📜
๕. ธมฺมิกวคฺโค
๑. นาคสุตฺตํ
๔๓. เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท ¶ , เยน ปุพฺพาราโม มิคารมาตุปาสาโท ¶ เตนุปสงฺกมิสฺสาม ทิวาวิหารายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.
อถ โข ภควา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ เยน ปุพฺพาราโม มิคารมาตุปาสาโท เตนุปสงฺกมิ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน ปุพฺพโกฏฺโก เตนุปสงฺกมิสฺสาม คตฺตานิ ปริสิฺจิตุ’’นฺติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ เยน ปุพฺพโกฏฺโก เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ. ปุพฺพโกฏฺเก คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฏฺาสิ คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโน.
เตน โข ปน สมเยน รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส เสโต นาม นาโค มหาตูริย [มหาตุริย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ตาฬิตวาทิเตน ปุพฺพโกฏฺกา ปจฺจุตฺตรติ. อปิสฺสุ ตํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘‘อภิรูโป วต, โภ, รฺโ นาโค; ทสฺสนีโย วต, โภ, รฺโ นาโค; ปาสาทิโก วต, โภ, รฺโ นาโค; กายุปปนฺโน วต, โภ, รฺโ นาโค’’ติ! เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘หตฺถิเมว นุ โข, ภนฺเต, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ [มหนฺตํ พฺรุหนฺตํ (สี.), มหตฺตํ พฺรหฺมตฺตํ (ก.)] กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’ติ, อุทาหุ อฺมฺปิ กฺจิ [กิฺจิ (ก.)] มหนฺตํ พฺรหนฺตํ กายุปปนฺนํ ¶ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’’’ติ? ‘‘หตฺถิมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’ติ! อสฺสมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป… โคณมฺปิ โข, อุทายิ ¶ , มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป… อุรคมฺปิ [นาคมฺปิ (ก.)] โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป… รุกฺขมฺปิ โข, อุทายิ ¶ , มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป… มนุสฺสมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’ติ! อปิ จ, อุทายิ, โย สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อาคุํ น กโรติ กาเยน วาจาย มนสา, ตมหํ ‘นาโค’ติ พฺรูมี’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว สุภาสิตํ จิทํ, ภนฺเต, ภควตา – อปิ จ, อุทายิ, โย สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อาคุํ น กโรติ กาเยน วาจาย มนสา, ตมหํ ‘นาโค’ติ พฺรูมี’’ติ. อิทฺจ ปนาหํ, ภนฺเต, ภควตา สุภาสิตํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทามิ –
‘‘มนุสฺสภูตํ สมฺพุทฺธํ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;
อิริยมานํ พฺรหฺมปเถ, จิตฺตสฺสูปสเม รตํ.
‘‘ยํ ¶ มนุสฺสา นมสฺสนฺติ, สพฺพธมฺมาน ปารคุํ;
เทวาปิ ตํ [นํ (สี. ปี.)] นมสฺสนฺติ, อิติ เม อรหโต สุตํ.
‘‘สพฺพสํโยชนาตีตํ, วนา นิพฺพน [นิพฺพาน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มาคตํ;
กาเมหิ เนกฺขมฺมรตํ [เนกฺขมฺเม รตํ (ก. สี.)], มุตฺตํ เสลาว กฺจนํ.
‘‘สพฺเพ อจฺจรุจี นาโค, หิมวาฺเ สิลุจฺจเย;
สพฺเพสํ ¶ นาคนามานํ, สจฺจนาโม อนุตฺตโร.
‘‘นาคํ โว [เต (ก.)] กิตฺตยิสฺสามิ, น หิ อาคุํ กโรติ โส;
โสรจฺจํ อวิหึสา จ, ปาทา นาคสฺส เต ทุเว.
‘‘ตโป จ พฺรหฺมจริยํ, จรณา นาคสฺส ตฺยาปเร;
สทฺธาหตฺโถ มหานาโค, อุเปกฺขาเสตทนฺตวา.
‘‘สติ ¶ คีวา สิโร ปฺา, วีมํสา ธมฺมจินฺตนา;
ธมฺมกุจฺฉิสมาตโป, วิเวโก ตสฺส วาลธิ.
‘‘โส ฌายี อสฺสาสรโต, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต [อชฺฌตฺตุปสมาหิโต (สฺยา. ก.)];
คจฺฉํ สมาหิโต นาโค, ิโต นาโค สมาหิโต.
‘‘เสยฺยํ สมาหิโต นาโค, นิสินฺโนปิ สมาหิโต;
สพฺพตฺถ ¶ สํวุโต นาโค, เอสา นาคสฺส สมฺปทา.
‘‘ภฺุชติ อนวชฺชานิ, สาวชฺชานิ น ภฺุชติ;
ฆาสมจฺฉาทนํ ลทฺธา, สนฺนิธึ ปริวชฺชยํ.
‘‘สํโยชนํ อณุํ ถูลํ, สพฺพํ เฉตฺวาน พนฺธนํ;
เยน เยเนว คจฺฉติ, อนเปกฺโขว คจฺฉติ.
‘‘ยถาปิ อุทเก ชาตํ, ปุณฺฑรีกํ ปวฑฺฒติ;
นุปลิปฺปติ [น อุปลิปฺปติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), นุปลิมฺปติ (ก.)] โตเยน, สุจิคนฺธํ มโนรมํ.
‘‘ตเถว โลเก สุชาโต, พุทฺโธ โลเก วิหรติ;
นุปลิปฺปติ โลเกน, โตเยน ปทุมํ ยถา.
‘‘มหาคินีว ¶ ชลิโต [มหาคฺคินิ ปชฺชลิโต (สี. สฺยา. กํ.)], อนาหารูปสมฺมติ;
สงฺขาเรสูปสนฺเตสุ ¶ [องฺคาเรสุ จ สนฺเตสุ (ก.)], นิพฺพุโตติ ปวุจฺจติ.
‘‘อตฺถสฺสายํ วิฺาปนี, อุปมา วิฺูหิ เทสิตา;
วิฺสฺสนฺติ [วิฺิสฺสนฺติ (ก.)] มหานาคา, นาคํ นาเคน เทสิตํ.
‘‘วีตราโค ¶ วีตโทโส, วีตโมโห อนาสโว;
สรีรํ วิชหํ นาโค, ปรินิพฺพิสฺสติ [ปรินิพฺพาติ (ปี. ก.)] อนาสโว’’ติ. ปมํ;
๒. มิคสาลาสุตฺตํ
๔๔. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน มิคสาลาย อุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข มิคสาลา [มิคสาณา (ก.) อ. นิ. ๑๐.๗๕] อุปาสิกา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข มิคสาลา อุปาสิกา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ –
‘‘กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปรายํ ¶ ? ปิตา เม, ภนฺเต, ปุราโณ พฺรหฺมจารี อโหสิ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. โส กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต สกทาคามิสตฺโต [สกทาคามิปตฺโต (ก. สฺยา. ปี.)] ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโนติ. เปตฺเตยฺโยปิ [เปตฺตยฺโย ปิโย (สี. ปี. ก.), ปิตุ ปิโย (สฺยา. กํ.)] เม, ภนฺเต, อิสิทตฺโต อพฺรหฺมจารี อโหสิ สทารสนฺตุฏฺโ. โสปิ กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต สกทาคามิปตฺโต ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโนติ. กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ ¶ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘เอวํ โข ปเนตํ, ภคินิ, ภควตา พฺยากต’’นฺติ.
อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท มิคสาลาย อุปาสิกาย นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน มิคสาลาย อุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึ. อถ โข, ภนฺเต, มิคสาลา อุปาสิกา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺนา โข, ภนฺเต, มิคสาลา อุปาสิกา มํ เอตทโวจ – ‘กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปรายํ. ปิตา เม, ภนฺเต, ปุราโณ พฺรหฺมจารี อโหสิ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. โส กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต สกทาคามิปตฺโต ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโนติ. เปตฺเตยฺโยปิ เม, ภนฺเต, อิสิทตฺโต อพฺรหฺมจารี อโหสิ สทารสนฺตุฏฺโ. โสปิ กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต สกทาคามิปตฺโต ¶ ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโนติ. กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี ¶ จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปราย’นฺติ? เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, มิคสาลํ อุปาสิกํ เอตทโวจํ – ‘เอวํ โข ปเนตํ, ภคินิ, ภควตา พฺยากต’’’นฺติ.
‘‘กา จานนฺท, มิคสาลา อุปาสิกา พาลา อพฺยตฺตา อมฺมกา อมฺมกสฺา [อมฺพกา อมฺพกปฺา (สี. ปี.), อมฺพกา อมฺพกสฺา (สฺยา. กํ.) อ. นิ. ๑๐.๗๕ ปสฺสิตพฺพํ], เก จ ปุริสปุคฺคลปโรปริยาเณ? ฉยิเม, อานนฺท, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
‘‘กตเม ฉ? อิธานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โสรโต โหติ สุขสํวาโส, อภินนฺทนฺติ สพฺรหฺมจารี เอกตฺตวาเสน. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ อกตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ อปฺปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ ¶ มรณา หานาย ปเรติ โน วิเสสาย, หานคามีเยว โหติ โน วิเสสคามี.
‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โสรโต โหติ สุขสํวาโส, อภินนฺทนฺติ สพฺรหฺมจารี เอกตฺตวาเสน. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วิเสสาย ปเรติ โน หานาย, วิเสสคามีเยว โหติ โน หานคามี.
‘‘ตตฺรานนฺท, ปมาณิกา ปมิณนฺติ – ‘อิมสฺสปิ เตว ธมฺมา อปรสฺสปิ เตว ธมฺมา, กสฺมา เตสํ เอโก หีโน เอโก ปณีโต’ติ! ตฺหิ เตสํ, อานนฺท, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย.
‘‘ตตฺรานนฺท ¶ , ยฺวายํ ปุคฺคโล โสรโต โหติ สุขสํวาโส, อภินนฺทนฺติ สพฺรหฺมจารี เอกตฺตวาเสน, ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. อยํ ¶ , อานนฺท ¶ , ปุคฺคโล อมุนา ปุริเมน ปุคฺคเลน อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมํ หานนฺท, ปุคฺคลํ ธมฺมโสโต นิพฺพหติ, ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย อฺตฺร ตถาคเตน! ตสฺมาติหานนฺท, มา ปุคฺคเลสุ ปมาณิกา อหุวตฺถ; มา ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหิตฺถ. ขฺติ หานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหนฺโต. อหํ วา, อานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺเหยฺยํ, โย วา ปนสฺส มาทิโส.
‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โกธมาโน อธิคโต [อวิคโต (ก.)] โหติ, สมเยน สมยฺจสฺส โลภธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ อกตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ อปฺปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หานาย ปเรติ โน วิเสสาย, หานคามีเยว โหติ โน วิเสสคามี.
‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โกธมาโน อธิคโต โหติ, สมเยน สมยฺจสฺส โลภธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ…เป… โน หานคามี.
‘‘ตตฺรานนฺท ¶ , ปมาณิกา ปมิณนฺติ…เป… โย วา ปนสฺส มาทิโส.
‘‘อิธ, ปนานนฺท, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โกธมาโน อธิคโต โหติ, สมเยน สมยฺจสฺส วจีสงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ…เป… สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หานาย ปเรติ โน วิเสสาย, หานคามีเยว โหติ โน วิเสสคามี.
‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โกธมาโน อธิคโต โหติ, สมเยน สมยฺจสฺส วจีสงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ ¶ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วิเสสาย ¶ ปเรติ โน หานาย, วิเสสคามีเยว โหติ โน หานคามี.
‘‘ตตฺรานนฺท ¶ , ปมาณิกา ปมิณนฺติ – ‘อิมสฺสปิ เตว ธมฺมา, อปรสฺสปิ เตว ธมฺมา. กสฺมา เตสํ เอโก หีโน, เอโก ปณีโต’ติ? ตฺหิ เตสํ, อานนฺท, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย.
‘‘ตตฺรานนฺท, ยสฺส ปุคฺคลสฺส โกธมาโน อธิคโต โหติ, สมเยน สมยฺจสฺส วจีสงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. อยํ, อานนฺท, ปุคฺคโล อมุนา ปุริเมน ปุคฺคเลน อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมํ หานนฺท, ปุคฺคลํ ธมฺมโสโต นิพฺพหติ. ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย อฺตฺร ตถาคเตน! ตสฺมาติหานนฺท, มา ปุคฺคเลสุ ปมาณิกา อหุวตฺถ; มา ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหิตฺถ. ขฺติ หานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหนฺโต. อหํ วา, อานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺเหยฺยํ, โย วา ปนสฺส มาทิโส.
‘‘กา จานนฺท, มิคสาลา อุปาสิกา พาลา อพฺยตฺตา อมฺมกา อมฺมกสฺา, เก จ ปุริสปุคฺคลปโรปริยาเณ! อิเม โข, อานนฺท, ฉ ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
‘‘ยถารูเปน, อานนฺท, สีเลน ปุราโณ สมนฺนาคโต อโหสิ, ตถารูเปน สีเลน อิสิทตฺโต สมนฺนาคโต อภวิสฺส. นยิธ ปุราโณ อิสิทตฺตสฺส คติมฺปิ อฺสฺส. ยถารูปาย จ, อานนฺท, ปฺาย ¶ อิสิทตฺโต สมนฺนาคโต อโหสิ, ตถารูปาย ปฺาย ปุราโณ สมนฺนาคโต ¶ อภวิสฺส. นยิธ อิสิทตฺโต ปุราณสฺส คติมฺปิ อฺสฺส. อิติ โข, อานนฺท, อิเม ปุคฺคลา อุโภ เอกงฺคหีนา’’ติ. ทุติยํ.
๓. อิณสุตฺตํ
๔๕. ‘‘ทาลิทฺทิยํ [ทาฬิทฺทิยํ (สี.)], ภิกฺขเว, ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท [ทฬิทฺโท (สี.)] อสฺสโก ¶ อนาฬฺหิโก [อนทฺธิโก (สฺยา. กํ.)] อิณํ อาทิยติ, อิณาทานมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก อิณํ อาทิยิตฺวา วฑฺฒึ ปฏิสฺสุณาติ, วฑฺฒิปิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก วฑฺฒึ ปฏิสฺสุณิตฺวา ¶ กาลาภตํ [กาลคตํ (ก.)] วฑฺฒึ น เทติ, โจเทนฺติปิ นํ; โจทนาปิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก โจทิยมาโน น เทติ, อนุจรนฺติปิ นํ; อนุจริยาปิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก อนุจริยมาโน น เทติ, พนฺธนฺติปิ นํ; พนฺธนมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ทาลิทฺทิยมฺปิ ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน, อิณาทานมฺปิ ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน, วฑฺฒิปิ ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน, โจทนาปิ ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน, อนุจริยาปิ ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน, พนฺธนมฺปิ ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว ¶ , ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โอตฺตปฺปํ นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วีริยํ นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ปฺา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยสฺส วินเย ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก.
‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก สทฺธาย อสติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิริยา อสติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โอตฺตปฺเป อสติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วีริเย อสติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ปฺาย อสติ ¶ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. อิทมสฺส อิณาทานสฺมึ วทามิ.
‘‘โส ตสฺส กายทุจฺจริตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหติ [ปทหติ (ก.)]. ‘มา มํ ชฺู’ติ อิจฺฉติ, ‘มา มํ ชฺู’ติ สงฺกปฺปติ ¶ , ‘มา มํ ชฺู’ติ วาจํ ภาสติ, ‘มา มํ ชฺู’ติ กาเยน ปรกฺกมติ. โส ตสฺส วจีทุจฺจริตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ…เป… โส ตสฺส มโนทุจฺจริตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ…เป… ‘มา มํ ชฺู’ติ กาเยน ปรกฺกมติ. อิทมสฺส วฑฺฒิยา วทามิ.
‘‘ตเมนํ เปสลา สพฺรหฺมจารี เอวมาหํสุ – ‘อยฺจ โส อายสฺมา เอวํการี เอวํสมาจาโร’ติ. อิทมสฺส โจทนาย วทามิ.
‘‘ตเมนํ ¶ อรฺคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สฺุาคารคตํ วา วิปฺปฏิสารสหคตา ปาปกา อกุสลวิตกฺกา สมุทาจรนฺติ. อิทมสฺส อนุจริยาย ¶ วทามิ.
‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิรยพนฺธเน วา พชฺฌติ ติรจฺฉานโยนิพนฺธเน วา. นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกพนฺธนมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํทารุณํ เอวํกฏุกํ [เอวํทุกฺขํ (สฺยา. กํ. ก.)] เอวํอนฺตรายกรํ อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺส อธิคมาย, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, นิรยพนฺธนํ วา ติรจฺฉานโยนิพนฺธนํ วา’’ติ.
‘‘ทาลิทฺทิยํ ทุกฺขํ โลเก, อิณาทานฺจ วุจฺจติ;
ทลิทฺโท อิณมาทาย, ภฺุชมาโน วิหฺติ.
‘‘ตโต อนุจรนฺติ นํ, พนฺธนมฺปิ นิคจฺฉติ;
เอตฺหิ พนฺธนํ ทุกฺขํ, กามลาภาภิชปฺปินํ.
‘‘ตเถว อริยวินเย, สทฺธา ยสฺส น วิชฺชติ;
อหิรีโก ¶ อโนตฺตปฺปี, ปาปกมฺมวินิพฺพโย.
‘‘กายทุจฺจริตํ กตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;
มโนทุจฺจริตํ กตฺวา, ‘มา มํ ชฺู’ติ อิจฺฉติ.
‘‘โส ¶ สํสปฺปติ [สงฺกปฺปติ (ก.)] กาเยน, วาจาย อุท เจตสา;
ปาปกมฺมํ ปวฑฺเฒนฺโต, ตตฺถ ตตฺถ ปุนปฺปุนํ.
‘‘โส ปาปกมฺโม ทุมฺเมโธ, ชานํ ทุกฺกฏมตฺตโน;
ทลิทฺโท อิณมาทาย, ภฺุชมาโน วิหฺติ.
‘‘ตโต ¶ อนุจรนฺติ นํ, สงฺกปฺปา มานสา ทุขา;
คาเม ¶ วา ยทิ วารฺเ, ยสฺส วิปฺปฏิสารชา.
‘‘โส ปาปกมฺโม ทุมฺเมโธ, ชานํ ทุกฺกฏมตฺตโน;
โยนิมฺตรํ คนฺตฺวา, นิรเย วาปิ พชฺฌติ.
‘‘เอตฺหิ พนฺธนํ ทุกฺขํ, ยมฺหา ธีโร ปมุจฺจติ;
ธมฺมลทฺเธหิ โภเคหิ, ททํ จิตฺตํ ปสาทยํ.
‘‘อุภยตฺถ กฏคฺคาโห, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;
ทิฏฺธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปรายสุขาย จ;
เอวเมตํ คหฏฺานํ, จาโค ปฺุํ ปวฑฺฒติ.
‘‘ตเถว อริยวินเย, สทฺธา ยสฺส ปติฏฺิตา;
หิรีมโน จ โอตฺตปฺปี, ปฺวา สีลสํวุโต.
‘‘เอโส โข อริยวินเย, ‘สุขชีวี’ติ วุจฺจติ;
นิรามิสํ สุขํ ลทฺธา, อุเปกฺขํ อธิติฏฺติ.
‘‘ปฺจ นีวรเณ หิตฺวา, นิจฺจํ อารทฺธวีริโย;
ฌานานิ อุปสมฺปชฺช, เอโกทิ นิปโก สโต.
‘‘เอวํ ตฺวา ยถาภูตํ, สพฺพสํโยชนกฺขเย;
สพฺพโส อนุปาทาย, สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจติ.
‘‘ตสฺส สมฺมา วิมุตฺตสฺส, าณํ เจ โหติ ตาทิโน;
‘อกุปฺปา เม วิมุตฺตี’ติ, ภวสํโยชนกฺขเย.
‘‘เอตํ โข ปรมํ าณํ, เอตํ สุขมนุตฺตรํ;
อโสกํ วิรชํ เขมํ, เอตํ อานณฺยมุตฺตม’’นฺติ. ตติยํ;
๔. มหาจุนฺทสุตฺตํ
๔๖. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา มหาจุนฺโท เจตีสุ วิหรติ สยํชาติยํ [สหชาติยํ (สี. ปี.), สฺชาติยํ (สฺยา. กํ.)]. ตตฺร โข อายสฺมา มหาจุนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาจุนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหาจุนฺโท เอตทโวจ –
‘‘อิธาวุโส, ธมฺมโยคา ภิกฺขู ฌายี ภิกฺขู อปสาเทนฺติ – ‘อิเม ปน ฌายิโนมฺหา, ฌายิโนมฺหาติ ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อวชฺฌายนฺติ [อปชฺฌายนฺติ (ม. นิ. ๑.๕๐๘)]. กิมิเม [กึ หิเม (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ฌายนฺติ, กินฺติเม ฌายนฺติ, กถํ อิเม ฌายนฺตี’ติ? ตตฺถ ธมฺมโยคา จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, ฌายี จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, น จ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา โหนฺติ พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ฌายี ภิกฺขู ธมฺมโยเค ภิกฺขู อปสาเทนฺติ – ‘อิเม ปน ธมฺมโยคมฺหา, ธมฺมโยคมฺหาติ อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา มุฏฺสฺสตี อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ปากตินฺทฺริยา. กิมิเม ธมฺมโยคา, กินฺติเม ธมฺมโยคา, กถํ อิเม ธมฺมโยคา’ติ? ตตฺถ ฌายี จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, ธมฺมโยคา จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, น จ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา โหนฺติ พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ธมฺมโยคา ภิกฺขู ธมฺมโยคานฺเว ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสนฺติ, โน ฌายีนํ ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสนฺติ. ตตฺถ ธมฺมโยคา จ ภิกฺขู ¶ นปฺปสีทนฺติ, ฌายี จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, น จ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา โหนฺติ พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย ¶ สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ฌายี ภิกฺขู ฌายีนฺเว ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสนฺติ, โน ธมฺมโยคานํ ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสนฺติ. ตตฺถ ฌายี จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, ธมฺมโยคา จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, น จ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา โหนฺติ พหุชนสุขาย ¶ พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘ตสฺมาติหาวุโส ¶ , เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ธมฺมโยคา สมานา ฌายีนํ ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสิสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, อาวุโส, สิกฺขิตพฺพํ. ตํ กิสฺส เหตุ? อจฺฉริยา เหเต, อาวุโส, ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมึ, เย อมตํ ธาตุํ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรนฺติ. ตสฺมาติหาวุโส, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ฌายี สมานา ธมฺมโยคานํ ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสิสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, อาวุโส, สิกฺขิตพฺพํ. ตํ กิสฺส เหตุ? อจฺฉริยา เหเต, อาวุโส, ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมึ เย คมฺภีรํ อตฺถปทํ ปฺาย อติวิชฺฌ ปสฺสนฺตี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ปมสนฺทิฏฺิกสุตฺตํ
๔๗. อถ โข โมฬิยสีวโก [โมลิยสีวโก (สี. ปี.), โมฬิสีวโก (ก.)] ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โมฬิยสีวโก ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ?
‘‘เตน ¶ หิ, สีวก, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉามิ. ยถา เต ขเมยฺย ¶ ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, สีวก, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โลภํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โลโภ’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โลภํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โลโภ’ติ ปชานาสี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ โข ตฺวํ, สีวก, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โลภํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โลโภ’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โลภํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โลโภ’ติ ปชานาสิ – เอวมฺปิ โข, สีวก, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ…เป….
‘‘ตํ กึ มฺสิ, สีวก, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โทสํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โมหํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โลภธมฺมํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โทสธมฺมํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โมหธมฺมํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โมหธมฺโม’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ ¶ วา อชฺฌตฺตํ โมหธมฺมํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โมหธมฺโม’ติ ปชานาสี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ โข ตฺวํ, สีวก, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โมหธมฺมํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โมหธมฺโม’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ ¶ วา อชฺฌตฺตํ โมหธมฺมํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โมหธมฺโม’ติ ปชานาสิ – เอวํ โข, สีวก, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ.
‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. ทุติยสนฺทิฏฺิกสุตฺตํ
๔๘. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม’ติ, โภ โคตม, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, โภ โคตม, สนฺทิฏฺิโก ¶ ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ?
‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ราคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ราโค’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ราคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ราโค’ติ ปชานาสี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘ยํ โข ตฺวํ, พฺราหฺมณ, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ราคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ราโค’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ราคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ราโค’ติ ปชานาสิ – เอวมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ…เป….
‘‘ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โทสํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โมหํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กายสนฺโทสํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วจีสนฺโทสํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทสํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทโส’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทสํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทโส’ติ ปชานาสี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘ยํ โข ตฺวํ, พฺราหฺมณ, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทสํ ‘อตฺถิ ¶ เม อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทโส’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทสํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทโส’ติ ¶ ปชานาสิ – เอวํ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ.
‘‘อภิกฺกนฺตํ ¶ , โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ฉฏฺํ.
๗. เขมสุตฺตํ
๔๙. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ เขโม อายสฺมา จ สุมโน สาวตฺถิยํ วิหรนฺติ ¶ อนฺธวนสฺมึ. อถ โข อายสฺมา จ เขโม อายสฺมา จ สุมโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา เขโม ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต ตสฺส น เอวํ โหติ – ‘อตฺถิ เม เสยฺโยติ วา อตฺถิ เม สทิโสติ วา อตฺถิ เม หีโนติ วา’’’ติ. อิทมโวจายสฺมา เขโม. สมนฺุโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข อายสฺมา เขโม ‘‘สมนฺุโ เม สตฺถา’’ติ อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อถ โข อายสฺมา สุมโน อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต เขเม ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต ตสฺส น เอวํ โหติ – ‘นตฺถิ เม เสยฺโยติ วา นตฺถิ เม สทิโสติ วา นตฺถิ เม หีโนติ วา’’’ติ. อิทมโวจายสฺมา สุมโน. สมนฺุโ สตฺถา ¶ อโหสิ. อถ ¶ โข อายสฺมา สุมโน ‘‘สมนฺุโ เม สตฺถา’’ติ อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเตสุ อายสฺมนฺเต จ เขเม อายสฺมนฺเต จ สุมเน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เอวํ โข, ภิกฺขเว, กุลปุตฺตา อฺํ พฺยากโรนฺติ ¶ . อตฺโถ จ วุตฺโต อตฺตา จ อนุปนีโต. อถ จ ปน อิเธกจฺเจ โมฆปุริสา หสมานกา [หสมานกํ (ก.) มหาว. ๒๔๕] มฺเ อฺํ พฺยากโรนฺติ. เต ปจฺฉา วิฆาตํ อาปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘น อุสฺเสสุ น โอเมสุ, สมตฺเต โนปนียเร [โนปนิยฺยเร (สฺยา. ปี. ก.)];
ขีณา ชาติ วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, จรนฺติ สํโยชนวิปฺปมุตฺตา’’ติ. สตฺตมํ;
๘. อินฺทฺริยสํวรสุตฺตํ
๕๐. [อ. นิ. ๕.๒๔, ๑๖๘; ๒.๗.๖๕] ‘‘อินฺทฺริยสํวเร ¶ , ภิกฺขเว, อสติ อินฺทฺริยสํวรวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สีลํ; สีเล อสติ สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, เผคฺคุปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยสํวเร อสติ อินฺทฺริยสํวรวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สีลํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘อินฺทฺริยสํวเร ¶ , ภิกฺขเว, สติ อินฺทฺริยสํวรสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สีลํ; สีเล สติ สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, เผคฺคุปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ ¶ . เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยสํวเร สติ อินฺทฺริยสํวรสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สีลํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. อานนฺทสุตฺตํ
๕๑. อถ ¶ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อสฺสุตฺเจว ธมฺมํ สุณาติ, สุตา จสฺส ธมฺมา น สมฺโมสํ คจฺฉนฺติ, เย จสฺส ธมฺมา ปุพฺเพ เจตสา สมฺผุฏฺปุพฺพา เต จ สมุทาจรนฺติ, อวิฺาตฺจ วิชานาตี’’ติ? ‘‘อายสฺมา โข อานนฺโท พหุสฺสุโต. ปฏิภาตุ อายสฺมนฺตํเยว อานนฺท’’นฺติ. ‘‘เตนหาวุโส สาริปุตฺต, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ ¶ . ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –
‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ วาเจติ, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ. ยสฺมึ อาวาเส เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํ อุเปติ. เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ; อิมสฺส กฺวตฺโถ’ติ? เต ตสฺส อายสฺมโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส ¶ สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อสฺสุตฺเจว ธมฺมํ สุณาติ, สุตา จสฺส ธมฺมา น สมฺโมสํ คจฺฉนฺติ, เย จสฺส ธมฺมา ปุพฺเพ เจตสา สมฺผุฏฺปุพฺพา เต จ สมุทาจรนฺติ, อวิฺาตฺจ วิชานาตี’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ยาว สุภาสิตํ จิทํ อายสฺมตา อานนฺเทน. อิเมหิ จ มยํ ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ธาเรม. อายสฺมา หิ อานนฺโท ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ ¶ . อายสฺมา อานนฺโท ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ¶ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, อายสฺมา อานนฺโท ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ วาเจติ, อายสฺมา อานนฺโท ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, อายสฺมา อานนฺโท ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ. อายสฺมา อานนฺโท ยสฺมึ อาวาเส เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํ อุเปติ. เต อายสฺมา อานนฺโท กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ; อิมสฺส กฺวตฺโถ’ติ? เต อายสฺมโต อานนฺทสฺส อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. ขตฺติยสุตฺตํ
๕๒. อถ โข ชาณุสฺโสณิ [ชาณุโสณิ (ก.)] พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ขตฺติยา ¶ , โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘ขตฺติยา โข, พฺราหฺมณ, โภคาธิปฺปายา ปฺูปวิจารา พลาธิฏฺานา ปถวีภินิเวสา อิสฺสริยปริโยสานา’’ติ.
‘‘พฺราหฺมณา ปน, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘พฺราหฺมณา โข, พฺราหฺมณ, โภคาธิปฺปายา ¶ ปฺูปวิจารา มนฺตาธิฏฺานา ยฺาภินิเวสา พฺรหฺมโลกปริโยสานา’’ติ.
‘‘คหปติกา ¶ ปน, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘คหปติกา โข, พฺราหฺมณ, โภคาธิปฺปายา ปฺูปวิจารา สิปฺปาธิฏฺานา กมฺมนฺตาภินิเวสา นิฏฺิตกมฺมนฺตปริโยสานา’’ติ.
‘‘อิตฺถี ¶ ปน, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘อิตฺถี โข, พฺราหฺมณ, ปุริสาธิปฺปายา อลงฺการูปวิจารา ปุตฺตาธิฏฺานา อสปตีภินิเวสา อิสฺสริยปริโยสานา’’ติ.
‘‘โจรา ปน, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘โจรา โข, พฺราหฺมณ, อาทานาธิปฺปายา คหนูปวิจารา สตฺถาธิฏฺานา อนฺธการาภินิเวสา อทสฺสนปริโยสานา’’ติ.
‘‘สมณา ปน, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘สมณา โข, พฺราหฺมณ, ขนฺติโสรจฺจาธิปฺปายา ปฺูปวิจารา สีลาธิฏฺานา อากิฺจฺาภินิเวสา [อกิฺจนาภินิเวสา (สฺยา. ก.)] นิพฺพานปริโยสานา’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ขตฺติยานมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ อธิปฺปายฺจ อุปวิจารฺจ อธิฏฺานฺจ อภินิเวสฺจ ปริโยสานฺจ. พฺราหฺมณานมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ…เป… ¶ คหปตีนมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ… อิตฺถีนมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ… โจรานมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ ¶ … สมณานมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ อธิปฺปายฺจ อุปวิจารฺจ อธิฏฺานฺจ อภินิเวสฺจ ปริโยสานฺจ. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ทสมํ.
๑๑. อปฺปมาทสุตฺตํ
๕๓. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ ¶ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ โคตม, เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต โย อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’ติ? ‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ ¶ , เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต โย อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’ติ.
‘‘กตโม ปน, โภ โคตม, เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต โย อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’ติ? ‘‘อปฺปมาโท โข, พฺราหฺมณ, เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ยานิ กานิจิ ชงฺคลานํ [ชงฺคมานํ (สี. ปี.) อ. นิ. ๑๐.๑๕; ม. นิ. ๑.๓๐๐] ปาณานํ ปทชาตานิ, สพฺพานิ ตานิ หตฺถิปเท สโมธานํ คจฺฉนฺติ; หตฺถิปทํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ มหนฺตตฺเตน. เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อปฺปมาโท เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ ¶ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, กูฏาคารสฺส ยา กาจิ โคปานสิโย สพฺพา ตา กูฏงฺคมา กูฏนินฺนา กูฏสโมสรณา, กูฏํ ตาสํ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ ¶ …เป….
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ปพฺพชลายโก ปพฺพชํ [พพฺพชลายโก พพฺพชํ (สี. ปี.)] ลายิตฺวา อคฺเค คเหตฺวา โอธุนาติ นิธุนาติ นิจฺฉาเทติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ…เป….
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, อมฺพปิณฺฑิยา วณฺฏจฺฉินฺนาย ยานิ กานิจิ อมฺพานิ วณฺฏูปนิพนฺธนานิ สพฺพานิ ตานิ ตทนฺวยานิ ภวนฺติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ…เป….
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, เย เกจิ ขุทฺทราชาโน [กุฑฺฑราชาโน (สี. สฺยา. อฏฺ.), กุทฺทราชาโน (ปี.) อ. นิ. ๑๐.๑๕] สพฺเพเต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนุยนฺตา [อนุยุตฺตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภวนฺติ, ราชา เตสํ จกฺกวตฺตี อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ…เป….
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , พฺราหฺมณ, ยา กาจิ ตารกรูปานํ ปภา สพฺพา ตา จนฺทสฺส ปภาย กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ, จนฺทปฺปภา ตาสํ อคฺคมกฺขายติ. เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อปฺปมาโท เอโก ¶ ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก.
‘‘อยํ โข, พฺราหฺมณ, เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’ติ.
‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. เอกาทสมํ.
๑๒. ธมฺมิกสุตฺตํ
๕๔. เอกํ ¶ ¶ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ธมฺมิโก ชาติภูมิยํ อาวาสิโก โหติ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตสุ อาวาเสสุ. ตตฺร สุทํ อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหึสติ วิตุทติ โรเสติ วาจาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ [น สณฺหนฺติ (สี.)], ริฺจนฺติ อาวาสํ.
อถ โข ชาติภูมกานํ [ชาติภูมิกานํ (สฺยา. ปี. ก.)] อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ โข ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. อถ จ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ. โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาส’’นฺติ? อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหึสติ วิตุทติ โรเสติ วาจาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ ¶ , น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ. ยํนูน มยํ อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ปพฺพาเชยฺยามา’’ติ.
อถ ¶ โข ชาติภูมกา อุปาสกา เยน อายสฺมา ธมฺมิโก เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปกฺกมตุ, ภนฺเต, อายสฺมา ธมฺมิโก อิมมฺหา อาวาสา; อลํ เต อิธ วาเสนา’’ติ. อถ ¶ โข อายสฺมา ธมฺมิโก ตมฺหา อาวาสา อฺํ อาวาสํ อคมาสิ. ตตฺรปิ สุทํ อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหึสติ วิตุทติ โรเสติ วาจาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ ¶ อาวาสํ.
อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ โข ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. อถ จ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ. โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาส’’นฺติ? อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหึสติ วิตุทติ โรเสติ วาจาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ. ยํนูน มยํ อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ปพฺพาเชยฺยามา’’ติ.
อถ โข ชาติภูมกา อุปาสกา เยนายสฺมา ธมฺมิโก เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปกฺกมตุ, ภนฺเต, อายสฺมา ธมฺมิโก อิมมฺหาปิ อาวาสา; อลํ เต อิธ วาเสนา’’ติ. อถ โข อายสฺมา ธมฺมิโก ตมฺหาปิ อาวาสา อฺํ อาวาสํ อคมาสิ ¶ . ตตฺรปิ สุทํ อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหึสติ วิตุทติ โรเสติ วาจาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ.
อถ ¶ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ โข ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. อถ จ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ ¶ , น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ. โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาส’’นฺติ? อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ…เป… ¶ . ยํนูน มยํ อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ปพฺพาเชยฺยาม สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ. อถ โข ชาติภูมกา อุปาสกา เยนายสฺมา ธมฺมิโก เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปกฺกมตุ, ภนฺเต, อายสฺมา ธมฺมิโก สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ. อถ โข อายสฺมโต ธมฺมิกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปพฺพาชิโต โขมฺหิ ชาติภูมเกหิ อุปาสเกหิ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหิ. กหํ นุ โข ทานิ คจฺฉามี’’ติ? อถ โข อายสฺมโต ธมฺมิกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ เยน ภควา เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา ธมฺมิโก ปตฺตจีวรมาทาย เยน ราชคหํ เตน ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน เยน ราชคหํ คิชฺฌกูโฏ ปพฺพโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อาคจฺฉสี’’ติ? ‘‘ปพฺพาชิโต อหํ, ภนฺเต, ชาติภูมเกหิ อุปาสเกหิ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ. ‘‘อลํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, กึ เต อิมินา, ยํ ตํ ตโต ตโต ปพฺพาเชนฺติ, โส ตฺวํ ตโต ตโต ปพฺพาชิโต มเมว สนฺติเก อาคจฺฉสิ’’.
‘‘ภูตปุพฺพํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สามุทฺทิกา วาณิชา ตีรทสฺสึ สกุณํ คเหตฺวา นาวาย สมุทฺทํ อชฺโฌคาหนฺติ. เต อตีรทกฺขิณิยา [อตีรทสฺสนิยา (สฺยา.), อตีรทสฺสิยา (ก.)] นาวาย ตีรทสฺสึ สกุณํ มฺุจนฺติ. โส คจฺฉเตว ปุรตฺถิมํ ทิสํ, คจฺฉติ ปจฺฉิมํ ทิสํ, คจฺฉติ อุตฺตรํ ทิสํ, คจฺฉติ ทกฺขิณํ ทิสํ, คจฺฉติ อุทฺธํ, คจฺฉติ อนุทิสํ. สเจ โส สมนฺตา ตีรํ ปสฺสติ, ตถาคตโกว [ตถาคโต (ก.) ที. นิ. ๑.๔๙๗ ปสฺสิตพฺพํ] โหติ. สเจ ปน โส สมนฺตา ¶ ตีรํ น ปสฺสติ ตเมว นาวํ ปจฺจาคจฺฉติ. เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, ยํ ตํ ตโต ตโต ปพฺพาเชนฺติ โส ตฺวํ ตโต ตโต ปพฺพาชิโต มเมว สนฺติเก อาคจฺฉสิ.
‘‘ภูตปุพฺพํ ¶ , พฺราหฺมณ ธมฺมิก, รฺโ โกรพฺยสฺส สุปฺปติฏฺโ นาม นิคฺโรธราชา อโหสิ ปฺจสาโข สีตจฺฉาโย มโนรโม. สุปฺปติฏฺสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส ทฺวาทสโยชนานิ ¶ อภินิเวโส อโหสิ, ปฺจ โยชนานิ มูลสนฺตานกานํ. สุปฺปติฏฺสฺส โข ปน ¶ , พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส ตาว มหนฺตานิ ผลานิ อเหสุํ; เสยฺยถาปิ นาม อาฬฺหกถาลิกา. เอวมสฺส สาทูนิ ผลานิ อเหสุํ; เสยฺยถาปิ นาม ขุทฺทํ มธุํ อเนลกํ. สุปฺปติฏฺสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส เอกํ ขนฺธํ ราชา ปริภฺุชติ สทฺธึ อิตฺถาคาเรน, เอกํ ขนฺธํ พลกาโย ปริภฺุชติ, เอกํ ขนฺธํ เนคมชานปทา ปริภฺุชนฺติ, เอกํ ขนฺธํ สมณพฺราหฺมณา ปริภฺุชนฺติ, เอกํ ขนฺธํ มิคา [มิคปกฺขิโน (สี. สฺยา. ปี.)] ปริภฺุชนฺติ. สุปฺปติฏฺสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส น โกจิ ผลานิ รกฺขติ, น จ สุทํ [น จ ปุน (ก.)] อฺมฺสฺส ผลานิ หึสนฺติ.
‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อฺตโร ปุริโส สุปฺปติฏฺสฺส นิคฺโรธราชสฺส ยาวทตฺถํ ผลานิ ภกฺขิตฺวา สาขํ ภฺชิตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุปฺปติฏฺเ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถาย เทวตาย เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! ยาว ปาโป มนุสฺโส [ยาว ปาปมนุสฺโส (สฺยา.), ยาวตา ปาปมนุสฺโส (ก.)], ยตฺร หิ นาม สุปฺปติฏฺสฺส นิคฺโรธราชสฺส ยาวทตฺถํ ผลานิ ภกฺขิตฺวา สาขํ ภฺชิตฺวา ปกฺกมิสฺสติ, ยํนูน สุปฺปติฏฺโ นิคฺโรธราชา อายตึ ผลํ น ทเทยฺยา’ติ. อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุปฺปติฏฺโ นิคฺโรธราชา อายตึ ผลํ น อทาสิ.
‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, ราชา ¶ โกรพฺโย เยน สกฺโก เทวานมินฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, มาริส, ชาเนยฺยาสิ สุปฺปติฏฺโ นิคฺโรธราชา ผลํ น เทตี’ติ? อถ โข, พฺราหฺมณ ¶ ธมฺมิก, สกฺโก เทวานมินฺโท ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ [อภิสงฺขาเรสิ (สฺยา. ก.)], ยถา ภุสา วาตวุฏฺิ อาคนฺตฺวา สุปฺปติฏฺํ นิคฺโรธราชํ ปวตฺเตสิ ¶ [ปาเตสิ (สี. ปี.)] อุมฺมูลมกาสิ. อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุปฺปติฏฺเ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถา เทวตา ทุกฺขี ทุมฺมนา อสฺสุมุขี รุทมานา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.
‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สกฺโก เทวานมินฺโท เยน สุปฺปติฏฺเ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถา เทวตา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สุปฺปติฏฺเ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถํ เทวตํ เอตทโวจ – ‘กึ นุ ตฺวํ, เทวเต, ทุกฺขี ทุมฺมนา อสฺสุมุขี รุทมานา เอกมนฺตํ ิตา’ติ? ‘ตถา หิ ปน เม, มาริส, ภุสา วาตวุฏฺิ อาคนฺตฺวา ภวนํ ปวตฺเตสิ อุมฺมูลมกาสี’ติ. ‘อปิ นุ ตฺวํ, เทวเต, รุกฺขธมฺเม ิตาย ภุสา วาตวุฏฺิ อาคนฺตฺวา ภวนํ ปวตฺเตสิ อุมฺมูลมกาสี’ติ? ‘กถํ ปน, มาริส ¶ , รุกฺโข รุกฺขธมฺเม ิโต โหตี’ติ? ‘อิธ, เทวเต, รุกฺขสฺส มูลํ มูลตฺถิกา หรนฺติ, ตจํ ตจตฺถิกา หรนฺติ, ปตฺตํ ปตฺตตฺถิกา หรนฺติ, ปุปฺผํ ปุปฺผตฺถิกา หรนฺติ, ผลํ ผลตฺถิกา หรนฺติ. น จ เตน เทวตาย อนตฺตมนตา วา อนภินนฺทิ [อนภิรทฺธิ (สี.)] วา กรณียา. เอวํ โข, เทวเต, รุกฺโข รุกฺขธมฺเม ิโต โหตี’ติ. ‘อฏฺิตาเยว โข เม, มาริส, รุกฺขธมฺเม ภุสา วาตวุฏฺิ อาคนฺตฺวา ภวนํ ปวตฺเตสิ อุมฺมูลมกาสี’ติ. ‘สเจ โข ตฺวํ, เทวเต, รุกฺขธมฺเม ติฏฺเยฺยาสิ, สิยา [สิยาปิ (สี. ปี.)] เต ภวนํ ยถาปุเร’ติ? ‘สฺสามหํ, [ติฏฺเยฺยามหํ (สฺยา.)] มาริส ¶ , รุกฺขธมฺเม, โหตุ เม ภวนํ ¶ ยถาปุเร’’’ติ.
‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สกฺโก เทวานมินฺโท ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ [อภิสงฺขาริ (สฺยา. ก.)], ยถา ภุสา วาตวุฏฺิ อาคนฺตฺวา สุปฺปติฏฺํ นิคฺโรธราชํ อุสฺสาเปสิ, สจฺฉวีนิ มูลานิ อเหสุํ. เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อปิ นุ ตํ สมณธมฺเม ิตํ ชาติภูมกา อุปาสกา ปพฺพาเชสุํ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ? ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สมโณ สมณธมฺเม ิโต โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สมโณ อกฺโกสนฺตํ น ปจฺจกฺโกสติ, โรสนฺตํ น ปฏิโรสติ, ภณฺฑนฺตํ น ปฏิภณฺฑติ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สมโณ สมณธมฺเม ิโต โหตี’’ติ. ‘‘อฏฺิตํเยว มํ, ภนฺเต, สมณธมฺเม ชาติภูมกา อุปาสกา ปพฺพาเชสุํ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ.
[อ. นิ. ๗.๖๖; ๗.๗๓] ‘‘ภูตปุพฺพํ ¶ , พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุเนตฺโต นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโค. สุเนตฺตสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํ. สุเนตฺโต สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสสิ. เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ น ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชึสุ. เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ ปสาเทสุํ ¶ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชึสุ.
‘‘ภูตปุพฺพํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, มูคปกฺโข นาม สตฺถา อโหสิ…เป… อรเนมิ นาม สตฺถา อโหสิ… กุทฺทาลโก นาม สตฺถา อโหสิ… หตฺถิปาโล นาม สตฺถา อโหสิ… โชติปาโล ¶ นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโค. โชติปาลสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํ. โชติปาโล สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ¶ ธมฺมํ เทเสสิ. เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, โชติปาลสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ น ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชึสุ. เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, โชติปาลสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชึสุ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, โย อิเม ฉ สตฺถาเร ติตฺถกเร กาเมสุ วีตราเค, อเนกสตปริวาเร สสาวกสงฺเฆ ปทุฏฺจิตฺโต อกฺโกเสยฺย ปริภาเสยฺย, พหุํ โส อปฺุํ ปสเวยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘โย โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อิเม ฉ สตฺถาเร ติตฺถกเร กาเมสุ วีตราเค อเนกสตปริวาเร สสาวกสงฺเฆ ปทุฏฺจิตฺโต อกฺโกเสยฺย ปริภาเสยฺย, พหุํ โส อปฺุํ ปสเวยฺย. โย เอกํ ทิฏฺิสมฺปนฺนํ ปุคฺคลํ ปทุฏฺจิตฺโต อกฺโกสติ ปริภาสติ, อยํ ตโต พหุตรํ ¶ อปฺุํ ปสวติ. ตํ กิสฺส เหตุ? นาหํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อิโต พหิทฺธา เอวรูปึ ขนฺตึ [เอวรูปํ ขนฺตํ (สฺยา.)] วทามิ, ยถามํ สพฺรหฺมจารีสุ. ตสฺมาติห, พฺราหฺมณ ธมฺมิก ¶ , เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โน สมสพฺรหฺมจารีสุ [น โน อามสพฺรหฺมจารีสุ (สฺยา.), น โน สพฺรหฺมจารีสุ (สี. ปี.)] จิตฺตานิ ปทุฏฺานิ ภวิสฺสนฺตี’’’ติ. เอวฺหิ เต, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สิกฺขิตพฺพนฺติ.
‘‘สุเนตฺโต ¶ มูคปกฺโข จ, อรเนมิ จ พฺราหฺมโณ;
กุทฺทาลโก อหุ สตฺถา, หตฺถิปาโล จ มาณโว.
‘‘โชติปาโล จ โควินฺโท, อหุ สตฺตปุโรหิโต;
อหึสกา [อภิเสกา (สฺยา.)] อตีตํเส, ฉ สตฺถาโร ยสสฺสิโน.
‘‘นิรามคนฺธา กรุเณธิมุตฺตา [วิมุตฺตา (สี. สฺยา. ปี.)], กามสํโยชนาติคา [กามสํโยชนาติตา (สฺยา.)];
กามราคํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปคา อหุํ [อหุ (พหูสุ), อหู (ก. สี.)].
‘‘อเหสุํ สาวกา เตสํ, อเนกานิ สตานิปิ;
นิรามคนฺธา กรุเณธิมุตฺตา, กามสํโยชนาติคา;
กามราคํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปคา อหุํ [อหุ (พหูสุ), อหู (ก. สี.)].
‘‘เยเต ¶ อิสี พาหิรเก, วีตราเค สมาหิเต;
ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป, โย นโร ปริภาสติ;
พหฺุจ โส ปสวติ, อปฺุํ ตาทิโส นโร.
‘‘โย เจกํ ทิฏฺิสมฺปนฺนํ, ภิกฺขุํ พุทฺธสฺส สาวกํ;
ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป ¶ , โย นโร ปริภาสติ;
อยํ ตโต พหุตรํ, อปฺุํ ปสเว นโร.
‘‘น สาธุรูปํ อาสีเท, ทิฏฺิฏฺานปฺปหายินํ;
สตฺตโม ปุคฺคโล เอโส, อริยสงฺฆสฺส วุจฺจติ.
‘‘อวีตราโค กาเมสุ, ยสฺส ปฺจินฺทฺริยา มุทู;
สทฺธา สติ จ วีริยํ, สมโถ จ วิปสฺสนา.
‘‘ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, ปุพฺเพว อุปหฺติ;
อตฺตานํ อุปหนฺตฺวาน, ปจฺฉา อฺํ วิหึสติ.
‘‘โย ¶ จ รกฺขติ อตฺตานํ, รกฺขิโต ตสฺส พาหิโร;
ตสฺมา รกฺเขยฺย อตฺตานํ, อกฺขโต ปณฺฑิโต สทา’’ติ. ทฺวาทสมํ;
ธมฺมิกวคฺโค ¶ ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
นาคมิคสาลา อิณํ, จุนฺทํ ทฺเว สนฺทิฏฺิกา ทุเว;
เขมอินฺทฺริย อานนฺท, ขตฺติยา อปฺปมาเทน ธมฺมิโกติ.
ปมปณฺณาสกํ สมตฺตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกํ