📜
๓. อนุตฺตริยวคฺโค
๑. สามกสุตฺตํ
๒๑. เอกํ ¶ ¶ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ สามคามเก โปกฺขรณิยายํ. อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ โปกฺขรณิยํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ตโยเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ตโย? กมฺมารามตา, ภสฺสารามตา ¶ , นิทฺทารามตา – อิเม โข, ภนฺเต, ตโย ธมฺมา ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิทมโวจ สา เทวตา. สมนฺุโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข สา เทวตา ‘‘สมนฺุโ เม สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.
อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ โปกฺขรณิยํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘ตโยเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ตโย? กมฺมารามตา, ภสฺสารามตา, นิทฺทารามตา – อิเม โข, ภนฺเต, ตโย ธมฺมา ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ. เตสํ โว [โข (ก.)], ภิกฺขเว, อลาภา เตสํ ทุลฺลทฺธํ, เย โว เทวตาปิ ชานนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ ปริหายมาเน’’.
‘‘อปเรปิ, ภิกฺขเว, ตโย ปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ ¶ – ‘‘กตเม ¶ จ, ภิกฺขเว, ตโย ปริหานิยา ธมฺมา? สงฺคณิการามตา, โทวจสฺสตา, ปาปมิตฺตตา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปริหานิยา ธมฺมา’’.
‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อตีตมทฺธานํ ปริหายึสุ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ¶ ฉหิ ธมฺเมหิ ปริหายึสุ กุสเลหิ ธมฺเมหิ. เยปิ หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อนาคตมทฺธานํ ปริหายิสฺสนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ ปริหายิสฺสนฺติ กุสเลหิ ¶ ธมฺเมหิ. เยปิ หิ เกจิ, ภิกฺขเว, เอตรหิ ปริหายนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ ปริหายนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ. ปมํ.
๒. อปริหานิยสุตฺตํ
๒๒. ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ…เป… กตเม จ, ภิกฺขเว, ฉ อปริหานิยา ธมฺมา? น กมฺมารามตา, น ภสฺสารามตา, น นิทฺทารามตา, น สงฺคณิการามตา, โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ อปริหานิยา ธมฺมา.
‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อตีตมทฺธานํ น ปริหายึสุ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ น ปริหายึสุ กุสเลหิ ธมฺเมหิ. เยปิ หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อนาคตมทฺธานํ น ปริหายิสฺสนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ น ปริหายิสฺสนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ. เยปิ หิ เกจิ, ภิกฺขเว, เอตรหิ น ปริหายนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ น ปริหายนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ. ทุติยํ.
๓. ภยสุตฺตํ
๒๓. ‘‘‘ภย’นฺติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ; ‘ทุกฺข’นฺติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ; ‘โรโค’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ; ‘คณฺโฑ’ติ, ภิกฺขเว ¶ , กามานเมตํ อธิวจนํ; ‘สงฺโค’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ; ‘ปงฺโก’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ.
‘‘กสฺมา ¶ จ, ภิกฺขเว, ‘ภย’นฺติ กามานเมตํ ¶ อธิวจนํ? กามราครตฺตายํ, ภิกฺขเว, ฉนฺทราควินิพทฺโธ ทิฏฺธมฺมิกาปิ ภยา น ปริมุจฺจติ, สมฺปรายิกาปิ ภยา น ปริมุจฺจติ, ตสฺมา ‘ภย’นฺติ กามานเมตํ อธิวจนํ. กสฺมา จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนฺติ…เป… โรโคติ… คณฺโฑติ… สงฺโคติ… ปงฺโกติ กามานเมตํ อธิวจนํ? กามราครตฺตายํ, ภิกฺขเว, ฉนฺทราควินิพทฺโธ ทิฏฺธมฺมิกาปิ ปงฺกา น ปริมุจฺจติ, สมฺปรายิกาปิ ปงฺกา น ปริมุจฺจติ, ตสฺมา ‘ปงฺโก’ติ กามานเมตํ อธิวจน’’นฺติ.
‘‘ภยํ ทุกฺขํ โรโค คณฺโฑ, สงฺโค ปงฺโก จ อุภยํ;
เอเต กามา ปวุจฺจนฺติ, ยตฺถ สตฺโต ปุถุชฺชโน.
‘‘อุปาทาเน ¶ ภยํ ทิสฺวา, ชาติมรณสมฺภเว;
อนุปาทา วิมุจฺจนฺติ, ชาติมรณสงฺขเย.
‘‘เต เขมปฺปตฺตา สุขิโน, ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตา;
สพฺพเวรภยาตีตา [สพฺเพ เวรภยาตีตา (สฺยา.)], สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคุ’’นฺติ. ตติยํ;
๔. หิมวนฺตสุตฺตํ
๒๔. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ หิมวนฺตํ ปพฺพตราชํ ปทาเลยฺย, โก ปน วาโท ฉวาย อวิชฺชาย! กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส ิติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส วุฏฺานกุสโล โหติ, สมาธิสฺส กลฺลิตกุสโล [กลฺลตากุสโล (สฺยา. กํ. ก.) สํ. นิ. ๓.๖๖๕ ปสฺสิตพฺพํ] โหติ, สมาธิสฺส โคจรกุสโล โหติ, สมาธิสฺส อภินีหารกุสโล โหติ. อิเมหิ ¶ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ หิมวนฺตํ ปพฺพตราชํ ปทาเลยฺย, โก ปน วาโท ฉวาย อวิชฺชายา’’ติ! จตุตฺถํ.
๕. อนุสฺสติฏฺานสุตฺตํ
๒๕. ‘‘ฉยิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, อนุสฺสติฏฺานานิ. กตมานิ ฉ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ¶ ตถาคตํ อนุสฺสรติ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม…เป… ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ ¶ ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ¶ อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ ¶ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสรติ อขณฺฑานิ…เป… สมาธิสํวตฺตนิกานิ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก สีลํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรติ – ‘ลาภา วต เม! สุลทฺธํ วต เม…เป… ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’ติ. ยสฺมึ…เป… เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เทวตา อนุสฺสรติ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา ¶ , สนฺติ เทวา ตาวตึสา, สนฺติ เทวา ยามา, สนฺติ เทวา ตุสิตา, สนฺติ เทวา นิมฺมานรติโน, สนฺติ เทวา ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน, สนฺติ เทวา พฺรหฺมกายิกา ¶ , สนฺติ เทวา ตตุตฺตริ. ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา; มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สีเลน… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา; มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’’’ ติ.
‘‘ยสฺมึ ¶ , ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. มหากจฺจานสุตฺตํ
๒๖. ตตฺร โข อายสฺมา มหากจฺจาโน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหากจฺจาโน เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส; อพฺภุตํ, อาวุโส! ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ ¶ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ.
‘‘กตมานิ ฉ? อิธาวุโส, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ – ‘อิติปิ โส ภควา ¶ …เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ ¶ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม…เป… ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ ¶ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ¶ . อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ ¶ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสรติ อขณฺฑานิ…เป… สมาธิสํวตฺตนิกานิ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน สีลํ ¶ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา ¶ เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม…เป… ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’ติ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น ¶ โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก เทวตา อนุสฺสรติ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา, สนฺติ เทวา…เป… ตตุตฺตริ. ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา; มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ ¶ . ยถารูเปน สีเลน…เป… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา; มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’ติ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ ¶ , น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , อาวุโส; อพฺภุตํ, อาวุโส! ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ฉ อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ปมสมยสุตฺตํ
๒๗. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ¶ โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ? ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขุ, สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ’’.
‘‘กตเม ฉ? อิธ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา ¶ วิหรามิ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ ¶ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, กามราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ กามราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ปโม สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ พฺยาปาทปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ พฺยาปาทปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, พฺยาปาทสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ พฺยาปาทสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ทุติโย สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ ถินมิทฺธปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ ถินมิทฺธสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ ถินมิทฺธปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ ถินมิทฺธสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, ถินมิทฺธสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ ถินมิทฺธสฺส ปหานาย ธมฺมํ ¶ เทเสติ ¶ . อยํ, ภิกฺขุ, ตติโย สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ¶ นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, จตุตฺโถ สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, อาวุโส, วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, วิจิกิจฺฉาย ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ วิจิกิจฺฉาย ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ปฺจโม สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ยํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ยํ นิมิตฺตํ มนสิกโรโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ ตํ นิมิตฺตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, ยํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ¶ ยํ นิมิตฺตํ ¶ มนสิกโรโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ, ตํ นิมิตฺตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, อาสวานํ ขยาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อาสวานํ ขยาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ฉฏฺโ สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. อิเม โข, ภิกฺขุ, ฉ สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. ทุติยสมยสุตฺตํ
๒๘. เอกํ ¶ ¶ สมยํ สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู พาราณสิยํ วิหรนฺติ อิสิปตเน มิคทาเย. อถ โข เตสํ เถรานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โก นุ โข, อาวุโส, สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ?
เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปาเท ปกฺขาเลตฺวา นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.
เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, อาวุโส ¶ , โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปาเท ปกฺขาเลตฺวา นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, จาริตฺตกิลมโถปิสฺส ตสฺมึ สมเย อปฺปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ, ภตฺตกิลมโถปิสฺส ตสฺมึ สมเย อปฺปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ. ตสฺมา โส อสมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต วิหารปจฺฉายายํ นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.
เอวํ ¶ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, อาวุโส, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ¶ ภิกฺขุ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต วิหารปจฺฉายายํ นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, ยเทวสฺส ทิวา สมาธินิมิตฺตํ มนสิกตํ โหติ ตเทวสฺส ตสฺมึ สมเย สมุทาจรติ. ตสฺมา โส อสมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย ¶ อุปสงฺกมิตุํ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.
เอวํ ¶ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, อาวุโส, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, โอชฏฺายิสฺส ตสฺมึ สมเย กาโย โหติ ผาสุสฺส โหติ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ. ตสฺมา โส อสมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา มหากจฺจาโน เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ฉยิเม, ภิกฺขุ, สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ’’’.
‘‘กตเม ฉ? อิธ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต ¶ เม อายสฺมา กามราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ กามราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ปโม สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ…เป… ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา ¶ วิหรติ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… ยํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ¶ ยํ นิมิตฺตํ มนสิกโรโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ, ตํ นิมิตฺตํ น ชานาติ น ปสฺสติ, ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, ยํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ยํ นิมิตฺตํ มนสิกโรโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ ตํ นิมิตฺตํ น ชานามิ น ปสฺสามิ. สาธุ วต เม อายสฺมา อาสวานํ ขยาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อาสวานํ ขยาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ฉฏฺโ สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.
‘‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘อิเม โข, ภิกฺขุ, ฉ สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. อุทายีสุตฺตํ
๒๙. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายึ อามนฺเตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ? เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายึ อามนฺเตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ? ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิ. ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายึ อามนฺเตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ? ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ อุทายึ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส อุทายิ, อามนฺเตสี’’ติ. ‘‘สุโณมหํ ¶ , อาวุโส อานนฺท, ภควโต. อิธ ¶ , ภนฺเต, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ – เสยฺยถิทํ เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป…. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺาน’’นฺติ.
อถ ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อฺาสึ โข อหํ, อานนฺท – ‘เนวายํ อุทายี โมฆปุริโส อธิจิตฺตํ อนุยุตฺโต วิหรตี’ติ. กติ นุ โข, อานนฺท, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ?
‘‘ปฺจ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานานิ. กตมานิ ปฺจ? อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อาโลกสฺํ มนสิ กโรติ, ทิวา สฺํ อธิฏฺาติ, ยถา ทิวา ตถา รตฺตึ, ยถา รตฺตึ ตถา ทิวา; อิติ วิวเฏน เจตสา ¶ อปริโยนทฺเธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ าณทสฺสนปฺปฏิลาภาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ [นหารุ (สี. ปี.) ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐] อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติ. อิทํ, ภนฺเต ¶ , อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ กามราคปฺปหานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ [ฉฑฺฑิตํ (สี. สฺยา. ปี.)] เอกาหมตํ วา ทฺวีหมตํ วา ¶ ตีหมตํ วา อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกชาตํ. โส อิมเมว กายํ เอวํ [เอวนฺติ อิทํ สติปฏฺานสุตฺตาทีสุ นตฺถิ] อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’’’ติ [เอตํ อนตีโตติ (สี.)].
‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน [เสยฺยถา วา ปน (สฺยา.)] ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ กาเกหิ วา ขชฺชมานํ กุลเลหิ วา ขชฺชมานํ คิชฺเฌหิ วา ขชฺชมานํ สุนเขหิ วา ขชฺชมานํ สิงฺคาเลหิ [สิคาเลหิ (สี.)] วา ขชฺชมานํ ¶ วิวิเธหิ วา ปาณกชาเตหิ ขชฺชมานํ. โส อิมเมว กายํ เอวํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’’’ติ.
‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ อฏฺิกสงฺขลิกํ สมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกสงฺขลิกํ นิมฺมํสโลหิตมกฺขิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ… อฏฺิกสงฺขลิกํ อปคตมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ. อฏฺิกานิ อปคตสมฺพนฺธานิ ทิสาวิทิสาวิกฺขิตฺตานิ [ทิสาวิทิสาสุ วิกฺขิตฺตานิ (สี.)], อฺเน หตฺถฏฺิกํ อฺเน ปาทฏฺิกํ อฺเน ชงฺฆฏฺิกํ อฺเน อูรุฏฺิกํ อฺเน กฏิฏฺิกํ [กฏฏฺิกํ (สี.)] อฺเน [ปิฏฺิกณฺฑกํ อฺเน สีสกฏาหํ (สี. ปี.), ปิฏฺิกณฺฑกฏฺิกํ อฺเน สีสกฏาหํ (สฺยา. กํ.)] ผาสุกฏฺิกํ ¶ อฺเน ปิฏฺิกณฺฏกฏฺิกํ อฺเน ขนฺธฏฺิกํ อฺเน คีวฏฺิกํ อฺเน หนุกฏฺิกํ อฺเน ทนฺตกฏฺิกํ อฺเน สีสกฏาหํ [ปิฏฺิกณฺฑกํ อฺเน สีสกฏาหํ (สี. ปี.), ปิฏฺิกณฺฑกฏฺิกํ อฺเน สีสกฏาหํ (สฺยา. กํ.)], อฏฺิกานิ เสตานิ สงฺขวณฺณปฺปฏิภาคานิ [สงฺขวณฺณูปนิภานิ (สี. สฺยา. ปี.)] อฏฺิกานิ ปฺุชกิตานิ [ปฺุชกตานิ (ปี.)] เตโรวสฺสิกานิ อฏฺิกานิ ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิ. โส อิมเมว ¶ กายํ เอวํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ ¶ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ อสฺมิมานสมุคฺฆาตาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ อเนกธาตุปฏิเวธาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, ภนฺเต, ปฺจ อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ.
‘‘สาธุ, สาธุ, อานนฺท! เตน หิ ตฺวํ, อานนฺท, อิทมฺปิ ฉฏฺํ อนุสฺสติฏฺานํ ธาเรหิ. อิธานนฺท, ภิกฺขุ สโตว อภิกฺกมติ สโตว ปฏิกฺกมติ สโตว ติฏฺติ สโตว นิสีทติ สโตว เสยฺยํ กปฺเปติ สโตว กมฺมํ อธิฏฺาติ. อิทํ, อานนฺท, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ สติสมฺปชฺาย สํวตฺตตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. อนุตฺตริยสุตฺตํ
๓๐. ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อนุตฺตริยานิ. กตมานิ ฉ? ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยนฺติ.
‘‘กตมฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ หตฺถิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อสฺสรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, มณิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ทสฺสนาย คจฺฉติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฏฺิกํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ ทสฺสนาย คจฺฉติ. อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ; เนตํ นตฺถีติ วทามิ. ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น ¶ อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย ¶ สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทสฺสนาย คจฺฉติ ¶ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ [โสกปริทฺทวานํ (สี.)] สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย [อตฺถคมาย (สี.)] ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทสฺสนาย คจฺฉติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ.
‘‘สวนานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ เภริสทฺทมฺปิ [เภริสทฺทสฺสปิ (ก.) เอวํ วีณาสทฺทมฺปิอิจฺจาทีสุปิ] สวนาย คจฺฉติ, วีณาสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, คีตสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน สวนาย คจฺฉติ, สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส มิจฺฉาปฏิปนฺนสฺส ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ. อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, สวนํ; เนตํ นตฺถีติ วทามิ. ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, สวนํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, สวนานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ ¶ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สวนานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ.
‘‘ลาภานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุตฺตลาภมฺปิ ลภติ, ทารลาภมฺปิ ลภติ, ธนลาภมฺปิ ลภติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ¶ ลาภํ ลภติ, สมเณ วา พฺราหฺมเณ ¶ วา มิจฺฉาทิฏฺิเก มิจฺฉาปฏิปนฺเน สทฺธํ ปฏิลภติ. อตฺเถโส, ภิกฺขเว, ลาโภ; เนโส นตฺถีติ วทามิ. โส จ โข เอโส, ภิกฺขเว, ลาโภ หีโน คมฺโม โปถุชฺชนิโก อนริโย อนตฺถสํหิโต, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคเต วา ตถาคตสาวเก วา ¶ สทฺธํ ปฏิลภติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ลาภานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคเต วา ตถาคตสาวเก วา สทฺธํ ปฏิลภติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ลาภานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ.
‘‘สิกฺขานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ หตฺถิสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, อสฺสสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, รถสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, ธนุสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, ถรุสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, อุจฺจาวจํ วา ปน สิกฺขติ, สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส มิจฺฉาปฏิปนฺนสฺส [มิจฺฉาปฏิปตฺตึ (ก.)] สิกฺขติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, สิกฺขา; เนสา นตฺถีติ ¶ วทามิ. สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, สิกฺขา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปฺมฺปิ สิกฺขติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, สิกฺขานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ¶ , ยทิทํ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปฺมฺปิ สิกฺขติ, นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สิกฺขานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ.
‘‘ปาริจริยานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ขตฺติยมฺปิ ปริจรติ, พฺราหฺมณมฺปิ ปริจรติ, คหปติมฺปิ ปริจรติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ปริจรติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฏฺิกํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ ปริจรติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, ปาริจริยา; เนสา นตฺถีติ ¶ วทามิ. สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, ปาริจริยา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา, น นิพฺพิทาย…เป… น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ปริจรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน ¶ , เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ปาริจริยานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ ¶ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ปริจรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปาริจริยานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ.
‘‘อนุสฺสตานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุตฺตลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, ทารลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, ธนลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ลาภํ อนุสฺสรติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฏฺิกํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ อนุสฺสรติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, อนุสฺสติ; เนสา นตฺถีติ วทามิ. สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, อนุสฺสติ หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ¶ ตถาคตสาวกํ วา อนุสฺสรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, อนุสฺสตีนํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา อนุสฺสรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุสฺสตานุตฺตริยํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุตฺตริยานี’’ติ.
‘‘เย ทสฺสนานุตฺตรํ ¶ ลทฺธา [เย ทสฺสนวรํ ลทฺธา (สี. ปี.), ทสฺสนานุตฺตริยํ ลทฺธา (สฺยา. กํ.)], สวนฺจ อนุตฺตรํ;
ลาภานุตฺตริยํ ลทฺธา, สิกฺขานุตฺตริเย รตา [อนุตฺตริยํ ตถา (ก.)].
‘‘อุปฏฺิตา ปาริจริยา, ภาวยนฺติ อนุสฺสตึ;
วิเวกปฺปฏิสํยุตฺตํ, เขมํ อมตคามินึ.
‘‘อปฺปมาเท ¶ ปมุทิตา, นิปกา สีลสํวุตา;
เต เว กาเลน ปจฺเจนฺติ [ปจฺจนฺติ (สฺยา. ก.)], ยตฺถ ทุกฺขํ นิรุชฺฌตี’’ติ. ทสมํ;
อนุตฺตริยวคฺโค [สามกวคฺโค (ก.)] ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
สามโก ¶ อปริหานิโย, ภยํ หิมวานุสฺสติ;
กจฺจาโน ทฺเว จ สมยา, อุทายี อนุตฺตริเยนาติ.