📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

องฺคุตฺตรนิกาโย

ฉกฺกนิปาตปาฬิ

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. อาหุเนยฺยวคฺโค

๑. ปมอาหุเนยฺยสุตฺตํ

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ [ที. นิ. ๓.๓๒๘; ปฏิ. ม. ๓.๑๗]? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. มนสา ธมฺมํ วิฺา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. ปมํ.

๒. ทุติยอาหุเนยฺยสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ [ที. นิ. ๓.๓๕๖]? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมสติ [ปรามสติ (ก.)] ปริมชฺชติ; ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.

‘‘ทิพฺพาย, โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เย ทูเร สนฺติเก จ.

‘‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ. สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ…เป… สโทสํ วา จิตฺตํ… วีตโทสํ วา จิตฺตํ… สโมหํ วา จิตฺตํ… วีตโมหํ วา จิตฺตํ… สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ… วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ… มหคฺคตํ วา จิตฺตํ… อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ… สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ… อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ… สมาหิตํ วา จิตฺตํ… อสมาหิตํ วา จิตฺตํ… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชานาติ.

‘‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… . อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ทุติยํ.

๓. อินฺทฺริยสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ? สทฺธินฺทฺริเยน , วีริยินฺทฺริเยน, สตินฺทฺริเยน, สมาธินฺทฺริเยน, ปฺินฺทฺริเยน, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ตติยํ.

๔. พลสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ? สทฺธาพเลน, วีริยพเลน, สติพเลน, สมาธิพเลน, ปฺาพเลน, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมอาชานียสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘กตเมหิ ฉหิ ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฏฺพฺพานํ, วณฺณสมฺปนฺโน จ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฏฺพฺพานํ, ขโม ธมฺมานํ. อิเมหิ โข , ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยอาชานียสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฏฺพฺพานํ, พลสมฺปนฺโน จ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รูปานํ …เป… ขโม ธมฺมานํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ตติยอาชานียสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฏฺพฺพานํ, ชวสมฺปนฺโน จ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รูปานํ…เป… ขโม ธมฺมานํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. อนุตฺตริยสุตฺตํ

. [ที. นิ. ๓.๓๒๗] ‘‘ฉยิมานิ , ภิกฺขเว, อนุตฺตริยานิ. กตมานิ ฉ? ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุตฺตริยานี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อนุสฺสติฏฺานสุตฺตํ

. [ที. นิ. ๓.๓๒๗] ‘‘ฉยิมานิ , ภิกฺขเว, อนุสฺสติฏฺานานิ. กตมานิ ฉ? พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆานุสฺสติ, สีลานุสฺสติ, จาคานุสฺสติ, เทวตานุสฺสติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ. นวมํ.

๑๐. มหานามสุตฺตํ

๑๐. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข มหานาโม สกฺโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน, โข มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โย โส, ภนฺเต, อริยสาวโก อาคตผโล วิฺาตสาสโน, โส กตเมน วิหาเรน พหุลํ วิหรตี’’ติ?

‘‘โย โส, มหานาม, อริยสาวโก อาคตผโล วิฺาตสาสโน, โส อิมินา วิหาเรน พหุลํ วิหรติ. [อ. นิ. ๑๑.๑๑] อิธ, มหานาม, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตถาคตํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘ปุน จปรํ, มหานาม, อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ธมฺมํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิต ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ , ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน ธมฺมานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘ปุน จปรํ, มหานาม, อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ สงฺฆํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน สงฺฆานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘ปุน จปรํ, มหานาม, อริยสาวโก อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสรติ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ . ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก สีลํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ สีลํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน สีลานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘ปุน จปรํ, มหานาม, อริยสาวโก อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม! โยหํ มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตาย ปชาย วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสามิ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก จาคํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ , น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ จาคํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน จาคานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘ปุน จปรํ, มหานาม, อริยสาวโก เทวตานุสฺสตึ ภาเวติ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา [จาตุมฺมหาราชิกา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สนฺติ เทวา ตาวตึสา, สนฺติ เทวา ยามา, สนฺติ เทวา ตุสิตา, สนฺติ เทวา นิมฺมานรติโน, สนฺติ เทวา ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน, สนฺติ เทวา พฺรหฺมกายิกา, สนฺติ เทวา ตตุตฺตริ [ตตุตฺตรึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), ตทุตฺตริ (ก.) อ. นิ. ๖.๒๕; วิสุทฺธิ. ๑.๑๖๒ ปสฺสิตพฺพํ]. ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา [ตตฺถ อุปฺปนฺนา (สี.), ตตฺถูปปนฺนา (สฺยา. กํ.), ตตฺถุปปนฺนา (อ. นิ. ๓.๗๑)], มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สีเลน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปํ สีลํ สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สุเตน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปํ สุตํ สํวิชฺชติ. ยถารูเปน จาเคน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูโป จาโค สํวิชฺชติ. ยถารูปาย ปฺาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’ติ. ยสฺมึ , มหานาม, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตา เทวตา อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ , สพฺยาปชฺชาย [สพฺยาปชฺฌาย… อพฺยาปชฺโฌ (ก.)] ปชาย อพฺยาปชฺโช [สพฺยาปชฺฌาย… อพฺยาปชฺโฌ (ก.)] วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน เทวตานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘โย โส, มหานาม, อริยสาวโก อาคตผโล วิฺาตสาสโน, โส อิมินา วิหาเรน พหุลํ วิหรตี’’ติ. ทสมํ.

อาหุเนยฺยวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว อาหุเนยฺยา อินฺทฺริย, พลานิ ตโย อาชานียา;

อนุตฺตริย อนุสฺสตี, มหานาเมน เต ทสาติ.