📜
(๙) ๔. เถรวคฺโค
๑. รชนียสุตฺตํ
๘๑. ‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? รชนีเย รชฺชติ, ทุสฺสนีเย [ทุสนีเย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ทุสฺสติ, โมหนีเย มุยฺหติ, กุปฺปนีเย [กุปนีเย (สี. สฺยา. กํ.), โกปนีเย (ปี.)] กุปฺปติ, มทนีเย มชฺชติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ.
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? รชนีเย ¶ น รชฺชติ, ทุสฺสนีเย น ¶ ทุสฺสติ, โมหนีเย น มุยฺหติ, กุปฺปนีเย น กุปฺปติ, มทนีเย น มชฺชติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. ปมํ.
๒. วีตราคสุตฺตํ
๘๒. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ. กตเมหิ ¶ ปฺจหิ? อวีตราโค โหติ, อวีตโทโส โหติ, อวีตโมโห โหติ, มกฺขี จ, ปฬาสี จ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ.
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? วีตราโค โหติ, วีตโทโส ¶ โหติ, วีตโมโห โหติ, อมกฺขี จ, อปฬาสี จ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. ทุติยํ.
๓. กุหกสุตฺตํ
๘๓. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? กุหโก จ โหติ, ลปโก จ, เนมิตฺติโก [นิมิตฺติโก (สฺยา. กํ.), นิมิตฺตโก (ก.)] จ, นิปฺเปสิโก จ, ลาเภน จ ลาภํ นิชิคีสิตา [นิชิคึสิตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ.
‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? น จ กุหโก โหติ, น จ ลปโก, น จ เนมิตฺติโก, น จ นิปฺเปสิโก, น จ ลาเภน ลาภํ นิชิคีสิตา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. ตติยํ.
๔. อสฺสทฺธสุตฺตํ
๘๔. ‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ, อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ ¶ , กุสีโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ.
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? สทฺโธ โหติ, หิรีมา โหติ, โอตฺตปฺปี ¶ โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, ปฺวา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. อกฺขมสุตฺตํ
๘๕. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? อกฺขโม โหติ รูปานํ, อกฺขโม สทฺทานํ, อกฺขโม คนฺธานํ, อกฺขโม รสานํ, อกฺขโม โผฏฺพฺพานํ – อิเมหิ ¶ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ.
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฏฺพฺพานํ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. ปฺจมํ.
๖. ปฏิสมฺภิทาปตฺตสุตฺตํ
๘๖. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? อตฺถปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, ธมฺมปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, ปฏิภานปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ ¶ , ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต อลํ กาตุํ ¶ อลํ สํวิธาตุํ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. สีลวนฺตสุตฺตํ
๘๗. ‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ ปฺจหิ? สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ. อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา ¶ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ [สาตฺถา สพฺยฺชนา (สี.)] เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา [ธตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. เถรสุตฺตํ
๘๘. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ พหุชนอหิตาย ¶ ปฏิปนฺโน โหติ พหุชนอสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘กตเมหิ ปฺจหิ? เถโร โหติ รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต; าโต โหติ ยสสฺสี สคหฏฺปพฺพชิตานํ [คหฏฺปพฺพชิตานํ (สี.)] พหุชนปริวาโร; ลาภี โหติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ¶ ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา อปฺปฏิวิทฺธา; มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน, โส พหุชนํ สทฺธมฺมา วุฏฺาเปตฺวา อสทฺธมฺเม ปติฏฺาเปติ. เถโร ภิกฺขุ รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อิติปิสฺส ทิฏฺานุคตึ ¶ อาปชฺชนฺติ ¶ , าโต เถโร ภิกฺขุ ยสสฺสี สคหฏฺปพฺพชิตานํ พหุชนปริวาโร อิติปิสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ, ลาภี เถโร ภิกฺขุ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ อิติปิสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ, พหุสฺสุโต เถโร ภิกฺขุ สุตธโร สุตสนฺนิจโย อิติปิสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ พหุชนอหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ พหุชนอสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘กตเมหิ ปฺจหิ? เถโร โหติ รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต; าโต โหติ ยสสฺสี สคหฏฺปพฺพชิตานํ พหุชนปริวาโร; ลาภี โหติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ ¶ ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; สมฺมาทิฏฺิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน, โส พหุชนํ อสทฺธมฺมา วุฏฺาเปตฺวา สทฺธมฺเม ปติฏฺาเปติ. เถโร ภิกฺขุ รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อิติปิสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ, าโต เถโร ภิกฺขุ ยสสฺสี สคหฏฺปพฺพชิตานํ พหุชนปริวาโร อิติปิสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ, ลาภี เถโร ภิกฺขุ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ อิติปิสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ, พหุสฺสุโต เถโร ภิกฺขุ สุตธโร สุตสนฺนิจโย อิติปิสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ พหุชนสุขาย ¶ ¶ พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. ปมเสขสุตฺตํ
๘๙. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ปฺจ ¶ ? กมฺมารามตา, ภสฺสารามตา, นิทฺทารามตา, สงฺคณิการามตา, ยถาวิมุตฺตํ จิตฺตํ น ปจฺจเวกฺขติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ปฺจ? น กมฺมารามตา, น ภสฺสารามตา, น นิทฺทารามตา, น สงฺคณิการามตา, ยถาวิมุตฺตํ จิตฺตํ ปจฺจเวกฺขติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. ทุติยเสขสุตฺตํ
๙๐. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ พหุกิจฺโจ โหติ พหุกรณีโย ¶ วิยตฺโต กึกรณีเยสุ; ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, นานุยฺุชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ อปฺปมตฺตเกน กมฺเมน ทิวสํ อตินาเมติ; ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, นานุยฺุชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ สํสฏฺโ วิหรติ คหฏฺปพฺพชิเตหิ อนนุโลมิเกน คิหิสํสคฺเคน; ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, นานุยฺุชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ ¶ . อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ อกาเลน คามํ ปวิสติ, อติทิวา ปฏิกฺกมติ; ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, นานุยฺุชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ ยายํ กถา อาภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา สนฺตุฏฺิกถา ปวิเวกกถา อสํสคฺคกถา วีริยารมฺภกถา ¶ สีลกถา สมาธิกถา ปฺากถา วิมุตฺติกถา วิมุตฺติาณทสฺสนกถา, เอวรูปิยา กถาย น นิกามลาภี โหติ น อกิจฺฉลาภี น อกสิรลาภี [กิจฺฉลาภี กสิรลาภี (สี. สฺยา. กํ. ปี)]; ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, นานุยฺุชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ ¶ น พหุกิจฺโจ โหติ น พหุกรณีโย วิยตฺโต กึกรณีเยสุ; น ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, อนุยฺุชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ น อปฺปมตฺตเกน กมฺเมน ทิวสํ อตินาเมติ; น ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, อนุยฺุชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ อสํสฏฺโ วิหรติ คหฏฺปพฺพชิเตหิ อนนุโลมิเกน คิหิสํสคฺเคน; น ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, อนุยฺุชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ ¶ . อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ น อติกาเลน คามํ ปวิสติ, นาติทิวา ปฏิกฺกมติ; น ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, อนุยฺุชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ ยายํ กถา อาภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา สนฺตุฏฺิกถา ปวิเวกกถา อสํสคฺคกถา วีริยารมฺภกถา สีลกถา สมาธิกถา ปฺากถา วิมุตฺติกถา วิมุตฺติาณทสฺสนกถา, เอวรูปิยา กถาย ¶ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; น ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, อนุยฺุชติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถํ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน ¶ อปริหานาย สํวตฺตติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. ทสมํ.
เถรวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
รชนีโย ¶ วีตราโค, กุหกาสฺสทฺธอกฺขมา;
ปฏิสมฺภิทา จ สีเลน, เถโร เสขา ปเร ทุเวติ.