📜
๕. มุณฺฑราชวคฺโค
๑. อาทิยสุตฺตํ
๔๑. เอกํ ¶ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ – ‘‘ปฺจิเม, คหปติ, โภคานํ อาทิยา. กตเม ปฺจ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ¶ ปริหรติ; มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ; ปุตฺตทารทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ. อยํ ปโม โภคานํ อาทิโย.
‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ ¶ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ มิตฺตามจฺเจ สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ. อยํ ทุติโย โภคานํ อาทิโย.
‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ ยา ตา โหนฺติ อาปทา – อคฺคิโต วา อุทกโต วา ราชโต วา โจรโต วา อปฺปิยโต วา ทายาทโต [อปฺปิยโต วา ทายาทโต วา (พหูสุ) อ. นิ. ๔.๖๑; ๕.๑๔๘] – ตถารูปาสุ อาปทาสุ โภเคหิ ปริโยธาย วตฺตติ, โสตฺถึ อตฺตานํ กโรติ. อยํ ตติโย โภคานํ อาทิโย.
‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ ปฺจพลึ กตฺตา โหติ. าติพลึ, อติถิพลึ, ปุพฺพเปตพลึ, ราชพลึ, เทวตาพลึ – อยํ จตุตฺโถ โภคานํ อาทิโย.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ¶ ธมฺมลทฺเธหิ เย เต สมณพฺราหฺมณา มทปฺปมาทา ปฏิวิรตา ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺา เอกมตฺตานํ ทเมนฺติ เอกมตฺตานํ สเมนฺติ เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปนฺติ, ตถารูเปสุ สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ. อยํ ปฺจโม โภคานํ อาทิโย. อิเม โข, คหปติ, ปฺจ โภคานํ อาทิยา.
‘‘ตสฺส เจ, คหปติ, อริยสาวกสฺส อิเม ปฺจ โภคานํ อาทิเย อาทิยโต โภคา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘เย วต โภคานํ อาทิยา เต จาหํ ¶ อาทิยามิ โภคา จ เม ปริกฺขยํ คจฺฉนฺตี’ติ. อิติสฺส โหติ อวิปฺปฏิสาโร. ตสฺส เจ, คหปติ, อริยสาวกสฺส อิเม ปฺจ โภคานํ อาทิเย อาทิยโต โภคา อภิวฑฺฒนฺติ ¶ , ตสฺส เอวํ โหติ – ‘เย วต โภคานํ อาทิยา เต จาหํ อาทิยามิ โภคา จ เม อภิวฑฺฒนฺตี’ติ. อิติสฺส โหติ [อิติสฺส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, (สี. สฺยา.)] อุภเยเนว อวิปฺปฏิสาโร’’ติ.
‘‘ภุตฺตา โภคา ภตา ภจฺจา [คตา ตจฺฉา (ก.)], วิติณฺณา อาปทาสุ เม;
อุทฺธคฺคา ทกฺขิณา ทินฺนา, อโถ ปฺจพลีกตา;
อุปฏฺิตา สีลวนฺโต, สฺตา พฺรหฺมจารโย.
‘‘ยทตฺถํ โภคํ อิจฺเฉยฺย, ปณฺฑิโต ฆรมาวสํ;
โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, กตํ อนนุตาปิยํ.
‘‘เอตํ [เอวํ (ก.)] อนุสฺสรํ มจฺโจ, อริยธมฺเม ิโต นโร;
อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ [เปจฺจ สคฺเค จ โมทตีติ (สี. สฺยา.)]. ปมํ;
๒. สปฺปุริสสุตฺตํ
๔๒. ‘‘สปฺปุริโส, ภิกฺขเว, กุเล ชายมาโน พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; มาตาปิตูนํ [มาตาปิตุนฺนํ (สี. ปี.)] อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; ปุตฺตทารสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; ทาสกมฺมกรโปริสสฺส ¶ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; มิตฺตามจฺจานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; สมณพฺราหฺมณานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาเมโฆ สพฺพสสฺสานิ สมฺปาเทนฺโต พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; เอวเมวํ ¶ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส กุเล ¶ ชายมาโน พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; มาตาปิตูนํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; ปุตฺตทารสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; ทาสกมฺมกรโปริสสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; มิตฺตามจฺจานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ; สมณพฺราหฺมณานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหตี’’ติ.
‘‘หิโต พหุนฺนํ ปฏิปชฺช โภเค, ตํ เทวตา รกฺขติ ธมฺมคุตฺตํ;
พหุสฺสุตํ สีลวตูปปนฺนํ, ธมฺเม ิตํ น วิชหติ [วิชหาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กิตฺติ.
‘‘ธมฺมฏฺํ ¶ สีลสมฺปนฺนํ, สจฺจวาทึ หิรีมนํ;
เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสว, โก ตํ นินฺทิตุมรหติ;
เทวาปิ นํ ปสํสนฺติ, พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโต’’ติ. ทุติยํ;
๓. อิฏฺสุตฺตํ
๔๓. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –
‘‘ปฺจิเม, คหปติ, ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ. กตเม ปฺจ? อายุ, คหปติ, อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ; วณฺโณ อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ; สุขํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ ทุลฺลภํ โลกสฺมึ; ยโส อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ; สคฺคา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ. อิเม ¶ โข, คหปติ, ปฺจ ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ.
‘‘อิเมสํ ¶ โข, คหปติ, ปฺจนฺนํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมึ น อายาจนเหตุ ¶ วา ปตฺถนาเหตุ วา [น ปตฺถนาเหตุ วา (สฺยา. กํ. ปี.)] ปฏิลาภํ วทามิ. อิเมสํ โข, คหปติ, ปฺจนฺนํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมึ อายาจนเหตุ วา ปตฺถนาเหตุ วา ปฏิลาโภ อภวิสฺส, โก อิธ เกน หาเยถ?
‘‘น โข, คหปติ, อรหติ อริยสาวโก อายุกาโม อายุํ อายาจิตุํ วา อภินนฺทิตุํ วา อายุสฺส วาปิ เหตุ. อายุกาเมน, คหปติ, อริยสาวเกน อายุสํวตฺตนิกา ปฏิปทา ปฏิปชฺชิตพฺพา. อายุสํวตฺตนิกา หิสฺส ปฏิปทา ปฏิปนฺนา อายุปฏิลาภาย สํวตฺตติ. โส ลาภี โหติ อายุสฺส ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา.
‘‘น โข, คหปติ, อรหติ อริยสาวโก วณฺณกาโม วณฺณํ อายาจิตุํ วา อภินนฺทิตุํ วา วณฺณสฺส วาปิ เหตุ. วณฺณกาเมน, คหปติ, อริยสาวเกน วณฺณสํวตฺตนิกา ปฏิปทา ปฏิปชฺชิตพฺพา. วณฺณสํวตฺตนิกา หิสฺส ปฏิปทา ปฏิปนฺนา วณฺณปฏิลาภาย สํวตฺตติ. โส ลาภี โหติ วณฺณสฺส ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา.
‘‘น ¶ โข, คหปติ, อรหติ อริยสาวโก สุขกาโม สุขํ อายาจิตุํ วา อภินนฺทิตุํ วา สุขสฺส วาปิ เหตุ. สุขกาเมน, คหปติ, อริยสาวเกน สุขสํวตฺตนิกา ปฏิปทา ปฏิปชฺชิตพฺพา. สุขสํวตฺตนิกา หิสฺส ปฏิปทา ปฏิปนฺนา สุขปฏิลาภาย สํวตฺตติ. โส ลาภี โหติ สุขสฺส ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา.
‘‘น โข, คหปติ, อรหติ อริยสาวโก ยสกาโม ยสํ ¶ อายาจิตุํ วา อภินนฺทิตุํ วา ยสสฺส วาปิ เหตุ. ยสกาเมน, คหปติ, อริยสาวเกน ยสสํวตฺตนิกา ปฏิปทา ปฏิปชฺชิตพฺพา. ยสสํวตฺตนิกา หิสฺส ปฏิปทา ปฏิปนฺนา ยสปฏิลาภาย สํวตฺตติ. โส ลาภี โหติ ยสสฺส ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา.
‘‘น โข, คหปติ, อรหติ อริยสาวโก สคฺคกาโม สคฺคํ อายาจิตุํ วา อภินนฺทิตุํ วา สคฺคานํ วาปิ เหตุ. สคฺคกาเมน, คหปติ, อริยสาวเกน สคฺคสํวตฺตนิกา ปฏิปทา ¶ ปฏิปชฺชิตพฺพา. สคฺคสํวตฺตนิกา หิสฺส ปฏิปทา ปฏิปนฺนา สคฺคปฏิลาภาย สํวตฺตติ. โส ลาภี โหติ สคฺคาน’’นฺติ.
‘‘อายุํ วณฺณํ ยสํ กิตฺตึ, สคฺคํ อุจฺจากุลีนตํ;
รติโย ปตฺถยาเนน [ปตฺถยมาเนน (ก.)], อุฬารา อปราปรา.
‘‘อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ, ปฺุกิริยาสุ ปณฺฑิตา;
‘‘อปฺปมตฺโต ¶ อุโภ อตฺเถ, อธิคณฺหาติ ปณฺฑิโต.
‘‘ทิฏฺเ ธมฺเม จ [ทิฏฺเว ธมฺเม (สี.)] โย อตฺโถ, โย จตฺโถ สมฺปรายิโก;
อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ. ตติยํ;
๔. มนาปทายีสุตฺตํ
๔๔. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อุคฺคสฺส คหปติโน เวสาลิกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก ¶ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติ. มนาปํ เม, ภนฺเต, สาลปุปฺผกํ [สาลิปุปฺผกํ (ก.)] ขาทนียํ; ตํ เม ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทาย.
‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติ. มนาปํ เม, ภนฺเต, สมฺปนฺนโกลกํ สูกรมํสํ [สมฺปนฺนสูกรมํสํ (สี.), สมฺปนฺนวรสูกรมํสํ (สฺยา.)]; ตํ เม ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทาย.
‘‘สมฺมุขา ¶ เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติ. มนาปํ เม, ภนฺเต, นิพฺพตฺตเตลกํ [นิพทฺธเตลกํ (ปี. สี. อฏฺ.), นิพฺพฏฺฏเตลกํ (สฺยา. อฏฺ.)] นาลิยสากํ; ตํ เม ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทาย.
‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติ. มนาโป เม, ภนฺเต, สาลีนํ โอทโน วิจิตกาฬโก [วิคตกาลโก (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] อเนกสูโป อเนกพฺยฺชโน; ตํ เม ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทาย.
‘‘สมฺมุขา ¶ เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติ. มนาปานิ เม, ภนฺเต, กาสิกานิ วตฺถานิ; ตานิ เม ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทาย.
‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติ ¶ . มนาโป เม, ภนฺเต, ปลฺลงฺโก โคนกตฺถโต ปฏลิกตฺถโต กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรโณ [กาทลิมิคปวรปจฺจตฺถรโณ (สี.)] สอุตฺตรจฺฉโท อุภโตโลหิตกูปธาโน. อปิ จ, ภนฺเต, มยมฺเปตํ ชานาม – ‘เนตํ ภควโต กปฺปตี’ติ. อิทํ เม, ภนฺเต, จนฺทนผลกํ อคฺฆติ อธิกสตสหสฺสํ; ตํ เม ภควา ¶ ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทาย. อถ โข ภควา อุคฺคํ คหปตึ เวสาลิกํ อิมินา อนุโมทนีเยน อนุโมทิ –
‘‘มนาปทายี ลภเต มนาปํ,
โย อุชฺชุภูเตสุ [อุชุภูเตสุ (สฺยา. กํ. ปี.)] ททาติ ฉนฺทสา;
อจฺฉาทนํ สยนมนฺนปานํ [สยนมถนฺนปานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)],
นานาปฺปการานิ จ ปจฺจยานิ.
‘‘จตฺตฺจ มุตฺตฺจ อนุคฺคหีตํ [อนคฺคหีตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)],
เขตฺตูปเม อรหนฺเต วิทิตฺวา;
โส ¶ ทุจฺจชํ สปฺปุริโส จชิตฺวา,
มนาปทายี ลภเต มนาป’’นฺติ.
อถ โข ภควา อุคฺคํ คหปตึ เวสาลิกํ อิมินา อนุโมทนีเยน อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
อถ โข อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก อปเรน สมเยน กาลมกาสิ. กาลงฺกโต [กาลกโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปชฺชิ. เตน โข ปน สมเยน ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อุคฺโค เทวปุตฺโต ¶ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ ¶ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตํ โข อุคฺคํ เทวปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ เต, อุคฺค, ยถาธิปฺปาโย’’ติ? ‘‘ตคฺฆ เม, ภควา, ยถาธิปฺปาโย’’ติ. อถ โข ภควา อุคฺคํ เทวปุตฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘มนาปทายี ลภเต มนาปํ,
อคฺคสฺส ทาตา ลภเต ปุนคฺคํ;
วรสฺส ทาตา วรลาภิ โหติ,
เสฏฺํ ทโท เสฏฺมุเปติ านํ.
‘‘โย ¶ อคฺคทายี วรทายี, เสฏฺทายี จ โย นโร;
ทีฆายุ ยสวา โหติ, ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชตี’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. ปฺุาภิสนฺทสุตฺตํ
๔๕. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปฺุาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา โสวคฺคิกา สุขวิปากา สคฺคสํวตฺตนิกา อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘กตเม ปฺจ? ยสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จีวรํ ปริภฺุชมาโน อปฺปมาณํ เจโตสมาธึ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อปฺปมาโณ ตสฺส ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
‘‘ยสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชมาโน…เป… ยสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหารํ ปริภฺุชมาโน…เป… ยสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มฺจปีํ ¶ ปริภฺุชมาโน…เป….
‘‘ยสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภฺุชมาโน อปฺปมาณํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ, อปฺปมาโณ ตสฺส ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ปฺุาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา โสวคฺคิกา สุขวิปากา สคฺคสํวตฺตนิกา อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘อิเมหิ จ ปน, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ปฺุาภิสนฺเทหิ กุสลาภิสนฺเทหิ สมนฺนาคตสฺส อริยสาวกสฺส น สุกรํ ปฺุสฺส ปมาณํ คเหตุํ – ‘เอตฺตโก ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตตี’ติ. อถ โข อสงฺเขยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาปฺุกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท น สุกรํ อุทกสฺส ปมาณํ คเหตุํ – ‘เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกานีติ วา ¶ เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตสหสฺสานีติ วา; อถ โข อสงฺเขยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ’. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเมหิ ปฺจหิ ปฺุาภิสนฺเทหิ กุสลาภิสนฺเทหิ สมนฺนาคตสฺส อริยสาวกสฺส น สุกรํ ปฺุสฺส ปมาณํ คเหตุํ – ‘เอตฺตโก ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก ¶ อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตตี’ติ. อถ โข อสงฺเขยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาปฺุกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ.
‘‘มโหทธึ ¶ อปริมิตํ มหาสรํ,
พหุเภรวํ รตฺนคณานมาลยํ;
นชฺโช ยถา นรคณสงฺฆเสวิตา [มจฺฉ คณสํฆเสวิตา (สฺยา. กํ. ก.) สํ. นิ. ๕.๑๐๓๗ ปสฺสิตพฺพํ],
ปุถู สวนฺตี อุปยนฺติ สาครํ.
‘‘เอวํ ¶ นรํ อนฺนทปานวตฺถทํ,
เสยฺยานิสชฺชตฺถรณสฺส ทายกํ;
ปฺุสฺส ธารา อุปยนฺติ ปณฺฑิตํ,
นชฺโช ยถา วาริวหาว สาคร’’นฺติ. ปฺจมํ;
๖. สมฺปทาสุตฺตํ
๔๖. ‘‘ปฺจิมา, ภิกฺขเว, สมฺปทา. กตมา ปฺจ? สทฺธาสมฺปทา, สีลสมฺปทา, สุตสมฺปทา, จาคสมฺปทา, ปฺาสมฺปทา – อิมา โข, ภิกฺขเว, ปฺจ สมฺปทา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ธนสุตฺตํ
๔๗. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, ธนานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธาธนํ, สีลธนํ, สุตธนํ, จาคธนํ, ปฺาธนํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สทฺธาธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สทฺธาธนํ.
‘‘กตมฺจ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, สีลธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ¶ ปฏิวิรโต โหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สีลธนํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สุตธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺโธ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุตธนํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, จาคธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, จาคธนํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปฺาธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปฺวา โหติ, อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฺาธนํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ธนานี’’ติ.
[อ. นิ. ๔.๕๒] ‘‘ยสฺส ¶ สทฺธา ตถาคเต, อจลา สุปฺปติฏฺิตา;
สีลฺจ ยสฺส กลฺยาณํ, อริยกนฺตํ ปสํสิตํ.
‘‘สงฺเฆ ปสาโท ยสฺสตฺถิ, อุชุภูตฺจ ทสฺสนํ;
อทลิทฺโทติ ตํ อาหุ, อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํ.
‘‘ตสฺมา สทฺธฺจ สีลฺจ, ปสาทํ ธมฺมทสฺสนํ;
อนุยฺุเชถ เมธาวี, สรํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. สตฺตมํ;
๘. อลพฺภนียานสุตฺตํ
๔๘. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อลพฺภนียานิ านานิ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. กตมานิ ปฺจ? ‘ชราธมฺมํ มา ชีรี’ติ อลพฺภนียํ านํ สมเณน ¶ วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. ‘พฺยาธิธมฺมํ มา พฺยาธียี’ติ [วฺยาธิธมฺมํ ‘‘มา วฺยาธียี’’ติ (สี. ปี.)] …เป… ‘มรณธมฺมํ มา มียี’ติ… ‘ขยธมฺมํ มา ขียี’ติ… ‘นสฺสนธมฺมํ มา นสฺสี’ติ อลพฺภนียํ านํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ.
‘‘อสฺสุตวโต ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ปุถุชฺชนสฺส ชราธมฺมํ ชีรติ. โส ชราธมฺเม ชิณฺเณ น อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข มยฺเหเวกสฺส [มยฺหเมเวกสฺส (สี.)] ชราธมฺมํ ชีรติ, อถ โข ยาวตา สตฺตานํ อาคติ คติ จุติ อุปปตฺติ สพฺเพสํ สตฺตานํ ชราธมฺมํ ชีรติ. อหฺเจว [อหฺเจ (?)] โข ปน ชราธมฺเม ชิณฺเณ โสเจยฺยํ กิลเมยฺยํ ปริเทเวยฺยํ, อุรตฺตาฬึ กนฺเทยฺยํ, สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยํ, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทยฺย, กาเยปิ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกเมยฺย, กมฺมนฺตาปิ นปฺปวตฺเตยฺยุํ [กมฺมนฺโตปิ นปฺปวตฺเตยฺย (ก.)], อมิตฺตาปิ อตฺตมนา อสฺสุ, มิตฺตาปิ ทุมฺมนา อสฺสู’ติ. โส ชราธมฺเม ชิณฺเณ โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน วิทฺโธ สวิเสน โสกสลฺเลน อตฺตานํเยว ปริตาเปติ’’’.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส พฺยาธิธมฺมํ ¶ พฺยาธียติ…เป… มรณธมฺมํ มียติ… ขยธมฺมํ ขียติ… นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ. โส นสฺสนธมฺเม นฏฺเ น อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข มยฺเหเวกสฺส นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ, อถ โข ยาวตา สตฺตานํ อาคติ คติ จุติ อุปปตฺติ สพฺเพสํ สตฺตานํ นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ. อหฺเจว โข ปน นสฺสนธมฺเม นฏฺเ โสเจยฺยํ กิลเมยฺยํ ปริเทเวยฺยํ, อุรตฺตาฬึ กนฺเทยฺยํ ¶ , สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยํ, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทยฺย, กาเยปิ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกเมยฺย, กมฺมนฺตาปิ นปฺปวตฺเตยฺยุํ, อมิตฺตาปิ อตฺตมนา อสฺสุ, มิตฺตาปิ ทุมฺมนา อสฺสู’ติ. โส นสฺสนธมฺเม นฏฺเ โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน วิทฺโธ สวิเสน โสกสลฺเลน อตฺตานํเยว ปริตาเปติ’’’.
‘‘สุตวโต จ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส ชราธมฺมํ ชีรติ. โส ชราธมฺเม ชิณฺเณ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข มยฺเหเวกสฺส ชราธมฺมํ ชีรติ, อถ โข ยาวตา สตฺตานํ อาคติ คติ จุติ อุปปตฺติ สพฺเพสํ สตฺตานํ ชราธมฺมํ ชีรติ. อหฺเจว โข ปน ชราธมฺเม ชิณฺเณ โสเจยฺยํ กิลเมยฺยํ ปริเทเวยฺยํ, อุรตฺตาฬึ กนฺเทยฺยํ, สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยํ, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทยฺย, กาเยปิ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกเมยฺย, กมฺมนฺตาปิ นปฺปวตฺเตยฺยุํ, อมิตฺตาปิ อตฺตมนา อสฺสุ, มิตฺตาปิ ทุมฺมนา อสฺสู’ติ. โส ชราธมฺเม ชิณฺเณ น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ ¶ . อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘สุตวา อริยสาวโก อพฺพุหิ [อพฺพหิ (สี.)] สวิสํ โสกสลฺลํ, เยน วิทฺโธ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อตฺตานํเยว ปริตาเปติ. อโสโก วิสลฺโล อริยสาวโก อตฺตานํเยว ปรินิพฺพาเปติ’’’.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, สุตวโต อริยสาวกสฺส พฺยาธิธมฺมํ พฺยาธียติ…เป… มรณธมฺมํ มียติ… ขยธมฺมํ ขียติ… นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ. โส นสฺสนธมฺเม ¶ นฏฺเ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข มยฺเหเวกสฺส นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ, อถ โข ยาวตา สตฺตานํ อาคติ คติ จุติ อุปปตฺติ สพฺเพสํ สตฺตานํ นสฺสนธมฺมํ ¶ นสฺสติ. อหฺเจว โข ปน นสฺสนธมฺเม นฏฺเ โสเจยฺยํ กิลเมยฺยํ ปริเทเวยฺยํ, อุรตฺตาฬึ กนฺเทยฺยํ, สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยํ, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทยฺย, กาเยปิ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกเมยฺย, กมฺมนฺตาปิ นปฺปวตฺเตยฺยุํ, อมิตฺตาปิ อตฺตมนา อสฺสุ, มิตฺตาปิ ทุมฺมนา อสฺสู’ติ. โส นสฺสนธมฺเม นฏฺเ น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘สุตวา อริยสาวโก อพฺพุหิ สวิสํ โสกสลฺลํ, เยน วิทฺโธ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อตฺตานํเยว ปริตาเปติ. อโสโก วิสลฺโล อริยสาวโก อตฺตานํเยว ปรินิพฺพาเปตี’’’ติ.
‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อลพฺภนียานิ านานิ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิ’’นฺติ.
[ชา. ๑.๕.๙๖ ชาตเกปิ] ‘‘น โสจนาย ปริเทวนาย,
อตฺโถธ ลพฺภา [อตฺโถ อิธ ลพฺภติ (สฺยา.), อตฺโถ อิธ ลพฺภา (ปี.)] อปิ อปฺปโกปิ;
โสจนฺตเมนํ ทุขิตํ วิทิตฺวา,
ปจฺจตฺถิกา อตฺตมนา ภวนฺติ.
‘‘ยโต จ โข ปณฺฑิโต อาปทาสุ,
น เวธตี อตฺถวินิจฺฉยฺู;
ปจฺจตฺถิกาสฺส ¶ ทุขิตา ภวนฺติ,
ทิสฺวา มุขํ อวิการํ ปุราณํ.
‘‘ชปฺเปน ¶ มนฺเตน สุภาสิเตน,
อนุปฺปทาเนน ปเวณิยา วา;
ยถา ยถา ยตฺถ [ยถา ยถา ยตฺถ ยตฺถ (ก.)] ลเภถ อตฺถํ,
ตถา ตถา ตตฺถ ปรกฺกเมยฺย.
‘‘สเจ ¶ ปชาเนยฺย อลพฺภเนยฺโย,
มยาว [มยา วา (สฺยา. กํ. ปี.)] อฺเน วา เอส อตฺโถ;
อโสจมาโน อธิวาสเยยฺย,
กมฺมํ ทฬฺหํ กินฺติ กโรมิ ทานี’’ติ. อฏฺมํ;
๙. โกสลสุตฺตํ
๔๙. เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
(เตน โข ปน สมเยน มลฺลิกา เทวี กาลงฺกตา โหติ.) [( ) นตฺถิ (สี.)] อถ โข อฺตโร ปุริโส เยน ราชา ปเสนทิ โกสโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส อุปกณฺณเก อาโรเจติ – ‘‘มลฺลิกา เทวี, เทว [เทว เทวี (สฺยา. กํ. ปี.)], กาลงฺกตา’’ติ. เอวํ วุตฺเต ราชา ปเสนทิ โกสโล ทุกฺขี ทุมฺมโน ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิ.
อถ โข ภควา ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ ทุกฺขึ ทุมฺมนํ ปตฺตกฺขนฺธํ อโธมุขํ ปชฺฌายนฺตํ ¶ อปฺปฏิภานํ วิทิตฺวา ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ เอตทโวจ – ‘‘ปฺจิมานิ, มหาราช, อลพฺภนียานิ านานิ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. กตมานิ ปฺจ? ‘ชราธมฺมํ มา ชีรี’ติ อลพฺภนียํ านํ…เป… น โสจนาย ปริเทวนาย…เป… กมฺมํ ทฬฺหํ กินฺติ กโรมิ ทานี’’ติ. นวมํ.
๑๐. นารทสุตฺตํ
๕๐. เอกํ สมยํ อายสฺมา นารโท ปาฏลิปุตฺเต วิหรติ กุกฺกุฏาราเม. เตน โข ปน สมเยน มุณฺฑสฺส รฺโ ภทฺทา เทวี กาลงฺกตา ¶ โหติ ปิยา มนาปา. โส ภทฺทาย เทวิยา กาลงฺกตาย ปิยาย มนาปาย เนว นฺหายติ [นหายติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] น วิลิมฺปติ น ภตฺตํ ภฺุชติ น กมฺมนฺตํ ปโยเชติ – รตฺตินฺทิวํ [รตฺติทิวํ (ก.)] ภทฺทาย เทวิยา สรีเร อชฺโฌมุจฺฉิโต. อถ โข มุณฺโฑ ราชา ปิยกํ โกสารกฺขํ [โสการกฺขํ (สฺยา.)] ¶ อามนฺเตสิ – ‘‘เตน หิ, สมฺม ปิยก ¶ , ภทฺทาย เทวิยา สรีรํ อายสาย เตลโทณิยา ปกฺขิปิตฺวา อฺิสฺสา อายสาย โทณิยา ปฏิกุชฺชถ, ยถา มยํ ภทฺทาย เทวิยา สรีรํ จิรตรํ ปสฺเสยฺยามา’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ปิยโก โกสารกฺโข มุณฺฑสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา ภทฺทาย เทวิยา สรีรํ อายสาย เตลโทณิยา ปกฺขิปิตฺวา อฺิสฺสา อายสาย โทณิยา ปฏิกุชฺชิ.
อถ โข ปิยกสฺส โกสารกฺขสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมสฺส โข มุณฺฑสฺส รฺโ ภทฺทา เทวี กาลงฺกตา ปิยา มนาปา. โส ภทฺทาย เทวิยา กาลงฺกตาย ปิยาย มนาปาย เนว นฺหายติ น วิลิมฺปติ น ภตฺตํ ภฺุชติ น กมฺมนฺตํ ปโยเชติ ¶ – รตฺตินฺทิวํ ภทฺทาย เทวิยา สรีเร อชฺโฌมุจฺฉิโต. กํ [กึ (ก.)] นุ โข มุณฺโฑ ราชา สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปยิรุปาเสยฺย, ยสฺส ธมฺมํ สุตฺวา โสกสลฺลํ ปชเหยฺยา’’ติ!
อถ โข ปิยกสฺส โกสารกฺขสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา นารโท ปาฏลิปุตฺเต วิหรติ กุกฺกุฏาราเม. ตํ โข ปนายสฺมนฺตํ นารทํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘ปณฺฑิโต วิยตฺโต [วฺยตฺโต (สี. ปี.), พฺยตฺโต (สฺยา. กํ., ที. นิ. ๒.๔๐๗)] เมธาวี พหุสฺสุโต จิตฺตกถี กลฺยาณปฏิภาโน วุทฺโธ เจว [พุทฺโธ เจว (ก.)] อรหา จ’ [อรหา จา’ติ (?)]. ยํนูน มุณฺโฑ ราชา อายสฺมนฺตํ นารทํ ปยิรุปาเสยฺย, อปฺเปว นาม มุณฺโฑ ราชา อายสฺมโต นารทสฺส ธมฺมํ สุตฺวา โสกสลฺลํ ปชเหยฺยา’’ติ.
อถ โข ปิยโก โกสารกฺโข เยน มุณฺโฑ ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มุณฺฑํ ราชานํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ โข, เทว, อายสฺมา นารโท ปาฏลิปุตฺเต วิหรติ กุกฺกุฏาราเม. ตํ โข ปนายสฺมนฺตํ นารทํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี พหุสฺสุโต จิตฺตกถี กลฺยาณปฏิภาโน วุทฺโธ เจว ¶ อรหา จ’ [อรหา จา’ติ (?)]. ยทิ ปน เทโว อายสฺมนฺตํ นารทํ ปยิรุปาเสยฺย, อปฺเปว นาม เทโว อายสฺมโต นารทสฺส ธมฺมํ สุตฺวา โสกสลฺลํ ปชเหยฺยา’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมฺม ปิยก ¶ , อายสฺมนฺตํ นารทํ ปฏิเวเทหิ. กถฺหิ นาม มาทิโส สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา วิชิเต วสนฺตํ ปุพฺเพ อปฺปฏิสํวิทิโต อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ ¶ ! ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ปิยโก โกสารกฺโข มุณฺฑสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา นารโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นารทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ปิยโก โกสารกฺโข อายสฺมนฺตํ นารทํ เอตทโวจ –
‘‘อิมสฺส ¶ , ภนฺเต, มุณฺฑสฺส รฺโ ภทฺทา เทวี กาลงฺกตา ปิยา มนาปา. โส ภทฺทาย เทวิยา กาลงฺกตาย ปิยาย มนาปาย เนว นฺหายติ น วิลิมฺปติ น ภตฺตํ ภฺุชติ น กมฺมนฺตํ ปโยเชติ – รตฺตินฺทิวํ ภทฺทาย เทวิยา สรีเร อชฺโฌมุจฺฉิโต. สาธุ, ภนฺเต, อายสฺมา นารโท มุณฺฑสฺส รฺโ ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา มุณฺโฑ ราชา อายสฺมโต นารทสฺส ธมฺมํ สุตฺวา โสกสลฺลํ ปชเหยฺยา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ, ปิยก, มุณฺโฑ ราชา กาลํ มฺตี’’ติ.
อถ โข ปิยโก โกสารกฺโข อุฏฺายาสนา อายสฺมนฺตํ นารทํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน มุณฺโฑ ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มุณฺฑํ ราชานํ เอตทโวจ – ‘‘กตาวกาโส โข, เทว, อายสฺมตา นารเทน. ยสฺสทานิ เทโว กาลํ มฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมฺม ปิยก, ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปหี’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ปิยโก โกสารกฺโข มุณฺฑสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา มุณฺฑํ ราชานํ เอตทโวจ – ‘‘ยุตฺตานิ โข เต, เทว, ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ. ยสฺสทานิ เทโว กาลํ ¶ มฺตี’’ติ.
อถ โข มุณฺโฑ ราชา ภทฺรํ ยานํ [ภทฺรํ ภทฺรํ ยานํ (สฺยา. กํ. ก.), ภทฺทํ ยานํ (ปี.)] อภิรุหิตฺวา ภทฺเรหิ ภทฺเรหิ ยาเนหิ เยน กุกฺกุฏาราโม เตน ปายาสิ มหจฺจา [มหจฺจ (พหูสุ)] ราชานุภาเวน อายสฺมนฺตํ นารทํ ทสฺสนาย. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ ยาเนน คนฺตฺวา, ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว อารามํ ปาวิสิ. อถ โข มุณฺโฑ ราชา ¶ เยน อายสฺมา นารโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นารทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺนํ โข มุณฺฑํ ราชานํ อายสฺมา นารโท เอตทโวจ –
‘‘ปฺจิมานิ, มหาราช, อลพฺภนียานิ านานิ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. กตมานิ ปฺจ? ‘ชราธมฺมํ มา ชีรี’ติ อลพฺภนียํ านํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. ‘พฺยาธิธมฺมํ มา พฺยาธียี’ติ…เป… ‘มรณธมฺมํ มา มียี’ติ… ‘ขยธมฺมํ มา ขียี’ติ… ‘นสฺสนธมฺมํ มา นสฺสี’ติ อลพฺภนียํ านํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ.
‘‘อสฺสุตวโต ¶ , มหาราช, ปุถุชฺชนสฺส ชราธมฺมํ ชีรติ. โส ชราธมฺเม ชิณฺเณ น อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข มยฺเหเวกสฺส ชราธมฺมํ ชีรติ, อถ โข ยาวตา สตฺตานํ อาคติ คติ จุติ อุปปตฺติ สพฺเพสํ สตฺตานํ ชราธมฺมํ ชีรติ. อหฺเจว โข ปน ชราธมฺเม ชิณฺเณ โสเจยฺยํ กิลเมยฺยํ ปริเทเวยฺยํ, อุรตฺตาฬึ กนฺเทยฺยํ, สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยํ, ภตฺตมฺปิ เม ¶ นจฺฉาเทยฺย, กาเยปิ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกเมยฺย, กมฺมนฺตาปิ นปฺปวตฺเตยฺยุํ, อมิตฺตาปิ อตฺตมนา อสฺสุ, มิตฺตาปิ ทุมฺมนา อสฺสู’ติ. โส ชราธมฺเม ชิณฺเณ โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, มหาราช – ‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน วิทฺโธ สวิเสน โสกสลฺเลน อตฺตานํเยว ปริตาเปติ’’’.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส พฺยาธิธมฺมํ พฺยาธียติ…เป… มรณธมฺมํ มียติ… ขยธมฺมํ ขียติ… นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ. โส นสฺสนธมฺเม นฏฺเ น อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข มยฺเหเวกสฺส นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ, อถ โข ยาวตา สตฺตานํ อาคติ คติ จุติ อุปปตฺติ สพฺเพสํ สตฺตานํ นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ. อหฺเจว โข ปน นสฺสนธมฺเม นฏฺเ โสเจยฺยํ กิลเมยฺยํ ปริเทเวยฺยํ, อุรตฺตาฬึ กนฺเทยฺยํ, สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยํ, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทยฺย, กาเยปิ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกเมยฺย, กมฺมนฺตาปิ นปฺปวตฺเตยฺยุํ, อมิตฺตาปิ อตฺตมนา อสฺสุ, มิตฺตาปิ ทุมฺมนา ¶ อสฺสู’ติ. โส นสฺสนธมฺเม นฏฺเ โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, มหาราช – ‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน วิทฺโธ สวิเสน โสกสลฺเลน อตฺตานํเยว ปริตาเปติ’’’.
‘‘สุตวโต ¶ จ โข, มหาราช, อริยสาวกสฺส ชราธมฺมํ ชีรติ. โส ชราธมฺเม ชิณฺเณ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข มยฺเหเวกสฺส ชราธมฺมํ ชีรติ, อถ โข ยาวตา สตฺตานํ อาคติ คติ จุติ อุปปตฺติ สพฺเพสํ สตฺตานํ ชราธมฺมํ ชีรติ. อหฺเจว โข ปน ชราธมฺเม ชิณฺเณ โสเจยฺยํ กิลเมยฺยํ ¶ ปริเทเวยฺยํ, อุรตฺตาฬึ กนฺเทยฺยํ, สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยํ, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทยฺย, กาเยปิ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกเมยฺย, กมฺมนฺตาปิ นปฺปวตฺเตยฺยุํ, อมิตฺตาปิ อตฺตมนา อสฺสุ, มิตฺตาปิ ทุมฺมนา อสฺสู’ติ. โส ชราธมฺเม ชิณฺเณ น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, มหาราช – ‘สุตวา อริยสาวโก อพฺพุหิ สวิสํ โสกสลฺลํ, เยน วิทฺโธ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อตฺตานํเยว ปริตาเปติ. อโสโก วิสลฺโล อริยสาวโก อตฺตานํเยว ปรินิพฺพาเปติ’’’.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, สุตวโต อริยสาวกสฺส พฺยาธิธมฺมํ พฺยาธียติ…เป… มรณธมฺมํ มียติ… ขยธมฺมํ ขียติ… นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ. โส นสฺสนธมฺเม นฏฺเ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข มยฺเหเวกสฺส นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ, อถ โข ยาวตา สตฺตานํ อาคติ คติ จุติ อุปปตฺติ สพฺเพสํ สตฺตานํ นสฺสนธมฺมํ นสฺสติ. อหฺเจว โข ปน นสฺสนธมฺเม นฏฺเ โสเจยฺยํ กิลเมยฺยํ ปริเทเวยฺยํ, อุรตฺตาฬึ กนฺเทยฺยํ, สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยํ, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทยฺย, กาเยปิ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกเมยฺย, กมฺมนฺตาปิ นปฺปวตฺเตยฺยุํ, อมิตฺตาปิ อตฺตมนา อสฺสุ, มิตฺตาปิ ทุมฺมนา อสฺสู’ติ. โส นสฺสนธมฺเม นฏฺเ น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, มหาราช – ‘สุตวา อริยสาวโก อพฺพุหิ สวิสํ โสกสลฺลํ, เยน วิทฺโธ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อตฺตานํเยว ปริตาเปติ. อโสโก วิสลฺโล อริยสาวโก อตฺตานํเยว ปรินิพฺพาเปติ ¶ ’’’.
‘‘อิมานิ ¶ โข, มหาราช, ปฺจ อลพฺภนียานิ านานิ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิ’’นฺติ.
‘‘น โสจนาย ปริเทวนาย,
อตฺโถธ ลพฺภา อปิ อปฺปโกปิ;
โสจนฺตเมนํ ทุขิตํ วิทิตฺวา,
ปจฺจตฺถิกา อตฺตมนา ภวนฺติ.
‘‘ยโต ¶ จ โข ปณฺฑิโต อาปทาสุ,
น เวธตี อตฺถวินิจฺฉยฺู;
ปจฺจตฺถิกาสฺส ทุขิตา ภวนฺติ,
ทิสฺวา มุขํ อวิการํ ปุราณํ.
‘‘ชปฺเปน มนฺเตน สุภาสิเตน,
อนุปฺปทาเนน ปเวณิยา วา;
ยถา ยถา ยตฺถ ลเภถ อตฺถํ,
ตถา ตถา ตตฺถ ปรกฺกเมยฺย.
‘‘สเจ ¶ ปชาเนยฺย อลพฺภเนยฺโย,
มยาว อฺเน วา เอส อตฺโถ;
อโสจมาโน อธิวาสเยยฺย,
กมฺมํ ทฬฺหํ กินฺติ กโรมิ ทานี’’ติ [ชา. ๑ ชาตเกปิ].
เอวํ ¶ วุตฺเต มุณฺโฑ ราชา อายสฺมนฺตํ นารทํ เอตทโวจ – ‘‘โก นาโม [โก นุ โข (สี. ปี.)] อยํ, ภนฺเต, ธมฺมปริยาโย’’ติ? ‘‘โสกสลฺลหรโณ นาม อยํ, มหาราช, ธมฺมปริยาโย’’ติ. ‘‘ตคฺฆ, ภนฺเต, โสกสลฺลหรโณ [ตคฺฆ ภนฺเต โสกสลฺลหรโณ, ตคฺฆ ภนฺเต โสกสลฺลหรโณ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]! อิมฺหิ เม, ภนฺเต, ธมฺมปริยายํ สุตฺวา โสกสลฺลํ ปหีน’’นฺติ.
อถ โข มุณฺโฑ ราชา ปิยกํ โกสารกฺขํ อามนฺเตสิ – ‘‘เตน หิ, สมฺม ปิยก, ภทฺทาย เทวิยา สรีรํ ฌาเปถ; ถูปฺจสฺสา กโรถ. อชฺชตคฺเค ทานิ มยํ นฺหายิสฺสาม เจว วิลิมฺปิสฺสาม ภตฺตฺจ ภฺุชิสฺสาม กมฺมนฺเต จ ปโยเชสฺสามา’’ติ. ทสมํ.
มุณฺฑราชวคฺโค ¶ ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
อาทิโย สปฺปุริโส อิฏฺา, มนาปทายีภิสนฺทํ;
สมฺปทา จ ธนํ านํ, โกสโล นารเทน จาติ.
ปมปณฺณาสกํ สมตฺตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกํ