📜

(๘) ๓. โยธาชีววคฺโค

๑. ปมเจโตวิมุตฺติผลสุตฺตํ

๗๑. ‘‘ปฺจิเม , ภิกฺขเว, ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา เจโตวิมุตฺติผลา จ โหนฺติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปฺาวิมุตฺติผลา จ โหนฺติ ปฺาวิมุตฺติผลานิสํสา จ.

‘‘กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสุภานุปสฺสี กาเย วิหรติ, อาหาเร ปฏิกูลสฺี [ปฏิกฺกูลสฺี (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สพฺพโลเก อนภิรตสฺี, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสี, มรณสฺา โข ปนสฺส อชฺฌตฺตํ สูปฏฺิตา โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา เจโตวิมุตฺติผลา จ โหนฺติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปฺาวิมุตฺติผลา จ โหนฺติ ปฺาวิมุตฺติผลานิสํสา จ. ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจโตวิมุตฺโต จ โหติ ปฺาวิมุตฺโต จ โหติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ อิติปิ, สํกิณฺณปริโข [สํกิณฺณปริกฺโข (สฺยา. กํ.)] อิติปิ, อพฺพูฬฺเหสิโก อิติปิ, นิรคฺคโฬ อิติปิ, อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต อิติปิ’’’.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชา ปหีนา โหติ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํกิณฺณปริโข โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โปโนภวิโก [โปโนพฺภวิโก (สฺยา. ก.)] ชาติสํสาโร ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํกิณฺณปริโข โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อพฺพูฬฺเหสิโก โหติ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา ปหีนา โหติ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อพฺพูฬฺเหสิโก โหติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิรคฺคโฬ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ อุจฺฉินฺนมูลานิ ตาลาวตฺถุกตานิ อนภาวํกตานิ อายตึ อนุปฺปาทธมฺมานิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิรคฺคโฬ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสฺมิมาโน ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต โหตี’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยเจโตวิมุตฺติผลสุตฺตํ

๗๒. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา เจโตวิมุตฺติผลา จ โหนฺติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปฺาวิมุตฺติผลา จ โหนฺติ ปฺาวิมุตฺติผลานิสํสา จ. กตเม ปฺจ? อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา เจโตวิมุตฺติผลา จ โหนฺติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปฺาวิมุตฺติผลา จ โหนฺติ ปฺาวิมุตฺติผลานิสํสา จ. ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจโตวิมุตฺโต จ โหติ ปฺาวิมุตฺโต จ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ อิติปิ, สํกิณฺณปริโข อิติปิ, อพฺพูฬฺเหสิโก อิติปิ, นิรคฺคโฬ อิติปิ, อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต อิติปิ’’’.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชา ปหีนา โหติ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํกิณฺณปริโข โหติ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โปโนภวิโก ชาติสํสาโร ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํกิณฺณปริโข โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อพฺพูฬฺเหสิโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา ปหีนา โหติ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อพฺพูฬฺเหสิโก โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิรคฺคโฬ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ อุจฺฉินฺนมูลานิ ตาลาวตฺถุกตานิ อนภาวํกตานิ อายตึ อนุปฺปาทธมฺมานิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิรคฺคโฬ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสฺมิมาโน ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต โหตี’’ติ. ทุติยํ.

๓. ปมธมฺมวิหารีสุตฺตํ

๗๓. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘ธมฺมวิหารี, ธมฺมวิหารี’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุ ธมฺมวิหารี โหตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. โส ตาย ธมฺมปริยตฺติยา ทิวสํ อตินาเมติ, ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, นานุยุฺชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ – ‘ภิกฺขุ ปริยตฺติพหุโล, โน ธมฺมวิหารี’’’.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ. โส ตาย ธมฺมปฺตฺติยา ทิวสํ อตินาเมติ, ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, นานุยุฺชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ – ‘ภิกฺขุ ปฺตฺติพหุโล, โน ธมฺมวิหารี’’’.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ. โส เตน สชฺฌาเยน ทิวสํ อตินาเมติ, ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, นานุยุฺชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ – ‘ภิกฺขุ สชฺฌายพหุโล, โน ธมฺมวิหารี’’’.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ. โส เตหิ ธมฺมวิตกฺเกหิ ทิวสํ อตินาเมติ, ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, นานุยุฺชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ – ‘ภิกฺขุ วิตกฺกพหุโล, โน ธมฺมวิหารี’’’.

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. โส ตาย ธมฺมปริยตฺติยา น ทิวสํ อตินาเมติ, นาปิ ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, อนุยุฺชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ธมฺมวิหารี โหติ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขุ, เทสิโต มยา ปริยตฺติพหุโล, เทสิโต ปฺตฺติพหุโล, เทสิโต สชฺฌายพหุโล, เทสิโต วิตกฺกพหุโล, เทสิโต ธมฺมวิหารี. ยํ โข, ภิกฺขุ [ยํ ภิกฺขุ (สฺยา. กํ. ปี.)], สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ โว ตํ มยา. เอตานิ, ภิกฺขุ, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สุฺาคารานิ. ฌายถ, ภิกฺขุ, มา ปมาทตฺถ , มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’ติ. ตติยํ.

๔. ทุติยธมฺมวิหารีสุตฺตํ

๗๔. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘ธมฺมวิหารี ธมฺมวิหารี’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุ ธมฺมวิหารี โหตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ; อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จสฺส ปฺาย อตฺถํ นปฺปชานาติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ – ‘ภิกฺขุ ปริยตฺติพหุโล, โน ธมฺมวิหารี’’’.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, อุตฺตริ จสฺส ปฺาย อตฺถํ นปฺปชานาติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ – ‘ภิกฺขุ ปฺตฺติพหุโล, โน ธมฺมวิหารี’’’.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, อุตฺตริ จสฺส ปฺาย อตฺถํ นปฺปชานาติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ – ‘ภิกฺขุ สชฺฌายพหุโล, โน ธมฺมวิหารี’’’.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ, อุตฺตริ จสฺส ปฺาย อตฺถํ นปฺปชานาติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ – ‘ภิกฺขุ วิตกฺกพหุโล, โน ธมฺมวิหารี’’’.

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ; อุตฺตริ จสฺส ปฺาย อตฺถํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ธมฺมวิหารี โหติ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขุ, เทสิโต มยา ปริยตฺติพหุโล, เทสิโต ปฺตฺติพหุโล, เทสิโต สชฺฌายพหุโล, เทสิโต วิตกฺกพหุโล, เทสิโต ธมฺมวิหารี. ยํ โข, ภิกฺขุ, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ โว ตํ มยา. เอตานิ, ภิกฺขุ, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สุฺาคารานิ. ฌายถ ภิกฺขุ, มา ปมาทตฺถ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมโยธาชีวสุตฺตํ

๗๕. ‘‘ปฺจิเม , ภิกฺขเว, โยธาชีวา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ โยธาชีโว รชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ. เอวรูโปปิ [เอวรูโป (สี.) ปุ. ป. ๑๙๓], ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ [เอกจฺโจ (สี.)] โยธาชีโว โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ; อปิ จ โข ธชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ; อปิ จ โข อุสฺสารณฺเว [อุสฺสาทนํเยว (สี. ปี.)] สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ, สหติ ธชคฺคํ, สหติ อุสฺสารณํ; อปิ จ โข สมฺปหาเร หฺติ [อาหฺติ (สี.)] พฺยาปชฺชติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ, สหติ ธชคฺคํ, สหติ อุสฺสารณํ, สหติ สมฺปหารํ. โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ โยธาชีวา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจิเม โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุ . กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ [สนฺตาเนตุํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. กิมสฺส รชคฺคสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว , ภิกฺขุ สุณาติ – ‘อมุกสฺมึ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา กุมารี วา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา’ติ. โส ตํ สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ. สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อิทมสฺส รชคฺคสฺมึ.

‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, โยธาชีโว รชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ; อปิ จ โข ธชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ. สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. กิมสฺส ธชคฺคสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เหว โข สุณาติ – ‘อมุกสฺมึ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา กุมารี วา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา’ติ; อปิ จ โข สามํ ปสฺสติ อิตฺถึ วา กุมารึ วา อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตํ. โส ตํ ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ. สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อิทมสฺส ธชคฺคสฺมึ.

‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ; อปิ จ โข ธชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ, สหติ ธชคฺคํ; อปิ จ โข อุสฺสารณฺเว สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ. สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. กิมสฺส อุสฺสารณาย? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ อรฺคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สุฺาคารคตํ วา มาตุคาโม อุปสงฺกมิตฺวา อูหสติ [อุหสติ (ก.), โอหสติ (สฺยา. กํ.) ปุ. ป. ๑๙๖] อุลฺลปติ อุชฺชคฺฆติ อุปฺปณฺเฑติ. โส มาตุคาเมน อูหสิยมาโน อุลฺลปิยมาโน อุชฺชคฺฆิยมาโน อุปฺปณฺฑิยมาโน สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ. สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อิทมสฺส อุสฺสารณาย.

‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ, สหติ ธชคฺคํ; อปิ จ โข อุสฺสารณฺเว สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ, น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ, สหติ ธชคฺคํ, สหติ อุสฺสารณํ; อปิ จ โข สมฺปหาเร หฺติ พฺยาปชฺชติ. กิมสฺส สมฺปหารสฺมึ ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ อรฺคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สุฺาคารคตํ วา มาตุคาโม อุปสงฺกมิตฺวา อภินิสีทติ อภินิปชฺชติ อชฺโฌตฺถรติ. โส มาตุคาเมน อภินิสีทิยมาโน อภินิปชฺชิยมาโน อชฺโฌตฺถริยมาโน สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ. อิทมสฺส สมฺปหารสฺมึ.

‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ, สหติ ธชคฺคํ, สหติ อุสฺสารณํ, อปิ จ โข สมฺปหาเร หฺติ พฺยาปชฺชติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ, สหติ ธชคฺคํ, สหติ อุสฺสารณํ, สหติ สมฺปหารํ, โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติ . กิมสฺส สงฺคามวิชยสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สุฺาคารคตํ วา มาตุคาโม อุปสงฺกมิตฺวา อภินิสีทติ อภินิปชฺชติ อชฺโฌตฺถรติ. โส มาตุคาเมน อภินิสีทิยมาโน อภินิปชฺชิยมาโน อชฺโฌตฺถริยมาโน วินิเวเตฺวา วินิโมเจตฺวา เยน กามํ ปกฺกมติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ.

‘‘โส อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา . โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. อิทมสฺส สงฺคามวิชยสฺมึ.

‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ, สหติ ธชคฺคํ, สหติ อุสฺสารณํ, สหติ สมฺปหารํ, โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสู’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยโยธาชีวสุตฺตํ

๗๖. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, โยธาชีวา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ โยธาชีโว อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา วิยูฬฺหํ สงฺคามํ โอตรติ. โส ตสฺมึ สงฺคาเม อุสฺสหติ วายมติ. ตเมนํ อุสฺสหนฺตํ วายมนฺตํ ปเร หนนฺติ ปริยาปาเทนฺติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา วิยูฬฺหํ สงฺคามํ โอตรติ. โส ตสฺมึ สงฺคาเม อุสฺสหติ วายมติ. ตเมนํ อุสฺสหนฺตํ วายมนฺตํ ปเร อุปลิกฺขนฺติ [อุปลิขนฺติ (ก.)], ตเมนํ อปเนนฺติ; อปเนตฺวา าตกานํ เนนฺติ. โส าตเกหิ นียมาโน อปฺปตฺวาว าตเก อนฺตรามคฺเค กาลํ กโรติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา วิยูฬฺหํ สงฺคามํ โอตรติ. โส ตสฺมึ สงฺคาเม อุสฺสหติ วายมติ. ตเมนํ อุสฺสหนฺตํ วายมนฺตํ ปเร อุปลิกฺขนฺติ, ตเมนํ อปเนนฺติ; อปเนตฺวา าตกานํ เนนฺติ. ตเมนํ าตกา อุปฏฺหนฺติ ปริจรนฺติ. โส าตเกหิ อุปฏฺหิยมาโน ปริจริยมาโน เตเนว อาพาเธน กาลํ กโรติ . เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา วิยูฬฺหํ สงฺคามํ โอตรติ. โส ตสฺมึ สงฺคาเม อุสฺสหติ วายมติ. ตเมนํ อุสฺสหนฺตํ วายมนฺตํ ปเร อุปลิกฺขนฺติ, ตเมนํ อปเนนฺติ; อปเนตฺวา าตกานํ เนนฺติ. ตเมนํ าตกา อุปฏฺหนฺติ ปริจรนฺติ. โส าตเกหิ อุปฏฺหิยมาโน ปริจริยมาโน วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธา. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา วิยูฬฺหํ สงฺคามํ โอตรติ. โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ โยธาชีวา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจิเม โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุ. กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติ. โส ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ตเมว คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ อรกฺขิเตเนว กาเยน อรกฺขิตาย วาจาย อรกฺขิเตน จิตฺเตน อนุปฏฺิตาย สติยา อสํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ. โส ตตฺถ ปสฺสติ มาตุคามํ ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา. ตสฺส ตํ มาตุคามํ ทิสฺวา ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ.

‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, โยธาชีโว อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา วิยูฬฺหํ สงฺคามํ โอตรติ, โส ตสฺมึ สงฺคาเม อุสฺสหติ วายมติ, ตเมนํ อุสฺสหนฺตํ วายมนฺตํ ปเร หนนฺติ ปริยาปาเทนฺติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติ. โส ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ตเมว คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ อรกฺขิเตเนว กาเยน อรกฺขิตาย วาจาย อรกฺขิเตน จิตฺเตน อนุปฏฺิตาย สติยา อสํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ. โส ตตฺถ ปสฺสติ มาตุคามํ ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา. ตสฺส ตํ มาตุคามํ ทิสฺวา ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน ปริฑยฺหเตว กาเยน ปริฑยฺหติ เจตสา. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ อาโรเจยฺยํ – ราคปริยุฏฺิโตมฺหิ [ราคายิโตมฺหิ (สี. สฺยา. กํ)], อาวุโส, ราคปเรโต, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ; สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’ติ. โส อารามํ คจฺฉนฺโต อปฺปตฺวาว อารามํ อนฺตรามคฺเค สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ.

‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, โยธาชีโว อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา วิยูฬฺหํ สงฺคามํ โอตรติ, โส ตสฺมึ สงฺคาเม อุสฺสหติ วายมติ, ตเมนํ อุสฺสหนฺตํ วายมนฺตํ ปเร อุปลิกฺขนฺติ, ตเมนํ อปเนนฺติ; อปเนตฺวา าตกานํ เนนฺติ. โส าตเกหิ นียมาโน อปฺปตฺวาว าตเก อนฺตรามคฺเค กาลํ กโรติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติ. โส ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ตเมว คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ อรกฺขิเตเนว กาเยน อรกฺขิตาย วาจาย อรกฺขิเตน จิตฺเตน อนุปฏฺิตาย สติยา อสํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ. โส ตตฺถ ปสฺสติ มาตุคามํ ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา. ตสฺส ตํ มาตุคามํ ทิสฺวา ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน ปริฑยฺหเตว กาเยน ปริฑยฺหติ เจตสา. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ อาโรเจยฺยํ – ราคปริยุฏฺิโตมฺหิ, อาวุโส, ราคปเรโต, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ; สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’ติ. โส อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ อาโรเจติ – ‘ราคปริยุฏฺิโตมฺหิ, อาวุโส, ราคปเรโต, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ; สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’’ติ.

‘‘ตเมนํ สพฺรหฺมจารี โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ – ‘อปฺปสฺสาทา , อาวุโส, กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา [พหูปายาสา (สี. สฺยา. กํ. ปี.) ปาจิ. ๔๑๗; จูฬว. ๖๕; ม. นิ. ๑.๒๓๔], อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. อฏฺิกงฺกลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. มํสเปสูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. ติณุกฺกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. องฺคารกาสูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. สุปินกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. ยาจิตกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. รุกฺขผลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. อสิสูนูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. สตฺติสูลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. สปฺปสิรูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. อภิรมตายสฺมา พฺรหฺมจริเย; มายสฺมา สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตี’’’ติ.

‘‘โส สพฺรหฺมจารีหิ เอวํ โอวทิยมาโน เอวํ อนุสาสิยมาโน เอวมาห – ‘กิฺจาปิ, อาวุโส, อปฺปสฺสาทา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย; อถ โข เนวาหํ สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’’ติ. โส สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ.

‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, โยธาชีโว อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา วิยูฬฺหํ สงฺคามํ โอตรติ, โส ตสฺมึ สงฺคาเม อุสฺสหติ วายมติ, ตเมนํ อุสฺสหนฺตํ วายมนฺตํ ปเร อุปลิกฺขนฺติ, ตเมนํ อปเนนฺติ; อปเนตฺวา าตกานํ เนนฺติ, ตเมนํ าตกา อุปฏฺหนฺติ ปริจรนฺติ . โส าตเกหิ อุปฏฺหิยมาโน ปริจริยมาโน เตเนว อาพาเธน กาลํ กโรติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติ. โส ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ตเมว คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ อรกฺขิเตเนว กาเยน อรกฺขิตาย วาจาย อรกฺขิเตน จิตฺเตน อนุปฏฺิตาย สติยา อสํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ. โส ตตฺถ ปสฺสติ มาตุคามํ ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา. ตสฺส ตํ มาตุคามํ ทิสฺวา ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน ปริฑยฺหเตว กาเยน ปริฑยฺหติ เจตสา. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ อาโรเจยฺยํ – ราคปริยุฏฺิโตมฺหิ, อาวุโส, ราคปเรโต, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ; สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’ติ. โส อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ อาโรเจติ – ‘ราคปริยุฏฺิโตมฺหิ, อาวุโส, ราคปเรโต, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ; สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’’ติ.

‘‘ตเมนํ สพฺรหฺมจารี โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ – ‘อปฺปสฺสาทา, อาวุโส, กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. อฏฺิกงฺกลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. มํสเปสูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ติณุกฺกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา… องฺคารกาสูปมา กามา วุตฺตา ภควตา… สุปินกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา… ยาจิตกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา… รุกฺขผลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา… อสิสูนูปมา กามา วุตฺตา ภควตา… สตฺติสูลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา… สปฺปสิรูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. อภิรมตายสฺมา พฺรหฺมจริเย; มายสฺมา สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตี’’’ติ.

‘‘โส สพฺรหฺมจารีหิ เอวํ โอวทิยมาโน เอวํ อนุสาสิยมาโน เอวมาห – ‘อุสฺสหิสฺสามิ , อาวุโส, วายมิสฺสามิ, อาวุโส, อภิรมิสฺสามิ, อาวุโส! น ทานาหํ, อาวุโส, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, โยธาชีโว อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา วิยูฬฺหํ สงฺคามํ โอตรติ, โส ตสฺมึ สงฺคาเม อุสฺสหติ วายมติ, ตเมนํ อุสฺสหนฺตํ วายมนฺตํ ปเร อุปลิกฺขนฺติ, ตเมนํ อปเนนฺติ; อปเนตฺวา าตกานํ เนนฺติ, ตเมนํ าตกา อุปฏฺหนฺติ ปริจรนฺติ. โส าตเกหิ อุปฏฺหิยมาโน ปริจริยมาโน วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธา; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติ. โส ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ตเมว คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ รกฺขิเตเนว กาเยน รกฺขิตาย วาจาย รกฺขิเตน จิตฺเตน อุปฏฺิตาย สติยา สํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ; จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา … ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ มนินฺทฺริยํ; มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. โส อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย…เป… โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ’’.

‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, โยธาชีโว อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา วิยูฬฺหํ สงฺคามํ โอตรติ, โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ. อิเม โข, ภิกฺขเว , ปฺจ โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสู’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมอนาคตภยสุตฺตํ

๗๗. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อนาคตภยานิ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารฺิเกน [อารฺเกน (สพฺพตฺถ อ. นิ. ๕.๑๘๑; ปริ. ๔๔๓)] ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘กตมานิ ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, อารฺิโก ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ เอกโก อรฺเ วิหรามิ. เอกกํ โข ปน มํ [เอกกํ โข ปน (สฺยา. กํ.)] อรฺเ วิหรนฺตํ อหิ วา มํ ฑํเสยฺย, วิจฺฉิโก [วิจฺฉิกา (สฺยา.)] วา มํ ฑํเสยฺย, สตปที วา มํ ฑํเสยฺย, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา, โส มมสฺส อนฺตราโย; หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารฺิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อารฺิโก ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ เอกโก อรฺเ วิหรามิ. เอกโก โข ปนาหํ อรฺเ วิหรนฺโต อุปกฺขลิตฺวา วา ปปเตยฺยํ, ภตฺตํ วา ภุตฺตํ เม พฺยาปชฺเชยฺย, ปิตฺตํ วา เม กุปฺเปยฺย, เสมฺหํ วา เม กุปฺเปยฺย, สตฺถกา วา เม วาตา กุปฺเปยฺยุํ, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา, โส มมสฺส อนฺตราโย; หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารฺิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อารฺิโก ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ เอกโก อรฺเ วิหรามิ. เอกโก โข ปนาหํ อรฺเ วิหรนฺโต วาเฬหิ สมาคจฺเฉยฺยํ, สีเหน วา พฺยคฺเฆน วา ทีปินา วา อจฺเฉน วา ตรจฺเฉน วา, เต มํ ชีวิตา โวโรเปยฺยุํ, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา , โส มมสฺส อนฺตราโย; หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารฺิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อารฺิโก ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ เอกโก อรฺเ วิหรามิ. เอกโก โข ปนาหํ อรฺเ วิหรนฺโต มาณเวหิ สมาคจฺเฉยฺยํ กตกมฺเมหิ วา อกตกมฺเมหิ วา, เต มํ ชีวิตา โวโรเปยฺยุํ, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา , โส มมสฺส อนฺตราโย; หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารฺิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อารฺิโก ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ เอกโก อรฺเ วิหรามิ. สนฺติ โข ปนารฺเ วาฬา อมนุสฺสา, เต มํ ชีวิตา โวโรเปยฺยุํ, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา, โส มมสฺส อนฺตราโย; หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปฺจมํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารฺิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อนาคตภยานิ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารฺิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยอนาคตภยสุตฺตํ

๗๘. ‘‘ปฺจิมานิ , ภิกฺขเว, อนาคตภยานิ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. กตมานิ ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ ทหโร ยุวา สุสุกาฬเกโส ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ปเมน วยสา . โหติ โข ปน โส สมโย ยํ อิมํ กายํ ชรา ผุสติ. ชิณฺเณน โข ปน ชราย อภิภูเตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, น สุกรานิ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิตุํ. ปุรา มํ โส ธมฺโม อาคจฺฉติ อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป; หนฺทาหํ ปฏิกจฺเจว [ปฏิคจฺเจว (สี.)] วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย, เยนาหํ ธมฺเมน สมนฺนาคโต ชิณฺณโกปิ ผาสุํ [ผาสุ (ปี. ก.)] วิหริสฺสามี’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ อปฺปาพาโธ อปฺปาตงฺโก สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย มชฺฌิมาย ปธานกฺขมาย. โหติ โข ปน โส สมโย ยํ อิมํ กายํ พฺยาธิ ผุสติ. พฺยาธิเตน โข ปน พฺยาธินา อภิภูเตน [พฺยาธาภิภูเตน (สี. ปี. ก.)] น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, น สุกรานิ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิตุํ. ปุรา มํ โส ธมฺโม อาคจฺฉติ อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป; หนฺทาหํ ปฏิกจฺเจว วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย , เยนาหํ ธมฺเมน สมนฺนาคโต พฺยาธิโตปิ ผาสุํ วิหริสฺสามี’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เอตรหิ โข สุภิกฺขํ สุสสฺสํ สุลภปิณฺฑํ , สุกรํ อุฺเฉน ปคฺคเหน ยาเปตุํ. โหติ โข ปน โส สมโย ยํ ทุพฺภิกฺขํ โหติ ทุสฺสสฺสํ ทุลฺลภปิณฺฑํ, น สุกรํ อุฺเฉน ปคฺคเหน ยาเปตุํ. ทุพฺภิกฺเข โข ปน มนุสฺสา เยน สุภิกฺขํ เตน สงฺกมนฺติ [เตนุปสงฺกมนฺติ (ก.)]. ตตฺถ สงฺคณิกวิหาโร โหติ อากิณฺณวิหาโร. สงฺคณิกวิหาเร โข ปน สติ อากิณฺณวิหาเร น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, น สุกรานิ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิตุํ. ปุรา มํ โส ธมฺโม อาคจฺฉติ อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป; หนฺทาหํ ปฏิกจฺเจว วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย, เยนาหํ ธมฺเมน สมนฺนาคโต ทุพฺภิกฺเขปิ ผาสุ วิหริสฺสามี’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เอตรหิ โข มนุสฺสา สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อฺมฺํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรนฺติ. โหติ โข ปน โส สมโย ยํ ภยํ โหติ อฏวิสงฺโกโป, จกฺกสมารูฬฺหา ชานปทา ปริยายนฺติ. ภเย โข ปน สติ มนุสฺสา เยน เขมํ เตน สงฺกมนฺติ. ตตฺถ สงฺคณิกวิหาโร โหติ อากิณฺณวิหาโร. สงฺคณิกวิหาเร โข ปน สติ อากิณฺณวิหาเร น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, น สุกรานิ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิตุํ. ปุรา มํ โส ธมฺโม อาคจฺฉติ อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป; หนฺทาหํ ปฏิกจฺเจว วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย, เยนาหํ ธมฺเมน สมนฺนาคโต ภเยปิ ผาสุํ วิหริสฺสามี’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เอตรหิ โข สงฺโฆ สมคฺโค สมฺโมทมาโน อวิวทมาโน เอกุทฺเทโส ผาสุ วิหรติ. โหติ โข ปน โส สมโย ยํ สงฺโฆ ภิชฺชติ. สงฺเฆ โข ปน ภินฺเน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, น สุกรานิ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิตุํ. ปุรา มํ โส ธมฺโม อาคจฺฉติ อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป; หนฺทาหํ ปฏิกจฺเจว วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย, เยนาหํ ธมฺเมน สมนฺนาคโต ภินฺเนปิ สงฺเฆ ผาสุํ วิหริสฺสามี’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปฺจมํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย.

‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อนาคตภยานิ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา อปฺปมตฺเตน อาตาปินา ปหิตตฺเตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ตติยอนาคตภยสุตฺตํ

๗๙. ‘‘ปฺจิมานิ , ภิกฺขเว, อนาคตภยานิ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนานิ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสนฺติ. ตานิ โว [โข (กตฺถจิ)] ปฏิพุชฺฌิตพฺพานิ ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ เตสํ ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘กตมานิ ปฺจ? ภวิสฺสนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา. เต อภาวิตกายา สมานา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา อฺเ อุปสมฺปาเทสฺสนฺติ. เตปิ [เต (สี.)] น สกฺขิสฺสนฺติ วิเนตุํ อธิสีเล อธิจิตฺเต อธิปฺาย. เตปิ ภวิสฺสนฺติ อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา. เต อภาวิตกายา สมานา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา อฺเ อุปสมฺปาเทสฺสนฺติ. เตปิ [เต (?)] น สกฺขิสฺสนฺติ วิเนตุํ อธิสีเล อธิจิตฺเต อธิปฺาย. เตปิ ภวิสฺสนฺติ อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา. อิติ โข, ภิกฺขเว, ธมฺมสนฺโทสา วินยสนฺโทโส; วินยสนฺโทสา ธมฺมสนฺโทโส. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสติ. ตํ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา. เต อภาวิตกายา สมานา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา อฺเสํ นิสฺสยํ ทสฺสนฺติ. เตปิ น สกฺขิสฺสนฺติ วิเนตุํ อธิสีเล อธิจิตฺเต อธิปฺาย . เตปิ ภวิสฺสนฺติ อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา. เต อภาวิตกายา สมานา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา อฺเสํ นิสฺสยํ ทสฺสนฺติ. เตปิ น สกฺขิสฺสนฺติ วิเนตุํ อธิสีเล อธิจิตฺเต อธิปฺาย. เตปิ ภวิสฺสนฺติ อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา. อิติ โข, ภิกฺขเว, ธมฺมสนฺโทสา วินยสนฺโทโส; วินยสนฺโทสา ธมฺมสนฺโทโส. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสติ. ตํ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา. เต อภาวิตกายา สมานา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา อภิธมฺมกถํ เวทลฺลกถํ กเถนฺตา กณฺหธมฺมํ โอกฺกมมานา น พุชฺฌิสฺสนฺติ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ธมฺมสนฺโทสา วินยสนฺโทโส; วินยสนฺโทสา ธมฺมสนฺโทโส. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสติ. ตํ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา. เต อภาวิตกายา สมานา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา เย เต สุตฺตนฺตา ตถาคตภาสิตา คมฺภีรา คมฺภีรตฺถา โลกุตฺตรา สุฺตาปฺปฏิสํยุตฺตา, เตสุ ภฺมาเนสุ น สุสฺสูสิสฺสนฺติ, น โสตํ โอทหิสฺสนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสนฺติ, น จ เต ธมฺเม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ. เย ปน เต สุตฺตนฺตา กวิตา [กวิกตา (สี. สฺยา. กํ. ปี., สํ. นิ. ๒.๒๒๙) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] กาเวยฺยา จิตฺตกฺขรา จิตฺตพฺยฺชนา พาหิรกา สาวกภาสิตา, เตสุ ภฺมาเนสุ สุสฺสูสิสฺสนฺติ, โสตํ โอทหิสฺสนฺติ, อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสนฺติ, เต จ ธมฺเม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ธมฺมสนฺโทสา วินยสนฺโทโส; วินยสนฺโทสา ธมฺมสนฺโทโส. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสติ. ตํ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา . เต อภาวิตกายา สมานา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา เถรา ภิกฺขู พาหุลิกา [พาหุลฺลิกา (สฺยา. กํ.) อ. นิ. ๒.๔๙; ๓.๙๖] ภวิสฺสนฺติ สาถลิกา โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, น วีริยํ อารภิสฺสนฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เตสํ ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชิสฺสติ. สาปิ ภวิสฺสติ พาหุลิกา สาถลิกา โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, น วีริยํ อารภิสฺสติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิติ โข, ภิกฺขเว, ธมฺมสนฺโทสา วินยสนฺโทโส; วินยสนฺโทสา ธมฺมสนฺโทโส. อิทํ, ภิกฺขเว, ปฺจมํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสติ. ตํ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํ . ‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อนาคตภยานิ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนานิ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสนฺติ. ตานิ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพานิ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ เตสํ ปหานาย วายมิตพฺพ’’นฺติ. นวมํ.

๑๐. จตุตฺถอนาคตภยสุตฺตํ

๘๐. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อนาคตภยานิ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนานิ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสนฺติ. ตานิ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพานิ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ เตสํ ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘กตมานิ ปฺจ? ภวิสฺสนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ จีวเร กลฺยาณกามา. เต จีวเร กลฺยาณกามา สมานา ริฺจิสฺสนฺติ ปํสุกูลิกตฺตํ, ริฺจิสฺสนฺติ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ; คามนิคมราชธานีสุ โอสริตฺวา วาสํ กปฺเปสฺสนฺติ, จีวรเหตุ จ อเนกวิหิตํ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสติ. ตํ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ ปิณฺฑปาเต กลฺยาณกามา. เต ปิณฺฑปาเต กลฺยาณกามา สมานา ริฺจิสฺสนฺติ ปิณฺฑปาติกตฺตํ , ริฺจิสฺสนฺติ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ; คามนิคมราชธานีสุ โอสริตฺวา วาสํ กปฺเปสฺสนฺติ ชิวฺหคฺเคน รสคฺคานิ ปริเยสมานา, ปิณฺฑปาตเหตุ จ อเนกวิหิตํ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสติ. ตํ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ เสนาสเน กลฺยาณกามา. เต เสนาสเน กลฺยาณกามา สมานา ริฺจิสฺสนฺติ รุกฺขมูลิกตฺตํ [อารฺกตฺตํ (สฺยา. กํ.)], ริฺจิสฺสนฺติ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ; คามนิคมราชธานีสุ โอสริตฺวา วาสํ กปฺเปสฺสนฺติ, เสนาสนเหตุ จ อเนกวิหิตํ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสติ. ตํ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ ภิกฺขุนีสิกฺขมานาสมณุทฺเทเสหิ สํสฏฺา วิหริสฺสนฺติ. ภิกฺขุนีสิกฺขมานาสมณุทฺเทเสหิ สํสคฺเค โข ปน, ภิกฺขเว, สติ เอตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘อนภิรตา วา พฺรหฺมจริยํ จริสฺสนฺติ, อฺตรํ วา สํกิลิฏฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชิสฺสนฺติ, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสนฺติ’. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสติ. ตํ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ อารามิกสมณุทฺเทเสหิ สํสฏฺา วิหริสฺสนฺติ. อารามิกสมณุทฺเทเสหิ สํสคฺเค โข ปน, ภิกฺขเว, สติ เอตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘อเนกวิหิตํ สนฺนิธิการปริโภคํ อนุยุตฺตา วิหริสฺสนฺติ, โอฬาริกมฺปิ นิมิตฺตํ กริสฺสนฺติ, ปถวิยาปิ หริตคฺเคปิ’. อิทํ, ภิกฺขเว, ปฺจมํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสติ. ตํ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํ.

‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อนาคตภยานิ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนานิ อายตึ สมุปฺปชฺชิสฺสนฺติ. ตานิ โว ปฏิพุชฺฌิตพฺพานิ; ปฏิพุชฺฌิตฺวา จ เตสํ ปหานาย วายมิตพฺพ’’นฺติ. ทสมํ.

โยธาชีววคฺโค ตติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว เจโตวิมุตฺติผลา, ทฺเว จ ธมฺมวิหาริโน;

โยธาชีวา จ ทฺเว วุตฺตา, จตฺตาโร จ อนาคตาติ.