฑฺฒนฺเต เต วนปฺปตี.

‘‘ตเถว สีลสมฺปนฺนํ, สทฺธํ กุลปุตฺตํ อิมํ [กุลปตึ อิธ (สี.), กุลปุตฺตํ อิธ (สฺยา.)];

อุปนิสฺสาย วฑฺฒนฺติ, ปุตฺตทารา จ พนฺธวา;

อมจฺจา าติสงฺฆา จ, เย จสฺส อนุชีวิโน.

‘‘ตฺยสฺส สีลวโต สีลํ, จาคํ สุจริตานิ จ;

ปสฺสมานานุกุพฺพนฺติ, เย ภวนฺติ วิจกฺขณา.

‘‘อิมํ ธมฺมํ จริตฺวาน, มคฺคํ [สคฺคํ (สฺยา. ก.)] สุคติคามินํ;

นนฺทิโน เทวโลกสฺมึ, โมทนฺติ กามกามิโน’’ติ. ทสมํ;

สุมนวคฺโค จตุตฺโถ.

ตสฺสุทฺทานํ –

สุมนา จุนฺที อุคฺคโห, สีโห ทานานิสํสโก;

กาลโภชนสทฺธา จ, ปุตฺตสาเลหิ เต ทสาติ.