📜

๔. เทวตาวคฺโค

๑. อปฺปมาทคารวสุตฺตํ

๓๒. อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สตฺติเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, อปฺปมาทคารวตา, ปฏิสนฺถารคารวตา. อิเม โข, ภนฺเต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิทมโวจ สา เทวตา. สมนุฺโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข สา เทวตา ‘‘สมนุฺโ เม สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘สตฺติเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, อปฺปมาทคารวตา, ปฏิสนฺถารคารวตา – อิเม โข, ภนฺเต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

‘‘สตฺถุครุ ธมฺมครุ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารโว;

สมาธิครุ อาตาปี [สมาธิคารวตาปิ จ (ก.)], สิกฺขาย ติพฺพคารโว.

‘‘อปฺปมาทครุ ภิกฺขุ, ปฏิสนฺถารคารโว;

อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. ปมํ;

๒. หิรีคารวสุตฺตํ

๓๓. ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘สตฺติเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, หิริคารวตา, โอตฺตปฺปคารวตา. อิเม โข, ภนฺเต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

‘‘สตฺถุครุ ธมฺมครุ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารโว;

สมาธิครุ อาตาปี, สิกฺขาย ติพฺพคารโว.

‘‘หิริ โอตฺตปฺปสมฺปนฺโน, สปฺปติสฺโส สคารโว;

อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. ทุติยํ;

๓. ปมโสวจสฺสตาสุตฺตํ

๓๔. ‘‘อิมํ , ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา…เป… มํ เอตทโวจ – ‘สตฺติเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา. อิเม โข, ภนฺเต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว , สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

‘‘สตฺถุครุ ธมฺมครุ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารโว;

สมาธิครุ อาตาปี, สิกฺขาย ติพฺพคารโว.

‘‘กลฺยาณมิตฺโต สุวโจ, สปฺปติสฺโส สคารโว;

อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. ตติยํ;

๔. ทุติยโสวจสฺสตาสุตฺตํ

๓๕. ‘‘อิมํ , ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา…เป… ‘สตฺติเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา. อิเม โข, ภนฺเต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สตฺถุคารโว โหติ, สตฺถุคารวตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น สตฺถุคารวา เต จ สตฺถุคารวตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู สตฺถุคารวา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อตฺตนา จ ธมฺมคารโว โหติ…เป… สงฺฆคารโว โหติ… สิกฺขาคารโว โหติ… สมาธิคารโว โหติ… สุวโจ โหติ… กลฺยาณมิตฺโต โหติ, กลฺยาณมิตฺตตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น กลฺยาณมิตฺตา เต จ กลฺยาณมิตฺตตาย สมาทเปติ . เย จฺเ ภิกฺขู กลฺยาณมิตฺตา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนาติ. อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามี’’ติ.

‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! สาธุ โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาสิ. อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สตฺถุคารโว โหติ, สตฺถุคารวตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น สตฺถุคารวา เต จ สตฺถุคารวตาย สมาทเปติ . เย จฺเ ภิกฺขู สตฺถุคารวา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อตฺตนา จ ธมฺมคารโว โหติ…เป… สงฺฆคารโว โหติ… สิกฺขาคารโว โหติ… สมาธิคารโว โหติ… สุวโจ โหติ… กลฺยาณมิตฺโต โหติ, กลฺยาณมิตฺตตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น กลฺยาณมิตฺตา เต จ กลฺยาณมิตฺตตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู กลฺยาณมิตฺตา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนาติ. อิมสฺส โข, สาริปุตฺต, มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมมิตฺตสุตฺตํ

๓๖. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต มิตฺโต เสวิตพฺโพ. กตเมหิ สตฺตหิ? ทุทฺททํ ททาติ, ทุกฺกรํ กโรติ, ทุกฺขมํ ขมติ, คุยฺหมสฺส [คุยฺหสฺส (ก.)] อาวิ กโรติ, คุยฺหมสฺส [คุยฺหํ อสฺส (สี.), คุยฺหสฺส (ก.)] ปริคุหติ [ปริคูหติ (สี. สฺยา.), ปริคุยฺหติ (ก.)], อาปทาสุ น ชหติ, ขีเณน [ขีเณ (ก.)] นาติมฺติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต มิตฺโต เสวิตพฺโพ’’ติ .

‘‘ทุทฺททํ ททาติ มิตฺโต, ทุกฺกรฺจาปิ กุพฺพติ;

อโถปิสฺส ทุรุตฺตานิ, ขมติ ทุกฺขมานิ จ [ทุกฺขมานิปิ (สี. สฺยา.)].

‘‘คุยฺหฺจ ตสฺส [คุยฺหมสฺส จ (สฺยา.)] อกฺขาติ, คุยฺหสฺส ปริคูหติ;

อาปทาสุ น ชหาติ, ขีเณน นาติมฺติ.

‘‘ยมฺหิ เอตานิ านานิ, สํวิชฺชนฺตีธ [สํวิชฺชนฺติ จ (ก.)] ปุคฺคเล;

โส มิตฺโต มิตฺตกาเมน, ภชิตพฺโพ ตถาวิโธ’’ติ. ปฺจมํ;

๖. ทุติยมิตฺตสุตฺตํ

๓๗. ‘‘สตฺตหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ มิตฺโต เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ อปิ ปนุชฺชมาเนนปิ [ปณุชฺชมาเนนปิ (สี.)]. กตเมหิ สตฺตหิ? ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ วตฺตา จ วจนกฺขโม จ คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา โหติ, โน จ อฏฺาเน นิโยเชติ . อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ มิตฺโต เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ อปิ ปนุชฺชมาเนนปี’’ติ.

‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;

คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, โน จฏฺาเน นิโยชโก [นิโยชเย (สี. สฺยา.)].

‘‘ยมฺหิ เอตานิ านานิ, สํวิชฺชนฺตีธ ปุคฺคเล;

โส มิตฺโต มิตฺตกาเมน, อตฺถกามานุกมฺปโต;

อปิ นาสิยมาเนน, ภชิตพฺโพ ตถาวิโธ’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. ปมปฏิสมฺภิทาสุตฺตํ

๓๘. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ นจิรสฺเสว จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ เม เจตโส ลีนตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; อชฺฌตฺตํ สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อชฺฌตฺตํ เม สํขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; พหิทฺธา วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘พหิทฺธา เม วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ตสฺส วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา สฺา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; สปฺปายาสปฺปาเยสุ โข ปนสฺส ธมฺเมสุ หีนปฺปณีเตสุ กณฺหสุกฺกสปฺปติภาเคสุ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปฺาย. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ นจิรสฺเสว จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยปฏิสมฺภิทาสุตฺตํ

๓๙. ‘‘สตฺตหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต ‘อิทํ เม เจตโส ลีนตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; อชฺฌตฺตํ สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อชฺฌตฺตํ เม สํขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; พหิทฺธา วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘พหิทฺธา เม วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ตสฺส วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา สฺา…เป… วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; สปฺปายาสปฺปาเยสุ โข ปนสฺส ธมฺเมสุ หีนปฺปณีเตสุ กณฺหสุกฺกสปฺปติภาเคสุ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปฺาย. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปมวสสุตฺตํ

๔๐. ‘‘สตฺตหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จิตฺตํ วเส [วสํ (ก.)] วตฺเตติ, โน จ ภิกฺขุ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมาธิกุสโล โหติ, สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส ิติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส วุฏฺานกุสโล โหติ, สมาธิสฺส กลฺยาณกุสโล โหติ, สมาธิสฺส โคจรกุสโล โหติ, สมาธิสฺส อภินีหารกุสโล โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จิตฺตํ วเส วตฺเตติ, โน จ ภิกฺขุ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. ทุติยวสสุตฺตํ

๔๑. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต จิตฺตํ วเส วตฺเตติ, โน จ สาริปุตฺโต จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สมาธิกุสโล โหติ, สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล, สมาธิสฺส ิติกุสโล, สมาธิสฺส วุฏฺานกุสโล, สมาธิสฺส กลฺยาณกุสโล, สมาธิสฺส โคจรกุสโล, สมาธิสฺส อภินีหารกุสโล โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว , สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต จิตฺตํ วเส วตฺเตติ, โน จ สาริปุตฺโต จิตฺตสฺส วเสน วตฺตตี’’ติ. ทสมํ.

๑๑. ปมนิทฺทสสุตฺตํ

๔๒. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทสวสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิ นปฺปฏิกฺโกสิ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ – ‘‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’’ติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’นฺติ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ. เตน โข ปน, ภนฺเต, สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทสวสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, นิทฺทโส ภิกฺขูติ อลํ วจนายา’ติ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ [ปกฺกามึ (สี. สฺยา.)] – ‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’ติ. สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย เกวลํ วสฺสคณนมตฺเตน นิทฺทโส ภิกฺขุ ปฺาเปตุ’’นฺติ?

‘‘น โข, สาริปุตฺต, สกฺกา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย เกวลํ วสฺสคณนมตฺเตน นิทฺทโส ภิกฺขุ ปฺาเปตุํ. สตฺต โข อิมานิ, สาริปุตฺต, นิทฺทสวตฺถูนิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ.

[อ. นิ. ๗.๒๐; ที. นิ. ๓.๓๓๑] ‘‘กตมานิ สตฺต? อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโม, ธมฺมนิสนฺติยา ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ ธมฺมนิสนฺติยา อวิคตเปโม, อิจฺฉาวินเย ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ อิจฺฉาวินเย อวิคตเปโม, ปฏิสลฺลาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ ปฏิสลฺลาเน อวิคตเปโม, วีริยารมฺเภ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ วีริยารมฺเภ อวิคตเปโม, สติเนปกฺเก ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ สติเนปกฺเก อวิคตเปโม, ทิฏฺิปฏิเวเธ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ ทิฏฺิปฏิเวเธ อวิคตเปโม. อิมานิ โข, สาริปุตฺต, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. อิเมหิ โข, สาริปุตฺต, สตฺตหิ นิทฺทสวตฺถูหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทฺวาทส เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย; จตุพฺพีสติ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย; ฉตฺตึสติ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย, อฏฺจตฺตารีสํ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ. เอกาทสมํ.

๑๒. ทุติยนิทฺทสสุตฺตํ

๔๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

เตน โข ปน สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทส วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิ นปฺปฏิกฺโกสิ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ – ‘‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพึ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อติปฺปโค โข ตาว โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’นฺติ…เป… เตหิ สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ.

‘‘เตน โข ปน, ภนฺเต, สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทสวสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, นิทฺทโส ภิกฺขูติ อลํ วจนายา’ติ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ. อนภินนฺทิตฺวา, อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ – ‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’ติ. สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย เกวลํ วสฺสคณนมตฺเตน นิทฺทโส ภิกฺขุ ปฺาเปตุ’’นฺติ?

‘‘น โข, อานนฺท, สกฺกา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย เกวลํ วสฺสคณนมตฺเตน นิทฺทโส ภิกฺขุ ปฺาเปตุํ. สตฺต โข อิมานิ, อานนฺท, นิทฺทสวตฺถูนิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ.

‘‘กตมานิ สตฺต? อิธานนฺท, ภิกฺขุ, สทฺโธ โหติ, หิรีมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, สติมา โหติ, ปฺวา โหติ. อิมานิ โข, อานนฺท, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. อิเมหิ โข, อานนฺท, สตฺตหิ นิทฺทสวตฺถูหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทฺวาทส เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย; จตุพฺพีสติ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย; ฉตฺตึสติ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย, อฏฺจตฺตารีสํ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ. ทฺวาทสมํ.

เทวตาวคฺโค จตุตฺโถ.

ตสฺสุทฺทานํ –

อปฺปมาโท หิรี เจว, ทฺเว สุวจา ทุเว มิตฺตา;

ทฺเว ปฏิสมฺภิทา ทฺเว วสา, ทุเว นิทฺทสวตฺถุนาติ.