📜

๕. มหายฺวคฺโค

๑. สตฺตวิฺาณฏฺิติสุตฺตํ

๔๔. [ที. นิ. ๓.๓๓๒; จูฬนิ. โปสาลมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๓] ‘‘สตฺติมา , ภิกฺขเว, วิฺาณฏฺิติโย. กตมา สตฺต? สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา, เอกจฺเจ จ เทวา, เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปมา วิฺาณฏฺิติ.

‘‘สนฺติ , ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา. อยํ ทุติยา วิฺาณฏฺิติ.

‘‘สนฺติ , ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ตติยา วิฺาณฏฺิติ.

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อยํ จตุตฺถา วิฺาณฏฺิติ.

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนูปคา. อยํ ปฺจมา วิฺาณฏฺิติ.

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา . อยํ ฉฏฺา วิฺาณฏฺิติ.

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนูปคา . อยํ สตฺตมา วิฺาณฏฺิติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต วิฺาณฏฺิติโย’’ติ. ปมํ.

๒. สมาธิปริกฺขารสุตฺตํ

๔๕. ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, สมาธิปริกฺขารา. กตเม สตฺต? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ. ยา โข, ภิกฺขเว, อิเมหิ สตฺตหงฺเคหิ จิตฺตสฺเสกคฺคตา ปริกฺขตา [‘สปริกฺขารตา’ติปิ, ‘สปริกฺขตา’ติปิ (สํ. นิ. ๕.๒๘)], อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริโย สมฺมาสมาธิ [สมาธิ (สฺยา.)] สอุปนิโส อิติปิ สปริกฺขาโร อิติปี’’ติ. ทุติยํ.

๓. ปมอคฺคิสุตฺตํ

๔๖. ‘‘สตฺติเม , ภิกฺขเว, อคฺคี. กตเม สตฺต? ราคคฺคิ, โทสคฺคิ, โมหคฺคิ, อาหุเนยฺยคฺคิ, คหปตคฺคิ, ทกฺขิเณยฺยคฺคิ, กฏฺคฺคิ – อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต อคฺคี’’ติ. ตติยํ.

๔. ทุติยอคฺคิสุตฺตํ

๔๗. เตน โข ปน สมเยน อุคฺคตสรีรสฺส พฺราหฺมณสฺส มหายฺโ อุปกฺขโฏ โหติ. ปฺจ อุสภสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย , ปฺจ วจฺฉตรสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย, ปฺจ วจฺฉตริสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย, ปฺจ อชสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย, ปฺจ อุรพฺภสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย. อถ โข อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, อคฺคิสฺส อาทานํ [อาธานํ (สี. สฺยา.)] ยูปสฺส อุสฺสาปนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. ‘‘มยาปิ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, สุตํ อคฺคิสฺส อาทานํ ยูปสฺส อุสฺสาปนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ…เป… ตติยมฺปิ โข อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, อคฺคิสฺส อาทานํ ยูปสฺส อุสฺสาปนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. ‘‘มยาปิ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, สุตํ อคฺคิสฺส อาทานํ ยูปสฺส อุสฺสาปนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. ‘‘ตยิทํ, โภ โคตม , สเมติ โภโต เจว โคตมสฺส อมฺหากฺจ, ยทิทํ สพฺเพน สพฺพํ’’.

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท อุคฺคตสรีรํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, พฺราหฺมณ, ตถาคตา เอวํ ปุจฺฉิตพฺพา – ‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, อคฺคิสฺส อาทานํ ยูปสฺส อุสฺสาปนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’นฺติ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ตถาคตา ปุจฺฉิตพฺพา – ‘อหฺหิ, ภนฺเต, อคฺคึ [อคฺคิสฺส (ก.)] อาทาตุกาโม, [อาธาตุกาโม (สี. สฺยา.)] ยูปํ อุสฺสาเปตุกาโม. โอวทตุ มํ, ภนฺเต, ภควา. อนุสาสตุ มํ, ภนฺเต, ภควา ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’’ติ.

อถ โข อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหฺหิ, โภ โคตม, อคฺคึ อาทาตุกาโม ยูปํ อุสฺสาเปตุกาโม. โอวทตุ มํ ภวํ โคตโม. อนุสาสตุ มํ ภวํ โคตโม ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.

‘‘อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต [อาเธนฺโต (สี. สฺยา.)] ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา ตีณิ สตฺถานิ อุสฺสาเปติ อกุสลานิ ทุกฺขุทฺรยานิ [ทุกฺขุทฺทยานิ (สี.)] ทุกฺขวิปากานิ. กตมานิ ตีณิ ? กายสตฺถํ, วจีสตฺถํ, มโนสตฺถํ. อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ – ‘เอตฺตกา อุสภา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตรา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตริโย หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อชา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อุรพฺภา หฺนฺตุ ยฺตฺถายา’ติ. โส ‘ปุฺํ กโรมี’ติ อปุฺํ กโรติ, ‘กุสลํ กโรมี’ติ อกุสลํ กโรติ, ‘สุคติยา มคฺคํ ปริเยสามี’ติ ทุคฺคติยา มคฺคํ ปริเยสติ. อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา อิทํ ปมํ มโนสตฺถํ อุสฺสาเปติ อกุสลํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปากํ.

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, อคฺคึ อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘เอตฺตกา อุสภา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตรา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตริโย หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อชา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อุรพฺภา หฺนฺตุ ยฺตฺถายา’ติ. โส ‘ปุฺํ กโรมี’ติ อปุฺํ กโรติ, ‘กุสลํ กโรมี’ติ อกุสลํ กโรติ, ‘สุคติยา มคฺคํ ปริเยสามี’ติ ทุคฺคติยา มคฺคํ ปริเยสติ. อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา อิทํ ทุติยํ วจีสตฺถํ อุสฺสาเปติ อกุสลํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปากํ.

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, อคฺคึ อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา สยํ ปมํ สมารมฺภติ [สมารพฺภติ (สี. ก.), สมารภติ (สฺยา.)] อุสภา หนฺตุํ [หฺนฺตุ (สี. สฺยา.)] ยฺตฺถาย, สยํ ปมํ สมารมฺภติ วจฺฉตรา หนฺตุํ ยฺตฺถาย, สยํ ปมํ สมารมฺภติ วจฺฉตริโย หนฺตุํ ยฺตฺถาย, สยํ ปมํ สมารมฺภติ อชา หนฺตุํ ยฺตฺถาย, สยํ ปมํ สมารมฺภติ อุรพฺภา หนฺตุํ ยฺตฺถาย [หฺนฺตุ ยฺตฺถายาติ (สี. สฺยา.)]. โส ‘ปุฺํ กโรมี’ติ อปุฺํ กโรติ, ‘กุสลํ กโรมี’ติ อกุสลํ กโรติ, ‘สุคติยา มคฺคํ ปริเยสามี’ติ ทุคฺคติยา มคฺคํ ปริเยสติ. อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา อิทํ ตติยํ กายสตฺถํ อุสฺสาเปติ อกุสลํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปากํ. อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา อิมานิ ตีณิ สตฺถานิ อุสฺสาเปติ อกุสลานิ ทุกฺขุทฺรยานิ ทุกฺขวิปากานิ.

‘‘ตโยเม , พฺราหฺมณ, อคฺคี ปหาตพฺพา ปริวชฺเชตพฺพา, น เสวิตพฺพา. กตเม ตโย? ราคคฺคิ , โทสคฺคิ, โมหคฺคิ.

‘‘กสฺมา จายํ, พฺราหฺมณ, ราคคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ? รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. ตสฺมายํ ราคคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ.

‘‘กสฺมา จายํ, พฺราหฺมณ, โทสคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ? ทุฏฺโ โข, พฺราหฺมณ, โทเสน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. ตสฺมายํ โทสคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ.

‘‘กสฺมา จายํ, พฺราหฺมณ, โมหคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ? มูฬฺโห โข, พฺราหฺมณ, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. ตสฺมายํ โมหคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ. อิเม โข ตโย, พฺราหฺมณ, อคฺคี ปหาตพฺพา ปริวชฺเชตพฺพา, น เสวิตพฺพา.

‘‘ตโย โข, พฺราหฺมณ, อคฺคี สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา สมฺมา สุขํ ปริหาตพฺพา. กตเม ตโย? อาหุเนยฺยคฺคิ , คหปตคฺคิ, ทกฺขิเณยฺยคฺคิ.

‘‘กตโม จ, พฺราหฺมณ, อาหุเนยฺยคฺคิ? อิธ, พฺราหฺมณ, ยสฺส เต โหนฺติ มาตาติ วา ปิตาติ วา, อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อาหุเนยฺยคฺคิ. ตํ กิสฺส เหตุ ? อโตหยํ [อิโตปายํ (ก.)], พฺราหฺมณ, อาหุโต สมฺภูโต, ตสฺมายํ อาหุเนยฺยคฺคิ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา สมฺมา สุขํ ปริหาตพฺโพ.

‘‘กตโม จ, พฺราหฺมณ, คหปตคฺคิ? อิธ, พฺราหฺมณ, ยสฺส เต โหนฺติ ปุตฺตาติ วา ทาราติ วา ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ , คหปตคฺคิ. ตสฺมายํ คหปตคฺคิ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา สมฺมา สุขํ ปริหาตพฺโพ.

‘‘กตโม จ, พฺราหฺมณ, ทกฺขิเณยฺยคฺคิ? อิธ, พฺราหฺมณ, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปรปฺปวาทา ปฏิวิรตา ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺา เอกมตฺตานํ ทเมนฺติ, เอกมตฺตานํ สเมนฺติ, เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปนฺติ, อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ทกฺขิเณยฺยคฺคิ. ตสฺมายํ ทกฺขิเณยฺยคฺคิ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา สมฺมา สุขํ ปริหาตพฺโพ. อิเม โข, พฺราหฺมณ, ตโย อคฺคี สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา สมฺมา สุขํ ปริหาตพฺพา.

‘‘อยํ โข ปน, พฺราหฺมณ, กฏฺคฺคิ กาเลน กาลํ อุชฺชเลตพฺโพ, กาเลน กาลํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ, กาเลน กาลํ นิพฺพาเปตพฺโพ, กาเลน กาลํ นิกฺขิปิตพฺโพ’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม; อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตนฺติ. เอสาหํ, โภ โคตม, ปฺจ อุสภสตานิ มุฺจามิ ชีวิตํ เทมิ, ปฺจ วจฺฉตรสตานิ มุฺจามิ ชีวิตํ เทมิ, ปฺจ วจฺฉตริสตานิ มุฺจามิ ชีวิตํ เทมิ, ปฺจ อชสตานิ มุฺจามิ ชีวิตํ เทมิ, ปฺจ อุรพฺภสตานิ มุฺจามิ ชีวิตํ เทมิ. หริตานิ เจว ติณานิ ขาทนฺตุ, สีตานิ จ ปานียานิ ปิวนฺตุ, สีโต จ เนสํ วาโต อุปวายต’’นฺติ [อุปวายตูติ (ก.)]. จตุตฺถํ.

๕. ปมสฺาสุตฺตํ

๔๘. ‘‘สตฺติมา, ภิกฺขเว, สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา.

‘‘กตมา สตฺต? อสุภสฺา , มรณสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา. อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยสฺาสุตฺตํ

๔๙. ‘‘สตฺติมา, ภิกฺขเว, สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา. กตมา สตฺต? อสุภสฺา, มรณสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา. อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานาติ.

‘‘‘อสุภสฺา , ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อสุภสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสุภสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสุภสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ อนุสนฺทหติ [อนุสณฺาติ (สี.)] อปฺปฏิกุลฺยตา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม อสุภสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสุภสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม อสุภสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘อสุภสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘มรณสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? มรณสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต ชีวิตนิกนฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน มรณสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ชีวิตนิกนฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.

‘‘สเจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน มรณสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ชีวิตนิกนฺติยา จิตฺตํ อนุสนฺทหติ อปฺปฏิกุลฺยตา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม มรณสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน มรณสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ชีวิตนิกนฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม มรณสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘มรณสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘อาหาเร ปฏิกูลสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อาหาเร ปฏิกูลสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต รสตณฺหาย จิตฺตํ ปติลียติ …เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาหาเร ปฏิกูลสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต รสตณฺหาย จิตฺตํ ปติลียติ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ .

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาหาเร ปฏิกูลสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต รสตณฺหาย จิตฺตํ อนุสนฺทหติ อปฺปฏิกุลฺยตา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม อาหาเร ปฏิกูลสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาหาเร ปฏิกูลสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต รสตณฺหาย จิตฺตํ ปติลียติ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม อาหาเร ปฏิกูลสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘อาหาเร ปฏิกูลสฺา , ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? สพฺพโลเก อนภิรตสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต โลกจิตฺเรสุ จิตฺตํ ปติลียติ…เป… เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว…เป… ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สพฺพโลเก อนภิรตสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต โลกจิตฺเรสุ จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สพฺพโลเก อนภิรตสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต โลกจิตฺเรสุ จิตฺตํ อนุสนฺทหติ อปฺปฏิกุลฺยตา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สพฺพโลเก อนภิรตสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต โลกจิตฺเรสุ จิตฺตํ ปติลียติ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘อนิจฺจสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อนิจฺจสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต ลาภสกฺการสิโลเก จิตฺตํ ปติลียติ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนิจฺจสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ลาภสกฺการสิโลเก จิตฺตํ ปติลียติ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนิจฺจสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ลาภสกฺการสิโลเก จิตฺตํ อนุสนฺทหติ อปฺปฏิกุลฺยตา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม อนิจฺจสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนิจฺจสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ลาภสกฺการสิโลเก จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม อนิจฺจสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘อนิจฺจสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อนิจฺเจ ทุกฺขสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต อาลสฺเย โกสชฺเช วิสฺสฏฺิเย ปมาเท อนนุโยเค อปจฺจเวกฺขณาย ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุกฺขิตฺตาสิเก วธเก.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนิจฺเจ ทุกฺขสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต อาลสฺเย โกสชฺเช วิสฺสฏฺิเย ปมาเท อนนุโยเค อปจฺจเวกฺขณาย ติพฺพา ภยสฺา, น ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุกฺขิตฺตาสิเก วธเก. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนิจฺเจ ทุกฺขสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต อาลสฺเย โกสชฺเช วิสฺสฏฺิเย ปมาเท อนนุโยเค อปจฺจเวกฺขณาย ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุกฺขิตฺตาสิเก วธเก. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ทุกฺเข อนตฺตสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหงฺการมมงฺการมานาปคตํ มานสํ โหติ วิธาสมติกฺกนฺตํ สนฺตํ สุวิมุตฺตํ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ทุกฺเข อนตฺตสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ น อหงฺการมมงฺการมานาปคตํ มานสํ โหติ วิธาสมติกฺกนฺตํ สนฺตํ สุวิมุตฺตํ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม ทุกฺเข อนตฺตสฺา , นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ทุกฺเข อนตฺตสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหงฺการมมงฺการมานาปคตํ มานสํ โหติ วิธาสมติกฺกนฺตํ สนฺตํ สุวิมุตฺตํ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม ทุกฺเข อนตฺตสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. เมถุนสุตฺตํ

๕๐. อถ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภวมฺปิ โน โคตโม พฺรหฺมจารี ปฏิชานาตี’’ติ? ‘‘ยฺหิ ตํ, พฺราหฺมณ, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อขณฺฑํ อจฺฉิทฺทํ อสพลํ อกมฺมาสํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรตี’ติ, มเมว ตํ, พฺราหฺมณ, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อหฺหิ, พฺราหฺมณ, อขณฺฑํ อจฺฉิทฺทํ อสพลํ อกมฺมาสํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรามี’’’ติ. ‘‘กึ ปน, โภ โคตม, พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปี’’ติ?

‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สมฺมา พฺรหฺมจารี ปฏิชานมาโน น เหว โข มาตุคาเมน สทฺธึ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ; อปิ จ โข มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหนํ สาทิยติ. โส ตํ อสฺสาเทติ [โส ตทสฺสาเทติ (สี.)], ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ. อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปิ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, สํยุตฺโต เมถุเนน สํโยเคน น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน [ชรามรเณน (สี. สฺยา.)] โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ.

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สมฺมา พฺรหฺมจารี ปฏิชานมาโน น เหว โข มาตุคาเมน สทฺธึ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, นปิ มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหนํ สาทิยติ; อปิ จ โข มาตุคาเมน สทฺธึ สฺชคฺฆติ สํกีฬติ สํเกลายติ…เป… นปิ มาตุคาเมน สทฺธึ สฺชคฺฆติ สํกีฬติ สํเกลายติ; อปิ จ โข มาตุคามสฺส จกฺขุนา จกฺขุํ อุปนิชฺฌายติ เปกฺขติ…เป… นปิ มาตุคามสฺส จกฺขุนา จกฺขุํ อุปนิชฺฌายติ เปกฺขติ; อปิ จ โข มาตุคามสฺส สทฺทํ สุณาติ ติโรกุฏฺฏํ วา ติโรปาการํ วา หสนฺติยา วา ภณนฺติยา วา คายนฺติยา วา โรทนฺติยา วา…เป… นปิ มาตุคามสฺส สทฺทํ สุณาติ ติโรกุฏฺฏํ วา ติโรปาการํ วา หสนฺติยา วา ภณนฺติยา วา คายนฺติยา วา โรทนฺติยา วา; อปิ จ โข ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพ มาตุคาเมน สทฺธึ หสิตลปิตกีฬิตานิ ตานิ อนุสฺสรติ…เป… นปิ ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพ มาตุคาเมน สทฺธึ หสิตลปิตกีฬิตานิ ตานิ อนุสฺสรติ; อปิ จ โข ปสฺสติ คหปตึ วา คหปติปุตฺตํ วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ…เป… นปิ ปสฺสติ คหปตึ วา คหปติปุตฺตํ วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ; อปิ จ โข อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วาติ. โส ตํ อสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ. อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปิ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ สํยุตฺโต เมถุเนน สํโยเคน, น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ.

‘‘ยาวกีวฺจาหํ, พฺราหฺมณ, อิเมสํ สตฺตนฺนํ เมถุนสํโยคานํ อฺตรฺตรเมถุนสํโยคํ [อฺตรํ เมถุนสํโยคํ (สี. สฺยา.)] อตฺตนิ อปฺปหีนํ สมนุปสฺสึ, เนว ตาวาหํ, พฺราหฺมณ, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจฺาสึ [อภิสมฺพุทฺโธ ปจฺจฺาสึ (สี. สฺยา.)].

‘‘ยโต จ โขหํ, พฺราหฺมณ, อิเมสํ สตฺตนฺนํ เมถุนสํโยคานํ อฺตรฺตรเมถุนสํโยคํ อตฺตนิ อปฺปหีนํ น สมนุปสฺสึ, อถาหํ, พฺราหฺมณ, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจฺาสึ. ‘าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ, อกุปฺปา เม วิมุตฺติ [เจโตวิมุตฺติ (สี. ก.)], อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติ.

เอวํ วุตฺเต ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม; อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. สํโยคสุตฺตํ

๕๑. ‘‘สํโยควิสํโยคํ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ โส, ภิกฺขเว, สํโยโค วิสํโยโค ธมฺมปริยาโย?

‘‘อิตฺถี, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ อิตฺถินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺปํ อิตฺถิวิธํ อิตฺถิจฺฉนฺทํ อิตฺถิสฺสรํ อิตฺถาลงฺการํ. สา ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติ. สา ตตฺถ รตฺตา ตตฺราภิรตา พหิทฺธา ปุริสินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – ปุริสกุตฺตํ ปุริสากปฺปํ ปุริสวิธํ ปุริสจฺฉนฺทํ ปุริสสฺสรํ ปุริสาลงฺการํ. สา ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติ. สา ตตฺถ รตฺตา ตตฺราภิรตา พหิทฺธา สํโยคํ อากงฺขติ. ยฺจสฺสา สํโยคปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ ตฺจ อากงฺขติ. อิตฺถตฺเต, ภิกฺขเว, อภิรตา สตฺตา ปุริเสสุ สํโยคํ คตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อิตฺถี อิตฺถตฺตํ นาติวตฺตติ.

‘‘ปุริโส, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ ปุริสินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – ปุริสกุตฺตํ ปุริสากปฺปํ ปุริสวิธํ ปุริสจฺฉนฺทํ ปุริสสฺสรํ ปุริสาลงฺการํ. โส ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติ. โส ตตฺถ รตฺโต ตตฺราภิรโต พหิทฺธา อิตฺถินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺปํ อิตฺถิวิธํ อิตฺถิจฺฉนฺทํ อิตฺถิสฺสรํ อิตฺถาลงฺการํ. โส ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติ. โส ตตฺถ รตฺโต ตตฺราภิรโต พหิทฺธา สํโยคํ อากงฺขติ. ยฺจสฺส สํโยคปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ ตฺจ อากงฺขติ. ปุริสตฺเต, ภิกฺขเว, อภิรตา สตฺตา อิตฺถีสุ สํโยคํ คตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุริโส ปุริสตฺตํ นาติวตฺตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สํโยโค โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, วิสํโยโค โหติ? อิตฺถี, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ อิตฺถินฺทฺริยํ น มนสิ กโรติ – อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺปํ อิตฺถิวิธํ อิตฺถิจฺฉนฺทํ อิตฺถิสฺสรํ อิตฺถาลงฺการํ. สา ตตฺถ น รชฺชติ, สา ตตฺร นาภิรมติ. สา ตตฺถ อรตฺตา ตตฺร อนภิรตา พหิทฺธา ปุริสินฺทฺริยํ น มนสิ กโรติ – ปุริสกุตฺตํ ปุริสากปฺปํ ปุริสวิธํ ปุริสจฺฉนฺทํ ปุริสสฺสรํ ปุริสาลงฺการํ. สา ตตฺถ น รชฺชติ, ตตฺร นาภิรมติ. สา ตตฺถ อรตฺตา ตตฺร อนภิรตา พหิทฺธา สํโยคํ นากงฺขติ. ยฺจสฺสา สํโยคปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ ตฺจ นากงฺขติ. อิตฺถตฺเต, ภิกฺขเว , อนภิรตา สตฺตา ปุริเสสุ วิสํโยคํ คตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อิตฺถี อิตฺถตฺตํ อติวตฺตติ.

‘‘ปุริโส, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ ปุริสินฺทฺริยํ น มนสิ กโรติ – ปุริสกุตฺตํ ปุริสากปฺปํ ปุริสวิธํ ปุริสจฺฉนฺทํ ปุริสสฺสรํ ปุริสาลงฺการํ. โส ตตฺถ น รชฺชติ, โส ตตฺร นาภิรมติ. โส ตตฺถ อรตฺโต ตตฺร อนภิรโต พหิทฺธา อิตฺถินฺทฺริยํ น มนสิ กโรติ – อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺปํ อิตฺถิวิธํ อิตฺถิจฺฉนฺทํ อิตฺถิสฺสรํ อิตฺถาลงฺการํ. โส ตตฺถ น รชฺชติ, ตตฺร นาภิรมติ. โส ตตฺถ อรตฺโต ตตฺร อนภิรโต พหิทฺธา สํโยคํ นากงฺขติ. ยฺจสฺส สํโยคปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ ตฺจ นากงฺขติ. ปุริสตฺเต, ภิกฺขเว, อนภิรตา สตฺตา อิตฺถีสุ วิสํโยคํ คตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุริโส ปุริสตฺตํ อติวตฺตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, วิสํโยโค โหติ. อยํ โข, ภิกฺขเว, สํโยโค วิสํโยโค ธมฺมปริยาโย’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ทานมหปฺผลสุตฺตํ

๕๒. เอกํ สมยํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. อถ โข สมฺพหุลา จมฺเปยฺยกา อุปาสกา เยน อายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข จมฺเปยฺยกา อุปาสกา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘จิรสฺสุตา โน, ภนฺเต [ภนฺเต สาริปุตฺต (สี.)], ภควโต สมฺมุขา ธมฺมีกถา. สาธุ มยํ, ภนฺเต, ลเภยฺยาม ภควโต สมฺมุขา ธมฺมึ กถํ [ภควโต สนฺติกา ธมฺมึ กถํ (สี.), ภควโต ธมฺมึ กถํ (สฺยา.)] สวนายา’’ติ. ‘‘เตนหาวุโส, ตทหุโปสเถ อาคจฺเฉยฺยาถ, อปฺเปว นาม ลเภยฺยาถ ภควโต สมฺมุขา [ภควโต สนฺติเก (สฺยา.)] ธมฺมึ กถํ สวนายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จมฺเปยฺยกา อุปาสกา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ.

อถ โข จมฺเปยฺยกา อุปาสกา ตทหุโปสเถ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เตหิ จมฺเปยฺยเกหิ อุปาสเกหิ สทฺธึ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สิยา นุ โข, ภนฺเต, อิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ; สิยา ปน, ภนฺเต, อิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ? ‘‘สิยา, สาริปุตฺต, อิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ; สิยา ปน, สาริปุตฺต, อิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ; โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ?

‘‘อิธ, สาริปุตฺต, เอกจฺโจ สาเปโข [สาเปกฺโข (สฺยา.)] ทานํ เทติ, ปติพทฺธจิตฺโต [ปติพนฺธจิตฺโต (ก.)] ทานํ เทติ, สนฺนิธิเปโข ทานํ เทติ, ‘อิมํ เปจฺจ ปริภุฺชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ. โส ตํ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. ตํ กึ มฺสิ, สาริปุตฺต, ทเทยฺย อิเธกจฺโจ เอวรูปํ ทาน’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตตฺร, สาริปุตฺต, ยฺวายํ สาเปโข ทานํ เทติ , ปติพทฺธจิตฺโต ทานํ เทติ, สนฺนิธิเปโข ทานํ เทติ, ‘อิมํ เปจฺจ ปริภุฺชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ. โส ตํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตํ กมฺมํ เขเปตฺวา ตํ อิทฺธึ ตํ ยสํ ตํ อาธิปจฺจํ อาคามี โหติ อาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.

‘‘อิธ ปน, สาริปุตฺต, เอกจฺโจ น เหว โข สาเปโข ทานํ เทติ, น ปติพทฺธจิตฺโต ทานํ เทติ, น สนฺนิธิเปโข ทานํ เทติ, น ‘อิมํ เปจฺจ ปริภุฺชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ…เป… นปิ ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข ‘ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ปิตุปิตามเหหิ น อรหามิ โปราณํ กุลวํสํ หาเปตุ’นฺติ ทานํ เทติ…เป… นปิ ‘ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ปิตุปิตามเหหิ น อรหามิ โปราณํ กุลวํสํ หาเปตุ’นฺติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ, นารหามิ ปจนฺโต อปจนฺตานํ ทานํ อทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ…เป… นปิ ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ, นารหามิ ปจนฺโต อปจนฺตานํ ทานํ อทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข ‘ยถา เตสํ ปุพฺพกานํ อิสีนํ ตานิ มหายฺานิ อเหสุํ, เสยฺยถิทํ – อฏฺกสฺส วามกสฺส วามเทวสฺส เวสฺสามิตฺตสฺส ยมทคฺคิโน องฺคีรสสฺส ภารทฺวาชสฺส วาเสฏฺสฺส กสฺสปสฺส ภคุโน, เอวํ เม อยํ ทานสํวิภาโค ภวิสฺสตี’ติ ทานํ เทติ…เป… นปิ ‘ยถา เตสํ ปุพฺพกานํ อิสีนํ ตานิ มหายฺานิ อเหสุํ, เสยฺยถิทํ – อฏฺกสฺส วามกสฺส วามเทวสฺส เวสฺสามิตฺตสฺส ยมทคฺคิโน องฺคีรสสฺส ภารทฺวาชสฺส วาเสฏฺสฺส กสฺสปสฺส ภคุโน, เอวํ เม อยํ ทานสํวิภาโค ภวิสฺสตี’ติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข ‘อิมํ เม ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทติ, อตฺตมนตา โสมนสฺสํ อุปชายตี’ติ ทานํ เทติ…เป… นปิ ‘อิมํ เม ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทติ, อตฺตมนตา โสมนสฺสํ อุปชายตี’ติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารํ ทานํ เทติ. โส ตํ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. ตํ กึ มฺสิ, สาริปุตฺต, ทเทยฺย อิเธกจฺโจ เอวรูปํ ทาน’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตตฺร, สาริปุตฺต, ยฺวายํ น เหว [นเหว โข (สี. สฺยา.)] สาเปโข ทานํ เทติ; น ปติพทฺธจิตฺโต ทานํ เทติ; น สนฺนิธิเปโข ทานํ เทติ; น ‘อิมํ เปจฺจ ปริภุฺชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ; นปิ ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ; นปิ ‘ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ปิตุปิตามเหหิ น อรหามิ โปราณํ กุลวํสํ หาเปตุ’นฺติ ทานํ เทติ; นปิ ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ, นารหามิ ปจนฺโต อปจนฺตานํ ทานํ อทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ; นปิ ‘ยถา เตสํ ปุพฺพกานํ อิสีนํ ตานิ มหายฺานิ อเหสุํ, เสยฺยถิทํ – อฏฺกสฺส วามกสฺส วามเทวสฺส เวสฺสามิตฺตสฺส ยมทคฺคิโน องฺคีรสสฺส ภารทฺวาชสฺส วาเสฏฺสฺส กสฺสปสฺส ภคุโน, เอวํ เม อยํ ทานสํวิภาโค ภวิสฺสตี’ติ ทานํ เทติ; นปิ ‘อิมํ เม ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทติ, อตฺตมนตา โสมนสฺสํ อุปชายตี’ติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารํ ทานํ เทติ. โส ตํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตํ กมฺมํ เขเปตฺวา ตํ อิทฺธึ ตํ ยสํ ตํ อาธิปจฺจํ อนาคามี โหติ อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. อยํ โข, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ. อยํ ปน, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. นวมํ.

๑๐. นนฺทมาตาสุตฺตํ

๕๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน ทกฺขิณาคิริสฺมึ จาริกํ จรนฺติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. เตน โข ปน สมเยน เวฬุกณฺฑกี [เวฬุกณฺฑกี (สฺยา.) อ. นิ. ๖.๓๗; ๒.๑๓๔; สํ. นิ. ๒.๑๗๓ ปสฺสิตพฺพํ] นนฺทมาตา อุปาสิกา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย ปารายนํ [จูฬนิ. ปารายนวคฺค, วตฺถุคาถา] สเรน ภาสติ.

เตน โข ปน สมเยน เวสฺสวโณ มหาราชา อุตฺตราย ทิสาย ทกฺขิณํ ทิสํ คจฺฉติ เกนจิเทว กรณีเยน. อสฺโสสิ โข เวสฺสวโณ มหาราชา นนฺทมาตาย อุปาสิกาย ปารายนํ สเรน ภาสนฺติยา, สุตฺวา กถาปริโยสานํ อาคมยมาโน อฏฺาสิ.

อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา ปารายนํ สเรน ภาสิตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อถ โข เวสฺสวโณ มหาราชา นนฺทมาตาย อุปาสิกาย กถาปริโยสานํ วิทิตฺวา อพฺภานุโมทิ – ‘‘สาธุ ภคินิ, สาธุ ภคินี’’ติ! ‘‘โก ปเนโส, ภทฺรมุขา’’ติ? ‘‘อหํ เต, ภคินิ, ภาตา เวสฺสวโณ, มหาราชา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภทฺรมุข, เตน หิ โย เม อยํ ธมฺมปริยาโย ภณิโต อิทํ เต โหตุ อาติเถยฺย’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภคินิ, เอตฺเจว เม โหตุ อาติเถยฺยํ. สฺเวว [สฺเว จ (สี.)] สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ อกตปาตราโส เวฬุกณฺฑกํ อาคมิสฺสติ, ตฺจ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิตฺวา มม ทกฺขิณํ อาทิเสยฺยาสิ. เอตฺเจว [เอวฺจ (สี. สฺยา.), เอตฺจ (?)] เม ภวิสฺสติ อาติเถยฺย’’นฺติ.

อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปสิ. อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ อกตปาตราโส เยน เวฬุกณฺฑโก ตทวสริ. อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กาลํ อาโรเจหิ – ‘กาโล, ภนฺเต, อยฺยาย นนฺทมาตุยา นิเวสเน นิฏฺิตํ ภตฺต’’’นฺติ. ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ โข โส ปุริโส นนฺทมาตาย อุปาสิกาย ปฏิสฺสุตฺวา อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, อยฺยาย นนฺทมาตุยา นิเวสเน นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน นนฺทมาตาย อุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ.

อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นนฺทมาตรํ อุปาสิกํ อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ – ‘‘โก ปน เต, นนฺทมาเต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อพฺภาคมนํ อาโรเจสี’’ติ?

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต , รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย ปารายนํ สเรน ภาสิตฺวา ตุณฺหี อโหสึ. อถ โข, ภนฺเต, เวสฺสวโณ มหาราชา มม กถาปริโยสานํ วิทิตฺวา อพฺภานุโมทิ – ‘สาธุ, ภคินิ, สาธุ, ภคินี’ติ! ‘โก ปเนโส, ภทฺรมุขา’ติ? ‘อหํ เต, ภคินิ, ภาตา เวสฺสวโณ, มหาราชา’ติ. ‘สาธุ, ภทฺรมุข, เตน หิ โย เม อยํ ธมฺมปริยาโย ภณิโต อิทํ เต โหตุ อาติเถยฺย’นฺติ. ‘สาธุ, ภคินิ, เอตฺเจว เม โหตุ อาติเถยฺยํ. สฺเวว สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ อกตปาตราโส เวฬุกณฺฑกํ อาคมิสฺสติ, ตฺจ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิตฺวา มม ทกฺขิณํ อาทิเสยฺยาสิ. เอตฺเจว [เอตฺจ (สี.), เอวฺจ (สฺยา.)] เม ภวิสฺสติ อาติเถยฺย’นฺติ. ยทิทํ [ยมิทํ (ม. นิ. ๑.๓๖๓)], ภนฺเต, ทาเน [ปุฺํ หิ ตํ (สี.), ปุฺํ ปุฺมหิตํ (สฺยา.), ปุฺํ วา ปุฺมหํ วา (ปี.), ปุฺํ วา ปุฺมหี วา (ก.)] ปุฺฺจ ปุฺมหี จ ตํ [ปุฺํ หิ ตํ (สี.), ปุฺํ ปุฺมหิตํ (สฺยา.), ปุฺํ วา ปุฺมหํ วา (ปี.), ปุฺํ วา ปุฺมหี วา (ก.)] เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส สุขาย โหตู’’ติ.

‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม เวสฺสวเณน มหาราเชน เอวํมหิทฺธิเกน เอวํมเหสกฺเขน เทวปุตฺเตน สมฺมุขา สลฺลปิสฺสสี’’ติ.

‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อิธ เม, ภนฺเต, นนฺโท นาม เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป. ตํ ราชาโน กิสฺมิฺจิเทว ปกรเณ โอกสฺส ปสยฺห ชีวิตา โวโรเปสุํ. ตสฺมึ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ทารเก คหิเต วา คยฺหมาเน วา วเธ วา วชฺฌมาเน วา หเต วา หฺมาเน วา นาภิชานามิ จิตฺตสฺส อฺถตฺต’’นฺติ. ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ [จิตฺตุปฺปาทมตฺตมฺปิ (สฺยา.)] ปริโสเธสฺสสี’’ติ.

‘‘น โข เม, ภนฺเต , เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อิธ เม, ภนฺเต, สามิโก กาลงฺกโต อฺตรํ ยกฺขโยนึ อุปปนฺโน. โส เม เตเนว ปุริเมน อตฺตภาเวน อุทฺทสฺเสสิ. น โข ปนาหํ, ภนฺเต, อภิชานามิ ตโตนิทานํ จิตฺตสฺส อฺถตฺต’’นฺติ. ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ ปริโสเธสฺสสี’’ติ.

‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. ยโตหํ, ภนฺเต, สามิกสฺส ทหรสฺเสว ทหรา อานีตา นาภิชานามิ สามิกํ มนสาปิ อติจริตา [อติจริตุํ (สฺยา.), อติจาริตฺตํ (ก.)], กุโต ปน กาเยนา’’ติ! ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ ปริโสเธสฺสสี’’ติ.

‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. ยทาหํ, ภนฺเต, อุปาสิกา ปฏิเทสิตา นาภิชานามิ กิฺจิ สิกฺขาปทํ สฺจิจฺจ วีติกฺกมิตา’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต’’ติ!

‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อิธาหํ, ภนฺเต, ยาวเทว [ยาวเทว (สี. สฺยา.) สํ. นิ. ๒.๑๕๒ ปาฬิ จ อฏฺกถาฏีกา จ ปสฺสิตพฺพา] อากงฺขามิ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขิกา จ วิหรามิ สตา จ สมฺปชานา สุขฺจ กาเย ปฏิสํเวเทมิ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต’’ติ!

‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา เทสิตานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ นาหํ เตสํ กิฺจิ อตฺตนิ อปฺปหีนํ สมนุปสฺสามี’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต’’ติ!

อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต นนฺทมาตรํ อุปาสิกํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ. ทสมํ.

มหายฺวคฺโค ปฺจโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

ิติ จ ปริกฺขารํ ทฺเว, อคฺคี สฺา จ ทฺเว ปรา;

เมถุนา สํโยโค ทานํ, นนฺทมาเตน เต ทสาติ.

ปมปณฺณาสกํ สมตฺตํ.