📜
๓. วชฺชิสตฺตกวคฺโค
๑. สารนฺททสุตฺตํ
๒๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ สารนฺทเท เจติเย. อถ โข สมฺพหุลา ลิจฺฉวี เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ลิจฺฉวี ¶ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สตฺต โว, ลิจฺฉวี, อปริหานิเย [อปริหานีเย (ก.)] ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ลิจฺฉวี ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘กตเม ¶ จ, ลิจฺฉวี, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา? ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา ภวิสฺสนฺติ สนฺนิปาตพหุลา; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปติสฺสนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหิสฺสนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กริสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺาเปสฺสนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา เต สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ ¶ , ลิจฺฉวี, วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย ตา น โอกสฺส ปสยฺห วาเสสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชี ยานิ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ ตานิ สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ¶ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา ¶ รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา ภวิสฺสติ – ‘กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุํ วิหเรยฺยุ’นฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา วชฺชีสุ สฺสนฺติ [วตฺติสฺสนฺติ (ก.)], อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ วชฺชี สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ [สนฺทิสฺสนฺติ (สี. ปี. ก.)]; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ. ปมํ.
๒. วสฺสการสุตฺตํ
๒๒. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม โหติ. โส เอวมาห – ‘‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ [อุจฺเฉชฺชิสฺสามิ (สฺยา.), อุจฺฉิชฺชิสฺสามิ (ก.)], วชฺชี วินาเสสฺสามิ, วชฺชี อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามี’’ติ [อาปาเทสฺสามิ วชฺชีติ (ก.) ที. นิ. ๒.๑๓๑].
อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วสฺสการํ พฺราหฺมณํ มาคธมหามตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เยน ภควา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทาหิ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – ‘ราชา, ภนฺเต, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘ราชา, ภนฺเต, มาคโธ อชาตสตฺตุ ¶ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม. โส เอวมาห – ‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ, วชฺชี วินาเสสฺสามิ, วชฺชี อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามี’ติ ¶ . ยถา ¶ เต ภควา พฺยากโรติ, ตํ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา มม อาโรเจยฺยาสิ. น หิ ตถาคตา วิตถํ ภณนฺตี’’ติ.
‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มาคธมหามตฺโต รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุสฺส เวเทหิปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มาคธมหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ราชา, โภ โคตม, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต โภโต โคตมสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ. ราชา [เอวฺจ วเทติ ราชา (สี. ก.)], โภ โคตม, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม. โส เอวมาห – ‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ, วชฺชี วินาเสสฺสามิ, วชฺชี อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามี’’’ติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปิฏฺิโต ิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโน [วีชมาโน (สี. สฺยา.)]. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา ภวิสฺสนฺติ สนฺนิปาตพหุลา; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปตนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กโรนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปตนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กโรนฺตี’’’ติ ¶ . ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปติสฺสนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหิสฺสนฺติ ¶ , สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กริสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺาเปนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทนฺติ ¶ , ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺตนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺาเปนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺตนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺาเปสฺสนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา เต สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา เต สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา เต สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย ตา น โอกสฺส ปสยฺห วาเสนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย ตา น โอกสฺส ปสยฺห วาเสนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท ¶ , วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย ¶ กุลกุมาริโย ตา น โอกสฺส ปสยฺห วาเสสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี ยานิ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ ตานิ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี ยานิ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ ตานิ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี ยานิ ¶ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ ตานิ สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ ¶ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา – กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุํ วิหเรยฺยุ’’’นฺติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา ภวิสฺสติ – กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุํ วิหเรยฺยุ’’’นฺติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา ภวิสฺสติ – ‘กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุํ วิหเรยฺยุ’นฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท ¶ , วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ.
อถ โข ภควา วสฺสการํ พฺราหฺมณํ มาคธมหามตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอกมิทาหํ, พฺราหฺมณ, สมยํ เวสาลิยํ วิหรามิ สารนฺทเท เจติเย. ตตฺราหํ, พฺราหฺมณ, วชฺชีนํ อิเม สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสึ. ยาวกีวฺจ, พฺราหฺมณ, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา วชฺชีสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ วชฺชี สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, พฺราหฺมณ, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ.
‘‘เอกเมเกนปิ ¶ [เอกเมเกนปิ เตน โข (ก.) ที. นิ. ๒.๑๓๕] โภ, โคตม, อปริหานิเยน ธมฺเมน สมนฺนาคตานํ วชฺชีนํ วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ; โก ปน วาโท สตฺตหิ อปริหานิเยหิ ธมฺเมหิ! อกรณียา จ, โภ โคตม, วชฺชี รฺา มาคเธน อชาตสตฺตุนา เวเทหิปุตฺเตน ยทิทํ ยุทฺธสฺส, อฺตฺร อุปลาปนาย ¶ [อุปลาปนา (ก. สี. ก.)], อฺตฺร มิถุเภทา. หนฺท จ ทานิ มยํ, โภ โคตม, คจฺฉาม, พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มาคธมหามตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ. ทุติยํ.
๓. ปมสตฺตกสุตฺตํ
๒๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สตฺต โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ ¶ , สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา? ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ¶ อภิณฺหํ สนฺนิปาตา ภวิสฺสนฺติ สนฺนิปาตพหุลา; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สมคฺคา สนฺนิปติสฺสนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหิสฺสนฺติ, สมคฺคา สงฺฆกรณียานิ กริสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปฺตฺตํ น ปฺาเปสฺสนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสนฺติ, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา เต สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขู อุปฺปนฺนาย ตณฺหาย โปโนภวิกาย น วสํ คจฺฉิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อารฺเกสุ เสนาสเนสุ สาเปกฺขา ภวิสฺสนฺติ ¶ ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ปจฺจตฺตฺเว สตึ อุปฏฺาเปสฺสนฺติ – ‘กินฺติ อนาคตา จ เปสลา สพฺรหฺมจารี อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ เปสลา สพฺรหฺมจารี ผาสุํ วิหเรยฺยุ’นฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ ¶ , ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ¶ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ. ตติยํ.
๔. ทุติยสตฺตกสุตฺตํ
๒๔. [ที. นิ. ๒.๑๓๘] ‘‘สตฺต โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป… กตเม จ, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา?
ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น กมฺมารามา ภวิสฺสนฺติ, น กมฺมรตา, น กมฺมารามตํ อนุยุตฺตา; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น ภสฺสารามา ภวิสฺสนฺติ…เป… น นิทฺทารามา ภวิสฺสนฺติ… น สงฺคณิการามา ภวิสฺสนฺติ… น ปาปิจฺฉา ภวิสฺสนฺติ น ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา… น ปาปมิตฺตา ภวิสฺสนฺติ น ปาปสหายา น ปาปสมฺปวงฺกา… น โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน อนฺตราโวสานํ อาปชฺชิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ตติยสตฺตกสุตฺตํ
๒๕. ‘‘สตฺต ¶ โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป… กตเม ¶ จ, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา? ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สทฺธา ภวิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขู หิริมนฺโต [หิรีมา (สี.), หิริมนา (ที. นิ. ๒.๑๓๘)] ภวิสฺสนฺติ…เป… โอตฺตปฺปิโน [โอตฺตาปีโน (สี.)] ภวิสฺสนฺติ… พหุสฺสุตา ภวิสฺสนฺติ… อารทฺธวีริยา ภวิสฺสนฺติ… สติมนฺโต ภวิสฺสนฺติ… ปฺวนฺโต ภวิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ. ‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ¶ ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. โพชฺฌงฺคสุตฺตํ
๒๖. ‘‘สตฺต โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป… กตเม จ, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา? ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ…เป… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ. ‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. สฺาสุตฺตํ
๒๗. ‘‘สตฺต ¶ โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป…. กตเม จ, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิยา ¶ ธมฺมา? ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนิจฺจสฺํ ภาเวสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนตฺตสฺํ ภาเวสฺสนฺติ…เป… อสุภสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… อาทีนวสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… ปหานสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… วิราคสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… นิโรธสฺํ ภาเวสฺสนฺติ ¶ ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ. ‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ, ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ [ที. นิ. ๒.๑๓๘]. สตฺตมํ.
๘. ปมปริหานิสุตฺตํ
๒๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? กมฺมารามตา, ภสฺสารามตา, นิทฺทารามตา, สงฺคณิการามตา, อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา, โภชเน อมตฺตฺุตา, สนฺติ โข ปน สงฺเฆ สงฺฆกรณียานิ; ตตฺร เสโข ภิกฺขุ [ตตฺร ภิกฺขุ (สี. สฺยา.)] อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สนฺติ โข ปน สงฺเฆ เถรา [โข สํฆตฺเถรา (ก.)] รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา ภารวาหิโน, เต [น เต (ก.)] เตน ปฺายิสฺสนฺตี’ติ อตฺตนา เตสุ โยคํ [อตฺตนา โวโยคํ (สี. สฺยา.)] อาปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? น ¶ กมฺมารามตา, น ภสฺสารามตา, น นิทฺทารามตา, น สงฺคณิการามตา, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, สนฺติ โข ปน สงฺเฆ สงฺฆกรณียานิ; ตตฺร เสโข ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สนฺติ โข ปน สงฺเฆ เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา ภารวาหิโน, เต เตน ปฺายิสฺสนฺตี’ติ อตฺตนา น เตสุ โยคํ อาปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ทุติยปริหานิสุตฺตํ
๒๙. ‘‘สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมา อุปาสกสฺส ปริหานาย สํวตฺตนฺติ ¶ . กตเม สตฺต? ภิกฺขุทสฺสนํ หาเปติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ ปมชฺชติ, อธิสีเล น สิกฺขติ, อปฺปสาทพหุโล โหติ ¶ , ภิกฺขูสุ เถเรสุ เจว นเวสุ จ มชฺฌิเมสุ จ อุปารมฺภจิตฺโต ธมฺมํ สุณาติ รนฺธคเวสี, อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ, ตตฺถ จ ปุพฺพการํ กโรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ธมฺมา อุปาสกสฺส ปริหานาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อุปาสกสฺส อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? ภิกฺขุทสฺสนํ น หาเปติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ นปฺปมชฺชติ, อธิสีเล สิกฺขติ, ปสาทพหุโล โหติ, ภิกฺขูสุ เถเรสุ เจว นเวสุ จ มชฺฌิเมสุ จ อนุปารมฺภจิตฺโต ธมฺมํ สุณาติ น รนฺธคเวสี, น อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ, อิธ จ ปุพฺพการํ กโรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ธมฺมา อุปาสกสฺส อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ทสฺสนํ ¶ ภาวิตตฺตานํ, โย หาเปติ อุปาสโก;
สวนฺจ อริยธมฺมานํ, อธิสีเล น สิกฺขติ.
‘‘อปฺปสาโท จ ภิกฺขูสุ, ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒติ;
อุปารมฺภกจิตฺโต จ, สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติ.
‘‘อิโต จ พหิทฺธา อฺํ, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ;
ตตฺเถว จ ปุพฺพการํ, โย กโรติ อุปาสโก.
‘‘เอเต โข ปริหานิเย, สตฺต ธมฺเม สุเทสิเต;
อุปาสโก เสวมาโน, สทฺธมฺมา ปริหายติ.
‘‘ทสฺสนํ ภาวิตตฺตานํ, โย น หาเปติ อุปาสโก;
สวนฺจ อริยธมฺมานํ, อธิสีเล จ สิกฺขติ.
‘‘ปสาโท จสฺส ภิกฺขูสุ, ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒติ;
อนุปารมฺภจิตฺโต จ, สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติ.
‘‘น ¶ อิโต พหิทฺธา อฺํ, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ;
อิเธว จ ปุพฺพการํ, โย กโรติ อุปาสโก.
‘‘เอเต ¶ โข อปริหานิเย, สตฺต ธมฺเม สุเทสิเต;
อุปาสโก เสวมาโน, สทฺธมฺมา น ปริหายตี’’ติ. นวมํ;
๑๐. วิปตฺติสุตฺตํ
๓๐. สตฺติมา, ภิกฺขเว, อุปาสกสฺส วิปตฺติโย…เป… สตฺติมา, ภิกฺขเว, อุปาสกสฺส สมฺปทา…เป…. ทสมํ.
๑๑. ปราภวสุตฺตํ
๓๑. ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, อุปาสกสฺส ปราภวา…เป… สตฺติเม, ภิกฺขเว, อุปาสกสฺส สมฺภวา. กตเม สตฺต? ภิกฺขุทสฺสนํ น หาเปติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ นปฺปมชฺชติ, อธิสีเล สิกฺขติ, ปสาทพหุโล โหติ, ภิกฺขูสุ เถเรสุ เจว นเวสุ จ มชฺฌิเมสุ จ อนุปารมฺภจิตฺโต ธมฺมํ สุณาติ น รนฺธคเวสี, น อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ, อิธ จ ปุพฺพการํ กโรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต อุปาสกสฺส สมฺภวาติ.
‘‘ทสฺสนํ ¶ ภาวิตตฺตานํ, โย หาเปติ อุปาสโก;
สวนฺจ อริยธมฺมานํ, อธิสีเล น สิกฺขติ.
‘‘อปฺปสาโท จ ภิกฺขูสุ, ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒติ;
อุปารมฺภกจิตฺโต จ, สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติ.
‘‘อิโต จ พหิทฺธา อฺํ, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ;
ตตฺเถว จ ปุพฺพการํ, โย กโรติ อุปาสโก.
‘‘เอเต ¶ โข ปริหานิเย, สตฺต ธมฺเม สุเทสิเต;
อุปาสโก เสวมาโน, สทฺธมฺมา ปริหายติ.
‘‘ทสฺสนํ ¶ ภาวิตตฺตานํ, โย น หาเปติ อุปาสโก;
สวนฺจ อริยธมฺมานํ, อธิสีเล จ สิกฺขติ.
‘‘ปสาโท จสฺส ภิกฺขูสุ, ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒติ;
อนุปารมฺภจิตฺโต จ, สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติ.
‘‘น ¶ อิโต พหิทฺธา อฺํ, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ;
อิเธว จ ปุพฺพการํ, โย กโรติ อุปาสโก.
‘‘เอเต โข อปริหานิเย, สตฺต ธมฺเม สุเทสิเต;
อุปาสโก เสวมาโน, สทฺธมฺมา น ปริหายตี’’ติ. เอกาทสมํ;
วชฺชิสตฺตกวคฺโค [วชฺชิวคฺโค (สฺยา.)] ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
สารนฺท ¶ -วสฺสกาโร จ, ติสตฺตกานิ ภิกฺขุกา;
โพธิสฺา ทฺเว จ หานิ, วิปตฺติ จ ปราภโวติ.