📜

๗. เทวตาวคฺโค

๑. อนาคามิผลสุตฺตํ

๖๕. ‘‘ฉ , ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อนาคามิผลํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? อสฺสทฺธิยํ, อหิริกํ, อโนตฺตปฺปํ, โกสชฺชํ, มุฏฺสฺสจฺจํ, ทุปฺปฺตํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อนาคามิผลํ สจฺฉิกาตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อนาคามิผลํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? อสฺสทฺธิยํ, อหิริกํ, อโนตฺตปฺปํ, โกสชฺชํ, มุฏฺสฺสจฺจํ, ทุปฺปฺตํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อนาคามิผลํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ปมํ.

๒. อรหตฺตสุตฺตํ

๖๖. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? ถินํ [ถีนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], มิทฺธํ, อุทฺธจฺจํ, กุกฺกุจฺจํ, อสฺสทฺธิยํ, ปมาทํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ.

‘‘ฉ , ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? ถินํ, มิทฺธํ, อุทฺธจฺจํ, กุกฺกุจฺจํ, อสฺสทฺธิยํ, ปมาทํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. มิตฺตสุตฺตํ

๖๗. ‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปาปมิตฺโต ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก, ปาปมิตฺเต [ปาปเก มิตฺเต (ก.)] เสวมาโน ภชมาโน ปยิรุปาสมาโน, เตสฺจ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชมาโน อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘เสขํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา สีลานิ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘สีลานิ อปริปูเรตฺวา กามราคํ วา รูปราคํ วา อรูปราคํ วา ปชหิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก, กลฺยาณมิตฺเต เสวมาโน ภชมาโน ปยิรุปาสมาโน, เตสฺจ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชมาโน อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา สีลานิ ปริปูเรสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘สีลานิ ปริปูเรตฺวา กามราคํ วา รูปราคํ วา อรูปราคํ วา ปชหิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ตติยํ.

๔. สงฺคณิการามสุตฺตํ

๖๘. ‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สงฺคณิการาโม สงฺคณิกรโต สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต, คณาราโม คณรโต คณารามตํ อนุยุตฺโต, เอโก ปวิเวเก อภิรมิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘เอโก ปวิเวเก อนภิรมนฺโต จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ คเหสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ อคณฺหนฺโต สมฺมาทิฏฺึ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘สมฺมาทิฏฺึ อปริปูเรตฺวา สมฺมาสมาธึ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘สมฺมาสมาธึ อปริปูเรตฺวา สํโยชนานิ ปชหิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘สํโยชนานิ อปฺปหาย นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สงฺคณิการาโม น สงฺคณิกรโต น สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต, น คณาราโม น คณรโต น คณารามตํ อนุยุตฺโต, เอโก ปวิเวเก อภิรมิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘เอโก ปวิเวเก อภิรมนฺโต จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ คเหสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ คณฺหนฺโต สมฺมาทิฏฺึ ปริปูเรสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘สมฺมาทิฏฺึ ปริปูเรตฺวา สมฺมาสมาธึ ปริปูเรสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘สมฺมาสมาธึ ปริปูเรตฺวา สํโยชนานิ ปชหิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘สํโยชนานิ ปหาย นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. เทวตาสุตฺตํ

๖๙. อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ฉยิเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา – อิเม โข, ภนฺเต, ฉ ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิทมโวจ สา เทวตา. สมนุฺโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข สา เทวตา ‘‘สมนุฺโ เม สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ , ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘ฉยิเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา – อิเม โข, ภนฺเต, ฉ ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอตทโวจ – ‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สตฺถุคารโว โหติ สตฺถุคารวตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น สตฺถุคารวา เต จ สตฺถุคารวตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู สตฺถุคารวา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อตฺตนา จ ธมฺมคารโว โหติ…เป… สงฺฆคารโว โหติ… สิกฺขาคารโว โหติ … สุวโจ โหติ… กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณมิตฺตตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น กลฺยาณมิตฺตา เต จ กลฺยาณมิตฺตตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู กลฺยาณมิตฺตา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน . อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามี’’ติ.

‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! สาธุ โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาสิ. อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สตฺถุคารโว โหติ สตฺถุคารวตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น สตฺถุคารวา เต จ สตฺถุคารวตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู สตฺถุคารวา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อตฺตนา จ ธมฺมคารโว โหติ…เป… สงฺฆคารโว โหติ… สิกฺขาคารโว โหติ… สุวโจ โหติ… กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณมิตฺตตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น กลฺยาณมิตฺตา เต จ กลฺยาณมิตฺตตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู กลฺยาณมิตฺตา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิมสฺส โข, สาริปุตฺต, มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ. ปฺจมํ.

๖. สมาธิสุตฺตํ

๗๐. ‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สนฺเตน สมาธินา น ปณีเตน น ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺเธน [น ปฏิปฺปสฺสทฺธลทฺเธน (สี.)] น เอโกทิภาวาธิคเตน อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุภวิสฺสติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา ภวิสฺสติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก ภวิสฺสติ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณิสฺสติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จา’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานิสฺสติ – สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชานิสฺสติ …เป… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชานิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริสฺสติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสิสฺสติ…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ . ‘อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺเตน สมาธินา ปณีเตน ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺเธน เอโกทิภาวาธิคเตน อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุภวิสฺสติ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณิสฺสติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จา’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานิสฺสติ – สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชานิสฺสติ…เป… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชานิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริสฺสติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสิสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ . ‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. สกฺขิภพฺพสุตฺตํ

๗๑. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิตุํ สติ สติ อายตเน. กตเมหิ ฉหิ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิเม หานภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิเม ิติภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิเม วิเสสภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิเม นิพฺเพธภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อสกฺกจฺจการี จ โหติ, อสปฺปายการี จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิตุํ สติ สติ อายตเน.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิตุํ สติ สติ อายตเน. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิเม หานภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิเม ิติภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิเม วิเสสภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิเม นิพฺเพธภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, สกฺกจฺจการี จ โหติ, สปฺปายการี จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิตุํ สติ สติ อายตเน’’ติ. สตฺตมํ.

๘. พลสุตฺตํ

๗๒. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ สมาธิสฺมึ [สมาธิมฺหิ (ก.)] พลตํ ปาปุณิตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล โหติ, น สมาธิสฺส ิติกุสโล โหติ, น สมาธิสฺส [น สมาธิมฺหา (ก.) อุปริสตฺตกนิปาเต เทวตาวคฺเค ปน สพฺพตฺถปิ ‘‘สมาธิสฺส’’อิตฺเวว ทิสฺสติ] วุฏฺานกุสโล โหติ, อสกฺกจฺจการี จ โหติ, อสาตจฺจการี จ, อสปฺปายการี จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ สมาธิสฺมึ พลตํ ปาปุณิตุํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ สมาธิสฺมึ พลตํ ปาปุณิตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส ิติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส วุฏฺานกุสโล โหติ, สกฺกจฺจการี จ โหติ, สาตจฺจการี จ, สปฺปายการี จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ สมาธิสฺมึ พลตํ ปาปุณิตุ’’นฺติ. อฏฺมํ.

๙. ปมตชฺฌานสุตฺตํ

๗๓. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. กตเม ฉ? กามจฺฉนฺทํ, พฺยาปาทํ, ถินมิทฺธํ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ, วิจิกิจฺฉํ. กาเมสุ โข ปนสฺส อาทีนโว น ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺโ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. กตเม ฉ? กามจฺฉนฺทํ, พฺยาปาทํ, ถินมิทฺธํ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ, วิจิกิจฺฉํ, กาเมสุ โข ปนสฺส อาทีนโว น ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺโ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุ’’นฺติ. นวมํ.

๑๐. ทุติยตชฺฌานสุตฺตํ

๗๔. ‘‘ฉ , ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. กตเม ฉ? กามวิตกฺกํ, พฺยาปาทวิตกฺกํ, วิหึสาวิตกฺกํ, กามสฺํ, พฺยาปาทสฺํ, วิหึสาสฺํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. กตเม ฉ? กามวิตกฺกํ, พฺยาปาทวิตกฺกํ, วิหึสาวิตกฺกํ, กามสฺํ, พฺยาปาทสฺํ, วิหึสาสฺํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุ’’นฺติ. ทสมํ.

เทวตาวคฺโค สตฺตโม. [ทุติโย (สฺยา. ก.)]

ตสฺสุทฺทานํ –

อนาคามิ อรหํ มิตฺตา, สงฺคณิการามเทวตา;

สมาธิ สกฺขิภพฺพํ พลํ, ตชฺฌานา อปเร ทุเวติ.